สโรชา - นะคะ กลับมาตอบคำถามกันค่ะช่วงสุดท้าย
สโรชา - ตอบคำถามกันค่ะ มีเข้ามาเยอะ ขออนุญาตกรองสักนิดนะคะ มีคำถาม ความคิดเห็นดีกว่า จากทางบ้านนะคะ จากอยุธยา - จุดเทียนนานๆ ลวกมือตัวเอง ขอเปลี่ยนเป็นดอกไม้จันทน์ได้ไหม ได้ไหมคะคุณสนธิ / เรียนคุณสนธิค่ะ คุณสนธิทราบหรือไม่ว่ามีการกว้านซื้อซีดีจากทางไทยรักไทยทุกครั้งที่วางแผง
สนธิ - ก็เป็นไปได้สูงครับ ด้วยเหตุนี้ ทั้งๆ ที่เรา อาทิตย์หนึ่งทำออกไป 50,000 แผ่น มีอยู่หลายที่บอกว่าหาซื้อไม่ได้ นะครับ ผมก็เลยต้องเรียนให้พวกเราทราบว่า พวกเราต้องช่วยกัน เอาไปแล้วก็เอาไปขายให้พรรคพวก หรือว่า วันนี้ที่ให้ไปเอาไปแจกกันดูนะฮะ คือจริงๆ แล้ว สิ่งที่ผมขอคืนนี่ผมไม่ได้ขออะไรมาก ถ้าคิดว่าสิ่งที่ผมทำนั้นมันเป็นภยันตรายที่จะมาถึงตัวผมแล้วผมกล้าทำ ผมขอแรงพวกเรา เพียงแค่นี้ ขอเพียงแค่นี้ ไม่ได้ขออะไรมากกว่านั้นนะครับ ว่าถ้าผู้ใดต้องการที่จะรับซีดีไปแล้วไปขายต่อในราคาที่ถูกนะครับ เพียงเพื่อจะให้มีการกระจายไปมากๆ แล้วก็เอาไปเลยนะฮะ เอาไปก่อนนะฮะ แล้วพอครั้งที่ 2 มารับครั้งที่ 2 ก็เอาเงินครั้งที่ 1 มาคืนนะฮะ บางคนอาจจะชักดาบไปก็ไม่ว่ากันนะฮะ ก็ต้องทำใจกันไปแล้วล่ะว่าเราเป็นพลังที่บริสุทธิ์ไม่จริง ก็ต้องยอมรับกันไปนะฮะ แต่ว่าเราต้องมีความศรัทธา ความเชื่อมั่น เมื่อคุณมีความศรัทธา ความเชื่อมั่นกับผม ผมก็ต้องมีความศรัทธา ความเชื่อมั่นกับพวกท่านเช่นกันนะครับ
สโรชา - คำถามเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อคืนนะคะที่ระเบิดที่ผู้จัดการ เป็นภาษาอังกฤษนะคะ ถามว่า The incident that occured today, what are you going to do, how are you going to fight back and will you fight back with peace or violence? คุณสนธิคะ
สนธิ - ก็คือ คุณสโรชาแปลให้หน่อยสิ ผมไม่ค่อยเก่งปะกิตเหมือนคุณอ่ะ
สโรชา - เหตุการณ์เมื่อคืนนี้จะทำอย่างไรคะ จะต่อสู้กลับอย่างไร จะต่อสู้ด้วยวิธีการสันติหรือจะต่อสู้ด้วยความรุนแรง
สนธิ - ก็คงจะเดินหน้าพูดความจริงต่อไปนะครับ คือ บัณฑิตกับอันธพาลนี่ มันต่างกันตรงนี้ บัณฑิตเอาเหตุผลและความจริงเข้าว่า แล้วก็มานั่งถกกันว่า ของคุณถูกหรือของผมผิด นะครับ แล้วก็ใช้เหตุใช้ผล ใช้หลักธรรมเข้าว่า ใช้ข้อเท็จจริง ใช้หลักธรรม ใช้ธรรมพระพุทธเจ้าเข้าว่า เอาธรรมนำหน้าไม่มีวันผิด แต่อันธพาลนี่จะมีอัตตา ตัวกู ของกู สูง เมื่อตัวกูของกูสูงแล้ว ถ้ามึงไม่ใช่พวกกู กูก็ไม่ช่วยมึง ในทำนองนั้น เมื่ออันธพาลแล้ว ถ้ามึงมาว่ากู กูก็ใช้อำนาจกูไปทุบตีมึง เข้าใจไหมฮะ เพราะฉะนั้นแล้ว ผมเคยพูดมาตลอดว่า ธรรมะ กับอธรรม ในประวัติศาสตร์มาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว การสู้ระหว่างธรรมะกับอธรรมนั้น ธรรมะจะแพ้ในตอนแรก ไม่เคยมีครั้งไหนในการต่อสู้ที่ธรรมะชนะทันที ไม่มี ต้องแพ้ก่อน ต้องแพ้เสียก่อนแล้วค่อยชนะได้ คือจริงๆ แล้วในที่สุดแล้ว ถ้าธรรมะมีศรัทธา ความเชื่อมั่น แล้วยืนให้ตรง ยืนให้แม่น ยืนให้มั่นแล้ว อธรรม อธรรม-ธรรมะ ต่างกันตรงไหน อธรรมนี่พูด 10 ครั้ง ไม่เหมือนกันทั้ง 10 ครั้ง ธรรมะ พูดครั้งหนึ่งแล้วพูดต่ออีกพันครั้ง ก็จะเหมือนกันทั้งพันครั้ง เพราะว่าธรรมะใช้สัจจะ ซึ่งทางธรรมนั้นถือมากในเรื่องสัจจะ ว่าคำไหนต้องคำนั้น ธรรมะใช้พรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ธรรมะใช้มหาสติปฏิฐาน 4 คือ การมีสติสัมปชัญญะ การรู้ตัวเอง ธรรมะใช้มรรคองค์ 8 สัมมาอาชีวะ สัมมาวาจา แต่อธรรมมันไม่ใช่อะไรเลย นะฮะ อธรรมมันจะใช้ความชั่วร้าย มันจะใช้เวทย์มนต์คาถา มันจะใช้อะไรก็ตามที่มันมีอำนาจอยู่ในมือ แล้วมันก็ปิดหูปิดปากคน เพราะฉะนั้นแล้วผมก็ต้องเดินหน้าต่อด้วยธรรมะ ไม่หยุดหรอกครับ
สโรชา - ถามว่านายกฯ ทักษิณไม่ไว้ใจทหารบกแล้วหรือ เห็นมีแต่ทหารอากาศห้อมล้อมตลอด
สนธิ - คือ ท่านนายกฯ ท่านแพ้คนชื่อ สนธิ คนหนึ่งคือสนธิ ลิ้มทองกุล อีกคนคือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ทีนี้มาสนใจสนธิ ลิ้มทองกุล มากจนเกินไป โดยท่านลืมนึกถึง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน คือท่านผู้บัญชาการทหารบกคนนี้ และท่านผู้บัญชาการทหารบกคนที่แล้ว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทั้ง 2 ท่าน น่าสนใจมาก วันที่ได้รับแต่งตั้ง พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นผู้บัญชาการทหารบก ทั้งคู่พูดเลยว่า ทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ความไว้วางใจกระผมให้เป็นผู้บัญชาการทหารบก ผมเป็นผู้บัญชาการทหารบกเพื่อรับใช้ชาติและราชบัลลังก์ ไม่ใช่รับใช้นายกฯ เพราะฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ชัดว่า ตั้งแต่ท่านพล.อ.สนธิ ขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการทหารบกครั้งนี้ ท่านมุ่งมั่นทำแต่เรื่องภาคใต้ แก้ไขปัญหาต่างๆ ท่านมุ่งมั่นเข้าไปปรึกษาหารือกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในเรื่องนโยบายขอชาติ มุ่งมั่นไปหา พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ หลายๆ อย่าง แล้วก็ไม่สนใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะฉะนั้นแล้วท่านนายกฯ ท่านมาสนใจสนธิผิดคน สนธิ ลิ้มทองกุล คนนี้อหิงสาลูกเดียว แต่อีกสนธิผมไม่รับประกันนะครับ
สโรชา - อันนี้น่าสนใจนะคะ เป็นกระดาษที่ปรินท์ตัวเลขมาจากเว็บไซต์ของเซทเทรดดอทคอม
สนธิ - ของตลาดหลักทรัพย์
สโรชา - ของตลาดหลักทรัพย์นะคะ แล้วจะเป็นรายละเอียดของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และจะมีรายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ๆ โดยที่รายใหญ่สุดแน่นอนเป็นกระทรวงการคลัง แต่ที่คุณผู้ชมได้ไฮไลต์ให้เราได้เห็น ก็คือ จำนวนหุ้นที่ถืออยู่ เป็นจำนวน 48.55 เปอร์เซ็นต์
สนธิ - บวก 2 อันครับ
สโรชา - ถัดลงมาก็จะมีอีกอันหนึ่ง
สนธิ - 51 หรือ 52 เปอร์เซ็นต์ รวมแล้ว
สโรชา - ค่ะ ถามว่า ก่อนไอพีโอต่อประชาชนรัฐบาลถือหุ้น ปตท. 70 เปอร์เซ็นต์ แล้วทำไมปัจจุบันเหลือแค่นี้ จากคน กทม.
