xs
xsm
sm
md
lg

เมืองไทยรายสัปดาห์ 14 : “สนธิ” สุดทนรัฐบาลโกงชาติ ร่วมขบวนล้อมทำเนียบขับ “ทักษิณ” (2)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประชาชนเดินทางจากสวมลุมพินี สถานที่จัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรไปยังทำเนียบรัฐบาล
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่ 14 ช่วงที่ 1

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่14 ช่วงที่ 2

คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป "สนธิ" ปราศรัยหน้ารัฐบาล (56k)


คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป "สนธิ" ปราศรัยหน้ารัฐบาล (256k)


คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป “ประทิน” แจง เหตุไล่ “ทักษิณ” (56k)

คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป “ประทิน” แจงเหตุไล่ “ทักษิณ” (256k)

คลิกชมภาพสไลด์โชว์ ประวัิติศาสตร์ต้องจารึก! มวลชนฮือแห่ไล่ “แม้ว”...


ดูภาพชุดจาก Manager Multimedia


คลิกชมภาพสไลด์โชว์ เก็บตกภาพประวัติศาสตร์ มวลชนอือไล่รัฐบาล "ทักษิน"


ดูภาพชุดจาก Manager Multimedia




สนธิ - วันนี้เราจะไม่มีเบรกนะครับ วันนี้เราจะว่ารวดเดียวจบเลย วันนี้เราจะคุยกันเรื่องเอฟทีเอ ผมอยากจะพูดเรื่องเอฟทีเอ พูดกว้างๆ ก่อนแล้วผมจะลงลึก ผมจะพูดเรื่องเอฟทีเอให้พ่อแม่พี่น้องฟัง แล้วผมอยากจะพูดเรื่องเอฟทีเอนี้ให้พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนๆ ที่มาจากเชียงราย ทางเหนือที่อยู่ข้างนอกฟังด้วย ให้ท่านฟังดีๆ ว่าเอฟทีเอมันกระทบกระเทือนชีวิตท่าน กระทบกระเทือนญาติพี่น้องท่าน กระทบกระเทือนคนเมืองเหนือ กระทบกระเทือนเหล้าพื้นบ้าน กระทบกระเทือนประชาชนซึ่งท่านบอกว่าท่านมาจากพวกเขา แล้วท่านลงมาประท้วงผม ท่านฟังให้ดีๆ เอฟทีเอ ก่อนที่มันจะมีเอฟทีเอมันจะมีองค์กรอันหนึ่งเขาเรียกว่า ดับเบิลยูทีโอ ก็คือองค์กรการค้าโลก องค์กรการค้าโลกอันนี้ ตัวนี้ คือข้อตกลงว่าทุกๆ คนในโลกนี้มาตกลงกันว่าจะค้าขายกันอย่างไร จะลดภาษีให้เท่า 0 เปอร์เซ็นต์ ทำอย่างไรเพื่อส่งเสริมการค้าขายให้มันเจริญรุ่งเรืองขึ้น ปรากฏว่า เมื่อ WTO องค์การการค้าโลก ประชุมไป 3-4 ครั้ง ประเทศยากจน อย่างเช่นประเทศไทย หรือหลายๆ ประเทศ ประเทศอินเดีย ประเทศแอฟริกา ก็มีความรู้สึกว่าพวกเรานี่โดนประเทศร่ำรวยรังแก รังแกอย่างไร รังแกตรงที่ว่า เอากฎกติกาของลิขสิทธิ์มาบีบบังคับพวกเรา พวกเรานี่จะต้องการขายสินค้าเกษตรไป ก็ไม่ยอมให้ขาย จะคิดลิขสิทธิ์ คิดโน่น คิดนี่ จะให้เปิดสินค้าบริการหมดทุกอย่าง ประเทศเราเป็นประเทศที่อ่อนแอ อุปมาอุปไมยเหมือนเรานี่เป็นรุ่นไลท์ฟลายเวต แต่พวกฝรั่งนี่เป็นรุ่นเฮฟวี่เวต ถ้าตกลงกันแบบนี้ ขึ้นเวทีใช้กติกาเดียวกัน ยกแรกเราโดนน็อกทันทีเลย

สโรชา - ตายแน่

สนธิ - ตายแน่ๆ ทันทีเลย เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ก็เลยมีการโต้เถียงกัน ในกระบวนการการโต้เถียงกันนั้น ฝ่ายโลกที่สาม คือประเทศยากจน เขารวมตัวกัน เขาไม่ยอม เขาต้องการต่อรองประเทศที่ร่ำรวยแล้วให้ยอมพวกเรามากขึ้น การเจรจา WTO ก็เลยชะงัก ชะงักหยุดชั่วคราว ปรากฏว่าประเทศฝรั่ง ประเทศญี่ปุ่น หลายๆ ประเทศก็ใช้วิชามาร ก็บอกว่า เฮ้ย ถ้าคุณอยากส่งออกมากับผมนี่ คุณเจรจาส่วนตัว เขาเรียกว่าเจรจาแบบทวิภาคี ตัว-ตัว ประเทศไทยอยากจะทำอะไรก็ไปเจรจากับเขา อเมริกา อยากจะทำอะไรกับจีนก็ไปเจรจากับจีน อยากจะทำอะไรกับอินเดีย ก็ไปเจรจากับอินเดีย นั่นคือที่มาของเอฟทีเอ ก็คือการค้าเสรี พ่อแม่พี่น้องมีใครไม่เข้าใจ ยกมือ จะได้อธิบายเพิ่มเติม นะฮะ เดี๋ยวจะหาว่าผมนี่ใช้หลักวิชาการมา เมื่อเจรจากันเป็นส่วนตัวแล้ว สิ่งหนึ่งซึ่งเราต้องคำนึงถึงก่อนที่จะเจรจากันเป็นส่วนตัว คือการเจรจานั้นจะต้องเปิดเผย ต้องเล่าให้คุณสโรชาฟัง ต้องเล่าให้พ่อแม่พี่น้องฟัง ไม่ใช่ว่ามีอยู่บ้านหลังหนึ่ง ไอ้พี่ชายนี่ทะลึ่งไปเจรจากับข้างๆ บ้าน ว่าถ้าให้ผมจับขาอ่อนน้องสาวคุณแล้ว ผมจะเปิดน้ำประปาให้คุณใช้ฟรี นะฮะ ไอ้บ้านนี้มันก็บอก เฮ้ย เกิดอะไรขึ้นวะ จู่ๆ มึงไปเปิดน้ำประปาให้เขาใช้ฟรี มันก็จะบอกว่า เฮ้ย คุณอย่ารู้เรื่องเลย รับรองว่าดีแน่ นี่คือนิสัยการเจรจาแบบขี้โกง

สโรชา - แต่ไม่บอกรายละเอียด

สนธิ - ไม่บอก ไม่บอกอะไรทั้งสิ้น เอาล่ะ ทีนี้ผลของการเจรจาเอฟทีเอนั้น ในตอนแรกนั้นประชาชนหลายคน องค์กรเอกชน เขาก็เถียง เขาบอก คุณไปคุยอะไรกับนายกฯ แต่ละประเทศ คุณบอกผมหน่อยได้ไหม

สโรชา - ขอรู้

สนธิ - เขารู้ ขอรู้หน่อย เขาบอกไม่มีอะไร ปรากฏว่าสิ่งแรกที่เขาเจรจาเซ็นสัญญากันคนแรกก็คือออสเตรเลีย นะ ออสเตรเลียที่เจรจานี่เจรจาได้อะไรบ้าง เจรจาก็คือ เราเปิดเสรีนม

สโรชา - เจ็บตัว

สนธิ - นม เหล้าองุ่น เหล้าต่างๆ ก็หมายความว่าออสเตรเลียส่งเหล้ามา ส่งนมมาเมืองไทยนี่ ไม่ต้องเสียภาษีเลยแม้แต่บาทเดียว อันนี้ไง ก็คือที่มาของการล่มสลายของเครือข่ายเหล้าพื้นบ้าน จริงๆ แล้วเหล้าพื้นบ้านมีโอกาสเจริญเติบโตได้ เรามีทั้งเหล้าขาว เรามีทั้งเหล้าสาโท แต่ว่าไอ้ไวน์ออสเตรเลียขวดละ 20-30 บาท มันไปวางอยู่บนโต๊ะแถวๆ อุดรธานี หรือว่าอยู่แถวๆ อ.พาน นี่นะ ชาวบ้านจะไปกินสาโททำไมขวดละ 80-90 ก็ต้องมากินไวน์แทน นี่คือเหตุผลที่ทำให้กระบวนการเหล้าเจ๊ง นะฮะ เหล้าพื้นบ้านเจ๊ง อันที่ 2 นม ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับนม

สโรชา - นม อันนี้เห็นได้ชัดเลย

สนธิ - เห็นได้ชัด โคนมนั้น กิจการนมนั้นเป็นโครงการพระราชดำริ

สโรชา - ค่ะ

สนธิ - โครงการพระราชดำริ พระองค์ท่านอุตส่าห์สละเงินส่วนตัวพระองค์ท่านมาทำโครงการนี้ แล้วก็ให้ประชาชนหลายๆ หมู่บ้าน หลายๆ ชุมชน มาตั้งเป็นสหกรณ์โคนมกัน เอาเงินมาลงขันกันเพื่อซื้อวัว เมื่อรีดนมวัวได้แล้วก็เอานมวัวไปส่ง เกิดขึ้น มีคนอยู่ในโครงการนี้ประมาณ 2-3 ล้านคน จู่ๆ ก็ไปเซ็นเอฟทีเอกับออสเตรเลีย เพื่อให้เขาเอานมเข้า สหกรณ์โคนมก็เจ๊งวันนี้ คนเป็นล้านๆ คนก็ไม่มีอาชีพ เพราะว่านม ทั้งนั้นก็เอานมผงเข้ามา เอานมสดเข้ามา มันไม่เสียเงิน มันถูกมากๆ นะ สองเข้าไปแล้วนะ ก็เลยถามต่อ แล้วประเทศไทยได้อะไร เขาก็บอกว่า ในการเจรจากับเอฟทีเอกับต่างชาตินั้น เมื่อบวกลบคูณหารแล้วประเทศไทยได้กำไร เขาพูดความจริง 50 เปอร์เซ็นต์ กำไรตรงไหน กำไรที่ว่า เขาไปขายไอพีสตาร์ให้กับออสเตรเลีย ให้ออสเตรเลียใช้ไอพีสตาร์เพื่อเอาสิทธิ์ของเขาไปทำโทรคมนาคมในประเทศออสเตรเลีย

สโรชา - ไอพีสตาร์นี่ของใครนะคะ

สนะ - ไอพีสตาร์ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ของชินคอร์ป ทีนี้ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น ฟังให้ดีๆ ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ ประเด็นคือว่า เมื่อคุณเปิดการค้าเสรี 2 ฝ่ายแล้วคุณอย่านับเม็ดเงินว่าประเทศไทยได้เท่าไหร่คุณต้องนับจำนวนคนที่ต้องพินาศฉิบหายลงไปเพราะเอฟทีเอ ถ้าเป็นเม็ดเงินคุณมีกำไร คุณบอกว่าไอ้ที่กำไรนี่กำไรกี่บริษัท กลายเป็นว่ากำไรอยู่ 3-4 บริษัท กำไรไอพีสตาร์ กำไรบริษัทส่งอุปกรณ์รถยนต์ กำไรพ่อค้าส่งออก กำไรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ กำไรพวกนี้คือกำไรของเจ้าของโรงงาน เจ้าของกิจการ แต่ที่ฉิบหายไปคือสหกรณ์โคนมเป็นล้านๆ คน เครือข่ายเหล้าพื้นบ้านเป็นแสนๆ คน เพราะฉะนั้นคุณจะนับเม็ดเงินได้อย่างไร คุณต้องนับหัวคนที่พังพินาศไป ถ้าหัวคน ถ้าจำนวนคนที่พังพินาศมันมากมายเหลือเกิน กับกำไรที่ได้แล้วมันอยู่เพียงไม่กี่บริษัทเราต้องไม่เซ็นเอฟทีเอ เราจะไปเซ็นได้อย่างไร

