xs
xsm
sm
md
lg

เปิดฉากเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร (2)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สนธิ - คุณสโรชาครับมีท่านผู้ชมอยู่ข้างนอกเยอะมากเลย คุณสโรชาทักทายซักหน่อย

สโรชา - มีการต่อว่ามาด้วยนะคะว่าเราทักคุณผู้ชมข้างใน เราทักคุณผู้ชมทางบ้าน แล้วก็ต่างประเทศ เราไม่ได้ทักคุณผู้ชมที่อยู่นอกที่ประชุม หอประชุมแห่งนี้เลย ปรบมือให้ซักนิดนึง ขอทักทาย มีอยู่ร้อยกว่าท่านที่รออยู่ข้างนอก แล้วที่เขียนมารวมถึงคุณรัตนา สัจจเทพ ด้วย

สนธิ - ไม่ใช่ร้อยกว่าท่าน มากกว่านั้น

สโรชา - กว่าร้อยคน

สนธิ - ห้องอาหารคณะสังคมศาสตร์ แน่นไปเลย

สโรชา - มาถึงตอนนี้เรามาตอบคำถามที่ส่งขึ้นมา

สนธิ - เดี๋ยวๆ อีกนิดนึง

สโรชา - จะต่อหรอคะ เห็นบอกตะกี้แสบคอ

สนธิ - ยังไม่จบ อีกนิดเดียว คือการแปรรูปโดยพื้นฐานผู้ที่ต้องการจะแปรรูปจะตั้งตรรกะอยู่สี่ห้าข้อ ข้อแรกคือว่า แปรรูปแล้วประสิทธิภาพการบริหารจะดีขึ้น เท่าที่ผมเห็นเมื่อแปรเสร็จผู้บริหารชุดเดิม เหมือนเดิม วิธีทำงานเดิมๆ ไม่เชื่อนี่ ไม่ใช่เพราะเป็นองุ่นเปรี้ยว ก็เพราะว่าอยู่ในวงการ อยู่ในเหตุการณ์ อย่าง อสมทฯ แปรรูปแล้วผมยังเห็นเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย มีอยู่อย่างเดียวคือ ผู้บริหารได้เงินเดือนมากขึ้น อันที่ 2 แปรรูปแล้วจะมีการแข่งขัน แล้วจะทำให้คนได้บริการที่ดีขึ้น แล้วก็วัตถุประสงค์ของการแข่งขันในระบบทุนนิยมเพื่อให้ราคาต่ำลง แต่ทุกครั้งของการแปรรูปในโลกนี้ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย แปรทีไรคนที่จ่ายเงินเพิ่มก็คือผู้ใช้บริการทุกคน อันที่ 3 แปรรูปเพื่อจะไม่ต้องไปกู้เงินกู้ทองต่างประเทศโดยที่รัฐบาลจะต้องเป็นบุคคลค้ำประกัน ทั้งหมดเป็นปรัชญาที่ฟังแล้วดูดี แต่ว่าฟังแล้วมันโหลยโท่ย เหตุผลที่โหลยโท่ยเพราะว่าประการแรก เมื่อแปรรูปแล้วอะไรที่เป็นกิจการสาธารณูปโภคต้องเอาใจผู้ถือหุ้นก่อน พลิกสถานภาพจากการเป็นของรัฐ ซึ่งตลกมา วันนี้ ปตท.รัฐถือหุ้นอยู่ 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่เคยทำให้ประชาชนกลับทำให้หุ้นตัวเองสูงขึ้น การที่ชะลอการขึ้นน้ำมันเพียงสองสามวันแล้วมาอ้างบุญคุณกับคนทั้งประเทศ ผมคิดว่าคนไทยไม่ได้โง่ ไม่ได้โง่ กลายเป็นประคุณอย่างยิ่งใหญ่ไปเลย อ๋อขอบคุณมาก อู๋ยจุดธูปซักดอกนึงอุตสาชะลอขึ้นน้ำมันแค่ 2 วันเท่านั้นเอง ผมคิดว่าปรัชญานี้ผิดหมดตั้งแต่ต้น คำถามเนี้ยถามแล้วรัฐบาลไม่กล้าตอบ เหตุผลที่คุณแปรรูปเพราะคุณบอกว่าบริหารรัฐวิสาหกิจไม่คล่องตัว คุณตอบแบบไม่ใช้ปัญญาเลย คุณตอบแบบสมองสุนัขปัญญาควายรึไง ถ้ารัฐวิสาหกิจมันบริหารไม่คล่องตัวเพราะกฎหมาย ทำไมคุณไม่แก้กฎหมายล่ะ ง่ายๆ มันไม่คล่องตัวตรงไหนบอกมาหน่อยได้มั๊ย แล้วเมื่อออกกฎหมายไม่จำเป็นต้องออกว่ากฎหมายนึงมันใช้ได้หมดทุกรัฐวิสาหกิจ ออกเป็นกฎหมายกว้างๆ เสร็จแล้วให้แต่ละกระทรวงซึ่งดูแลรัฐวิสาหกิจออกเป็นระเบียบกฎกระทรวงเพื่อให้การทำงานของรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งทำงานได้คล่องขึ้น ผมคิดว่าพนักงานรัฐวิสาหกิจนั้นเค้ารักองค์กรจริงอยู่อาจจะมีอยู่หลายส่วนที่พวกเราดูว่าเค้าได้สิทธิ์ประโยชน์มาก แต่ผมคิดว่าถึงที่สุดแล้วพวกนี้พร้อมจะปรับปรุงประสิทธิภาพตัวเองเช่นกันแต่เราไม่เคยให้โอกาสเค้า ไม่เคยให้โอกาสอย่างให้โอกาสจริงๆ อันที่ 3 รัฐบาลไม่ต้องค้ำประกันหนี้ ผมถามคุณคำนึงซิ ราคาน้ำมันแบบนี้ กำไรปตท.แบบนี้ ถ้ามันยังเป็นของรัฐบาลอยู่ร้อยเปอร์เซ็นต์มันก็ไม่จำเป็นต้องไปกู้หนี้ใครอยู่แล้วไม่ใช่หรอ กำไรปีละแสนกว่าล้าน หรือการไฟฟ้าฝ่ายผลิต คุณกำไรการไฟฟ้าฝ่ายผลิตปีนึงประมาณ 60,000 ล้าน คุณบอกคุณจำเป็นต้องใช้เงินประมาณ 500,000 ล้านในการขยายกำลังการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ผมถามว่าคุณออกพันธบัตรระยะยาว 10 ปี ราคา 600,000 ล้าน เอาอะไรค้ำประกัน เอารายได้ที่คุณได้แต่ละปีค้ำประกันซิแล้วเอาเงินสดมา 600,000 ล้านเลยมาขยายงาน คุณทำไม่ได้หรอ คุณก็ทำได้ ก็ถามต่อแล้วคุณทำไมไม่ทำ คือยิ่งถามมากๆ มันยิ่งส่อเจตนา มันยิ่งส่อเจตนาว่า เบื้องหน้าเบื้องหลังการแปรรูปนั้น 1.ต้องการผลักดันให้จีดีพีสูงขึ้น ไอ้รัฐบาลชุดนี้มันเป็นรัฐบาลบ้าจีดีพี ต่อให้มีเด็กอายุ 14 ไปทำแท้งเพิ่มขึ้นอีก 500 เปอร์เซ็นต์มันก็ไม่สนใจขอให้จีดีพีกูขึ้นก็แล้วกัน เพราะฉะนั้นแล้วเราจะเห็นได้ชัดว่าทิศทาง ท่านผู้มีเกียรติก่อนเข้ามาฟังผมพูดได้ฟังเพลงของน้าหงาผมเรื่อง 2548 แล้ว ใครไม่ได้ฟังยกมือครับ โอ้หลายคน แล้วพวกคุณบอกว่าคุณเปิดให้พวกเค้าฟังแล้ว ที่อยู่หลังเวที มีมั๊ย

