รายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่ 15 : “สนธิ” ประกาศนำมหาชนสร้างประวัติศาสตร์รวมพลังคนกู้ชาติไล่รัฐบาลทักษิณ ดีเดย์รวมพลวันที่ 4 ก.พ.ที่ท้องสนามหลวง เวลาบ่ายโมงตรง ก่อนนำเคลื่อนขบวนถวายฎีกาปฏิรูปการเมืองผ่านทาง “ป๋าเปรม” ในช่วงเย็น ลั่นขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ นำม็อบครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต จัดชุมนุมอย่างสงบ-สันติ เปิดโปง “ทักษิณ” ขายหุ้นชินคอร์ป 7 หมื่นล้านบาท แต่เลี่ยงภาษี พร้อมแนะ “แม้ว” ตบปากตัวเอง 3 ครั้ง ฐานปากเสียเห็นการตายของนักบินที่สุพรรณฯ เป็นเรื่องตลก ขณะที่ม็อบ “ยุทธ ตู้เย็น” จองเวรป่วนสวนลุมฯ อีกรอบ โชว์ความเถื่อนหนักข้อ ขว้างระเบิดประทัด ประชาชนผู้บริสุทธิ์บาดเจ็บเลือดอาบ 1 ราย
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่ 15
คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่ 15(56k)
คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่ 15(256k)
สโรชา - สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับเข้าสู่เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่ 15 วันนี้พิเศษค่ะคุณสนธิ ค่อนข้างระทึกใจพอสมควร คุณสนธิอธิบายความเรียงให้คุณผู้ชมทราบสักนิดว่าทำไมถึงพิเศษ
สนธิ - ให้คุณสโรชาพูดดีกว่า แล้วเดี๋ยวผมค่อยเสริม
สโรชา - คือวันนี้ หลายๆ ท่านถ้าสังเกตเราเริ่มรายการช้าไปเกือบ 45 นาที สัปดาห์ที่แล้วเราเริ่มช้าประมาณ 20 นาทีเห็นจะได้ จริงๆ แล้วมีเหตุผลทางด้าน เรื่องการก่อกวน เราพยายามสุดความสามารถ ทั้งเจ้าหน้าที่ของเราเอง ในส่วนความร่วมมือของ กทม.ที่ให้เราในส่วนของการรักษาความปลอดภัย ตรงนี้เราพยายามสุดความสามารถ ถึงล่าช้ามาจนถึงตรงนี้ ใช่ไหมคะคุณสนธิ
สนธิ - ครับ ท่านผู้มีเกียรติ พ่อแม่พี่น้อง วันนี้จะเป็นวันประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์อย่างไรเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง ก่อนอื่นผมอยากให้ต้อนรับคุณสาโรจน์ ประพันธ์ นักวิชาการป่าไม้ 7 อุทยานเขาใหญ่ และคุณเทวินทร์ มีทรัพย์ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ 5 ที่ให้ต้อนรับเพราะว่าเขาเป็นคนซึ่งพาบรรดาลูกจ้างกรมอุทยานฯ ลงมาที่กรุงเทพฯ นะฮะ คือผมอยากจะเรียนนิดหนึ่งนะครับว่า วันที่ 13 ที่ผ่านไปคราวที่แล้ว ต้องชี้แจงกันให้ฟังนิดหนึ่ง วันที่ 13 นั้น เป็นวันซึ่งเราไม่ได้เตรียมอะไรกันเลย เพราะว่าผมก็ไม่ได้คิดที่จะเดินอะไรทั้งสิ้น เป็นเพียงแต่ว่าอยากจะให้กำลังใจสนับสนุนท่าน พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ก็เลยคิดว่าผมอยากจะร่วมด้วย ร่วมเพื่อที่จะเป็นกำลังใจ แล้วก็มีพ่อแม่พี่น้องก็ร่วมเดินไปด้วย นะครับ ผมเป็นส่วนหนึ่งของการเดิน ผมไม่ได้เป็นผู้นำขบวนนะครับ หลังจากนั้นแล้ว พอดึกๆ ขึ้นมาก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเปิดประตูทำเนียบฯ ก็เลยกลายเป็นเรื่องที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นมานะฮะ แล้วก็ทางฝ่ายค้าน ทางฝ่ายตรงกันข้ามเราก็พยายามโยนมาว่าผมทิ้งพ่อแม่พี่น้องประชาชน ผมไม่ได้ริเริ่มอันนั้นทั้งสิ้นเลย ผมเป็นเพียงแต่ว่า วันนั้นผมอยากจะให้กำลังใจ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ นะครับ