สโรชา - ถึงแม้ว่าบวกลบคูณหารออกมาแล้วตัวเลขจะบวก

สนธิ - ถึงจะบวกลบคูณหารออกมาแล้วมีกำไรในตัวเลขก็ทำไม่ได้ เหมือนอะไร เหมือนกรณีประเทศจีน พ่อแม่พี่น้องทั้งหลายที่มาจากทางภาคเหนือที่นั่งอยู่ข้างนอกฟังให้ดีๆ ฟังให้ดีๆ การไปเจรจาเอฟทีเอกับประเทศจีนคราวที่แล้วเขาเจรจากันบนโต๊ะกินข้าวโดยที่มีตัวกลางเป็นคนที่มาจับฝ่ายจีนเข้ามา แล้วเขาก็ถามฝ่ายจีนว่าต้องการอะไร ฝ่ายจีนบอกว่า ต้องการให้เปิดเสรีอันโน้นอันนี้ ฝ่ายไทยบอกโอเคผมก็ต้องการอย่างโน้นอย่างนี้ ฝ่ายจีนต้องการให้เปิดสินค้าการเกษตร ฝ่ายไทยก็บอกว่า อยากให้จีนมาใช้ไอพีสตาร์ ไอพีสตาร์ของใคร ไอพีสตาร์ก็ของชินคอร์ป เสร็จแล้วอยากให้ฝ่ายจีนช่วยรับซื้อสินค้าส่งออกของไทยไป เขาก็เซ็นกัน ตกลงกันด้วยวาจาบนโต๊ะกินข้าว โต๊ะจีนใหญ่ๆ นั่งพร้อมอีหมวยซึ่งสั่งโดยตรงมาจากเสฉวนนั่งประกบกัน ผมรู้ทำไมผมจะไม่รู้ เพราะว่าคนซึ่งทำหน้าที่เป็นล่ามนั้นเป็นนักศึกษาไทยในปักกิ่งแล้วดันเป็นญาติผมซะด้วย

สโรชา - จุดใต้ตำตอจริงๆ

สนธิ - ทีนี้เรื่องมันเกิดขึ้นอย่างไร เรื่องมันก็เกิดขึ้นทำให้สินค้าจีนทะลักเข้ามาในเมืองไทย พอทะลักเข้ามาในเมืองไทยแล้วคนแรกที่ตาย เกษตรกรทางภาคเหนือตายหมดเลย ตายสนิท ตายสนิทเลย หอม กระเทียม ส้ม วันนี้ส้มจากจีนเข้ามาตีตลาดในเมืองไทย ส้มออกจากสวนทางภาคเหนือกิโลละ 5 บาท อยู่ได้อย่างไร กิโลละ 5 บาท สวนส้มพังพินาศฉิบหายไปหมดเลย คนปลูกหอม ปลูกกระเทียมมีอยู่เท่าไหร่ พังพินาศฉิบหายอีกเหมือนกัน ปรากฏว่าน่าสนใจมากคุณสุดารัตน์ขึ้นไปที่เชียงใหม่ ขึ้นไปทางภาคเหนือ ไปบอกพี่น้องประชาชนที่ปลูกหอมกระเทียมว่า ถึงเวลาต้องเปลี่ยนอาชีพแล้วนะ

สโรชา - อ้าว

สนธิ - คุณสโรชา พ่อแม่พี่น้องที่นั่งอยู่ในห้องนี้และนั่งอยู่ข้างนอก ข้อตกลงเอฟทีเอนั้นเป็นอธิปไตยที่ครอบงำเราในเรื่องการใช้ชีวิต นี่คือการเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนนะ จู่ๆ เขาปลูกหอม ปลูกกระเทียม ปลูกส้มมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายเขาเป็นร้อยๆ ปี แล้วจู่ๆ ไปบอกให้เลิกปลูกหอม ปลูกกระเทียมได้อย่างไร เพียงเพราะคุณบอกคุณเซ็นเอฟทีเอมา มันไม่ได้ เพราะฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ชัด ทีนี้ของจีนมีปัญหาเพิ่มเติมอีกหลายๆ ข้อ ของจีนที่ร้ายมากๆ ก็คือว่า ออสเตรเลียเปิดเอฟทีเอไป 11 เดือน พ่อแม่พี่น้องรู้ไหมเราขาดทุนไปเท่าไหร่ คุณสโรชาสโรชา- เท่าไหร่คะ

สนธิ - ขาดทุนไป 7,000 กว่าล้านบาท ของไทย ของจีนเปิดขึ้นยังไม่ถึงปี ขาดทุนไป 17,000 ล้านแล้ว เปิดเอฟทีเอกับทุกประเทศเราเจ๊งหมดทุกประเทศเลยไม่ว่าประเทศไหนก็ตาม แล้วนี้เป็นซีอีโอเก่งในเรื่องธุรกิจได้อย่างไรผมยังไม่เข้าใจ

สโรชา - เขาบอกต้องใช้เวลาหรือเปล่าคะ ต้องใช้เวลาหรือเปล่า

สนธิ - เวลา คุณกว่าจะใช้เวลา กว่าจะเจริญมาได้นี่ ประชาชนคนไทยตายมาทั้งประเทศแล้ว ก็คงจะเหลืออยู่พวกคุณที่รวยๆ เท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่คนไทยตายกันหมด

สโรชา - นี่เขาเจรจาอเมริกากันอยู่นะคะ ที่เขาประท้ง ประท้วงกันใหญ่โตที่เชียงใหม่

สนธิ - อเมริกา ผมยังไม่ได้พูดถึง กำลังจะพูดต่อไป เอฟทีเออเมริกามันมีอะไรซ่อนเงื่อนไว้บ้าง ร้ายกาจมาก เอฟทีเอกับอเมริกา ถ้าเปิดไปตามที่นายกฯ ต้องการ โดยที่ไม่ฟังเสียงคัดค้านนะ พวกเรานี่ ทั้งหมดนี่ และที่อยู่ข้างนอกด้วยนะ แล้วก็ไม่เว้นที่เพิ่งลงมาจากภาคเหนือด้วยนะ ตายหมดทุกคน เป็นศพกันหมดทุกคนเลย เพราะอะไร ผมจะเล่าให้ฟัง อเมริกานี่เขาเน้นอยู่ 2-3 เรื่อง เรื่องแรกที่เขาเน้น เขาจะเน้นในเรื่องของลิขสิทธิ์ ลิขสิทธิ์ที่เขาเน้นที่สุด ต้องการในขณะนี้คือลิขสิทธิ์ยา

สโรชา - ยานี่เป็นเรื่องใหญ่ เขาบอกว่าถ้าเปิดขึ้นมา

สนธิ - ลิขสิทธิ์ยา ฝรั่งนี่มันเลว ผมจะบอกให้รู้ มันเลวยังไง ลิขสิทธิ์

สโรชา - ทำไม มีฝรั่งอยู่แถวนี้เหรอคะ

สนธิ - บางคน บางคน ในห้องนี้ยกเว้น ในห้องนี้ยกเว้น ขอโทษทีไม่ได้หมายถึงคุณ พ่อแม่พี่น้อง ยานะครับ ยาๆๆ ยานี่ธรรมดาลิขสิทธิ์เขาให้ 20 ปี ฟังให้ดีๆ นะฮะ ยานี่ลิขสิทธิ์เขาให้ 20 ปี หมายความว่าไง 20 ปี พอพ้น 20 ปีแล้ว ประเทศอย่างเราสามารถจะเอาลิขสิทธิ์ยาตัวนี้มาผลิตได้โดยที่ไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ ทำให้ยาไม่แพง

สโรชา - ค่ะ คือหมายความว่าต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ 20 ปี หลังจากนั้นไม่ต้องจ่ายแล้ว

สนธิ - คือ จ่ายหรือไม่จ่ายไม่เป็นไร คือ เรายังไม่ผลิตของเขา เราซื้อเขามาก่อน เพราะว่าเดิมทีเขาไม่ให้เราผลิตหรอก เขาจะผลิตแล้วก็ขายเรา แล้วภายในลิขสิทธิ์ 20 ปีนี่ เราผลิตแข่งกับเขาไม่ได้ แต่พอครบ 20 ปี เราเอามาผลิตได้ ฝรั่งมาเจรจางวดนี้มันขอเพิ่มอีก 5 ปี เป็น 25 ปี

สโรชา - ก็กลายเป็นว่าเราต้อง ยังผลิตไม่ได้ต่อไป

สนธิ - เพื่ออะไร ขอเพิ่มอีก 5 ปี เพื่ออะไร

สโรชา - เพื่ออะไรคะ

สนธิ - เพื่อเข้าสู่กระบวนการกระทืบประชาชนคนไทยและประชากรในโลกด้วยยาราคาแพง วิธีการทำอย่างไร ผมจะบอกให้ วิธีการคือ ประการแรก กระทรวงสาธารณสุขให้ความร่วมมือกับฝรั่ง ให้ความร่วมมืออย่างไร พวกเรานี่มีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ด้วยโรงงานผลิตยาของเฒ่าแก่ ซึ่งอาจจะไม่ได้มาตรฐานเท่ากับอเมริกาหรือยุโรป แต่เป็นโรงงานผลิตยาที่ใช้ได้ ผลิตมารักษาพ่อ รักษาแม่เรามา รักษาตัวเรามา รักษามาตั้งนานแล้ว จู่ๆ กระทรวงสาธารณสุขออกกติกามาข้อหนึ่ง บอกว่า การผลิตยาในโรงงานพวกเฒ่าแก่ทั้งหลายจากวันนี้ ให้หยุดได้แล้ว ต้องพัฒนาปรับปรุง ใครมีโรงงานผลิตยามูลค่า 50 ล้าน ต้องเพิ่มมูลค่าเครื่อง เพิ่มโน่น เพิ่มนี่ ปรากฏว่าต้องใช้เงินอีก 300-400 ล้านบาท เฒ่าแก่มันเจ๊งกันหมดเลย ไม่มีใครอยู่ได้ แล้วใครล่ะอยู่ได้ ก็คือโรงงานผลิตยาของฝรั่งไง ที่มันมาตั้งโรงงานผลิตยาในประเทศไทย เห็นหรือยัง พอเสร็จเรียบร้อยแล้ว สิ่งหนึ่งซึ่งทำต่อก็คือว่า ไอ้ตัวที่ขวางเป็นกระดูกขวางคอของฝรั่ง ก็คือองค์การเภสัชกรรมแห่งประเทศไทย องค์การเภสัชกรรมแห่งประเทศไทยนั้นผลิตยาขึ้นมาเพื่อป้อนโรงพยาบาลในประเทศไทย และมีกติกาว่า โรงพยาบาลรัฐจะต้องซื้อยาจากองค์การเภสัชกรรม กี่เปอร์เซ็นต์ๆ ยานอกที่เข้ามาในเมืองไทยนี่ปีละ 35,000 ล้านบาท ทีนี้เมื่อองค์กรเภสัชกรรมเป็นก้างขวางคอ ต้องทำอย่างไร ต้องแปรรูปองค์กรเภสัชกรรม เห็นหรือยัง นี่คือกระบวนการแปรรูปองค์กรเภสัชกรรมไง เพื่อให้อยู่ในมือเอกชน เพื่ออะไรเพื่อที่จะให้เอกชนเข้าไปซื้อองค์กรเภสัชกรรม และขณะเดียวกันองค์กรเภสัชกรรมก็จะไม่ต้องอยู่ในกติกาที่จะต้องส่งยาให้กับรัฐบาล เท่ากับว่าจากนี้ไปราคายาจะต้องขึ้นสูง 2 เท่า 3 เท่า 4 เท่า 5 เท่า เท่ากับว่าพวกเราที่นั่งกันข้างในนั่งกันข้างนอกอีกต่างหาก เจ็บไข้ได้ป่วยในอนาคตจะต้องซื้อยาเพิ่มกว่าเก่า 3 หรือ 4 เท่า น้ำมันก็ต้องจ่ายเพิ่ม เพื่อแบ่งผลกำไรไปให้พวกที่มันแอบซื้อหุ้น ปตท.อยู่ กฟผ.มันก็จะเอาเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ น้ำประปามันก็จะเอาเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ยาก็ต้องซื้อแพง แล้วจะให้พวกเราเป็นกระดูกเดินได้หรืออย่างไร ในประเทศไทย ฟังให้ดีๆ พ่อแม่พี่น้องที่อยู่ข้างในนี้และข้างนอก สิ่งที่ผมพูดนั้นกระทบกระเทือนตัวคุณ กระทบกระเทือนพ่อแม่คุณ พ่อแม่คุณจะอยู่อำเภอไหน ตำบลไหนในอนาคต พวกคุณล้วนแล้วแต่มีลูกมีหลาน มีพี่มีน้องทั้งสิ้น รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลขายชาติ เพราะฉะนั้นแล้วทำไมเขาถึงต้องต่อต้านเอฟทีเอกับอเมริกา ถ้าเขาไม่ไปประท้วงที่เชียงใหม่นะเซ็นกันไปเรียบร้อยแล้ว นี่รีบดึงใส่ลิ้นชักกันก่อนแล้วบอกเฮ้ยไอ้พวกนี้มันรู้ทัน รอให้เงียบๆ สักพักแล้วเราค่อยมาคุยกันใหม่ นี่เป็นนิสัยอย่างนี้จริงๆ เพราะฉะนั้นแล้วพ่อแม่พี่น้องต้องเห็นว่า รัฐบาลทำอะไรไม่เคยโปร่งใสเลยแม้แต่นิดเดียว เราอยากจะรู้ว่า วันที่เซ็นเอฟทีเอกับเมริกาพอเซ็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว หรือเซ็นเอฟทีเอกับจีน เซ็นเอฟทีเอกับญี่ปุ่น เซ็นเอฟทีเอกับอินเดีย เมื่อเซ็นแล้วใครได้ใครเสีย ผมจะบอกให้ ที่ตลกที่สุดคุณสโรชา