สนธิ - ก็ผมบอกมาตั้งนานแล้วว่ามันเป็นกระบวนการปล้นชาติ ผมบอกแล้วว่า รัฐบาลชุดนี้เวลามันเอา ปตท. กฟผ.เข้ามันบอกว่า รัฐบาลจะถือหุ้น 70 เปอร์เซ็นต์อย่างต่ำ ขนาดมันจะถือ 70 เปอร์เซ็นต์ ผมยังด่าเช้าด่าเย็น ด่าจนกระทั่งมันยอมลดราคาน้ำมันไปตลอด 2-3 อาทิตย์ ลดอยู่เรื่อย แต่ว่าประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนี้ ประเด็นผมพูดมาตั้งนานแล้วว่า ไอ้พวกนี้มันซ่อนเร้น มันเอาสมบัติของชาติไปแบ่งสรรปันกัน 70 เปอร์เซ็นต์ ปตท.วันนี้เหลือ 52 เปอร์เซ็นต์ แสดงว่า เกือบๆ 20 เปอร์เซ็นต์ที่มันแอบขายออกไปมันขายให้สุนัขตัวไหนเราก็ไม่รู้ เห็นหรือยังว่ามันปล้นจริงๆ ผมไม่ได้พูดเล่น มันปล้น แล้วมันปล้น เหมือน กฟผ. กฟผ.มันเข้าตลาดหลักทรัพย์ มันบังอาจเอาเขื่อนและเอาสายส่งเข้าด้วย เขื่อนมันมาจากการเวนคืนที่ของประชาชน สายส่งที่วางมันก็เวนคืนที่ของประชาชน น้ำที่มาจากเขื่อนเป็นน้ำของแผ่นดินมันเอาไปให้เอกชนเป็นเจ้าของได้อย่างไร แล้วเอกชนมันมีตัวตนมาจากไหนผมยังไม่รู้เลย มันเป็นผีที่ไหนมาก็ยังไม่รู้ ไม่เคยมีการปล้นชาติครั้งไหนยิ่งใหญ่เท่ากับครั้งนี้ให้จำเอาไว้เลย นี่คือการปล้นชาติจริงๆ ผมบอกตั้งนานแล้วว่า ถ้าจะเอาเข้า เก็บเขื่อน เก็บสายส่งเอาไว้ให้เป็นของประเทศ เก็บเขื่อนเก็บสายส่งเอาไว้ ใครจะแปรรูปก็แปรรูปในเชิงเป็นการบริการไฟฟ้าตามชุนชนแล้วแข่งกัน การไฟฟ้าก็ขายไฟฟ้าในราคาตายตัวให้เท่ากันทุกคนที่จะแข่ง แล้วคนที่รับไฟฟ้ามาก็ไปลงทุนต่อเชื่อมไฟฟ้าไปตามจุดต่างๆ แล้วแข่งกันด้วยราคาซิ แข่งกันด้วยบริการซิ นี่มันยกทุกอย่างไปให้เอกชนหมดเลย ดูซิแล้วมันยังหน้าด้านพอไปเดินทำโรดโชว์ ไปขาย บอกนักลงทุนสนใจ ผมก็ไม่รู้ไอ้นักลงทุนที่สนใจมันซื้อคนละพันสองพันหุ้น หมื่นหุ้นอย่างมาก ไอ้พวกซื้อเป็นสิบๆ ล้านหุ้นมันไม่เคยพูดเลยซักคำว่าใครบ้าง นี่ผมจะบอกให้รู้ ผมเป็นตัวเป็นตนมาจนกระทั่งจะ 60 แล้ว ผมยังไม่เคยเห็นกระบวนการอะไรที่หน้าด้านเท่ารัฐบาลชุดนี้ในเรื่องของการทำ
สโรชา - คำถามจากสระบุรี - เวลาจะเอาเหล้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ พระพยอม กับมหาจำลอง ออกมาเป็นแกนนำในการคัดค้าน แต่ทำไม กฟผ.จะเข้าตลาดฯ แกนนำเหล่านี้ไปไหนหมด
สนธิ - ไม่มีคำตอบครับ ให้คิดกันเองแล้วกัน คนมีปัญญาย่อมคิดออกว่าอะไรเป็นของจริง อะไรเป็นของปลอม
สโรชา - คุณสมชายจากอุทัยธานี - คุณสนธิทำให้ชาวอุทัยฯ รู้ว่าเงินแบงก์พัน ห้าร้อย และหนึ่งร้อยบาท หล่นที่อุทัยฯ เต็มเลย แต่คนอุทัยฯ ไม่ดีใจ