ทีนี้ก็มาเรื่องที่สำคัญที่สุดวันนี้ที่ต้องพูดเอาไว้เสียก่อนนะครับ ก็คือว่า ผมไม่เคยประกาศว่าผมจะนำพ่อแม่พี่น้อง แต่ว่า ถึงเวลาแล้วที่ผมจะต้องยอมทุกอย่างในชีวิต ที่ผมจะยอมทุกอย่างในชีวิตเพราะว่า ผมอยากจะขออนุญาตพ่อแม่พี่น้องให้ผมนำท่านเพื่อไปถวายฎีกาให้องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยผ่าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ การถวายฎีกาในครั้งนี้จะเป็นการถวายฎีกาบนพื้นฐานของ เมื่อผู้นำไร้คุณธรรม ประชาชนถวิลหาพระเจ้าอยู่หัว ก่อนที่ผมจะพูดต่อผมอยากจะกราบเรียนไปที่พ่อแม่พี่น้องที่ลงมาจากทางภาคเหนือ แล้วก็เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ผมอยากจะฝากข้อคิดสั้นๆ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่มานั้นขอให้เชื่อผมเถอะครับ รวมทั้งคุณสาโรจน์ กับคุณเทวินทร์ ว่าวันใดถ้ามีเรื่องมีราวขึ้นมานายคุณทิ้งคุณแน่นอน เขาไม่สนใจ เขาจะบอกว่าเขาไม่ได้สั่งไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นแล้วต้องเรียนให้ทราบนิดหนึ่ง วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ่อแม่พี่น้องจำเอาไว้ วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ จำเอาไว้นะครับ 13.00 น. ที่สนามหลวง ผมจะขอเอาชีวิตนำพ่อแม่พี่น้องเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย และผมนำคนเดียว จะเป็นการนำโดยมีพันธมิตรร่วม แต่การตัดสินใจจะอยู่ที่ผมคนเดียว พ่อแม่พี่น้องไว้ใจได้ วันเสาร์ที่ 4 จะต่อด้วยวันอาทิตย์ที่ 5 ผมขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องที่รักชาติ รักแผ่นดิน และต้องการจะกู้ชาติร่วมกับผม เชิญชวนพ่อแม่พี่น้องทั่วประเทศไทย เชิญชวนพ่อแม่พี่น้องที่อยากจะรักษาชาตินี้เอาไว้ให้ลูกหลานเรา ปกป้ององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ด้วยชีวิต ให้มากันให้หมด ให้มาเป็นแสนเป็นล้าน เราจะเดินจากสนามหลวงไปที่ลานพระรูปฯ เราจะเอาคนเร่ร่อนทั่วราชอาณาจักร มาไล่รัฐบาลจรจัดที่เข้ามาปล้นประเทศ ขอให้พ่อแม่พี่น้องที่เป็นลูกจ้างกรมป่าไม้วันนั้น ไปเจอเราที่สนามหลวง ไปเจอเราที่สนามหลวงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ขนไปให้หมดทั้งกรมป่าไม้ก็ได้ แต่อย่ามาทำตนเป็นอันธพาลในที่นี้
พ่อแม่พี่น้อง เราต้องการที่จะถวายฎีกาให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะว่าประชาราษฎร์เดือดร้อนไปหมดทุกๆ เรื่อง พ่อแม่พี่น้องจะมาแค่หมื่นเดียว ผมก็จะนำเดิน มาแค่ 10 คน ผมก็จะนำเดิน นายกฯ อยากจะใส่สติกนินให้ผมกิน ผมจะฝากไปบอกคนที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร มากินสติกนินพร้อมกันแล้วตายไปด้วยกัน ถ้าคนอย่างผมต้องตายแล้วคุณตายด้วย มันคุ้มค่าเหลือเกิน อย่าเอาความกระเฬวราก อำนาจรัฐ มารังแก 4-5 เดือนที่ผ่านมานี้ ประชาชนโดนรังแกมาตลอด สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานไม่มี ประเทศชาติถูกโกงกินในหมู่ญาติมิตร ขายทรัพย์สมบัติของตัวเอง พร้อมที่จะหนีไปได้ทุกเมื่อ เพื่อนๆ พี่น้องลูกจ้างกรมอุทยานฯ ฟังผมพูด วันไหนที่เขาโละคุณ ไม่ให้คุณทำงาน ให้คุณตกงาน เพราะคุณนี่มีสัญญาปีต่อปี คุณมาร้องเรียนผมสิ ผมจะสู้ให้คุณ คุณมาร้องเรียนผม พี่น้อง ลูกจ้างกรมอุทยานฯ วันนั้นผมจะสู้ให้คุณ ผมไม่ใช่เจ้านายคุณที่ขี้ขลาดตาขาว เอาแค่ใจวัดใจกันมันก็สู้ไม่ได้อยู่แล้ว แล้วคุณไปเป็นลูกน้องมันทำไม
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ผมจะส่งหนังสือเป็นทางการไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล แจ้งเป็นหลักฐานว่าพวกเราขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในการชุมนุมอย่างสงบ และเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ อันประชาชนไทยทุกคนพึงมี แต่ว่าพวกคุณไม่ให้เรามีกัน ผมจะกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องให้ทราบ เราหยุดพักครึ่งนาทีไว้อาลัยให้กับนักบินกองทัพอากาศที่เครื่องบินตก ขอความสงบครึ่งนาทีครับ ยืนเลยครับ ผมอยากจะบอกฝากไปให้ท่านนายกรัฐมนตรี อยากจะบอกว่า นึกถึงหัวอกเมียเขาหรือเปล่าที่ยังท้องอยู่ นึกถึงหัวอกพ่อแม่เขาหรือเปล่าที่ลูกเครื่องบินตก นึกถึงหัวอกเพื่อนฝูงเขาหรือเปล่าที่รักเขา นึกถึงหัวอกเขาหรือเปล่า ของประชาชน ถ้านึกถึงหัวอกเขา นอกจากต้องออกมาขอโทษเขาเป็นทางการแล้วยังต้องเอามือตบปากตัวเองอีก 3 ครั้ง ผมบอกแล้วว่า ปีนี้ปีหมา ไปผ่าหมาออกจากปากยังไม่รีบทำอีก เขาเป็นบุคลากรของกองทัพอากาศ กองทัพอากาศประเทศไทยลงทุนในตัวเขา พี่ชายเขาเป็นนักบินครูฝึก เครื่องบินตกใครมันอยากจะตายบ้าง เมียก็ยังท้องอยู่ มันต้องตกด้วยเหตุสุดวิสัย หรือว่าการซ่อมสมัยที่ พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา มันซ่อมห่วยมันถึงตก คุณเห็นการตายของคนเป็นเรื่องตลกขบขันกันในหมู่พวกคุณได้อย่างไร
สโรชา - เรามีวีทีอาร์ วีทีอาร์ในรายการเรียลิตี้โชว์ของท่านนายกฯ ที่มีการแจ้งให้ทราบ
สนธิ - เปิดให้ดูกันเลยว่าพูดกันอย่างไรบ้าง
สโรชา - ว่ามีเหตุการณ์เครื่องบินตก และท่านว่าอย่างไร ไปชมกันค่ะ
สนธิ - ถ้าไอ้คนตายมันชื่อ พานทองแท้ ชินวัตร จะรู้สึกอย่างไร ผมช้ำใจ ผมเสียใจ ผมน้ำตาคลอ ชาติบ้านเมืองมันทำไมถึงมีผู้นำที่จิตผิดปกติจนเยียวยาไม่ได้ มาปกครองพวกเรา
พ่อแม่พี่น้อง ที่น่าสังเวชเพิ่มเติม พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา อดีตแม่ทัพฟ้า อดีตแม่ทัพฟ้า อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ ทะลึ่งนั่งหัวเราะกับเขาไปด้วย ไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อไปแล้วเรื่องนี้ วันนี้ผมมาประกาศสัจจะวาจาให้กับพ่อแม่พี่น้อง เพราะว่าบ้านเมืองเรานอกจากถูกคนบ้าปกครองแล้ว ยังถูกคณะตลกมาร่วมกับคนบ้าปกครอง
สโรชา - หลังจากที่เกิดเหตุนะคะ ในเว็บไซต์ผู้จัดการ มีเพื่อน ผู้ที่อ้างว่าเป็นเพื่อนของคุณหนึ่ง คือนักบินที่เสียชีวิตไปเนี่ย เข้ามาโพสต์บทความไว้นะคะ แล้วก็เขียนว่า "จากเพื่อนของหนึ่ง" เรานำบทความนั้น คือตรงท้ายบทความท่านนี้ได้เขียนเอาไว้ว่า ขอให้ทางหนังสือพิมพ์ผู้จัดการและทางเว็บไซต์นำไปเผยแพร่ด้วย เพราะฉะนั้นวันนี้ เรานำบทความอันนี้ จากเพื่อนของคุณหนึ่ง มาฝากทุกๆ ท่านค่ะ ฟังค่ะ
บทความจากใจ...เพื่อนของหนึ่ง
สนธิ - คนเราถ้าไม่ปวดฟัน จะไม่รู้รสของการปวดฟัน คนเราถ้าไม่มีการสูญเสีย จะไม่รู้รสของการสูญเสีย พ่อแม่พี่น้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พ่อแม่พี่น้องที่เป็นลูกจ้างกรมอุทยานแห่งชาติฯ ผมอยากให้พวกท่านมาร่วมกับพวกเรา เรามากู้ชาติ อย่าไปรับใช้ทรราช อย่าไปถูกเขาปั่นหัวพี่น้อง พี่น้องหันไปมองดูตัวพี่น้องเอง พี่น้องก็เป็นแค่ลูกจ้างเฉยๆ มันมาปั่นหัวพี่น้อง ไอ้คนที่ตายคนแรกคือพี่น้อง ไอ้พวกมันน่ะไม่ตายหรอก อย่าไปเชื่อมั่น เราเนี่ยกำลังกู้ชาติอยู่ มาร่วมกันสร้างชาติกันใหม่ ทำชาตินี้ให้มันดี น่าอยู่ เพื่อตัวพี่น้องและเพื่อลูกหลานพี่น้องทั้งหลาย
ผมฝากให้พี่น้องที่เดินทางมาจากทุกๆ จังหวัด คิดถึงคำพูดที่ผมพูด อย่าไปขายชีวิตกับสิ่งที่มันโสโครก คิดถึงพ่อแม่ตัวเอง คิดถึงลูกตัวเองในอนาคตจะเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นแล้วพ่อแม่พี่น้องที่มาจากกรมอุทยานฯ ที่เป็นลูกจ้างป่าไม้ เขาไม่ได้มองเห็นพ่อแม่พี่น้องเหมือนกับคนของเขาหรอก เขามองเห็นว่า สั่งมันไป มันก็ต้องไป ให้เงินมัน มันก็ต้องมา ปีหน้าปลดมัน มันก็ต้องยอม ไปยอมมันทำไม เป็นคนไทยสมบูรณ์แบบ มีจิตวิญญาณ มีคุณธรรมนำหน้า รักพระเจ้าอยู่หัว รักประชาชน รักป่า ไปรับมันทำไมไอ้เงินโสโครกนั่นมันโกงกินเขามาทั้งนั้น มันกินมาร้อยล้าน พันล้าน หมื่นล้าน มันเอาเงินฟาดหัวพี่น้อง 500 700 บาท มันคุ้มหรือความชั่วร้ายแบบนี้
สโรชา - มีรายงานว่าครั้งนี้มีการจ้างกันคนละ 750 บาท คนละนะคะ
สนธิ - คนละ 750
สโรชา - ค่ะ
สนธิ - พ่อแม่พี่น้องครับวันนี้เราจะไม่พูดอะไรกันมากเพราะว่าแผนเดิมของเขา เขาเกณฑ์คน อ.แม่จัน ลงมาแล้วเขาเอาคนส่วนหนึ่งใส่เสื้อสีเหลืองข้างใน
