"สนธิ"ชี้ การดึงอานันท์เข้ามาแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนาคใต้สะท้อนให้เห็นว่า การบริหารงานของนายกฯ ล้มเหลวทั้งหมด เชื่อหากยังใช้วิธีการแก้ปัญหาแบบคู่ขนานกันไปภาคใต้จะไม่มีทางสงบสุข แนะนายกฯ ต้องแสดงความจริงใจและทำให้คนในพื้นที่ไว้ใจจึงจะสำเร็จ นอกจากนี้ ยังพูดถึงการมาถึงของซีทีเอ็กซ์ที่ไม่สามารถลบข้อสังสัยเรื่องทุจริตได้ด้วย
คลิกที่ไอคอน Multimedia ด้านบนเพื่อฟังเสียงการสนทนา
สโรชา - สวัสดีค่ะคุณผู้ชม ขอต้อนรับเข้าสู่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ อาหารสมองก่อนเข้านอน ในทุกคืนวันศุกร์ค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้งนะคะกับคุณ สนธิ ลิ้มทองกุล ดิฉันสโรชา พรอุดมศักดิ์ วันนี้วันศุกร์ที่ 29กรกฎาคม 2548 ต้องยอมรับค่ะว่าเป็นสัปดาห์ที่คึกคักจริงๆ เลยสำหรับผู้ที่ติดตามข่าวนะคะ เพราะว่าเรามีทั้งพิธีการต้อนรับนักกีฬาสโมสรรีล มาดริด มาแข่งกับทีมชาติไทย เพิ่งจบไปเมื่อตอนหัวค่ำนี้ เรามีพิธีการต้องรับเครื่องซีทีเอ็กซ์ที่เพิ่งถึงเมื่อเช้านี้เช่นเดียวกัน เข้าใจว่าไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิเรียบร้อยแล้ว และคงจะตามาอีก 24 เครื่องทั้งหมด ภายในเดือน ส.ค.ที่จะถึงนี้ค่ะ นอกจากนี้ยังมีเรื่องใหญ่ซึ่งถือว่าจะต้องคุยกันค่อนข้างยาวเพราะว่าเราเคยคุยกันมาหลายเรื่องแล้วนะคะ หลายครั้งเรื่องราวของความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ เราเห็นท่านนายกฯ ทักษิณ และอดีตท่านายกฯ อานันท์ท่านได้สนทนากันแพร่ภาพไปทั่วประเทศ และคงจะมีคำถามหรือว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาพอสมควร แต่ว่าดิฉันจำได้ค่ะคุณสนธิ เพราะว่าช่วงที่ก่อตั้ง กอส.ใหม่ๆ ถ้าจำไม่ผิดช่วงต้นเดือน เม.ย.
สนธิ - 1 เม.ย.2548
สโรชา - เราเคยคุยกันเรื่องนี้แล้ว
สนธิ - ผมเคยพูดทำนายทายทักไว้
สโรชา - พ่อหมออีกแล้ว
สนธิ - ผมเป็นพ่อหมออีกครั้งนึงแล้ว ผ่านมา เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. 4 เดือนเต็มๆ ขึ้นเดือนที่ 5 หลังจากที่ 1 อดีตนายกฯ กับ 1 ปัจจุบันนายกฯ คุยกันในเรื่องนี้ แล้วผมได้ทำนายไว้เรียบร้อยแล้ว
สโรชา - ไปดูกันซักนิดนึงนะคะท่านผู้ชม ไปดูกันซักนิดนึงว่าวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมานี้ คุณสนธิได้ทักทาย หรือพ่อหมอได้ทำนายทายทักอะไรกันไว้บ้าง ไปดูกันค่ะ (ย้อนดูเทปเก่า) นั่นก็คือรายการช่วงนึงที่ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา คงจะต้องคุยกับพ่อหมอต่อซักนิดนึงนะคะว่า จากนี้ไปเราได้เห็นท่านนายกฯ คนปัจจุบัน และอดีตนายกฯ ทั้ง 2 ท่านพูดคุยกันเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
สนธิ - ซึ่งการพูดคุยกันเมื่อที่ผ่านไปวัน 2 วัน มันมีนัยมากนะ แล้วมันอธิบายเรื่องได้เยอะเลย แต่ว่าอย่าเพิ่งพูดตอนนี้ดีกว่า เอาไว้พูดช่วงหน้า
สโรชา - เดี๋ยวเราจะกลับมาในช่วงหน้ามาคุยกันถึงเรื่องการพูดคุย การสนทนากันระหว่างท่านนายกฯ ทักษิณ และท่านอดีตนายกฯ อานันท์ นอกจากนี้ยังต้องคุยกันถึงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีด้วยนะคะ ตอนแรกนึกว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะทราบแล้วหละว่าโผ ครม.ชุดใหม่จะเป็นอย่างไร แต่เห็นว่าคงจะเป็นซักกลางสัปดาห์ หรือปลายสัปดาห์หน้าคงจะได้พูดคุยกันถึงเรื่องนี้อีกครั้งนึง คำถามเอสเอ็มเอสประจำคืนนี้ค่ะ เราเรียนถามคุณผู้ชมว่า คุณผู้ชมเชื่อมั๊ยว่า พ.ร.ก.ฉบับนี้จะแก้ปัญหาภาคใต้ได้หรือไม่ ถ้าคิดว่าได้กด MT 1 คิดว่าไม่ได้กด MT 2 ส่งมาที่ 48488888 หรือโทรมาก็ได้ค่ะที่ 0-2201-6055-60 ขอบคุณฟรีอินเตอร์เน็ตค่ะที่เอื้อเฟ้อระบบเอสเอ็มเอสให้กับเรา มีข่าวประชาสัมพันธ์ซักนิดนึงนะคะก่อนที่จะไปพักโฆษณากัน อยากจะเรียนให้คุณผู้ชมทราบอีกครั้งนึงค่ะ สำหรับงานอุทยานอนุรักษ์สุขภาพ ครั้งที่ 13 ที่จะเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ 30 และวันอาทิตย์ที่ 31 ก.ค.นี้ คือ เสาร์-อาทิตย์ที่กำลังจะถึงนี้เลยนะคะ ในเวลา 08.30-18.00 น. ที่อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ บางลำพู สิ่งที่คุณผู้ชมจะได้พบนะคะก็คือ การบรรยายศาสตร์ในการดูแลรักษาสุขภาพในรูปแบบต่างๆ มากมาย อาทิเช่น พลานุภาพดนตรีจีน Meditstion as Medicine ตอนลมหายใจเป็นยา น้ำมันมะกอกและสมุนไพรเพื่อสุขภาพและความงาม ชีวิตหลังตาย : ชีวิตใหม่ที่ต้องเตรียมตัว กินอยู่อย่างไรให้สดใสแข็งแรง การบริหารกายวิถีพุทธ ไทเก๊ก ชี่กง พลังคอสมิค และการสาธิตอีกมากมาย นอกจากนี้แล้วยังสามารถพบกับการเสวนาธรรมในหัวข้อ "วิเคราะห์สังคมด้วยธรรม" โดยหลวงปู่พุทธะอิสระ, คุณสนธิ ลิ้มทองกุล, อ.สามารถ มังสัง และคุณสำราญ รอดเพชร ในวันเสาร์ที่ 30 เวลา 13.00-16.00 น. และในวันอาทิตย์ที่ 31 ในเวลา 09.00-12.00 น. จะได้พบกับเสวนาธรรมในหัวข้อ "การบริหารจิตท่ามกลางวิกฤตของสังคม" โดยพระอาจารย์อำนาจ โอภาโส, คุณสนธิ ลิ้มทองกุล, ดร.เทียนชัย วงศ์ชัยสุวรรณ และ ดร.วุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ สามารถโทรมาสอบถามกันได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2629-2211 ต่อ 1117 1118 และ 1152 พักซักครู่เดี๋ยวกลับมาคุยกันค่ะ
*******************************************************
สโรชา - กลับมาสู่เมืองไทยรายสัปดาห์นะคะ ตรงนี้ก็คงจะเห็นกันในช่วงแรกแล้วค่ะคุณผู้ชมว่า ที่เราได้คุยกัน ที่คุณสนธิได้พูดไปเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น เกี่ยวกับ กอส.นั้นเป็นอย่างไร วันนี้มาคุยกันต่อค่ะคุณสนธิ เรื่องของการสนทนาระหว่างท่านนายกฯ และอดีตท่านนายกฯ อานันท์ มีหลายข้อซึ่งท่านทั้ง 2 เห็นด้วยพ้องต้องกัน แต่ก็มีหลายข้อเหมือนกันที่ท่านเห็นอาจจะไม่ตรงกันซักเท่าไหร่
สนธิ - คือ บางคนบอกว่า การสนทนากันเมื่อวันที่ 28 ก.ค. สรุปสั้นๆ ว่าเป็นการแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง
สโรชา - แสวงจุดร่วม
สนธิ - สงวนจุดต่าง
สโรชา - คือพยายามเอาจุดที่เห็นตรงกันมาพูด
สนธิ - แต่ว่าสงวน ต่างฝ่ายต่างมีบางประเด็นไม่เห็นด้วย แต่ว่าเรื่องนี้พูดลำบากฮะคุณสโรชา และท่านผู้ชมทางบ้าน ผมพูดเรื่องนี้ทีไรแล้วผมไม่สบายใจทุกที เพราะว่าคนกรุงเทพฯ และคนไม่ได้อยู่ทางใต้จะห่างกับเหตุการณ์ จะไม่เข้าใจ พูดอะไรไม่ดีไปหน่อยก็หาว่าผมไปเข้าข้างแขก เข้าข้างคนมุสลิม นึกออกไหมฮะ คุณคนไทยรึเปล่า อย่างที่เรียนให้ทราบพวกเรามักจะมองแบบเรียลไทม์ เรียลไทม์คือว่า เอาละมีการระเบิด 7 จุดนะต้องฆ่ามัน ถ้าไม่มีอำนาจที่เด็ดขาดเข้าไปจัดการแล้วจะปราบมันได้ยังไง
สโรชา - ต้องตอบโต้
สนธิ- ต้องตอบโต้ แต่ไม่ได้มองเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดแบบนี้ แล้วเหตุปัจจัยที่ทำให้เหตุปัจจัยนั้นเกิด คือไม่ยอมมองป่าทั้งป่า ทีนี้คนมองป่าทั้งป่าอย่างผม หรือหลายๆ คนมักจะโชคร้าย
สโรชา - ทำไมคะ
สนธิ - คือ พอมองแล้วมันจะใช้เวลาพิสูจน์ มันไม่เกิดขึ้นทันที
สโรชา - คือพูดไปแล้วต้องรอซักระยะนึง
สนธิ - ต้องรอระยะนึง อย่างที่บอกว่า ผมพูดตลอดเวลาว่าไม่มีวันที่จะใช้ความรุนแรงแก้ความรุนแรงได้ ทุกคนก็จะสวนกลับมาที่ผม บอกว่า แล้วที่คนเขาตายกันทุกวันนี้จะทำยังไงล่ะ ต้องฆ่ามันคืนซิ
สโรชา - เฉพาะหน้าจะทำยังไง
