xs
xsm
sm
md
lg

เมืองไทยฯ สัญจร 3 : แฉวิชามารรัฐตำรวจ - ปลุกสังคมจุดเทียนไล่ “พวกผีเปรตกินเมือง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เมืองไทยรายสัปดาห์” สัญจร ครั้งที่ 3 ยังคึกคัก “สนธิ” ชี้บ้านเมืองอยู่ในยุครัฐตำรวจใช้วิชามารทุกรูปแบบข่มเหงผู้อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล ยันไม่หวั่นไหวแม้ถูกจับกุม เชื่อศาลให้ความยุติธรรมหาก “ทักษิณ” ใช้เทคนิคทางกฎหมายส่งทนายร้องศาลปิดปาก พร้อมเปิดมุมมองใหม่ “ไฟใต้” อาจเพราะไทยใกล้ชิดกับสิงคโปร์ออกนอกหน้าจนมาเลย์ไม่ไว้ใจ แอบหนุนกลุ่มก่อความไม่สงบ ย้อนอดีต “ไอ้โม่ง” ตุนเงินดอลล์เก็งกำไรก่อนลดค่าเงินบาท เรียกร้องสังคมรวมพลังสร้างเครือข่ายสื่อเสรีไล่พวกผีเปรตกินเมือง ย้ำอีกรอบไม่ใช่นักปลุกระดมหรือเป็นฮีโร่ แต่ต้องการพูดความจริง พร้อมย้ำ “เมืองไทยฯ สัญจร” ครั้งหน้า ขึ้นเวทีหอประชุมใหญ่ ธรรมศาสตร์แน่

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ เมืองไทยรายสัปดาห์ สัญจร ครั้งที่ 3 ช่วงที่ 1

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ เมืองไทยรายสัปดาห์ สัญจร ครั้งที่ 3 ช่วงที่ 2

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ เมืองไทยรายสัปดาห์ สัญจร ครั้งที่ 3 ช่วงที่ 3 จบ

คลิกชมภาพสไลด์โชว์ ได้ที่ไอคอน Manager Mutimedia

ดูภาพชุดจาก Manager Multimedia


สโรชา - ขอต้อนรับเข้าสู่เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ครั้งที่ 3 ( 7 ต.ค. 48) วันนี้มากันคับคั่งเลยนะคะวันนี้ ขอต้อนรับทุกๆ ท่านที่มาชมเราในหอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แห่งนี้ด้วย นอกจากนี้ คงต้องทักทายและสวัสดีคุณผู้ชมทางบ้านที่ชมอยู่สดๆ ทาง ASTV News1 ทั้งในประเทศไทย และรวมไปถึงสหรัฐอเมริกาด้วยนะคะ เช่นเคยนะคะย้ำอีกสักครั้งหนึ่งว่าสามารถจะเขียนคำถามขึ้นมาได้ เราขออนุญาตรับคำถามในช่วงท้ายเบรกที่ 2 เพราะฉะนั้นใครอยากจะถามอะไรคุณสนธิก็สามารถส่งเข้ามาด้านหน้าได้ แล้วทางบ้านสามารถโทรมาค่ะที่ 0-2629-4433 คำถามของท่านจะขึ้นที่หน้าจอหน้าดิฉันตรงนี้เลย คุณสนธิคะ

สนธิ - คุณสโรชาลืมทักทายคุณธนา เบญจาธิกุล ที่บ้าน แกบอกแกจะนั่งดูอยู่ที่บ้าน

สโรชา - ใช่มั้ยคะ อ้อเกือบลืมค่ะคุณสนธิ นอกจากแขกผู้มีเกียรติที่มาชมเราตรงนี้แล้วยังมีด้านนอกอีกนะคะ แล้วมีที่โรงอาหารด้วย อยากจะส่งคำทักทายไปตรงนั้นด้วย

สนธิ - ที่หาดใหญ่ด้วยครับ ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เค้าเปิดห้อง 107 ที่จะดูกันนะครับ แล้วก็ คือเมื่อกี้นี้มีคนอยู่ตรงห้องข้างนอกเที่ยวเดินไปบอก ซึ่งเขาบอกมาว่า คุณกล้ามาดูเหรอเดี๋ยวเค้าจะจับเอานะ คือผมมีบทสรุปอย่างนะคุณสโรชา และท่านผู้ชมที่อยู่ในที่นี้ คือ ไอ้ลูกหลานพญามารมันก็เป็นพญามาร คือผมจะเล่าให้ฟัง เมื่อ 10 โมงเช้า ได้มีโชคมหาศาลและผมจะนำบุญมาฝากท่านผู้ชมทุกท่านวันนี้
คือพวกบรรดาเชื้อสายพญามารทั้งหลายและพวกพญามาร ผมอยากเอาคำขึ้นต้นของมหากาพย์ภารตะมาเตือนใจ มหากาพย์ภารตะพวกเราก็รู้ เป็นมหากาพย์ที่ยิ่งใหญ่ 1 ในมหากาพย์ของโลก คือผมเผอิญไม่ค่อยมีปัญญาอ้าง หนังสือฝรั่ง คอตล่ง คอตเลอร์อะไรของเขานะ ผมจะอ้างภูมิปัญญาตะวันออก มหากาพย์ภารตะเขาพูดบอกว่า ข้าพเจ้าชูแขนขึ้นป่าวประกาศธรรม แต่หามีใครเชื่อถือข้าพเจ้าไม่ ธรรมย่อมก่อให้เกิดความสงบแต่เหตุไฉนจึงไม่มีใครปฏิบัติธรรม ก็เล่าให้ฟังนิดหนึ่ง เพื่อส่วนบุญที่จะมาให้เบรกที่ 2 ค่อยคุยกัน

สโรชา - ได้ แต่ว่าเมื่อสัปดาห์แรกๆ ที่เราสัญจรกัน หลายคนจะทักคุณสนธิว่า คุณสนธิบาทเดียว ที่คุณสนธิฟ้องกลับบาทเดียว

สนธิ - สนธิ 500

สโรชา - ตอนนี้กลายเป็น “สนธิ 500” ไปแล้ว

สนธิ - สนธิ 500 ล้านโดนไอ้พวก 500 มันฟ้อง

สโรชา - สัปดาห์นี้คงต้องเปิดด้วยเรื่องของการที่เราโดนฟ้องดีกว่า เพราะเป็นเรื่องที่หลายท่านคงอยากฟังรายละเอียด

สนธิ - ต้องเรียนชี้แจงให้ท่านผู้ชมฟังนิดหนึ่ง เดี๋ยวนี้เวลาเราแถลงข่าวอะไร โทรทัศน์มันจะมากันหมด แต่มันไม่ออกให้ วันนี้เราก็เลยเอาวีทีอาร์ที่ผมแถลงไป ยาวนิดหนึ่ง 12 นาที แต่ผมเชื่อว่าหลายๆ ท่านในที่นี้ตลอดจนท่านผู้ที่บ้านไม่เคยเห็น ไม่ได้เห็น ตรงนั้นก็เลยเป็นสาเหตุของการท้าทายกันขึ้นมา แล้วก็ตัวท่านนายกฯ ก็รับท้าอย่างอ้อมแอ้มว่า ถ้าต้องไปเบิกความก็ไป ถ้าเค้าไม่ให้ไปก็ไม่ต้องไป เดี๋ยวเชิญชมกันก่อนดีมั้ยฮะแล้วเดี๋ยวเราค่อยมาว่ากันนะครับ

คลิก ชมวิดีโอคลิป สนธิ ลิ้มทองกุล แถลงข่าว
คลิกที่นี่ เพื่อฟังเฉพาะเสียง
คลิก อ่านรายละเอียดคำแถลง

สโรชา - หลังจากวันที่คุณสนธิแถลงข่าวนะคะ ก็มีนักข่าวได้ไปถามท่านนายกฯ แล้วก็จริงๆ แล้วเมื่อวานนี้ก็เข้าใจว่าก็ได้สอบถาม ได้ตั้งคำถามกับท่านนายกฯ ในระหว่างที่ท่านนายกฯ พบสื่อ นะคะ เรามีวีทีอาร์สั้นๆ นะคะที่ท่านนายกฯ ได้พูดถึงเรื่องนี้นะคะ ในเรื่องการฟ้อง เชิญค่ะ

สนธิ - สั้นนิดเดียวครับ

คลิก ชมวีทีอาร์นายกฯ ให้สัมภาษณ์
อ่าน คำให้สัมภาษณ์ ของนายกรัฐมนตรี

สโรชา - ค่ะ ก็เป็นถ้อยแถลงจากท่านนายกฯ นะคะว่า เป็นเรื่องของสิทธิที่จะฟ้อง ก็ไปว่ากันในชั้นศาล คุณสนธิคะหลังจากตรงนั้นแล้วก็มีข่าวต่อนะคะว่าจะมีการยื่นต่อศาลในวันจันทร์หน้านี้

สนธิ - คือทั้งหมดนี้นะฮะคุณสโรชา และคุณผู้ชม ผมจะเล่าให้เป็นกระบวนการเลยดีกว่า ถ้าเราจำกันได้ คุณธงทอง จันทรางศุ คุณเรวัต ฉ่ำเฉลิม แล้วก็คุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ออกมาแถลงข่าวว่าเราดึงเบื้องสูงลงมาทำรายการก็เลยจำเป็นต้องถอดรายการ โดยที่คุณธงทองพูดบอกว่า ถ้าพูดถึงความใกล้ชิดของเบื้องสูงแล้วไม่มีใครรู้ดีกว่าเค้า คือเค้าดึงเบื้องสูงลงมาเล่นโดยอ้างว่า เค้าไปพบกับท่านราชเลขาธิการมาแล้ว เอาละไม่เป็นไร
เสร็จเรียบร้อยแล้วท่านนายกฯ ท่านกลับมาหลังจากนั้นไม่กี่วันท่านก็บอกว่า เหรอ เป็นเรื่องของบอร์ดผมไม่รู้เรื่อง เป็นเรื่องของบอร์ดผมไม่รู้เรื่อง ถ้าเป็นเรื่องคุณไพบูลย์พยายามซื้อมติชน ท่านบอกท่านไม่รู้เรื่องเป็นเรื่องธุรกิจ เสร็จเรียบร้อยแล้วจู่ๆ ท่านก็มาฟ้อง แล้วท่านฟ้องท่านบอกว่า เนื้อหาวันที่ 9 ก.ย.2548 เป็นเนื้อหาซึ่งไปหมิ่นประมาทท่าน ท่านไม่ได้พูดนะฮะ
ถ้าท่านคิดว่าเป็นไปตามที่บอร์ด อสมท พูดจริง ท่านก็ต้องให้ตำรวจดำเนินคดีกับผมในข้อหาที่ว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่ท่านไปฟ้องบอกว่า เนื้อหานั้นไปหมิ่นท่าน ยังไม่พอท่านฟ้องผมในฐานะนายกรัฐมนตรี ท่านไม่ได้ฟ้องผมในฐานะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้จำเอาไว้นะฮะไม่เหมือนกัน
ท่านอดีตนายกฯ ชวนท่านเคยฟ้องหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ แต่ท่านฟ้องในฐานะส่วนตัวและคำฟ้องที่ร่างออกมา คุณสโรชาก็่อ่าน ดูหมิ่นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน มันช่างตำรวจจริงๆ เลย วิธีคิด ผมเห็น ส.ว.ประทิน หัวเราะชอบใจ เพราะท่านรู้วิชามารตำรวจ แต่ท่านเป็นหนึ่งในเพชรของตำรวจที่ส่วนใหญ่จะเป็นแก้วที่ร้าวๆ

สโรชา - โปรดิวเซอร์เขาบอกมาว่ามีรายงานวันนี้ว่า ผู้การสันติบาลกอง 1 ได้มีคำสั่งให้มีเจ้าหน้าที่มาเฝ้าสังเกตการณ์และรายงาน ในสถานที่นี้มากผิดปกติกว่าอาทิตย์ที่ผ่านมา

สนธิ -ไม่เป็นไรครับ ผมเคยเรียนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลว่า ให้ไปบอกนายว่าถ้าต้องการเทปรายการเดี๋ยวส่งให้ ถ้าต้องการบรรยากาศจะส่งให้ อย่ามาเสียเวลาเลยเชื่อซิ คือในคำฟ้องเขาอ้างบัญชีพยานมาเรียบร้อยเลยนะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บัญชีพยานน่าสนใจมาก มีใครบ้างรู้ไหม
 มีนายเรวัติ ฉ่ำเฉลิม นายธงทอง จันทรางศุ และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เป็นบัญชีพยานเลยนะ แสดงว่าสิ่งแวดล้อมกำลังบอกเราว่า แท้ที่จริงแล้วไอ้โม่งตัวไหนที่สั่งปิดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์
ทีนี้เวลาเขาจะไปเมืองนอกที พอไปทีต้องมีเรื่องทุกที และกลับมาก็บอกว่าไม่รู้เรื่องเป็นเรื่องบอร์ด งวดนี้ไปอีกและ วันจันทร์นี้ผมเชื่อว่าคุณธนา เบญจาธิกุล คงจะยื่นคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินให้กับศาล เพื่อห้ามไม่ให้พวกเราพูดถึง ผมไม่อยากให้คุณธนา อย่าช้า รีบยื่นซะ เพราะผมเองยังเชื่อมั่นในศาลสถิตยุติธรรม ผมเชื่อมั่นว่าข้อแตกต่างระหว่างเรื่องเมืองไทยรายสัปดาห์กับท่านนายกฯ กับเรื่องคุณอลงกรณ์ พลบุตร กับคุณเยาวเรศ ชินวัตร โดยลักษณะเนื้อหาไม่เหมือนกัน

สโรชา - แตกต่างกันตรงไหน

สนธิ - แตกต่างตรงที่ว่าคุณอลงกรณ์เป็นนักการเมือง คุณเยาวเรศเป็นส่วนบุคคล นักการเมืองกำลังกล่าวหาส่วนบุคคล คือคุณเยาวเรศว่ารับสินบนคาร์ปาร์ก เขาก็ไปยื่นได้เพราะเค้าจะพูดในทำนองที่เรียกว่านักการเมืองได้เปรียบ เพราะว่ามีสิทธิ์ที่จะพูดอยู่ทุกวันในเรื่องนี้ แต่เราเป็นสื่อมวลชนแล้วท่านนายกฯ ท่านเป็นบุคคลสาธารณะ เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าสมมุติว่าเราวิพากษ์วิจารณ์ท่านนายกฯไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นเมืองไทยจะมีสื่อไปทำไม ไม่มีประโยชน์ ถูกมั้ยละฮะ