สโรชา - คนละสีกับเราด้วยนะคะ
สนธิ - คนละสีกับเรา แล้วถึงเวลาเขาจะถอดเสื้อนั้นออกแล้วกินเหล้าให้เมาแล้วไปทุบตี ชาวบ้านหลายคนซึ่งมาจากแม่จัน คนละพวกไม่รู้จักกัน ก่อให้เกิดเหตุให้คนเข้าใจว่าเป็นการวิวาทกันในที่นี้แล้วโยนมาให้พวกเรา พวกผม เพื่อที่จะดิสเครดิตทางการเมือง ซึ่งมันเป็นวิธีการที่รัฐบาลชุดนี้ทำเก่งที่สุดในชีวิต เอาละวันนี้ไม่ขออะไรมาก วันนี้เราจะไม่พูดยาว วันนี้จะเป็นรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ที่สั้น ที่สั้นไม่ใช่เพราะกลัว การยกคนมาข่มขู่มันไม่ใช่วิถีของคนใจนักเลง คนใจนักเลง เหมือนอย่างพ่อแม่พี่น้องชาวเพชรที่ผมไปเยี่ยมเขาเมื่อวานซืน พ่อค้าขายหมู พ่อค้าขายไก่ แม่ค้าขายผลไม้ ขายขนม เจ้าของร้านทอง เจ้าของข้าวหมูแดง เดินออกมาจับไม้จับมือ ผมร่วมสู้ด้วยคนคุณสนธิผมไม่กลัวมัน ตำรวจในเมืองเพชรยังตะเบ๊ะเลย บอกว่าท่านสนธิผมเป็นพวกครับ
สโรชา - อีกเรื่องหนึ่ง เราพูดเรื่องเรียลิตี้โชว์มาบ้าง แต่อีกเรื่องที่ไม่พูดคงจะไม่ได้ค่ะคุณสนธิ คือเรื่องขายหุ้นชินคอร์ป 7 หมื่นล้านบาท
สนธิ - เอาละผมอยากจะพูดเรื่องนี้ให้พี่น้องลูกจ้างกรมป่าไม้ฟัง ท่านฟังให้ดีๆ นายกฯ ของท่านเอาสัมปทานในเมืองไทย ลดภาษีจากเมืองไทยไม่ยอมจ่ายค่าภาษีแล้วขายหุ้นทิ้งไปให้สิงคโปร์ ได้เงินจากการขายหุ้น 7 หมื่นล้านบาท แล้วก็เตรียมตัวหนีแล้ว นี่คือการป่วนครับ พวกเราที่อยู่ข้างนอกให้ระวัง พวกเราอยู่ข้างนอกอย่าเข้าไปใกล้การจุดปะทัด เห็นความเลวของคนหรือยังครับ เป็นประทัดครับ ใจเย็นๆ พ่อแม่พี่น้อง ใจเย็นๆ ไม่ต้องกังวล พี่น้องครับ พี่น้องที่เป็นพวกเมืองไทยรายสัปดาห์ พวกผมอย่าไปยุ่งครับให้เดินออกมาอย่าไปยุ่ง ควบคุมอารมณ์ให้ดี นี่คือเหตุผลว่าทำไมเมืองไทยรายสัปดาห์วันนี้จะสั้น ที่สั้นไม่ใช่เพราะกลัว ที่สั้นเพราะเรามีวันที่ 4 กุมภาพันธ์ให้เช็กบิล ที่สั้นเพราะเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นแล้ววันที่ 4 กุมภาพันธ์ ถ้าเคียดแค้นวันนี้และวันเก่าๆ พาเพื่อนฝูง พ่อแม่ ญาติพี่น้อง 1 คน พาไป 100 คน พาไปให้ดูสัก 500,000 หรือ 1,000,000 คน ให้แถวนั้นยาวจากลานพระรูปทรงม้า ยาวไปจนถึงปากคลองตลาด ให้เขารู้ว่าคนไม่กี่คนแล้วมาเดิน แล้วเดินกลางคืน แน่จริงเดินกลางวันสิ เขาท้ามา ให้เขาเห็นว่า เมืองไทยนั้น ทั้งประเทศล้วนแล้วแต่เป็นคนเร่ร่อนทั้งนั้น เพราะฉะนั้นแล้ว พ่อแม่พี่น้อง เป็นการก่อกวนอย่างที่ผมเรียนให้ทราบ เป็นการก่อกวน จุดประทัด ทำให้คนเดือดร้อน จำชื่อคนนี้เอาไว้นะ ยงยุทธ ติยะไพรัช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ นายเอี้ยง ดำรง พิเดช จำเอาไว้ พ่อแม่พี่น้อง เสร็จเรียบร้อยแล้วคนที่พาลงมา นายสาโรจน์ ประพันธ์ นักวิชาการป่าไม้ 7 นายเทวินทร์ มีทรัพย์ นักวิชาการป่าไม้ 5
พ่อแม่พี่น้อง ผมไม่เคยคิดว่าชาติบ้านเมืองจะเลวร้ายถึงขนาดนี้ ผมไม่เคยคิด เพราะฉะนั้นแล้ว ที่ผมตัดสินใจ... ตอนนี้จับคนที่ก่อเหตุได้แล้ว
พ่อแม่พี่น้อง ผมจะกราบเรียนไว้อย่างหนึ่ง ผมว่าอย่าไปสนใจข้างนอก อย่าไปสนใจข้างนอก ขอความสงบนิดหนึ่ง อย่าไปสนใจข้างนอก พี่น้องร่วมสู้กับผมมา ผมไม่เคยพูดเลยว่าผมจะนำพี่น้อง ผมบอกตลอดเวลาเลยว่า จุดยืนผมนี้คือสื่อ ผมไม่ต้องการที่จะนำพี่น้องไปทำอะไรทั้งสิ้นในอดีต มาถึงวันนี้ มันไม่มีทางเลือก ผมเรียกพรรคพวกที่สนิทมานั่งคุยกัน ผมบอก เฮ้ย งานนี้สงสัยพี่ต้องตายเป็นตายแล้วงานนี้ เพราะว่า การปฏิรูปทางการเมืองนั้น การถวายฎีกานั้นเรายังทำไม่เสร็จ เรายังค้างอยู่เรื่องการถวายพระราชอำนาจ เราต้องทำให้เสร็จ แล้ววิธีทำให้เสร็จนั้นอย่าทำให้เสร็จเพียงแค่เป็นตัวแทนแล้วไปมอบให้ เอาพ่อแม่พี่น้องทั้งประเทศมาร่วมเดินขบวนกันแล้วไปถวายฎีกาให้พระเจ้าอยู่หัวผ่าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ผมเลยตัดสินใจว่า ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว ผู้หญิงอุ้มลูกบาดเจ็บจากคนชั่วร้าย เลวมากๆ พ่อแม่พี่น้องเก็บความเครียดแค้นไว้ในใจ เก็บเอาไว้ เก็บเอาไว้ เก็บเอาไว้ เก็บเอาไว้พ่อแม่พี่น้องเก็บเอาไว้ในใจ เก็บเอาไว้ในใจ เสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อเก็บเอาไว้ในใจแล้วอย่าเพิ่งแสดงออกตอนนี้ พ่อแม่พี่น้องจำได้ไหมว่าวันที่เท่าไหร่ สี่ต่อห้า แล้วถ้าพ่อแม่พี่น้องยังมาเยอะๆ อีกต่อไปเรื่อยๆ จำได้หรือเปล่าว่าวันไหน ข้าวเหนียวคนละกะติ๊บ หมูทอดคนละถุง น้ำขวดคนละขวด ยาบ้วนปาก 1 ขวด อยู่มันไปเรื่อยๆ ผมจะพูดอีกครั้งหนึ่งเป็นครั้งสุดท้าย เก็บความเครียดแค้นเอาไว้แล้วอย่าเก็บเอาไว้กับตัวเอง ประชุมที่บ้าน ประชุมเพื่อน ประชุมทุกคน แล้วบอกว่า มาช่วยพี่ มาช่วยป้า มาช่วยอาล้างแค้นให้หน่อยได้ไหม มากันให้หมด พ่อแม่พี่น้องจำได้ใช่ไหม วันที่เท่าไหร่ ถ้าจำได้วันนี้เราบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว พวกเราใจนักเลง บอกเขาก่อนล่วงหน้า บอกก่อนล่วงหน้าเลยว่าให้รอรับพวกเราวันที่ 4
สโรชา - ย้ำสักนิดไหมคะว่ากี่โมง และที่ไหน
สนธิ - บ่ายโมงตรงที่สนามหลวง พ่อแม่พี่น้องไม่ได้ชัยชนะไม่กลับ เอาละพ่อแม่พี่น้อง ผมกราบเรียนว่า พูดต่อไปทำไมมี วันนี้เรามาอุ่นเครื่อง เราเอาความแค้นเป็นกำลังใจให้พวกเรา ถ้าเราแค้นที่เหตุการณ์วันนี้เกิดขึ้น แล้วหลายๆ วันเกิดขึ้น ถ้าเราแค้นที่เขาปล้นชาติ ปล้นแผ่นดิน อย่าไปนั่งแค้นอยู่ที่บ้าน อย่าไปแค้นคนเดียวเฉลี่ยแบ่งส่วนความแค้นให้ทุกๆ คนที่เรารู้จัก พาทุกคนมาร่วมแค้น พาทุกคนมาร่วมแค้น ทำให้มันเป็นสถิติโลก ทำให้มันเป็นสถิติของการเดินขบวนอย่างสงบ สันติสุข เพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ ถวายฎีกาให้ในหลวง ให้เป็นขบวนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และก็ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย พ่อแม่พี่น้องสบายใจได้ สบายใจได้ผมยืนยันว่างานนี้ผมนำ ไม่มีการแอบแฝงใดๆ ทั้งสิ้น
เอาล่ะ พ่อแม่พี่น้อง แค้นพอไหมวันนี้ ยังไม่พอเก็บเอาไว้ไประบายกับที่บ้าน อย่าให้ผม ผมไม่ได้กลัวตัวผม ถ้าผมพร้อมที่จะกินสติกนินกับนายกฯ แล้วตายพร้อมกันด้วยกันทั้งคู่ ผมไม่กลัวหรอกเรื่องนี้
สโรชา - ยาเบื่อหนู แปลให้ฟังนิดหนึ่ง ยาเบื่อหนู
สนธิ - ยาเบื่อหนู
สโรชา - ที่เขาจะทำให้คุณสนธิทาน
สนธิ - ถ้าแน่จริงนะ จับมานั่บต่อหน้าประชาชน 60 ล้านคน ออกทีวี กินกันช้อนต่อช้อน ผมยังเอาเลย ถ้าแค้น เราจะล้างแค้นกันวันไหน
ผู้ชมรายการ - 4 กุมภาพันธ์
สนธิ - จำให้แม่นๆ ยงยุทธ ติยะไพรัช พามาเลยทั้งกรมป่าไม้ อธิบดีดำรง พิเดช พามาเลย เอาล่ะ วันนี้เราแค้นกันพอแล้ว
สโรชา - จบเร็วกันสักนิดหนึ่งนะคะ แล้วเรามาเจอกันศุกร์หน้า คำถาม
สนธิ - ศุกร์หน้า กับวันที่ 3 ไม่มี เพราะว่าเราจะเตรียมตัวล้างแค้น มีเพื่อนฝูงที่ไหน อยู่ทั่วประเทศ โทรไปบอกเขา โทรไปบอกเขา บอกถึงเวลาต้องกู้ชาติแล้ว มาร่วมกู้ชาติกัน มาร่วมถวายฎีกาให้ในหลวง อย่างสงบ สันติสุข ตามสิทธิของรัฐธรรมนูญ ก่อนจากกันวันนี้ ช่วย...
สโรชา - นิดหนึ่งได้ไหมคะ ประกาศนิดหนึ่ง รายงานข้างนอกบอกว่า เขาถอยแล้วค่ะ เขาถอยไปแล้ว
สนธิ - ผมต้องการเช็คให้ละเอียด พ่อแม่พี่น้อง เราไม่ต้องการให้พ่อแม่พี่น้องต้องเดือดร้อน เรามีอาแปะ อาม่า คุณป้า คุณลุง คุณยาย คุณย่า เพราะว่าของเรามันเป็นคนจรจัด และคนเร่ร่อน เมื่อคนเร่ร่อนแล้วบ้านไม่มีอยู่นั้น เราต้องรักษาสุขภาพให้ดี เพราะเรายังมีเวลาที่จะล้างแค้นได้ ไหนๆ ก็รออยู่ ทดลองกันหน่อยดีไหม "ทักษิณ" (ตะโกน)
ผู้ชมรายการ - ออกไปๆๆๆๆๆ
สนธิ+สโรชา - ออกไป...