สโรชา - มีเป็นวีทีอาร์

สนธิ - เดี๋ยวคุณรีบเปิดซะเดี๋ยวนี้ ไม่เกิน 3 นาทีให้ฟัง ผมอยากให้ทุกคนฟัง คุณหงา คาราวาน แต่งเพลงนี้ให้พวกเราแล้วเพิ่งร้องเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ

[วีทีอาร์เพลงของหงา คาราวาน]

*****************************************************

สโรชา - คุณสนธิอธิบายซักนิดนึงมั๊ยค่ะว่าทางเลือกระหว่างสังคมทุนกับเศรษฐกิจเพียงพอ

สนธิ - คุณหงา น้าหงาตั้งชื่อเพลงนี้ว่า 2548 น้าหงาถามว่า เราจะเดินทางไหนกันแน่ เราจะเดินทางรุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาลย์ มีตึกระฟ้า มีการบันเทิงสุดฤทธิ์สุดเดช มีหวยบนดิน มีเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ แล้วก็มีการจับจ่ายใช้สอยอย่างที่ไม่เคารพนับถือธรรมะ หรือว่ามีเบนโลเพิ่มมาหลายๆ เบนโล อะไรต่ออะไร หรือว่าเราจะย้อนกลับไปในทางที่เราควรจะเป็น ก็คือ เราทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวเราเอง สร้างมันด้วยมือ จริงๆ แล้วน้าหงาไม่ได้ตั้งใจหรอเพราะว่าผมคุยกับน้าหงาเมื่อวานนี้ ไปๆ มาๆ น้าหงากลับมาพูดถึงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ คือ เศรษฐกิจพอเพียงเป็นธรรมะที่สูงมาก ผมเสียดายที่ท่านนายกฯ ท่านชอบอ้างหลักธรรมอยู่ตลอดเวลา แต่ท่านไม่เข้าใจธรรมะที่แสนจะธรรมดาที่พระเจ้าอยู่หัวฯ สอนมา ธรรมะอันนี้ที่พระเจ้าอยู่หัวฯ สอนเรามา 25 ปีแล้วนะไม่ใช่เพิ่งสอนนะ ผมจะบอกให้รู้ ถ้ากลับไปดูพระราชดำรัสของพระองค์ท่านในอดีตจะเห็นได้ชัดว่าพระองค์ท่าน คำว่าเศรษฐกิจพอเพียงมันประกอบด้วยหลักธรรมะ 3 หลักธรรมะที่ธรรมดาสามัญที่สุด ธรรมะข้อแรกคือ มัชฉิมาปะติปะทา ทำอะไรให้พอดีๆ ไม่ใช่ต้องเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก เชียงใหม่จะต้องเป็นฮับของทางภาคเหนือ ไม่ใช่ ทำให้พอดีๆ อันที่ 2 เมื่อทำให้พอดีๆ แล้วมันก็โยงเข้าสู่ธรรมะข้อที่ 2 คือ ความสันโดด สันโดดแปลว่า เรามีอะไรอยู่แค่ไหนให้ใช้แค่นั้นอย่าไปใช้เกินตัวเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วธรรมะข้อง 1 ข้อ 2 โยงมาสู่ข้อสุดท้าย คือ อัตตาหิอัตโนนาโถ ตนเป็นที่พึ่งของตนเอง 3 ข้อที่ธรรมดาสามัญแค่นี้ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่เข้าใจ มีแต่คน นายกฯ ทุกรุ่นพอพระองค์ท่านมีพระราชดำรสเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงก็ยกใส่เกล้าทำราวกับพระราชดำรัสของพระองค์ท่านนั้นเป็นครีมใส่ผม รูปเกศา แล้วก็ออกมาแล้วก็หายไป ทีนี้พอพระองค์ท่านยังเห็นว่างงอยู่ พระองค์ท่านก็สอนต่อ บอกว่า ยกตัวอย่างว่า ถ้ามีที่นา 4 ไร่ 30 เปอร์เซ็นต์ก็ขุดบ่อเลี้ยงปลาจะได้เอาปลามาทาน 30 เปอร์เซ็นต์ ก็จะได้เอาไปปลูกข้าวทาน อีก 30 เปอร์เซ็นต์ ทำผลไม้ ทำผักสวนครัว แต่ไม่ใช่รั้วกินได้นะ อีก 10 เปอร์เซ็นต์ทำบ้านอยู่ นัยของพระองค์ท่าน คือว่า เมื่อมีของกินดีอยู่ดีแล้วโดยไม่ต้องพึ่งพาข้างนอกก็สามารถเอาของที่เหลือไปขายที่ตลาด ที่นี้พวกสภาพัฒน์ พวกหลายๆ คนที่อยู่รัฐบาลหัวใส บอก ใช่แล้วเศรษฐกิจพอเพียงทุกคนต้องเป็นชาวนาหมด คือไอ้พวกสันขวานพวกนี้มันไม่เคยเข้าใจที่จะขยายความ นัยคำว่าพอเพียงของพระองค์ท่านนั้นสามารถเอาไปประยุกต์กับอุตสาหกรรมเศรษฐกิจระดับใหญ่ได้หมด พระองค์กำลังบอกว่า นี่พวกเธอพื้นฐานพวกเธอสร้างให้มั่นคงซะก่อน เมื่อมั่นคงแล้วเธอจะต่อยอดค่อยต่อยอดทีหลัง ถ้าวันข้างหน้ามันมีเฮอริเคนแคทรินา หรือว่าริตาเข้ามาในเมืองไทยทำให้ยอดมันพังแต่ฐานมันยังอยู่ พระองค์ท่านหมายความเช่นนั้น แต่ก็ไม่เข้าใจกันอีก เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย พระองค์ท่านเริ่มด้วยความมีเหตุผล มีเหตุผลมั๊ยที่จะทำเช่นนั้น เมื่อมีแล้วก็ว่า แล้วมันมีศักยภาพไหม เมื่อมีศักยภาพแล้ว แล้วเรามีทุนทรัพย์ไหม 3 ข้อง่ายๆ ยกตัวอย่างสนามบินหนองงูเห่า มีเหตุผลไหม คนโบราณเขาเรียกหนองว่า ที่เก็บน้ำ นั่นคือที่มาของคนโบราณเขาเรียกที่สูงว่า ดอน แล้วนั่นคือที่มาของสนามบินดอนเมือง แค่นี้มันยังไม่เข้าใจกัน นี่คือไม่มีเหตุผล ถ้าจะสร้างสนามบินทำไมไปสร้างที่หนอง ทำไมไม่สร้างที่ดอน แค่คิดก็ผิดแล้ว แค่คิดก็ไม่ใช่แล้ว เอาล่ะ ถ้าสร้างที่ดอน กองทัพอากาศนี่ขวางทาง แต่กองทัพอากาศจะขวางชาติได้ยังไง ก็ย้ายกองทัพอากาศไปกำแพงแสน ใช้เงินเบ็ดเสร็จ สร้างแฟลต สร้างบ้านให้อยู่ เป็นชุมชนใหม่ มีทั้งโรงเรียน เบ็ดเสร็จไม่เกิน 15,000 ล้าน ฝั่งกองทัพอากาศก็เป็น terminal 3 4 5 ทำรันเวย์เพิ่มได้อีก 2 รันเวย์ ขุดถนนใต้ดิน ทำให้มีรถใต้ดินลอดระหว่าง terminal ฝั่งวิภาวดี ข้ามไปฝั่งโน้น เบ็ดเสร็จใช้อีกก็ไม่เกิน 20,000 ล้าน เราได้สนามบินที่มีคน รับผู้โดยสารได้เท่ากับสนามบินหนองงูเห่า ด้วยวงเงินเพียง 35,000 ล้าน เอาล่ะ บวกค่าสุนัขรับประทานไปอีกสัก 20 เปอร์เซ็นต์
นี่ไง นี่คือตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช่เรื่องของไร่นา แล้วเศรษฐกิจพอเพียงมันก็มีนัยอีกนัยหนึ่ง ที่รัฐบาลชุดนี้ไม่มีวันจะเข้าใจได้ พระองค์ท่านสอนถ้าเราเอามาประยุกต์เป็น สังเกตไหมว่าเดี๋ยวนี้เวลาเราแก้ปัญหา ประเทศชาติแก้ปัญหา ต้องส่งออกให้มาก ผมต้องเร่งส่งออกให้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ 25 เปอร์เซ็นต์ 35 เปอร์เซ็นต์ การตลาด เราต้องขายของให้ได้มาก พระเจ้าอยู่หัวบอกว่า เดี๋ยวก่อน เราหันมาดูตัวเรา ก่อนที่เราจะพูดถึงเรื่องรายได้เพิ่ม เราถามตัวเราเองก่อนว่า รายจ่ายที่เรามีอยู่กับรายได้นั้น ถ้ามันไม่พอกัน เราตัดรายจ่ายเสียก่อน ยังไม่ต้องเร่งไปหารายได้ ตัดรายจ่ายให้รายจ่ายกับรายได้ให้แมตช์กันเสียก่อน อะไรบ้างที่ไม่จำเป็น โทรศัพท์มือถือ วัน-ทู-คอล ก็ไม่ต้องไปซื้อ นี่ไม่ใช่เฉพาะวัน-ทู-คอล นะ ดีพร้อมท์ก็ไม่ต้องซื้อ เดี๋ยวจะหาว่าอคติ อะไร โทรศัพท์มือถือแทนที่จะเปลี่ยนกัน 3 เดือนเครึ่อง ก็สัก 2-3 ปีค่อยเปลี่ยนสักเครื่องนึง พอรายได้กับรายจ่ายมันเท่าเทียมกันแล้ว เราค่อยมาหาวิธีหารายได้เพิ่ม นั่นคือเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของบ้านเราคุณสโรชา มันไม่ใช่ เดี๋ยวนี้มันไม่ใช่แล้ว นะฮะ
ก่อนที่จะพูดต่อแล้วให้ถามคำถามได้เนี่ย ผมว่าที่สำคัญที่สุดที่พวกเรากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ก็คือว่า การแปรรูปนั้น ผมยืนยันได้ว่า ไม่ได้แปรรูปเพื่อประโยชน์สุขของส่วนรวม แต่เป็นการแปรรูปที่แอบแฝง หนึ่ง เพื่อให้จีดีพีเพิ่ม เพื่อให้มูลค่าตลาดหลักทรัพย์เพิ่ม เพื่อให้หุ้นราคาขึ้น ความมั่งคั่งมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่พวกเรา สอง แปรรูปโดยมีการวาระซ่อนเร้น เปอร์เซ็นต์ของคนที่ถือหุ้นอยู่จากต่างประเทศสูงมาก คนที่ถือหุ้นอยู่ต่างประเทศสูงมากนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่เรียกว่า nominee คือตัวแทน ไม่มีหัวนอนปลายตีน ซ่อนเร้น ธรรมดาแล้วนักลงทุนจากต่างประเทศที่มีตัวตน แล้วก็มาทำธุรกิจทางด้านลงทุนจริงๆ เขาจะมีชื่อปรากฏให้เห็น แต่พวกนี้จะไม่มี แล้วมันชอบจัง nominee ส่วนใหญ่จะมาจากสิงคโปร์ เพราะไอ้พวกนักการเมืองเมืองไทยมันชอบไปสิงคโปร์ เพราะสิงคโปร์มันมีกฎหมายธนาคาร ว่าห้ามเปิดเผยบัญชีรายชื่อ ใช่ไหม ผมเองยังเสียดาย มิน่า รัฐบาลชุดนี้มันเอาใจสิงคโปร์เป็นว่าเล่น

