xs
xsm
sm
md
lg

เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร นัดพิเศษ : “สนธิ” ปลุกครูร่วมกู้ชาติ-ลั่นเดินหน้าจัดเมืองไทยฯ ยึดอหิงสา (1)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ขึ้นเวทีเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร นัดพิเศษ ร่วมกับม็อบครูที่อ.พลาญชัย จ.ร้อยเอ็ด
“สนธิ” ปลุกครูนับแสนทั่วประเทศออกมาร่วม “กู้ชาติ” ล้างรัฐบาลอยุติธรรม-ทุจริต-รังแกประชาชน ระบุ “ทักษิณ” หมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ ประกาศเดินหน้าจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรต่อไป โดยย้ำเจตนารมณ์อหิงสาจนกว่า “แม้ว” จะลาออกไป

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง สนธิ ลิ้มทองกุล เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรนัดพิเศษ บึงพลาญชัย จ.ร้อยเอ็ด ช่วงที่ 1

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง สนธิ ลิ้มทองกุล เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรนัดพิเศษ บึงพลาญชัย จ.ร้อยเอ็ด ช่วงที่ 2


คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร นัดพิเศษ ณ บึงพลาญชัย จ. ร้อยเอ็ด (ตอนที่ 1 56k)

คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร นัดพิเศษ ณ บึงพลาญชัย จ. ร้อยเอ็ด(ตอนที่ 2 256k)

คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร นัดพิเศษ ณ บึงพลาญชัย จ. ร้อยเอ็ด (ตอนที่ 2 56k)

คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร นัดพิเศษ ณ บึงพลาญชัย จ. ร้อยเอ็ด (ตอนที่ 2 256k)

เมื่อเวลา 13.30 -16.30 น. วันที่ 16 ม.ค. 2549 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ขึ้นเวทีกลางบึงพลาญชัย จ.ร้อยเอ็ด จัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร นัดพิเศษ ร่วมกับนายอวยชัย วะทา พร้อมแกนนำครู เนื่องในโอกาสวันครูแห่งชาติ และเคลื่อนไหวแสดงเจตนารมณ์ต่อต้านการถ่ายโอนการศึกษาไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

อวยชัย - สวัสดีครับพี่น้อง เพื่อนครู พี่น้องประชาชน ท่านผู้ฟังที่เคารพทุกท่านครับ บัดนี้วันครูแห่งชาติ 16 มกราคม ปีพุทธศักราช 2549 เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งที่เราได้มีโอกาสผนึกกำลังครู ประชาชน องค์กรประชาธิปไตย และสื่อมวลชน เราจึงได้ร่วมกันจัดรายการเสวนา เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรนัดพิเศษ เนื่องในวันครูขึ้นในวันนี้ ด้วยหัวข้อ "การศึกษาและการเมืองไทย ในยุคทักษิโนมิกส์" เราได้รับความอนุเคราะห์ ได้รับเกียรติอย่างสูงจากสื่อมวลชนของประชาชน คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งผมใคร่ขอแนะนำท่านด้วยบทกวีสั้นๆ ว่า "ยืดอกขึ้นท้าทายอำนาจเถื่อน ประชาชนเป็นเพื่อนทุกแห่งหน นามนี้คือ "สนธิ" สื่อมวลชนของประชาชน อุทิศตนเพื่อปวงประชาไทย ผู้ท้ามนุษย์เทวดาฟ้าดิน องค์อินทร์ทุกภพประสงค์ไข จรัสรัฐบาลทรราชมาดองสุราเมรัย ดื่มกินถอนพิษไข้ในหัวใจของประชาชน" ขอต้อนรับคุณสนธิครับ สวัสดีครับคุณสนธิครับ

สนธิ - สวัสดีครับ คุณอวยชัยครับ สวัสดีครับท่านรัฐมนตรีชิงชัย หวังว่าคงได้กลับมาเป็นรัฐมนตรีที่จะมาแก้ไขปัญหาเรื่องครูให้ถูกต้องนะครับ

อวยชัย - ก่อนที่จะได้เสวนากัน วันนี้เป็นวันครู กระผมใคร่ขอนำเอาเรื่องราวของบุคคลสำคัญที่สุดในโลก บุคคลสำคัญที่สุดในประเทศไทย ซึ่งถือได้ว่าเป็น "มหาครู" เป็นสุดยอดของครู นั่นคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ กระผมใคร่ขอเวลาสักเล็กน้อย นำเอาพระราชกรณียกิจของพระองค์เกี่ยวกับการศึกษาและความเป็นครูมานำเสนอต่อเพื่อนครู และท่านผู้ฟังที่อยู่ทางบ้าน
"พระผู้ทรงเป็นครูของแผ่นดิน" พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ประเสริฐสุด นอกจากจะได้ทรงนำการพัฒนาประเทศ ดำเนินรอยตามพระบาทสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า ผู้ประเสริฐแต่กาลก่อน มีพระบาทสมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า เป็นอาทิ อย่างมิได้ผิดเพี้ยนแล้ว ยังทรงมีพระจริยวัตรส่วนพระองค์ที่ทรงเป็นทั้งนักคิด นักประดิษฐ์ และนักวิจัย ที่สามารถนำผลมาเป็นต้นแบบของงานที่อำนวยประโยชน์สุขนานัปการให้ประชาชนของพระองค์ อย่างยากที่จะหาพระมหากษัตริย์ผู้นำประเทศคนใดในโลกมาเทียบได้ จุดประสงค์หลักในการคิด การประดิษฐ์ และการวิจัยของพระองค์ ก็เพื่อให้เป็นแนวทางที่ถูกต้องที่จะนำมาสั่งสอนให้ประชาชนดำเนินตาม ทรงถือเป็นพระราชภาระที่จะทรงสั่งสอนชี้นำแสดงตัวอย่าง และติดตามผลโครงงานต่างๆ เพื่อความสำเร็จและประโยชน์ของราษฎร ประดุจครูของประชาชนทั้งประเทศ
พระบรมราโชวาทที่พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทยในโอกาสวันสำคัญๆ เช่น วันขึ้นปีใหม่ วันเฉลิมพระชนมพรรษา ล้วนเป็นคำสอนที่มีค่า เหมาะแก่กาลสมัย ยังประโยชน์โดยตรงแก่ผู้ที่น้อมนำไปปฏิบัติ เช่น การที่ทรงสั่งสอนให้รู้จักต้นน้ำลำธาร รักป่า ทรงสั่งสอนให้รู้จักคำว่า "ขาดทุนเป็นกำไร" และรู้รักสามัคคี ทั้งนี้ ทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่างของผู้ที่มุ่งมั่นทำงาน เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมตลอดมา และด้วยเหตุที่ทรงมีพระเมตตาต่อพสกนิกรดุจครูเมตตาศิษย์ จึงได้พระราชทานความรู้ให้ทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่มีการปิดบัง ล้วนเป็นความรู้ที่ได้ทรงคิดทรงค้นคว้า ทรงทดลองด้วยพระองค์เอง ได้เห็นผลเป็นที่ประจักษ์ทั้งสิ้น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริให้จัดตั้งศูนย์การศึกษาพัฒนาขึ้นทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งทุกศูนย์เป็นแหล่งให้ความรู้ในทางปฏิบัติที่เหมาะสมแก่เกษตรกรและประชาชนในแต่ละภาคของประเทศ ทำให้ประชาชนได้เรียนรู้วิธีการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยดูจากตัวอย่างจริงในการสาธิตและการดำเนินงานของศูนย์ฯ ยังประโยชน์มหาศาลแก่ราษฎร และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางแม้ในต่างประเทศ ประชาราษฎรจึงสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ล้นเกล้าล้นกระหม่อม สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในฐานะที่ทรงเป็นครูของแผ่นดิน เป็นครูอย่างเต็มพระราชหฤทัยในการทรงสั่งสอนวิชาการเพื่อการทำมาหาเลี้ยงชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชาเกษตรกรรม ซึ่งเป็นวิชาที่สำคัญที่สุดสำหรับการดำรงชีวิตของประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ ทรงสั่งสอนหลักการดำเนินชีวิตที่เหมาะสมด้วยพระบรมราโชวาทและกระแสพระราชดำรัสที่พระราชทานในโอกาสสำคัญๆ ให้รู้จักพออยู่พอกิน ให้รู้จักจัดการกับเศรษฐกิจในรูปเศรษฐกิจพอเพียง
ทรงสอนคุณธรรมและหลักการดำเนินชีวิต โดยทรงเป็นแบบอย่างด้วยพระองค์เองและพระราชทานข้อธรรมะต่างๆ เช่น คุณธรรม 4 ประการ การรักษาความสัตย์ ความจริง การรู้จักข่มใจ การรู้จักอดทนอดกลั้นและอดออม การรู้จักละวางความชั่ว ทรงสอนให้รู้จักสามัคคี รู้จักใฝ่หาความรู้และดำรงความเพียรเป็นอาทิ คำว่า สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ หมายความว่า รู้สึกถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทั้งในฐานะที่ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ปกครองอาณาประชาราษฎร์ให้ร่มเย็นเป็นสุขในฐานะที่เป็นครูผู้ให้ความรู้ และการอบรมคุณธรรม ทรงสั่งสอนวิธีการครองชีวิตในฐานะที่เป็นยิ่งกว่าบิดาเพื่อเอื้ออาทร ห่วงใย คุ้มภัย และขจัดปัดเป่าความเดือดร้อนให้ราษฎรและของครูทั้งหลาย
พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่ไปศาลนัก ประชาชนชาวไทยจึงควรสนองพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ในทุกวิถีทาง เช่น การรับพระบรมราโชวาทพระราชดำริไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมเพื่อจะได้ประพฤติปฏิบัติตนในทางที่ดีงาม นำพาชาติไทยให้เจริญก้าวหน้า มั่นคง เพราะพระบรมราโชวาทของพระองค์นั้นครอบคลุมทุกเรื่องของชีวิต ตั้งแต่ความประพฤติส่วนตัว การรู้จักควบคุมจิตใจ การพัฒนาความคิดให้ก้าวสมัย รวมทั้งการรู้จักการดูแลกันและกันในสังคม เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่าวันนี้วันครู 16 มกราคม 2549 เรามีครูของแผ่นดินที่ทรงเป็นตัวอย่างที่ประเสริฐสุดให้เราประพฤติปฏิบัติตามอยู่กับเราแล้ว ดังนั้นเราท่านทั้งหลายจงร่วมกันประพฤติปฏิบัติตามรอยพระยุคลบาทโดยพร้อมเพรียงกัน ผู้ใด องค์กรใด จะกระทำสิ่งใดก็ตามเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย ย่อมเป็นที่ทรงปลาบปลื้มและพอพระราชหฤทัย ยิ่งไปกว่านั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะทรงปลาบปลื้มและพอพระราชหฤทัยมากที่สุดถ้าสิ่งที่เราทำถวายนั้นจะส่งผลให้ราษฎรของพระองค์ท่านคลายทุกข์และมีความสุขยิ่งขึ้น สมดั่งพระราชปณิธานที่ว่า เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม สาธุ
คุณสนธิครับ พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในหลวงของเรา อยากจะฟังความเห็น และความคิด ในฐานะที่คุณสนธิเป็นผู้หนึ่งที่ได้ติดตามและใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทครับ

สนธิ - พระเจ้าอยู่หัวของเรานั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่ครู เป็นยิ่งกว่าพ่อและแม่ เพราะฉะนั้นแล้วพระเจ้าอยู่หัวเป็นทุกอย่างในจิตวิญญาณของพวกเรา พระเจ้าอยู่หัวเป็นเสาหลักเสาหนึ่งในโครงสร้างวัฒนธรรมไทย ทำไมผมถึงกล้าพูดอย่างนั้น วัฒนธรรมไทยนั้น ก่อนที่ผมจะกราบพระนั้น หรือผมกราบพระเสร็จ พวกเราจำได้ไหม พวกเราจะพูดว่าอย่างไร พอเราตั้งนะโมเสร็จ เรากราบเสร็จเรียบร้อย เราก็บอกว่า คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ อันนี้เป็นคำพูดซึ่งเราพูดมา ถูกสอนถูกสั่งมาตลอดเวลา คุณบิดามารดา คือพ่อแม่เรา คุณครูบาอาจารย์ คือครูที่สอนเรา เมื่อเราเอาคุณบิดามารดา บวกคุณครูบาอาจารย์ นั่นคือบุญคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ของเราในวันนี้

ทีนี้พูดไปทำไมมี เพราะว่ามีผีเปรตบางคนบอกว่า "ถ้าผมไม่จงรักภักดีแล้วผีที่ไหนจะมาจงรักภักดีวะ" คนๆ นี้เนี่ย คนๆ นี้เนี่ยวันนี้ไม่ได้มีปัญหากับครูอย่างเดียว คนๆ นี้คือปัญหาของแผ่นดินไทย วันนี้ครูที่จะมานั่งอยู่ที่นี้ ปัญหาของครูเป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องแก้ให้ถูกต้อง ซึ่งประเดี๋ยวผมจะพูดต่อไป แต่ปัญหาที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นที่ครูทุกคนจะต้องจำใส่ใจ และจะต้องต่อสู้ให้ได้ นั่นก็คือว่า ครูก้าวเข้าไปสู่ "ยุคครูกู้ชาติ" แล้ว มันมีมากกว่าการต่อสู้เพื่อให้สิทธิของครูได้คืนมา เพื่อให้ลูกหลานเราได้การเรียนการสอนที่มีคุณภาพ

วันนี้ครูเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย สังคมไทยไม่มีที่ไหนที่จะพึ่งได้ ธรรมชาติของครูนั้นเป็นคนซึ่งใจเย็น โกรธยาก และก็ไม่ค่อยประท้วง การที่จะเอาครูมานั่งประท้วงกันอย่างนี้ หรืออุตส่าห์ลงไปสู่กรุงเทพมหานคร เข้าไปอดหลับอดนอน ไปยืนให้เขาเห็นใจนั้น แสดงว่าครูเริ่มเหลืออดแล้ว แต่พอไปพูดแล้ว กลับถูกกล่าวหา ด่าตามสันดานปากพล่อยๆ ของคนที่คิดว่าตัวเองเป็นเทวดา ไปบอกว่าครูเนี่ยไม่เคยเรียกร้องให้ลูกศิษย์ แต่เรียกร้องให้ตัวเอง มันก็เลยยิ่งกว่าเหลืออดอีกคราวนี้ ผมจำได้ วันเสาร์ที่ผ่านมา มีคนๆ หนึ่งใช้เวทีวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ แหกปากพูดเรื่องซึ่งประชาชนเขาไม่อยากฟังทุกเสาร์ พูดบอกว่า "พวกเอ็งเป็นใคร มีคนอยู่พัน สองพันคน มาทำเป็นขับไล่รัฐบาล" ผมอยากจะบอกว่า "พวกกูคือพวกที่จะไล่มึงนั่นเองล่ะ"

อวยชัย - คุณสนธิครับ วันนี้ได้สู่ขวัญผูกแขนจากเพื่อนครูเรือนแสนแล้ว ขวัญและกำลังใจหายไปหรือกลับคืนมาแล้วครับ

สนธิ - ขวัญกำลังใจผมได้เพิ่มขึ้น ผมไม่เคยหาย ผมมีแต่เพิ่มขึ้น ผมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ ผมบวชที่อีสาน ผมเป็นคนกรุงเทพฯ แต่ผมบวชที่หนองบัวลำภู ครูบาอาจารย์ผม หลวงพ่อยา ท่านมรณภาพไปเรียบร้อยแล้ว แล้วผมก็มีครูบาอาจารย์อีกรูปหนึ่ง คือหลวงตามหาบัว ท่านบอกผม บอกว่า "สนธิ ชีวิตมีแต่ความว่างเปล่า ถ้าชีวิตนี้ได้ทำงานให้ชาติ ให้บ้านเมือง ให้ประชาชน ถึงตายก็คุ้มค่า" ผมตื่นมาตอนเช้าทุกเช้า ผมล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ ผมถามตัวผมเองหน้ากระจก ผมบอกว่า สนธิมึงนี่ 58 แล้ว เชื่อในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำหรือเปล่า ผมตอบตัวผมเองว่าผมเชื่อ ผมถามต่อว่า แล้วศรัทธาไหมสิ่งที่ทำ ผมบอกว่า ศรัทธา ใจก็เลยบอกว่างั้นทำมันต่อไปไม่ต้องไปกลัว ผมทำเพราะผมเชื่อและศรัทธา เหมือนเราถามตัวเราเองว่า เราเชื่อไหมว่ามีพระพุทธเจ้า เราตอบว่า เราเชื่อ ถ้าเราไม่เชื่อเราจะมาฟังคาถาชินบัญชรทำไมเมื่อกี้ ชยาสะนากะตา เราเชื่อ เมื่อเราเชื่อแล้วเราศรัทธาในพระธรรมคำสั่งสอนไหม คำตอบบอกว่า เราศรัทธา เมื่อศรัทธาแล้วเราก็เดินหน้าต่อไป เพราะฉะนั้นแล้วผมทำงานผมไม่ได้หวังพึ่งว่าจะต้องมีคนสิบคน คนแสนคน คนล้านคน ผมทำเพราะว่าผมเชื่อมั่นในสิ่งที่ผมทำ และด้วยความเชื่อมั่นที่ผมมีนั้นทำให้พ่อแม่พี่น้อง ครูที่รักชาติทุกคนเริ่มเห็นว่า ผมทำด้วยจิตที่บริสุทธิ์ถึงเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรกัน

อวยชัย - ขอเสียงปรบมือ

สนธิ - เขาบอกว่าคนไม่กี่พันคนมาไล่เขาเขามีอยู่ 19 ล้านเสียง แต่เขาไม่เคยเล่าให้พวกเราฟังเลย 19 ล้านเสียงของคุณ ข้อที่ 1. คุณโกงมากี่เสียง ข้อที่ 2. คุณเอาเงินซื้อมากี่เสียง เขาไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้พวกเราฟังเลยแม้แต่นิดเดียว เขาเอาเงินภาษีอากรของรัฐบาล เขาเอาเงินภาษีอากร เขาเอาเงินต่างๆ นานามาที่ไม่ใช่เงินกระเป๋าเขา แต่เป็นเงินของชาติบ้านเมือง เอาไปซื้อเสียงที่รากหญ้า เขาไปหรอกชาวบ้านให้หลงผิดว่านี่เงินของเขา เขาไปหรอกชาวบ้านให้หลงผิดว่าเงินก้อนนี้ไม่ต้องใช้ แต่เราก็รู้อยู่แล้วว่าเงินนี้เป็นเงินงบประมาณ บางส่วนถูกตัด ถูกทิ้ง ถูกบีบบังคับออกมาจากงบประมาณการศึกษา จากงบประมาณการพัฒนา แล้วเมื่อเขาเอาเงินก้อนนี้มาเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็ไปซื้อที่เขาอ้างว่า 19 ล้านเสียง ทั้งซื้อทั้งโกง เปลี่ยนบัตรเลือกตั้ง เอากกต. ซึ่งเป็นคนของเขา เอาตำรวจ เอาทหารลงพื้นที่ บีบบังคับให้พวกเขาได้แต่เสียงแล้วเปลี่ยนบัตรเป็นกล่องๆ เป็นลังๆ เขาถึงได้มา 19 ล้านเสียงที่น่าอับอายแต่เขาไม่พูด เขาพูดแต่ว่า ผมมีอยู่ 19 ล้านเสียง หลังจากนั้นแล้วเมื่อได้เสียงเข้ามาความที่เป็นคนปากกล้าขาสั่น เป็นคนที่ขี้ขลาดตาขาวมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถ้าไม่ขี้ขลาดตาขาวผมขอท้าเขา คุณกล้าทำอย่างที่ผมทำไหม พลิกเปลี่ยนสถานภาพกัน

อวยชัย - อีกประเด็นครับคุณสนธิ ถ้าไม่ขี้ขลาดตาขาว ลงจากเครื่องบินที่สนามบินร้อยเอ็ดให้มาคุยกันที่ตรงนี้เขาจะกล้าหรือเปล่า