ผู้ชมรายการ - ออกไปๆๆๆๆๆ
สนธิ - พ่อแม่พี่น้องพอแล้ว พอแล้ว พอแล้ว พอแล้ว
สโรชา - เดี๋ยวไม่จบ เดี๋ยวจบไม่ลง วันนี้เราจบกันแค่นี้ก่อน อย่าลืม
สนธิ - เดี๋ยวก่อน ไม่เป็นไร รอดูสถานการณ์ข้างนอกนิดหนึ่ง
สโรชา - เรื่องร้อยเอ็ด กองเชียร์คึกนะวันนี้
สนธิ - ไม่ต้องตกใจครับพี่ชายผมเอง ไม่ต้องกลัวครับ เดี๋ยวก่อนครับ เรามาดูเรียลิตี้โชว์ ละครน้ำเน่าปนตลกโสโครกของรัฐบาลชุดนี้
สโรชา - เห็นเยอะนะคะเรียลิตี้โชว์ครั้งนี้ 5 วัน 5 คืน เห็นหลายอย่างเลย เห็นทั้งท่านนายกฯ ทาครีม อายครีมก่อนนอนก็เห็น หลายๆ อย่าง เห็นท่านขี่มอเตอร์ไซค์ก็เห็น ขี่อีแต๋นก็เห็น เห็นเยอะแยะเลย คุณสนธิคะเรียลิตี้โชว์ครั้งนี้เห็นอะไรหลายๆ อย่างเลย ดิฉันไม่เคยทราบเลยท่านนายกฯ ทาอายครีมก่อนนอน ไม่เคยทราบ และเชื่อว่าหลายๆ คนในเมืองไทยก็ไม่เคยทราบ ถูกไหมคะ แอ้มเองก็เพิ่งทาอายครีมเมื่อไม่นานมานี้เองนะ
สนธิ - เอาละครับมาดูเรียลิตี้โชว์นิดหน่อย
(เรียลิตี้นายกฯ)
สนธิ - ท่านพ่อแม่พี่น้องได้ดูรายการเรียลิตี้โชว์แล้ว คือรายการเรียลิตี้โชว์ ข้อเท็จจริงคือว่า คนสติดีเขาไม่ไปออกกันหรอก เพราะว่ามันเป็นการแสดงถึงจุดทุกจุดที่มนุษย์จะทำ ไม่ว่าจะเป็นการถอดกางเกง ใส่เสื้อ เอาครีมทาตา อย่างที่นายกฯ เขาทา ธรรมดาแล้วมันเป็นเรื่องส่วนตัวที่คนสติดีเขาไม่ออกกัน แต่นายกฯ ออกก็คือการไปสร้างภาพให้เห็นว่าเขาทำอะไรบ้าง แต่ในขณะซึ่งออกนั้น รายการแบบนี้เวลาออก บางครั้งตัวเองลืมตัว ลืมไปว่ามีกล้องจับตลอด 24 ชั่วโมง ทุกจุด ก็เลยแสดงสันดานเดิมออกมาทางคำพูด เพราะฉะนั้นไอ้คำพูดที่ว่า คนเร่ร่อน จะต้องไปปรึกษา ให้กรมสุขภาพจิตจัดการ ให้ผสมสติกนินให้กิน หรือว่า มัวแต่ดูป้ายบรรหาร ศิลปอาชา เครื่องบินตก หรือว่าดูหอ หลงหอ นี่คำพูดของสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ตกเพราะว่าดูหอ หลงหอ ดูความเลวของคน เพราะฉะนั้นแล้ว ตรงนี้คือภาพสะท้อนของจิตใต้สำนึกที่แท้จริง ลำพังเรามีนายกรัฐมนตรีที่ตัดสินใจไปทำเรียลิตี้โชว์เนี่ย เราไม่รู้จะอับอายขายหน้าชาวโลกเขาไปถึงไหน ไปที่ไหนก็ไม่กล้าพูด แล้วยังดันไปเอาพวกทูตต่างประเทศ 40 ประเทศ ไปดู ทูตที่เขาไปดูเนี่ยรู้หรือเปล่าพ่อแม่พี่น้อง เขาไปดูเพราะอะไร เขาไปดูเพื่อนไปเป็นอาหารขบขันในชีวิตจิตใจเขา เขาดูเสร็จ เขากลับไป เขาก็โทรศัพท์ไปบอกพี่น้องเขา เพื่อนฝูงเขา หรือไปหัวเราะต่อกระซิกกันในสถานทูตเขา เขาบอกว่า กูรับราชการเป็นเอกอัครราชทูตมาไม่รู้กี่ประเทศ เพิ่งจะเจอนายกรัฐมนตรีประเทศไทยที่มันเพี้ยนที่สุด ไม่อับอายขายหน้าเขาหรือ
ผู้ชมรายการ - เราอายแทน
สนธิ - ประชาชนเนี่ยอายแทน ยังทะลึ่ง ยังทะลึ่งพูดว่าแม้กระทั่งซีเอ็นเอ็นยังสนใจ วันนี้เนี่ย นายกรัฐมนตรีคนนี้มีปัญหาทางจิตที่เยียวยาไม่ได้อีกแล้ว เป็นคนที่พูดเอง ทุกคนเถียงไม่ได้ เป็นคนที่คนมีความเห็นเถียงไม่ได้ เป็นคนที่พูดทุกคนต้องฟัง ทุกคนในประเทศไทยโง่ไปหมด นายอำเภอที่เขาใกล้ชิด ชาวบ้านก็โง่ไปหมด ด่านายอำเภอว่าแค่นี้จะทำไม่ได้ ก็มันจะทำได้อย่างไร ลู่ราษฎรไม่มีที่ทำกิน ก็บอก เอ้า รัฐมนตรียงยุทธจัดที่ทำกินให้เขา บ้านหลังนี้ต้องการกู้เพื่อไปซื้อแท็กซี่ ก็บอกเอสเอ็มอีแบงก์ ออมสิน จัดการกู้เขา นายอำเภอมันทำได้อย่างไร นายอำเภอมันทำได้อย่างเดียวคือกินก๋วยเตี๋ยวฟรี 1 ชาม ไอ้นี่มันไม่ใช่เป็นการทำแก้จน ไม่ใช่ เป็นการแสดงจำอวดและวุฒิภาวะที่ต่ำที่สุด ทำให้เรารู้ว่าจริงๆ แล้วนายกฯ เราเป็นคนอย่างไร ผมอยากจะรู้เหมือนกันพ่อแม่พี่น้อง ว่าวันพรุ่งนี้เนี่ย เขาจะโกหกพวกเราเรื่องอะไรกันอีก
สโรชา - พรุ่งนี้เช้า
สนธิ - พรุ่งนี้เช้า