สโรชา- เอาใจยังไงคะ

สนธิ- อ้าว คุณสโรชาจำได้ไหม เราพูดถึงเรื่องการให้เช่าสนามบินอุดรแก่สิงคโปร์ คุณรู้ไหมที่กาญจนบุรี สิงคโปร์มีอยู่ 1 กองพล ทหารสิงคโปร์มาฝึกรบที่นั่น สาม โรงแรมดาราเทวี แมนดาริน โอเรียนเต็ล ที่เชียงใหม่ ท่านนายกฯ กินข้าวกับนายลี เซียน ลุง สนุกสนาน พูดคุยถึงเรื่องการลงทุน ผมหลับตาวาดภาพแล้วผมตั้งนิมิต บอกว่า เออ มันน่าจะเป็นบาดาวีนะ มาเลเซีย แล้วท่านนายกฯ ก็เอื้อมมือจับเข่า บอก เฮ้ย บาดาวีเพื่อนรัก มึงหยุดช่วยพวกโจรก่อการร้ายซะทีได้ไหม กูขอเถอะ ใช่ไหม หรือไม่ เฮ้ย บาดาวี มึงรู้อะไรที่กูไม่รู้มั่ง เล่าให้กูฟังหน่อยได้ไหม นั่นคือนายกฯ ที่นายกรัฐมนตรีเราควรจะกินข้าวด้วย ไม่ใช่ไปกินกับสิงโปร์ ท่านผู้มีเกียรติท่านไม่รู้หรอกว่าวันนี้สิงคโปร์มันเป็นเจ้าของประเทศแล้ว ธนาคารกรุงเทพเนี่ย มันจะประชุมผู้ถือหุ้นและวาระอะไรเนี่ย นายชาตรีไม่ถามสิงคโปร์ก่อนนี่ไม่ได้ สิงคโปร์มันต้องตอบ ต้องบอกว่าต้องอย่างนี้ๆๆๆ ทั้งหมดนี่โดนกำกับโดยนายลี กวน ยู ประเทศคนเพียง 3 ล้านกว่าคน แต่มันรับประทานประเทศไทยไปเกือบหมดแล้ว โดยผ่านทางการเงิน แล้วนอกจากนั้นเรายังมีนักการเมืองฉ้อฉลที่ไม่รักชาติ พึ่งพาพึ่งพิงอิบแอบอาศัยกับพวกเขา เพื่อที่จะใช้มันเป็นนายหน้าบ้าง ใช้เงินมันบ้าง แล้วก็เอามาซื้อประเทศไทย โดยผ่านการแปรรูปต่างๆ เหล่านี้ นี่คือข้อเท็จจริงนะครับ
เชิญครับ คำถามครับ