สโรชา - ทำไมคะ

สนธิ - ฝรั่งมันยังมีความเป็นประชาธิปไตยมากกว่าเรา ขนาดมันจะมากระทืบเราที่เมืองไทยนะมันยังอุตส่ามาคุยกับสภาผู้แทนราษฎร ฝรั่งมันมาคุยเลยนะ พวกอเมริกันมันมาคุยกับสภาฯ บอกว่า เอฟทีเอที่มันเสนอมามันเสนออย่างนี้ อย่างนี้ ปรากฏว่านายกฯของเราดันไม่คุยกับคนของเรา ดันบอกว่า คุณอย่ารู้เลยผมรู้คนเดียวพอ เห็นหรือยังว่า ตรงนี้ผมรับไม่ได้

สโรชา - มีหลายคนเสนอว่า ถ้าจะเซ็นกัน ถ้าจะทำการค้าเสรีกันจริงๆ ได้ แต่ผ่านกระบวนการสภาฯ ได้ไหมล่ะ

สนธิ - ผ่านสภาฯ อย่างไรเขาก็ชนะอยู่แล้ว แต่อย่างน้อยที่สุดเปิดโอกาสให้คนอย่างผม คนอย่างคุณหญิงกัลยา โสภณพานิช คนอย่างคนโน้นคนนี้เขาซักถามในสภาฯ ได้ว่าทำไมประเด็นนี้ไปยอมเขา ทำไมประเด็นนี้ไปยอมเขา อย่างน้อยให้ ส.ว.เขาซักถามได้ ก็เป็นการเตือนสติดว่า ถ้าจะขายชาติอย่างไปขายหมดได้ไหม ขายเล็กๆ น้อยๆ เก็บบางส่วนไว้ให้คนไทยบ้างได้ไหม ตรงนั้นต่างหากที่เราต้องการ ที่ตลกที่สุด ตลกที่สุด ตลกมากๆ คือฝรั่งเวลามันทำเอฟทีเอกับไทย พ่อแม่พี่น้องรู้ไหมว่าเขายื่นเรื่องกับสภาฯ แล้วให้เวลาสภาฯ 90 วัน

สโรชา - สภาฯ เขา

สนธิ - สภาฯ เขา 90 วัน เพื่อพิจารณาเรื่องที่คุยกันเอาไว้ ตกลงกันเอาไว้ แต่เขายังไม่เซ็นนะ เขายังไม่เซ็น เขาให้สภาฯ ใช้เวลา 90 วันไปศึกษา ถ้าเป็นเมืองไทยศึกษาเสร็จอย่างน้อยที่สุด ส.ส.ทางภาคเหนือก็ต้องไปคุยกับพ่อแม่พี่น้องที่เป็นตัวแทนปลูกหอม ปลูกกระเทียม ทำเหล้าพื้นบ้าน ว่าที่ออกมาแล้วกระเทือนพวกท่านจะว่าอย่างไร ท่านบอกไม่ได้นะท่านเป็น ส.ส.ของฉันท่านต้องสู้ให้ฉันนะ นี่คือกระบวนการประชาธิปไตย ทีนี้ไอ้คนที่มันไม่มีจิตใจประชาธิปไตย ใจนี่มันใช้กติกาประชาธิปไตยเพื่อเข้ามาเป็นเผด็จการมันไม่มีวันเข้าใจเรื่องนี้หรอก ไม่มีวันที่จะเข้าใจหรอก เพราะว่าประเทศนี้เราถูกเอาเงื่อนไขของประชาธิปไตยมาเพื่อเข้ามายึดอำนาจ ซื้อเสียง แล้วก็ใช้ระบอบเผด็จการขึ้นมา คุณสโรชาจำได้ไหมว่า ที่ท่านนายกฯ พูดว่า เรื่องนี้ไม่ต้องรู้หรอก ไม่ต้องรู้หรอกผมรับรอง ก็คุณเอาอะไรมารับรอง ไม่ใช่เพราะคุณรับรองหรอประเทศมันถึงเป็นอย่างนี้มา 4-5 ปีแล้ว ฝรั่งพอครบ 90 วัน เขาตกลงกันได้ในสภาฯ แล้วเขาก็เซ็น พอเขาเซ็นสิ่งต่อมาเขาเอาประชาชนที่ได้รับผลกระเทือนจากเอฟทีเอมาประชุม แล้วเขาบอกว่า คุณต้องเปลี่ยนอาชีพแล้วนะ ในการเปลี่ยนอาชีพคุณต้องหางานทำใหม่ ในการหางานทำใหม่ฝรั่งเขาออกค่าใช้จ่ายให้ในการเดินทางไปหางานทำใหม่ 100 บาท เขาออกให้ 90 บาท 90 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเป็นเกษตรกร เขาบอกว่า เดี๋ยวผมจะให้ทุนคุณไปปลูกอย่างอื่นแทน เข้าใจไหมคุณสโรชา

สโรชา - ค่ะ ให้ที่รองรับไว้

สนธิ - เขาให้ที่รองรับไว้ ของเราพอเปิดเอฟทีเอ พอไอพีสตาร์ได้ บริษัทส่งอะไหล่รถยนต์ได้ บริษัทส่งคอมพิวเตอร์ชิพได้ เกษตรกรช่างหัวเขา

สโรชา - แล้วเงื่อนไขเวลาล่ะคะ อย่างบางเอฟทีเอ เปิด 3 ปี 2 ปี แล้วบอกว่าระยะเวลานี้ให้เกษตรกร ให้ผู้ที่ถูกผลกระทบ ปรับตัว ปรับตัวทันไหม 2 ปี 3 ปี 6 ปี บางกรณี 10 ปี

สนธิ - ของเขาให้ปีนึงก็เป็นบุญคุณตายแล้ว คุณสโรชา วันนี้อะไรก็ไม่ให้ บทเขาจะเซ็น เขาก็จะเซ็นไปทันทีเลย พ่อแม่พี่น้อง เพราะฉะนั้นแล้วต้องเข้าใจเรื่องเอฟทีเอให้ดีๆ มันไม่ใช่เรื่องสลับซับซ้อน มันคือกระบวนการขายชาติอีกแบบหนึ่ง ขายเพื่อให้คนรวยได้รวยขึ้น แล้วให้พวกคนจนนั้นเปลี่ยนอาชีพการทำมาหากิน แล้วก็ทำมาหากินไปเพื่อเอารายได้นั้นมาสนับสนุนให้คนรวย รวยกันต่อไป นั่นคือกระบวนการเอฟทีเอที่แท้จริง ใครบอกผมว่าเอฟทีเอจะทำให้ประเทศรวยขึ้น เดินหน้ามาหาผมหน่อยสิ แล้วมาเถียงกันเป็นข้อๆ ซิ มันเป็นไปไม่ได้คุณสโรชา เอฟทีเอมันจะทำให้รวยขึ้นได้อย่างไร

สโรชา - ค่ะ สรุปแล้ว รอบนี้รอบที่เพิ่งผ่านไปรอบที่ 6 นะคะ ที่เจรจากันไปที่เชียงใหม่ รอบที่ 6 คงจะเงียบไปสักพักแล้วล่ะ แล้วค่อยว่ากันใหม่ อันนี้เราคงต้องรอดู แต่ว่าที่รอดูไม่ได้เลยคือวันที่ 16 คือวันจันทร์ที่จะถึงนี้ Reality Show ของท่านนายกฯ Back Stage Show ที่ยูบีซีเขาคุยนักคุยหนา ว่าเขาจะถ่าย 24 ชั่วโมง

สนธิ - คือ (ไอ)

สโรชา - ถึงกับไอเลยเหรอคะ

สนธิ - คือตอนนี้ท่านนายกฯ นี่ ตอนนี้ท่านสติแตกไปเรียบร้อยแล้ว ท่านไม่เข้าใจว่าปัญหาประเทศชาตินั้น อยู่ที่ตัวท่าน นายกรัฐมนตรีตอนนี้เป็นปัญหาของแผ่นดินไทย จำเอาไว้นะพ่อแม่พี่น้อง ท่านนายกฯ คนนี้ท่านเป็นปัญหาของแผ่นดินไทย เป็นปัญหาตรงไหน เป็นปัญหาซึ่งท่านไม่รู้จักบันยะบันยังในคำว่า "พอเพียง" ท่านไม่เข้าใจในคำว่าพอเพียง พวกเราต้องเข้าใจในคำว่าพอเพียง เราพูดมาตั้งหลายครั้งแล้วว่า "เศรษฐกิจพอเพียง" ที่พระเจ้าอยู่หัว พูดออกมานั้น ตรัสออกมานั้น เป็นสิ่งที่ลึกซึ้งที่สุด วิธีแก้ปัญหาที่ อ.อาจสามารถ ของท่านนายกฯ กับของพระเจ้าอยู่หัว จะไม่เหมือนกัน จะไม่เหมือนกันพ่อแม่พี่น้อง ฟังให้ดีๆ ท่านนายกฯ ท่านก็จะไปที่ อ.อาจสามารถ แล้วท่านก็จะบอกว่า ตอนนี้มีรายได้เท่าไร อำเภอนี้ ชาวบ้าน ต้องหารายได้เพิ่ม ต้องหารายได้เพิ่มเพื่อที่จะมาคุ้มกับค่าใช้จ่ายที่มีอยู่