สโรชา - ค่ะ ตะกี้นี้คุณสนธิยังเล่าไม่จบเลยค่ะเรื่องชินคอร์ป เนี่ย สักนิดหนึ่งไหม สักนิดหนึ่งแล้วกัน
สนธิ - เขามีความปรารถนาที่จะขายชินคอร์ปหลายเดือนมาแล้ว ตั้งแต่เขาขาลง คนๆ นี้เนี่ย เมื่อจะขาลงแล้ว เขาทำงานเขาจะมีแผนการรองรับ การถือหุ้นอยู่นั้นเขากลัวว่าเขาจะถูกยึกทรัพย์ในอนาคต เพราะฉะนั้นแล้วถ้าเขาจะไปไหนมาไหนมันไม่สะดวก สู้ขายทิ้งก่อนดีกว่า ข่าวการขายก็มีมาตลอด มีมาตั้งแต่ไชน่าเทเลคอมที่ผมเอาข่าวมาเปิด โคโดโมของญี่ปุ่น แต่ตกลงกันไม่ได้ ก็เหลืออยู่เฉพาะสิงคโปร์ เหตุผลที่เหลือสิงคโปร์เพราะเขาเป็นนายหน้าของประเทศสิงคโปร์ นายกรัฐมนตรีคนนี้เป็นนายหน้าเปิดประเทศให้สิงคโปร์มายึดประเทศไทยหลายๆ กรณี ให้สิงคโปร์เช่าสนามบินอุดรฯ 15 ปี ให้สิงคโปร์เช่าค่ายทหารที่กาญจนบุรี เอาทหารสิงคโปร์มาฝึก 5,000 คน ฝีมือนายกฯ คนนี้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นความใกล้ชิดสนิทสนมเขามีอยู่ เขาพยายามมาขายตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม วันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระราชดำรัส เขาหงุดหงิดมาตลอด โกรธ อารมณ์เสีย มาวันที่ 27 4 ถึง 27 23 วันเต็มๆ มาวันที่ 28 อารมณ์ดี ร้องเพลงเบิร์ด นั่นแหละคือข่าวที่สิงคโปร์ซื้อแล้ว ก็เลยร้องเพลงเบิร์ดออกมา พ้น 28 29 30 31 พอปีใหม่ถึงเอาลูกไปสิงคโปร์ทั้งหมด เพื่อไปเซ็นเอกสาร เมื่อเซ็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว แถลงข่าวเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่าไม่ต้องเสียภาษีขายหุ้นเลยแม้แต่บาทเดียว ที่ไม่ต้องเสียภาษีเพราะว่ากรมสรรพากรซึ่งเป็นทาสรับใช้นายกฯ คนนี้ เขาบอกว่า ไม่จำเป็นต้องเสียภาษีเพราะว่า มันมีข้อยกเว้น ฟังให้ดีๆ พ่อแม่พี่น้อง เมื่อไม่นานมานี้ คุณเกรียงไกร ซึ่งเป็นประชาชนคนหนึ่ง คุณเกรียงไกรได้รับหุ้นจากพ่อเขา คุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ได้รับหุ้นจากพ่อเขาในราคาต้นทุน ได้ฟรี กรมสรรพากรเรียกภาษี เขาสู้นะแต่เขาจ่ายภาษีในที่สุด ปรากฏว่ากรณีของทักษิณ ชินวัตร ตระกูลดามาพงศ์ โอนหุ้นจากราคาทุน เขาก็ไปร้องเรียนกรมสรรพากร กรมสรรพากรรีบคืนเงินให้ทันที บอกว่าจริงๆ แล้วคิดผิด ไม่ต้องเสีย มีที่ไหนสรรพากรเมืองไทยรีดเงินเรียบร้อยแล้วบอกว่าคิดผิด เคยมีบ้างไหมคนที่ค้าขาย ไม่มี ไม่มี เห็นหรือยัง
มาวันนี้รองอธิบดีกรมสรรพากร ซึ่งอยากเป็นอธิบดีใจสั่น บอกว่า ที่ชินคอร์ปขายหุ้น 7 หมื่นกว่าล้านไม่ต้องเสียภาษี มีข้อยกเว้น คุณดู กุมอำนาจรัฐนอกจากฉกฉวยผลประโยชน์ของการทำสัมปทาน ได้สัมปทาน ใช้นโยบายตัวเองลดภาษีให้ตัวเอง ใช้นโยบายของตัวเองลดราคาค่าสัมปทานเรื่องวัน-ทู-คอล หลายๆ อย่างเพื่อให้ตัวเองได้กำไรมากขึ้น ให้มูลค่าตัวเองเพิ่มมากขึ้น จากปี 2544 มูลค่าหุ้นตัวเองแค่ 2 หมื่นกว่าล้าน มาปี 2549 ต้นปี กลายเป็น 1.4 แสนล้าน เพิ่มขึ้นเกือบ 500 เปอร์เซ็นต์ แล้วขายทิ้งไป 7 หมื่นกว่าล้าน ภาษีก็ไม่เสีย นี่แหละคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นี่ไงพ่อแม่พี่น้องทำไมผมต้องลุกสู้ คุณเกรียงไกรก็น่ารัก ทำหนังสือถึงกรมสรรพากร ที่คืนเงินให้ผม ผมไม่เอา ผมยอมเสีย พ่อแม่พี่น้อง ถ้าเจ็บใจ ถ้าแค้น เก็บไประบายวันที่ 4 อย่าลืม โกงได้ทุกอย่าง โกงแม้กระทั่งภาษีอากร ทีอาแปะขายข้าวมันไก่อยู่ในซอย เจ้าหน้าที่สรรพากรมันไปนั่งนับถ้วยเลย มันอะไรกันเนี่ยประเทศนี้ แล้ววันนี้เราไม่กู้ชาติเราจะกู้กันวันไหนล่ะ
หุ้นชินคอร์ป พร้อมแล้วตอนนี้ ได้เป็นเงินสดมา โอนเข้ามา แล้วก็จะมีกระบวนการโอนเงินออกไป เมื่อโอนเงินออกไปแล้ว จะถุยน้ำลายใส่ประชาชนยังไงก็ได้ เพราะว่าตัวเองพร้อมที่จะบินออกไปนอกประเทศทันที พร้อมทุกเมื่อ ผมก็เลยอยากจะกราบเรียนพ่อแม่พี่น้อง ลูกทัพฟ้าทั้งหลาย คุณแค้นไหม ที่เขาดูถูกลูกทัพฟ้าที่ตาย หัวร่อต่อกระซิก คุณรู้ใช่ไหมว่าเวลาไหนคือเวลาล้างแค้นของคุณ คุณไปจัดการกันเอง