สนธิ - เฉพาะหน้าจะทำยังไง ก็ผมเรียนให้ทราบแล้วว่า การทำนั้นต้องทำควบคู่กันไป ต้องใช้ความอดทนด้วย หลายๆ อย่างด้วย ทีนี้กว่าเรื่องจะพิสูจน์ในที่สุด ซึ่งผมพร้อมให้พิสูจน์ผมไม่หนีไปไหนหรอก และผมยืนยันว่า พ.ร.ก.นี้แก้ปัญหาภาคใต้ด้วยความรุนแรงไม่ได้ ใช้อำนาจเด็ดขาดไม่มีทางแก้ได้ เอาผมไปตัดคอที่ไหนก็ได้ซักพักนึงไม่สิ้นปีนี้ก็ต้องปีหน้าเห็นชัดเลยว่ามีแต่จะรุนแรงมากขึ้นไปเรื่อยๆ แต่พอถึงเวลาแล้วกว่าจะรู้ว่าผมถูกวันนั้นคนที่ด่าผมวันนี้ก็ลืมไปแล้วว่าวันนี้เคยด่าผมว่ายังไง แต่ว่าโดยอาชีพแล้วเราถูกมอบหมายให้มาอย่างนี้เราก็ต้องอดทนไป ในบ้างครั้งไม่เป็นไรครับท่านผู้ชมบางท่านที่ไม่เห็นด้วยกับผม สงวนจิตสงวนใจไว้หน่อยรอซักนิดนึง คือผมมองอย่างนี้ ก่อนที่เราจะคุยกันเรื่องการสนทนากันระหว่างท่านนายกฯ ทักษิณ กับท่านนายกฯ อานันท์ ผมต้องเรียนให้ทราบว่า มันเป็นเรื่องที่พิสดารมากตรงที่ว่าผมเคยคิดว่าท่านนายกฯ และท่านนายกฯ ท่านแสดงตัวท่านเองว่าเป็นนักบริหาร ประชาชนก็ชื่นชม แต่เหตุการณ์ทางใต้ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า การบริหารงานท่านล้มเหลวหมดทุกประการ ในส่วนของการจัดการบริหาร เพราะอะไร เพราะว่าถ้าไม่ล้มเหลวแล้วท่านจะมาเสนอให้คุณอานันท์ ปันยารชุน มาตั้งเป็นคณะกรรมการสมานฉันท์ ทำไม คณะกรรมการสมานฉันท์รัฐบาลควรจะเป็นคนทำใช่ไหม รัฐบาลต้องทำเอง
สโรชา - ก็ตั้งคณะกรรมการเป็นอิสระขึ้นมาไม่ถูกหรอคะ
สนธิ - ไม่ฮะ รัฐบาลต้องทำเองไม่จำเป็นต้องตั้งอิสระเลย คุณจาตุรนต์ ฉายแสง เคยพูดเรื่องที่คุณอานันท์ ปันยารชุน กำลังพูด พูดมาตั้งนานแล้ว พูดมาตั้งแต่ปีที่แล้วไม่มีใครฟังเขา ตอนนั้นมีข่าวว่าเสนอเรื่องเข้าไป ครม. ครม.เตะออก ถ่วง เสร็จเรียบร้อยแล้วหาว่าทำงานล้มเหลว โยกย้ายไม่ให้ไปทำ วันนี้ดึงคุณจาตุรนต์กลับมาอีก ที่ผมไม่เข้าใจคือว่า ระหว่างคุณทักษิณ คุณอานันท์กำลังทำงานคู่ขนานกันไปอย่างที่เขาพูดในทีวีวันที่ 28 ก.ค. หรือว่าเป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบ
สโรชา - คือมองได้ 2 แง่
สนธิ - มองได้ 2 แง่
สโรชา - คือสมมุติว่าเป็นคู่ขนานที่ว่าจะไม่มีแรงปะทะกันไม่มีการขัดแย้งกัน
สนธิ - คือท่านนายกฯ ทักษิณ กับท่านอดีตนายกฯ อานันท์ 2 นายกฯ มองปัญหาบนรากฐานที่ต่างกัน ต่างกันมาก เพราะว่าท่านนายกฯ ทักษิณท่านดูจะยังไม่ยอมรับความแตกต่างของดินแดน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับส่วนอื่นๆ ของประเทศไทยโดยตรง ที่แตกต่างทั้งเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม และมีประวัติศาสตร์ที่ถูกข่มขืนมา ท่านยังไม่เข้าใจตรงนี้
สโรชา - คือท่านยังมุ่งเน้นประเด็น
สนธิ - ยังมุ่งไปเรื่อย คือผมจับคำพูดท่านบอกว่า ประวัติศาสตร์อาจจะถูกบิดเบือน หรือถูกพูดกันในลักษณะที่ว่าดินแดนแห่งนี้เป็นดินแดนที่จะต้องประกาศเป็นอิสรภาพ แต่เราถือว่าเป็นการแยกดินแดนออกจากประเทศไทย โดยที่ใช้ทั้งประวัติศาสตร์ ใช้ทั้งหลักศาสนาที่ผิดมาบิดเบือนและสร้างปัญหาขึ้น แสดงว่าท่านยังไม่ยอมรับว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความแตกต่าง แต่ว่าท่านอดีตนายกฯ อานันท์พูดถึงความแตกต่างได้ชัดเจนมาก ท่านบอกว่า ดินแดนที่เรียกว่าประเทศไทยมีความแตกต่าง หลากหลายในวัฒนธรรม เชื้อชาติ ศาสนา ท่านยังพูดเลยว่า ท่านนายกฯ ทักษิณ ท่านเป็นไทย-จีน ท่านนายกฯ อานันท์ ผมเป็นไทย-มอญ คนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไทย-มาลายู คือเราต้องคบอัตลักษณ์เขา ท่านนายกฯ อานันท์พูดอย่างนี้ ผมจดมาเลย เขาขอให้ได้รับความสนใจในเรื่องอัตลักษณ์ของเขา วัฒนธรรมเขา เขาอยากได้รับความเคารพในเรื่องของศาสนา อัตลักษณ์ในความเป็นมาลายูของเขา ผมว่าเมืองไทยต้องเรียนรู้ว่าคนไทยมีเยอะ มีไทย-จีน มีไทย-มอญ ท่านนายกฯ ก็ไทย-จีน คุณก็อาจไทย-จีน คุณไปดูในประเทศไทยปัจจุบันมีคนใช้ภาษษ 62 ภาษา ไทย-มุสลิม ไทย-ฮินดู ไทย-ลาว ไทย-เขมร ทั่วไปหมด อย่างคุณเนวินก็อาจจะเป็นไทย-เขมร ผมไทย-จีน คุณอาจจะเป็นไทย-ญวน เพราะฉะนั้นเมืองไทยเป็นเมืองที่ศูนย์รวมเชื้อชาติต่างๆ ผมถามว่าเป็นคนไทยมั๊ย ผมรู้สึกว่าเป็นคนไทยเพราะผมเกิดแผ่นดินไทย ผมรักแผ่นดินไทย แต่ถ้าคนไทยเชื้อชาติไทยมันไม่ใช่ มันลำบากแล้ว คุณทักษิณกลับไปเชียงใหม่ก็ไปพูดคำเมือง ส.ส.อีสานกลับไปก็พูดอีสาน ลาว เด็กที่เกิดในอีสานเกิดมาก็ใช้ภาษาลาวจะมาเรียนภาษาไทยตอน 3 4 ขวบไปแล้ว พอกลับบ้านพูดไทยไม่ใช่ลาว ผมว่าเราต้องมองใจเราต้องกว้างกว่าว่าเขาเป็นไทย-มาลายู ตรงนี้ที่ท่านนายกฯ ทักษิณ และอดีตนายกฯ อานันท์มองต่างกัน เมื่อมองต่างกันแล้วมิติของการเข้าไปสู่ปัญหาก็ย่อมต่างกันเช่นกัน
สโรชา - คือมองรากฐานของปัญหาต่างกัน
สนธิ - มองรากฐานไม่เหมือนกัน คุณสโรชาจำได้ไหมครับว่า ผมเคยพูดในรายการนี้ผมเริ่มคำพูดที่ผมพูดกับท่านผู้ชมทางบ้าน ผมเริ่มบอกว่า ก่อนที่เราจะคุยกันเรื่องนี้ท่านและผมจะยอมรับไหมว่าเขากับเราต่างกัน ถ้ายอมรับผมจะพูดต่อ ถ้าไม่ยอมรับจบตั้งแต่เริ่ม ทีนี้ถ้าท่านนายกฯ ทักษิณไม่ยอมรับตรงนี้ เมื่อไม่ยอมรับตรงนี้มันก็จบไปแล้ว เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาของท่านนายกฯทักษิณก็เลยมีแค่มิติเดียว มิติซึ่งผมคิดว่าเป็นมิติซึ่งท่านนายกฯ ทักษิณแพ้ทางการเมืองไปแล้วทางภาคใต้ ผมถือว่าท่านแพ้อย่างราบคาบไปแล้ว ท่านไม่แพ้ได้ยังไง จำได้ไหมฮะเหตุผลที่ท่านเชิญอดีตนายกฯ อานันท์มาเพราะว่าวันนั้นท่านพลาดเรื่องแบ่ง 3 จังหวัดภาคใต้เป็นโซนสี สีเขียว สีเหลือง สีแดง พอแบ่งก็เลยมีคำถามถามขึ้นมาว่า แล้วเขาไม่ใช่คนไทยด้วยกันหรอ ตอนนั้นกระแสแรงมากท่านเลยต้องตั้งอดีตนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน ขึ้นมาเพื่อเป็นคนไปสร้างความสมานฉันท์ ในทำนองว่าโยนเผือกร้อนไปให้ พอโยนเผือกร้อนไป ผมวันที่ 1 เม.ย.ผมก็บอกว่า โอเคไม่เป็นไร แต่ให้ระวังนิดนะจะถูกยั่วยุโดยฝ่ายก่อการร้ายทำเรื่องราวให้รุนแรงมากขึ้นๆ ทีนี้เมื่อทำให้รุนแรงมากขึ้นๆๆ แล้ว การแก้ปัญหาก็แก้ไม่ได้ๆๆๆ จนในที่สุดก็เข้าอยู่สภาวะที่เขาเรียกว่า เบรคแตก
สโรชา - ที่ออก พ.ร.ก.มา
สนธิ - ที่ออก พ.ร.ก. ทีนี้การออก พ.ร.ก.ผมยังไม่รู้เลยว่าฝีมือใคร ผมไม่รู้ว่าใครคนนี้อัจฉริยะเหลือเกิน ผมอยากรู้จักตัวจริงๆ
สโรชา - ไม่ใช่เป็นการระดมความคิดเห็นจากหลายๆ ท่านหรอคะ
สนธิ - เดิมทีเข้าใจว่าเป็นท่านรองฯ วิษณุ เพราะเห็นท่านชอบออกมาแก้ต่างในทุกเรื่องเหลือเกิน ในเรื่องกฎหมายท่านจะอธิบายความในกฎหมาย
สโรชา - ท่านเป็นนักกฎหมาย
สนธิ - แต่คำอธิบายความของท่านพวกอาจารย์กฎหมายในมหาวิทยาลัยทั้งหลายเขาก็งงกันว่าทำไมอธิบายได้ด้านเดียวแล้วอีกด้านไม่ยอมอธิบายเลย
สโรชา - แต่ปรากฏว่า
สนธิ - ปรากฏว่าท่านรองฯ วิษณุเกิดรู้สึกว่าไม่ไหวแล้วงานนี้เผือกร้อนๆ โยนมาใส่มือฉันเห็นจะไม่ไหว ทีนี้ฉันไม่เอา ก็เลยบอกว่า ตอนนี้เริ่มออกมาให้สัมภาษณ์แล้วบอก เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องนี้เป็นเรื่องความมั่นคงทหารเขาเสนอมา คือรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยเวลามีเผือกเข้ามาใส่มือจะชอบโยนใส่คนอื่นเขาร้อนๆ ถ้าอะไรเย็นๆ ชอบอุ้ม ทีนี้เรามีท่านนายกฯ ทักษิณ กับท่านนายกฯ อานันท์ ซึ่งมีความคิดเห็นเหมือนกันในบางจุด และต่างกัน ต่างฝ่ายต่างก็ทำงานร่วมกัน หนึ่งตลก
สโรชา - ตลกตรงไหน
สนธิ - ตลกซิ การบริหารงานต้องมีเอกภาพ
สโรชา - ก็ทำคนละด้านไม่ได้หรอคะอย่างที่ท่านแบ่งค่อนข้างชัดเจน
สนธิ - สิ่งซึ่ง พ.ร.ก.ปรากฏ กับสิ่งซึ่งท่านอดีตนายกฯ อานันท์ทำมันตรงกันข้ามกัน
สโรชา - ก็ไหนบอกว่าต้องใช้ทั้ง 2 ทางไง