สโรชา - ใช่ค่ะ

สนธิ - แต่ถ้าเป็นนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงของพระเจ้าอยู่หัว พระเจ้าอยู่หัวจะบอกว่า เดี๋ยวก่อน ก่อนที่จะไปทำทุกอย่างเพื่อหารายได้เพิ่มนั้น ให้มาดูเสียก่อนว่ารายจ่ายแต่ละเดือนนั้นมีอะไรบ้าง อ๋อ มีเหรอ มอเตอร์ไซค์ ค่าน้ำมันมอเตอร์ไซค์ จำเป็นไหมมอเตอร์ไซค์ ถ้าไม่จำเป็นขายทิ้งได้ไหม ค่าโทรศัพท์มือถือเอไอเอส ไม่มีได้ไหม ตัดทิ้งไป นะ ค่าที่จะต้องไป ทุกเดือนจะต้องจ่ายค่าโน้นค่านี้ ไม่มี ตัดได้ไหม พระองค์ท่านจะลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ที่ไม่จำเป็นต่อชีวิต เมื่อค่าใช้จ่ายลดลงมาจนเท่ารายได้แล้ว ตรงนั้นคือจุดเริ่มต้นของพระองค์ท่าน ที่จะก้าวเดินต่อไป ไม่ใช่ว่ารายจ่ายมีอยู่เท่านี้ มากกว่ารายได้ แล้วก็ไปเร่งเสริมหารายได้ขึ้นมาเพื่อที่จะมาใช้รายจ่าย ทุกอย่างในประเทศ ทุกอย่างในสังคมไทย มันมีข้อจำกัดพ่อแม่พี่น้อง มันมีข้อจำกัด มันไม่จำกัดได้อย่างไร ท่านเคยจำได้ไหมผมเคยพูด คุณสโรชา ผมบอกว่าเรื่องพลังงาน จำได้ไหม ถ้าเราไม่รู้จักยึดเศรษฐกิจพอเพียง เรานี่จะวิ่งไล่พลังงาน 60 เหรียญต่อถัง 80 เหรียญต่อถัง 100 เหรียญต่อถัง เราไปตั้งโจทย์ผิด คุณ>สโรชา พระเจ้าอยู่หัวไม่เคยตั้งว่าประเทศไทยต้องโตเท่าไร แต่รัฐบาลชุดนี้จะตั้งว่าประเทศไทยต้องโต 5 เปอร์เซ็นต์ 6 เปอร์เซ็นต์ 7 เปอร์เซ็นต์ ในการโต 5 เปอร์เซ็นต์ 6 เปอร์เซ็นต์ 7 เปอร์เซ็นต์ เอาตัวโตเป็นตัวตั้ง เมื่อตัวโตเป็นตัวตั้ง พลังงานก็ต้องขยันหามาเพื่อให้มันโตได้เท่านั้น ใช่ไหม การลงทุนเม็ดเงินก็ต้องหามาเพื่อให้โตเท่านั้น สรุปง่ายๆ เราตกลงไปในหลุมพรางของการเจริญเติบโต เข้าใจไหมคุณ สโรชา

สโรชา - ค่ะ วิ่งตลอดเวลา

สนธิ - วิ่งตลอดเวลา วิ่งตลอดเวลา น้ำมันถังละ น้ำมันบาร์เรลละ 50 เหรียญ ปีหน้า 60 เราก็จ่าย 60 อีกปี 80 เราก็จ่าย 80 เราจ่ายให้ใคร เราจ่ายให้แขก เราจ่ายให้ฝรั่ง เราจ่ายให้ผู้ถือหุ้น ปตท. ซึ่งเป็นเอกชนรับไป จริงๆ แล้วเราต้องหันมาดูตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระเจ้าอยู่หัว พระเจ้าอยู่หัวจะพูดอยู่ตลอดเวลา พระเจ้าอยู่หัวจะพูดอยู่ตลอดเวลา บอกว่าเรามีแค่ไหนให้ใช้แค่นั้น นั่นก็คือความสันโดษ มีแค่ไหนใช้แค่นั้น มันต้องเริ่มยังไง มันต้องเริ่มด้วยว่าพลังงานที่เรามีอยู่ทุกวันนี้มันมีแค่ไหน แล้วที่ซื้อมาทุกปีเราเลือกสักปีได้ไหมเป็นปีซึ่งเราตัดสินใจว่า ที่เราซื้อปริมาณเท่านี้แล้วเราหยุดอยู่ตรงนี้ เอาปริมาณพลังงานที่เรามีเป็นตัวตั้งไม่ใช่เอาการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นตัวตั้ง เมื่อเอาปริมาณพลังงานเป็นตัวตั้งอย่างนี้แล้วเราก็สามารถเจริญเติบโตภายใต้เพดานของพลังงานที่เรามีอยู่

สโรชา - กรอบที่เรามีอยู่แล้ว

สนธิ - นั่นหละคือเศรษฐกิจพอเพียงเข้าใจหรือยัง นั่งคือเศรษฐกิจพอเพียง พ่อแม่พี่น้องผมพูดกลับให้ท่านฟังตั้งหลายครั้ง ให้ท่านฟังอีกครั้งก็ได้ แม้กระทั่งเมกะโปรเจกต์บ้าบอคอแตก 4 แสน 5 แสนล้าน ที่จะจัดระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ นั่นคือขบวนการรุมทึ้งประเทศไทย และรุมทึ้งประชาชนชาวไทย เหตุผลคือว่า รัฐบาลอ้างว่า ตัวเองไม่มีเงิน ตัวเองต้องเอาต่างชาติเข้ามา เงินต่างชาติที่เข้ามาเป็นเงินของใครเราก็ไม่รู้ อาจจะเป็นเงินนักการเมืองก็ได้ แล้วรัฐบาลก็ให้สัมปทานรถไฟฟ้าใต้ดินกับกลุ่มนักลงทุนพวกนี้ พอพวกนี้ได้ไปรัฐบาลก็ให้สิทธิ์ในการขึ้นราคาค่าโดยสารตลอดเวลา คนที่เจ็บตัวคือใคร ก็ที่นั่งในที่นี้ไงจะต้องเจ็บตัวกันตลอดเวลา เพราะฉะนั้นแล้ววิธีแก้มันต้องแก้ด้วยใครใช้มากคนนั้นจ่ายมาก ใครมีรถยนต์ต้องเสียภาษีถนน เอาภาษีถนนมาสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินแล้วคิดค่าเดินทางตลอดสาย 15 บาท อย่างนั้นคือความยุติธรรม นั่งคือเศรษฐกิจพอเพียง คุณ สโรชาคุณเคยรู้ไหมว่าท่านนายกฯ ท่านกำลังจะขายชินคอร์ป คุณจำได้ไหมผมเคยพูดมาก่อน พ่อแม่พี่น้องจำได้ไหมผมเคยพูดว่า นายกฯ กำลังจะขายชินคอร์ป เอาเปิดวีทีอาร์ให้ดูอีกครั้งหนึ่ง

สโรชา - มีคะมีวีทีอาร์ตอนที่เราคุยกันครั้งที่แล้วนะคะ เมืองไทยสัญจร ครั้งที่ 7 เราคุยกันเรื่องนี้

สนธิ - 7 อาทิตย์ที่แล้ว 2 เดือนที่แล้วผมพูดมาก่อน ท่านพ่อแม่พี่น้องดู

(วีทีอาร์)

สนธิ - ผมพูดมา 8 อาทิตย์แล้ว 2 เดือนแล้ว ว่านายกฯ กำลังขายชินคอร์ป แล้วจริงๆ กำลังขายอยู่ ทีนี้ที่ขายนี่ ที่ยังไม่ประกาศออกมา มันตกลงกันไม่ได้ 2-3 เรื่อง เนื่องจากชินคอร์ปถือหุ้นอยู่ในหลายตัว หุ้นอันแรกคือโทรศัพท์มือถือ จีเอสเอ็ม เอไอเอส ตัวที่สองก็คือ ไอทีวี นะ ตัวที่สามก็คือ หุ้นของบริษัทไทยแอร์เอเชีย (สายการบิน) นะฮะ แล้วยังมีอีกหลายตัว สิงคโปร์นี่เวลาซื้อเขาก็ซื้อเฉพาะ อย่างเช่น สิงค์เทล ซึ่งถือหุ้นในเอไอเอส เขาต้องการจะซื้อเฉพาะ

สโรชา - โทรคมนาคม

สนธิ - เอไอเอส กับดาวเทียม อาจจะมีไอทีวี แต่ว่าไทยแอร์เอเชียนี่ สิงค์เทลไม่ต้องการซื้อ เขาก็เลยต้อง คล้ายๆ ว่าแจกไพ่ให้คนอื่นชอบไพ่ตัวไหนก็มาซื้อไพ่ตัวนั้นเอาไป นี่คือเหตุผลซึ่งล่าช้า ซึ่งล่าช้ามาก ความจริงควรจะเซ็นกันแล้วเพราะว่าอุตส่าห์พาลูกบินมาจากอังกฤษ คือลูกและเมียมากันครบเลย ผู้ที่มีอำนาจในการเซ็นมากันครบ ไปสิงคโปร์

สโรชา - ที่ไปสิงคโปร์น่ะเหรอคะ

สนธิ - ฮะ แล้วก็บอกว่าไปเดินเที่ยวสิงคโปร์ 4 วัน พ่อแม่พี่น้องที่อยู่ในนี้ หลายคนเคยไปสิงคโปร์แล้ว ไอ้เมืองบ้านี่อยู่ครึ่งวันก็จะตายอยู่แล้ว ไปอยู่ได้อย่างไร 4-5 วัน มันไม่มีอะไรเลย นอกจากว่าไปทำนิติกรรมในทางด้านการซื้อขาย เอาล่ะ ไม่เป็นไร ท่านเก่งนัก 4 ปี 5 ปีที่ผ่านมานี้ ผมจะบอกให้รู้ มูลค่าหุ้นของท่านขึ้นอย่างไร ปลายปี 2545 หลังจากที่ท่านได้อยู่ในรัฐบาลเป็นนายกฯ มา 2 ปี มูลค่าหุ้นทั้งหมดของท่าน หลักทรัพย์ท่าน 29,663 ล้านบาท 2545 นะ 3 ปีกว่าที่แล้วนะ มูลค่าหุ้นท่าน 29,000 ตีซะ 30,000 ล้าน ปลายปี 46 แค่ปีเดียว แค่ปีเดียวหลังจากที่มูลค่าหุ้นของท่านปี 45 มีอยู่ 30,000 ล้าน มูลค่าท่านเพิ่มเป็น 113,888 ล้านบาท เอาล่ะ ต้นปี 49 ตอนที่ท่านจะขายชินคอร์ป ผมก็เลยตรวจสอบทรัพย์สิน เพราะว่าผมเป็นเด็กดี ผมขยันดูหนังสือ ผมขยันคิด แล้วผมก็ฉลาด ต้นปี 2549 ก็เดือนมกราคมนี่ มูลค่าหุ้นท่านขึ้นเป็น 134,219 ล้านบาท สรุปง่ายๆ ว่า 3 ปีกว่าๆ ที่ผ่านมานี้ หุ้นชินคอร์ปนี่ มูลค่าสูงเพิ่มขึ้นจากเก่า 100,000 ล้านบาท หรือคิดคำนวณแล้วสูงเพิ่มขึ้นถึง 352 เปอร์เซ็นต์ ขายยาบ้ายังไม่ได้รวยขนาดนี้เลย เอาล่ะ ท่านรวยขึ้นมาได้อย่างไร

(คนดู : โกง)