พ่อแม่พี่น้อง จริงๆ แล้ววันนี้ก็พูดไปชั่วโมงครึ่ง ผมว่าสมควรแก่กาลเวลา อันนี้เรื่องจริง ไม่ใช่กลัว ไม่ได้กลัวหรอก แต่ว่าไม่อยากให้มีการลามมา หอมปากหอมคอ วัตถุประสงค์ใหญ่ที่สุดคือการชี้แจงวันที่ 13 และก็ที่ใหญ่กว่านั้น คือวันที่เท่าไร
ผู้ชมรายการ - 14 กุมภา
สนธิ - อย่าลืม พ่อแม่พี่น้อง มากัน มาให้เขาดูว่าคนเร่ร่อนในแผ่นดินไทยจะมากันให้เขาดู ผมกราบเรียนพ่อแม่พี่น้อง กราบมาด้วยหัวใจ ผมตัดสินใจยอมเสียทุกอย่างในชีวิต ทุกอย่าง แม้กระทั่งชีวิต เพื่อให้มาถึงวันที่ 4 และต่อไปวันที่ 5 ผมต้องการเป็นตัวแทนพ่อแม่พี่น้องไปถวายฎีกาให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ผมจะทำอย่างนี้ไม่ได้ ที่ผมทำมาตลอด ผมจะทำไม่ได้ถ้าพ่อแม่พี่น้องไม่ให้ใจผม พ่อแม่พี่น้องไม่พากันมาเยอะๆ วันนั้นเป็นวันเสาร์ พากันมาเยอะๆ น้ำ 1 ขวดพลาสติก ข้าวเหนียว 1 ถุง หมูทอด/เนื้อทอด 1 ถุง ยาบ้วนปาก
สโรชา - ยาบ้วนปากอย่าลืมนะคะ
สนธิ - ยาบ้วนปาก อย่าลืม นั่งอยู่กันที่นั้นเพื่อแสดงฉันทามติ สิทธิของพวกเรา ผมไปที่ จ.เพชรบุรี ผมบอกพ่อแม่พี่น้องที่ขายขนมหม้อแกง พ่อแม่พี่น้องที่เลี้ยงข้าวผม ที่เปิดแผงในตลาดสด ชุมนุมกันในร้านอาหาร ผมบอกว่า ผมกำลังสู้ให้พ่อแม่พี่น้องอยู่
สโรชา - นี่ใช่ไหมคะที่ไปเพชรบุรีมา (วีทีอาร์คุณสนธิ)
สนธิ - ครับ ผมไปเยี่ยมพ่อแม่พี่น้องที่ จ.เพชรบุรี โดยที่ไมได้บอกเขา เพื่อตอบแทนน้ำใจที่เขามากันทุกอาทิตย์ เป็นร้อยๆ เพื่อมาปกป้องผม นี่คือประชาชนชาวไทยที่อยู่ต่างจังหวัด ที่ทำมาหากินอย่างสุจริต จะเรียกเขาว่าเขาเป็นคนหาเช้ากินค่ำก็ย่อมได้ คนพวกนี้ถูกรังแกจากอำนาจรัฐ ถูกรีดภาษีจากรรมสรรพากร แล้วกำลังต้องเลี้ยงลูกในสังคมที่ศีลธรรมเสื่อมทราม เสื่อมลงไป ผมถามว่าคนพวกนี้ศักดิ์และสิทธิ์เขาในฐานะคนไทยมีน้อยไปกว่าทักษิณ ชินวัตร เพียงแค่ไหน ไม่น้อยไปกว่าเลยใช่ไม่ใช่ มิหนำซ้ำยังมีมากกว่าเพราะเขาเป็นคนมีคุณธรรมและมีศีลธรรม ลูกเขาเจริญเติบโตต่อไป เรียนหนังสือค่าเล่าเรียนก็แพง พอจบแล้วต้องแย้งหางานทำไม่มีเส้นไม่มีสาย เพราะฉะนั้นแล้วพ่อแม่พี่น้องต้องรู้ว่าชาวต่างจังหวัดและชนชั้นกลางที่นั่งอยู่ในที่นี้ ที่ทำมาหากินโดยซื่อสัตย์สุจริต กล่าวจะขายหม้อแกง 1 อัน สะสมเงินสักแสน ทำจนกระทั่งตัวเองเป็นเบาหวาน คนบางคนมันโกงเครื่องบินชุดเดียวมันกำไร 1.5 หมื่นล้าน มันเป็นไปได้อย่างไรสังคมไทยแบบนี้
เจ้าของร้านทองก็ให้กำลังใจทุกคน อาเตี่ย อาม่า คุณยาย บอกดูรายการทุกวันศุกร์ ชาวบ้านร้านตลาดออกมาให้กำลังใจหมด นี่คือกำลังใจที่ให้ผมสู้ พ่อแม่พี่น้อง วันที่ 4 วันที่ 4 เอากำลังใจนี้มาผมจะให้ใจ ผมจะให้ชีวิตกับพ่อแม่พี่น้อง วันที่ 4 เอามาให้เยอะๆ ไปพาคนโน้นคนนี้มา ได้ไหมครับพ่อแม่พี่น้อง วันนี้ถึงเวลาที่เราจะต้องจากกัน ก็ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งที่พูด กำลังดี เดินทางกลับไป เดินห่างๆ เขียวกุ้ย อย่าเข้าไปใกล้มันเดี๋ยวจะไม่เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ถ้าจะแสดงความเป็นนักเลง จะสู้กัน วันที่ 4 วันที่ 4 มากัน ผมเชิญหมด ผมเชิญท่าน ส.ว.นิรันดร์ ผมเชิญท่านโสภณ สุภาพงษ์ ผมเชิญทุกท่านมาเป็นแนวร่วม ผมเชิญคุณวิญญู ผมเชิญหมดไม่ละเว้น ผมเชิญหมด ขอให้มีความต้องการจะกู้ชาติร่วมกับผม แม้กระทั่งขอทานผมยังต้องเชิญ
สโรชา - เช่นเคยค่ะ เราจบกันด้วยการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ค่ะ