สนธิ - เดี๋ยวซิฟังก่อนซิฮะ อันที่สอง คุณให้ท่านรองชิดชัย ซึ่งเป็นสายเหยี่ยว และในขณะเดียวกันคุณก็โอนท่านรองจาตุรนต์ ซึ่งเป็นสายนกพิราบมา
สโรชา - เพื่อมาทำงานคู่กัน
สนธิ - คู่กันไม่ได้ คู่กันไม่ได้ เพราะว่าสายนกพิราบไม่ใช่สายปราบปราม
สโรชา - อ้าวแน่นอน
สนธิ - สายเหยี่ยวนี่สายปราบปราม
สโรชา - ใช่ค่ะ
สนธิ - ทีนี้ถ้าปราบปรามไปแล้วมันทำให้คนซึ่งถูกปราบปรามโดยผิดๆ มันต้องเข้าไปสู่ผู้ก่อการร้ายรองจาตุรนต์จะทำยังไงคราวนี้ เพราะรองจาตุรนต์เขาเชื่อเรื่องการสมานฉันท์ เชื่อเรื่องการต้องเข้าใจความแตกต่างตรงนี้
สโรชา - อ้าวแต่ว่าบนพื้นฐานที่ว่ามีการปราบปรามก็ทำความเข้าใจกันทุกๆ ฝ่ายแล้วไม่ใช่หรอคะว่าปราบปรามบนพื้นฐานที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้มีการรังแกหรือว่าไปบิดเบือนกฎหมายเพื่อใช้ในทางที่ผิดๆ อันนั้นคือมาตรฐานที่ใช้กันอยู่แล้วไม่ใช่หรอคะ
สนธิ - คุณสโรชาอันนั้นคือมาตรฐานซึ่งท่านนายกฯ ทักษิณอธิบายให้อดีตนายกฯ อานันท์ฟังว่า พ.ร.ก.ตรงนี้จะไม่ทำแบบเละเทะ
สโรชา - ถ้าอ่านละเอียดแล้วจะทราบ
สนธิ - พูดง่ายๆ ว่าท่านบอกว่าคนที่ไม่ได้อ่าน พ.ร.ก.มาตำหนิ พ.ร.ก.ได้ยังไง คือผมก็ไม่รู้ ผมก็อ่านภาษาไทยออกเหมือนกัน
สโรชา - คุณสนธิอ่านแล้วใช่มั๊ยคะ
สนธิ - ผมอ่านแล้วครับ ผมก็ยังมีความรู้สึกว่าท่านบอกว่า ท่านนายกฯ บอกว่า จำเป็นและไม่เป็นวิธีการที่นำไปสู่ความรุนแรง มีการครอบคลุมกันไว้หลายชั้น เหมือนอย่างที่รองฯวิษณุพูดชัดเลย เหมือนกับท่านรองฯ วิษณุมาติวท่านนายกฯ ทักษิณ ในขณะซึ่งอดีตท่านนายกฯ อานันท์ท่านไม่ได้พูดว่าควรจะมี พ.ร.ก.รึเปล่าเพราะถือว่าตอนนี้เป็นกฎหมายแล้ว
สโรชา - ใช่ท่านบอกว่าออกมาแล้ว
สนธิ - แต่ท่านตั้งข้อควรระวังไว้ 3 ข้อ สำคัญมาก 3 ข้อนี้
สโรชา - ด้านการจับกุมใช่ไหมคะ
สนธิ - การจับกุมอย่างกว้างขวางตามมาตรา 11 (1) ที่หากทำผิดตัวแล้วยิ่งจะซ้ำเติมสถานการณ์ ซึ่งในประวัติศาสตร์ทุกยุค ทุกสมัยไม่ว่าจะประเทศไหนก็ตามจับ 10 จับ 100 คน จะถูกตัวคนอย่างมาก 5 คน 5 เปอร์เซ็นต์ อีก 95 เปอร์เซ็นต์ผิดตัวคน 2. อำนาจที่จะลดทอนและจำกัดเสรีภาพของสื่อ อันนี้ไม่เป็นไร สื่อถ้าเพื่อชาติทนได้ ตามที่กำหนดไว้ตามมาตราที่ 17 และมาตราที่ 16 ว่าเจ้าหน้าที่ที่ทำการโดยสุจริตไม่ต้องรับโทษทั้งทางอาญา แพ่ง และวินัย
สโรชา - ท่านพูดแรงนะ
สนธิ - ท่านอานันท์ ท่านพูดแรงมาก เหมือนกับให้ใบอนุญาตให้ฆ่าได้ เรื่องนี้ท่านนายกฯ ทักษิณ ท่านร้อนใจมากพยายามแก้แต่ว่าแก้ได้ไม่ชัดเจน มิหนำซ้ำยังจะถูกตอกกลับอีก เดี๋ยวเราจะมาพูดเรื่องประเด็นที่ไม่ชัดเจนในงวดหน้าดีกว่า เวลาตอนนี้หมด
สโรชา - ไปพักโฆษณากันแป๊บนึงนะคะเดี๋ยวกลับมาว่า 3 ข้อที่ท่านอานันท์ว่า คุณสนธิเห็นด้วยหรือว่ามีข้อเพิ่มเติมอะไรบ้าง และที่ว่าแก้ไม่สนิทใจ หรือว่าแก้ไม่ได้กระจ่างซักเท่าไหร่เป็นอย่างไร เดี๋ยวกลับมาซักครู่เดียว
*******************************************************
สโรชา - กลับมาสู่เมืองไทยรายสัปดาห์ เมื่อสักครู่ทิ้งท้ายกันไว้ 3 ประเด็นที่อดีตนายกฯ อานันท์ ท่านได้ตั้งข้อสังเกต หรือตั้งข้อห่วงใยไว้เกี่ยวกับ พ.ร.ก.ฉบับที่ว่านี้ ตกลงเราคุยกันถึงเรื่องของสิทธิ์ของเจ้าหน้าที่
สนธิ - ตัวประเด็นความไม่ชัดเจนในเรื่องของการเชิญมาสอบ หรือจับกุม ท่านนายกฯ ทักษิณท่านบอกว่าไม่ใช่การจับกุม
สโรชา - เป็นการเชิญมาสอบปากคำ
สนธิ - เป็นการเชิญมาให้ปากคำ แต่ถ้าจับกุมก็ต้องขออำนาจศาล แต่จริงๆ แล้วเมื่ออ่านเนื้อหาในมาตรา 11(1) ใช้คำว่า จับกุมและควบคุมตัว เพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่า ท่านนายกฯ ทักษิณ ไม่ทราบว่าท่านคงอ่านแล้วท่านลืมไป จริงๆ แล้วมาตรา 11/(1) ที่ท่านรองฯ วิษณุ โค้ชท่าน เขียนไว้ชัดว่า จับกุมและควบคุมตัว ไม่ได้พูดว่าเชิญตัว ไม่มี
สโรชา - เชิญตัวกับควบคุมตัวนี้คนละประเด็นกัน
สนธิ - จับกุมไม่เหมือนกัน โธ่คุณสโรชา คุณก็ไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่เด็กคุณก็เข้าใจคำว่าจับกุมและควบคุมตัวต่างกับเชิญตัวยังไง ไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะกำหนดให้ไปขออำนาจศาลตามมาตรา 12 แต่ก็ยังมีปัญหาว่า จะเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญรึเปล่า ศาลจะอนุมัติได้หรือไม่ จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจน ตอบกันไม่ได้
สโรชา - ก็คือสามารถควบคุมตัวได้เป็นระยะเวลาใช่มั๊ยคะ ถ้าเกิดจะจับกุมหรือแจ้งข้อหาต้องมีหมายศาล
สนธิ - เรื่องนี้ต้องดูท่านวิชา มหาคุณ ท่านเป็นประธานศาลอุทธรณ์ภาค 2 คือเป็นนักกฎหมายระดับปรมาจารย์ ท่านตั้งข้อสังเกตค่อนข้างรุนแรงไว้หลายวันแล้ว ท่านบอกว่า มาตรา 11(1) ที่ พ.ร.ก.ร่างออกมาเป็นบทยกเว้นรัฐธรรมนูญ และ ป.วิอาญา ยกเว้นไปเลยที่ให้ควบคุมตัวได้ 7 วัน ไม่ใช่ 48 ชั่วโมง แล้วจะมาขอให้ศาลอนุมัติตามอำนาจ ป.วิอาญาได้อย่างไรในเมื่อคุณยกเว้นรัฐธรรมนูญและยกเว้น ป.วิอาญาไปแล้ว คุณจับกุมเขา ธรรมดารัฐธรรมนูญและ ป.วิอาญา ให้อีก 48 ชั่วโมง นี่คุณยึดเขาไป 7 วันแล้วจะมาขอให้ศาล มอบอำนาจให้ศาลเป็นคนให้ความชอบธรรมได้ยังไง ศาลทำไม่ได้ มาแล้ว 7 วันแล้วคุณจะมาขอให้ศาลให้อำนาจได้ยังไง นี่คือการดึงเอาศาลไปรับรองความชอบธรรมให้การกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญรึเปล่า ศาลซึ่งเป็นตุลาการ เป็นองค์คณะ และเป็นองค์กรเดียวที่กระทำการในพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะอนุมัติการกระทำใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ หรือ ป.วิอาญา ไม่ได้ ตรงนี้ต่างหากผมถึงไม่แน่ใจคำอธิบายของท่านรองฯ วิษณุ ที่ท่านเชี่ยวชาญกฎหมาย ท่านเชี่ยวชาญมากน้อยแค่ไหน ผมไม่ได้เรียนกฎหมาย ผมอ่านแค่นี้ผมฟังท่านวิชา มหาคุณ แค่นี้ผมก็รู้แล้ว ผมว่าท่านนายกฯ ท่านน่าจะเปลี่ยนรองฯ วิษณุ อย่าไปฟังแนวทางกฎหมายท่านรองฯ วิษณุเลย ผมเห็นท่านรองฯ วิษณุตั้งแต่ท่านขึ้นมาแนะนำท่านนายกฯ คนนี้รู้สึกผิดเพี้ยนเยอะในหลายๆ เรื่อง ผมอยากจะให้คนซึ่งมาแนะนำ ชี้ทางกฎหมายให้ท่านนายกฯ คนนี้อย่างตรงไปตรงมา ผมต้องการอย่างนี้ ทีนี้เรื่องที่ถูกอดีตนายกฯ อานันท์ สวนกลับก็คือ ท่านนายกฯ ทักษิณ บอกว่า ที่บอกว่า กฎหมาย พ.ร.ก.บอกเจ้าหน้าที่ไม่ต้องรับผิดจะต้องกระทำการโดยสุจริต สมควรแก่เหตุและความจำเป็น และไม่ตัดสิทธิ์ผู้เสียหายที่จะฟ้องร้องทางแพ่ง ปรากฏว่าอดีตท่านนายกฯ อานันท์ ท่านถามนิ่มๆ มันอยู่ที่ใครเป็นคนวินิจฉัยว่าการกระทำใดบริสุทธิ์หรือไม่ เขาก็ยกตัวอย่างในกรณีคุณสมชาย นีละไพจิตร ท่านนายกฯ ทักษิณ บอกว่า ได้มีการจับตัวผู้ต้องหาแล้ว คนทำผิดถูกลงโทษ จับเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาฆ่าคนตาย แต่ตั้งข้อหาฆ่าคนตายยังไม่ได้เพราะยังไม่พบศพ ได้มีการจับกุมตัวผู้กระทำผิดแล้ว
สโรชา - กำลังดำเนินอยู่ในชั้นศาล
สนธิ - แต่ท่านนายกฯ ทักษิณท่านพูดไม่หมด เพราะว่าไม่เคยมีการลงโทษเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่อุ้มฆ่า โดยเฉพาะตำรวจ นี่คือประเด็นที่อดีตท่านนายกฯ อานันท์ ท่านพยายามพูด บอกว่า เอาละมันมีผู้ก่อการร้ายจริง มันมีคนพยายามจะทำร้าย ทำลายคนบริสุทธิ์จริง แต่ว่าเรา จำได้ไหมครับว่าเราเคยพูดเรื่องนี้มานานแล้ว เราต้องให้คำตอบกับชาวบ้านก่อนว่า คนของเขาที่หายไป หายไปได้ยังไง ใครเอาไป ถ้าเรายังตอบตรงนี้ให้เขาไม่ได้ สันติสุขมันไม่มี
สโรชา - เราจะให้มวลชนเข้าข้างเราได้ยังไง