สโรชา- คำถาม ดิฉันขอประมวลแล้วกันนะคะ เพราะว่ามีเป็นร้อยๆ คำถามเข้ามา มีเยอะที่ถามห่วงถึงเรื่องความปลอดภัยของคุณสนธิ คุณสนธิห่วงความปลอดภัยของตัวเองบ้างหรือเปล่า

สนธิ- ถามผมกลัวไหม ผมเลยตอบแล้วว่าผมกลัวฉิบหายเลย กลัวจนต้องกล้าแล้ว นะฮะ ในงานอย่างนี้สันติบาลมีหลายคน แต่อย่าไปว่าเขา เป็นหน้าที่เขา อย่างที่ผมบอกล่ะ นั่งอยู่แถวๆ นี้ ผมก็บอกได้อยู่ตรงไหน

สโรชา- มีเห็นที่มาด้วยนะ

สนธิ- คุณสโรชา มือเก๋าอย่างผมนี่ทำไมจะดูไม่ออกว่าใครบ้างแอบแฝงมายังไง ไม่เป็นไร คุณทำหน้าที่ของคุณไปเถอะ แต่อยู่อย่างสงบเสงี่ยมก็แล้วกัน

สโรชา- อันนี้แสดงว่าไม่ต้องพูดแล้วนะ

สนธิ- ไม่ต้องพูดแล้ว

สโรชา - คือมีคนชี้ให้เห็นนะค่ะว่านั่งอยู่ตรงไหนแล้วก็มีแผนที่มาให้ด้วย

สนธิ - เดี๋ยวนะฮะ มัน 2 ทุ่มแล้วจะยอมต่อเวลามั๊ย

สโรชา - ต่อนะคะ สรุปคือต่อนะคะ

สนธิ - ผมเป็นคนบ้ายอด้วยไม่รู้จะทำยังไง

สโรชา - มีคำถามค่ะว่า ประเทศไทยผ่านยุคทรราชไปแล้ว ผ่านยุค รสช.ไปแล้ว แล้วยุคทักษิณเรียกว่ายุคอะไรดีคะ

สนธิ - ยุคทักษิณจะเรียกว่าอะไร ขึ้นอยู่กับการกระทำของท่านนายกฯ ทักษิณ

สโรชา - ท่านเดียวกันนะคะถามต่อ จริงๆ แล้วเป็นความคิดเห็นมากกว่า บอกว่า รายการนายกฯ พบสื่อ พบแล้วนายกฯ ไม่เคลียร์ปัญหาที่ถูกถาม แล้วครั้งต่อไปพบสื่อแล้วไม่กล้าพูดความจริง ไม่กล้ารับว่าตัวเองส่งสัญญาณให้ลูกน้องทำ ควรจะถอดรายการนายกฯ พบสื่อดีกว่ามั๊ย

สนธิ - คือมันเป็นอย่างนี้ฮะท่านผู้มีเกียรติ ทุกยุคเลยไม่เฉพาะยุคนี้ จะเป็นยุครัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ยุครัฐบาล มียุคเดียวเท่านั้นเองที่ผมคิดว่า ยุค พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เพราะว่าพี่จิ๋วของผมนี่เลอะเทอะ พี่จิ๋วนี้ใครว่าอะไรแก หรอน้องหรอ หรอ แกพูดน่ารักมาก แกเป็นคนน่ารักจริงๆ แก่เป็นคนซึ่งน่ารักมากๆ เพียงแต่ในคนรอบด้านแกมันเป็นพวกโหลยโท่ยทั้งนั้นไม่รู้แกไปขุดมาจากไหน แต่ว่าแกเป็นคนไม่เคยรุกรานเสรีภาพของสื่อ ทั้งๆ ที่บางครั้งหลายๆ คนว่าแกอย่างเสียๆ หายๆ แต่ยกเว้นยุคแกแล้วทุกยุคเหมือนกันหมด ผมจำได้ยุคพรรคประชาธิปัตย์ ผมจำได้ไทยรักไทยนี่แหละตัวดีมากันเป็นแถวเลย โอ๊ยสมัยนั้นผมสู้กับพรรคประชาธิปัตย์ คุณสนธิเจ๊ง คุณสนธิเจ๊งใช้ได้ ท่านนายกฯ พูดขอบคุณ ถึงกับพูดเลยว่า ที่เขาชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ 50 เปอร์เซ็นต์ มาจากผม เพราะว่าผมทำให้คนเริ่มเห็นนโยบายขายชาติของคุณธารินทร์ นิมมานเหมินท์ ซึ่งไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์ เป็นเรื่องส่วนตัว นโยบายซึ่งคุณธารินทร์เอามา แต่วันนี้คุณทักษิณเป็นยังไง ไทยรักไทยเป็นยังไง แล้วผมก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไปพึ่งรัฐบาลชุดต่อไปนะ ถึงจุดๆ นึงพอมันมีอำนาจแล้วมันอีหลอบเดิม โทษนะฮะพูดหยาบหน่อย กูเจ็บตัวทุกที ไม่รู้เป็นอะไร

สโรชา - คุณเมย์จากกรุงเทพฯ บอกว่า การปิดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ เป็นการละเมิดสิทธิ์ของคนดู ประชาชนน่าจะเป็นคนฟ้องมากกว่า แล้วพวกเราขอเรียกค่าเสียหาย 2 บาท

สนธิ - หลายคนให้เหตุผลว่าไม่น่าจะเรียก 1 บาท น่าจะเรียก 3 สลึง เพราะว่ามันไม่เต็มบาท แต่ว่า 1 บาทนั้นมันเป็นเรื่องของสัญลักษณ์ครับ แล้วมันเรียกง่าย อสมทฯ 1 บาท อะไรก็ตาม 1 บาทหมด ทีนี้ทำไมผมถึงตัดสินใจฟ้อง เกิดมาผมไม่เคยฟ้องใคร ชีวิตผมทำสื่อมวลชนมาผมโดนฟ้องมาทั้งหมด ตั้งแต่ทำหนังสือพิมพ์มา 30 ปี เบ็ดเสร็จแล้วผมว่าต้องมีร้อยกว่าคดี ผมเดินทางไปหมดแล้วฮะ แม่ฮ่องสอน โคราช ชุมพร

