คลิกที่ไอคอน Multimedia ด้านบนเพื่อรับชมและฟัง ในรูปแบบ Photo Slide Show
1. สมเด็จพระเทพฯ เสด็จเยือนกัมพูชา ทรงเป็นประธานพิธีเปิด “ร.ร. กัมปงเฌอเตียล”
ระหว่างวันที่ 10-11 พ.ย. ที่ผ่านมา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน เยือนประเทศกัมพูชาอย่างเป็นทางการ เนื่องในวโรกาสทรงเป็นประธานในพิธีเปิดโรงเรียนกัมปงเฌอเตียล ที่เมืองปราสาทซัมโบ จังหวัดกัมปงธม ที่ก่อสร้างด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อทรงตอบแทนหลังเสด็จฯไปศึกษาศิลปะและวัฒนธรรมของประเทศกัมพูชาหลายครั้งและเพื่อความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศสืบไป สำหรับโรงเรียนแห่งนี้เปิดสอนทั้งภาคการศึกษาปกติและการอาชีวะศึกษาให้แก่นักเรียนชาวกัมพูชา ในปัจจุบันมีนักเรียนเข้าศึกษาในภาคปกติทั้งหมด 885 คน และระดับอาชีวะ 314 คน ด้านนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวว่า มีความรู้สึกปลาบปลื้มใจในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมทั้งกล่าวว่า โรงเรียนแห่งนี้เป็นสถานศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ ภายในโรงเรียน นอกจากตึกอาคารเรียน และอุปกรณ์การศึกษาทางเทคโนโลยีแล้ว ยังมีสนามกีฬา สวนปลูกผัก บ่อน้ำสะอาด บ่อเลี้ยงปลา สำหรับใช้ในการศึกษาภาคปฏิบัติต่างๆ อีกด้วย
'ฮุนเซน' ปลื้ม สมเด็จพระเทพฯ เสด็จเปิดโรงเรียน
2.ทรท.อุ้ม“ทักษิณ”ส่งส.ส.แจ้งจับ“สนธิ”หาหมิ่นเบื้องสูง
หลังจาก นายสนธิ ลิ้มทองกุลผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ นำภาพที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีนั่งเป็นประธานในพิธีทำบุญประเทศเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2548 ภายในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามหรือวัดพระแก้ว โดยนั่งล้ำในตำแหน่งที่ล้ำหน้ำพระราชอาสน์ พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงความไม่บังควรที่กระทำการดังกล่าวเพราะถือภายในอุโบสถวัดพระแก้วนั้นมีเพียงพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นผู้ใหญ่เท่านั้น ล่าสุดได้มี ส.ส.พรรคไทยรักไทยอย่างน้อย 2-3 คนได้ออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ โดยล่าสุดได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามให้ดำเนินคดีข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกับ นายสนธิ และ น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ และหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน กล่าวหาว่านำเอาภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณมาเปรียบเทียบกับพระเจ้าอยู่หัวทำให้ประชาชนเข้าใจผิด
สำหรับความเคลื่อนไหวดังกล่าวแล้ว พรรคไทยรักไทยยังเคลื่อนไหวกดดันจะดำเนินคดีและสั่งปิดสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี โดยเห็นว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย ยังไม่มีการขอนุญาตถูกต้อง นอกเหนือจากนี้ยังมีความเคลื่อนไหวโจมตี นายสนธิ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคอีสาน เช่นที่จังหวัดนครราชสีมาได้มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งได้ตระเวนติดแผ่นป้ายมีข้อความโจมตีนายสนธิด้วยถ้อยคำหยาบคายติดอยู่ทั่วเมือง อย่างไรก็ดี นายสนธิ กล่าวว่าถือเป็นเรื่องปกติ ของการต่อต้านของฝ่ายตรงข้ามซึ่งเริ่มหวั่นไหวต่อการที่ประชาชนเริ่มรู้ความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ
วิชามารแผลงฤทธิ์ ทรท.ขู่จับ-เปิดโปง “สนธิ” สัปดาห์หน้า
“อภิสิทธิ์” ชี้แจ้งจับ “สนธิ” แค่ขู่ปิดปาก-เตือน “ทักษิณ” เลิกปิดกั้น
จับเท็จ! วันทำบุญวัดพระแก้วยังไม่มีพระบรมราชานุญาต
ทรท.ป้อง “ทักษิณ” แจ้งจับ “สนธิ” บ่ายนี้ข้อหาหมิ่นเบื้องสูง-ปลุกระดม
3.ศาลปกครองเลื่อนชี้ขาดไต่สวนฯระงับแปรรูป กฟผ.15 พ.ย.