สนธิ - มวลชนไม่มีวันเข้าข้างเรา เราจะออกอีกร้อย พ.ร.ก.ยกกำลังสิบก็ไม่ได้ เราตอบคำถาม คือคนมุสลิมเป็นคนซึ่งตรงไปตรงมา ถ้าเราบอกว่า ขอโทษทีเจ้าหน้าที่เราเป็นคนอุ้มเองจะดำเนินการให้ หรือว่าเจ้าหน้าที่เราอุ้มเองแต่จับตัวไม่ได้ แต่ว่าเจ้าหน้าที่อุ้มเรายอมรับ เขายอมรับได้แต่ขอให้บอกเขาตรงๆ แต่ไม่ใช่ไปหาเขามาแล้วแล้วบอกว่าไม่รู้หายไปไหน หรือว่า เมื่อตำรวจ ทหารใช้ พ.ร.ก.นี้ไปแล้ว เมื่อใช้ไปแล้วย่อมมีการละเมิดเป็นของธรรมดา เพราะว่าย่อมมีตำรวจหรือใครก็ตามที่หมั่นไส้พวกเด็กหนุ่มที่มากวนโอ๊ยตลอดเวลา แต่พวกเด็กหนุ่มๆ พวกนั้นอาจจะไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย อาจจะรู้แต่ว่าไม่ได้ร่วม แต่ไม่ชอบเจ้าหน้าที่เป็นหลัก พอไปถามบอกว่า เรื่องอะไรของคุณผมจะไปไหนหนักกะบาลอะไรคุณ เท่านี้เองก็เกิดความแค้นแต่ทำอะไรไม่ได้
สโรชา - คือมีแรงกดดันทั้ง 2 ฝ่าย
สนธิ - มีแรงกดดันอยู่แล้ว
สโรชา - เพราะฉะนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการปะทะบ้าง
สนธิ - พอมี พ.ร.ก.ตรงนี้มาก็ย่อมมีการละเมิดอย่างแน่นอนที่สุดเหมือนกรณีตากใบ พอเอาเด็กพวกนี้เข้ามา ใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทีนี้พอเด็กพวกนี้หายไป สมมุติว่าเกิดลงไม้ลงมือแรงไปหน่อย เกิดเป็นอะไรไปแล้วเด็กหายไป ทีนี้พ่อแม่ก็แห่มาแล้วซิ ลูกผมหายไปไหน คุณเอาลูกผมไป 7 วันแล้วลูกผมอยู่ที่ไหน ทางนี้ก็บอว่าผมไม่ได้เอาลูกคุณมา ชาวบ้านที่เห็นบอกเอาไป ฉันเห็นมันจับไป คุณสโรชามันไม่ใช่เรื่องสนุกเชื่อผมซิเรื่องนี้ อีกประการหนึ่งยังพูดเรื่องคุณสมชาย นีละไพจิตร ไม่ได้ อย่างกรณีคุณสมชาย ทนายสมชาย แม้ว่าจะจับตำรวจที่เกี่ยวข้องได้แต่ในที่สุดก็ได้ประกัน และคนที่สำคัญที่สุดคือ พ.ต.ท.ชัชชัย เลี่ยมสงวน ปัจจุบันกลับมาเป็นรองผู้กำกับ 4 ของกองปราบเรียบร้อยแล้ว ไม่มีความพยายามที่จะสืบไปถึงการสั่งการถึงเบื้องบนเลย นี่ผมยกตัวอย่างให้ฟัง ทีนี้พอภรรยาคุณสมชายซึ่งไม่รู้ว่าสามีหายไปไหน ซึ่งเชื่อว่าสามีตัวเองถูกเก็บตายไปแล้ว เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาบอกว่าเขาจะดำเนินคดี แล้วเขาก็จับพวกตำรวจที่เกี่ยวข้องไป แล้วได้รับการประกันตัว แล้วจู่ๆ คนที่ได้รับการประกันตัวกลับไปทำงานเหมือนเดิม ผมถามว่า ภรรยาคุณสมชายสบายดีไหม
สโรชา - คือคงต้องมีข้อข้องใจ
สนธิ - แกข้องใจมากๆ แล้วถามว่า เขาเชื่อในอำนาจรัฐรึเปล่าเขาก็ไม่เชื่อ ทีนี้คำถามก็มี มันก็ 2 ฝ่าย ถ้าไม่โดนด้วยตัวเองก็ไม่รู้สึก คนกรุงเทพฯ อยู่ห่างตรงนั้น
สโรชา -เห็นแต่ข่าว
สนธิ - แต่ถ้าเราเป็นพ่อ แม่ที่ลูกหายไป เราต้องรู้สึก ในทางเดียวกันอีกฝ่ายก็บอกว่า คุณสนธิแล้วคนบริสุทธิ์ พระ ข้าราชการ ผู้พิพากษา ที่ถูกยิงตายพ่อแม่เขาว่ายังไง เห็นรึยังมันทุกข์ทั้ง 2 ฝ่าย แต่เมื่อทุกข์ทั้ง 2 ฝ่ายแล้วจะฆ่าเพื่อระงับการฆ่า มันไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง
สโรชา - คือต้องทำความเข้าใจ
สนธิ - ทีนี้ผมเห็นว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ทีนี้ถ้ามองในแง่บริหารแล้วผมมีความรู้สึกว่า เอาละถ้าท่านนายกฯ ท่านเชื่อในเรื่องการใช้อำนาจเด็ดขาด ท่านใช้ไป ถ้าท่านเชื่อในนโยบายท่านอดีตนายกฯ อานันท์ ก็มาทางนี้เลย
สโรชา - หมายความว่ายังไง ทางใดทางหนึ่ง
สนธิ - ทางใดทางหนึ่ง ไม่ใช่ซิ ถ้าท่านเชื่อ ท่านต้องเชื่อแบบไหน ถ้าท่านเชื่อ 2 ทางผสมกันท่านก็ต้องจับ 2 ทางมาผสมกันทันทีไม่ใช่คู่ขนานเดินกันไป
สโรชา - ร่วมงานกันอย่างจริงจัง
สนธิ - ไม่ใช่ร่วมงาน เอามาร่วมทำกันทันทีเลยประสานทันทีเลย ทำทันที ไม่ใช่ว่าเอาละคุณอานันท์จะทำก็ทำไป ผมจะทำอย่างนี้ผมก็ทำไป เพราะฉะนั้นแล้วมันไปอีหลักอีเหลื่ออย่างนี้ผมคิดว่าเสียทั้ง 2 ฝ่าย ซ้ายก็ด่า ขวาก็ดุ ไม่เห็นหรอคุณสมัคร สุนทรเวช เริ่มออกมาแล้ว ไม่พอใจท่านนายกฯ ว่าทำไมต้องเป็นอย่างนี้ๆ ทีนี้คนที่น่าสงสารที่สุดคือ ตำรวจและทหารในพื้นที่ เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะได้ทำงานแบบไหน พอมี พ.ร.ก.มาก็ดีใจว่าจะได้ทำงานได้เต็มที่ ในความคิดของเขา แต่พอเจอเรื่องนี้ขึ้นมา เอาละข้างบนจะเอายังไงกันแน่ เพราะฉะนั้นแล้วไม่มีใครทำงานกันเลยตอนนี้ ล่าสุดเพิ่งเห็นข่าวว่าระเบิดที่นราธิวาสอีก 7 จุด
สโรชา - ก่อความไม่สงบอีก 7 จุด
สนธิ - ทีนี้อีก 7 จุดการก่อความไม่สงบนี้เชื่อได้ว่าเป็นการยั่วยุให้คนมีความเห็นว่าใช้ พ.ร.ก.เถอะแนวทางสมานฉันท์ใช้ไม่ได้แล้ว ผมบอกคุณสโรชาแล้วว่า แนวทางก่อการร้ายวัตถุประสงค์ก่อการร้ายเพื่ออะไร เพื่อสร้างความรุนแรง สร้างความหวาดกลัว เมื่อสร้างความหวาดกลัวแล้วรัฐก็ต้องใช้ความรุนแรงเข้าปะทะความรุนแรง
สโรชา - นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ
สนธิ - นั่นหละคือสิ่งที่เขาต้องการ นั่นคือหลุมพรางที่เขาขุดเอาไว้เราก็รู้แล้วเราก็เดินไปตกในหลุมพรางอันนั้นตลอดเวลา
สโรชา - จะให้นิ่งเสียมันก็ทำไม่ได้รึเปล่า
สนธิ - มันไม่ใช่ มันมีกระบวนการ ขั้นตอนหลายขั้นตอนซึ่งจะต้องทำแล้วเราไม่เคยทำ อย่างเช่น กระบวนการขั้นตอนว่า การยอมรับว่าเขาต่างกับเรา กระบวนการขั้นตอนที่ตอบคำถามเขาก่อนว่าคนของเขาหายไปไป ถ้าเราตอบตรงนี้ได้หลังจากนั้นแล้วเราจะทำอะไรผมคิดว่าเขาไม่ว่า เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วถ้าเรายังตอบคำถามเขาไม่ได้ความที่เขาไม่ไว้ใจเรา คุณสโรชาปลาจะอยู่ได้รึเปล่าถ้าไม่มีน้ำ น้ำนี่คือประชาชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ประชาชนนั่นคือน้ำ พวกเราเจ้าหน้าที่รัฐคือปลา จะอยู่ได้อย่างไรถ้าเขาไม่ให้ความร่วมมือ แล้ว 1 ปีกับอีก 6 เดือนที่ผ่านมาจับใครไม่ได้เลยก็เพราะว่าเขาไม่ให้ความร่วมมือ เราก็ต้องถามตัวเองกลับว่า ทำไมเขาถึงไม่ให้ความร่วมมือ ผมขอให้เขาให้ความร่วมมือแล้วรู้ว่าโจรมันอยู่ที่ไหนนะอย่าว่าแต่เข้าไปจับเลย เข้าไปจับตายยังได้เลยไม่เป็นไร แต่ขอให้เขาให้ความร่วมมือก่อน จุดแรกต้องให้เขาให้ความร่วมมือกับเราก่อน
สโรชา - พูดง่ายๆ คือต้องยอมรับความแตกต่าง
สนธิ - ต้องยอมรับความแตกต่าง
สโรชา - ต้องยอมรับถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
สนธิ - เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นแล้วก็ตอบคำถามให้ได้
สโรชา - พูดง่ายๆ คือ แสดงความจริงใจ เดี๋ยวเราจะพักกันซักครู่นึงค่ะ กลับมาเดี๋ยวมาช่วงสุดท้ายมาดูผลโพล แล้วก็ยังคุยกันถึงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี ซักครู่เดียวค่ะ
*******************************************************
สโรชา - กลับมาช่วงสุดท้ายของเมืองไทยรายสัปดาห์ ไปดูผลโพลกันค่ะ สัปดาห์นี้เราเรียนถามคุณผู้ชมค่ะว่า คุณผู้ชมเชื่อว่า พ.ร.ก.จะแก้ปัญหาภาคใต้ได้หรือไม่ คุณผู้ชมตอบเรากลับนะคะว่า ได้ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์ คุณสนธิมีอะไรจะเสริมในเรื่องของภาคใต้ซักนิดหนึ่งไหมคะ
สนธิ - ผมคิดว่า ปัญหาทางภาคใต้ผมต้องขอร้องท่านนายกฯ อย่าใช้ 3 อย่า อย่าใช้อำนาจมากจนเกินไป อย่าใช้เงินฟาดหัว และอย่าใช้อารมณ์ 3 อย่างนี่สำคัญมาก เพราะว่าผมเคยพูดมาตอนต้นว่า จริงๆ แล้วมาตรการที่คุณอานันท์เสนอมา คณะกรรมการสมานฉันท์ 14 ประการ มันเหมือนแนวทางที่คุณจาตุรนต์ ฉายแสง เคยเสนอเมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2547 6 ประการ อันหนึ่งซึ่งผมต้องเรียนให้ทราบนิดหนึ่งว่า ผมไม่เห็นด้วยกับคุณอานันท์เรื่องหนึ่ง คือสิทธิการพกปืน ผมคิดว่าการพกปืนไม่ได้หมายความว่า มันเป็นเรื่องที่ไปท้าทายอะไรทั้งสิ้น เพราะว่าความไม่ปลอดภัยในทางใต้อย่างน้อยที่สุดควรจะให้ความอบอุ่นกับคนที่อยู่ในบ้านมั่ง คนอยู่ในบ้านควรจะมีสิทธิ์
สโรชา - อันนี้คือไม่ใช่เฉพาะครูด้วย คนทั่วไป
สนธิ - ไม่ใช่เฉพาะครู คนทั่วไป ที่การพกนั้นจะต้องได้รับใบอนุญาตอยู่แล้ว คือจู่ๆ จะไปห้ามพกปืนหมดมันไม่ได้หรอก อันนี้ผมเห็นด้วยกับท่านนายกฯ ทักษิณ
สโรชา - เขามีสิทธิ์ที่จะป้องกันตัว
สนธิ - ฮะเขามีสิทธิ์ป้องกันตัวได้เหมือนกัน เพราะกรณีทาง 3 จังหวัดภาคใต้นั้นเป็นกรณีพิเศษ คือโจรยังไงก็ตามมันมีปืนอยู่แล้ว ไม่ต้องไปห้ามมัน ห้ามมันก็แอบพก เขาไม่ต้องพึ่งใบอนุญาตเขาพกอยู่แล้ว ทีนี้สิทธิขั้นพื้นฐานในการป้องกันตัวต้องให้เขา ยังไงก็ต้องให้ไม่ให้ไม่ได้ อันนี้ผมเห็นด้วยกับท่านนายกฯ ทักษิณ ต้องขออนุญาตไม่เห็นด้วยกับอดีตท่านนายกฯ อานันท์
สโรชา - ทั้งหมด 14 ประการ คุณสนธิไม่เห็นด้วย 1 ประการ
สนธิ - ประการนี้
สโรชา - การป้องกันตัว
สนธิ - การป้องกันตัว สำคัญมากเรื่องนี้
สโรชา - ไปคุยกันถึงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีกันซักแป๊บก่อนจะจบรายการค่ะคุณสนธิ เพราะว่า ตอนแรกเรานึกว่าจะทราบแล้ววันนี้ว่าจะเป็นยังไงแต่ในที่สุดต้องรอสัปดาห์หน้าหรือสัปดาห์ถัดไปซะด้วยซ้ำไปหลังจากที่ท่านนายกฯ บอกแล้วว่ารอ ครม.สัญจรก่อนในวันอังคารหน้าเดี๋ยวกลับมาค่อยมาคิดกันอีกรอบ ซึ่งมีคำถามต่อว่า วันนี้ซีทีเอ็กซ์มาถึง 2 เครื่อง มันจะลดกระแสกดดันให้ต้องปรับคุณสุริยะออกน้อยลงมั๊ย
สนธิ - การมาของซีทีเอ็กซ์เป็นการสร้างความเข้าใจผิดในประเด็นให้สาธารณชน
สโรชา - ทำไมคะ
สนธิ - จริงๆ แล้วการที่ซีทีเอ็กซ์มามันไม่ได้ตอบคำถามว่าเรื่องทำไมราคามันถึงแพง
สโรชา - คือราคาเท่าเดิมนะคะไม่ว่าจะซื้อตรงหรือว่าผ่านแพทริออตก็ซื้อเท่ากัน
สนธิ - ถูกต้อง คือปัญหาเมื่อบวกลบคูณหารกันแล้ว ที่ตอบไม่ได้คือทำไมต้องแอดวานซ์เงินไปก่อนตั้งแต่แรก 600 ล้านบาทหายไปไหน ใครต้องรับผิดชอบ
สโรชา - ประเด็นเดิมๆ
สนธิ - ประเด็นเดิมๆ ไม่ได้ตอบกันเลยแม้แต่นิดเดียว โยงกันไปโยงกันมา เอาละซีทีเอ็กซ์ผมบอกแล้วมาแล้วเดือน ก.ค.แสดงว่าผมบริสุทธิ์ ไม่ใช่
สโรชา - วันสุดท้ายพอดี 29 นะ
สนธิ - คุณเชที่รักของผม แพทริออตของผม ที่รับไป 600 ล้านเงียบสนิทเลย ไม่รู้ไปเข้ากระเป๋าใครบ้างผมก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นแล้วประเด็นซีทีเอ็กซ์มารึไม่มา มาก็โอเค แต่ว่ายังไม่ได้ตอบคำถามที่ผมตั้งเอาไว้ ตอนนี้โฟกัสคนก็เลยไปที่ว่า ซีทีเอ็กซ์มาแล้ว
สโรชา - เดี๋ยวจะมาครบแล้ว ส.ค.
สนธิ - สังคมเรียลไทม์มันเป็นอย่างนี้ไม่กลับไปคิดว่าตอนนั้นคาใจเรื่องอะไรบ้าง ซีทีเอ็กซ์มาแล้วจบแล้ว มันไม่ใช่ มันเรื่องเกี่ยวกับราคา มันเรื่องเกี่ยวกับเงินที่จ่ายไปล่วงหน้า มันเรื่องเกี่ยวกับเงิน 600 ล้านบาทไปเข้ากระเป๋าใครบ้างก็ไม่รู้
สโรชา - แสดงว่าคุณสนธิเห็นด้วยกับท่านประทิน
สนธิ - ผมไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับใคร ผมเห็นด้วยกับตรรกะและเหตุผลและข้อเท็จจริงที่จะต้องเป็นอย่างนี้ ทีนี้พอโยงกลับมาถึงเรื่องปรับ ครม. คือผมคิดว่าในที่สุดแล้วความไม่สงบภายในพรรคไทยรักไทย การต่อรองกันอย่างหนักก็เลยทำให้การปรับ ครม.ครั้งนี้ล่าช้าไป แน่นอนที่สุด
สโรชา - ไม่เกี่ยวกับคนนอกมาไม่หรอคะ
สนธิ - มันไม่เกี่ยว
สโรชา - ตอนแรกบอกว่าไปทาบทามคนนอกแล้วเขาไม่ค่อยเต็มใจมาเท่าไหนเลยต้องรอ
สนธิ - คนนอกนี่ง่ายเพราะว่าความมั่นใจของท่านนายกฯ มีสูงมาก คุณจะมาหรือไม่มาไม่สำคัญหรอก สำคัญว่าถ้าผมเอาคุณวางตรงโน้นตรงนี้แล้วในที่สุดคนสั่งการอยู่ที่ผมคนเดียว ก็เราเคยพูดเรื่องนี้มาแล้วไงว่าการปรับ ครม.ไม่ว่าจะครั้งไหนก็ตามอย่าไปสนใจ ไม่มีความหมาย เฉพาะครั้งนี้มีจุดสนใจอยู่จุดเดียว
สโรชา - ว่าจะบริหารกันยังไง
สนธิ - ว่าถ้าท่านนายกฯ ยังให้คุณสุริยะนั่งอยู่ที่คมนาคมก็แสดงว่าท่านนายกฯ เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของคุณสุริยะ ไม่เป็นไร ส่วนประชาชนจะไม่เห็นด้วยก็อีกเรื่องหนึ่ง ท่านอาจจะไม่สนใจเสียงประชาชน แต่ถ้าท่านย้ายคุณสุริยะออกไปข้างนอกประชาชนจะถามกลับอีกเหมือนกัน อย่างน้อยผมจะถามกลับแล้ว 367 เสียงที่ท่านยกให้คุณสุริยะท่านยกไปทำไมไม่มีความหมายใช่ไหม
สโรชา - อาจจะเป็นไปได้ไหมว่าปรับเพราะว่าการก่อสร้างล่าช้า นี่ช้าไปตั้ง 6 เดือน 8 เดือน
สนธิ - ก็ไม่ทราบ อันนั้นผมคิดว่ามันไม่มีความหมายหรอกครับ ไม่มีความหมายเท่าไหร่
สโรชา - ย้อนถามคุณสนธินิดหนึ่งเพราะว่าสัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันถึงเรื่องการเข้าพรรษา วันเข้าพรรษาพอดีเลยวันศุกร์ที่แล้ว ก็มีการคุยกันถึงเรื่องหลักธรรมที่จะนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ได้ปฏิบัติบ้างไหมคะ
สนธิ - ก็ได้ทำอยู่บ้างครับ
สโรชา - คือเขาบอกว่าถ้าปฏิบัติแล้วจะได้ขึ้นสวรรค์ ถ้าใครที่ไม่ปฏิบัติก็จะลงนรก
สนธิ - คุณสโรชารู้ไหมว่านรกกับสวรรค์ห่างกันแค่ไหน
สโรชา - มามุกไหนนี่
สนธิ - ไม่ ไม่ถามว่าคุณทราบไหม
สโรชา - ไม่ทราบค่ะ
สนธิ - นรกกับสวรรค์ห่างกันไม่เกิน 10 เมตร แล้วมีอยู่วันหนึ่งยมบาลบอกเทวดาเรามาสร้างสะพานเชื่อมกันดีกว่า นรกสร้างมาครึ่งหนึ่งสวรรค์สร้างมาครึ่งหนึ่ง
สโรชา - ใน 10 เมตร
สนธิ - 10 เมตร พอตกลงกันปั๊บภายใน 1 วันนรกสร้างเสร็จครึ่งหนึ่งแล้ว สวรรค์ยังสร้างไม่ได้ อีก 2 เดือนสวรรค์ก็ยังสร้างไม่ได้ ยมบาลก็ถามว่า เทวดาทำไมตั้ง 2 เดือนสร้างไม่ได้ เทวดาบอกกลุ้มใจหารัฐมนตรีที่เซ็นคำสั่งให้สร้างแล้วหาผู้รับเหมาไม่เจอเลย บนสวรรค์ไม่มีเลย
สโรชา - มุกๆ มุกนะคะคุณผู้ชมอย่าคิดมากมุก นะคะว่าจบกันด้วยมุกขำของคุณสนธิละกันนะคะสัปดาห์นี้ พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าสำหรับเมืองไทยรายสัปดาห์ สำหรับวันนี้คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ดิฉันสโรชา พรอุดมศักดิ์ ลาคุณผู้ชมไปเพียงเท่านี้ค่ะ สวัสดีค่ะ
*******************************************************
คลิกที่ไอคอน Multimedia ด้านบนเพื่อฟังเสียงการสนทนา
สโรชา - สวัสดีค่ะคุณผู้ชม ขอต้อนรับเข้าสู่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ อาหารสมองก่อนเข้านอน ในทุกคืนวันศุกร์ค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้งนะคะกับคุณ สนธิ ลิ้มทองกุล ดิฉันสโรชา พรอุดมศักดิ์ วันนี้วันศุกร์ที่ 29กรกฎาคม 2548 ต้องยอมรับค่ะว่าเป็นสัปดาห์ที่คึกคักจริงๆ เลยสำหรับผู้ที่ติดตามข่าวนะคะ เพราะว่าเรามีทั้งพิธีการต้อนรับนักกีฬาสโมสรรีล มาดริด มาแข่งกับทีมชาติไทย เพิ่งจบไปเมื่อตอนหัวค่ำนี้ เรามีพิธีการต้องรับเครื่องซีทีเอ็กซ์ที่เพิ่งถึงเมื่อเช้านี้เช่นเดียวกัน เข้าใจว่าไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิเรียบร้อยแล้ว และคงจะตามาอีก 24 เครื่องทั้งหมด ภายในเดือน ส.ค.ที่จะถึงนี้ค่ะ นอกจากนี้ยังมีเรื่องใหญ่ซึ่งถือว่าจะต้องคุยกันค่อนข้างยาวเพราะว่าเราเคยคุยกันมาหลายเรื่องแล้วนะคะ หลายครั้งเรื่องราวของความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ เราเห็นท่านนายกฯ ทักษิณ และอดีตท่านายกฯ อานันท์ท่านได้สนทนากันแพร่ภาพไปทั่วประเทศ และคงจะมีคำถามหรือว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาพอสมควร แต่ว่าดิฉันจำได้ค่ะคุณสนธิ เพราะว่าช่วงที่ก่อตั้ง กอส.ใหม่ๆ ถ้าจำไม่ผิดช่วงต้นเดือน เม.ย.