สโรชา - ค่ะ

สนธิ - เพราะฉะนั้นแล้วผมยังเชื่อ แล้วผมก็อยากจะทดสอบเรื่องนี้ จริงๆ แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นบททดสอบหลายประการฮะ
ประการแรก ทดสอบของสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ควรหรือไม่ควรจะรับทราบข้อเท็จจริง เรื่องที่ 2 เป็นรัฐธรรมนูญมาตรา 39 และมาตรา 41 ของสื่อมวลชนว่าจะมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญได้รึเปล่า หรือว่ารัฐธรรมนูญเป็นเพียงแต่ตัวอักษรที่ร่างขึ้นมาเพื่อให้คนฉกฉวยโอกาสเข้ามายึดอำนาจโดยผ่านรัฐธรรมนูญนี้ แล้วก็มาเหยียบย่ำนัยที่แท้จริงของรัฐธรรมนูญ

อันนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก คุณสโรชา กระบวนการต่างๆ ผมต้องเล่าให้คุณสโรชาแล้วก็ท่านผู้ชมฟัง คือมันไม่ได้เป็นเพียงแต่แค่นี้เอง มันรุกหนัก ในขณะนี้เท่าที่ทราบมาดีเอสไอ โดยท่านอธิบดี พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ ท่านจะรู้รึไม่รู้ก็ไม่รู้ แต่ท่านให้ลูกน้องท่านกำลังตั้งแฟ้มชื่อผมเอาไว้ คงจะมีการตรวจสอบอะไร ไปเช็กอันโน้นอันนี้ แล้วผมจะไม่ประหลาดใจว่าอาทิตย์หน้าเดี๋ยวเผลอๆ จะมีหมายจับออกมา

สโรชา - ขนาดนั้นเลยเหรอคะ

สนธิ - คือ มันๆ ขอประทานโทษด้วยความเคารพท่านประทิน ท่านประทินก็รู้นี่เป็นวิชามารตำรวจ เคยเห็นตำรวจบางคนมั้ย อย่างสารวัตรใหญ่
“มันจ่ายเงินมายัง”
 “ยังครับท่าน”
“ลื้อเอาตำรวจไปยืนหน้าประตูอย่าให้คนเข้าร้านมัน ลื้อเอาจราจรไปให้ใบสั่งให้หมดเลยมันจะได้ไม่มีคนจอดรถแล้วก็มากินก๋วยเตี๋ยวนะ ซักพักหนึ่งมันจะวิ่งมาหาเราเอง หรือไม่ก็ออกหมายจับคาไว้”
นี่คือนิสัยตำรวจ แม้กระทั่งคำฟ้องยังสะท้อนให้เห็นถึงนิสัยตำรวจออกมา เพราะฉะนั้นแล้วบ้านเมือง ประเทศไทยถูกปกครองโดยลักษณะเหมือนๆ โปลิศ สเตท ไปเรียบร้อยแล้ว
ผมก็ไม่อยากจะพูดอะไร ผมเพียงแต่ว่า คนเค้าถามผม เมื่อวานนี้ผมไป เมื่อวันพฤหัสฯ ผมไปประชุมสภาการหนังสือพิมพ์ฯ ก็มีนักข่าวคนหนึ่งเข้ามาถามผม บอกว่าพี่ทำไปเหนื่อยไหม บอกว่าเหนื่อยซิน้อง ไม่สนุกนะ ใช่มะ เอ็งคิดว่าสนุกเอ็งมาทำแบบพี่ได้ไหม เขาก็หัวเราะ เขาบอกว่าพี่พวกผมให้กำลังใจพี่ บอกว่าพี่เข้าใจ แต่พี่จะบอกอะไรอย่าง พี่ทำพี่ไม่ต้องการเป็นฮีโร่ ไม่ใช่นักปลุกระดม ไม่ต้องการ พี่ไม่ต้องการนำม็อบ แต่ต้องการให้ตัวพี่เป็นคนที่ให้องค์ความรู้กับประชาชน
ผมอุปมาอุปมัย ท่านผู้ชมว่า บ้านเมืองนี้มันมืด มีคนกล้าจุดเทียนคนเดียวคือผม ท่ามกลางพายุที่พัดมา ถ้าผมปล่อยให้เทียนเล่มนี้ดับ ก็จะไม่มีใครกล้าจุดเทียนอีกต่อไป สมัยก่อนมีคนลองจุดไม้ขีด มันเอาน้ำสาด วันนี้ผมกล้าจุดเทียน พอจุดเทียนวิธีไม่ให้ดับคือผมต้องป้องเปลวเทียนไว้ ผมต้องหันหลังสู้ลมพายุ ไม่ให้เทียนดับ ช่วงพายุที่พัดมามันต้องมีเศษอิฐ สังกะสี ไม้ปลิวมากระแทกตัวผม ผมต้องทน เพราะถ้าไม่ทน เทียนก็ดับ เมื่อผมทน สักพักคนที่ถือเทียนที่ไม่กล้าจุดก็จะเริ่มกล้าจุดขึ้นมาทีละเล่มๆ เมื่อเราจุดแล้ว เราเอาเทียนแต่ละเล่มหลอมรวมกันกลายเป็นเทียนพรรษา เทียนพรรษาจะลุกโชติช่วง พอเทียนลุกแล้ว ความสว่างมันจะมาไล่ความมืด พวกผีเปรตจะกลัวความสว่าง พอแสงเข้ามาก็วิ่งลงนรกอเวจีกัน พวกเราจะอยู่กันสุขสมบูรณ์
เพราะฉะนั้นแล้วผมก็จะกราบเรียนไปยังผู้มีอำนาจ ไม่รู้ใครก็ตาม รวมทั้งพวกกระเฬวราก คุณมีวิชามารอะไรใช้ให้หมด เพราะผมใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว คุณทำอะไรก็ได้ ผมไม่รู้สึกเลย คุณจะออกหมายจับอีก 200 หมายจับก็ออกมาผมก็พร้อมให้คุณใส่กุญแจมือเมื่อไหนก็เมื่อนั้น ไม่ต้องกังวล เพราะว่าคนเรานั้นเสียอะไรเสียไป รักษาใจให้ดี เมื่อใจมันอยู่แล้วไม่ต้องไปกลัวคุณสโรชา แต่วันที่เค้ามาจับคุณผมไม่ให้คุณอยู่นะ ผมต้องกันคุณออกคุณสโรชา
แต่ว่าผมกำลังจะเล่าให้ฟัง ในการต่อสู้ทุกๆ ครั้งผมจะขีดเส้นของผม ผมจะไม่ล้ำไป หลายคนถามผมว่า ผมทำเพื่อหวังผลทางการเมือง เพื่อต้องการความยิ่งใหญ่ ไม่ผมไม่ต้องการ ไม่ต้องการ
หลายคนถามผมว่า ผมจะสมัคร ส.ว.หรอ ผมไม่ต้องการ แล้วคุณสนธิต้องการเป็นอะไร ผมต้องการยืนอยู่ในจุดที่ผมเคยเล่าให้ท่านผู้ชมฟังในห้องนี้เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว อาทิตย์ที่แล้ว ผมต้องการยืนอยู่ในจุดที่เมื่อแดดออก ฟ้าใส ทุกคนเห็นว่าผมยืนตรงนี้ และเมื่อฝนมาฟ้าคะนองมองไม่เห็นแต่พอฟ้าใสทุกคนก็เห็นว่าคุณสนธิก็ยังอยู่ที่เก่า เพราะผมไม่ใจว่าถ้ารัฐบาลชุดนี้ไปชุดใหม่มามันจะเลวต่อไปอีกหรือเปล่า ผมจะรักษาจุดยืนของการซึ่งพูดความจริงเอาไว้ตลอดไปไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดไหนก็ตาม

สโรชา - ขออนุญาตแทรกคำถามนิดหนึ่งนะคะในเมื่อคุณสนธิพูดมาว่า ทำทำไม มีหลายคนถาม มีคำถามเข้ามาทางเว็บไซต์ของ News1 บอกว่า ได้ยินมาว่าที่คุณสนธิวิพากษ์วิจารณ์นายกฯ ในระยะหลังเนื่องมาจากคุณสนธิไม่ได้เป็นผู้อำนวยการ อสมทฯ นะคะ ฟังแล้วก็ตกใจนะคะ ได้ติดตามมาตลอด และได้อ่านหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวันมาแล้วไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลยพอมาถึงมีเรื่องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 500 ล้าน ไปคุยกับเพื่อนก็บอกว่า คุณสนธิผิดหวังมาจากเรื่องไม่ได้เป็น ผอ.

สนธิ - ขออนุญาตนิดครับท่านผู้ชมเอาเรื่องส่วนตัวมาพูดให้ฟังนิดหนึ่ง ผมเองไม่อยากจะเอาเรื่องต่างๆ พวกนี้มาพูด อสมทฯ นั้นเหมาะสมกับคุณมิ่งขวัญอยู่แล้ว คุณมิ่งขวัญกับอสมทฯ นี้เหมาะกันที่สุด ไม่มีอะไรจะเหมาะกับคุณมิ่งขวัญยิ่งกว่าอสมทฯ จะมีกระบวนการตลอดเวลา คือด้วยความสัตย์จริงนะครับ
ข้อแรกคือ คุณ ท่านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยช่วยผมในเรื่องของหนี้สิน แล้วพอช่วยแล้วผมก็มาทรยศหักหลัง
ผมเป็นคนที่ล้มละลายมาแล้ว ผมล้มละลายเมื่อปี พ.ศ.2542 ในรัฐบาลชุดพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อผมล้มออกมาแล้วผ่านไป 3 ปี ผมออกมา ผมไม่มีหนี้แล้วคุณทักษิณมาช่วยอะไรผม เมื่อผมไม่มีหนี้
เสร็จเรียบร้อยก็พูดทุกเรื่องเพื่อดิสเครดิตผม แต่ไม่เป็นไร ผมไม่สนใจ คนเราให้ดูที่เนื้อหาการกระทำ คุณสโรชาต้องจำไว้อย่างในกระบวนการต่อสู้ คุณสุภิญญาก็คงเคยโดนเวลาคุณสู้อะไรก็ตาม หรือ ส.ว.ประทินท่านต้องเคยโดน คือมันจะมีกระบวนการทำลายชื่อเสียง ถ้าเราหนักแน่น เราเอาธรรมนำหน้า เราจะกลัวทำไม เพราะธรรมเท่านั้นคือสัจจะ ระยะทางพิสูจน์เรียบร้อย
สมัยที่เขาเดินอยู่ราชดำเนิน รัฐสภา คุณทักษิณยังเดินยกยอ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ เพื่อขอสัมปทานดาวเทียม เพราะฉะนั้น ถ้าเราจะดูการกระทำคนๆ หนึ่งเราต้องดูนิสัยใจคอคนๆ นั้น
ผมพูดตลอดเวลา เวลาผมสอนหนังสือพวกนักข่าวด้วยกัน หรือเวลาผมสอนเด็กปริญญาโท-เอก ที่ธรรมศาสตร์ คณะวารสารศาสตร์ ผมจะพูดตลอด ผมจะบอกว่า อย่าสนใจระบบ ให้สนใจคน เพราะระบบดีแค่ไหนแต่ถ้าคนชั่วมันจะหลบระบบ แทรกระบบและกระทำชั่วต่อไป อันนี้ไม่ต้องพูด พวกเราเห็นชัดแล้ว
ถามว่ารัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นรัฐธรรมนูญที่ดีไหม บอกเป็น รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดตั้งแต่ประเทศไทยมีมา แต่เผอิญคนเอามาใช้ในที่สุดแล้วมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ต่อ รัฐธรรมนูญอันนี้ เพราะเป็นรัฐธรรมนูญดีสุดแต่เปิดโอกาสให้คนใช้รัฐธรรมนูญอันนี้เข้ามาดำรงสิทธิ์และใช้อำนาจเป็นธรรม ไม่ได้ใช้ธรรมนำหน้า เหมือนกรณีสื่อ ผมสงสัยมานาน ท่านนายกฯ ท่านมีรัฐบาลมีทั้งช่อง 9 ช่อง 11 มีหมดทุกอย่าง ทำไมท่านไม่ออกมาตอบคำถามที่เราถาม เราถามคำถามที่ธรรมดาสามัญที่สุด