การต่อต้านการขายรัฐวิสาหกิจการไฟฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะจากประชาชนที่เห็นว่าเป็นการขายสมบัติของชาติไปให้นายทุน ซึ่งตามขั้นตอนแล้วทางรัฐบาลเตรียมนำเข้ากระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.นี้ อย่างไรก็ดีกลุ่มองค์กรประชาชนได้นำเรื่องดังกล่าวเข้ายื่นต่อศาลปกครองสูงสุดเพื่อให้มีการใต่สวนฉุกเฉินให้ระงับการซื้อขายหุ้นกฟผ.เป็นการชั่วคราว โดยศาลฯได้นัดชี้ขาดในวันที่ 15 พ.ย.จากเดิมที่กำหนดเอาไว้วันที่ 9 พ.ย.โดยระบุว่าต้องรอคำชี้แจงจากรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก่อน
ที่ผ่านมาพลังในการต่อต้านการแปรรูปกฟผ.เริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆหลังจากที่รัฐบาลใช้วิธีหยิบยื่นผลประโยชน์ในด้านซื้อหุ้นราคาถูกให้กับพนักงานพร้อมทั้งเพิ่มสวัสดิการต่างๆจำนวนมาก อย่างไรก็ดีหลังจากที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล และหนังสือพิมพ์ผู้จัดการได้มาเน้นในการนำเสนอดังกล่าวโดยชี้ให้เห็นถึงผลกระทบที่จะตกกับประชาชนในอคาคตทั้งเรื่องค่าไฟแพง ต้องสูญเสีย กฟผ.ซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติของประชาชนทุกคนไปให้กับนายทุนเพียงกลุ่มเดียวทำให้สังคมเริ่มเข้าใจและหันมาต่อต้านมากขึ้นทุกที
ศาลยืดชี้ขาดไต่สวนฉุกเฉิน กฟผ.เข้าตลาด 15 พ.ย.นี้
องค์กร ปชช.ยื่นศาลปกครองสกัดขายหุ้น กฟผ.-ลุ้นชี้ขาดเย็นนี้
“ชาติไทย” เบรกแปรรูป กฟผ. เกรงไม่โปร่งใส
4.คตง.ไม่คืนเก้าอี้“จารุวรรณ”-เลือกสรรหาผู้ว่าฯสตง.ใหม่
ในที่สุดคณะกรรมการการตรวจเงินแผ่นดิน(คตง.) ก็ได้เลือกหนทางในการในการสรรหาผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) โดยไม่คืนเก้าอี้ให้กับคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑะกา ตามความคาดหมาย อย่างไรก็ดีการที่ คตง.ได้เลือกใช้วิธีการสรรหาใหม่ทำให้มีเสียงท้วงติงกันอย่างกว้างขวางว่าจะสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นซ้ำรอยเดิมเหมือนกรณีที่เคยเกิดขึ้นในกรณีที่มีการเสนอชื่อ นายวิสุทธิ์ มนตริวัต ขึ้นเป็นผู้ว่าสตง.คนใหม่ แต่ในที่สุดก็ไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯลงมาหลังจากผ่านไปนานกว่า 100 วัน
อย่างไรก็ดีแม้ว่าจะเริ่มมีการสรรหาผู้ว่าฯสตง.คนใหม่แล้วก็ตามเค้าลางแห่งความยุ่งยากก็เริ่มเกิดขึ้นแล้ว เมื่อบรรดา ส.ว.หลายคนก็ได้ประกาศบอยคอตไม่เข้าร่วมประชุมเพื่อพิจารณาเลือกผู้ว่าฯสตง.ที่ผ่านการสรรหาจากคตง.เสร็จสิ้นแล้ว โดย ส.ว.บางคนนอกจากไม่เข้าร่วมแล้วยังประกาศแต่งชุดดำเพื่อประท้วงด้วย
มติ คตง.ไม่คืนเก้าอี้ “จารุวรรณ” เดินหน้าสรรหาผู้ว่าฯ สตง.คนใหม่
“แก้วสรร” แนะวุฒิฯ ลงมติชี้ขาดสถานะ “จารุวรรณ” ผ่าทางตัน
รายงานพิเศษ : ตื่นเถิด คตง. ...โอกาสสุดท้ายแล้ว!