สนธิ - อ่ะ อันนั้นเป็นภาคผนวก ผลประโยชน์ทับซ้อนท่านรวยขึ้นมาได้อย่างไร ลาบอันมิควรจะได้ของท่าน เริ่มจากเอไอเอสก่อน เมื่อท่านเข้ามาเป็นนายกฯ สิ่งแรกที่ท่านดำเนินนโยบายเพื่อชาติเกี่ยวกับโทรคมนาคม คือท่านแปรสภาพสัญญาและคู่แข่งของเอไอเอส อย่างองค์การโทรศัพท์ฯ ท่านให้องค์การโทรศัพท์ฯ เป็นบริษัททันที แล้วแปรสภาพสัญญาไปทันที แล้วให้องค์การโทรศัพท์ฯ นี่ไปลงทุนในโครงสร้างสาธารณูปโภคประชานิยมที่ไม่มีกำไร เพื่อให้องค์การโทรศัพท์ฯ นั้น อ่อนแอลงไปเรื่อยๆ เห็นหรือยัง อันที่สอง นโยบายเพื่อชาติอีกนะ กสท. มันมีคลื่นเครือข่าย CDMA จำเอาไว้นะ CDMA เขาให้คนฮ่องกงประมูลไป ก็คือนายลี กา ชิง บริษัทฮัทชินสัน เคยได้ยินใช่ไหม ฮัทชินสัน ฮัทชินสันประมูลไปได้ พอจะเริ่มประมูลเฟส 2 ก็คือเฟส 2 คือต้องทำทั้งประเทศนะ รัฐบาลสั่งยกเลิก บอกว่าให้ กสท.ทำเอง เพราะอะไร เพราะว่าถ้าให้นายลี กา ชิง มันทำนี่ มันกินเอไอเอสตายเลย เพราะมันรวยกว่าท่านนายกฯ มันสามารถจะขยายเครือข่ายฮัทชินสันได้ทั่วประเทศไทย แล้วกินท่าน ก็เลยสั่งยกเลิกไม่ให้เขาทำเฟส 2 ให้ กสท.ทำเอง พ่อแม่พี่น้องก็รู้ว่าเมื่อใดก็ตามที่เราให้หน่วยงานราชการมาทำการค้า มันก็เรียบร้อยโรงเรียนจีนใช่ไหม เพราะฉะนั้นแล้วคู่แข่งก็ไม่มีแล้วสิ คู่แข่งองค์การโทรศัพท์ฯ ก็หมดไปแล้ว คู่แข่ง กสท. ที่จะเป็นคู่แข่งมือถือโดยตรง ก็หมดไปเช่นกัน ต่อไปทำอย่างไร ต่อไปก็คือปี 2546 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังดำเนินนโยบายให้เก็บภาษีสรรพสามิตจากโทรศัพท์มือถือ เพื่อค่าที่เขาได้กำไรจากรายนาทีจะได้ไม่ต้องลดลง แล้วเขาก็ผ่องค่าภาษีสรรพสามิตให้ใคร ให้พวกเราซิ พวกเราก็แบกค่าภาษีสรรพสามิตส่วนพวกเขาก็ได้กำไรเช่นเดิม ยังไม่พอตัวเองให้บริษัท เอไอเอส แก้สัญญาร่วมงานกับบริษัท ทศท. ก็คือองค์การโทรศัพท์ ในการจ่ายเงินชดเชยของโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบพรีเพด วันทูคอลให้ลดลงจาก 25 เปอร์เซ็นต์เหลือ 20 เปอร์เซ็นต์ เคยได้อยู่ 25 เปอร์เซ็นต์ให้แก้เหลือ 20 เปอร์เซ็นต์ รัฐสูญเสียรายได้ไป 1,600 ล้านบาท เท่านั้นยังไม่พอให้กระทรวงการคลังยกเลิกโทรศัพท์มือถือ ภาษีเข้าจาก 10 เปอร์เซ็นต์ให้เหลือ 0 เปอร์เซ็นต์ เบ็ดเสร็จนโยบายที่ท่านออกมาเพื่อชาติ เอไอเอสเคยกำไรในปี 2544 3,800 กว่าล้านบาท 2544 ปีแรกที่ท่านมาเป็นนายกฯ สิ้นปี 2544 กำไร 3,800 ล้านบาท หลังจากมีนโยบายเพื่อชาติของท่านออกมา ปี 2547 ท่านกำไรสุทธิ 20,258 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้น 426 เปอร์เซ็นต์ เห็นหรือยัง นี่คือลาภอันมิควรได้ที่ทำให้มูลค่าหุ้นท่านกำไรเอา กำไรเอา ไม่เป็นไรต่อ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ไอทีวีท่านลดสัมปทานให้เหลือ 150 ล้านบาทต่อปี เป็นเวลา 20 ปี ทำให้รัฐเสียรายได้ 17,430 ล้านบาท ที่สำคัญท่านเปลี่ยนเงื่อนไขไอทีวีให้เป็นโทรทัศน์ที่สามารถมีรายการบันเทิงเข้ามาได้ ลดค่าต๋งที่จ่ายให้รัฐลง 17,000 ล้าน เปลี่ยนเงื่อนไขรายการทำให้ไอทีวีสามารถจะกำไรเพิ่มขึ้นอีก 40,000 ล้าน ในตลอด 20 ปี เหนาะๆ 20 ปี ได้ไป 57,000 กว่าล้านบาท แอร์เอเชีย 2546 ท่านไปลงทุนในสายการบินแอร์เอเชียให้มาเป็นคู่แข่งการบินไทย รัฐบาลส่งคนไปดูแลการบินไทย ไม่ได้ไปดูแลนะไปกระทืบการบินไทยให้อ่อนปวกเปียกเหมือนกับที่เขาส่งคนแล้วตั้งนโยบายให้ไปกระทืบองค์การโทรศัพท์ให้อ่อนแอ เขาไปเหยียบการบินไทยอย่างไร แอร์เอเชียตั้งมาไม่กี่ปีบินกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ 120 เที่ยวต่อเดือน ทับซ้อนเส้นทางสายการบินไทยเยอะมาก อนุมัติปี 2547 พัฒนาสนามบินเชียงใหม่ให้เป็นฮับ แน่นอนเพราะแอร์เอเชียบินไปลงตั้ง 120 เที่ยวต่อเดือน ก็เอาเงินรัฐไปพัฒนาสนามบินเชียงใหม่ให้เป็นฮับ เพื่อจะได้ให้เชียงใหม่เป็นศูนย์บินจากเชียงใหม่ไปมัณฑะเลย์ เชียงใหม่ไปย่างกุ้ง เชียงใหม่ไปหลวงพระบาง เชียงใหม่ไปโน้นไปนี่ เงินรัฐ คนที่ได้ประโยชน์เนื้อๆ ก็คือ แอร์เอเชีย ยังไม่พอ การบินไทยถูกยกเลิกสายการบินในประเทศบางเส้นทางที่ทำกำไร สายการบินระหว่างประเทศที่ทำกำไรยกเลิก พ่อแม่พี่น้องรู้ไหมใครเสียบ แอร์เอเชียเสียบเข้าไป ยกเลิกสายการบินกรุงเทพฯ-ภูเก็ต สิงคโปร์ จำนวน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งแน่นทุกวัน แน่นทุกลำ คนที่เสียบคือแอร์เอเชีย ลดเส้นทางไป-กลับกรุงเทพฯ-ภูเก็ต จำนวน 14 เที่ยวบิน ลดไป 14 เที่ยวบิน ลดเส้นทางไป-กลับกรุงเทพฯ-กระบี่ 7 เที่ยวบิน คนเสียบก็คือ แอร์เอเชีย นอกจากนั้นแล้วยังมีอีก มติของกระทรวงคมนาคม การท่าอากาศยาน บอกว่า เมื่อย้ายสนามบินไปหนองงูเห่าแล้วสนามบินดอนเมืองจะเป็นสนามบินในประเทศและโลว์คอสต์ แน่ซิโลว์คอสต์มีหลายเจ้า แต่เจ้าที่ได้ประโยชน์มากที่สุดเพราะบินเยอะที่สุดก็คือ แอร์เอเชีย เท่ากับว่าพวกโลว์คอสต์มีแอร์เอเชียเป็นหัวโจก ได้ใช้สนามบินฟรีๆ สนามบินดอนเมืองยกให้ไปเลย ลงทุนอะไรกันไม่ต้องใช้เงินใช้ทองเลย รัฐเป็นคนลงโครงสร้างสาธารณูปโภคให้ทั้งสิ้นแล้วตัวเองก็รับเอา รับเอา ลาภอันมิควรจะได้ข้อที่สี่ เรื่องไอพีสตาร์ เอฟทีเอ ไอพีสตาร์เป็นของชินแชทฯ ได้อานิสงส์จากการเจรจาเอฟทีเอหลายครั้งกับประเทศต่างๆ ทั้งนิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย จีน และอินเดีย จากการประมาณการของนักวิเคราะห์ตลาดหลักทรัพย์ คาดว่า รายได้ชินแชทฯ จะก้าวกระโดดขึ้นมาทันทีที่จีนและอินเดียเข้ามารับสัญญาในปี 2549 คือปีนี้ มิน่าพวกโบรกเกอร์ทั้งหลายแนะนำให้ซื้อหุ้นชินแชทฯ หมด คาดว่าอินเดียอย่างเดียวจะทำให้ชินแชทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 5,000 ล้าน จีนมีรายได้เพิ่มขึ้นหมื่นล้าน พ่อแม่พี่น้องที่อยู่ข้างนอกที่มาจากทางเหนือ นี่หละจีน จีนต้องจ่ายชินแชทฯ ไอพีสตาร์ เมื่อมาใช้เขาปีละหมื่นกว่าล้านเพื่อแลกกับเอฟทีเอ คือ ส่งผลไม้ ส่งผักมาขายเพื่อที่จะเหยียบพ่อแม่พี่น้องทางเหนือ พ่อแก่แม่แก่ให้ล้มหายตายจากไป เห็นหรือยัง น่าสนใจมากๆ เดินทางไปพม่าทีไร เดินทางไปต่างประเทศทีไร ต้องมีตัวแทนของไอพีสตาร์บินไปด้วย ไม่รู้ไปในสถานภาพอะไร แล้วคุยอะไรกันก็ไม่รู้ ตรงนี้ไงที่ผมบอกว่าคุณไปคุยอะไรกับใคร คุณต้องมาแจ้งให้ประชาชนคนไทยเขาทราบ ไม่ใช่ว่าคุณคุยเรื่องของคุณแล้วเอาชีวิตคนไทยไปแลกด้วย มันไม่ได้ อันนี้พิสูจน์แล้วนะ เอาล่ะ เอามาต่อนะ ไอพีสตาร์ก็เริ่มดำเนินวิธีการเอื้อประโยชน์ต่อดาวเทียม นะฮะ เอ็กซิมแบงก์ ของประเทศไทย ไอพีสตาร์นี่อยากจะขายบริการให้พม่า ไอพีสตาร์อยากจะขายบริการให้พม่า คุณสโรชา แต่พม่ามันไม่มีตังค์ แล้วเขาแก้ด้วยวิธีไหนรู้ไหมพ่อแม่พี่น้อง เขาแก้โดยให้ธนาคารส่งออก-นำเข้าของประเทศไทย ที่เขาเรียกเอ็กซิมแบงก์ของประเทศไทย ปล่อยเงินกู้ให้พม่า เพื่อให้พม่านั้นใช้เงินก้อนนี้ไปพัฒนากิจการโทรคมนาคม และพ่อแม่พี่น้องเดาเอาสิว่าใครประมูลได้กิจการโทรคมนาคมในพม่า ก็ชินแซทไง เท่ากับว่า เอาเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้ให้พม่า พม่าเอาเงินเอ็กซิมแบงก์มาจ่ายให้ชินแซท น่ารักมาก น่ารักจริงๆ นะ เพราะฉะนั้นแล้วพ่อแม่พี่น้องจะเห็นได้ชัดว่านี่คือเหตุผลว่าทำไมหุ้นในเครือของเขาขึ้นจาก 29,000 ล้าน ในปลายปี 2545 มาเป็น 134,000 ล้าน ในต้นปีนี้ นะ ผมถามว่าธุรกิจอะไรในประเทศไทย ผมบอกว่าขายยาบ้ายังไม่ได้กำไรอย่างนี้เลย มิน่าเล่า ลูกๆ ท่านนายกฯ ถึงติดรายชื่ออยู่ในอภิมหาเศรษฐีที่รวยหุ้นที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ไทย นะครับ คือถ้าจะแสดงความจริงใจต่อกันนี่นะ ถ้าจะแสดงความจริงใจต่อกันนะ ผมคิดว่าท่านน่าที่จะขายหุ้นชินแซททิ้งไปตั้งแต่ปีแรกที่ท่านเข้ามาเป็นนายกฯ แล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้พิสูจน์ชัดว่าท่านเข้ามาครั้งนี้ 4-5 ปี ท่านสร้างนโยบายเพื่อเอื้อประโยชน์กลุ่มธุรกิจของท่านหลายๆ อย่าง นี่ยังไม่ได้นับถึงการโกงข้ามชาติ การโกงกินแบบโกงเก็บของบรรดาเครือข่ายญาติพี่น้องของท่านนะ นี่ยังไม่นับนะ ยังไม่นับนะ เพราะฉะนั้นแล้ว อันนี้ต้องถือว่าลาภมิควรจะได้ ลาภมิควรจะได้ ท่านรวยขึ้นมานี่นะ รวยขึ้นมาจากอภิสิทธิ์ที่แผ่นดินไทยให้ท่านทั้งสิ้น นี่มันสมบัติของพวกเรา ไม่ใช่สมบัติของเขา เพราะฉะนั้นแล้วท่านรวยอะไร ท่านเล่าให้ผมฟังหน่อยสิ ถ้าใช้วิธีนี้ ท่านเอาคนใช้ท่านมาบริหารงานก็ยังรวยอยู่ ท่านไม่จำเป็นต้องเก่งหรอก เพราะว่าการเอื้อประโยชน์แบบนี้ เอื้อประโยชน์ในเชิงนโยบาย มันพิสูจน์ได้ชัด วันแรกที่ท่านเข้ามามันพิสูจน์ไม่ได้ แต่วันนี้มูลค่าหุ้นท่านที่เพิ่มขึ้นมาจากนโยบายต่างๆ ที่ท่านมี มันพิสูจน์ชัด ถ้าท่านอยากสำนึกผิดจริงๆ นะ ท่านก็เอาเงินจากนักการเมือง ญาตินักการเมืองที่โกงบ้านโกงเมืองทั้งหลาย มาคืนให้แผ่นดินด้วย แล้ว 50 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าหุ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องซีทีเอ็กซ์ เรื่องกล้ายาง เรื่องลำไย เรื่องหุ้น ปตท. เรื่องคาร์ปาร์ก เรื่องบริษัทไทยเดินเรือทะเล โรงงานยาสูบที่เชียงใหม่ ถนนลอดอุโมงค์ที่เชียงใหม่ อีกเยอะแยะไปหมด ท่านเอาคืนมาให้หมดแล้วจับไอ้พวกขี้ฉ้อนี่ติดคุก อย่างนี้เขาถึงเรียกว่าจริงใจ