เราถามว่า ท่านอย่าให้ประชาชนสับสนในเรื่องสมเด็จพระสังฆราชได้ไหม เมื่อท่านบอกว่าสมเด็จพระสังฆราชท่านประชวร ปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ลุกไม่ได้ ต้องตั้งผู้ปฏิบัติเป็นสมเด็จพระสังฆราชไม่ใช่ปฏิบัติหน้าที่แทนนะ เป็นผู้ปฏิบัติสมเด็จพระสังฆราช วันนี้ผมถามว่าวันนี้พิสูจน์ชัดแล้วไม่ว่าจะรูป จะเรื่องราวอะไรต่างๆ ถามว่าถ้าอย่างนั้นสมเด็จญาณฯ ท่านยังเสด็จไปอัมพวาได้ตั้ง 2 ชั่วโมง เรื่องโน้นเรื่องนี้ วันประสูติของท่าน 1 2 3 4 ผมก็ยังเห็นคนไปเป็นพัน พล.อ.สนธิ ซึ่งเป็นมุสลิม ผู้บัญชาการกองทัพบก ก็ไปกราบท่าน ผู้บัญชาการทหารเรือก็ไป ผู้บัญชาการทหารอากาศก็ไป พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธก็ไป ประชาชนก็ไป เมื่อทุกคนไป คำถามก็มีอยู่ว่า ถ้าอย่างนั้นแล้วคำที่บอกว่าสมเด็จพระสังฆราชประชวร นั้น พระองค์ท่านหายดีหน่อยแล้วใช่ไหม ผมถามแค่นี้เอง ถ้าพระองค์หายดีแล้ว รัฐบาลจะทำอย่างไรกับการที่มีตำแหน่ง 2 ตำแหน่งซ้อนกัน ก็ถามแค่นี้ ตอบให้ไม่ได้รึยังไง
และเมื่อเช้า 10 โมงเช้า ผมได้รับพระราชทานความเมตตาจากสมเด็จพระสังฆราช ให้ไปกราบท่านเป็นส่วนตัวที่จุฬาลงกรณ์ ขึ้นไปท่านก็นั่ง ผมก็มองหน้าท่าน ท่านก็ยิ้ม ท่านไม่พูด สมเด็จพระสังฆราชองค์นี้ถ้าใครรู้จัก ท่านเป็นพระที่พูดน้อยมาก ท่านยิ้มอย่างเดียวและพระที่เป็นพระเลขาฯก็บอกคุณสนธิ ลิ้มทองกุลมา ท่านยิ้มและพยักหน้า ท่านพยักหน้า ตอนหลังผมถึงรู้ มีคนบอกผมว่า พวกเราออกรายการนี่ท่านดู มีคนเปิดให้ท่านดู พระที่มีเมตตาธรรมสูง
ก่อนกลับผมขอพรท่าน ท่านยิ้ม ท่านให้ผมกราบท่านแทบเท้า เท้าท่านนะ ไม่ใช่กราบห่างๆ เอาหน้าผากไปจรดเท้าพระองค์ท่าน บุญอะไรที่ผมได้วันนี้ ผมขอมอบให้ท่านผู้ชมที่อยู่ในห้องนี้และมอบให้ท่านผู้ชมที่อยู่ทางบ้านและมอบให้ท่านผู้ชมที่อยู่นอกหอนี้และมอบให้ท่านผู้ชมที่อยู่ต่างประเทศ ผมกราบท่าน น้ำตาผมคลอ ท่านมีพระจริยะที่งดงามและท่านเป็นพระที่ไม่พูดอะไรแม้แต่นิดเดียว
ผมก็ถามต่อ ง่ายๆ ผมถามว่าวันที่ 1 2 3 และ 4 ทุกคนก็รู้ว่าเป็นวันประสูติสมเด็จพระสังฆราช ผมเสียดายและเสียใจที่ท่านนายกฯ ไม่มีเวลาแม้กระทั่งไปกราบท่านเลยเหรอ มันจะมีธุระอะไรยิ่งใหญ่มหาศาลที่จะสละเวลาไปแล้วก็เข้าไปกราบท่าน หรือว่าท่าน รู้สึกท่านไม่ได้ไปกราบสมเด็จพระสังฆราชฯ มาร่วม 2 ปีแล้ว ผมเห็นผู้หลักผู้ใหญ่ก็ไปกันทุกคน ท่านก็มีพระเมตตาสูง ท่านพระราชทานพระไพรีพินาศมาให้ผม ผมไม่ได้ขอ
ท่านนายกฯ ท่านออกรายการวันเสาร์ที่ผ่านมา ท่านพูดได้ทุกเรื่อง ทุกเรื่องท่านพูดหมดแต่เรื่องเดียวที่ท่านไม่ได้พูด ท่านไม่ได้พูดบอกว่า เนื่องจากว่าวันนี้ วันพรุ่งนี้จะเป็นวันประสูติสมเด็จพระสังฆราชฯ ผมอยากจะเชิญชวนประชาชนชาวไทยนะมีเวลาก็หาโอกาสไปอวยพรให้กับสมเด็จพระสังฆราช

สโรชา - ถวายพระพรค่ะ

สนธิ - ถวายพระพร ไม่มี ผมก็เลยงง ผมก็เลยอยากจะถามท่าน คือทั้งหมดท่านผู้ชม คือผมถาม ผมถามนะ ผมไม่ได้กล่าวหาท่าน แล้วมันผิดหรอที่ผมจะถาม

สโรชา - เรามีเสียงของพระองค์ท่านที่อวยพร ขออนุญาตไปฟังซักนิดหนึ่งค่ะ

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง เสียงสมเด็จพระสังฆราชประทานพร

สนธิ - ท่านผู้ชมเห็นแล้วใช่มั้ย สำหรับพระหรือว่าบุคคลที่อายุ 92 ทำได้อย่างนี้ต้องถือว่าแข็งแรง 92 ท่านอายุ 92 แล้วนะฮะ เพราะฉะนั้นแล้วมันเกิดอาเพศอะไรในแผ่นดินนี้ มันเกิดขึ้นมาแล้ว มันเกิดอาเพศจริง เชียงใหม่เมืองไม่เคยน้ำท่วมท่วม 4 ครั้งแล้ว

สโรชา - เกิดอะไรขึ้น

สนธิ - 4 ครั้งแล้วคุณสโรชา เชียงใหม่น้ำท่วม 4 ครั้งแล้วนะ ผมไม่รู้ว่าทางคุณ ทางทีมงานกฎหมายท่านนายกฯ จะโยงเรื่องนี้ไปหาว่าผมหมิ่นประมาทท่านนายกฯ อีกรึเปล่า ผมเพียงแต่ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น นะครับ
เพราะฉะนั้นแล้วอีกเรื่องที่ผมถาม ผมก็ถาม ผมถามพวกท่านก็ได้ยิน ผมบอกพวกคุณเสนอชื่อคุณวิสุทธิ์ มนตริวัต ขึ้นไปให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงพระปรมาภิไธย 104 - 105 วันพระองค์ท่านไม่ส่งลงมา ไม่ส่งลงมา ส.ว.ที่รักความเป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นท่าน ส.ว.นิรันดร์ ท่านส.ว.วิญญู หรือว่าท่าน ส.ว.ประทิน ก็พากันบอกว่า เฮ้ยพวกคุณกำลังละเมิดพระราชอำนาจนะ แค่นี้น่าจะเป็นลางบอกเหตุได้แล้วนะว่านี่ไม่ใช่แล้ว เพราะว่าพระองค์ท่านยังไม่ได้โปรดเกล้าฯ ให้คุณหญิงจารุวรรณพ้นตำแหน่งแล้วคุณก็ไปเสนอคนใหม่ขึ้นมา ก็ยังดื้อกันอยู่ ดื้อจนกระทั่งในที่สุดก็มีการไปซักซ้อมกันเบื้องหลังว่า คุณวิสุทธิ์คุณลาออกดีกว่า คุณวิสุทธิ์ก็ออกมาพูดอย่างชนิดที่เรียกว่า ศุกร์ที่แล้วผมก็พูด ก็พอเซ็นจดหมายลาออก ตลกมั้ยส่งเข้าไปวันนี้พรุ่งนี้สำนักพระราชวังตอบรับมาทันทีเลย มันจะต้องใช้สมองประมาณกี่กรัมถึงจะเข้าใจ

สโรชา - คิดกันเป็นกรัมเลยหรอคะ

สนธิ - ผมก็พูดมา จำได้มั้ยคุณสโรชาเราพูด ผมบอกท่านนายกฯ ท่านพูดตลอดว่าท่านไม่ก้าวก่าย ทางนั้นเป็นอำนาจนิติบัญญัติ ผมฝ่ายบริหาร ท่านไม่ก้าวก่ายไม่เป็นไร ในฐานะที่คุณสุชน ชาลีเครือ เป็นญาติภรรยาท่าน และน้องชายคุณสุชนทำงานอยู่เอไอเอส ก็ถ้าอย่างนั้น 2 คนนั้น ท่านรู้จัก ก็ถ้าอย่างนั้น ท่านในฐานะประมุขฝ่ายบริหาร ทำหน้าที่เชิญประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ส.ว. มานั่งคุยกัน รวมทั้งประมุขฝ่ายศาลรัฐธรรมนูญมานั่งคุยกันว่า เรื่องนี้ผมไม่เกี่ยวนะ แต่ผมอยากให้เรื่องนี้จบหน่อยได้ไหม ท่านก็ทำเฉย ทำทองไม่รู้ร้อน ปล่อยให้ คุณหญิงจารุวรรณเหมือนลูกบอล เตะกันไปเตะกันมาสนุกสนานกันไป

...อ่านต่อหน้าถัดไป...


คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป การแสดงดนตรีจากวงคาราวาน



สโรชา
- ล่าสุดกลับไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ

สนธิ - เพื่ออะไร เพื่อรอให้ ส.ว.ชุดนี้หมดอายุ มี.ค.แล้วเสร็จ ก็รอให้เทอมคุณหญิงจารุวรรณหมด ธ.ค.คือของแบบนี้มันไม่ได้หลอกกันทุกคน อาจหลอกกันได้ในลักษณะกองทุนหมู่บ้าน แต่คนในห้องส่งประเภทนี้มันหลอกไม่ได้ พอผมตั้งคำถาม เรื่องคุณหญิงจารุวรรณจะเอาไง ท่านก็ไม่ตอบ เรื่องสนามบิน ซีทีเอ็กซ์ ท่านตอบไม่มีทุจริต
เขาแจ้งความตำรวจ คือตำรวจไทย ขอประทานโทษท่านประทิน สุดยอด วันนี้มีคนแจ้งความตำรวจไทยเยอะ เรื่องประพฤติผิดมิชอบของรัฐบาลชุดนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแจ้งความรองฯวิษณุ กรณีแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ตำรวจกองปราบก็ไปสอบ ไปสอบพี่ชายผม ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะแพทย์ที่รักษาสมเด็จพระสังฆราช นายแพทย์ศักดิ์ชัย ลิ้มทองกุล พี่ชายผมโทร.มาและหัวเราะ เขาบอกตำรวจกองปราบฯสอบเขา แล้วโกตาว่าไง ผมเรียกแกว่าโกตา เขาบอกว่าให้การตามจริง และเขาถามตำรวจกลับ บอกว่าตกลงทำยังไง บอกว่าคงเก็บเข้าลิ้นชักไว้ก่อน
คือตำรวจไทยรักษาตัวรอดเป็นยอดดี คือตอนนี้ใครมีอำนาจก็เก็บเข้าลิ้นชัก เพราะว่าคดีอาญาอายุความยาว ก็รอให้รัฐบาลชุดนี้วันหนึ่งไม่อยู่ พอไม่อยู่ คนใหม่ขึ้นมาถ้าตรงข้ามรัฐบาลชุดนี้ตำรวจไทยจะฟิตทันที ดำเนินคดีแหลกลาญ แต่ถ้ารัฐบาลมาแจ้งจับผมอาทิตย์หน้า พนันได้เลย ตำรวจไทยจะวิ่งมาทันทีเลย คุณสโรชาที่เราหัวเราะกันนี่นะ เราหัวเราะกันไปแต่เราร้องไห้ข้างในนะ

สโรชา - เห็นด้วย

สนธิ - มันสุดแสนจะขมขื่นนะ

สโรชา - ดิฉันก็อยากจะถามคุณสุภิญญาเหมือนกันค่ะว่า ตอนที่โดนฟ้องใหม่ๆ หน้าซีดเท่าดิฉันรึเปล่า

สนธิ - แต่ผม สำหรับผมแล้วผมมีความรู้สึกผมไม่สงสารคุณสุภิญญา แต่ผมให้กำลังใจ เพราะว่าบางครั้งผมอยากให้คุณสุภิญญาต้องเข้มแข็งเอาไว้ ผู้หญิงตัวเล็กๆ โดนฟ้อง 400 ล้านบาท ผมไม่รู้ว่าไอ้คนฟ้องเนี้ยมัน คือประเด็น 400 - 500 ล้าน คือฟ้องเพื่อปิดปาก แต่เผอิญคุณสุภิญญา ผม หรือว่าหลายๆ คนที่ลุกขึ้นสู้ก็เพราะเราสู้ในเรื่องของธรรม เราไม่ได้ผิด เราพูดในความเป็นจริง ซึ่งประเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังว่าในขณะซึ่งเค้าพยายามจะแก้หนี้ ลดหนี้คนซึ่งเป็นลูกหนี้ มันมีความร่ำรวยของคนที่รวยจากหุ้นอยู่กลุ่มหนึ่งซึ่งมันก็รวยแล้วรวยอีก แต่คงต้องเป็นเบรกหน้า

สโรชา - เบรกหน้า

สนธิ - ก็ยังเหลือเวลาอีกซัก 5 นาที

สโรชา - อย่าลืมนะคะสามารถส่งคำถามมาด้านหน้าได้นะคะ เดี๋ยวช่วงหลังเบรก 2 เราขออนุญาตปิดนะคะ เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะส่งก็กรุณาส่งในช่วงนี้ก็ได้

สนธิ - เบรก 2 ผมอยากจะพูดเรื่องการลดหนี้ชี้ให้เห็น เรื่องหมอวิชัยกับหมอสุชัย แล้วอีกประการหนึ่งผมเองก็อยากจะฝากไปบอกท่านนายกฯ นิดหนึ่ง ท่านนายกฯ พูดถึงสิทธิที่ท่านถูกละเมิดแล้วท่านก็ฟ้องพวกเรา ท่านบอกคนเรามีสิทธิ์เมื่อละเมิดมาก็ต้องพึ่งศาลสถิตยุติธรรม ก็มันละเมิดสิทธิผม
แต่เมื่อวานนี้มีนักข่าวคนหนึ่งใจกล้ามาก ผมอยากจะให้รางวัลเด็กคนนั้น ที่ถามถึงน้องเขยท่านว่าได้ต่ออายุ ท่านพูดออกมาทันทีเลย ท่านใส่ออกมาเป็นชุด สรุปง่ายๆ ท่านบอกถามไม่เนียน ถามแบบนี้ถามหาเรื่อง ผมพร้อมจะมีเรื่อง
ผมจะถามกลับ แล้วคุณละเมิดสิทธิ์นักข่าวนั้นรึเปล่าล่ะ ใช่มั้ยคุณสโรชา

สโรชา - ค่ะ

สนธิ - คิดให้ดีๆ คิดให้ดีๆ ท่านผู้ชมที่อยู่ที่บ้าน ท่านผู้ชมที่อยู่ที่บ้าน ตลอดจนคุณธนา เบญจาธิกุล คิดให้ดีๆ นายกรัฐมนตรีของคุณไปตวาดนักข่าวคนนั้นออกไปทางทีวี คุณละเมิดสิทธินักข่าวคนนั้นรึเปล่า แล้วคุณละเมิดสิทธิ์ประชาชนอย่างผมรึเปล่า
เขาเพียงแต่ถามว่าทำไมถึงมีการต่ออายุน้องเขยคุณเป็นปีที่ 3 เป็นปลัดมา 7 ปี ทำไมคุณไม่ตอบว่า เนื่องจากว่าในกระทรวงยุติธรรม ตำแหน่งที่จะขึ้นเป็นปลัดไม่ฉลาด ทำงานสู้คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ไม่ได้ ผมถึงรู้สึกว่าจำเป็นต้องให้คุณสมชายอยู่ต่อ ผมคิดว่าตอบแค่นี้ก็จบแล้ว ทำไมต้องพาดพิงไปจนถึงการที่ถามแบบนี้ ถามหาเรื่อง ผมพร้อมจะมีเรื่อง
นี่คุณเป็นนายกรัฐมนตรีหรือเป็นนักเลงกันแน่