5.ม็อบครูผิดหวังครม. เตรียมล่ารายชื่อถวายฎีกา
ประเด็นการคัดค้านถ่ายโอนโรงเรียนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท. เป็นอีกประเด็นร้อนที่ได้รับความสนใจจากประชาชนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเมื่อเช้าตรู่วันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา มีม็อบครูจากทั่วประเทศประมาณ 1 หมื่นคน ได้ร่วมชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยแกนนำผู้ชุมนุมได้สลับกันขึ้นเวทีปราศรัยแสดงเหตุผลถึงการคัดค้านการถ่ายโอนสถานศึกษาให้ อปท. โดยตั้งคำถามถึงรัฐบาลว่าการถ่ายโอนการศึกษาให้ อปท. เด็ก ชาวบ้าน ครู และประเทศชาติ ได้อะไร รวมทั้งหวั่นเกรงว่าจะทำให้โรงเรียนไม่มีมาตรฐาน และส่งผลกระทบต่อการศึกษาในระยะยาว เนื่องจาก อปท. หลายแห่งยังไม่มีความพร้อม พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งระหว่างที่ปักหลักปราศรัยอยู่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลนั้น 2 ตัวแทนครูได้กรีดเลือดที่แขนและตัวแทนครูอีก 6 คน โกนหัวเพื่อประท้วง พร้อมระบุว่า จะมีผู้โกนหัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกว่านายกรัฐมนตรีจะลงมารับหนังสืง ในเวลาต่อมา นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศธ. ได้เดินทางมาพบแกนนำครูเพื่อรับหนังสือ และบอกว่าหลังประชุมครม.นายกฯ จะต้องเดินทางไปต่างประเทศ จึงไม่สามารถมาพบกับกลุ่มครูได้ จึงฝากให้ตนเองมาพบและรับหนังสือแทน โดยรับปากว่าจะนำหนังสือไปมอบให้นายกฯ เพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป ซึ่งหลังการประชุมครม.เสร็จสิ้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ครม.มีข้อยุติเรื่องการโอนย้ายครูฯ ให้เป็นไปในลักษณะของความสมัครใจ มี 2 ระดับ คือ ระดับสถาบันหรือตัวโรงเรียนนั้นๆ กับระดับผู้บริหาร หรือครู ถ้าทั้ง 2 ฝ่ายสมัครใจ และ อปท.พร้อมจะรับ โดยต้องผ่านการประเมินจากศธ. ถ้าโรงเรียนไหนยังไม่พร้อมจะไม่ไปก็ได้ ซึ่งช่วงแรกให้เป็นเรื่องความสมัครใจไปก่อน ถ้ามีความสมัครใจ รัฐบาลพร้อมโอนงบฯให้ท้องถิ่นนั้นๆ ด้านกลุ่มครูหลังทราบมติ ครม.แล้ว ก็แสดงความไม่พอใจต่อรัฐบาล โดยระบุว่า จะมีการเตรียมรายชื่อของครู ผู้ปกครองและประชาชน ภายในวันที่ 9-14 พ.ย.48 เพื่อนำทูลเกล้าถวายฏีกาคัดค้านการถ่ายโอนสถานศึกษาแก่อปท.ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งขู่รัฐบาลว่า หากมีเหตุอันจงใจของรัฐบาลที่จะทำให้เกิดการถ่ายโอนฯ ทางกลุ่มครูจะนัดชุมนุมใหม่ที่กรุงเทพฯ จำนวนไม่น้อยกว่า 1 แสนคน ก่อนจะสลายการชุมนุมไปในเวลาต่อมา
ครูเมินลมปาก"แม้ว" ล่ารายชื่อถวายฎีกา
“คณิน” ตอกชัด!! โอนครูไปท้องถิ่นผิดกฎหมาย
“แม้ว” ย้ำชัดถ่ายโอนโรงเรียนต้องสมัครใจเท่านั้น
ครูเดินหน้าเคลื่อนไหวในพื้นที่ล่าชื่อถวายฏีกา ยันหยุดสอนเป็นมาตรการสุดท้าย
ครูกรีดแขนหลั่งเลือดคัดค้านถ่ายโอนร้องนายกฯ มารับหนังสือ
"พ.ต.อ.วิสุทธิ์" ไม่กลัว วัฒนา เดินหน้าวิจารณ์มาตรการตรวจม่านรูดต่อ