สนธิ - คนอุทัยฯ ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้ว
สโรชา - ค่ะ
สนธิ - จริงๆ วันนี้ต้องปรบมือให้คนพิจิตร คนอุทัยฯ และคนสิงห์บุรี และสตูลหน่อยครับ
สโรชา - คำถามค่ะ จำลองอยู่ไหน เอาทักษิณคืนไป เอาชาติไทยคืนมา / คุณพจน์จากวอชิงตัน ดี.ซี. - ขอแสดงความเสียใจ และคิดว่าคนที่ปาระเบิดคนเป็นโจรกระจอกแถวจรัญสนิทวงศ์ / จากภูเก็ต - ไม่อยากให้ทักษิณมาที่นี่ เพราะกลัวว่าเกาะจะจม / สัปดาห์หน้าจัดที่ไหนคะ
สนธิ - มีเรื่องที่ต้องทดสอบพ่อแม่พี่น้อง เพื่อนๆ ที่ร่วมอุดมการณ์กัน อาทิตย์หน้า หอนี้เต็ม มีคนจองแล้ว กทม.ก็น่ารัก ให้เราไปจัดที่ลานคอนเสิร์ตข้างในนะครับ ซึ่งเข้าใจว่าอาทิตย์หน้าวันที่ 11 นั้น ก็จะมีอากาศที่เย็นสบายนะฮะ มีเวทีข้างบน แล้วก็มีสนามหญ้า ซึ่งเราจะพยายามเตรียมผ้าพลาสติกให้นั่ง ปิกนิกกัน ใครจะหิ้วตะกร้ามา แต่ว่าห้ามเบียร์ ห้ามเหล้านะครับ ผมคิดว่าสวยที่สุดคือข้าวเหนียว ไก่ย่าง เอาข้าวเหนียวคนละกระติบ และไก่ย่างมาคนละปีกนะฮะ แต่ว่า...พวกเราทำอะไรให้ผู้ซึ่งหลงในอำนาจเห็นพลังของพวกเราสักหน่อยได้ไหม พวกเรา 1 คน วันนี้มีคนมาทั้งข้างนอก ข้างใน 10,000 กว่าคน วันนั้นเอาสัก 50,000 ไหวไหม คนหนึ่งชวนเพื่อนมาสัก 5 คน 10 คน มาจุดเทียนร่วมกัน มาเอาปัญญาให้เพื่อน บอกว่ามาสิมาฟัง มาฟังอะไรอีกด้านหนึ่งเผื่อจะมีปัญญาบ้าง ให้เขาเห็นว่า พวกเรามาด้วยจิตบริสุทธิ์ ด้วยพลังบริสุทธิ์ ให้เขาเห็นว่าที่นี่ของจริงไม่ใช่ของปลอม ไม่ต้องมีโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม ไม่ต้องมีกองทุนหมู่บ้าน ไม่ต้องมีบ้านเอื้ออาทร แต่เรามาด้วยจิตศรัทธา เรามาด้วยจิตบริสุทธิ์ที่ต้องการขอประเทศไทยเราคืนมา ทำให้เขาเห็นหน่อยพ่อแม่พี่น้อง ทำให้เขาเห็น ไม่ต้องกลัวคนก่อกวน เพราะว่าพลัง 50,000 คน มันแสนตีน ถ้าจะทำดันทำครั้งนี้ วันที่ 11 วันที่ 11 มันก็คือเมืองไทยรายสัปดาห์ในสวนแล้ว แล้วต่อจาก 11 เผอิญเราจองเอาไว้ก่อนล่วงหน้า น่าเสียดายเพราะว่าสถานที่ไม่ใหญ่นัก คือ หอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ เหมือนเดิม เป็นเพียงแต่ว่า ด้วยปริมาณพ่อแม่พี่น้องอย่างนี้มันรับไม่ไหวก็ต้องทะลักออกมาข้างนอก การทะลักออกมาข้างนอกจะไม่สะดวกเหมือนที่นี่ แต่ว่าอย่างน้อยที่สุดก็จะเป็นที่ที่เราไปต่อไป แต่ว่า 11 นี้ เป็น 11 ที่เราต้องการโชว์พลังให้กับบรรดานักการเมือง ไม่ใช่เฉพาะไทยรักไทย ทั้งประชาธิปัตย์ ทั้งชาติไทย เรากำลังโชว์พลังประชาชนให้บรรดานักการเมืองทุกๆ พรรคให้เห็นว่า ถ้าหมดจากไทยรักไทยแล้วใครก็ตามขึ้นมาถ้าทำอุบาทว์ ทำชั่วร้ายพวกเราก็จะกลับมาพบกันอีก