สนธิ - ถ้าไม่ขี้ขลาดตาขาว ถ้า 19 ล้านเสียงเป็นของเขาจริงๆ ทำไม่ต้องมีทหาร มีตำรวจเป็นพันๆ คนมาตรวจพื้นที่อาจสามารถอยู่เกือบเดือน ก็ไหนบอกว่าคนอีสานเป็นพวกคุณทั้งหมดไม่ใช่หรือ ทำไมไม่ไปจัดที่บุรีรัมย์ให้มันสิ้นเรื่องสิ้นราวล่ะ

อวยชัย - มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและบริวารทางบุรีรัมย์สกัดกั้นอยู่ที่ชุมพลบุรี ที่สตึก อีกหลายๆ จุด แต่ปรากฏว่าพอครูขู่ว่าจะเอาขบวนรถบัสชนลูกน้องเนวินกระเจิดกระเจิงไปหมดเลย

สนธิ - เมื่อได้เสียงเข้ามา ความซึ่งเป็นคนไม่เคยเชื่อหลักประชาธิปไตยมาก่อนเลยในชีวิต เขาไม่เคยเชื่อในเรื่องประชาธิปไตย เขาใช้ช่องว่างของกระบวนการประชาธิปไตยเพื่อมาซื้อประเทศไทยเท่านั้นเอง เขาเข้ามา 250 กว่าเสียง ความที่เป็นคนขี้ขลาดตาขาวกลัวว่าถ้าเสียงไม่ถึง 300 เสียง ตัวเองจะต้องถูกเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ถ้ารักจะเล่นการเมืองแล้วคุณกลัวอะไรเล่า แสดงว่าขี้ขลาดและตาขาวจริงๆ ก็เลยใช้วิธีนายทุนซื้อพรรคมา ซื้อพรรค ซื้อความหวังใหม่ ซื้อโน้นซื้อนี่ เหลือแต่ท่านชิงชัยที่ไม่ยอมไปด้วย ผมไม่ได้เชียร์ความหวังใหม่ เชียร์ใคร แต่นี่คือวีรบุรุษอีสาน เป็นคนที่ซื้อไม่ได้ เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อเขาซื้อพรรคเข้ามาแล้ว เขารวมตัวพรรคให้เสียงมันเกิน 300 เพื่ออะไร เพื่อเรื่องเดียวเท่านั้นเอง จะได้ไม่มีสิทธิมาอภิปรายไม่ไว้วางใจตัวเขา เท่านั้นเอง คนเราเนี่ย ถ้ารักจะเป็นช่างตีเหลก ไปกลัวความร้อนทำไม ถ้ากลัวอย่าเข้ามาเล่นการเมือง ถ้ากลัวอย่าเข้ามาเล่นการเมือง หลังจากนั้นแล้วเขาปฏิเสธ เขาทรยศเนรคุณพ่อแม่ครูบาอาจารย์ จำได้ไหม วันที่เขาโดนคดีซุกหุ้นนั่นน่ะ คนอีสาน ลูกศิษย์หลวงตามหาบัว พวกเรา รวมทั้งผมนั้น ยังหลงโง่ไปช่วยเขา เขกหัวตัวเองให้พ่อแม่พี่น้องดู แล้วสาบานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บึงพลาญชัย และเจ้าพ่อมเหศักดิ์ "ชีวิตนี้จะขอไล่มันลูกเดียว" (คนดูตะโกน "ออกไปๆๆๆๆ")

อวยชัย - ยังเบาอยู่ครับ ยังไม่ถึง อ.อาจสามารถ ดังๆ หน่อยครับ

(เสียงตะโกน "ออกไปๆๆๆ")

อวยชัย - ครับ ขอบคุณครับ

สนธิ - ให้ผมเล่าต่อ วันนี้สนุกแน่นอนพ่อแม่พี่น้อง รับรองว่าไม่จืด พวกพ่อแม่ครูบาอาจารย์คิดว่าตัวเขาเป็นคนดี ก็เลยระดมพระ น่าสงสารมาก พระป่า ระดมลูกศิษย์ลูกหา ที่ธรรมดาต้องปฏิบัติธรรม วิ่งไปล่าลายเซ็นเป็นล้านๆ ลายเซ็น เอาไปให้ศาลรัฐธรรมนูญ บอกว่าไอ้นี่เนี่ยนะ ให้โอกาสมันทำงานสักหน่อย มันก็บอกว่า มันเนี่ยบกพร่องโดยสุจริต บีบน้ำตา มีหลักฐานให้เห็นชัดว่าบีบน้ำตา บีบน้ำตา พอได้รับชัยชนะ ซึ่งตอนหลังก็มารู้ทีหลังจากการให้การของ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ในศาล ว่าผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญคนหนึ่งยืนยันว่า ศาลรัฐธรรมนูญวันนั้นถูกซื้อไป 1 คน เพราะฉะนั้นแล้ว พอได้รับชัยชนะ วันแรกเนี่ยออกมาก็เลยบอกกับพ่อแม่พี่น้องประชาชนว่า เขาจะปกครองประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เขาจะตั้งใจทำงานให้ชาติบ้านเมือง วันนี้ผ่านไปเป็นเวลา 5 ปี วันนี้เราเห็นแล้วว่าชาติบ้านเมืองเราอยู่ที่ไหน

วันนี้ชาติบ้านเมืองเราสะกดด้วย ห-า-ย-น-ะ คือ "หายนะ" คนที่รวยที่สุด อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี พูดแล้วเมื่อเช้านี้ มีอยู่แค่ 10 ตระกูลในเมืองไทย 10 ตระกูลซึ่งเกี่ยวพันกับธุรกิจเขา พ่อแม่พี่น้อง วันหลังเนี่ยนะ วันหลังถามพวกรากหญ้าเนี่ยนะ ที่บอกว่าเขาดี เขาเอาเงินมาแจกเนี่ยนะ กลับไปถามเขาสิว่า ชีวิตวันนี้เขาเนี่ย เทียบกับชีวิตเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว มันดีกว่าเก่าหรือเปล่า มันดีกว่าเก่าในแง่คุณภาพ มันไม่ใช่ดีกว่าเก่าในแง่มีโทรศัพท์มือถือใช้ ไปถามเขาให้ดีๆ แล้วเราจะได้รู้ คนอีสานที่ไปทำงานกรุงเทพฯ มีเยอะ คนอีสานที่ขับแท็กซี่ ถ้าพ่อแม่พี่น้องอยากจะรู้ ต้องนั่งแท็กซี่ เอาบ้านไปแจกแท็กซี่ ปรากฏว่าคนแท็กซี่ที่นั่งอยู่เนี่ยเขาด่าตอบ เขาบอกว่า ไอ้พวกพ่อแม่ผมเนี่ย ที่บ้านน่ะ มันโง่ มันโดนไอ้พวกทักษิณมันหลอก เพื่อที่จะซื้อเสียงขายเสียง เพื่อที่จะมาเอาเสียงนี้เข้ามา ตั้งตัวเป็นรัฐบาล อภิปรายไม่ไว้วางใจตัวเองไม่ได้ แล้วก็สร้างโครงการต่างๆ แล้วก็กินเปอร์เซ็นต์ ฉ้อราษฎร์บังหลวง จนกระทั่งมี 10 ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย ในขณะซึ่งพ่อแม่พี่น้องทั่วประเทศไทยมีแต่การยากจนลงไปเรื่อยๆ

นอกจากนั้นยังไม่พอ คนที่อ้างว่าจงรักภักดีกับองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่ปีแรกที่ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่เคยฟังกระแสพระราชดำรัสเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่เคยฟังเลยว่าพระองค์ท่านตรัสถึงเศรษฐกิจพอเพียง วันที่ 4 ธันวาคม เห็นได้ชัด พระองค์ท่านตรัสถึงเศรษฐกิจพอเพียง 23 ครั้ง 23 ครั้ง พระองค์ท่านพูด ไปนับได้ พระองค์ท่านพูดบอกว่า ถ้าเชื่อเรา ขอให้เชื่อว่าไปรอด ประเทศไทยจะไปรอด เป็นธรรมเนียมของนายทักษิณ ชินวัตร พอเสร็จออกมาแล้วก็ยกมือท่วมหัว แล้วก็พูดคำหวานกับสื่อมวลชน บอก ผมจะเอาพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัวมาปฏิบัติตาม หลังจากนั้นไม่เกิน 10 วัน มันประกาศเมกะโปรเจกต์ของมันทันที ไม่ใช่ตอแหล เป็นคนจิตไม่ปกติ พูดอะไรๆ ไม่เคยจำได้เลยแม้แต่นิดเดียว โกหกพกลม โกหกทุกเรื่อง คนอย่างผมไม่จงรักภักดี ผมดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยามาแล้ว ชีวิตนี้เขาไม่เคยดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยา น้ำพิพัฒน์สัตยานั้นคือน้ำที่แช่ในคมหอกคมดาบ เฉพาะทหาร ตำรวจ ที่ได้เหรียญรามาธิบดีเท่านั้นถึงจะมีสิทธิดื่มได้ ไม่ใช่ใครๆ ก็ดื่มได้ นายพลในกองทัพบก หรือกองทัพเรือ กองทัพอากาศนั้นจะมีสักกี่คน