ได้ฮือฮากันอีก สำหรับไอเดีย ของนายวัฒนา เมืองสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หลังจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เตรียมออกมาตรการตรวจบัตรประจำตัวประชาชนผู้ใช้บริการม่านรูดช่วงเทศกาลวันลอยกระทง เพื่อเฝ้าระวังปัญหาเด็กและเยาวชนที่เสียตัวมากในช่วงเทศกาลดังกล่าว โดยนายวัฒนา บอกว่า จะร่วมกับทางศูนย์สวัสดิภาพเด็ก เยาวชน และสตรี หรือ ศสด.ส่งเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจที่หน้าโรงแรมม่านรูดทุกแห่งในคืนวันลอยกระทง พร้อมส่องไฟสปอตไลต์ขอตรวจบัตรประชาชน โดยเชื่อว่า จะทำให้การเสียตัวในวันลอยกระทงน้อยลงได้ พร้อมกันนี้ยังฝากขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการโรงแรมม่านรูดให้รักและนึกถึงสังคมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว เนื่องจากผลวิจัยชี้ว่าโรงแรมม่านรูดเป็นสถานที่เสี่ยงต่อการเสียตัวมาก แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ พ.ต.อ.วิสุทธิ์ วานิชบุตร รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเยาวชน เด็ก และสตรี ได้ออกมากรณีวิพากษ์วิจารณ์ความคิดข้างต้น ส่งผลให้ นายวัฒนาไม่พอใจเป็นอย่างมาก และได้ให้ปลัดกระทรวงยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและพล.ตร.อ ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน พล.ตร.อ.วิสุทธิ์ ฐานการกระทำผิดวินัยราชการ แต่ พ.ต.อ.วิสุทธิ์ ก็ไม่หวั่นเกรงแต่อย่างไร ยังคงออกมาตอบโต้นายวัฒนา อย่างรุนแรง โดยยืนยันว่า การแสดงความเห็นดังกล่าวมีสิทธิในฐานะเคยดูแลแก้ปัญหานี้มาก่อน และไม่วิตกหากถูกตั้งกรรมการสอบ เพราะเชื่อว่าข้าราชการสามารถแสดงความเห็นต่างจากรัฐมนตรีได้ เพื่อประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาสังคม และหากรู้สึกว่าถูกกลั่นแกล้งรังแกก็ยังมีสถาบันที่พึ่งได้ เช่น ศาลปกครอง หรือถวายฎีกา
“วัฒนา” ฉะ “รองฯ วิสุทธิ์”อย่ามาอ้างทำเพื่อส่วนรวมปกป้องสิทธิของทุกคน
มท.1 รับลูก "วัฒนา" ยันเดินหน้าตรวจบัตรก่อนเข้าม่านรูด
7. รถไฟฟ้า 4 เส้นทางส่อแววอืดอีก
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึง สาเหตุที่กระทรวงคมนาคมไม่ได้นำเรื่องโครงการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน เฟสแรก 4 เส้นทางคือ สายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) สีน้ำเงิน (หัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ) สีแดงเข้มและแดงอ่อน (รังสิต-มักกะสัน-สุวรรณภูมิ เข้าที่ประชุมวันที่ 8 พฤศจิกายน 2548 เนื่องจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลงานกระทรวงคมนาคม ต้องการที่จะให้คณะกรรมการกลั่นกรองฯ ได้พิจารณาโครงการดังกล่าวอย่างรอบครอบเสียก่อน ส่วนจะมีการพิจารณาและนำเสนอ ครม.อีกเมื่อไรนั้น ขึ้นกับรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้การก่อสร้างโครง การดำเนินการและเปิดให้บริการมีความล่าช้าลงไป จากเดิมที่คาดว่าสายแรกคือสีม่วง จะเปิดใช้ได้ภายในปี 2552
เผยโครงการรถไฟฟ้า 4 เส้นทางส่อแววล่าช้าออกไปอีก