สโรชา - เรียนให้ทราบว่า วีซีดีของรายการเราจะแจกด้านหน้า
สนธิ - มีคนเสนอให้แจกข้างในนี้ เพราะคนออกไปเยอะแล้ว 20 คนรับไม่ไหว ทำได้ไหมครับคนข้างนอก
สโรชา - คือกลัวว่า ทีมงานกลัวว่าถ้าข้างในนี้จะไม่สะดวก จะเข้าไม่ถึงทุกท่าน เพราะฉะนั้นทีมงานเรา 30 คน รออยู่ด้านนอก รอแจกท่านอยู่ตรงหน้ารูปปั้นครูเอื้อ นะคะ
สนธิ - ท่านพ่อแม่พี่น้อง
สโรชา - จะให้แจกในนี้
สนธิ - เอาอย่างนี้ได้ไหมครับ ทีมงานส่งเข้ามาเป็นก้อนตามหัวแถวแล้วให้หัวแถวผ่านไปเรื่อยๆ นะครับ
สโรชา - ทีมงานรับทราบนะคะ เพราะฉะนั้นหลังจบเพลงสรรเสริญพระบารมีแล้วกรุณานั่งอยู่กับที่
สนธิ - ไม่ต้องเลย เดี๋ยวเอาเข้ามา แล้วเราพูดอะไรให้ท่านผู้ชมฟัง แจกก็แจกไป เพราะว่าผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง
สโรชา - แจกเลยนะ
สนธิ - ผมเคยคิดว่า พลังประชาชนเราจะทำอย่างไรให้พลังบริสุทธิ์ เป็นตัวคานอำนาจของนักการเมือง ผมเคยคิดนะครับ แต่ผมมองไม่เห็นหนทาง ผมคิดว่า เดี๋ยวคุณเอามาเป็นชุดๆ เลย แล้วแจกไปตามแถว เป็นก้อนๆ แล้วขอให้เขาผ่านๆ ไปเรื่อยๆ กรุณาอย่าอมนะครับ คนละชุดนะครับ ผมเคยคิดนะครับ เดี๋ยวครับเขากำลังขนเข้ามาใช่ไหมครับ
สโรชา - กำลังไปเอาอยู่นะคะ
สนธิ - คือ เมืองไทย ท่านพ่อแม่พี่น้อง เมืองไทยเราพึ่งนักการเมืองไม่ได้ เราพึ่งไม่ได้เชื่อผม ไม่ว่ารัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไรก็ตามเราก็ยังพึ่งไม่ได้ เราต้องใช้หลักธรรมของพระพุทธเจ้า เราต้องอัตตาหิอัตโนนาโถ นั่นก็คือว่า พวกเราต้องรวมตัวกันเอาไว้ รวมตัวเอาไว้โดยที่ไม่มีผลประโยชน์ หมายความว่า ผมจะไม่มีผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น แต่เราจะรวมตัวเอาไว้ เมื่อใดก็ตามที่สังคมเริ่มมีวิกฤติเราต้องแสดงพลังให้นักการเมืองเห็นว่าสิ่งที่พวกคุณทำ พวกคุณทำมาหากินกันนั้นเราไม่เห็นด้วย แล้วเราจะแสดงกันหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นชื่อร่วมกัน หรือไม่ว่าการมานั่ง แล้วมานั่งฟังออกความคิดกัน ผมเคยมีความคิดว่า อีกไม่นานวันหนึ่งในอนาคตข้างหน้า หวังว่าเช่นนั้น พวกเราจะรวมตัวกันทั้งประเทศ ที่ท้องสนามหลวง ผมหมายความว่าภายใต้ผู้ปกครองชุดใหม่แล้วนะครับ คือมีคนถามผมว่า ถ้าสมมุติว่ามีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ แล้วก็ต้องมีการปรับปรุงและตั้งรัฐบาลชุดใหม่แล้ว พวกเราจะทำอย่างไรกัน ผมตอบอย่างนี้ ผมบอกว่าจริงๆ แล้วพลังประชาชนไม่เคยมีใครทำมาให้เป็นเอกภาพ ถ้าเราทำพลังประชาชนให้เป็นเหมือนกับพลังองค์กรเอกชน องค์กรประชาชน โดยที่ไม่ได้รับเงินเมืองนอก ไม่ใช่องค์กรเอกชนที่ไปรับเงินองค์กรโน้น องค์กรนี้ องค์กรนั้น ทุกคนเป็นสมาชิกกันหมด แล้วมาร่วมกันที่จะชุมนุมกัน อาจจะสักเดือนละครั้ง หรือว่า 3 เดือนครั้ง หรือว่ามีวิกฤติทีหนึ่งเรามาชุมนุมกันทีหนึ่ง แล้วเราก็จะมีข่าวสารแจ้งแจกไปให้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทยในอาทิตย์ที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทยในเดือนที่ผ่านมา แล้วก็เล่าเรื่องราวให้ฟัง เป็นผู้ที่ตรวจสอบรัฐบาลอีกทีหนึ่ง โดยที่ วันนี้มันพิสูจน์ชัดแล้วนะท่านผู้มีเกียรติแล้วก็พ่อแม่พี่น้อง มันพิสูจน์ชัดว่า นักการเมืองนี่เมื่อมีอำนาจแล้ว มันจะไม่ให้เราตรวจสอบ ผมจำได้ ว่าครั้งหนึ่งสมัยที่พรรคไทยรักไทยยังไม่ได้เป็นรัฐบาล พูดอะไรมันเข้าใจไปหมด พูดอะไรมันฟังเหตุฟังผล มันอ่อนน้อม นอบน้อมถ่อมตน มันเคารพ มันไม่มีอัตตา มันไม่มีตัวกูของกู้ มันไม่มีอารมณ์ เป็นคนรื่นเริง ทุกสิ่งทุกอย่าง ผมยังจำได้เลย วันที่พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร ลงไปที่ จ.ตรัง ไปในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ยังไม่ได้เป็นรัฐบาลนะ ปรากฏว่าจะไปปราศรัย จะไปทำพิธีเปิดอนุสาวรีย์พระยารัษฎา ไฟฟ้าไม่มีให้ใช้ คนขายหมูย่างก็ไม่ยอมขายหมูย่างให้ ไม่ยอม ไม่ยอมนะ ซื้อของอะไรจากใคร ทั้งตรังปิดหมด ไม่ให้ขาย วันนั้นคุณอุทัย สอนหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นอดีตนายกสมาคมสวนยาง เป็นคนต่อสู้ให้ นำคนมาจาก จ.นครศรีธรรมราช นำมาช่วยให้เขาขึ้นมาทำพิธีให้จบแล้วก็ปราศรัย ผมสงสัยว่าไอ้คนเรานี่ความจำทำไมมันหมดไปเร็วเหลือเกิน ว่าสมัยก่อนมันเคยโดนอะไรบ้าง เมื่อมันไม่เคยจำแล้ว มันก็มาแกล้งพวกเราอีกทุกวันนี้ มาแกล้ง ทำไมเขาไม่กลับไปนึกถึงสมัยที่เขาไป จ.ตรัง แล้วเขาต้องการพูดอะไรแล้วเขาโดนบล็อก ทำไมเขาไม่มองในมุมกลับบ้าง ว่าวันนี้พวกเราต้องการจะพูดความจริงที่เขาเองครั้งหนึ่งเขาเคยอยากจะพูดที่ จ.ตรัง แล้วเขาพูดไม่ได้แล้วเขาโดนแกล้ง ทำไมคนมันถึงขี้ลืมนัก เป็นเพราะว่าพอมีอำนาจแล้วมันเหลิง มันลืมตัว ตรงนี้ต่างหากที่นักการเมืองทุกคนเป็นอย่างนี้ พ่อแม่พี่น้องทั้งหลาย เพราะฉะนั้นเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วพวกเราต้องหาทางเป็นตัวคานอำนาจของนักการเมืองให้ได้ การที่พ่อแม่พี่น้องเข้ามาสนใจในเรื่องการเมืองครั้งนี้มันเป็นนิมิตหมายที่ดี ผมเพิ่งพูดกับพรรคพวกผม ผมพูดนะครับ ผมว่าแจกกรุณาส่งไปข้างหลังเรื่อยๆ นะครับเพื่อให้ข้างหลังเขาจะได้แจกไปเรื่อยๆ ผมเพิ่งพูดบอกว่า มีคนเขาบอกผมอย่านี้ มีคนบอก 14 ตุลา เด็กๆ ออกไปที่มหาวิทยาลัยไปรับทราบปัญหาของชาติบ้านเมืองแล้วเอากลับไปเล่าให้พ่อแม่ฟัง เพราะพ่อแม่ไม่สนใจ วันนี้มันย้อนยุค กลายเป็นพ่อแม่ต้องมารับฟังปัญหาบ้านเมืองแล้วกลับไปบ้านเล่าให้ลูกฟัง เพราะฉะนั้นแล้ว
สโรชา - กำลังใจจดใจจ่อกับวีซีดี ทั่วถึงนะคะทั่วถึง
สนธิ - มันเป็นธรรมชาติคนไทย พอของฟรีมาแล้วทุกอย่างลืมหมด
สโรชา - ขอความกรุณานะคะ ท่านละ 1 แผ่นนะคะ ขอความกรุณาด้วยนะคะจะได้ทั่วถึง
สนธิ - ครับคนละชุดนะครับ
สโรชา - เชื่อว่ามีเพียงพอนะคะ เราเตรียมมา
สนธิ - คงจะไม่พอเพราะว่าทำมาให้ 10,000 ชุด
สโรชา - ในนี้พอไหมคะ ในนี้น่าจะพอ
สนธิ - ในนี้พอแต่ข้างนอกก็ต้องแจกด้วยครับ
สโรชา - เร็วเหมือนกันนะคะจะครึ่งฮอลล์แล้วนะคะ เหมือนเล่นเกมเลยค่ะคุณสนธิ
สนธิ - อะไรนะ
สโรชา - เหมือนเล่นเกมเลยค่ะ
สนธิ - ผมบอกแล้วไง คนไทยอะไรฟรีทุกอย่างลืมหมด
สโรชา - ด้านหน้าได้ครบหรือยังคะ ครบนะคะ ด้านข้างครบไหมคะ ครบนะคะ
สนธิ - ใครยังไม่ได้ตรงไหนช่วยยกหน่อยครับ
สโรชา - ด้านหลังยังขาดอยู่ ทีมงานกำลังไปนะคะ
สนธิ - ครับช่วยส่งไปข้างหลังหน่อยนะครับ
สโรชา - ค่ะ ยังมีด้านหลังที่ยังไม่ได้นะคะ
สนธิ - เอ่อคุณสายัณห์อยู่ไหมครับ
สโรชา - ด้านข้างนี้ได้แล้วใช่ไหมคะ ได้ก่อนเพื่อนเลยใช่ไหมคะ ดีค่ะ
สนธิ - พ่อแม่พี่น้องครับ วีซีดีที่ให้นี้ไม่ได้ให้ไปขายต่อนะครับ ให้ไปให้เพื่อนแล้วบอกให้เพื่อนไรต์แจก เอาไปนะครับ มีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมจะขอความกรุณานิดหนึ่ง ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เราทำ อาทิตย์ละเกือบแสนบาท เราได้การสนับสนุนจากผู้ซึ่งรักเราและลงโฆษณาในวีซีดี มีอยู่ 3-4 เจ้า ถ้าดูแล้วถ้าจะแสดงน้ำใจคืนบ้างเวลาผ่านไปที่ร้านเขาก็ช่วยนิดหนึ่ง ขนาดผมเล่าแล้วอย่าเพิ่งหัวเราะ ผมซาบซึ้งมากน้ำตาคลอเลย ขนาดเครื่องเสียงที่นี่ วันนี้เครื่องเสียงจ่าย 55,000 บาท ปรากฏว่า เจ้าของร้านถั่วตัด ที่ทำถั่วตัดขาย นี่ผมถึงถามคุณสายัณห์ว่า ชื่ออะไรครับร้านถั่วตัด "กวงเม้ง" ปรบมือให้เจ้าของร้านกวงเม้งหน่อยครับ
สโรชา - อยู่ที่ไหนคะ
สนธิ - ร้านถั่วตัดกวงเม้ง กวงเม้งทำถั่วตัดขาย จิตใจน่ารักมาก บริสุทธิ์ ขอมีส่วนร่วมในการทำความจริงด้วยการบริจาคมาเพื่อจ่ายค่าเครื่องเสียง เพราะฉะนั้นพวกเราถ้าไปซื้อขนมลองถามเจ้าของร้านว่า ถั่วตัดกวงเม้งมีไหม ก็เป็นการช่วยเขากลับในทางปริยาย แล้วยังมี