สนธิ - 1 เม.ย.2548
สโรชา - เราเคยคุยกันเรื่องนี้แล้ว
สนธิ - ผมเคยพูดทำนายทายทักไว้
สโรชา - พ่อหมออีกแล้ว
สนธิ - ผมเป็นพ่อหมออีกครั้งนึงแล้ว ผ่านมา เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. 4 เดือนเต็มๆ ขึ้นเดือนที่ 5 หลังจากที่ 1 อดีตนายกฯ กับ 1 ปัจจุบันนายกฯ คุยกันในเรื่องนี้ แล้วผมได้ทำนายไว้เรียบร้อยแล้ว
สโรชา - ไปดูกันซักนิดนึงนะคะท่านผู้ชม ไปดูกันซักนิดนึงว่าวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมานี้ คุณสนธิได้ทักทาย หรือพ่อหมอได้ทำนายทายทักอะไรกันไว้บ้าง ไปดูกันค่ะ (ย้อนดูเทปเก่า) นั่นก็คือรายการช่วงนึงที่ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา คงจะต้องคุยกับพ่อหมอต่อซักนิดนึงนะคะว่า จากนี้ไปเราได้เห็นท่านนายกฯ คนปัจจุบัน และอดีตนายกฯ ทั้ง 2 ท่านพูดคุยกันเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
สนธิ - ซึ่งการพูดคุยกันเมื่อที่ผ่านไปวัน 2 วัน มันมีนัยมากนะ แล้วมันอธิบายเรื่องได้เยอะเลย แต่ว่าอย่าเพิ่งพูดตอนนี้ดีกว่า เอาไว้พูดช่วงหน้า
สโรชา - เดี๋ยวเราจะกลับมาในช่วงหน้ามาคุยกันถึงเรื่องการพูดคุย การสนทนากันระหว่างท่านนายกฯ ทักษิณ และท่านอดีตนายกฯ อานันท์ นอกจากนี้ยังต้องคุยกันถึงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีด้วยนะคะ ตอนแรกนึกว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะทราบแล้วหละว่าโผ ครม.ชุดใหม่จะเป็นอย่างไร แต่เห็นว่าคงจะเป็นซักกลางสัปดาห์ หรือปลายสัปดาห์หน้าคงจะได้พูดคุยกันถึงเรื่องนี้อีกครั้งนึง คำถามเอสเอ็มเอสประจำคืนนี้ค่ะ เราเรียนถามคุณผู้ชมว่า คุณผู้ชมเชื่อมั๊ยว่า พ.ร.ก.ฉบับนี้จะแก้ปัญหาภาคใต้ได้หรือไม่ ถ้าคิดว่าได้กด MT 1 คิดว่าไม่ได้กด MT 2 ส่งมาที่ 48488888 หรือโทรมาก็ได้ค่ะที่ 0-2201-6055-60 ขอบคุณฟรีอินเตอร์เน็ตค่ะที่เอื้อเฟ้อระบบเอสเอ็มเอสให้กับเรา มีข่าวประชาสัมพันธ์ซักนิดนึงนะคะก่อนที่จะไปพักโฆษณากัน อยากจะเรียนให้คุณผู้ชมทราบอีกครั้งนึงค่ะ สำหรับงานอุทยานอนุรักษ์สุขภาพ ครั้งที่ 13 ที่จะเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ 30 และวันอาทิตย์ที่ 31 ก.ค.นี้ คือ เสาร์-อาทิตย์ที่กำลังจะถึงนี้เลยนะคะ ในเวลา 08.30-18.00 น. ที่อาคารบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ บางลำพู สิ่งที่คุณผู้ชมจะได้พบนะคะก็คือ การบรรยายศาสตร์ในการดูแลรักษาสุขภาพในรูปแบบต่างๆ มากมาย อาทิเช่น พลานุภาพดนตรีจีน Meditstion as Medicine ตอนลมหายใจเป็นยา น้ำมันมะกอกและสมุนไพรเพื่อสุขภาพและความงาม ชีวิตหลังตาย : ชีวิตใหม่ที่ต้องเตรียมตัว กินอยู่อย่างไรให้สดใสแข็งแรง การบริหารกายวิถีพุทธ ไทเก๊ก ชี่กง พลังคอสมิค และการสาธิตอีกมากมาย นอกจากนี้แล้วยังสามารถพบกับการเสวนาธรรมในหัวข้อ "วิเคราะห์สังคมด้วยธรรม" โดยหลวงปู่พุทธะอิสระ, คุณสนธิ ลิ้มทองกุล, อ.สามารถ มังสัง และคุณสำราญ รอดเพชร ในวันเสาร์ที่ 30 เวลา 13.00-16.00 น. และในวันอาทิตย์ที่ 31 ในเวลา 09.00-12.00 น. จะได้พบกับเสวนาธรรมในหัวข้อ "การบริหารจิตท่ามกลางวิกฤตของสังคม" โดยพระอาจารย์อำนาจ โอภาโส, คุณสนธิ ลิ้มทองกุล, ดร.เทียนชัย วงศ์ชัยสุวรรณ และ ดร.วุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ สามารถโทรมาสอบถามกันได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2629-2211 ต่อ 1117 1118 และ 1152 พักซักครู่เดี๋ยวกลับมาคุยกันค่ะ
สโรชา - กลับมาสู่เมืองไทยรายสัปดาห์นะคะ ตรงนี้ก็คงจะเห็นกันในช่วงแรกแล้วค่ะคุณผู้ชมว่า ที่เราได้คุยกัน ที่คุณสนธิได้พูดไปเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น เกี่ยวกับ กอส.นั้นเป็นอย่างไร วันนี้มาคุยกันต่อค่ะคุณสนธิ เรื่องของการสนทนาระหว่างท่านนายกฯ และอดีตท่านนายกฯ อานันท์ มีหลายข้อซึ่งท่านทั้ง 2 เห็นด้วยพ้องต้องกัน แต่ก็มีหลายข้อเหมือนกันที่ท่านเห็นอาจจะไม่ตรงกันซักเท่าไหร่
สนธิ - คือ บางคนบอกว่า การสนทนากันเมื่อวันที่ 28 ก.ค. สรุปสั้นๆ ว่าเป็นการแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง
สโรชา - แสวงจุดร่วม
สนธิ - สงวนจุดต่าง
สโรชา - คือพยายามเอาจุดที่เห็นตรงกันมาพูด
สนธิ - แต่ว่าสงวน ต่างฝ่ายต่างมีบางประเด็นไม่เห็นด้วย แต่ว่าเรื่องนี้พูดลำบากฮะคุณสโรชา และท่านผู้ชมทางบ้าน ผมพูดเรื่องนี้ทีไรแล้วผมไม่สบายใจทุกที เพราะว่าคนกรุงเทพฯ และคนไม่ได้อยู่ทางใต้จะห่างกับเหตุการณ์ จะไม่เข้าใจ พูดอะไรไม่ดีไปหน่อยก็หาว่าผมไปเข้าข้างแขก เข้าข้างคนมุสลิม นึกออกไหมฮะ คุณคนไทยรึเปล่า อย่างที่เรียนให้ทราบพวกเรามักจะมองแบบเรียลไทม์ เรียลไทม์คือว่า เอาละมีการระเบิด 7 จุดนะต้องฆ่ามัน ถ้าไม่มีอำนาจที่เด็ดขาดเข้าไปจัดการแล้วจะปราบมันได้ยังไง
สโรชา - ต้องตอบโต้
สนธิ- ต้องตอบโต้ แต่ไม่ได้มองเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดแบบนี้ แล้วเหตุปัจจัยที่ทำให้เหตุปัจจัยนั้นเกิด คือไม่ยอมมองป่าทั้งป่า ทีนี้คนมองป่าทั้งป่าอย่างผม หรือหลายๆ คนมักจะโชคร้าย
สโรชา - ทำไมคะ
สนธิ - คือ พอมองแล้วมันจะใช้เวลาพิสูจน์ มันไม่เกิดขึ้นทันที
สโรชา - คือพูดไปแล้วต้องรอซักระยะนึง
สนธิ - ต้องรอระยะนึง อย่างที่บอกว่า ผมพูดตลอดเวลาว่าไม่มีวันที่จะใช้ความรุนแรงแก้ความรุนแรงได้ ทุกคนก็จะสวนกลับมาที่ผม บอกว่า แล้วที่คนเขาตายกันทุกวันนี้จะทำยังไงล่ะ ต้องฆ่ามันคืนซิ
สโรชา - เฉพาะหน้าจะทำยังไง
สนธิ - เฉพาะหน้าจะทำยังไง ก็ผมเรียนให้ทราบแล้วว่า การทำนั้นต้องทำควบคู่กันไป ต้องใช้ความอดทนด้วย หลายๆ อย่างด้วย ทีนี้กว่าเรื่องจะพิสูจน์ในที่สุด ซึ่งผมพร้อมให้พิสูจน์ผมไม่หนีไปไหนหรอก และผมยืนยันว่า พ.ร.ก.นี้แก้ปัญหาภาคใต้ด้วยความรุนแรงไม่ได้ ใช้อำนาจเด็ดขาดไม่มีทางแก้ได้ เอาผมไปตัดคอที่ไหนก็ได้ซักพักนึงไม่สิ้นปีนี้ก็ต้องปีหน้าเห็นชัดเลยว่ามีแต่จะรุนแรงมากขึ้นไปเรื่อยๆ แต่พอถึงเวลาแล้วกว่าจะรู้ว่าผมถูกวันนั้นคนที่ด่าผมวันนี้ก็ลืมไปแล้วว่าวันนี้เคยด่าผมว่ายังไง แต่ว่าโดยอาชีพแล้วเราถูกมอบหมายให้มาอย่างนี้เราก็ต้องอดทนไป ในบ้างครั้งไม่เป็นไรครับท่านผู้ชมบางท่านที่ไม่เห็นด้วยกับผม สงวนจิตสงวนใจไว้หน่อยรอซักนิดนึง คือผมมองอย่างนี้ ก่อนที่เราจะคุยกันเรื่องการสนทนากันระหว่างท่านนายกฯ ทักษิณ กับท่านนายกฯ อานันท์ ผมต้องเรียนให้ทราบว่า มันเป็นเรื่องที่พิสดารมากตรงที่ว่าผมเคยคิดว่าท่านนายกฯ และท่านนายกฯ ท่านแสดงตัวท่านเองว่าเป็นนักบริหาร ประชาชนก็ชื่นชม แต่เหตุการณ์ทางใต้ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า การบริหารงานท่านล้มเหลวหมดทุกประการ ในส่วนของการจัดการบริหาร เพราะอะไร เพราะว่าถ้าไม่ล้มเหลวแล้วท่านจะมาเสนอให้คุณอานันท์ ปันยารชุน มาตั้งเป็นคณะกรรมการสมานฉันท์ ทำไม คณะกรรมการสมานฉันท์รัฐบาลควรจะเป็นคนทำใช่ไหม รัฐบาลต้องทำเอง