อีกนิด คุณสุรชัย น้าหงาของพวกเรา ก่อนมาเล่นที่นี่ มีไอ้พวก 14 ตุลาที่อยู่อเวจีเรียบร้อยไปหาคุณสุรชัย พูดยังไงรู้ไหม พูดว่า เฮ้ย เลือกยืนให้ถูกนะ อย่ายืนข้างคนผิดนะ เลือกข้างให้เป็นนะ คุณสุรชัยไม่สนใจ บอกว่า ลุยก็ลุยเลย
ผมบอกแล้วว่าในยุคที่สังคมมันมืด ยุคที่สังคมใช้อำนาจเป็นธรรม เราจะเจอเรื่องพวกนี้ตลอดเวลา จะมีการข่มขู่สารพัดแบบ นอกจากข่มขู่แล้วมีช่องทางทางกฎหมายอันใดที่ทำได้ก็จะทำทันที ถ้าช่องทางกฎหมายทำไม่ได้ก็จะใช้คนรู้จักกันแล้วไปขู่กันตลอดเวลาไม่มีวันหยุด
ผมเพียงแต่หวังว่า เมื่อผมจุดเทียนเล่มนี้แล้ว ผมยอมบาดเจ็บ ผมหวังว่าพวกเราคงจะช่วยกันจุดเทียน พวกท่านเข้ามา หลายท่านได้รับแจกใบนี้ จะเรียนให้ทราบไม่ใช่การขายของเพื่อให้ผมรวยไม่ใช่ เราถูกปิดหูปิดตาหมด สื่อโทรทัศน์ไม่ยอมออกรายการ สื่อโทรทัศน์ไม่ยอมเอาคำของเราไปออก
ในขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ที่พึ่งพาได้ตอนนี้ มีอยู่ 3-4 ฉบับ มีผู้จัดการ มีกรุงเทพธุรกิจ มีมติชน และไทยโพสต์ มีคมชัดลึก และมีข่าวสด พึ่งได้แค่นี้ พวกเราเป็นพลังในตัวเราเอง เราอย่าประมาทตัวเราเอง อย่าประมาท มีเพื่อนมีฝูง อ่านเรื่องนี้ดีๆ สร้างเครือข่าย ทั้งหมดที่ดูในห้องนี้กับข้างนอก ต้องมีอย่างน้อย 2,000 คน ถ้าคนหนึ่งสร้างเครือข่ายได้ 100 คน นั่นคือ 200,000 คนให้อีก 100 คนจาก 200,000 คนสร้างเครือข่ายต่ออีก 100 คน 10-20 ล้านคน
การสร้างเครือข่ายไม่ได้สร้างเครือข่ายเพื่อปลุกระดมม็อบ แต่สร้างเครือข่ายเพื่อเรียกร้องให้สื่อฯเสรี วิธีการให้สื่อเสรี เมื่อเขาปิดปากเรา เราก็หาทาง ใครก็ตาม เพื่อนอยู่พังงา กระบี่ โคราช เฮ้ย เคยดูเมืองไทยรายสัปดาห์ไหม เขาพูดความจริง ไม่เคยดู อ่านหนังสือพิมพ์อะไร หันมาอ่าน 4 ฉบับนี้พอ สร้างแบบนี้ไป ใครมีเครือข่ายเพื่อนฝูงทำวิทยุชุมชน สนใจไหม พ่วงต่อสัญญาณเอามาออก เฮ้ย กรมประชาสัมพันธ์มันว่า มึงก็แอบออกซิ ไม่ยากนี่
วันดีคืนดีมีพระจากวัดหนึ่ง พระคุณเจ้าโทรศัพท์มาว่า อาตมาจะเชื่อมสัญญาณเมืองไทยรายสัปดาห์ได้อย่างไร
ทีนี้ เอาวีซีดี ดีวีดี หนังสือเมืองไทยรายสัปดาห์ เสื้อยืด เราจะสู้เพื่อในหลวงไปจำหน่ายเพื่อเผยแพร่ เราไม่ได้เอากำไร ดีวีดีแผ่นหนึ่งเราขาย 55 บาท ตอนนี้คลองถมก็รับเราไปขายแหละ อยากขายดีวีดีไหมเอาไป ซื้อขายเหมาเป็นล็อตใหญ่เลยลดให้ 10-20 บาทไปขาย กระจายให้หมด ทำทุกอย่าง เพื่อสร้างเครือข่ายให้เขารู้สึกว่า ทุกวันจันทร์ถ้าเขาไม่ได้ดู ถ้าเขาไม่มีปัญญาติดจานดาวเทียมเอเอสทีวี 6,900 บาทแล้วแต่ ก็บอกว่าเธอไปที่แผงหนังสือนะ ร้านหนังสือนะ 55 บาทซื้อมันมา แล้วไปนั่งฟัง หาองค์ความรู้
นี่คือวิธีการสร้างสื่อเสรี พอสร้างมากขึ้นแล้ว กระแสมันแรง ก็อาจทำให้ทอล์กโชว์หลายคนหลายช่อง ไม่ว่าจะช่อง 3 ช่อง 9 อาจจะทำให้คุณสรยุทธเกิดความกล้าหาญขึ้นมาบ้าง สั้นๆ นะคุณสโรชา ผมเห็นใจเพื่อนผมคนนี้ แต่เราต้องสร้างกระแส วิธีสร้างกระแสอย่าสร้างเฉพาะห้องนี้ มีวิธีการแล้ว มีเบอร์โทรศัพท์กลาง โทร.ไปปั๊บเค้าจะถามว่าต้องการอะไรมั่ง ต้องการเป็นสมาชิกหนังสือพิมพ์ ต้องการจะซื้อเสื้อ ต้องการจะซื้อวีซีดี ต้องการจะติดเคเบิ้ล ต้องการจะเชื่อมเครือข่ายวิทยุชุมชน เค้าจะไดเร็กต์ท่านไปคนที่เกี่ยวข้อง ถ้าท่านมีเพื่อนมีวิทยุชุมชนเค้าจะโทรกลับไปหาแล้วบอกว่า มีอินเทอร์เน็ตมั้ยถ้ามีอินเทอร์เน็ตให้เข้าอย่างนี้ ให้คลิกอย่างนี้ ถ้าไม่มีมีสายโทรศัพท์มั้ย เค้าจะสอนหมดทุกอย่าง เมื่อมันเป็นเช่นนี้แล้วถ้าเราพร้อมใจกันทำ
พวกท่านก็คือเทียนคนละเล่ม เมื่อท่านเป็นเทียนคนละเล่มแล้วเรามารวมเทียนกันซักวันหนึ่งเทียนนั้นก็จะเป็นเทียนพรรษา สังคมไทยจะค่อยๆ สว่างขึ้นมาที่ละนิด ผมว่าเราต้องเบรกซักนิดแล้ว

สโรชา - เบรกกันแป๊บหนึ่งนะคะ แต่ว่ามีเซอร์ไพรส์ให้คุณสนธิ เรามีกำลังใจมาจากพนักงานของ ASTV News 1 ของเราจะมีบทความพิเศษเป็นบทเพลงที่จะมาขับร้องให้คุณสนธิ แล้วก็คุณผู้ชมที่นี้ทุกๆ ท่าน

******************************************************

สโรชา - มีคำถามเข้ามาเยอะเลยนะคะ เดี๋ยวช่วงท้ายเราคงจะได้มาตอบคำถามกัน มีกำลังใจส่งมาด้วยค่ะคุณสนธิ ดิฉันขออนุญาตชูให้กล้องดูซักนิดหนึ่งถ้าเกิดจะขึ้นจอ ก็จะเห็นนะคะเป็นกำลังใจที่ส่งมาถึงคุณสนธิ ก็ขอบพระคุณ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ด้วยความพยายามที่อุตส่าห์ส่งกำลังใจมาให้เรา ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยนะคะ นอกจากนี้แล้วยังมีผู้ที่ได้นำส่วนหนึ่งของเพลงพระราชนิพนธ์ ความฝันอันสูงสุด ได้ส่งมาให้เราเช่นกัน ขออนุญาตอ่านนิดหนึ่ง “จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง จะยอมตายหมายมั่นเกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา”
เบรกนี้เราจะคุยกันต่อเรื่องอะไรดีคะ มีเรื่องภาคใต้ มีเรื่องของการ...เค้าเรียกว่าอะไร หนี้ประชาชน ภาคประชาชนด้วย

สนธิ - คือวันนี้ผมจะพูดเรื่องภาคใต้ให้ฟังนิดหนึ่ง ผมมีข้อคิดอะไรบางอย่างซึ่งอยากจะให้ท่านผู้ชมทางบ้านและท่านที่ฟังอยู่ในที่นี้ลองคิดตามผมไปหน่อยก่อนที่ผมจะเอาข้อคิดที่ผมจะมอบให้ท่าน ผมอยากจะกราบเรียนซักนิดหนึ่งว่า เรามาดูตัวเลขของคนที่ตายกันก่อนดีกว่า แล้วเราอาจจะเห็นอะไรดีๆ หลายอย่างขึ้นมา ดีไม่ได้หมายความว่าดีใจที่คนตายนะฮะ คือดีๆ ก็คือว่า อาจจะมีความคิดที่เข้าใจอะไรมากขึ้น ช่วยขึ้นแผ่นสไลด์ของตารางหน่อยได้มั้ยครับ ช่วยปิดไฟหน่อย
เราจะเห็นได้ชัดนะครับว่า ตั้งแต่มกราคม 2547 มาจนกระทั่งปัจจุบันนี้เรามีคนที่เสียชีวิตตามตารางที่เห็น มีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ มีทั้งประชาชน มีทั้งผู้ร้าย เฉลี่ยต่อสัปดาห์ตั้งแต่ 2547 ก่อนที่นาวิกโยธิน 2 นายจะถูกสังหาร เราจะเห็นว่า การตายเฉลี่ยต่อสัปดาห์ พูดง่ายๆ ว่า ตายกันเฉลี่ยแล้วผมคิดว่าสัปดาห์หนึ่งประมาณ 24 คน
ภาพรวมทั้งหมดคือ มกราคมจะเห็นได้ชัดเลย ภาพต่อไปครับ จะเห็นได้ชัดว่าภาพรวมทั้งหมดตั้งแต่มกราคมถึง 20 กันยายน 2548 ตัดมาที่เฉพาะ 21 กันยายนจนถึงวันนี้ อีกภาพภาพสุดท้าย จะเห็นได้ชัดว่า สูงเป็นพิเศษ สูงตรงที่ เหมือนกับว่ากำลังเร่งอะไรบางสิ่งบางอย่างให้เกิดขึ้น แล้วก็กระบวนการของผู้ก่อการร้าย ตลอดจนกระบวนการแบ่งแยกดินแดนเหมือนกับว่า กำลังตอบโต้นโยบายอะไรของรัฐบาล
คือทีนี้ พูดอย่างนี้ก็แปลได้สองแง่สองง่าม ฝ่ายที่เกลียดผมชอบรัฐบาล ก็บอกว่าเอ๊ะคุณสนธิคุณไปว่ารัฐบาลได้ไงในเมื่อรัฐบาลเค้าปราบปรามจริงๆ มันก็ต้องตอบโต้หนักซิ ประเด็นไม่ใช่เรื่องนั้น ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ตั้งแต่มกราคม 2547 มาจนถึงวันนี้ภายใต้นายกรัฐมนตรีคนนี้เหตุการณ์ไม่เคยดีขึ้นเลยไม่ว่าในกรณีใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่ามาตรการที่ออกมาตั้งกี่มาตรการก็ไม่ดีขึ้น ก็ไม่ดีขึ้น
ที่ร้ายที่สุด ที่น่ากลัวที่สุดก็คือว่า วันนี้ท่านนายกรัฐมนตรีท่านแอ่นอกขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียว แต่การขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียวของท่านนั้นมันไม่มีเงื่อนไขกำกับ คุณสโรชา เวลาคุณจะขอรับผิดชอบในเรื่องอะไร คุณต้องมีเงื่อนไขกำกับ เช่น ผมขอรับผิดชอบว่าเหตุการณ์จะต้องดีขึ้นภายในเมื่อไร ผมรับผิดชอบว่าจะต้องเป็นอย่างนี้ๆ ผมรับผิดชอบแล้วถ้าไม่เป็นอย่างนี้ผมจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร

สโรชา - ต้องพูดต่อด้วย

สนธิ - ต้องพูดหมด ไม่ใช่บอกว่าผมขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียวถ้าแก้ไม่ได้ อีก 4 ปีค่อยอย่าเลือกผมเข้ามา ผมอยากให้ท่านนายกฯแสดงความกล้าหาญ เพราะท่านบอกไม่เคยกลัวใคร กล้าหาญหน่อยว่าภายในสิ้นปีนี้ ถ้าเรื่องไม่ดีขึ้นท่านลาออกได้ไหม คุณสโรชามันเป็นเรื่องความยุติธรรมนะ

สโรชา - ตอนนี้ท่านก็อยู่ภาคใต้นะ ท่านไปตันหยงลิมอและไปบ้านผู้ต้องหา อย่างน้อย 2 คนและที่ทางการสงสัย

สนธิ - ก็ที่น่าสนใจอย่าง เวลาเราอ่านข่าวต้องอ่านให้ละเอียดนะ ท่านบอกภรรยาผู้ก่อการร้าย ให้บอกสามีให้มอบตัวเถอะ ยัยเมียก็สวนสั้นๆ ว่า ไม่มา อ่านหนังสือพิมพ์ซิ คือผม

สโรชา - มีจริงเหรอ สวนสั้นอย่างนั้นเลยเหรอ

สนธิ - เออ ว่าไม่มา แล้วท่านก็น่ารักเหมือนกันนะ ท่านชวนเด็กเดินเล่น เด็กไม่ยอมเดินด้วย ท่านก็ให้ตังค์คนละร้อย เด็กก็เลยไป

สโรชา - ให้ค่าขนม

สนธิ - ให้ค่าขนม คือทุกอย่างเป็นเงินไปหมด มันเป็นเงิน ผมมีเรื่องจะเรียนให้ทราบนิดหนึ่ง เรื่องใต้ก่อนแล้วค่อยมาเรื่องอื่น คือเราดูใต้วันนี้ พิสูจน์ชัดแหละว่ามาเลเซียเกี่ยวข้องด้วย 100% เราต้องถามตัวเราเอง เมื่อเราดูปัญหาภาคใต้อย่าดูเฉพาะ 3 จังหวัด เราต้องดูภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์
ถามว่าวันนี้มาเลเซียชอบสิงคโปร์ไหม ไม่ชอบ ถามวันนี้มาเลเซียกลัวสิงคโปร์ไหม กลัว แต่ว่ามันการณ์กลับว่า ทุกวันนี้เราคบสิงคโปร์อย่างจริงจัง เราให้สิงคโปร์เช่าฐานทัพอากาศ ที่อุดรฯ ยกสถานภาพความเป็นเอกราชให้มันเช่า 15 ปี ให้มันเอาเครื่องบิน บินเหนือน่านฟ้าอากาศเรา ขณะเดียวกันก็ให้เช่าพื้นที่ที่เมืองกาญจนบุรี ให้สิงคโปร์ส่งทหารมาฝึก ที่คนไทย หมาไทยเข้าไม่ได้ แล้วที่ขอนแก่นอีก ที่ขอนแก่นมีสนามยิงปืนให้สิงคโปร์ไปฝึกยิง เรายกดินแดนทั้งขอนแก่น ทั้งกาญจนบุรี แล้วอธิปไตยเหนือน่านฟ้าอากาศให้สิงคโปร์ แล้วเรายังมีหน้าว่าแผ่นดินไทยนิ้วหนึ่งก็ไม่ยอมเสีย พูดได้ยังไง

สโรชา - คุณสนธิกำลังหมายความว่าเรามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดสิงคโปร์มากเกินไป

...อ่านต่อหน้าถัดไป...


คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ เมืองไทยรายสัปดาห์ สัญจร ครั้งที่ 3 ช่วงที่ 1

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ เมืองไทยรายสัปดาห์ สัญจร ครั้งที่ 3 ช่วงที่ 2

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ เมืองไทยรายสัปดาห์ สัญจร ครั้งที่ 3 ช่วงที่ 3 จบ

คลิกชมภาพสไลด์โชว์ ได้ที่ไอคอน Manager Mutimedia
ดูภาพชุดจาก Manager Multimedia


คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป การแสดงดนตรีจากวงคาราวาน

สนธิ - มากเกินไป เป็นความสัมพันธ์ในเชิงการค้าและความมั่นคง คุณเป็นมาเลเซียคุณคิดไหม เมื่อคุณเป็นมาเลเซียคุณก็ต้องคิด แล้ววันนี้สิงคโปร์ในทางเศรษฐกิจมันแทบจะเป็นเจ้าของประเทศไทยอยู่แล้ว ถ้าผมเป็นมาเลเซียผมก็ต้องให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นบัฟเฟอร์
คิดซิ ผู้ชมคิดให้ดี เอาตัวท่านใส่เป็นผู้นำมาเลเซีย พวกนี้มันไม่ได้กินแกลบ พวกนี้มันมองออก เป็นเจ้าของธนาคารกสิกรไทย สิงคโปร์เป็นเจ้าของธนาคารกรุงเทพ อีกไม่นานสิงคโปร์จะเป็นเจ้าของทีพีไอ สิงคโปร์เป็นเกือบครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินที่ภูเก็ต ธนาคารยูโอบีรัตนสินก็ของสิงคโปร์ มีหุ้นเยอะไปหมด นักการเมืองเมืองไทยที่คอร์รัปชั่นก็ชอบเอาเงินไปฝากสิงคโปร์ ไปกันจังสิงคโปร์ไปเพื่อฝากเงิน ไอ้เกาะบ้า หมาเดินรอบเกาะ เยี่ยว 2 ทีก็เต็มเกาะแล้ว มันมีอะไรน่าไปบ้าง ไปเกาะสีชังยังสนุกกว่า
 มาเลเซียกับสิงคโปร์ มาเลเซียเขาเป็นประเทศมุสลิม และเขามีชนเชื้อชาติจีนและมีอินเดียเข้ามาผสมด้วย แต่ว่ามาเลเซียโดยพื้นฐานเขาขัดกับสิงคโปร์ตลอด เรามีแต่ตกลงกับนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ จำได้ไหม ลี เซียน ลุง ไปที่ดาราเทวีโอเรียนเตล นั่งกินข้าวกับนายกรัฐมนตรีเรา ผมยังไม่เคยเห็นเราเชิญ บาดาวีมา และมานั่งกินข้าวกันจริงจัง
จำได้ไหม ที่ผมบอกจับเข่าบาดาวี บอก เฮ้ยบาดาวีเพื่อนแก้ว เอ็งแอบหนุนพวกใต้ยังไงบอกหน่อยไหม มีอะไรไม่พอใจ ท่านบอกท่านนักเลงนี่ไม่กลัวใคร แต่มัวแต่ไปคุยกับสิงคโปร์ว่าช่วยเอาเงินมาลงทุนตรงนี้นะ
อีกหน่อยได้ข่าวจะมีแผนขุดคอขอดกระ แล้วให้สิงคโปร์เป็นคนได้สัมปทาน แต่ว่ายังไม่คอนเฟิร์มนะ มีการคิดกันและคุยกัน ไม่รู้ฝีมือใคร อันนี้ผมยกตัวอย่างให้ฟัง
เพราะฉะนั้นแล้วผมถามว่า มาเลเซียนี่ มันนั่งอยู่ดีๆ แล้วมันดูว่าประเทศไทยสบายดีรึเปล่า มาให้เช่าสนามบินอุดรฯ ให้เช่าพื้นที่ ให้กองทัพสิงคโปร์มาฝึกอบรม ฝึกการรบ ที่กาญจนบุรี มันมีความสบาย ก็ไม่สบายใจ ก็เหมือนครั้งหนึ่งเรามีเรื่องกับพม่า นานมาแล้ว เราก็เอาพวกกะเหรี่ยงเป็นบัฟเฟอร์สเตท เพื่อกันพม่าไว้ เหมือนกัน ไม่ต่างกันหรอก
นี่เป็นยุทธศาสตร์ความมั่นคงของชาติบ้านเมือง ซึ่งคิดอย่างนี้ไม่ผิด เพราะเขาคิดเพื่อประโยชน์ของประเทศเขา แต่ความคิดเพื่อประโยชน์ของประเทศเขามันทำให้เราเจ็บ เราต้องแก้ให้ถูกจุด

สโรชา - แก้ยังไงค่ะ ถอยออกมาเหรอ

สนธิ - ไม่ใช่ถอย เราต้องตั้งสติ อย่าสติแตก แล้วเราต้องรู้ว่าปัญหาอยู่ที่ไหนแล้วค่อยๆ คลำและคุยกับเขา คุยกับเขาในทำนองที่ให้เขารู้ ว่าเรารู้นะเขาคิดยังไง เราถามเขาว่าคุณมีอะไรไม่สบายใจ คุณบอกผมตรงๆ เราทดสอบได้ เช่น เรายกเลิกไม่ให้สิงคโปร์มาฝึกทหารที่กาญจนบุรีและลองดูปฏิกิริยาของมาเลเซียว่ายังไง ดีขึ้นไหม ถ้าจู่ๆ มาเลเซียบอก "ทักษิณ ไอ้ 10 คนที่ยิงพวกลื้อ หนีเข้ามา อั้วจับได้แล้วนะ เดี๋ยวอั้วส่งเข้ามา"
ทดสอบซิ ไม่เสียหาย แล้วอย่าเสียเวลากับ 45 นาทีที่ภูมิอกภูมิใจนักกับบุช ไม่รู้จะภูมิใจอะไร

สโรชา - ทานข้าวกันด้วย

สนธิ - ทานข้าวไม่เป็นไร ตรงนี้ที่อยู่ติดบ้านเรา คุยกับเขาซะหน่อย ให้มันรู้เรื่อง แล้วก็ ตัน ฉ่วย หม่อง เอ คุยกับเขาหน่อย บอกว่า "เงิน EX-IM BANK ที่อั้วอุตสาห์ให้ลื้อกู้ไปนี่ ไหนๆ ขิ่น ยุ้นต์ เอาไปเรียบร้อยแล้ว ลื้อรับผิดชอบหน่อยได้ไหม ขอคุยกันหน่อย"

สโรชา - ขอคุยกันหน่อย

สนธิ - นี่คือเรื่องที่ผมคิดว่า เป็นเรื่องที่เรา ผมอยากให้มองปัญหา นี่เรื่องจริง อยากให้มองปัญหาภาคใต้ อย่ามองในมิติของผู้ก่อการร้าย แบ่งแยกดินแดนอย่างเดียว ให้มองมิติในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างสิงคโปร์กับไทย สิงคโปร์กับมาเลเซีย มาเลเซียกับไทย ดู 3 ช่วงนี้คือ ถ้ามาเลเซียให้ความร่วมมือ 100% ไม่มีทางที่พวกนี้จะหลบเข้าพรมแดนได้ ไม่มีทาง แสดงว่า มาเลเซียปากว่าตาขยิบ เกิดอะไรขึ้นเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม
ผมคิดว่าตรงนี้ต้องเริ่มตรงนี้ ผมบอกบุญให้นะ พนันไหม บอกก็ไม่ทำ เพราะอะไร เพราะว่าเขายังเชื่อเสมอว่าไม่มีใครรู้เรื่องดีเท่าเขา เขารู้คนเดียว

สโรชา - มาคุยกันเรื่องหมอๆ ดีกว่า

สนธิ - อย่าเพิ่งหมอ สุวรรณภูมิยังไม่จบเลยนะ พวกเราเคยมีใครคิดไหม ใครอยู่หน่วยงานราชการลองคิดดู เวลาคุณทำสัญญา ทำสัญญากับเอกชน ให้เอกชนทำอะไรอย่าง มันมีช่วงเวลาที่เขาเรียกว่าเซ็นรับมอบงาน ถ้าไม่เซ็นรับมอบงานจ่ายเงินไม่ได้ เพราะฉะนั้นแล้วถึงมีกระบวนการพาคนเซ็นรับมอบงานไปเลี้ยงดูปูเสื่อ สุดแล้วแต่ ถ้างานใหญ่ ก็อาจเลี้ยงด้วยรถเบนซ์ซักคัน ถ้างานเล็กก็อาจเที่ยวยุโรป อเมริกา ถ้างานขนาดกลาง ขนาดเล็ก กระจุกกระจิก ก็พาไปอาบอบนวด อะไรทำนองนั้น เพื่อให้มันผ่าน
เงื่อนไขข้อหนึ่งของการเซ็นรับงานคือ ถ้าคุณเอาของที่เขาทำไปใช้ถือว่ารับงานแล้ว สนามบินสุวรรณภูมิเช่นกัน เมื่อคุณเอาเครื่องบินลงแล้วก็ต้องถือว่างานจบแล้ว คุณสโรชาคิดดีๆ หมายความว่าจากนี้ไป การทำล่าช้า การปรับ การเบิกงวดงานทำได้ทันที ไม่มีการปรับ การอะไรทั้งสิ้น

สโรชา - โดยไม่มีเงื่อนไข เพราะเอาของเขาไปใช้แล้ว

สนธิ - แน่นอน คุณเอาลงแล้วนี่ คุณจะบอกเทสต์ไฟลต์ได้ไง คุณมีพิธีการ มีมอบของที่ระลึก ถ้าคุณเช็กไฟลต์ทำไมต้องมอบของที่ระลึก มอบทำไม ไม่มีเหตุผล นี่ไงตรงนี้ที่สังคมไทยยังไม่รู้ สื่อมวลชนก็รู้ หนังสือพิมพ์ก็แหย่ๆ แต่ว่าโทรทัศน์มันเป็นบ้าอะไรไม่รู้ ไม่ยอมพูดกันเลย
เพราะอะไร ผมจะเล่าให้ฟัง เพราะตั้งแต่มีเรื่องซีทีเอ็กซ์ขึ้นมาพวกข้าราชการระดับล่างของ บทม. กลัวไปหมด มาเจรจาให้เซ็นรับงานแต่ละงานไม่ยอมเซ็นกัน ขี้เกียจติดคุก ไม่อยากติดคุก ทำไปทำมาไม่ยอมเซ็น ปรากฏว่าบริษัทที่ทำไม่มีตังค์แล้ว เพราะเบิกงวดไม่ได้
“ท่าน ท่านส่งหมามาแดก ผมก็ให้ไปเรียบร้อยแล้ว แล้วผมจะเบิกงวดได้ยังไง ก็ท่าน...”
ตอนนี้ผู้รับเหมาส่วนใหญ่ใกล้เจ๊งกันทุกคน สมน้ำหน้า (เสียงปรบมือ) เพราะมันอยากจะจ่ายกันมากนัก มันก็เลยเกิดกงกำกงเกวียนนี้ขึ้นมา
นี่คือสุวรรณภูมิที่ผมอยากจะพูด เป็นลักษณะอย่างนี้จริงๆ
ถ้าศุกร์หน้ามีเวลา ผมจะเอากระบวนการ ขั้นตอน วัน ว. เวลา น. ให้ท่านผู้ชม คุณสโรชา ท่านผู้ชมทั้งที่นี่ ต่างประทศ ท่านผู้ชมที่บ้าน เห็นชัดๆ เลย ว่าวัน ว. เวลา น. พ.ศ.นี้ คำพูดท่านว่าอย่างไร แล้วมันเปลี่ยนยังไง แล้วมันเกิดอะไรขึ้นในช่วงของการเปลี่ยนตลอดเวลา
ท่านนายกฯ ท่านเป็นคนชอบเทคโนโลยี แต่ท่านไม่รู้หรอกว่าเทคโนโลยี มันมีอยู่ 2 อย่าง ที่ท่านลืมไป อย่างแรกคือความเร็ว สปีด เรียกมาเมื่อไหร่ก็มาทันที อย่างที่สองเขาเรียกว่ามีเมมโมรี่เยอะ สมัยก่อนจะค้นทีนะ ต้องยกหนังสือพิมพ์มาตั้งกองขนาดนี้ นั่งพลิกกันไปพลิกกันมาฝุ่นฟุ้งเลย ดูกัน 3 วันถึงจะรู้ว่า เออ..มันอยู่ตรงนี้เอง 4 บรรทัด