สโรชา - เดินทางนี้คืออะไรคะ

สนธิ - เดินทางขึ้นศาล เดินทางมาตลอดแล้ว

สโรชา - ให้แน่ใจ

สนธิ - เดินทางมาตลอดแล้ว สมัยนึงมีคนๆ นึงเค้าสนิทกับแม่ทัพภาค 2 สนิทกับรุ่น 5 เค้าฟ้องผมที่โคราช จงใจเพราะว่าเค้ามีผู้มีพระคุณเป็นแม่ทัพภาค 2 ขับรถไปขึ้นศาลโคราช ทหารไอ้เนร 200 กว่าคนล้อมผม แต่ก็ไม่เป็นไร ทีนี้ผมไม่เคยฟ้อง แต่ที่ตัดสินใจฟ้องด้วยเหตุผลบางประการ ประการแรก ผมต้องการรบกับผู้ยิ่งใหญ่ ผมสอนพรรคพวกที่ทำงานด้วยกัน เพื่อนฝูงผม รึว่าเพื่อนร่วมงาน ลูกน้องผม น้องๆ ที่รักของผม ลูกหลานที่เข้ามาเรียนวิชากับผมบอกเฮ้ย จำเอาไว้นะอย่าทะเลาะกับคนที่เล็กกว่า เพราะเค้าเล็กกว่า เค้าเหยียบตีนเรา เค้ากระแทกเรา เค้าถุยน้ำลายใส่เรา ให้อภัยเค้าไปเพราะเค้าเล็กกว่าเรา อดกลั้นไว้ ถ้าจะรบรบกับยักษ์ อย่าไปกลัวมัน เพราะว่าถึงแพ้ก็ต้องนับว่าเป็นชนะ คุณสโรชาผมฟ้องผมได้อะไร คุณเรวัต ฉ่ำเฉลิม ท่านเป็นอดีตอัยการสูงสุด เส้นสายท่านมีเยอะ คนเป็นอัยการสูงสุดต้องรู้จักคนเยอะแยะในวงการยุติธรรม คุณธงทอง จันทรางศุ ตำแหน่งท่านคือรองปลัดกระทรวงยุติธรรม คุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ท่านเป็นเด็กสร้างของรัฐบาลชุดนี้ นอกจากนั้นแล้ว ท่านนายกฯ ท่านยังมีน้องเขยเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมอีก ผมวิ่งชนกำแพงเหล็ก แต่ผมต้องทำ เพราะว่าคนตัวเล็กกว่า เวลามันใช้เพลงกระบี่มันต้องใช้เพลงกระบี่เสี่ยงชีวิต และทำไมผมเรียก 1 บาท ไม่ใช่ผมประชดประชัน ทนายผมบอกว่าต้องเรียก 50 ล้าน หรือ 100 ล้าน เพื่อเป็นมูลเหตุในการอุทธรณ์ถ้าแพ้ ผมบอกไม่เอา มันเป็นสัญลักษณ์ ถ้าผมเรียก 100 ล้านบาท ถ้าสมมุติว่าผมชนะ เงินที่ อสมทฯ จ่ายนั้น 70 เปอร์เซ็นต์ เป็นของรัฐ เป็นของประชาชน เป็นของพวกเรา ผมไม่รับตรงนั้น ผมต้องการแค่สัญลักษณ์ว่ามึงรังแกกู

สโรชา- คำถามค่ะ ถามว่า ไม่ทราบว่าพี่ชายคุณสนธิ (ที่เป็นนายแพทย์) ที่คุณสนธิกล่าวอ้างถึงอาทิตย์ก่อนรายการจะถูกถอด เดือดร้อนในหน้าที่การงานเหมือนคุณสนธิหรือเปล่า เป็นห่วงค่ะ

สนธิ- พี่ชายผม นายแพทย์ศักดิ์ชัย ลิ้มทองกุล ท่านเป็นหนึ่งในคณะแพทย์อาวุโสที่รักษาสมเด็จพระสังฆราชฯ แล้วท่านเป็นคนซึ่งศึกษาทางธรรมมา ท่านเป็นคนเล่าให้ฟังมาแล้วว่า สมเด็จพระสังฆราชฯ ไม่ได้ประชวรอย่างที่เขาว่า เป็นเพียงแต่เป็นโรคชรา ท่านก็พูดดี พี่ชายผมบอกว่า นี่ คนอายุ 92 เนี่ย จะให้มันเดินเหินคล่องเหมือนพวกเราได้ยังไง ท่านก็ต้องค่อยๆ เดิน แต่ว่าท่านมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ พูดจารู้เรื่อง ใครเข้าไปเฝ้า ท่านยังจำได้ดี ท่านยังมีพระราชดำรัสออกมาได้ พี่ชายผมเป็นอดีตรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาฯ และเผอิญเกษียณอายุแล้ว และไปเป็นผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย ในสมเด็จฯ พระบรมราชินีนาถ เพราะฉะนั้นแล้วหวังว่าการเมืองคงเข้าไปรังแกไม่ถึง

สโรชา- คุณสนธิกล่าวถึงสมเด็จพระสังฆราชฯ นะคะ มีต่อนิดหนึ่งนะคะ ข้อมูลจากคม-ชัด-ลึก ฉบับวันนี้ค่ะ เรียนคุณสนธินะคะ วันที่ 1-3 ตุลาคมนี้ เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไป เข้าเฝ้าถวายพระพรสมเด็จพระสังฆราชฯ ได้ เนื่องในวโรกาสวันประสูติ 3 ตุลาคมนี้ ที่วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ

สนธิ- ครับ พวกเราต้องช่วยกัน พระองค์ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ ที่พระองค์ท่านไม่ตอบโต้ใคร จริยะงดงาม สง่า เป็นพระที่เลิศไปด้วยปัญญา ชาญที่สูง และเป็นพระที่มีพระเมตตาที่สูงสุดองค์หนึ่งที่หาได้ยากในประเทศไทย วันที่ 3 นี้ ถ้าพวกเรามีเวลา เข้าไปขอร่วมถวายพระพรพระองค์ท่าน ให้เห็นว่าเรายังคิดถึงพระองค์ท่านอยู่ ขอเถอะครับ ช่วยกัน มีเวลาก็ผลัดๆ กันไป แล้วจะเป็นสิริมงคลกับพวกเรา

สโรชา- มีความคิดเห็นนะคะว่านายกรัฐมนตรีท่านมองประเทศไทยเป็นบริษัทของท่าน คนไทยก็ถูกเป็น buffalo ให้ท่านจูงจมูก มีถามต่อนิดหนึ่ง อันนี้คำถามค่อนข้างยาว ขอสรุปใจความนะคะว่า จริงๆ แล้วก็มีประชาชนจำนวนไม่น้อยทีเดียวที่เลือกท่านนายกฯ เข้ามาบริหารประเทศ เข้ามาถึง 370 กว่าเสียง แสดงว่าต้องมีข้อดีบ้างสิ เราจะกลับไปย้อนมองถึงข้อดีนั้นได้ไหมว่า ก็มีประชาชนจำนวนไม่น้อยเลือกท่านเข้ามา