สโรชา - มีผู้ชมจากชลบุรีค่ะ โทรเข้ามาแล้วฝากความคิดเห็นไว้ บอกว่า ขายไปสัก 80,000 ล้านแล้ว ช่วยทีเถอะ ช่วยออกไปอยู่นอกประเทศเสียทีได้ไหม แต่มีคำถามอื่นนะคะ มีคำถามอื่น มีคำถามว่าท่านไปพบป๋าเปรมเมื่อวานเช้า แล้วตอนช่วงเย็นของเมื่อวานท่านก็เจอกับแม่ทัพ

สนธิ - เจอแม่ทัพ ลองๆ เปิดวีทีอาร์ที่ท่านไปพบป๋าเปรมหน่อยได้ไหม แล้วเดี๋ยวผมจะพูดเรื่องป๋าเปรมให้ฟัง

สโรชา - เข้าใจว่ามีภาพนิ่งใช่ไหมคะ

สนธิ - มีภาพนิ่งฮะ มีไหมฮะภาพนิ่ง

(วีทีอาร์นายกฯ พบป๋าเปรม)

สโรชา - นี่ค่ะ

สนธิ - คนเรานี่เขาบอกอะไรรู้ไหม เขาบอกว่ารูปเนี่ยมันสะท้อนความจริงยิ่งกว่าคำพูด 1,000 คำ ดูรูปให้ดีๆ ดูว่าหน้านายกฯ ฝืนยิ้มหรือเปล่า กัดฟันยิ้ม แล้วป๋าเปรมมองไล่หลังอย่างสมเพช ผมจะเล่าเรื่องป๋าเปรมกับท่านนายกฯให้ฟัง ผมจะเล่าให้ฟัง ป๋าเปรมท่านเป็นรัฐบุรุษอาวุโส เป็นผู้ที่มีคุณูปการต่อแผ่นดิน สมัยท่านอยู่การคอร์รัปชั่นไม่มี แล้วท่านเองไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าชุดไทยเท่ๆ ของท่านเท่านั้นเอง นอกจากนั้นแล้วท่านไม่ต้องการแล้ว บางทีท่านอาจจะเป็นคนชอบร้องเพลง แต่นั่นเป็นเรื่องที่น่ารักไปอีกแบบหนึ่ง ป๋าเปรมแต่ไหนแต่ไรมานายกฯ ทักษิณไม่เคยสนใจป๋าเปรมอยู่แล้ว ไม่เคย จนกระทั่งล่าสุดป๋าเปรมลงไปภาคใต้เพราะป๋าเปรมทนไม่ไหว ทนไม่ไหวที่เหตุการทางใต้มันไม่จบสิ้นเสียที ท่านก็ลงไปเพื่อที่จะไปดำเนินการตามพระราชดำริของพระเจ้าอยู่หัวว่า พระองค์ท่านอยากให้ท่างใต้มีสันติสุข เมื่อพระองค์ท่านอยากให้ทางใต้มีสันติสุขท่านก็ลงไป ท่านก็ไปพูดกับทหาร ท่านบอกท่านว่า ทหารเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นะไม่ใช่ทหารของนักการเมือง ท่านพูด แล้วแถม ผมขอนอกเรื่องแถมนิดได้ไหม ตำรวจก็เป็นตำรวจของประชาชนนะไม่ใช่ตำรวจของนักการเมือง ไม่ใช่ตำรวจของนักการเมือง เพื่อความที่ไม่ลืมกันนะพ่อแม่พี่น้อง พื้นที่ที่เราอยู่ที่นี่อยู่ในเขต สน.ลุมพินี อยู่ภายใต้กองบังคับการตำรวจนครบาลกองบังคับการที่ 5 จำไว้ ผู้การที่คุมกองบังคับการนี้ชื่อ พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์ จำให้แม่น จำให้แม่นๆ คุณโกสินทร์ผมจะไม่มีวันลืมคุณ มีอย่างที่ไหนกำลังมีเรื่องอยู่ข้างนอก ใกล้ๆ ตกเย็นตำรวจคุณจะต้องขอไปกินข้าวเย็น ไม่เป็นไรคุณโกสินทร์คุณสนิทสนมกับยงยุทธ ติยะไพรัช เพราะคุณไปยิงตู้เย็นกับเขาที่ลพบุรี ถ้าคุณคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ปกป้องคุณได้ตลอดชีวิต คุณก็ทำร้ายประชาชนอย่างพวกผมไปเลย แต่ถ้าคุณจะทำงานให้ประชาชน แสดงความจริงใจให้ประชาชนหน่อย ในการชุมนุมครั้งต่อๆ ไปให้เห็นว่าคุณเป็นตำรวจของประชาชน ผมขอแค่นั้นเอง ผมทำไมจะไม่รู้ว่าทุกๆ วันศุกร์ มีการประชุมกันที่ตำรวจนครบาล แล้วใครเป็นประธานรู้ไหม เนวิน ชิดชอบ ธรรมดาแล้ววันนี้ทุกๆ ศุกร์ต้องมีตำรวจจากหลายๆ สน.มาร่วม แต่วันนี้จงใจไม่มีตำรวจ ต่อไปไม่เป็นไร คุณโกสินทร์ขอให้คุณเป็นตำรวจของประชาชนในงวดหน้าต่อๆ ไปแล้วพวกเราจะคารวะคุณ แล้วขอร้องให้กลับไปบอกนายเนวิน ชิดชอบด้วยว่า วิชามารประเภทนี้มาใช้กับผมไม่ได้ เรื่องป๋าเปรมยังไม่จบ จะเล่าเรื่องป๋าเปรมให้ฟัง พอป๋าเปรมลงไปทางใต้บอกว่าทหารนั้นเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่ใช่ทหารของนักการเมือง ต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาใต้ ปรากฏว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งถูกแต่งตั้งเป็นประธานแก้จน วิ่งแจ้นลงไปทางใต้เช่นกัน แล้วน่าตลกมาก ก็คือ เวลานายกฯ ไปอ.อาจสามารถ แก้จนทำไมประธานแก้จนถึงไม่ไป ประธานแก้จนกับไปร่วมกับป๋าเปรมแก้ปัญหาทางภาคใต้ ร.ส.พ.มาประชุมกัน 200 คน ขอให้ผมพูดเรื่อง ร.ส.พ. พวกเราปรบมือให้ รสพ.หน่อยครับ

()

สนธิ - เดี๋ยวผมจะเล่าเรื่อง ร.ส.พ.ให้ฟัง พ่อแม่พี่น้อง มันจวนแล้วนะ ทนอีกนิดหนึ่ง พ่อแม่พี่น้อง ป๋าเปรมเนี่ย ลงไปทางใต้เพราะว่าองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นห่วงเหตุการณ์ทางใต้มาก นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยเป็นประธานแก้ไขปัญหาใต้ ลาออกไปแล้ว กำลังจะทำบทสรุปออกมา ผลการสรุปทุกๆ ฝ่ายที่ลงไป บอกว่าปัญหาใต้นั้นมันเกิดเพราะคนชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทีนี้ตัวเองก็ระแวงไปหมด ตัวเองนี่ระแวงไปหมด ไปไหนมาไหน อย่างนี่ ลงไปอาจฯ พรุ่งนี้ วันจันทร์จะลงไปอาจสามารถ คนล้อมเป็นพัน ลงใต้ทีคนก็ล้อมเป็นพัน นี่เป็นนายกฯ ที่ประชาชนรักหรือไง ก็ไหนบอกมี 19 ล้านเสียง ไม่ใช่เหรอ แล้วมีคนล้อมเป็นพันทำไม ใช่ ไม่ใช่ คุณสโรชา