สโรชา - ก็ตั้งคณะกรรมการเป็นอิสระขึ้นมาไม่ถูกหรอคะ
สนธิ - ไม่ฮะ รัฐบาลต้องทำเองไม่จำเป็นต้องตั้งอิสระเลย คุณจาตุรนต์ ฉายแสง เคยพูดเรื่องที่คุณอานันท์ ปันยารชุน กำลังพูด พูดมาตั้งนานแล้ว พูดมาตั้งแต่ปีที่แล้วไม่มีใครฟังเขา ตอนนั้นมีข่าวว่าเสนอเรื่องเข้าไป ครม. ครม.เตะออก ถ่วง เสร็จเรียบร้อยแล้วหาว่าทำงานล้มเหลว โยกย้ายไม่ให้ไปทำ วันนี้ดึงคุณจาตุรนต์กลับมาอีก ที่ผมไม่เข้าใจคือว่า ระหว่างคุณทักษิณ คุณอานันท์กำลังทำงานคู่ขนานกันไปอย่างที่เขาพูดในทีวีวันที่ 28 ก.ค. หรือว่าเป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบ
สโรชา - คือมองได้ 2 แง่
สนธิ - มองได้ 2 แง่
สโรชา - คือสมมุติว่าเป็นคู่ขนานที่ว่าจะไม่มีแรงปะทะกันไม่มีการขัดแย้งกัน
สนธิ - คือท่านนายกฯ ทักษิณ กับท่านอดีตนายกฯ อานันท์ 2 นายกฯ มองปัญหาบนรากฐานที่ต่างกัน ต่างกันมาก เพราะว่าท่านนายกฯ ทักษิณท่านดูจะยังไม่ยอมรับความแตกต่างของดินแดน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับส่วนอื่นๆ ของประเทศไทยโดยตรง ที่แตกต่างทั้งเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม และมีประวัติศาสตร์ที่ถูกข่มขืนมา ท่านยังไม่เข้าใจตรงนี้
สโรชา - คือท่านยังมุ่งเน้นประเด็น
สนธิ - ยังมุ่งไปเรื่อย คือผมจับคำพูดท่านบอกว่า ประวัติศาสตร์อาจจะถูกบิดเบือน หรือถูกพูดกันในลักษณะที่ว่าดินแดนแห่งนี้เป็นดินแดนที่จะต้องประกาศเป็นอิสรภาพ แต่เราถือว่าเป็นการแยกดินแดนออกจากประเทศไทย โดยที่ใช้ทั้งประวัติศาสตร์ ใช้ทั้งหลักศาสนาที่ผิดมาบิดเบือนและสร้างปัญหาขึ้น แสดงว่าท่านยังไม่ยอมรับว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความแตกต่าง แต่ว่าท่านอดีตนายกฯ อานันท์พูดถึงความแตกต่างได้ชัดเจนมาก ท่านบอกว่า ดินแดนที่เรียกว่าประเทศไทยมีความแตกต่าง หลากหลายในวัฒนธรรม เชื้อชาติ ศาสนา ท่านยังพูดเลยว่า ท่านนายกฯ ทักษิณ ท่านเป็นไทย-จีน ท่านนายกฯ อานันท์ ผมเป็นไทย-มอญ คนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไทย-มาลายู คือเราต้องคบอัตลักษณ์เขา ท่านนายกฯ อานันท์พูดอย่างนี้ ผมจดมาเลย เขาขอให้ได้รับความสนใจในเรื่องอัตลักษณ์ของเขา วัฒนธรรมเขา เขาอยากได้รับความเคารพในเรื่องของศาสนา อัตลักษณ์ในความเป็นมาลายูของเขา ผมว่าเมืองไทยต้องเรียนรู้ว่าคนไทยมีเยอะ มีไทย-จีน มีไทย-มอญ ท่านนายกฯ ก็ไทย-จีน คุณก็อาจไทย-จีน คุณไปดูในประเทศไทยปัจจุบันมีคนใช้ภาษษ 62 ภาษา ไทย-มุสลิม ไทย-ฮินดู ไทย-ลาว ไทย-เขมร ทั่วไปหมด อย่างคุณเนวินก็อาจจะเป็นไทย-เขมร ผมไทย-จีน คุณอาจจะเป็นไทย-ญวน เพราะฉะนั้นเมืองไทยเป็นเมืองที่ศูนย์รวมเชื้อชาติต่างๆ ผมถามว่าเป็นคนไทยมั๊ย ผมรู้สึกว่าเป็นคนไทยเพราะผมเกิดแผ่นดินไทย ผมรักแผ่นดินไทย แต่ถ้าคนไทยเชื้อชาติไทยมันไม่ใช่ มันลำบากแล้ว คุณทักษิณกลับไปเชียงใหม่ก็ไปพูดคำเมือง ส.ส.อีสานกลับไปก็พูดอีสาน ลาว เด็กที่เกิดในอีสานเกิดมาก็ใช้ภาษาลาวจะมาเรียนภาษาไทยตอน 3 4 ขวบไปแล้ว พอกลับบ้านพูดไทยไม่ใช่ลาว ผมว่าเราต้องมองใจเราต้องกว้างกว่าว่าเขาเป็นไทย-มาลายู ตรงนี้ที่ท่านนายกฯ ทักษิณ และอดีตนายกฯ อานันท์มองต่างกัน เมื่อมองต่างกันแล้วมิติของการเข้าไปสู่ปัญหาก็ย่อมต่างกันเช่นกัน
สโรชา - คือมองรากฐานของปัญหาต่างกัน
สนธิ - มองรากฐานไม่เหมือนกัน คุณสโรชาจำได้ไหมครับว่า ผมเคยพูดในรายการนี้ผมเริ่มคำพูดที่ผมพูดกับท่านผู้ชมทางบ้าน ผมเริ่มบอกว่า ก่อนที่เราจะคุยกันเรื่องนี้ท่านและผมจะยอมรับไหมว่าเขากับเราต่างกัน ถ้ายอมรับผมจะพูดต่อ ถ้าไม่ยอมรับจบตั้งแต่เริ่ม ทีนี้ถ้าท่านนายกฯ ทักษิณไม่ยอมรับตรงนี้ เมื่อไม่ยอมรับตรงนี้มันก็จบไปแล้ว เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาของท่านนายกฯทักษิณก็เลยมีแค่มิติเดียว มิติซึ่งผมคิดว่าเป็นมิติซึ่งท่านนายกฯ ทักษิณแพ้ทางการเมืองไปแล้วทางภาคใต้ ผมถือว่าท่านแพ้อย่างราบคาบไปแล้ว ท่านไม่แพ้ได้ยังไง จำได้ไหมฮะเหตุผลที่ท่านเชิญอดีตนายกฯ อานันท์มาเพราะว่าวันนั้นท่านพลาดเรื่องแบ่ง 3 จังหวัดภาคใต้เป็นโซนสี สีเขียว สีเหลือง สีแดง พอแบ่งก็เลยมีคำถามถามขึ้นมาว่า แล้วเขาไม่ใช่คนไทยด้วยกันหรอ ตอนนั้นกระแสแรงมากท่านเลยต้องตั้งอดีตนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน ขึ้นมาเพื่อเป็นคนไปสร้างความสมานฉันท์ ในทำนองว่าโยนเผือกร้อนไปให้ พอโยนเผือกร้อนไป ผมวันที่ 1 เม.ย.ผมก็บอกว่า โอเคไม่เป็นไร แต่ให้ระวังนิดนะจะถูกยั่วยุโดยฝ่ายก่อการร้ายทำเรื่องราวให้รุนแรงมากขึ้นๆ ทีนี้เมื่อทำให้รุนแรงมากขึ้นๆๆ แล้ว การแก้ปัญหาก็แก้ไม่ได้ๆๆๆ จนในที่สุดก็เข้าอยู่สภาวะที่เขาเรียกว่า เบรคแตก
สโรชา - ที่ออก พ.ร.ก.มา
สนธิ - ที่ออก พ.ร.ก. ทีนี้การออก พ.ร.ก.ผมยังไม่รู้เลยว่าฝีมือใคร ผมไม่รู้ว่าใครคนนี้อัจฉริยะเหลือเกิน ผมอยากรู้จักตัวจริงๆ
สโรชา - ไม่ใช่เป็นการระดมความคิดเห็นจากหลายๆ ท่านหรอคะ
สนธิ - เดิมทีเข้าใจว่าเป็นท่านรองฯ วิษณุ เพราะเห็นท่านชอบออกมาแก้ต่างในทุกเรื่องเหลือเกิน ในเรื่องกฎหมายท่านจะอธิบายความในกฎหมาย
สโรชา - ท่านเป็นนักกฎหมาย
สนธิ - แต่คำอธิบายความของท่านพวกอาจารย์กฎหมายในมหาวิทยาลัยทั้งหลายเขาก็งงกันว่าทำไมอธิบายได้ด้านเดียวแล้วอีกด้านไม่ยอมอธิบายเลย
สโรชา - แต่ปรากฏว่า
สนธิ - ปรากฏว่าท่านรองฯ วิษณุเกิดรู้สึกว่าไม่ไหวแล้วงานนี้เผือกร้อนๆ โยนมาใส่มือฉันเห็นจะไม่ไหว ทีนี้ฉันไม่เอา ก็เลยบอกว่า ตอนนี้เริ่มออกมาให้สัมภาษณ์แล้วบอก เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องนี้เป็นเรื่องความมั่นคงทหารเขาเสนอมา คือรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยเวลามีเผือกเข้ามาใส่มือจะชอบโยนใส่คนอื่นเขาร้อนๆ ถ้าอะไรเย็นๆ ชอบอุ้ม ทีนี้เรามีท่านนายกฯ ทักษิณ กับท่านนายกฯ อานันท์ ซึ่งมีความคิดเห็นเหมือนกันในบางจุด และต่างกัน ต่างฝ่ายต่างก็ทำงานร่วมกัน หนึ่งตลก