สโรชา – แต่เดี๋ยวนี้ คลิกปุ๊บ

สนธิ – แต่สมัยนี้ คีย์เข้าไป myfirstinfo.com ใส่หัวข้อเข้าไปเหมือน google คลิกปั๊บ มีอยู่ 82 ข่าวขึ้นมาทันที ต่างกรรมต่างวาระ ไล่ดูแต่ละข่าวพูดว่ายังไงมั่ง ตัดสินใจเรื่องอะไรพูดว่ายังไงมั่ง บางข่าวคลิกเข้าไปมีทั้งหมด 100 กว่าข่าว 200 กว่าข่าว ในลักษณะเมมโมรี่อย่างนี้เขาเก็บอาไว้ 7 แสนกว่าข่าว ในช่วงเวลาย้อนหลัง 10 ปี เพราะฉะนั้นแล้ว ย้อนไปตั้งแต่สมัยที่ท่านบอกว่าจะแก้จราจรภายใน 6 เดือนก็ยังอยู่ข่าวนี้
นี่ไง ! ท่านไม่รู้ไง เมื่อท่านไม่รู้ พอเราเอาคำพูดที่ท่านเคยพูดไว้แต่ก่อน เอามาเล่าให้ท่านฟัง แล้วถามท่าน ท่านถึงโกรธเราไง
ท่านโกรธเรา ไม่เคยสังเกตหรือว่าเราเคยถามท่านว่า ตอนที่ศาลรัฐธรรมนูญให้ท่านชนะคดี ท่านเคยพูดอะไรไว้ ท่านไม่เคยตอบตรงนี้แม้แต่นิดเดียว ท่านไม่เคยตอบ วันดีคืนดีท่านก็บอกว่า รัฐบาลผมไม่ใช่รัฐบาลที่จะมาฟอกคน พอเราถามกลับว่าท่านทำไมตั้งคนอย่างนี้ ๆ ท่านก็ไม่เคยตอบ ท่านไม่ตอบ
ท่านไม่รู้หรอกว่าที่ท่านฟ้องผมนี่ ผมมีวัน ว. เวลา น. เรียบร้อยหมดแล้ว

สโรชา - เตรียมไว้หมดแล้วหรอคะ

สนธิ - พอสมควร

สโรชา - จะได้วางใจ

สนธิ - พอสมควรๆ

สโรชา - ที่ออฟฟิศเค้าตั้งกล่องให้ดิฉันเรียบร้อยแล้วหยอดกันคนละ 5 บาท 5 บาท สะสมไว้เผื่อต้องใช้

สนธิ - มีท่านผู้ชมท่านหนึ่ง ต้องกราบขอบพระคุณท่านในที่นี้ ท่านส่งผ้าพันคอมาให้ รู้สึกจะ 15 หรือ 20 ผืน ท่านบอกว่า ช่วยเอาไปขายหน่อยแล้วเอาเงินนี้มาสะสมเป็นทุนสู้คดี ผมก็คิดว่าผมจะขายแต่ผมคงเอาเงินก้อนนั้นไปทำบุญให้ท่าน อุทิศส่วนกุศลให้ท่านไป แล้วอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษท่าน เพราะว่าทุนอะไรในการช่วยพวกเราไม่สำคัญเท่ากับทุนน้ำใจ

สโรชา - กำลังใจ

สนธิ - เพราะเสียงปรบมือที่ท่านผู้ชมปรบให้เราทั้งข้างใน ข้างนอก และที่บ้าน มันไม่เหมือนเสียงปรบมือที่เค้าปรบกันในที่ประชุมของสมัชชาพรรคไทยรักไทย เพราะนี่คือเสียงปรบมือที่บริสุทธิ์ไม่ได้เป็นเสียงปรบมือจัดตั้ง
พวกสายลับทั้งหลายมารายงานกลับไปแล้วตกกะใจ "นายๆ มันมาได้ยังไง มีทั้งป้า มีทั้งยาย มีทั้งย่า มีทั้งนายกสมาคมคนตาบอดมาทุกนัด"
ไอ้นายก็บอกว่า "มึงไปดูซิมันใส่หน้ากากมารึเปล่า"
คือ พลังบริสุทธิ์มันเหมือนลมปราณบริสุทธิ์ ลมปราณพรต นักพรต ไม่ใช่ลมปราณสายอธรรม เพราะฉะนั้นพลังบริสุทธิ์ น้ำใจเนี้ยคุณสโรชามันถึงกัน เวลาท่านผู้ชมยิ้มให้เรา เรารู้ว่าท่านเมตตาเรา เรารู้ว่าท่านเป็นห่วงเรา ท่านเพียงแต่บอกให้กำลังใจ รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีๆ นะ คุณสโรชาน้ำตามันคลอ มันก็เลยทำให้เรามีกำลังใจที่จะทำ
ซึ่งจริงๆ แล้วผมคิดว่าผมมีตำนานหลายๆ ตำนานที่อยากจะเล่าให้ฟัง เหมือนกับตำนานปาท่องโก๋ที่เล่าให้คราวที่แล้ว จริงๆ แล้วเอาไว้วันดีคืนดีผมจะเล่าตำนานบางอย่างให้ฟังก็แล้วกัน ไม่ทราบว่าใครดูเมืองไทยรายสัปดาห์ ผมเคยเล่าเรื่องระยะห่างระหว่างสวรรค์กับนรกให้ฟังกันบ้างรึเปล่า ถ้ามีคนจำไม่ได้ผมจะเล่าให้ฟัง
 ท่านทราบมั้ยว่าสวรรค์กับนรกมันห่างกันแค่ไหน ไม่เกิน 20 เมตร วันหนึ่งเทวดาที่คุมสวรรค์กับพญายมบาลก็มาตกลงกัน ก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้นเรามาสร้างสะพานเชื่อมกันได้มั้ย สร้างกันคนละครึ่ง เทวดาบอกดีงั้นเริ่มเลยวันพรุ่งนี้ พอวันพรุ่งนี้พระอาทิตย์ขึ้นปั๊บพญายมบาลบอกว่า ของผมเสร็จแล้วของท่านล่ะ เทวดาบอก รอหน่อย รอไปจน 1 ปีก็ยังไม่มีใครสร้าง พญายมบาลบอก เกิดอะไรขึ้น เทวดาในที่สุดบอกว่า "ผมหามาเกือบตายแล้ว นักการเมืองผู้เซ็นอนุมัติและผู้รับเหมาก่อสร้างอยู่นรกหมด"

สโรชา - อันนี้เป็นไฮไลต์หนึ่งเลยนะคะ

สนธิ - (หัวเราะ)

สโรชา - คุยเรื่องอะไรต่อคะคุณสนธิ คุยกันเรื่องภาคใต้ก็แล้ว สุวรรณภูมิโผล่มาก็แล้ว หมอๆ มั้ย

สนธิ - คือเรื่องหมอสุชัยกับนายแพทย์วิชัย มันเป็นเรื่องต่างกรรมต่างวาระ ในวาระหนึ่งหมอวิชัย อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุขก็ทำหนังสือร้องเรียนถึงท่านนายกฯ บอกว่าหมอสุชัยชอบอ้างชื่อภรรยาท่านนายกฯ จนกลายเป็นว่าหมอสุชัยนั้นมาสายนายหญิง ส่วนหมอวิชัยนั้นมาสายเจ๊ใหญ่ ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว เป็นเจ๊ใหญ่มาก
นั่นคือพิจารณาจากจดหมายซึ่งท่านร้องเรียนมา เอาละไม่เป็นไร แต่ปรากฏว่า ถ้ามองในเชิงของการบริหารแล้วผมสงสารหมอสุชัย เพราะว่าเรื่องการโยกย้ายแต่งตั้ง เมื่อเราให้อำนาจรัฐมนตรีไปแล้วเอาเข้าครม.แล้ว แล้วผ่านครม.แล้วนะ เอากลับมาเข้าอีกแล้วเปลี่ยนหมด ก็เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงคุณลักษณะการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้
อันนี้เห็นได้ชัด เราแยกก่อนนะ เราแยกก่อนนะ เราแยกให้ชัดนะว่าเราไม่เข้าข้างหมอสุชัย ไม่เข้าข้างหมอวิชัย เราพูดถึงวิธีการบริหารชาติบ้านเมือง เพราะฉะนั้นแล้วลักษณะแบบนี้ผมถือว่าใช้ไม่ได้
เท่าที่ผมทราบ คุณหญิงพจมานเมื่อวานนี้บินด่วนกลับจากอังกฤษ

สโรชา - รู้เค้าอีก

สนธิ - อ้าว ไม่ใช่ท่านนายกฯ จะรู้ผมคนเดียวนะ ผมก็รู้เหมือนกันนะ
ที่ผมรู้นะ แล้วผมอยากให้เกิดนะ ผมจะเล่าอะไรให้ฟัง ผมอยากให้ซักวันหนึ่งตื่นมาแล้วไม่มีอำนาจอิทธิพลใดๆ มาบังคับ ผมอยากจะให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเปิดตัวเลขความลับที่เก็บเงียบมาตั้งแต่ปี 2540 ซะหน่อย
ความลับนั้นคืออะไรรู้มั้ย ผมอยากดูยอดบัญชีของบรรดาบริษัทต่างๆ ธนาคารต่างๆ ที่มันซื้อเงินดอลลาร์ล่วงหน้า แล้วจะได้รู้ว่าไอ้ตัวชั่วจริงๆ มันอยู่ที่ไหน มันอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย หลักฐานอันนี้เขารักษาปานชีวิต นี่เรื่องจริง เรื่องจริงคุณสโรชา
กรกฎาคม 2540 ก่อนที่เศรษฐกิจจะล่ม มีการรู้กันก่อนล่วงหน้าแล้วว่าจะมีการลดค่าเงินบาท รู้กันแล้ว คุณไปไล่ดูได้เลย พี่จิ๋วของผมที่พูดจาเลอะเทอะเขียนหนังสือมาเล่มหนึ่งในเรื่องวิกฤต 2540 ในนั้นเรื่องจริงหมดเลย
ความจริงทั้งหมด ตอนนั้นเงินบาทมีบริษัทหลายบริษัทไปซื้อ ซื้อดอลลาร์ทิ้งเอาไว้เพราะรู้แล้วว่าเงินบาทจะต้องลดค่าแน่ มีหลักฐานหมด ซื้อหมด ทีนี้พอเงินบาทลด มันลดไปประมาณ 5 บาท หรือ 6 บาท จาก 25 บาท เป็น 30 กว่า ก็มีคนอยู่ประเภทหนึ่งซึ่งพอแล้วแค่นั้นก็ขายทิ้งเอากำไรตรงส่วนต่าง
แต่มีอยู่อีกกลุ่มหนึ่งซึ่งมีไม่มาก มีความโลภมากๆ มหาศาล ก็ทำอีท่าไหนไม่รู้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยุคนั้นสั่งปิดไฟแนนซ์ 56 ไฟแนนซ์ทันที พอปิด 56 ไฟแนนซ์ปังปั๊บ สถานภาพเงินบาทเลยดิ่งเหวทันทีเลย พอดิ่งเหวมันลงเป็น 50 บาท เขาถึงขายตรงนั้น คุณไปสืบว่ารัฐมนตรีคลังคนนั้นในเวลานั้นมีสายสัมพันธ์อยู่กับใคร อยู่ค่ายใครบ้าง คุณก็รู้แล้วว่าเป็นใคร
5 บาทไม่เอากำไรอยากได้กำไร 25 บาท บนความพินาศฉิบหายของสังคมไทยทั้งสังคม คุณสโรชา ผมขอบนบานศาลกล่าว ชีวิตนี้ก่อนตายลูกช้างขอฉีกหน้ากากไอ้พวกชั่วร้ายนี้ ผมขอให้ได้ข้อมูลนี้ซักหน่อย
สมัยก่อนการซื้อฟอร์เวิร์ดเงินดอลลาร์ทุกอย่างต้องผ่านแบงก์ชาติหมด แบงก์ชาติจะเก็บข้อมูลอันนี้เอาไว้ นี่คือการเก็บเอาไว้ที่อก เชื่อซิความลับมันหนีไม่พ้นหรอก ซักวันจะต้องมีคนเปิดมาแล้วจะได้รู้ ผมจะเสียดายเท่านั้นเองเมื่อวันนั้นได้รู้แล้วไอ้คนซึ่งทำชั่วตรงนั้นจะไม่ได้อยู่ในแผ่นดินนี้แล้วเท่านั้นเอง
คุณสโรชา

สโรชา - ขา

สนธิ - คุณพูดน้อยๆ ไว้ดีที่สุด ให้ผมเป็นจำเลยคนเดียว ผมสงสารคุณแม่คุณ เอาเป็นว่า เรามาพูดเรื่องการลดหนี้คน

สโรชา - จะพักก่อนมั้ยคะ

สนธิ - ถึงเวลา เอ้าพักซะหน่อย

สโรชา - พักแป๊บหนึ่งมั้ยคะ เดี๋ยวกลับมาเราจะมาคุยกัน

สนธิ - พักแป๊บหนึ่งแล้วเดี๋ยวเราจะเลือกคำถาม แล้วจะตอบคำถาม ผมรับประกันว่าวันนี้จะตอบคำถามให้สนุก นะครับ

(การแสดงของ วงคาราวานเด็ก คั่นรายการ)

******************************************************



...อ่านต่อหน้าถัดไป...


คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ เมืองไทยรายสัปดาห์ สัญจร ครั้งที่ 3 ช่วงที่ 1

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ เมืองไทยรายสัปดาห์ สัญจร ครั้งที่ 3 ช่วงที่ 2

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ เมืองไทยรายสัปดาห์ สัญจร ครั้งที่ 3 ช่วงที่ 3 จบ

คลิกชมภาพสไลด์โชว์ ได้ที่ไอคอน Manager Mutimedia
ดูภาพชุดจาก Manager Multimedia


คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป การแสดงดนตรีจากวงคาราวาน

สโรชา - ก่อนเข้าเรื่องขออนุญาตประชาสัมพันธ์นิดหนึ่ง เจ้าของรถ เป็นรถปิกอัพมิตซูบิชิ ทะเบียน ปน 5568 กรุงเทพมหานคร กับฮอนด้าแอคคอร์ด 2อ 3509 กรุงเทพมหานคร กรุณาเลื่อนรถด้วยนะคะ มีคนพยายามจะนำรถออกแล้วไม่สามารถทำได้ มีคำถามเยอะค่ะ

สนธิ - ผมเห็นหลานๆ เค้าเล่นแล้ว มันอดคิดไปเมื่อซักอาทิตย์กว่าไม่ได้ที่ท่านนายกฯ เรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วก็ผู้บังคับการตำรวจทุกจังหวัด
ท่านประชุมท่านขึงขังมาก ท่านบอกศีลธรรมสังคมไทยตกต่ำลงมาก ซึ่งผมก็ประหลาดใจที่ท่านเพิ่งรู้ เพราะว่าท่านน่าจะรู้มานาน เพราะท่านเป็นคนที่รู้ทุกเรื่องแต่เรื่องนี้ท่านรู้ช้าเหลือเกิน ท่านบอกต่อว่า ท่านสั่งว่าจากนี้ไปต้องไปจัดการนะเด็กอายุ 14 ตั้งท้อง มีอบายมุขอย่างโน้นอย่างนี้ เปิด มีการค้ายา มีทุกสิ่งทุกอย่างหมด เล่าเบ็ดเสร็จให้ฟังหมดเลย
ท่านพูดจบ ผมฟังข่าวแล้วผมก็ถอนใจ คือผมถอนหายใจตรงที่ว่า ท่านนายกท่านไม่ผิดหรอก เพียงแต่ว่าท่านเป็นคนซึ่งมองอะไรไม่ทะลุ จริงๆ ถ้าท่านเข้าใจพระพุทธศาสนาจริงเหมือนอย่างที่ท่านพยายามจะมาสอนพวกเราในเรื่องหลักธรรม ไม่ว่าจะเป็นเจโตวิมุต ซึ่งท่านไปอ่านมาจากไหนไม่รู้แล้วท่านก็มาพูด
ท่านมองปัญหานั้นท่านต้องมองตามหลักปฏิจจสมุปบาท ทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นนั้นมีเหตุปัจจัยที่ทำให้มันเกิดขึ้น ท่านอย่าไปมองแบบแยกส่วน ท่านอย่าไปมองบอกว่า เมื่อวานนี้มีเด็กอายุ 14 ทำแท้ง ต้องจัดการซะ ห้ามเด็กเข้าที่โน้นที่นี่ ท่านต้องมองย้อนหลังว่า ศีลธรรมไทยตั้งแต่ปี 2544 มาจนถึงปัจจุบันเลวลงมากที่สุด
สมัยที่เศรษฐกิจเรากำลังล่มสลาย 2540 จนถึง 2543 นั้น ถึงจะลำบากยากเย็นยังไงความชั่วร้ายทางสังคมในแง่ของศีลธรรมที่เลวทรามมันยังไม่มากเท่าตอนนี้ ถ้าเรามองให้ดีๆ แล้ว
ถ้าท่านยอมรับความจริงของหลักปฏิจจสมุปบาท ท่านต้องดูให้เป็นว่า นั่นคือที่มาของการที่เน้นให้คนบริโภคแบบบ้าคลั่ง จนวันนี้ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กอายุ 12 ขวบ ต้องมีโทรศัพท์มือถือ ผมไม่เข้าใจ แล้วผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมพอเงินกองทุนหมู่บ้านเข้าไปในหมู่บ้านครั้งแรกจะมีเซลส์ขายโทรศัพท์มือถือเข้าไปบอกเลยว่า เนื่องจากกองทุนหมู่บ้านนั้นเข้ามาเพื่อจะให้ยืมเงินไปลงทุนนั้นถ้าไม่มีโทรศัพท์มือถือแล้วมันติดต่องานไม่ได้
นี่ผมไม่ได้พูดเรื่องเอไอเอสนะ ผมพูดทุกๆ ยี่ห้อ เดี๋ยวจะหาเรื่องมาฟ้องผมอีก
ทีนี้ถ้าท่านมองให้ลึกซึ้งแล้ว มันไม่ใช่เพราะว่าบรรดาค่ายเพลงบ้าๆ ที่ท่านเคยสนิทสนมด้วยไม่ใช่หรอ ที่มีวงดนตรี อย่างเกิร์ลลี่เบอรี่อะไรที่บอกว่าต้องขายเซ็กซ์บ้างแล้วก็ขายเสียงเพลง
ผมกลับมองว่า ทำไมหลานๆ พวกนี้(คาราวานเด็ก)ที่เล่นเพลงน่ารัก เป็นการแสดงความสามารถของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่คุณสโรชา

สโรชา - ใช่ค่ะ

สนธิ - แล้วเพลงที่เค้าร้องเค้าร้องตามเส้นทางของพ่อเค้า แต่อย่างน้อยที่สุดลักษณะเพลงมันให้ความหมาย แล้วมันให้ข้อคิดกับคนมากกว่าไอ้ประเภทที่ เธอไม่มาฉันเหงา ฉันร้องไห้
คือวงการบันเทิงบ้านเรามันเป็นวงการทำลายปัญญาของสังคมไทยลงอย่างที่เลวทรามต่ำช้าที่สุด
เพราะฉะนั้นแล้วพอพูดมาถึงเรื่องนี้แล้วทำให้ผมหดหู่ใจ ผมหดหู่ใจจริงๆ นะครับ คือต้นทุนของสังคมมันไม่ได้อยู่ที่จีดีพี คุณมีจีดีพีปีละ 12 เปอร์เซ็นต์ แต่ตราบใดที่คุณยังมีเด็กอายุ 14 ทำแท้งอยู่ผมว่าคุณไม่ต้องมีจีดีพีเลยแม้แต่ 1 เปอร์เซ็นต์ แต่ทุกคนมีศีล มีธรรม มีคุณธรรม จริยธรรม สังคมไทยจะน่ารักมากกว่านี้เยอะ
ผมเลยรู้สึกเหมือนอย่างน้าหงาพูด ในเพลง 2548 เพลงนี้ ว่าเราจะไปกันทางไหน พวกเราที่นั่งอยู่ที่นี้และอยู่ที่บ้านมีส่วนเกี่ยวข้องกับอนาคตของลูกเรา ของน้องเรา ของหลานเรา นัยหนึ่งคือเราห้ามความเจริญไม่ได้
แต่ว่าความเจริญที่อยู่ในนิยามของใคร ถูกไหมคุณสโรชา
เหมือนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พูดตลอดเวลา พระองค์ท่านบอกว่าเราต้องพึ่งพาตัวเองได้ เมื่อคืนนี้ผมเอาหนังสือพระมหาชนกมาอ่านอีกครั้ง ไม่รู้กี่เที่ยว ยิ่งอ่านยิ่งลึกซึ้ง ผมเรียนด้วยความสัจจริง ท่านใดยังไม่ได้อ่าน อ่านซะ อ่านครั้งแรกอาจเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง อ่านทวนเรื่อยๆ เพราะพระมหาชนกนั้นพูดถึงธรรมชั้นสูงของคนๆ หนึ่ง ที่ควรจะมีกับตัวเอง
ผมรู้สึกหลายอย่าง เวลาเราจัดโอท็อป เราก็ไปจัดกันที่อิมแพค อารีน่า เวลาเราจัดมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส เราก็ลงทุนเป็น 100 ล้าน 500-300 ล้าน
แต่พอเป็นเรื่องอะไรเกี่ยวกับศีล เกี่ยวกับธรรม มาปล่อยให้พระสงฆ์องค์เจ้า ยืนตากฝนอยู่ตรงสนามหลวง
เคยสังเกตไหม มันทุเรศน่ะ มายืนเรี่ยไร มายืนให้คนมาถวายสังฆทาน มาแสดงนิทรรศการวันวิสาขบูชา พอตกค่ำหน่อยผีขนุนก็ยืนอยู่แถวต้นไม้
เพราะฉะนั้นแล้ว ผมมีความรู้สึกว่าถ้าคนไทยที่เขาอยากให้รวยทุกคน ซึ่งวันนี้ความฝันเลือนรางหมดแล้ว ถ้าเขาอยากให้รวยทุกคนเพื่อแลกกับศีลธรรมที่ตกต่ำไป ผมว่าเราอยู่อย่างจนแต่พอดี ยังดีกว่า
อีกเรื่องก่อนตอบคำถาม อาทิตย์หน้า ผมอยากให้ท่านแสดงพลัง อาทิตย์หน้าหอประชุมใหญ่จุคนได้ประมาณ 3,000-5,000 คน ท่านพาเพื่อนมา เพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่เห็นด้วยกับท่าน มาแสดงพลังบริสุทธิ์ เพื่อเอาพลังบริสุทธิ์นี้ถวายให้พลังแผ่นดินคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ในนี้มีอย่างน้อย ต้องมี 500-700 ท่าน ท่านหนึ่งพามา 10 คน 7,000 คน ถ้าต้องล้นไปข้างนอก ให้มันล้นหลามเป็น 20,000-30,000 ไปเลย มาเถอะซักครั้ง ผมให้คำมั่นสัญญาว่า ผมจะมาแน่ มาแล้วติดคุกก็จะมาแน่นอน จะมีอะไรก็ตาม ผมจะมาออกรายการนี้วันศุกร์หน้า เพราะเป็นวันที่พวกเราจะได้แสดงพลังบริสุทธิ์ให้ทุกคน อาทิตย์หน้า คาราวานเหมือนเดิม 4 โมงครึ่ง ถ้าเป็นไปได้ลางานครึ่งวัน วันนั้นไปเลย

สโรชา - คำถามนะค่ะ จากชลบุรี เอาใจช่วยคุณสนธิ ไม่ต้องกังวลเรื่องโดนฟ้อง 500 ล้าน เพราะรัฐบาลมีนโยบายลดหนี้ให้ครึ่งหนึ่งอยู่แล้ว
จากสาทรบอกว่า อยากให้เปลี่ยนฉากสีแดงเป็นสีชมพู ขาวกับฟ้า เพราะจะถูกโฉลกกับวันศุกร์ และจะทำให้มีแรงทำงานต่อไปและดีขึ้นด้วย

สนธิ - สงสัยเป็นหมอดูฮวงจุ้ยแน่ แต่ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เดี๋ยวผมจะไปปรึกษาคนที่เก่งเรื่องฮวงจุ้ย

สโรชา - จากอุดรฯ บอกว่าอยากให้พูดเรื่องคุณสมัครที่วิพากษ์วิจารณ์หลวงตามหาบัว เพราะตอนนี้คนอุดรฯ ไม่พอใจกันมาก

สนธิ - ผมเป็นห่วงคุณสมัครมาก ... ผมห่วงจริงๆ เพราะคนอย่างท่านนี่ ผมเกรงว่า เราต้องรักษาไว้ เพราะในโลกนี้ไม่มีอีกแล้ว
ผมไม่รู้ว่าท่านจงเกลียดจงชังหลวงตามหาบัวไปถึงไหน ท่านกล่าวคำผรุสวาทให้กับพระอริยสงฆ์ ท่านไม่รู้หรอกว่า ท่านได้ทำอนันตริยกรรมอย่างรุนแรง ขนาดไหน
วันนี้ ผมถามพระอาวุโสรูปหนึ่งว่า หลวงพ่อครับ คนเราถ้าทำอนันตริยกรรมบาปกรรมจะมีแค่ไหน เขาบอกว่าบาปกรรมจะตกสู่ลูกหลานเจ็ดชั่วโคตร
คือคุณสมัครเป็นคนน่ารัก มีหลายคนมาโวยวายกับผมว่า พี่ๆ ผมโดนด่าอีกละ มันด่าผมทุกวัน บอกว่า มึงนี่โชคดี เขาด่ามึงเป็นบุญกะมึงนะ เป็นสิริมงคล แต่ถ้าเขาชมใครชอบใคร มึงต้องรีบไปรดน้ำมนต์ทันที
 
สโรชา - เดี๋ยวแก้ข่าวนิดหนึ่ง วันศุกร์หน้าเริ่มบ่าย 3 โมงนะคะ ไม่ใช่บ่าย 4 โมง
 
สนธิ - ลางานไปเลย ลางานครึ่งวันเลย มาแสดงพลังกันซะที ลางานสักครึ่งวัน
 
สโรชา - จากมิชิแกนค่ะ บอกว่าขอเป็นกำลังใจให้คุณสนธิ และขอฝากบอกว่าผู้ประกาศข่าวร้องพลงได้เพราะมาก
 
สนธิ - ก็กะว่าวันไหนเขาปิด ASTV ก็จะไปเปิดคาราโอเกะกัน
 
สโรชา - คุณวโรรส ค่ะ ถามว่า บัฟเฟอร์แปลว่าอะไร
 
สนธิ - ขอประทานโทษครับ แปลว่า กันชนครับ เป็นกันชน
 
สโรชา - มีพนักงาน กฟผ. หลายท่านทีเดียวนะคะ ก็จริงๆ แล้ว ก็ไปในทิศทางเดียวกัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราได้คุยกันถึงรื่องนี้นะคะ แล้วก็บอกว่า คุณสนธิก็กล่าวในทำนองว่าพนักงานส่วนใหญ่เหมือนกับต้องการหุ้น เขาบอกว่าจริงๆ แล้วพนักงานส่วนใหญ่ของ กฟผ.ยังคัดค้านการเข้าตลาดหลักทรัพย์อยู่ นะคะ และข่าวที่ออกมาเป็นการให้ข่าวของผู้บริหารบางคนที่ต้องการนำ กฟผ.เข้าตลาดตามบัญชาของนายทุน นักการเมือง
อีกท่านหนึ่ง ท่านบอกว่า ถึงเวลานี้เป็นหน้าที่ของประชาชนที่จะต้องรวมพลังกันให้กฟผ.ไม่เข้าตลาดหลักทรัพย์ เพราะค่าไฟแพงแน่ๆ ประชาชนจะต้องทุกข์ยากเดือดร้อนยิ่งกว่าขึ้นราคาน้ำมันหลายร้อยพันเท่า
 
สนธิ - ครับ เรื่อง กฟผ.นี่ ผมเคยรับปากกับท่านผู้ชมไว้ว่าผมจะพูดอาทิตย์นี้ แต่ผมคิดว่าเรื่อง กฟผ.นั้น ยิ่งใหญ่มาก เพราะว่าโยงไปจนถึง ปตท. แล้วก็การแปรรูปรัฐวิสาหกิจหลายๆ อันที่ไม่ควรจะแปร หลายๆ อันควรแปร กรุณาอย่าเข้าใจผมผิด หลายๆ อันควรยุบทิ้ง นะฮะ
ที่ผมพูดนี่ ผมไม่ได้เอาใจพนักานรัฐวิสาหกิจ กฟผ. แต่ว่าผมจะขอเวลาอาทิตย์หน้าวันที่ 14 ให้เบรกหนึ่งเต็มๆ เกี่ยวกับการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
ต้องยอมรับว่า ข้อดีมี ในขณะเดียวกันพวกเราเองต้องมาทบทวนตัวพวกเราเหมือนกัน ที่เป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจว่ามีอะไรบ้างที่ประชาชนเขาไม่พอใจ นะครับ
แล้วก็สาบานด้วยความสัจจริงไม่มีอคติ จะขออนุญาตพูดถึงรัฐวิสาหกิจที่ชื่อ อสมท บ้าง
 