สนธิ- คือ การเลือกตั้งสมัยนี้เนี่ย มันเป็นการทำการตลาดไปหมดแล้วนะครับ ถ้าเรามามองว่า คน 377 เขาได้ 377 เสียง และ 19 ล้านเสียง เลือกเข้ามาเนี่ย เขาต้องมีข้อดีบ้าง ผมถามกลับวิธีนี้ดีกว่า ผมถามกลับว่าสิ่งซึ่งเขาให้คำมั่นสัญญาเอาไว้แต่ละข้อๆ เนี่ย เขาจะมีกี่เสียงไม่สำคัญ ถามว่าเขาได้ทำตามที่เขาได้ทำคำมั่นสัญญาไว้หรือเปล่า ผมคิดว่าดูแค่นี้พอแล้ว เพราะว่าพวกเรานี่ต้องยอมรับนะ ว่าเมืองไทยนี่ การเลือกตั้งคือการใช้เงินใช้ทอง ใครมีอำนาจรัฐ คนนั้นได้เปรียบ ได้เปรียบอย่างแน่นอนที่สุด คุณเอาง่ายๆ แล้วกัน แค่ท่านนายกฯ ท่านออกทุกวันเสาร์ วิทยุกรมประชาสัมพันธ์ ออกไปทั่วประเทศไทย ถามต่อว่ามีใครมีสิทธิได้ออกบ้างไหม ที่จะมาชี้แจงบ้างที่ท่านนายกฯ พูดนั้น ท่านพูดถูก ที่ท่านนายกฯ พูดนั้นท่านพูดถูกครึ่งเดียว ที่ท่านนายกฯ พูดนั้น พูดผิดหมด มีใครมาชี้แจงท่านได้ไหม ท่านเปิดโอกาสให้ใครไหมมาชี้แจงแข่งกับท่านได้ไหม ว่าที่ท่านบอกว่าท่านจะทำสนามบินหนองงูเห่า เป็นฮับของเอเชีย มีใครจะมาพูดไหม บอกว่าอย่าเป็นเลยฮับของเอเชีย ทำให้ดีที่สุด ต้นทุนต่ำที่สุด ไม่มี เพราะว่าไม่เคยได้รับโอกาส เพราะฉะนั้นแล้ว พวกคุณในที่นี้ก็ล้วนแล้วแต่มีครอบครัว มีภรรยา มีสามีกัน เวลาคุณกลับไปที่บ้านภรรยาคุณพูดกระซิบที่หูพี่ ไอ้นี่มันเลวพี่ ไอ้นี้มันเลวพี่ต้องเอามันออก ไอ้นี้มันดีพี่ได้นี่มันดี พูดอยู่ทุกวันเหมือนกับประชาชนได้ยินเสียงอยู่เสียงเดียวตลอดเวลา ประชาชนจะคิดยังไง ประชาชนก็เอนอ่อน ผมนี้ด้วยความเคารพรากหญ้า ผมเคารพในความเป็นมนุษย์ แต่เหตุผลนึงที่ทำไมเค้าไม่เร่งสร้างองค์ความรู้ให้รากหญ้าก็เพราะว่ารากหญ้ามันหรอกง่าย เหตุผลที่มันหรอกง่ายก็เพราะว่า การที่เอาเงินเอาทองไปให้กู้ รากหญ้ามีไม่น้อยเลยที่เข้าใจว่าเงินที่กู้มานั้นไม่ต้องใช้คืนนะ นี่เป็นเรื่องจริงนะ แล้วผมจะแนะอะไรอย่างนะ ลักษณะการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้คุณจำเอาไว้เลย เมื่อใดก็ตามสิ่งไหนที่ทำแล้วได้ประโยชน์ มีผลจะโฆษณาตลอดเวลา คุณเคยเห็นรัฐบาลโฆษณากองทุนหมู่บ้านบ้างมั๊ยในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ ไม่มีเพราะอะไร เพราะมันเจ๋งหมดแล้ว เพราะฉะนั้นการได้เสียงมากไม่ได้แปลว่า คุณได้ใช้ธรรมที่แท้จริงในการปกครอง แต่ถ้าคุณได้เสียงมากแล้วคุณปกครองโดยใช้ธรรมนำหน้าก็จะโมทนาสาธุให้ แต่การที่คุณได้เสียงมากแล้วคุณก็อ้างว่า มีประชาชน 19 ล้านคนสนับสนุนคุณ ผมก็จะถามกลับแล้วพระเจ้าอยู่หัวฯ ทำงานมา 59 ปี แล้วประชาชน 60 ล้านคนหายไปไหน

สโรชา - ถามคุณสนธินะคะว่า อยากจะได้เพลงนี้จังเลยทำอย่างไรจึงจะได้บ้าง ขออนุญาตตอบให้เลยนะคะว่า เพลงนี้สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บผู้จัดการ www.manager.co.th หรือ เราจะทำขายเองค่ะ

สนธิ - ไม่ครับ วันศุกร์หน้าเราจะอัดเป็นซีดีซิงเกิลของน้าหงา คาราวาน ทุกบาททุกสตางค์เราจะยกให้น้าหงาทั้งหมด เพื่อให้น้าหงาเอาไปช่วยชาวใต้

สโรชา - คิดว่ารัฐบาลชุดนี้คงไม่สามารถตอบคำถามและแก้ปัญหาเกี่ยวกับหัวข้อที่คุณสนธิเอ่ยช่วงต้นรายการได้ และรัฐบาลชุดนี้คงไม่ยอมสละตำแหน่งแน่นอน ไม่ทราบว่าคุณสนธิมีข้อเสนอแนะหรือข้อปฏิบัติให้ประชาชนไทยทำอย่างไรเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดได้ ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