สโรชา - ค่ะ

สนธิ - ถ้ามี 19 ล้านเสียง ต้องไม่มีคนล้อมเป็นพัน เพราะประชาชนต้องรักหมด ถูก ไม่ถูก ไปไหนมาไหนต้องมี รปภ.เต็มที่ แล้วท่านมาบอก เปิดเทอมมกราคม ท่านบอก ผมไม่เล่นการเมือง ผมไม่สนการเมือง ผมจะทำงานลูกเดียว แล้วไอ้ที่คุณเอาคนลงมานี่คุณเล่นการเมืองหรือเปล่า เห็นหรือยัง คือปากกับใจไม่ตรงกัน พูดวันนี้พรุ่งนี้ลืม พูดพรุ่งนี้มะรืนนี้ลืม พูดจนกระทั่งเป็นนายกฯ ที่ปลิ้นปล้อน ไว้ใจไม่ได้ ไม่เคยสนใจป๋าเปรมเลยแม้แต่นิดเดียว แม้กระทั่งเรื่องราวอะไรก็ตาม จู่ๆ มาบอกว่าเข้าไปพบป๋าเปรมด่วน แล้วก็ให้เหตุผลว่าเพื่อไปอวยพรปีใหม่ป๋าเปรม อ๋อ การเข้าไปอวยพรปีใหม่ผู้ใหญ่นี่ต้องเข้าไปด่วนใช่ไหม แล้วไปทำไมวันที่ 12 ล่ะ หรือ 11 ล่ะ ทำไมไป 12 ทำไมไม่ไปหลังปีใหม่ล่ะ ใครเขาอวยพรผู้ใหญ่กันอย่างนี้ เขามีแต่อวยพรผู้ใหญ่วันที่ 1 วันที่ 2 เขาไม่ไปกันหรอกหลังๆ นั้น ปรากฏว่า สนุกกว่านั้น เมื่อคืนนี้ เมื่อคืนนี้ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูรฯ สั่งไปในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งไปที่ ผบ.เหล่าทัพ บก เรือ อากาศ ให้เอาทหารที่อยู่ระดับรองมาฝ่ายละ 10 หรือ 20 คน มากินข้าวแล้วเชิญนายกฯ ไป เหมือนกับว่าเลี้ยงนายกฯ เพื่อแสดงให้เห็นว่ายังมีความผูกพันกันอยู่ สร้างภาพ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะว่าทุกวันนี้นายกฯ เขาอยากจะปลด พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ใจแทบขาด เพราะว่า พล.อ.สนธิ เป็นทหารของพระเจ้าอยู่หัว ไม่ใช่ทหารของเขา รวมทั้ง พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศคนใหม่ เช่นกัน เป็นทหารของพระเจ้าอยู่หัว ทำไปเพื่ออะไร ในทางลับ ในทางส่วนตัว นายกฯ ชอบพูดกับคนใกล้ชิด ไอ้พวกหมวกแดงจะเล่นผม อ่า รู้ไหมพวกหมวกแดงพวกไหน

สโรชา - คืออะไรคะ

สนธิ - ศูนย์สงครามพิเศษ จะเล่นผม ใครเขาอยากจะเล่นคุณ แปดเปื้อนมือเขาเปล่าๆ เขาเป่าเบาๆ คุณก็ล้มแล้ว คุณไม่ล้มได้อย่างไรล่ะ เกมการเมืองซึ่งคุณจะต้องเอาความจริงมาพิสูจน์ เอาการกระทำมาพิสูจน์ คุณกลับไม่ใช้ คุณกลับใช้ลูกนักเลง ใช้ลูกอันธพาลมากลั่นแกล้งเขา แล้วอย่างนี้มวลชนเขาจะรักคุณได้อย่างไรล่ะ ใช่ไหม วันนี้ถามคนที่อยู่ในห้องนี้ ถามคนที่อยู่ข้างนอกเนี่ย ว่าพวกเราวันนี้โดนรังแกหรือเปล่า เราตอบว่าไง

(เสียงคนดูตอบ)

สนธิ - ผมอยากจะฝากไปถึง พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูรฯ และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ พี่จิ๋วหวานเจี๊ยบ ผมอยากให้คำนึงถึงศักดิ์ศรีของการเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ไว้บ้าง ผมไม่อยากให้นายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่เป็นถึงพลเอก ต้องมาเป็นเบ๊รับใช้นักการเมืองขี้โกง อยากให้ท่านมีศักดิ์ศรี ให้ท่านคำนึงว่าท่านคือทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ป๋าเปรมท่านเป็นประธานองคมนตรี ท่านอายุก็มากแล้ว ท่านรับใช้เบื้องพระยุคลบาท ท่านยังทนไม่ได้ท่านต้องลงไปภาคใต้เพื่อช่วยในหลวงแก้ปัญหา แล้วท่านก็เลยรู้ว่าปัญหาทั้งหมดมันมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียว พ่อแม่พี่น้องผมคิดว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญที่สุด พวกเรานั้น ผมตื่นมาตอนเช้าผมล้างหน้าเสร็จผมมองกระจกผมบอก เฮ้ยสนธิตอบภาษามึงหน่อยซิ ที่มึงทำมึงเชื่อไหมในสิ่งที่ทำ ผมบอกเชื่อโว้ย ถามต่อ มีศรัทธาไหม มีศรัทธาโว้ย แล้วไง เดินหน้ามันต่อไป เพราะฉะนั้นแล้วพ่อแม่พี่น้องผมตื่นมาตอนเช้าผมไม่เคยหวั่นไหวเลยที่บอกว่า ไม่มีคนมาฟังสนธิแล้ว มาฟัง 1 คนผมก็จะพูด ผมจะบอกฝากไปของคนที่ไม่มีเจตนาจะมาก่อกวนแต่ว่าจำเป็นต้องมาโดยไม่ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นท่านซึ่งเป็นผู้นำม็อบลงมาให้ท่านหยุดคิด สูดหายใจลึกๆ แล้วพรรคพวกท่านที่เมายาบ้าหลายคน และเมาเหล้า ให้สูดหายใจลึกๆ แล้วถามตัวเองว่า ทุกอย่างเป็นเรื่องสมมุติใช่ไหม คำตอบคือ มันเป็นเรื่องสมมุติ มันสมมุติอย่างไร มันสมมุติว่า วันนี้คุณมีนายยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นาย คุณมีเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เป็นนาย นี่คือสมมุติ สมมุติที่เขามีอำนาจ คุณคิดเผื่อซิ เผื่อวันที่เขาไม่มีอำนาจแล้วคุณจะอยู่ที่ไหน เพราะฉะนั้นแล้วถ้าคุณจะทำอะไรคุณยังทำทัน ทำเพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน พี่น้องชาวป่าไม้ที่มา ท่านรักษ์ป่าใช่ไหมผมก็รักษ์ป่า แล้วท่านไม่รู้สึกเลยบ้างหรือว่ามีคนเอาป่าดอยสุเทพ 10,000 ไร่ ไปทำเมกะโปรเจกต์ ท่านไม่รู้สึกบ้างหรอ ทีหลังเขาชวนท่านลงมาก่อกวนผม ท่านบอกเขาไปเลยว่า คนที่ควรจะก่อกวนก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะเอาป่าที่สมบูรณ์ 10,000 ไร่ไปทำเมกะโปรเจกต์ที่เชียงใหม่ ถ้าท่านเป็นพี่น้องที่รักษ์ป่า รักแผ่นดินจริงๆ ถ้าท่านรักษ์ป่าท่านไม่ต้องให้ทำลายป่า 10,000 ไร่ตรงนั้นท่านต้องสู้เพื่อเอาคืนให้ได้

สโรชา - คุณสนธิพูดมาตลอดเรื่องการต่อสู้ เรื่องการปฏิรูปทางการเมือง เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตอนนี้เราเห็นแล้วองค์กรที่จะเดินต่อในการปฏิรูปการเมือง และท่านนั้นแกนนำของเราไม่ใช่ใครอื่นใด ขอเรียนเชิญท่าน พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ

สนธิ - ท่านไม่อยู่

สโรชา - อยู่ไหมคะ

สนธิ - ไม่เป็นไรมีเรื่องสุดท้ายจะพูดให้ฟังอีกเรื่องหนึ่ง อยากฟังไหมครับ ปีนี้คือปีจอ ปีจอมันมีความหมายมาก ปีหมา มีความหมายตรงไหนพ่อแม่พี่น้อง ปีนี้ผมอยากผ่าหมาออกจากปากบางคน เรื่องที่สอง ปีจอ เดือน 7 ปีนี้ เมื่อย้อนหลังกลับไปประมาณ 2310 หรือประมาณนั้น

สโรชา - 2308-2310

สนธิ - 2308 แต่พ่อแม่พี่น้องรู้ไหมมันคือเหตุการณ์อะไร เหตุการณ์ชาวบ้านบางระจัน ไอ้พวกเรานี่คือชาวบ้านบางระจันที่แท้จริงนะ นักประวัติศาสตร์รุ่นใหม่เขามองว่ากรุงศรีอยุธยาไม่ได้แตกเพราะแรงข้าศึกนะ ไม่ได้แตกเพราะแรงข้าศึก กองทัพพระเจ้ามังระ ไม่ได้แตกเพราะกองทัพพระเจ้ามังระแต่อย่างใด หากเพราะโครงสร้างการปกครองของกรุงศรีอยุธยานั้น หมดสภาพไปนานก่อนหน้านั้นแล้ว หรือสรุปเป็นภาษาชาวบ้านก็คือว่า ข้างในของอาณาจักรกรุงศรีอยุธยาเละเป็นวุ้นมาก่อนหน้านั้นแล้ว นะฮะ อันนี้น่าสนใจมาก ผมจะกราบเรียนขอให้พ่อแม่พี่น้องระลึกว่า พวกเรานี่เป็นชาวบ้านบางระจันจริง แต่ผมขอยืนยันให้พวกเราทราบก่อน ว่า การที่จะเป็นชาวบ้านบางระจันครั้งนี้ของพวกเรา ชาวบ้านบางระจันยุคดิจิตอล ยุคดิจิตอลนี้ชาวบ้านบางระจันไม่แพ้หรอก ไม่แพ้ เพราะว่าชาวบ้านบางระจันยุคดิจิตอลมันเป็นดิจิตอล มันอยู่ทุกจุดทั่วประเทศไทย มันไม่ใช่นั่งแค่ในห้องนี้ คนทั่วต่างจังหวัดที่กำลังเข้าใจเรา ดูรายการเราอยู่นี่ เข้าใจเราดีมากเลย เมื่อเข้าใจเราดีแล้วเขาเห็นร่วมด้วยกับเรา ท่านนายกฯ ท่านจะไปอาจสามารถ อ.อาจสามารถ ที่ จ.ร้อยเอ็ด วันจันทร์ พ่อแม่พี่น้องรู้ไหม ท่านบินเช้าวันจันทร์ วันจันทร์ผมไปไหน ทราบไหม? ผมไปร้อยเอ็ดเหมือนกัน แต่ผมไปที่บึงพลาญชัย บึงพลาญชัย ท่านนายกฯ ท่านไปที่ อ.อาจสามารถ เพราะว่าท่านถือเคล็ด เพราะอาจสามารถนั้นก็คือ "องอาจสามารถ" ท่านถือเคล็ดคำว่าองอาจสามารถ ผมนี่ไม่ได้ตั้งใจเลย ไม่ได้เตรียมการ ไม่ได้ไปแก้เคล็ดอะไรเลย แต่ว่าครูประมาณแสนคนเขาเชิญผมไป เขาบอกคุณสนธิต้องมาที่บึงพลาญชัย อีก 30 กิโลฯ ห่างจากบึงพลาญชัยนั้นก็คือ อ.อาจสามารถ แต่คุณสนธิไม่ต้องกังวลถึงเขาองอาจสามารถ แต่บึงพลาญชัยคือ "ลานแห่งชัยชนะ"

ขอความกรุณาให้ผมพักสัก 2 นาที เข้าห้องน้ำหน่อยได้ไหมฮะ

สโรชา - แป๊บเดียวค่ะ

สนธิ - เบ็ดเสร็จอีกไม่เกิน 5 นาที กลับมา

สนธิ - ไปเข้าห้องน้ำนานหน่อยพ่อแม่พี่น้อง เพราะว่ามันอัดอั้นตันใจเหลือเกิน มันต้องค่อยๆ ระบาย ระบายทางอารมณ์ ทางคำพูดยังไม่พอ ต้องระบายสิ่งที่เป็นปฏิกูลออกไปด้วย เรามีเรื่องต้องกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องนิดหนึ่ง พวกเราทำงานมา 14 ครั้งแล้ว