อวยชัย - เขากำลังส่องกล้องดาวเทียมกูลเกิลดูว่าจะมีครูมาถึง 700 คนไหม

สนธิ - มีเฉพาะนายพลในกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ มีเพียงไม่กี่คนเคยดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยา เฉพาะคนซึ่งได้รับเหรียญรามาธิบดี และเฉพาะในข้อยกเว้นของทหารเสือราชินี ขององค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่พระองค์ท่านยกเว้นให้เป็นกรณีพิเศษ แต่ตัวเองไปโม้บอกว่า ตัวเองนั้นดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยามาแล้ว ผมอยากจะบอกว่าถ้าเอ็งดื่มจริงเอ็งตายภายใต้คมหอกคมดาบไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นแล้วพ่อแม่พี่น้องจะเห็นได้ชัดว่าเมื่อตัวเองได้เสียงมา ก็ตั้งโครงการแล้วให้ญาติพี่น้อง ให้พรรคพวกตัวเองร่วมกันโกง พอโกงเสร็จ พอเสียงเริ่มจะตก เริ่มจะใกล้เลือกตั้ง หรือเสียงตก ก็เริ่มแจกเงินอีกเหมือนเดิม ก็คือ เอาเงินงบประมาณ เอาเงินต่างๆ เอาเงินจากภาษีอากรของพวกเราเอามาแจก เหมือนกับอะไรเหมือนกับเรื่องครู แทนที่จะเอางบกลาง งบประมาณมาใส่ใน อปท.ตามกฎหมายให้ครบ 35 เปอร์เซ็นต์ มันไม่ทำ เพราะว่าจะได้เอาเงินงบกลางอันนี้มาใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยฉุยแฉก ก็เลยคิดง่ายๆ เพื่อให้มันถูกต้องตามกฎหมายได้ผลทางการเมือง ก็โอนครูเข้าไปท้องถิ่นซะ แล้วเอาเงินเดือนครูใส่เข้าไปมันจะได้ครบ 35 เปอร์เซ็นต์ วิชาศรีธนนชัยแบบนี้ใครๆ ก็ทำได้ แต่เขามีคุณธรรมเขาไม่ทำกัน ความชั่วที่เขาทำเราก็ทำกันเป็น แต่อย่างน้อยที่สุดพวกเรายังมีธรรมนำหน้า นายกรัฐมนตรีคนนี้ไม่รู้จักคำว่า หิริโอตตัปปะ แล้วตัวเองชอบอ้างว่าตัวเองรู้ธรรมะสูงส่ง มีอยู่วันหนึ่ง วันครบรอบ 100 ปี ของพุทธทาส ก็เลยเกิดความคิดขึ้นมา

ผมอยากจะเป็นนักการเมืองพระโพธิสัตว์ คนอย่างนี้เป็นนักการเมืองพระโพธิสัตว์ได้อย่างไร วันดีคืนดีเขามีการฉลองท่านปรีดี พนมยงค์ เขาเชิญไปเปิดสถานที่ซึ่งเป็นอนุสรณ์ของท่านปรีดี พนมยงค์ ก็บอกว่า ผมอยากเป็นนักการเมืองอย่างท่านปรีดี พนมยงค์ ท่านปรีดี พนมยงค์ ท่านเสียสละชีวิตท่านเพื่อประชาธิปไตย แต่นายกฯ ทักษิณเสียสละการทำงานเพื่อความร่ำรวยของตัวเองให้มากขึ้น พ่อแม่พี่น้องต้องฟังเรื่องนี้ให้ดี ผมจำได้ ใครก็ตามที่ไม่ได้ดูเมืองไทยรายสัปดาห์เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมพูดอยู่ตอนหนึ่ง 2545 เขาเข้ามาเป็นรัฐบาลปีแรก มูลค่าหุ้นในกลุ่มบริษัทเขาทั้งหมด 20,000 กว่าล้านบาท 2549 ต้นปีนี้ กาลเวลาผ่านไป 4 ปี มูลค่าหุ้นขึ้นมา 140,000 ล้านบาท จาก 20,000 กว่าล้านบาทขึ้นมาเป็น 140,000 กว่าล้านบาท กี่เท่า 500 กว่าเปอร์เซ็นต์ เมื่อกี้ผมนั่งรถมาจากขอนแก่น พี่น้องครูไปรับ คนที่นั่งมากับผมอย่าให้เอ่ยชื่อเลย ยังพูดว่า อู๊ยมันทำไมกำไรอย่างนี้ มันทำมาหากินประเภทไหน มันต้องโกงแน่ๆ เลยไม่อย่างนั้นไม่มีทางกำไร ผมบอกว่า ค้ายาบ้ายังไม่รวยขนาดนี้เลย

เพราะฉะนั้นแล้วพ่อแม่พี่น้องจะเห็นได้ชัดว่า ในขณะซึ่งประชาชนชาวไทยเป็นหนี้มากขึ้น ผมชอบคำพูดที่คนเขาชอบโม้ให้กับนายกฯ ทักษิณ พวกนายกฯ ทักษิณชอบโม้ โม้ข้อที่ 1 ชอบทวงบุญคุณพวกเรา ทวงบุญคุณว่า เขาเข้ามาประเทศไทยกำลังจนแล้วเขาทำให้ประเทศไทยรวยขึ้นมา ผมอยากจะถามพ่อแม่พี่น้องวันนี้ว่า ประเทศไทยมันรวยที่ไหนพวกมึงซิรวย ไม่ได้รวย โกหกพกลม เรารวยหนี้ไง ประเทศไทยก่อนเขาเข้ามามีหนี้ทั้งประเทศ 2 ล้านล้านบาท เขาอยู่มา 4 ปีกว่า หนี้ประเทศไทยขึ้นเป็น 4.5 ล้านล้านบาท แล้วรวยได้อย่างไร เพราะฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ชัด เศรษฐกิจพอเพียงพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงสั่งทรงสอนไม่ฟัง พ้นวันที่ 4 มายังไม่ทันไรเลยประกาศออกมาแล้วว่าจะต้องประมูลเมกะโปรเจกต์เอาต่างชาติเข้ามาประมูล พูดชัดๆ ว่าจะก้าวกระโดดแบบแคงการู (Kangaroo) รู้ไหมพ่อแม่พี่น้องว่าทำไมต้องก้าวกระโดดแบบแคงการูไม่ได้ก้าวกระโดดแบบกบนะกบมันกระโดดสั้นไป ทำไมต้องเป็นแคงการู เพราะแคงการูมันมีกระเป๋าข้างหน้ามันจะได้ซุกซ่อนเงินทองได้ เพราะฉะนั้นแล้วเราต้องเข้าใจอย่างว่า นายกรัฐมนตรีคนนี้เป็นปัญหาของแผ่นดินไม่ใช่เป็นปัญหาของครูเพียงอย่างเดียว เป็นปัญหาของแผ่นดิน วันนี้ต้องให้เขาออกไป

(คนดูตะโกน "ออกไปๆๆๆ")

สนธิ - ท่านอวยชัยลงไปหาผมที่ทำงาน เดือนกว่าๆ ที่แล้ว ผมบอกว่า สิ่งหนึ่งซึ่งผมทำได้สำเร็จ จากการจัดเมืองไทยรายสัปดาห์มาทั้งหมด 14 ครั้ง ครั้งแรกมีคนมาดูพันกว่าคน มาจนกระทั่งสูงสุดเกือบ 200,000 คน ผมบอกพ่อแม่พี่น้องที่เข้ามาดูว่า ทำไมผมต้องทำงานชิ้นนี้ ที่ผมทำเพราะว่าผมกลัวจนผมต้องกล้า เพราะผมไม่มีอะไรจะกลัวอีกแล้ว ผมทำงานชิ้นนี้ ผมไม่ได้ทำให้ผม ผมทำให้ลูกหลานของพี่น้องทั้งหลาย ผมทำให้ลูกศิษย์ของพี่น้องทั้งหลาย ผมทำให้ลูกหลานพวกเราที่จะเจริญเติบโตต่อไปในสังคมที่มันต้องมีบรรทัดฐาน ที่มันต้องมีความยุติธรรม ที่มันต้องไม่มีการผูกขาด ที่มันไม่มีคนเลวคนชั่วช้ามาปกครองแผ่นดิน

อวยชัย - คุณสนธิครับ ผมถามหน่อย คำขวัญวันเด็กของนายกรัฐมนตรีนี่ เชื่อถือได้ไหมครับ

สนธิ - เชื่อถือไม่ได้ เพราะว่าสนใจอยู่อย่างเดียวก็คือ เรื่องของความฉลาด สอนให้เด็กฉลาด แต่ไม่เคยสอนให้เด็กมีความซื่อสัตย์และมีคุณธรรม ไม่เคย 4 ปีที่ผ่านมา คำขวัญของนายกรัฐมนตรีคนนี้ไม่มีคำว่า "ซื่อสัตย์" และ "คุณธรรม" วันนั้นที่ทำเนียบรัฐบาล ถ้าใครดูโทรทัศน์ โดนเด็กสอนไป ว่าฉลาดไม่พอ ต้องมีคุณธรรมด้วย ผมไม่รู้ ผมไม่รู้ว่าเขาทำไมถึงเป็นคนอย่างนี้ไปได้ คนที่เรียนจบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ คนที่เข้าโรงเรียนตำรวจได้เนี่ย อย่างน้อยที่สุดโดยพื้นฐานต้องฉลาดกว่าชาวบ้านเขา จบเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ไปได้ด็อกเตอร์มา อาชญวิทยา อาชญวิทยา มหาวิทยาลัยแซมฮิวสตัน อยู่ที่เมือง รัฐเทกซัส ปรากฏว่า พอหลังจากเขาจบสักพักหนึ่ง ตอนนี้มหาวิทยาลัยนี้ไม่มีคณะนี้อีกแล้ว อาจจะเป็นเพราะว่าเขาตัดสินใจว่าไอ้บัณฑิตคณะนี้ที่ผลิตออกไปแล้วมันโหลยโท่ย เขาก็เลยตัดสินใจปิดคณะนี้ไปเสีย ก็เลยกลายเป็นด็อกเตอร์ทักษิณ ด็อกเตอร์ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร คนๆ นี้ไม่เคยเข้าใจมวลชน ไม่เคยเข้าใจ ไม่เคยเข้าใจความต้องการของมวลชน ไม่เคยมีจิตใจที่เป็นประชาธิปไตย เพราะคนเราถ้ามีจิตใจที่เป็นประชาธิปไตย วันนี้ครูไม่มานั่งอยู่ตรงนี้กันหรอก ครูไม่มานั่งอยู่นี่หรอก คนๆ นี้เห็นนักการเมืองในพรรคเขาเป็นควายที่อยู่ในคอกเท่านั้นเอง

อวยชัย - ขอเสียงปรบมือดังๆ ให้ได้ยินถึงหูควายหน่อยครับ (ปรบมือ) คุณสนธิครับ นอกจากเขาจะไม่เข้าใจประชาธิปไตยแล้ว ผมว่าน่าจะไม่เข้าใจเรื่องการปฏิรูปการศึกษา เรื่องจัดการการศึกษานะครับ เพราะว่าเป็นรัฐมนตรีได้ 3-4 เดือน ก็กระโดดหนีแล้วครับ