สนธิ - ก็มาถึงวันนี้พวกเราก็น่าจะชินไปแล้วไม่ใช่หรอ ผมคิดว่าดำรงสติและจิตวิญญาณให้อยู่กับ อย่าไปยอมแพ้อะไรง่ายๆ นัก อย่าเป็นคนที่เมื่อถูกกดดันแล้วเปลี่ยนจุดยืนหรือว่าจิตวิญญาณ เปลี่ยนไม่ได้ ผมอยากจะพูดให้ฟังนิดนึง ที่ยากที่สุดในชีวิตของคนเราผมคิดว่าผมมีสิทธิ์ที่จะพูดได้พอสมควร เพราะว่าในที่นี้อาจจะมีคนที่อายุมากกว่าผมแต่ว่ามีอยู่ไม่น้อยที่อายุน้อยกว่าผม ทุกอย่างในชีวิตมันเป็นเรื่องสมมุติหมด ท่านนายกฯ ทักษิณ แล้ววงศ์วานเครือญาติของท่านคิดผิด ท่านคิดว่าท่านเป็นอมตะ ท่านคิดผิด เมื่อเราอยู่ในโลกสมมุติเราใช้สมมุติให้ดีที่สุด เราเป็นทหารเราเป็นทหารที่ดีที่สุดจงรักภักดีต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทำเพื่อประชาชน เราเป็นตำรวจ เราก็เป็นตำรวจให้ดีที่สุด รับประทานให้น้อยที่สุด ทำผิดกฎหมายได้แต่อย่างทำผิดศีลธรรม เสร็จเรียบร้อยแล้วเราเป็นข้าราชการเราก็ทำตัวให้ดี ผมเป็นสื่อมวลชนผมทำให้ดีที่สุด เมื่อเราทำสมมุติให้ดีที่สุดแล้วถึงวันนึงเราอย่าไปยึดติดกับสมมุตินั้น เมื่อเราไม่ยึดติดเราปล่อยวางได้จิตเราจะสงบ เมื่อเรามองย้อนหลังกลับไปแล้วเราก็บอกโธ่เอ๊ยเรื่องมันสมมุติเท่านั้นเอง ผมเห็นสมัยก่อน พล.อ.สุจินดา คราประยูร ใหญ่คับฟ้า วันนี้ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ยังเป็นคนที่สมมุติ คนที่ยังยึดติดกับสมมุติแล้ววันนี้สมมุติหลุดไปแล้วสุจินดา คราประยูร คือใคร เดินมา กล้าเดินไปกินก๋วยเตี๋ยวแถวท่าพระจันทร์มั๊ย ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ ทำอะไรก็ตามก้มหน้าต้องไม่อายดิน เงยหน้าต้องไม่อายฟ้า แค่นั้นเองพอแล้ว ผมคิดว่าเพราะฉะนั้นถ้าเรามีจิตวิญญาณที่มั่นคง จิตวิญญาณที่ไม่ถูกซื้อขายเหมือนกับสินค้าที่วางบนห้างผมคิดว่า นั่นคือวิธีที่เราจะอยู่ได้รอดในสังคมนี้ เรามีลูกมีหลานเราก็สอนลูกสอนหลาน เรามีน้องมีนุ่ง เราก็บอกน้องนุ่ง เรามีพ่อแม่ที่ไม่รู้เรื่อง เราอธิบายให้พ่อแม่เข้าใจ เรามีพี่ เราอธิบายให้พี่เข้าใจ เรามีเพื่อนที่ยังลุ่มหลงหลงใหล เข้าใจผิดๆ เยอะ เรา เฮ้ยไม่ใช่นะ เรื่องมันเป็นอย่างนี้ๆๆ นะ ถ้าเขาเข้าใจเราก็มีมุทิตา หวังให้เขาเข้าใจ มีเมตตากับเขา แต่ถ้าเขายังไม่เข้าใจ อธิบายแล้วยังไม่เข้าใจ ก็อุเบกขา ก็ปล่อยมันไปเลย ผมคิดว่านั่นคือวิธีที่เราต้องใช้ชีวิตแบบนั้น

สโรชา- คำถามค่ะ ถามว่าถ้าประเทศไทยไม่สามารถแก้ไขปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดภาคใต้ได้ ศาลโลกจะมีสิทธิเข้ามาตัดสินให้ 3 จังหวัดภาคใต้ เป็นรัฐอิสระได้หรือไม่ และเราประชาชนคนไทยทั้งประเทศจะมีวิธีแก้ไขได้อย่างไร ขอเป็นกำลังใจให้ทีมงานเมืองไทยรายสัปดาห์ตลอดไปค่ะ

สนธิ- ตอบสั้นๆ ต้องแก้ได้สิ ไม่มีแก้ไม่ได้ ถ้าเรามาร่วมมือร่วมใจกันแก้ มันต้องแก้ได้ มันต้องแก้ได้ ยังไงก็ต้องแก้ได้ ยังไงก็ไม่ยอมให้หลุดไป ต้องแก้ได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ต้องเป็นทางที่มันดีทั้งสองฝ่าย แล้วมันอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ ถ้าเราตั้งเป้าตรงนี้เอาไว้มันต้องแก้ได้

สโรชา- เรียนคุณสนธิ ผมเดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อติดตามรายการนี้ และการติดตามเรื่องพระราชอำนาจมาตลอด ทำให้เกิดความรู้สึกสำนึกในพระคุณพ่อของแผ่นดิน อยากจะตอบแทนพระคุณพ่อ จึงขอถ่ายทอดบทความเลียนแบบ "พ่อของแผ่นดิน" มาให้พิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่ จากคนต่างจังหวัดค่ะ

สนธิ- ครับ อย่าเพิ่งอ่านเลยครับ เพราะเดี๋ยวอ่านแล้ว ข้าของแผ่นดิน ลูกคนเล็กของพ่อ อย่าเพิ่งเลยครับ เดี๋ยวจะหาว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอีกนะฮะ รู้สึกเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ก็ประหลาด บทความพ่อของแผ่นดินนั้น เดี๋ยวผมจะเอาลงเว็บไซต์ให้นะฮะ คุณสโรชาเก็บไว้หน่อย
บทความพ่อของแผ่นดินนั้นถูกส่งมาโพสต์ในเว็บไซต์ผู้จัดการ แล้วก็ลงโพสต์ความเห็นที่ 9 แล้วก็ออก ส่งมาวันที่ 9 เดือน 9 แล้วผมก็เอามาออกรายการคืนวันที่ 9 มันก็เลยปิดรายการเลย ผมไม่รู้ใครเขียน แต่คนเขียนนั้นมีอัจฉริยภาพในทางภาษาอย่างลึกซึ้ง

สโรชา- ความเห็นเข้ามาจากทางบ้านนะคะ 135 คุณสำโรงจากอยุธยา ที่ผู้นำบอกว่าอีก 4 ปี จะไม่มีคนจน เพราะคนจนตายหมดแล้ว มีคำถามหลายคำถามค่ะที่ไปในทิศทางเดียวกัน ดิฉันขออนุญาตสรุปเลยแล้วกัน บ้างก็ว่าคุณสนธิออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้นี่จะเล่นการเมืองหรือเปล่า ทำไมไม่ลง ส.ส. ส.ว.ซะเลยล่ะ

สนธิ- คุณ หลายๆ ท่าน ท่านโสภณนะฮะ ท่านวิญญู ท่านศิริโชค ที่เป็นนักการเมือง ส.ส. ส.ว. ด้วยความเคารพ ท่านอย่าโกรธผมเลย เพราะว่างานที่ท่านทำ ตำแหน่งที่ท่านอยู่นั้น เป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมอยากได้ ผมขอเป็นผมอย่างนี้ดีกว่า ผมคิดว่าแต่ละคนมีหน้าที่ แต่ละคนมีบทบาทของตัวเอง ถ้าจะเป็น ส.ว.ก็เป็นอย่างท่านโสภณ สุภาพงษ์ ท่านทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ท่านกล้าพูดในสิ่งที่ท่านพูด ถ้าจะเป็น ส.ว.ต้องเป็นอย่างท่านวิญญู ที่ท่านกล้าออกมาคัดค้านนายสุชน ชาลีเครือ ซึ่งเป็นญาติสนิทของคุณหญิงอ้อ พจมาน ชินวัตร นี่ไม่มีใครรู้ใช่ไหม เขาเป็นคนชัยภูมิด้วยกัน สาแหรกเดียวกัน แล้วน้องๆ ของคุณสุชน ชาลีเครือ ก็ทำงานอยู่ในเครือเอไอเอส นี่เพิ่งรู้ใช่ไหมเนี่ย แหม...แล้วหายสงสัยหรือยังล่ะ ไม่อ่านเลยหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ซื้อซะมั่งสิ ชอบอ่านฟรีในเว็บอยู่เรื่อยพวกเนี้ย