สโรชา - 14 ครั้งแล้วค่ะ

สนธิ - 14 ครั้ง เบ็ดเสร็จประมาณ 3 เดือนครึ่ง ประการแรกเรื่องของการโกงกินโกงเก็บแทบจะไม่ต้องพูดแล้ว มันชัดอยู่แล้ว เรื่องที่สองคือเรื่องของ สิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนก็ไม่ต้องพูดแล้วเพราะว่าเราสู้มาตลอดจนทุกวันนี้เราก็สู้ เราเหลือค้างอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องปฏิรูปทางการเมือง ปฏิรูปทางการเมืองเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับพวกเรา คือผมไม่อยากให้ทางรัฐบาลและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคพวกที่ใกล้ชิดเขามาประเมินพวกเราผิดไปว่าพวกเราเป็นแค่คนซึ่งสนุกกับการปรบมือเพียงอย่างเดียว ปรบมือ เป่าปาก และตะโกน ผมคิดว่ามันถึงเวลาแล้ว ผมขอเรียนเวลาให้ฟังนิดนะครับ ผมต้องเรียนล่วงหน้าไว้ว่า วันที่ผมได้กำหนดว่าผมจะไปยื่นจดหมายถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ผ่านท่านไปถวายฎีกา คือวันที่ 27 มกราคม วันศุกร์ วันศุกร์ที่ 27 มกราคม เราจะแจ้งให้ทราบอีกทีหนึ่งว่าเราจะจัดเมืองไทยรายสัปดาห์ที่ไหน อาจจะเป็นที่ที่สามารถจะ ถ้ามีใครสนใจร่วมขบวนเราที่จะเดินไปยังบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เพื่อยื่นจดหมาย อยากจะให้พ่อแม่พี่น้องที่อยู่ข้างนอกมาร่วมด้วย แต่วันนี้มีเรื่องราวที่เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญมากเรื่องหนึ่ง ซึ่งผมอยากจะเชิญท่าน พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ นายตำรวจของประชาชน ขึ้นมากล่าวอะไรกับพวกเราเล็กน้อยในเรื่องของการดำเนินการต่อไปในวันนี้ เชิญครับ

ประทิน - ครับ ขอบคุณคุณสนธิครับ และผมขอเรียนว่า ผมขอยกย่อง ขอยกย่องและสรรเสริญคุณ เป็นผู้ที่มีความกล้าหาญ จิตใจเด็ดเดี่ยว แน่วแน่ ในเรื่องที่จะให้ความรู้กับประชาชน ผมขอขอบคุณ คนดีในบ้านเมืองมีมากครับ แต่คนกล้ามีน้อย ผมต้องขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่อยู่ในห้องนี้และข้างนอก และที่กำลังรับฟังวิทยุ 92.25 ผมเรียนประชาชนได้เลยว่า ผมพร้อมที่จะร่วมมือกับประชาชนในการขจัดคนไม่ดี โดยเฉพาะผู้ที่มีหน้าที่ในการบริหารบ้านเมือง คนเหล่านี้รับอาสาเข้ามาเพื่อบริหารบ้านเมือง ต้องทำให้บ้านเมืองให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีความเจริญ ไม่ใช่มาโกงบ้านโกงเมืองครับ เวลานี้สิ่งที่ผมมีความคิดและเห็นว่านายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ด้วยเรื่องสำคัญดังนี้ครับ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2548 ท่านได้พูดต่อหน้าแท็กซี่ประมาณ 7-8 พันคน ทุกคนคงได้ยินแล้ว นะครับ ในการเอาผีมาเปรียบเทียบกับสถาบัน และพูดคำว่า "วะ" ต่อท้าย เป็นคำพูดที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง และไม่สมกับที่คนที่เป็นนายกฯ จะพูดอย่างนั้น ในหลวงของเรา เรารักและเทิดทูน ในหลวงของเราได้ทำให้ประเทศชาติรอดพ้นจากภยันตรายมากี่ครั้งแล้วครับ พระองค์ท่านเป็นศูนย์รวมจิตใจของพสกนิกรทั้งประเทศ ใครก็ตามที่ไม่ปฏิบัติตามพระราชดำรัสแล้ว ยังมีจิตใจที่ไม่จงรักภักดี จะต้องมีอันเป็นไปครับ คอยดู

(คนดูตะโกน "ออกไปๆๆๆๆ"")

ประทิน - คำพูดของท่านนายกฯ ที่พูดต่อหน้าผู้ขับขี่แท็กซี่ในวันนั้น นายกฯ ต้องพิจารณาตนเองแล้วครับ

(คนดูตะโกน "ออกไปๆๆๆๆ")

ประทิน - ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่งครับ ผี เป็นสิ่งที่ต่ำช้ามาก เอามาเปรียบเทียบไม่ได้ การพูดอย่างนั้นเป็นการแสดงออกนะครับ เป็นการแสดงออกที่ไม่สมควรนะครับ ประชาชนในที่นี้และข้างนอก และผู้ที่รับฟังรายการคุณสนธิอยู่ ต้องการทำอะไรผมร่วมมือเต็มที่ครับ ท่านต้องการให้ทำอะไรขอให้บอกมาเลยครับ

สนธิ - ผมขออนุญาตเสนอได้ไหมครับ

ประทิน - เราต้องมีวิธีการว่าจะทำอย่างไร ทำด้วยความสงบสุข ทำให้ไม่ต้องมีเลือดตกยางออก ถ้าท่านนายกฯ ฟังผมอยู่ในขณะนี้ หรือไม่ได้ฟังก็ตาม ถ้าได้ยินที่ผมพูดในวันนี้ท่านควรที่จะต้องลาออกอย่างยิ่ง

สนธิ - ท่านพ่อแม่พี่น้องครับ กราบขอบพระคุณท่าน พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ครับ ขออนุญาตพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ข้างใน ข้างนอก ผมขอเสนออย่างนี้แล้วกัน คือไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วเราน่าจะแสดงสัญลักษณ์ให้รัฐบาลชุดนี้เห็นเสียหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เขาอุตส่าห์ส่งของขวัญจากภาคเหนือมาให้เราวันนี้ พวกเราน่าจะมอบของขวัญคืนให้เขาที่ทำเนียบรัฐบาลกัน โดยที่เดี๋ยวจะให้ท่านประทิน สันติประภพ แล้วผมก็คงจะไปด้วย ไปที่ทำเนียบรัฐบาลกันแล้วให้ของขวัญเขาให้เขาออกไป ไปกันอย่างสงบ ไปกันอย่างมีระเบียบเรียบร้อย อย่างอหิงสา แล้วก็ไประบาย ไปเห่าหอนกันข้างๆ ทำเนียบ คือถ้าผมไม่ไปด้วยผมก็หมา ผมเป็นหมาอยู่แล้วแต่จะเป็นหมาขี้เรื้อน นี่คือส่วนหนึ่งของการปฏิรูปทางการเมือง การจะไปต้องมีระเบียบเรียบร้อยนิดหนึ่ง เชิญคุณประพันธ์มาแนะนำพวกเรานิดหนึ่ง แต่ผมยืนยันว่าผมไปด้วย ผมยืนยันว่าผมไปด้วย

ประพันธ์ คูณมี - สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่เคารพรัก เป็นที่แจ้งชัดแล้วว่า ท่าน พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ท่านพร้อมยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้องประชาชน คุณสนธิลิ้มทองกุล และคณะ พร้อมจะยืนหยัดกับพี่น้องประชาชน ผมเข้าใจว่าพี่น้องประชาชนคงได้ฟังท่านประทิน พูดแล้วครับว่า บ้านเมืองมีคนดีมากแต่คนกล้ามีน้อย แต่อย่างน้อยวันนี้คนกล้าทั้งหลายได้มาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าท่านแล้วครับ ผมจึงอยากจะขอรบกวนเวลานิดเดียวเพื่อแนะนำพี่น้องประชาชนให้เข้าใจว่า การที่เราจะต่อสู้เรียกร้องให้เขาออกไปนั้นถือว่าเป็นภารกิจยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์ จำต้องมีคณะบุคคลที่จะเป็นผู้นำของพี่น้องประชาชน ที่พี่น้องศรัทธาและไว้วางใจได้ วันนี้เรามีนายตำรวจ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ เป็นนายตำรวจที่ตงฉินเพื่อขับไล่ พ.ต.ท.ที่เป็นตำรวจกังฉินออกไปจากบ้านเมืองครับ เรามี น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ คนที่ทำงานรับใช้แผ่นดิน และโค่นล้มรัฐบาลชั่วมาทั้งชีวิต ปรากฏตัวด้วยครับ เรามีคุณกล้านรงค์ จันทิก ซึ่งเป็นผู้ที่ต่อสู้กับการทุจริตโกงกินมาตลอด เรามีพี่คณิน บุญสุวรรณ ที่เป็นนักต่อสู้ นักประชาธิปไตย และผู้พิทักษ์รัฐธรรมนูญทั้งชีวิต ครับ แล้วเรายังมีนักวิชาการครับ ดร.วุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ คนที่มีความรู้ดีเด่นของประเทศครับ และในที่นี้ยังมีคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ก็พร้อมจะไปกับเราครับ ยังมีอีกหลายท่านนะครับ ดร.อเนก เหล่าธรรมทัศน์ ก็มาแล้วก็พร้อมจะไปกับเราครับ เป็นนักการเมืองหนุ่มที่มีอนาคตครับ และยังมีท่านอมรินทร์ คอมันตร์ อีกท่านหนึ่งครับ นอกจากนั้นนายทหาร นายตำรวจ อีกหลายท่านนะครับ คุณการุณ ใสงาม ส.ว.นักต่อสู้เพื่อประชาชนครับ เพราะฉะนั้นพี่น้องครับ เราจะเคลื่อนขบวนออกจากที่นี่นะครับ โดยขณะนี้หน่วยรักษาความปลอดภัยของประชาชนนะครับ และอาสาสมัครที่นะร่วมเดินกับพวกเรา ได้เตรียมตั้งรถและขบวนไว้ข้างหน้าหอประชุมแห่งนี้แล้ว เพราะฉะนั้นเราจะเคลื่อนขบวนไปโดยสงบๆ เพื่อจะบอกให้ทักษิณรู้ว่า หมดเวลา หมดความชอบธรรมที่จะบริหารบ้านเมืองแล้ว ประชาชนแสดงสิทธิเสรีภาพโดยสงบ คุณคุกคามเข่นฆ่า ปราบปราม เข้ามาก่อกวนพวกเราถึงถิ่น พวกเราจึงต้องแสดงศักยภาพให้เขาเห็นว่า คุณไม่มีความชอบธรรมที่จะปกครองบ้านเมืองครับ ทักษิณต้องออกไปๆๆ (คนดูตะโกนด้วย) เพราะฉะนั้นพี่น้องในห้องประชุมและที่อยู่นอกห้องประชุม วันนี้เราขอความร่วมมือพวกเราทุกท่าน ขอให้เคลื่อนออกไปอย่างสงบๆ โดยภายใต้การนำของบุคคลที่ผมกล่าวนามมานี้ เพื่อแสดงว่าพวกเราที่มาทั้งหลายนี้ ไม่ต้องการรัฐบาลโกงบ้านกินเมืองใช่ไหมครับ เพราะฉะนั้น ขบวนรถที่อยู่ข้างหน้า และพวกเรา ขอให้ค่อยทยอยตามผู้นำที่มีความยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เหล่านี้โดยพร้อมเพรียงกันครับ ขอเชิญครับ

>
คลิกเพื่ออ่านช่วงที่ 2

กำลังโหลดความคิดเห็น