สนธิ - คนๆ นี้ทำอะไรทุกอย่างหวังผลทางการเมืองหมด ไม่เคยสนใจว่าลูกหลานคนไทยจะถูกพัฒนาไปในทางที่ถูกหรือไม่ เขามองว่าเด็กไทยนั้นจะต้องถูกพัฒนาให้ฉลาด แต่ฉลาดของเขานั้นต้องไปในวิถีของเขา ฉลาดส่ง sms ฉลาดใช้โทรศัพท์มือถือโกงข้อสอบ ฉลาดในการโกงข้อสอบ ฉลาดในการขโมยข้อสอบออกมาเพื่อให้ตัวเองเอ็นฯได้

อวยชัย - ลูกใครหว่าว่าอย่างนั้นนะ

สนธิ - ลูกใครหว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอน ผมจะบอกให้รู้ ผมเคยพูดแล้วผมฝากท่านชิงชัยเอาไว้ การศึกษาสำหรับประเทศอย่างเมืองไทยนั้นโดยข้อเท็จจริงแล้วมันไม่ควรเสียตังค์เลยแม้แต่บาทเดียว ทุกคนในประเทศไทยต้องมีสิทธิ์เรียนฟรีหมด ไม่ใช่แค่มัธยมเท่านั้นต้องถึงจบมหาวิทยาลัยด้วย ถ้าผมเป็นคนปิ้งปลาหมึกขายแล้วจบมหาวิทยาลัยอย่างน้อยที่สุดคุณภาพการปิ้งปลาหมึกก็ดีกว่าเก่า คนดีๆ ชั่วๆ จบการศึกษา จบมหาวิทยาลัยมาแล้ว ถ้าจบกันทั้งประเทศมันยิ่งพูดกันรู้เรื่องมากยิ่งขึ้น แต่ผมชักไม่แน่ใจเพราะเมืองไทย ด็อกเตอร์มันเยอะเหลือเกิน แล้วปัญหามันเกิดจากพวกด็อกเตอร์ทั้งนั้น คือยิ่งเรียนสูงยิ่งโกงเก่ง เพราะฉะนั้นแล้วนอกจากการศึกษาที่ต้องเรียนฟรีแล้วจะต้องมีกระบวนการสอนในเรื่องคุณธรรม ผมภูมิใจและดีใจมากที่วันนั้นคุณอวยชัยเอาหนังสือโรงเรียนวิถีพุทธให้ผมดู ผมมอง บอกว่า มีอย่างนี้ด้วยหรือ โรงเรียนที่สอนภูมิปัญญาท้องถิ่น อย่างนี้มีด้วยหรือ

อวยชัย - โรงเรียนพ่อครูแม่ครู

สนธิ - โรงเรียนพ่อครูแม่ครู ผมดีใจมาก ผมดีใจที่สุดเพราะผมเชื่อ ผมเชื่อมากๆ ว่าการเรียนหนังสือของพวกเราเราจะปฏิเสธภูมิปัญญาพวกเราไม่ได้ เราปฏิเสธพุทธศาสนาไม่ได้ เราปฏิเสธพ่อแม่ครูบาอาจารย์ไม่ได้เราไม่มีสิทธิ์ เราต้องเอาส่วนนี้ผสมผสานเข้าไป ผมจะเปรียบเทียบให้พี่น้องที่นั่งในที่นี้เข้าใจสักนิด เดี๋ยวนี้ทุกอย่างเราถูกทำลายความหลากหลายทั้งหมด ความหลากหลายซึ่งเป็นจุดเด่นของพวกเราแต่ละจุด เราถูกทำลายไปหมดแล้ว แม้กระทั่งความสวย

อวยชัย - มีคำถามมาว่า วันครูนายกฯ ทักษิณไม่ได้พูดถึงเรื่องวันครูเลย พูดถึงเรื่องหวยจะออกตัวไหน กับอ้างว่าจะเอาหวยไปช่วยให้ทุนการศึกษาเด็ก เหมือนคุณสนธิว่า

สนธิ - ก็เขาจะพูดถึงวันครูได้อย่างไรในเมื่อครูบาอาจารย์อย่างหลวงตามหาบัวเขายังไม่เคารพเลยแล้วเขาจะเคารพพวกเราได้อย่างไร เมื่อ 2 วันที่แล้วเจอหลานคนหนึ่งไปทำตามา ทำจมูก ผมบอกไปทำทำไม แกสวยแบบหมวยจีนอยู่แล้ว หนูอยากจะเหมือนกับสากล กลายเป็นว่าทุกวันนี้เด็กของเรา สังคมของเราถูกสอนให้ทำทุกอย่างตามสากล สมัยก่อนเรามีสวยแบบไทย สวยแบบคนอีสาน สวยแบบคนเหนือ สวยแบบคนใต้ สวยแบบเกาหลี สวยแบบญี่ปุ่น หมวยตาตี่ๆ มันสวย ปากนิด จมูกหน่อย ตาเรียวๆ นั่นคือความสวยในวัฒนธรรมของจีนเขา แต่เดี๋ยวนี้ตามันต้องโต จมูกต้องโด่ง นมต้องเสริม เพื่อให้สวยเหมือนฮอลีวู้ด ผมถึงบอกว่า ผมดีใจที่วันนั้นคุณอวยชัยเอาหนังสือให้ผม โรงเรียนพ่อครูแม่ครู โรงเรียนวิถีพุทธ เราจะอย่างไรก็ตามเวลาเราเข้าบ้านเราต้องถอดรองเท้า เราเจอพ่อเจอแม่เราต้องยกมือไหว้ พอเราเข้าบ้านเขาบอกว่านี่ลุงมา นี่ป้ามา นี่อามาก็ยกมือไหว้ ทำไมเพราะเรามีวัฒนธรรมไทยเราอยู่ แต่วันนี้ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีคนนี้เข้ามาวัฒนธรรมไทยเริ่มหาย เริ่มหด มีแต่วัฒนธรรมจับจ่ายใช้สอย เราอยู่ในสังคมที่ถูกปั่น รัฐบาลชุดนี้ นายกฯทักษิณปั่นประเทศไทย ปั่นให้คนเป็นหนี้ ปั่นให้คนใช้เงินใช้ทอง ปั่นมันตลอด ทำไมโรงเรียนอนุบาลเด็กต้องมีโทรศัพท์มือถือ มีไปทำไม ไม่มีความจำเป็น แล้วเงินกองทุนหมู่บ้านที่ให้ไป สิ่งแรกที่ชาวบ้านซื้อคือ โทรศัพท์มือถือ แล้วยี่ห้อเอไอเอสเสียด้วย

อวยชัย - ตอนนี้ถูกเผาไป 2 แสนกว่าเลขหมายแล้วครับโดยครู

สนธิ - ต้องเผามากกว่านั้นต่อ ต้องบอกไปต่อ ผมกราบเรียนเมื่อกี้ยังไม่จบ เมื่อผมจัดเมืองไทยรายสัปดาห์คนเพิ่มร่วม 2 แสนคน ทำไมถึงได้เกือบ 2 แสนคน ผมบอกว่า ในสังคมที่มืดนั้นและมีพายุต้องมีคนกล้าจุดเทียน เหตุผลที่เทียนจุดไม่ได้เพราะพายุมันแรง จุดทีไรไฟมันดับ พายุคือพวกไหน คือพวกอย่างเนวิน ชิดชอบ พวกอย่างยงยุทธ ติยะไพรัช จะเดินทางก็เอาตำรวจมาตรวจ ส่งภาษีไปตรวจ ภาษีผม ส่งตำรวจสันติบาลไปถ่ายรูปตลอดเวลา ข่มขู่ จัดรายการก็เอาพวกป่าไม้ซึ่งหลงคารมเขาไม่รู้เรื่อง ส่งมาเพื่อก่อกวน จ้างมาหัวละ 300 บาท นี่คือพายุ คนก็เลยไม่กล้าจุดเทียน เพราะจุดทีไรมันดับทุกที มันถอย มันวิ่งหนี

อวยชัย - แต่วันนี้ไม่หนีแล้วครับ

สนธิ - มันหนีไม่ได้แล้วเพราะว่ามันกลัวจนมันกล้า มันไม่มีอะไรจะกลัวอีกต่อไปแล้ว

อวยชัย - คุณสนธิเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนผมนั่งเขียนบทกวีให้คุณสนธิและพี่น้องประชาชนว่าอย่างนี้ "ถึงฟ้ามืดยังมีดาวที่ราวฟ้า ช่วยส่องทางเบื้องหน้าให้สดใจ รัฐบาลทักษิณล่วงลับดับไป สนธิและประชาชนไทยจักสดใสขึ้นทดแทน"

สนธิ - พี่น้องเดี๋ยวผมจะพูดเรื่องจุดเทียนให้จบก่อนแล้วผมจะอธิบายเรื่องราวต่อ ผมจึงตัดสินใจหันมาจุดเทียน กระบวนการจุดเทียนไม่ให้เทียนดับเราต้องเอาหลังป้องเทียน เมื่อเราเอาหลังป้องเทียนในภาวะพายุเราก็จะโดนเศษก้อนอิฐปลิวมา สังกะสีปลิวมาเราก็บาดเจ็บเราต้องทน เพราะถ้าเราไม่ทนเทียนก็ดับอีก มันก็เลยไม่มีใครจุด ผมทำเช่นนี้ไม่ใช่ว่าผมต้องการเป็นวีรบุรุษ ผมไม่ต้องการ ผมไม่ต้องการ ผมบอกทุกคน เหมือนคุณอวยชัย เหมือนท่านชิงชัย ผมบอกไปว่า ผมเป็นหนึ่งในตัวแทนของพี่น้องที่นั่งอยู่ในนี้แล้วอีกเป็นล้านๆ คนทั่วประเทศไทย ผมเป็นแค่เพื่อนเขาคนหนึ่ง ผมเป็นคนไทยคนหนึ่ง ในทุกสถานการณ์ต้องมีผู้กล้าตายก่อน แล้วมันถึงจะมีผู้ซึ่งไม่กล้า เริ่มกล้า แล้วผู้ซึ่งกล้าบ้างไม่กล้าบ้าง กล้าไปเลย มันต้องมีคนนำทาง ผมเลยต้องอาสาเป็นคนนำทาง ผมมามองตัวผม 58 แล้วพี่น้องเอ๊ย อีกไม่กี่ปีก็ตาย นึกถึงคำพูดของหลวงตามหาบัว ที่บอกไปแล้วบอกว่า ถ้าทำงานให้ชาติให้แผ่นดิน ถึงตายก็คุ้ม ผมก็เลยตัดสินใจทำให้ ไม่ใช่ผมเก่ง ยังมีคนเก่งกว่าผมอีกเยอะ แต่ผมขอให้เขารวบรวมความกล้าเดินออกมาเจอผม เดินออกมา ถ้าเขาพร้อมเขานำผมไปเลย ผมจะเดินตามเขา