สโรชา- มีความคิดเห็นจากท่านที่เรียกตัวเองว่า คริสเตียนที่รักประเทศไทย นะคะ บอกว่า ถ้าท่านนายกฯ ดูอยู่ อยากจะบอกท่านว่า เราซึ่งเคารพในสิทธิอำนาจ เพราะพระเจ้านั้นเป็นผู้ประทานสิทธิอำนาจให้ แต่ถ้าท่านกำลังอยู่ในทางที่ผิด พระเจ้ายินดีที่จะไถ่ความผิดบาปให้ท่านเสมอ เพราะพระเจ้าทรงบอกไว้ว่า แม้นบาปของท่านจะแดงเหมือนเลือดนก แต่เมื่อกลับใจสารภาพความผิด บาปของท่าน พระองค์เจ้าจะดำรงชำระความผิดบาปของท่านให้ขาวดั่งหิมะ ขอพระเจ้าทรงอวยพรท่าน ในนามแห่งพระเยซูคริสต์ จากคริสเตียนที่รักประเทศไทย

สนธิ- ถ้าในทางจีนก็บอก แล้วแต่ลิขิตของฟ้า ถ้าในทางพุทธก็บอกว่า กรรมใดใครก่อ

สโรชา- จากท่านใดในนี้นะคะ บอกว่า สัญจรครั้งต่อไปกรุณาจัดในหอประชุมใหญ่ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง อยากให้ทุกๆ คนเข้าร่วมหอประชุม

สนธิ- ก่อนอื่นผมต้องขอบคุณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แล้วก็ท่านอธิการบดี ดร.สุรพล นะครับ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ของธรรมศาสตร์ทุกๆ คน ที่อำนวยความสะดวก แล้วก็ท่านผู้ฟังทุกท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นั่งอยู่ข้างนอก นั่งลำบากมากบนสนาม แต่ไม่ยอมลุกไปไหนเลยนะครับ ปรบมือให้อีกทีได้ไหมครับ
หอประชุมเล็ก อาทิตย์หน้าเราก็จองไว้แล้ว เราเปลี่ยนไม่ได้ ถ้าหอประชุมใหญ่ขอคิดนิดหนึ่ง มันแพงเหลือเกิน ค่าเช่า แต่ว่าจริงๆ ก็คืออยากจะให้มีความเป็นกันเอง แล้วก็ใกล้ชิดกันในหอประชุมเล็ก หอประชุมใหญ่มันดูเย็น อ้างว้าง มันห่างเหินกันจนเกินไป แต่ว่าถ้าท่านคิดว่าจะมีคนเต็มหอประชุมใหญ่จนล้น เราก็จะพิจารณาเช่าหอประชุมใหญ่จัด ขึ้นอยู่กับท่านว่าถ้าท่านอยากจะมาฟัง ท่านก็ชวนพรรคพวกเพื่อนฝูงมาฟังนะครับ รัฐบาลไม่ให้ออกเมืองไทยรายสัปดาห์ ไม่เป็นไร เรามาออกธรรมศาสตร์รายสัปดาห์กันนะครับ

สโรชา - ในเมื่ออาทิตย์หน้าก็จะมาเจอกันที่นี่ทีมงานบอกว่า งั้นเราจบที่ 2 ทุ่มครึ่งจะดีมั๊ย คุณสนธิมีอะไรจะทิ้งท้ายในช่วงนี้มั๊ยคะ

สนธิ - ผมอยากจะฝากปรัชญาสุดท้ายที่ผมต่อสู้มาทุกวันนี้ ที่ผมสู้มาผมสู้ใน 2 สถานะ สถานะแรกผมสู้ในฐานะเป็นสื่อมวลชนที่ไม่ยอมสยบต่ออำนาจ ผมคิดว่า สิ่งอะไรก็ตามที่มันเป็นความจริงที่สังคมต้องรับรู้ ผมต้องเอามาให้สังคมรับรู้ นั่นคือสถานะแรก สถานะที่ 2 คือ คนที่รักชาติ รักแผ่นดิน สำหรับผมแล้ว และพวกเราทุกคนที่นั่งในนี้ ชาติ ชาตินั้นประกอบด้วย 2 อย่างเท่านั้นเองให้จำเอาไว้ ประกอบด้วย ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่อย่างอื่น ไม่ใช่ 30 บาทรักษาทุกโรค ไม่ใช่อะไรทั้งสิ้น เมื่อใดศาสนาอ่อนแอพระมหากษัตริย์ก็จะอ่อนแอ เมื่อใดพระมหากษัตริย์อ่อนแอศาสนาจะอ่อนแอ เมื่อใดทั้งศาสนาและทั้งพระมหากษัตริย์เราจะไม่มีชาติ ศาสนาไม่ว่าจะเป็นพุทธ เป็นคริสต์ เป็นอิสลาม เป็นจิตวิญญาณของสังคมไทย จิตวิญญาณของพวกเรา พระมหากษัตริย์เป็นกันชนสุดท้ายของสังคมไทยที่พวกเราพึ่งพาได้เมื่อผู้นำไร้คุณธรรม แต่เมื่อใดพระมหากษัตริย์กลายเป็นตรายางในทางการเมืองไปแล้ว ประเทศชาติถูกซื้อขายได้เพราะว่ารัฐธรรมนูญนั้นถูกสร้างขึ้นโดยนักการเมือง นักการเมืองนั้นถูกกำกับโดยพรรค พรรคนั้นถูกเป็นเจ้าของโดยทุน เพราะฉะนั้นแล้วประเทศชาติจะถูกเปลี่ยนมือได้เหมือนการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิต การแปรรูป ปตท. การเอาคนของตัวนั่งที่โน้นที่นี่ วันเป็นวันที่เราจะไม่มีอะไรเหลืออีกแล้วแม้กระทั่งจิตวิญญาณ นั่นคือสถานภาพอันที่ 2 ที่ผมยืนหยัดและต่อสู้ และผมหวังว่าท่านผู้ฟังที่นี่ตลอดจนที่บ้าน แล้วฟังผ่านวิทยุเครือข่ายชุมชน ตลอดจนอินเตอร์เน็ตจะเข้าใจนี้ และถ้าเราเข้าใจตรงกัน เราเห็นด้วยกันพวกเรามีหน้าที่ต้องไม่ย่อท้อ ต้องสู้ เพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์และสถาบันศาสนาเป็น 2 สถาบันที่แข็งแรงแล้วเป็นเสาหลักที่จะค้ำสังคมไทยต่อไป ขอบคุณมากครับ

สโรชา - ดิฉันขออนุญาตจบรายการด้วยการเรียนเชิญทุกๆ ท่านร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี

*****************************************************
กำลังโหลดความคิดเห็น