สโรชา - พูดถึง อสมท ก็มีคำถามเข้ามาค่ะ ว่าทำไมท่านนายกฯ ฟ้องรายการเรา และไม่ฟ้อง อสมท
 
สนธิ - ก็คำตอบมันอยู่ในการไม่ฟ้องอยู่แล้ว ไม่ใช่หรือ ว่าใครต่างหากที่เป็นคนปิดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์
 
สโรชา - จากความคิดเห็นนะคะ บอกว่า ขอเสนอให้มีการจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรที่ปากซอยจรัญฯ 69 สักครั้ง จะได้วัดดวงกันไปเลย ใครจะอยู่ใครจะไป ดีไหมครับ (เสียงฮือฮาและปรบมือ) กรุณาตอบให้ทราบด้วยครับ
 
สนธิ - อย่า... อย่าเอาจิตใจของวิญญูชนอย่างพวกเรา ไปเปรียบเทียบกับอันธพาล กับคนบางกลุ่ม
 
สโรชา - คำถามค่ะ ไม่แน่ใจในกระบวนการยุติธรรม หากมีการแทรกแซง รูปคดีคุณสนธิอาจจะเสียเปรียบ คุณสนธิอาจแพ้คดี แล้วคุณสนธิจะทำฉันใด

สนธิ - ผมกราบเรียนให้ท่านทั้งผู้ชมที่อยู่ทั้งทางบ้านแล้วก็อยู่ในที่นี้ที่เป็นห่วงว่า ถ้าจำได้วันที่ผมฟ้องอสมทฯ เรียก 1 บาทนั้น ผมพูดกับท่านผู้ชม แล้วก็พูดกับคนซึ่งอ่านข่าวว่า ผมรู้ว่าผมกำลังวิ่งชนกำแพงเหล็ก แต่ผมต้องชนเพราะว่าถ้าผมไม่ชนกำแพงเหล็กแล้ว แค่กำแพงอย่างเดียวมันก็จะทำให้คนเกิดความหวาดหวั่นแล้วเกรงกลัว
เมื่อยังไม่ถึงสะพานก็ไม่ต้องไปกลัว เมื่อถึงสะพานแล้วค่อยข้าม ถ้าข้ามไปแล้วสะพานมันเกิดพัง ก็ดำรงสติเอาไว้แล้วใช้ปัญญาแก้ต่อไป แต่ว่าอย่าไปย่อท้อ ย่อท้อไม่ได้ ครูบาอาจารย์สอนมาตลอด ครูบาอาจารย์ไม่ว่าจะเป็นหลวงตามหาบัว หรือแม้กระทั่งสมเด็จญาณฯ เมื่อเช้า ท่านยิ้มให้ผม มีนัยยิ่งกว่าการแสดงธรรมให้ผม 1 กัณฑ์
การยิ้มหมายความว่า ท่านพอใจ ท่านดีใจที่ผมทำในเรื่องที่ถูกต้อง แล้วท่านยิ้มแสดงว่าท่านพอใจที่ผมไม่ท้อถอย พวกเราอย่าไปท้อถอย
การท้อถอยนั้นไม่เหมือนการถอย บางครั้งชีวิตต้องถอย เพราะการถอยในชีวิตคือการพัก แต่การท้อถอยนั้นคือการทำให้สภาพจิตเราเสื่อม ถ้าเรารักษาสภาพจิตให้เข้มแข็งแล้วเราไม่ท้อถอย อุปสรรคแค่ไหนก็ตาม
ผมชนไปพักหนึ่งแล้วผมเกิดไปตายตรงกำแพงเหล็ก เพราะผมชนแล้ว แต่ในที่สุดบางครั้งการชนกำแพงเหล็กแล้วผมต้องบาดเจ็บหนักอาจจะดลบันดาลใจให้คนซักหมื่นคนวิ่งชนกำแพงพร้อมกันแล้ว กำแพงมันจะพังไปเอง (เสียงปรบมือ)

ผมกราบเรียนท่านที่อยู่ในที่นี้และที่บ้านให้ฟังว่า ให้สัตย์ปฏิญาณ สัตยาบันว่า ไม่ได้ต้องการเป็นวีรบุรุษ อีก 10 ปีข้างหน้า อีก 20 ปีข้างหน้าถ้าผมไม่ตายซะก่อน ท่านจะเจอผมในบทบาทเดิมๆ คือ บทบาทนี้ ไม่มีลาภ ไม่มียศ ไม่มีสรรเสริญ ไม่มีตำแหน่งแห่งที่ใดๆ เท่านั้น ไม่มีเลยรับรอง ไม่มี ถ้ามีขอให้ฉิบหายไปเลย(เสียงปรบมือ)
 ขอมีอยู่อย่างเดียวคือการกล้าพูดในสิ่งที่เป็นความจริงโดยที่ไม่ต้องหวั่นเกรงใดๆ ทั้งสิ้น ขออยู่แค่นี้

สโรชา - มีคุณผู้ชมแสดงความห่วงใยมานะคะ จากธรรมศาสตร์รุ่น 33 บอกว่า อยากจะเตือนว่าคนเริ่มมาฟังคุณสนธิเยอะแล้วเกรงว่าจะมีพวกก่อกวนทำให้เกิดปัญหาและความรุนแรงรบกวน ย้ำกับประชาชนนะคะว่า หากเกิดอะไรขึ้นต้องระวังตัวอย่าเป็นไปตามเกมของเค้านะคะ

สนธิ - ก็ผมเรียนให้ทราบแล้วว่า จริงๆ แล้วคนที่ก่อกวนจะก่อกวนไม่ได้ถ้าพลังบริสุทธิ์นั่งอยู่ในที่นี้รวมตัวเป็นเอกภาพแล้วแสดงให้เค้าเห็นว่า เราไม่เห็นด้วยกับเขา ในขณะเดียวกันถ้าท่านนั่งอยู่ ถ้าท่านเห็นใครมันทำท่าผิดปกติท่านก็แอบกระซิบกระซาบมาเรื่อยๆ ให้เค้าพูดกันหมด แล้วอย่างที่ผมเรียนให้ทราบว่าทุกคนถ่ายรูปเอาไว้
คือพวกก่อกวนจะเป็นอย่างนี้ พวกก่อกวน 1. ถ้าไม่รับจ้างมาก็ต้องมาจากหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง คนพวกนี้เมื่อมาในลักษณะนี้จะไม่เปิดเผยตัว จะกลัวการผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้นถ้าถูกจับได้แล้วถ่ายรูปออกมาปังแล้ว เรารู้ เราเรียกตำรวจจับ เพราะบางครั้งตำรวจก็มาจับโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นพวกตัวเอง แต่เมื่อจับไปแล้วก็เอาหลักฐานมาดู ตรงนี้เป็นคดีอาญาได้ แล้วเค้าจะดิ้นไม่หลุด
เพราะฉะนั้นคนพวกนี้จะกลัวตรงนี้ ผมจะบอกให้ ลักษณะนี้ก็เหมือนลักษณะสังคมไทย ลักษณะในองค์กรใดก็เหมือนกัน อย่าให้สังคม อย่าให้องค์กรมันมืดมิด ต้องให้มันสว่างเห็นหน้ากันทุกคน ทำอะไรกันบ้าง ล้วงกระเป๋าใครอยู่ ขโมยของใครอยู่ โกหกใครอยู่ ทำอะไรใครอยู่ ถ้าเมื่อใดเราทำให้สังคมสว่างได้ไม่ต้องไปกลัวอะไรทั้งสิ้น

สโรชา - คงจะถามคำถามของคุณผู้ชมไม่หมด แต่อยากจะทักทายคุณผู้ชมทางบ้านด้วย คุณสมชายจากจันทบุรี คุณผู้ชมจากภูเก็ต คุณเมธีจาก กทม. คุณผู้ชมจากแพร่ คุณเรวัตจากสระบุรี จากชิคาโกก็มีนะคะ และคุณสิริวรินทร์จากโคราช คำถามคงจะมีสุดท้ายแล้ว บอกว่า เมืองไทยรายสัปดาห์จะฟ้องท่านนายกบ้างหรือไม่

สนธิ - อาชีพคนทำสื่อมวลชนเป็นอาชีพที่ไม่ฟ้องคน เหตุผลเดียวที่ฟ้องอสมทฯ คือ ถ้านายกฯ ท่านแพ้คดีผมในศาล ถ้าท่านแพ้คดีผม ผมถือว่าจบกันไป ท่านไม่พอใจที่ผมวิพากษ์วิจารณ์ท่าน ท่านมีสิทธิ์ฟ้องได้ เมื่อศาลสถิตยุติธรรมเห็นว่าผมทำไม่ผิดก็จบ
แต่กรณี อสมทฯ ไม่เหมือนกัน กรณีอสมทฯ ใส่ร้ายป้ายสีผมเพื่ออ้างเหตุในการยกเลิกรายการ ว่าผมดึงเบื้องบนลงมาต่ำ นั่นคือสิ่งที่ต้องฟ้อง
ถ้าอสมทฯ ถ้าคุณมิ่งขวัญมีความเป็นลูกผู้ชาย ซึ่งคงจะหาได้ยาก(เสียงปรบมือ) คุณมิ่งขวัญแค่กระซิบบอกผมบอก คุณสนธินายกฯ เค้าโกรธมากเรื่องนี้ เค้าบีบทางผมมาให้ผมยกเลิกรายการ ไม่เป็นไรคุณมิ่งขวัญผมจะเลิกรายการทันที แต่มาเสแสร้งปั้นแต่งเรื่องเพื่อจะหาเหตุไล่ผมออกจากรายการ ตรงนี้ต้องฟ้อง แล้วต้องฟ้องซะให้เข็ด

สโรชา - เมื่อซักครู่ดิฉันลืมขอบพระคุณ คุณวสันต์ สิทธิเขต และคณะศิลปินที่มาวาดรูปอยู่ด้านหน้างาน แล้วสัปดาห์หน้าจะมาด้วย สุดท้ายนี้ขอเชิญทุกๆ ท่านร่วมกันร้องเพลง

สนธิ - เดี๋ยวฮะ 1 นาที 1 นาที ก่อนจบ

สโรชา - นาทีเดียว นะคะ พูดเล่น

สนธิ - เรา ผมคิดว่าวิธีหนึ่งที่เราจะแสดงความจงรักภักดี แล้ววิธีหนึ่งที่เราจะแสดงพลังบริสุทธิ์ ผมคิดว่าวันพฤหัส วันศุกร์หน้า ถ้าใครหาธงสีเหลืองได้ นี่ธงที่ท่านโชว์มานี่ ให้ติดไว้ที่บ้าน หรือถ้ามีที่รถก็ติดที่รถ หรือไม่มี ก็เอาสีเหลืองแปะท้ายรถ ให้รู้ว่าเราเป็นพวกเดียวกัน (เสียงปรบมือ)
ผมคิดว่า สีเหลืองเป็นสีของความบริสุทธิ์ สีของธรรม สีของพระเจ้าอยู่หัวฯ
ติดยังไงก็ตาม หรือจะเอาสติ๊กเกอร์เราจะสู้เพื่อในหลวงก็ได้ หรือว่าไม่มีก็เอาแค่สติ๊กเกอร์ อีกอย่างคือเอาธงติดไว้ที่บ้าน ตั้งบนโต๊ะทำงานเล็กๆ ก็ได้ คนมาถามบอกว่านี่คือการแสดงพลังบริสุทธิ์ มันอึดอัดใจ ไม่รู้จะแสดงยังไง ออกทางสีเหลืองแล้วกัน ผมคิดว่าทำไปเรื่อยๆ
ที่สำคัญอย่าลืมที่ผมพูดเมื่อกี้ เครือข่าย ไม่ใช่ทำเพื่อผม แต่ทำเพื่อลูกหลานเรา
สื่อถ้าไม่เสรี สังคมไทยจะไม่มีเสรีภาพ สื่อถ้าไม่เสรีเราจะถูกปิดหูปิดตาตลอดเวลา ให้จำไว้ว่า เราถูกปิดหูปิดตามานานจนกระทั่งพวกท่านมาฟังรายการนี้ และท่านชอบ
จริงๆ แล้วถ้าเรามีสื่อที่เสรี รายการนี้จะมีคนนั่งไม่เกิน 2 แถว เพราะว่าเราจะเคยชินกับความจริง แต่เนื่องจากเราเคยชินกับการถูกโกหกมาตลอด พอมีคนกล้าพูดความจริงบ้าง ท่านก็เลยติด เหมือนติดยาบ้า

สโรชา - ก่อนจบ ย้ำอีกครั้งนะค่ะว่า สัปดาห์หน้าเรายังมีรายการอยู่ ทีมงานบอกว่ามีคนปล่อยข่าวว่าครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย

สนธิ - ผมบอกแล้วนะฮะ ถ้าการมาออกรายการวันศุกร์หน้า หมายความว่าผมต้องติดคุกผมก็จะมา ท่านพาเพื่อนมา
ท่านพาเพื่อนมา คนหนึ่ง 5 คน 10 คน พามาเถอะ มาแสดงพลังบริสุทธิ์ ถ้ามันต้องล้นห้องออกไปถึงข้างนอก และมีจอทีวีติดตั้ง ก็ให้ล้นไป ให้รู้ว่าพลังบริสุทธิ์นี้ เป็นส่วนน้อยของอีกส่วนใหญ่มหาศาลทั่วประเทศ ที่เขากำลังรอคอยคนแสดงพลังบริสุทธิ์ แล้วเราจะนัดวันจุดเทียนกันซักวันหนึ่ง

สโรชา - เช่นเคยนะค่ะ ทุกสัปดาห์เราจะร่วมถวายความจงรักภักดีด้วยการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีค่ะ

******************************************************


คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ เมืองไทยรายสัปดาห์ สัญจร ครั้งที่ 3 ช่วงที่ 1

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ เมืองไทยรายสัปดาห์ สัญจร ครั้งที่ 3 ช่วงที่ 2

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ เมืองไทยรายสัปดาห์ สัญจร ครั้งที่ 3 ช่วงที่ 3 จบ

คลิกชมภาพสไลด์โชว์ ได้ที่ไอคอน Manager Mutimedia
ดูภาพชุดจาก Manager Multimedia


คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป การแสดงดนตรีจากวงคาราวาน
กำลังโหลดความคิดเห็น