สโรชา - ร้านผ้าไหม
สนธิ - ยังมีร้านขายผ้าไหม
สโรชา - ซิลก์ สเตชั่น
สนธิ - ซิลก์ สเตชั่น อยู่ตรงศาลาแดง บนที่ๆ
สโรชา - บีทีเอส
สนธิ - บนบีทีเอส คือ อันนี้คือสังคมไทย อันนี้สังคมเอื้ออาทรจริงๆ ก็คือว่าเราเห็นใจซึ่งกันและกัน ไม่ใช่สังคม "ฟาดหัวอาทร" ก็คือว่าเอาเงินไปฟาดหัวแล้วขอคะแนนเสียงมา ไม่ใช่ สังคมนี้ก็คือว่า อย่างน้อยที่สุดคิดถึงพวกเขา เออ เขามีดีนะ เขามีน้ำใจนะ เพราะว่าทำไมรู้ไหม ถ้าจะไปให้บริษัทอะไรก็ตามที่มีชื่อมีเสียงในแผ่นดินมาสปอนเซอร์งานเรา เดี๋ยวก็โดนวิชามารแกล้งอีก ถูก ไม่ถูก เดี๋ยวก็โดนส่งภาษีไปตรวจสอบเขาอีก เพราะฉะนั้นแล้วคนซึ่งผมหวังว่าภาษีอากร สรรพากรคงไม่ตรวจสอบร้านถั่วตัดกัวกวงเม้งนะ นี่คือความน่ารักของสังคมไทย ความน่ารักตรงนี้พวกเราต้องสร้างขึ้นมา จากชุมชนพวกเรา แล้วค่อยๆ ขยายไป อย่าไปเลียนแบบความอัปลักษณ์ใน 4-5 ปีที่ผ่านมา ที่ทุกคนคิดแต่เรื่องเงินเป็นใหญ่ แล้วใครมีเงินคนนั้นมีอำนาจ เพราะว่าเราวันนี้พิสูจน์ชัดแล้วว่า ในโลกนี้ไม่มีเสือมังสวิรัติ เสือมันต้องกินเนื้อคน ฉันใดฉันนั้น ในโลกนี้นักการเมืองที่เป็นคนรวยที่ไม่โกง ไม่มี โอเค อย่าลืมนะครับ ก่อนที่จะฟัง ก่อนที่จะขึ้นมาเคารพ
สโรชา - ถวายความจงรักภักดี
สนธิ - ถวายความจงรักภักดีนั้น 11 ทำให้เขาดูหน่อยว่าของเรานั้นของจริง ของเขานั้นของปลอม ทำให้ดูนิดหนึ่ง วันนี้เรามีคนอยู่ประมาณ 10,000 คน ทั้งข้างในและข้างนอก 10,000 กว่าคน คนหนึ่งพามาแค่ 5 คนเท่านั้นเอง สนามจะเต็มไปหมด คนที่เต็มไปหมด แล้วเปล่งเสียงที่บริสุทธิ์มา ก็จะเป็นเสียงสวรรค์ที่ให้เขารู้ว่าคุณเอามือปิดฟ้าต่อไปไม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้นขอให้แสดงพลังให้เขาดูนิดหนึ่งนะครับ ขอแสดงพลังให้เขาดูนิดหนึ่ง ขอให้พ่อแม่พี่น้องทุกคนเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ ขอบพระคุณมากครับ
สโรชา - แอ้มขอเสริมนิดหนึ่งได้ไหมคะ วันที่ 11 นี้นะคะ เผอิญวันเกิดแอ้ม ตรงกับวันศุกร์พอดี แอ้มไม่ขอของขวัญค่ะ แอ้มขอให้ทุกๆ ท่านนี่ล่ะ พาเพื่อนฝูง พาแฟน พาญาติพี่น้องมา มาร่วมพลังกันที่นี่นะคะ ขอแค่นี้ล่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่ 7 ช่วงที่ 1
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่ 7 ช่วงที่ 2
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่ 7 ช่วงที่ 3 จบ