อวยชัย - พี่น้องเพื่อนครูที่นี่พร้อมที่จะเดินนำหน้า ให้คุณสนธิ ให้ท่านชิงชัย พวกเราเดินตามหลังหรือยังครับ

(คนดู - พร้อม)

อวยชัย - ไม่ค่อยได้ยิน พร้อมหรือยังครับ

(คนดู - พร้อม)

สนธิ - คงจะมีเร็วๆ นี้ ไม่เกิน 30 วัน เราคงจะได้ร่วมกันทำงานเพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน แสดงให้เขาเห็น ว่าพวกเราเนี่ยพลังบริสุทธิ์ พวกเราคือครูกู้ชาติ ให้จำคำนี้เอาไว้ "ครูกู้ชาติ" ชาติไทยวันนี้ต้องถูกกู้โดยครู กู้โดยอาชีพอื่นไม่ได้แล้ว ต้องกู้โดยครู พี่น้องทั้งหลาย แต่ละคนมีลูกศิษย์ลูกหา อย่างน้อยที่สุดก็เป็นร้อยคน พี่น้องอย่ามันส์เฉพาะฟังแล้วกลับบ้าน อาบน้ำ เปิดพัดลม เปิดทีวีดูแล้วก็นอนหลับ พี่น้องถือว่า ต้องถือว่าเป็นภารกิจของพี่น้อง ที่จะเอาความจริง พวกนี้ ไม่เพียงแต่พูดให้เด็กๆ ในชั้นฟัง ต้องพูดให้พ่อแม่เขาฟังด้วย ทุกคน เรามีครูอยู่แสน สองแสนคน

อวยชัย - 6 แสนครับ

สนธิ - เอาแค่ 2 แสนก็พอ

อวยชัย - เอาแค่นี้เนาะ

สนธิ - เอาแค่เนี้ย เอาจริงจัง หรือเอาแค่ในนี้ ทุกคนถ้ากล้าพอที่จะทำกับร้อยครอบครัว เรามีคนเป็นล้าน เรามีคนเป็นล้าน ถึงวันนั้นแล้วเราจะดูว่าเขายังจะพูดต่อหรือเปล่าว่าเขามีอยู่ 19 ล้านเสียง

อวยชัย - ก็วันศุกร์ที่แล้วเขาบอกว่ามีแค่คนไม่กี่พันเท่านั้น เขาบอกว่าชาติหน้าตอนบ่ายๆ

สนธิ - ชาติหน้าตอนบ่ายๆ เป็นอาการของคนไม่สบาย เป็นอาการของคนปากกล้าขาสั่น

อวยชัย - เริ่มคิดถึงชาติหน้าแล้ว

สนธิ - เริ่มคิดถึงชาติหน้า พ่อแม่พี่น้อง คนสติดีเนี่ยไม่ไปทำรายการเรียลิตี้โชว์หรอก เพราะว่านี่มันละครน้ำเน่า คนไม่มีงานทำต่างหาก ถึงต้องไปทำอย่างนั้น อ.อาจสามารถ ไม่ใช่อำเภอที่จนที่สุดในประเทศไทย เป็นอำเภอที่มีเงินมีทองพอสมควร ทำไมต้องไปอาจสามารถ ไปแก้เคล็ด ไสยศาสตร์ เพราะชื่อเดิมคือชื่อ "องอาจสามารถ" แต่เขาตัดคำว่า "องอาจ" ออก ก็เลยใส่คำว่า "อาจสามารถ" เมื่ออาจสามารถ เมื่อแปลออกมาแล้ว ให้แปลให้ดีๆ มัน 50 : 50 นะ เพราะ "อาจ" นี่มัน "อาจจะ" นะ ลำพังแค่เลือกสถานที่มันก็แพ้กันแล้วนะ มันจะมาสู้ "ลานชัยชนะ" ได้อย่างไร แล้วยังมีเจ้าพ่อมเหศักดิ์เป็นสักขีพยานอยู่ข้างหลังบึงอีก ลำพังแค่นี้ก็แพ้กันแล้วพ่อแม่พี่น้อง

อวยชัย - ที่โน่นก็มีสัญลักษณ์ที่แพ้ๆ หลายอย่างครับคุณสนธิ

สนธิ - มีอะไรครับ

อวยชัย - แม่น้ำชี ริมฝั่งที่เขาจะตั้งฮวงซุ้ยครับผม มันเป็นแม่น้ำชี แต่เป็นชีหลงครับ มันจะหลงทิศหลงทาง เสร็จแล้วชื่อนายอำเภอก็ชื่อชวลิต ก็ไปตรงกับ พล.อ.ชวลิต ที่กำลังจะโดดแม่น้ำโขงตาย ส่วนชื่อผู้นำที่อยู่ตรงนี้ "ชิงชัย" "อวยชัย" มีแต่ชัยชนะทั้งสิ้นเลยครับ

สนธิ - แล้ว "สนธิ" เนี่ย มันสนธิ "ชิงชัย" กับ "อวยชัย" เข้าด้วยกัน

อวยชัย - เป็นชัยวัฒน์ด้วย

สนธิ - มีแต่ชัย เอาล่ะ กลับมาในเรื่องที่ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก แล้วเราปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้ ประเทศไทยวันนี้ถูกปล้นจนเหลือกระดูกแล้ว ถูกปล้นที่ทำให้พวกเราจะต้องเป็นทาสของต่างชาติ เป็นทาสของนายทุนต่อไปจนไม่รู้จักจบไม่รู้จักสิ้น การมาจัดระเบียบการศึกษาครั้งนี้ เป็นการจัดระเบียบการศึกษาเพียงเพื่อหวังเสียงทางการเมือง ไม่ได้สนใจเลยว่าลูกหลานคนไทยในอนาคตนั้น คุณภาพการศึกษาจะเป็นอย่างไร ไม่ได้สนใจในการพัฒนาคน ก็คือพัฒนาครู สนใจอยู่อย่างเดียวว่า เมื่อโอนงบประมาณเงินเดือนมาที่ อปท.แล้ว เสร็จเรียบร้อยแล้ว ตัวเองก็สามารถจะคุม อปท. เอา อปท.มาคุมครูอีกทีหนึ่ง ก็จะกลายเป็นเสียงซึ่ง เขามองว่าครู 600,000 คน ถ้าคนหนึ่งหาให้เขาได้ 20 เสียง ก็ 12 ล้านเสียง บวกชาวไร่ชาวนา งวดหน้าเขากะจะเอาสัก 30 ล้านเสียง นะฮะ เพราะฉะนั้นแล้วเรื่องที่พี่น้องทั้งหมดสู้ต่อไปเนี่ย เป็นเรื่องที่ชอบธรรมที่สุด เป็นเพียงแต่ว่า เป็นเพียงแต่ว่า สิ่งที่เขาทำกับพี่น้องนั้น เป็นส่วนหนึ่งของความชั่วร้ายที่เขาทำกับประเทศชาตินี้อีกมากมายมหาศาล เพราะฉะนั้นแล้วพี่น้องอย่าไปสู้เฉพาะในเรื่องของพี่น้องอย่างเดียว ต้องสู้เพื่อชาติด้วย ต้องให้เข้าใจ พวกเรานี่ต้องสู้เพื่อชาติ แล้วผมเนี่ย ชีวิตผมอยากจะเห็นสักครั้งในประวัติศาสตร์ไทยที่ครูมากู้ชาติ ตรงนี้สำคัญมาก ผมอยากให้พี่น้องระลึกเสมอว่า หน้าที่พี่น้องนอกจากสอนหนังสือในวันนี้แล้ว ยังจะต้องช่วยกู้ชาติด้วย ร่วมกับผมมากู้ชาติ ได้ไหมครับ

(คนดูตะโกน "ได้")

สนธิ - ไม่ได้ยินครับ อีกที

(คนดูตะโกน "ได้")

สนธิ - เรา วันนี้คงมีสายลับมาแฝงตัวอยู่เยอะพอสมควร เราส่งเสียงให้สายลับพวกนี้ได้ยินแล้ว กรุณา ได้ยินแล้วกลับไปบอกเจ้านายคุณหน่อยนะ ว่าเสียงที่ตะโกนเนี่ยมันหนักแน่นมากๆ 3 ครั้ง ออก..

(เสียงตะโกน "ออกไป" 3 ครั้ง)

สนธิ - ช่วยไปบอกเจ้านายคุณหน่อยนะ ว่าเสียงนี้เป็นเสียงครู เนี่ยเป็นครูตัวแทนครูหลายแสนคนที่เขาตะโกนเสียง "ออกไปๆ" อย่าไปมองว่าเพียง 5-6 หมื่นคน อยู่ในที่นี้ ไม่มีความหมาย เพราะพวกนี้คือตัวแทนของครูทั่วประเทศนะครับ

เรื่องต่อไป คือเรื่องปั่นประเทศ เขาปั่นประเทศให้เป็นฟองสบู่ เขาปั่นที่ดินให้ขึ้นราคา พวกเขาจะได้ขายที่ดินทิ้ง เขาปั่นให้คนเป็นหนี้ เพื่ออะไร เพื่อคนรากหญ้าจะได้จับจ่ายใช้สอยซื้อของที่ไม่จำเป็น ก็ทำให้ธุรกิจพวกเขานั้นขายดิบขายดี ขายดีแล้วใครได้ ธุรกิจพวกเขาอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ก็ขึ้นไป สูงขึ้น พวกเขาได้ทั้งนั้นๆ คือเขาเอาพวกเราเนี่ยเป็นฐาน เป็นฐาน เป็นทาส ในการรองรับความร่ำรวยของเขา พอเขารวยเสร็จเรียบร้อยพวกเราก็ผ่อนหนี้สินกันต่อ นั่นคือประเด็น นั่นคือประเด็น เอ้า คิดให้ดีๆ คิดให้ดีๆ ใครมีบัตรเครดิต ใครขอยืมเงินโอเคเครดิต ใครขอยืมเงินบัตรเครดิต เดี๋ยวนี้จ่าย 5 เปอร์เซ็นต์ 10 เปอร์เซ็นต์ ก็พอ ทำไมถึงให้จ่าย 5 เปอร์เซ็นต์ 10 เปอร์เซ็นต์ล่ะ ให้จ่าย 5 เปอร์เซ็นต์ 10 เปอร์เซ็นต์ ก็จะได้ให้พ่อแม่พี่น้องเป็นหนี้ต่อไงล่ะ เป็นหนี้ไปนานๆ เมื่อจ่าย 5 เปอร์เซ็นต์ 10 เปอร์เซ็นต์แล้ว ไอ้ดอกเบี้ยที่จะต้องเสีย 6 เปอร์เซ็นต์ 7 เปอร์เซ็นต์ มันเพิ่มเป็น 36 เปอร์เซ็นต์ทันที นี่คือสิ่งซึ่งเกิดขึ้น เพื่ออะไร เพื่อให้เราเป็นหนี้ สรุปแล้วเราทำงานเพื่อเป็นหนี้ตลอดเวลา เป็นหนี้จนกระทั่งตาย สมัยผมหนุ่มๆ ผมซื้อบ้านผมจำได้ ผมผ่อน 15 ปี ไม่ใช่ว่ามีเงินมีทองมากมายนักหรอก แต่ว่าราคาที่ดิน ราคาบ้าน ไม่ได้สูงเหมือนทุกวันนี้ พออายุ 45 บ้านก็เป็นของตัวเอง เดี๋ยวนี้เนี่ย ซื้อบ้านสักหลังต้องผ่อน 30 ปี แก่เกษียณจนกระทั่งตะบันน้ำกินแล้วยังผ่อนบ้านไม่หมดเลย นี่เหรอชีวิตที่มีความสุข นอกจากนั้นแล้วยังมีมากกว่านั้นอีก สมัยก่อนผ่อนรถยนต์ 3 ปี จบ เดี๋ยวนี้นี่ส่วนใหญ่ 60 เดือน พอครบ 60 เดือนปั๊บ ใกล้จะ 60 เดือน ก็ต้องซื้อใหม่ เอาคันเก่าไปเป็นเศษเหล็ก ไปดาวน์แล้วซื้อคันใหม่ แล้วต่อไปอีก 60 เดือน เราต้องปรับชีวิตของเรา เพราะว่ารัฐบาลชุดนี้มันปั่นประเทศในทุกวิถีทาง อะไรมันเกิดขึ้นล่ะ เมื่อท่านไปซื้อรถยนต์ผ่อน 60 เดือน ท่านผ่อนบัตรเครดิต 10 เปอร์เซ็นต์ สิ่งที่เกิดขึ้นคือท่านเอาเงินเนี่ยไปจับจ่ายใช้สอยในสิ่งซึ่งไม่ควรจะจับจ่ายใช้สอย ปรากฏว่านี่ก็คือเศรษฐกิจที่เขาอ้างว่าเป็นเศรษฐกิจที่มันดีขึ้น มันดีขึ้นกับใคร มันดีขึ้นกับเขา มันไม่ได้ดีขึ้นกับเรา เราอย่าไปโง่ ต้องสอนลูก (เสียงหาย) มัธยัสถ์ ต้องเริ่ม ถ้าไม่เริ่มอีกหน่อยจะอยู่ไม่ได้ ถ้าให้มันปั่นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีทางที่จะอยู่ได้ แล้วทำไมเขาต้องขายหุ้นทิ้งที่เมืองนอก ที่สิงคโปร์

อวยชัย - มีเหตุอะไรครับ

สนธิ - เหตุผลที่ขาย ใครอ่านกลยุทธ์ซุนวูบ้าง เป็นนักยุทธศาสตร์ทางสงครามเมื่อสมัยหลายพันปีมาแล้ว เขียนกลยุทธ์ซุนวู กลยุทธ์ซุนวูมี 36 ข้อ ข้อที่สำคัญที่สุดของซุนวูข้อที่ 36 คือ "หนี"

อวยชัย - แสดงว่า นายกฯ ทักษิณ กำลังจะหนีหรือเปล่า

สนธิ - เขาไม่มีความสุขที่เขาถือหุ้นอยู่ .. เขาสามารถจะไปได้ทุกเมื่อ จากสมัยก่อนเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ที่ผมพูดในเมืองไทยรายสัปดาห์ ผมบอกว่าเขากำลังขายหุ้น เขาปฏิเสธ เขาบอกว่าไม่จริงๆ วันนี้เป็นความจริงมาแล้ว วันนี้เป็นความจริงมาแล้ว อีกประการหนึ่ง ความสามารถของรัฐบาล ผู้นำรัฐบาลชุดนี้อยู่อันหนึ่ง ซึ่งทุกคนสู้ไม่ได้ คือการหนีภาษี เขาเก่งมากเรื่องการหนีภาษี และการซุกซ่อนทรัพย์สิน เพราะถ้าเขาไม่ซุกซ่อนทรัพย์สินแล้วเขาจะโดนคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้อย่างไร เพราะฉะนั้นแล้วการเอาหุ้นไปขายที่ต่างประเทศคือการไม่ต้องเสียภาษีให้คนไทย ผมก็อยากถามว่า ไอ้ 130,000 ล้าน มูลค่าหุ้นที่คุณขึ้นมาเนี่ย คุณได้มาร่ำรวยอย่างนี้ คุณได้แต่ใดมา คุณได้สัมปทานมา คุณได้สัมปทาน วันแรกที่คุณเข้ามา ปีแรกที่คุณเข้ามา รัฐบาลคุณสั่งให้องค์การโทรศัพท์ฯ ลดค่าต๋งที่ต้องจ่ายให้องค์การโทรศัพท์ฯ จากโทรศัพท์มือถือ จาก 25 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 20 เปอร์เซ็นต์ อันที่สองที่คุณทำ คุณทำให้องค์การโทรศัพท์ฯ และการสื่อสารแห่งประเทศไทย อ่อนแอลงไป อ่อนแออย่างไร อ่อนแอด้วยการให้องค์การโทรศัพท์ฯ นั้นแปรรูปเป็นบริษัทจำกัด แล้วสั่งให้องค์การโทรศัพท์ฯ ลงทุนในโครงการประชานิยม โทรคมนาคมขั้นพื้นฐาน ซึ่งมันขาดทุน ให้องค์การโทรศัพท์ฯ อ่อนไปเรื่อยๆ อ่อนไปเรื่อยๆ จะได้ไม่ใช่คู่แข่งของคุณ

การสื่อสารฯ มีโทรศัพท์มือถืออันหนึ่ง ยี่ห้อฮัทช์ พ่อแม่พี่น้องรู้จักใช่ไหมฮะ ยี่ห้อฮัทช์ ยี่ห้อนี้เป็นของฮ่องกง เจ้าของฮัทช์ชื่อนายลี กา ชิง มันเป็นมหาเศรษฐีรวยอันดับ 1 ใน 50 ของโลก แล้วไอ้นี่เงินเยอะกว่านายทักษิณ ชินวัตร เยอะ แทนที่จะถึงเวลาเปิดประมูลเพื่อให้ฮัทช์ทำเฟสต่อไป เฟสที่ 2 ครอบคลุมทั่วประเทศ เขาสั่งยกเลิกเลย แล้วเขาสั่งให้การสื่อสารฯ ทำแทน เพราะเขารู้ว่าการสื่อสารฯ ถึงทำได้ก็บริหารไม่ได้ เพื่ออะไร เพื่อไม่ให้ฮัทช์เป็นคู่แข่ง เห็นหรือยัง นี่คือวิธีโกงในแง่ของนโยบายทับซ้อน เห็นชัดหรือยัง เสร็จเรียบร้อย เขาถือหุ้นอยู่สายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินไทยแอร์เอเชีย เขาก็เอาคนไปบริหารการบินไทย ทำให้การบินไทยอ่อนแอ ยกเลิกหลายๆ เที่ยวบินที่กำไร แล้วให้แอร์เอเชียเข้าไปบินแทน เสร็จเรียบร้อยแล้ว ยังไม่พอ เมื่อเขาย้ายสนามบินไปสุวรรณภูมิ เขาจะเก็บสนามบินดอนเมืองเอาไว้ให้แอร์เอเชีย ให้โลว์คอสต์ สายการบินต้นทุนต่ำ ไอ้โลว์คอสต์ที่พูดถึงก็มีแค่แอร์เอเชียที่ใหญ่ที่สุด นอกนั้นประเภทกระจอกงอกง่อย เขาใช้เงินภาษีอากรของรัฐ ของรัฐ ไปสร้างโครงสร้างต่างๆ เพื่อไปรองรับสนับสนุนธุรกิจที่เขากำลังทำ โดยเขาไม่ต้องลงเงิน แล้วแอร์เอเชียเดี๋ยวนี้บินเชียงใหม่เดือนละ 120 เที่ยว เดือนละ 120 เที่ยว เมื่อบินเดือนละ 120 เที่ยว เขาก็จะเอาเงินหลวงไปพัฒนาสนามบินเชียงใหม่ ให้เป็นศูนย์กลางการบินทางภาคเหนือ เพื่อบินเชื่อมระหว่างเชียงใหม่-ย่างกุ้ง เชียงใหม่-พุกาม เชียงใหม่-มัณฑเลย์ เชียงใหม่-หลวงพระบาง เงินของรัฐทั้งนั้น เป็นศูนย์กลางการบินแล้วใครบินล่ะ แอร์เอเชีย ซึ่งเขาเป็นเจ้าของ ผมก็เลยถามว่า เสร็จเรียบร้อยแล้วไอทีวีก็ไปลดภาษีให้อีก 20,000 กว่าล้าน ไอพีสตาร์ของชินแซท ก็ไปลดภาษีบีโอไออีกหมื่นกว่าล้าน เดินทางไปประชุมต่างประเทศทีไร ก็ไปตกลงกับต่างประเทศให้เขาเช่าช่องสัญญาณไอพีสตาร์ บางครั้งนี่แลกกับสิทธิประโยชน์ในเรื่องเอฟทีเอ ปรากฏว่าด้วยวิธีนี้ทำให้กิจการเขากำไร มูลค่าจาก 20,000 ล้าน เป็น 140,000 กว่าล้าน ผมถามว่าไอ้ 140,000 กว่าล้านนี่มันของใครกันแน่วะ มันของคนไทย ไม่ใช่ของเขา เขาสร้างสิทธิสร้างนโยบายเพื่อให้เขารวย

อวยชัย - จะเรียกว่าโกงได้ไหมครับ

สนธิ - เขาเรียกว่าโกงอย่างแยบยล ทีนี้ พ่อแม่พี่น้อง ถ้าผมไม่มาพูดให้ฟังก็จะไม่เข้าใจ เพราะทำไม เพราะว่าอย่างที่เขาบอกไง เขาพูดไง จำได้ไหมวันที่ 15 ธันวาคม ที่เขาพูดกับแท็กซี่ 10,000 คน แล้วเขาด่าผม เขาบอกว่ามีแต่ไอ้พวกที่ไปเห่าหอนอยู่ที่สวนลุมฯ เท่านั้นเอง ผมก็บอกว่าวันศุกร์ที่แล้ว ผมก็เห่าหอนให้ฟัง (วู้วๆๆ -ทำเสียงเห่าหอน) ผมบอกที่กูเห่าเพราะโจรมันจะมาปล้นบ้าน กูถึงเห่า

อวยชัย - โจรใส่เสื้อสูท

สนธิ - โจรอะไร โจรใส่เสื้อสูท เสร็จเรียบร้อยแล้วผมก็บอกว่า ก็แน่นอนสิ เมืองไทยนี่มันมีหมาอยู่เยอะ โทรทัศน์ทุกช่องน่ะ มันควรจะเป็นหมาเฝ้าบ้าน แต่มันทะลึ่งไปกินสเต็กเขา มันทะลึ่งไปกินเนื้อย่างเขา ก็เลยไม่เห่า มีไอ้หมาแก่ๆ ตัวนี้ เผอิ๊ญ เผอิญมันไม่ชอบ มันแก่แล้ว มันจะตายแล้ว มันบอกว่าคิดถึงบุญคุณเจ้าของบ้านสักหน่อย บุญคุณแผ่นดิน ขอเห่าเสียหน่อย ก็เลยมาว่า บอกว่ามีแต่คนไปเห่าหอนที่สวนลุมฯ เดี๋ยวเสาร์นี้ก็บอกว่ามีคนมาเห่าหอนที่บึงพลาญชัย

อวยชัย - แต่ไม่เห่าธรรมดาครับ จะกัดด้วยครับ

สนธิ - เออ อันนั้นก็เป็นหน้าที่ของหมาที่นี่จะต้องตัดสินใจ

อวยชัย - ภาษิตอีสานเขาว่าอย่างนี้ครับ เขาว่า "เฮ็ดให้สุด ขุดให้ถึง" (สำเนียงอีสาน) คือทำจริงทำจัง มีอยู่ 2 ส่วนก็คือ ผู้นำต้องกล้า "ขุนพลกล้าครองเมืองจะเฮืองฮุ่ง ขุนขี้ย่านเมืองบ้านบ่ฮุ่งเฮือง ตกแต่เป็นเสือแล้วลายบ่ลายเขาก็ตู่ ให้เจ้าหาขี้หมิ่นหม้อมาแต้มเติมลาย" (สำเนียงอีสาน) รู้เรื่องไหมครับ

สนธิ - ไม่รู้เรื่อง แต่ผมรู้ว่าเป็นเรื่องของการเทิดทูนวีรกรรม

อวยชัย - "ตกได้เป็นเสือแล้วลายไม่ลายเขาก็ตู่ ให้เจ้าหาขี้หมิ่นหม้อมาแต้มตื่มลาย ขุนพลกล้าครองเมืองจึงเรืองรุ่ง ผู้นำขี้ย้านเมืองบ้านล่มจม" เขาว่าอย่างนี้ครับ

สนธิ - เห็นด้วยครับเห็นด้วย ผมมีความรู้สึกอย่าง ไหนๆ ผมก็มาที่บึงพลาญชัยแล้ว ต่อหน้าท่านอวยชัย และท่านชิงชัย ผมจะขอสักอย่างได้ไหม ผมจะขอท่านอวยชัยกับท่านชิงชัย ผมจะขอว่า วันข้างหน้าโชควาสนามันไม่เข้าใครออกใครแต่ถ้าใครบังเอิญมีโชค มีวาสนาขึ้นมาอย่าได้ลืมวันนี้ที่บึงพลาญชัย อย่าได้ลืมเด็ดขาด อย่าเป็นเหมือนท่านสุชน ชาลีเครือ อย่าเอาพ่อแม่พี่น้องครูเป็นบันไดไต่ขึ้นไป ขอให้จำวันนี้ที่ร้อยเอ็ด ที่บึงพลาญชัย ที่ผมมาให้ด้วยใจ เมื่อผมมาให้ด้วยใจแล้วผมจะขอว่า วันข้างหน้าถ้ามีโอกาสทำงานให้ชาติบ้านเมือง ไม่เป็นไรไปทำ แต่อย่าลืมเด็ดขาด ถึงวันหนึ่งวันบ่ายร้อนๆ วันที่ 16 มกราคม 2549 ที่บึงพลาญชัย ว่าเราได้มาแสดงเจตนารมณ์อะไรกันไว้ ผมขอเพียงแค่นี้ครับ ผมสามารถจะได้รับคำมั่นสัญญาจากท่านอวยชัย จากท่านชิงชัยสักหน่อยได้ไหมครับ

อวยชัย - ผมขอเป็นตัวแทนให้คำมั่นสัญญา เป็นคำมั่นสัญญาที่ให้คำมั่นสัญญาแล้วมักจะประสบชัยชนะ คำมั่นสัญญานี้ว่าอย่างนี้ "อย่าขายเลยวิญญาณ จงซมซานอยู่กับสนธิและครูจนจน อย่าสมคบนักธุรกิจการเมืองโจร ช่วยกันปล้นประเทศไทย เจ้าซื่อต่อคนคดทรยศต่อคนไทย ลูกหลานจะอายใจที่มีพ่อมีแม่เป็นครูเลว ยืดอกขึ้นท้าทายอำนาจเถิดประชาชนเป็นเพื่อนทุกแห่งหน นามนี้คือสนธิและครูอีสานจนจน อุทิศตนเพื่อปวงประชาไทย ผู้ท้ามนุษย์เทวดาฟ้าดิน องค์อินทร์ทุกภพอสงค์ไข จะจับรัฐบาลทักษิณมาดองสุราเมรัย ดื่มกินถอนพิษไข้ในหัวใจของประชาชน" และยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า คำมั่นสัญญาการต่อสู้ของเรานั้นจะประสบชัยชนะ เพราะผู้นำของเรา ชิงชัย อวยชัย ชัยณรงค์ ชัยวัฒน์ แม้แต่ตัวยังนามสกุลอรรธชัย มันจะไม่ประสบชัยชนะได้อย่างไร

สนธิ - มีท่านผู้ชมถามมา ช่วยบอกเหตุผลที่คุณสโรชาไม่ได้มาด้วยเพราะคนข้างล่างอยากเจอและคิดถึง ต้องเห็นใจคุณสโรชา คุณสโรชาต้องพำนักพักรักษาตัวพอสมควร แล้วการออกมาอย่างนี้คุณสโรชายังมีชั่วโมงบินไม่พอ ไม่แกร่งพอ เพราะฉะนั้นแล้วค่อยๆ ทีละนิด ฝึกที่สวนลุมฯ สักนิดหนึ่ง อีกสัก 3-4 ครั้ง เพราะมันจะต้องมีการก่อกวนป่วนอีกเยอะ แล้วอีกประการหนึ่งวันนี้เป็นวันทำงาน คุณสโรชามีงานประจำทำ ผมเป็นคนซึ่งไม่มีงานเพราะผมตัดสินใจจะไม่ทำงานแล้ว ผมตัดสินใจจะล้มรัฐบาลทักษิณอย่างเดียวเท่านั้นเอง

อวยชัย - เราจะรวมตัวกันถึง 3-4 ครั้งดู ผมคิดว่าอีก 2 อาทิตย์น่าจะไปแล้วนะครับ

สนธิ - ผมเคยพูดอยู่ว่า เอ๊ะคุณอวยชัยคุณจะไม่ให้พักเข้าห้องน้ำห้องท่ากันเลยหรือนี่

อวยชัย - ก็กำลังจะว่าอยู่พอดี

สนธิ - พ่อแม่พี่น้องเอาอย่างนี้ดีกว่า ผมรู้ว่ากำลังมัน แล้วการปราศรัยมันจะเป็นช่วงสุดท้ายที่มันที่สุด ช่วงนี้ผมคิดว่าหลายๆ ท่านรู้สึก ท่านที่ยืนอยู่ตรงนั้นไปบังข้างหลังเขารู้สึกหงุดหงิดมาก ออกไปหน่อยนะครับขอร้องเขาอุตส่านั่งเขาหงุดหงิดกันมาก เราพักกันสักครู่ดีไหมครับคุณอวยชัย

อวยชัย - ครับ

สนธิ - เสร็จเรียบร้อยประเดี๋ยวค่อยกลับมา

คลิกอ่าน เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร นัดพิเศษ : “สนธิ”ปลุกครูร่วมกู้ชาติ-ลั่นเดินหน้าจัดเมืองไทยฯยึดอหิงสา(2)





กำลังโหลดความคิดเห็น