สโรชา - ตลกตรงไหน
สนธิ - ตลกซิ การบริหารงานต้องมีเอกภาพ
สโรชา - ก็ทำคนละด้านไม่ได้หรอคะอย่างที่ท่านแบ่งค่อนข้างชัดเจน
สนธิ - สิ่งซึ่ง พ.ร.ก.ปรากฏ กับสิ่งซึ่งท่านอดีตนายกฯ อานันท์ทำมันตรงกันข้ามกัน
สโรชา - ก็ไหนบอกว่าต้องใช้ทั้ง 2 ทางไง
สนธิ - เดี๋ยวซิฟังก่อนซิฮะ อันที่สอง คุณให้ท่านรองชิดชัย ซึ่งเป็นสายเหยี่ยว และในขณะเดียวกันคุณก็โอนท่านรองจาตุรนต์ ซึ่งเป็นสายนกพิราบมา
สโรชา - เพื่อมาทำงานคู่กัน
สนธิ - คู่กันไม่ได้ คู่กันไม่ได้ เพราะว่าสายนกพิราบไม่ใช่สายปราบปราม
สโรชา - อ้าวแน่นอน
สนธิ - สายเหยี่ยวนี่สายปราบปราม
สโรชา - ใช่ค่ะ
สนธิ - ทีนี้ถ้าปราบปรามไปแล้วมันทำให้คนซึ่งถูกปราบปรามโดยผิดๆ มันต้องเข้าไปสู่ผู้ก่อการร้ายรองจาตุรนต์จะทำยังไงคราวนี้ เพราะรองจาตุรนต์เขาเชื่อเรื่องการสมานฉันท์ เชื่อเรื่องการต้องเข้าใจความแตกต่างตรงนี้
สโรชา - อ้าวแต่ว่าบนพื้นฐานที่ว่ามีการปราบปรามก็ทำความเข้าใจกันทุกๆ ฝ่ายแล้วไม่ใช่หรอคะว่าปราบปรามบนพื้นฐานที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้มีการรังแกหรือว่าไปบิดเบือนกฎหมายเพื่อใช้ในทางที่ผิดๆ อันนั้นคือมาตรฐานที่ใช้กันอยู่แล้วไม่ใช่หรอคะ
สนธิ - คุณสโรชาอันนั้นคือมาตรฐานซึ่งท่านนายกฯ ทักษิณอธิบายให้อดีตนายกฯ อานันท์ฟังว่า พ.ร.ก.ตรงนี้จะไม่ทำแบบเละเทะ
สโรชา - ถ้าอ่านละเอียดแล้วจะทราบ
สนธิ - พูดง่ายๆ ว่าท่านบอกว่าคนที่ไม่ได้อ่าน พ.ร.ก.มาตำหนิ พ.ร.ก.ได้ยังไง คือผมก็ไม่รู้ ผมก็อ่านภาษาไทยออกเหมือนกัน
สโรชา - คุณสนธิอ่านแล้วใช่มั๊ยคะ
สนธิ - ผมอ่านแล้วครับ ผมก็ยังมีความรู้สึกว่าท่านบอกว่า ท่านนายกฯ บอกว่า จำเป็นและไม่เป็นวิธีการที่นำไปสู่ความรุนแรง มีการครอบคลุมกันไว้หลายชั้น เหมือนอย่างที่รองฯวิษณุพูดชัดเลย เหมือนกับท่านรองฯ วิษณุมาติวท่านนายกฯ ทักษิณ ในขณะซึ่งอดีตท่านนายกฯ อานันท์ท่านไม่ได้พูดว่าควรจะมี พ.ร.ก.รึเปล่าเพราะถือว่าตอนนี้เป็นกฎหมายแล้ว
สโรชา - ใช่ท่านบอกว่าออกมาแล้ว
สนธิ - แต่ท่านตั้งข้อควรระวังไว้ 3 ข้อ สำคัญมาก 3 ข้อนี้
สโรชา - ด้านการจับกุมใช่ไหมคะ
สนธิ - การจับกุมอย่างกว้างขวางตามมาตรา 11 (1) ที่หากทำผิดตัวแล้วยิ่งจะซ้ำเติมสถานการณ์ ซึ่งในประวัติศาสตร์ทุกยุค ทุกสมัยไม่ว่าจะประเทศไหนก็ตามจับ 10 จับ 100 คน จะถูกตัวคนอย่างมาก 5 คน 5 เปอร์เซ็นต์ อีก 95 เปอร์เซ็นต์ผิดตัวคน 2. อำนาจที่จะลดทอนและจำกัดเสรีภาพของสื่อ อันนี้ไม่เป็นไร สื่อถ้าเพื่อชาติทนได้ ตามที่กำหนดไว้ตามมาตราที่ 17 และมาตราที่ 16 ว่าเจ้าหน้าที่ที่ทำการโดยสุจริตไม่ต้องรับโทษทั้งทางอาญา แพ่ง และวินัย
สโรชา - ท่านพูดแรงนะ
สนธิ - ท่านอานันท์ ท่านพูดแรงมาก เหมือนกับให้ใบอนุญาตให้ฆ่าได้ เรื่องนี้ท่านนายกฯ ทักษิณ ท่านร้อนใจมากพยายามแก้แต่ว่าแก้ได้ไม่ชัดเจน มิหนำซ้ำยังจะถูกตอกกลับอีก เดี๋ยวเราจะมาพูดเรื่องประเด็นที่ไม่ชัดเจนในงวดหน้าดีกว่า เวลาตอนนี้หมด
สโรชา - ไปพักโฆษณากันแป๊บนึงนะคะเดี๋ยวกลับมาว่า 3 ข้อที่ท่านอานันท์ว่า คุณสนธิเห็นด้วยหรือว่ามีข้อเพิ่มเติมอะไรบ้าง และที่ว่าแก้ไม่สนิทใจ หรือว่าแก้ไม่ได้กระจ่างซักเท่าไหร่เป็นอย่างไร เดี๋ยวกลับมาซักครู่เดียว
สโรชา - กลับมาสู่เมืองไทยรายสัปดาห์ เมื่อสักครู่ทิ้งท้ายกันไว้ 3 ประเด็นที่อดีตนายกฯ อานันท์ ท่านได้ตั้งข้อสังเกต หรือตั้งข้อห่วงใยไว้เกี่ยวกับ พ.ร.ก.ฉบับที่ว่านี้ ตกลงเราคุยกันถึงเรื่องของสิทธิ์ของเจ้าหน้าที่
สนธิ - ตัวประเด็นความไม่ชัดเจนในเรื่องของการเชิญมาสอบ หรือจับกุม ท่านนายกฯ ทักษิณท่านบอกว่าไม่ใช่การจับกุม
สโรชา - เป็นการเชิญมาสอบปากคำ
สนธิ - เป็นการเชิญมาให้ปากคำ แต่ถ้าจับกุมก็ต้องขออำนาจศาล แต่จริงๆ แล้วเมื่ออ่านเนื้อหาในมาตรา 11(1) ใช้คำว่า จับกุมและควบคุมตัว เพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่า ท่านนายกฯ ทักษิณ ไม่ทราบว่าท่านคงอ่านแล้วท่านลืมไป จริงๆ แล้วมาตรา 11/(1) ที่ท่านรองฯ วิษณุ โค้ชท่าน เขียนไว้ชัดว่า จับกุมและควบคุมตัว ไม่ได้พูดว่าเชิญตัว ไม่มี
สโรชา - เชิญตัวกับควบคุมตัวนี้คนละประเด็นกัน
สนธิ - จับกุมไม่เหมือนกัน โธ่คุณสโรชา คุณก็ไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่เด็กคุณก็เข้าใจคำว่าจับกุมและควบคุมตัวต่างกับเชิญตัวยังไง ไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะกำหนดให้ไปขออำนาจศาลตามมาตรา 12 แต่ก็ยังมีปัญหาว่า จะเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญรึเปล่า ศาลจะอนุมัติได้หรือไม่ จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจน ตอบกันไม่ได้
สโรชา - ก็คือสามารถควบคุมตัวได้เป็นระยะเวลาใช่มั๊ยคะ ถ้าเกิดจะจับกุมหรือแจ้งข้อหาต้องมีหมายศาล
สนธิ - เรื่องนี้ต้องดูท่านวิชา มหาคุณ ท่านเป็นประธานศาลอุทธรณ์ภาค 2 คือเป็นนักกฎหมายระดับปรมาจารย์ ท่านตั้งข้อสังเกตค่อนข้างรุนแรงไว้หลายวันแล้ว ท่านบอกว่า มาตรา 11(1) ที่ พ.ร.ก.ร่างออกมาเป็นบทยกเว้นรัฐธรรมนูญ และ ป.วิอาญา ยกเว้นไปเลยที่ให้ควบคุมตัวได้ 7 วัน ไม่ใช่ 48 ชั่วโมง แล้วจะมาขอให้ศาลอนุมัติตามอำนาจ ป.วิอาญาได้อย่างไรในเมื่อคุณยกเว้นรัฐธรรมนูญและยกเว้น ป.วิอาญาไปแล้ว คุณจับกุมเขา ธรรมดารัฐธรรมนูญและ ป.วิอาญา ให้อีก 48 ชั่วโมง นี่คุณยึดเขาไป 7 วันแล้วจะมาขอให้ศาล มอบอำนาจให้ศาลเป็นคนให้ความชอบธรรมได้ยังไง ศาลทำไม่ได้ มาแล้ว 7 วันแล้วคุณจะมาขอให้ศาลให้อำนาจได้ยังไง นี่คือการดึงเอาศาลไปรับรองความชอบธรรมให้การกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญรึเปล่า ศาลซึ่งเป็นตุลาการ เป็นองค์คณะ และเป็นองค์กรเดียวที่กระทำการในพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะอนุมัติการกระทำใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ หรือ ป.วิอาญา ไม่ได้ ตรงนี้ต่างหากผมถึงไม่แน่ใจคำอธิบายของท่านรองฯ วิษณุ ที่ท่านเชี่ยวชาญกฎหมาย ท่านเชี่ยวชาญมากน้อยแค่ไหน ผมไม่ได้เรียนกฎหมาย ผมอ่านแค่นี้ผมฟังท่านวิชา มหาคุณ แค่นี้ผมก็รู้แล้ว ผมว่าท่านนายกฯ ท่านน่าจะเปลี่ยนรองฯ วิษณุ อย่าไปฟังแนวทางกฎหมายท่านรองฯ วิษณุเลย ผมเห็นท่านรองฯ วิษณุตั้งแต่ท่านขึ้นมาแนะนำท่านนายกฯ คนนี้รู้สึกผิดเพี้ยนเยอะในหลายๆ เรื่อง ผมอยากจะให้คนซึ่งมาแนะนำ ชี้ทางกฎหมายให้ท่านนายกฯ คนนี้อย่างตรงไปตรงมา ผมต้องการอย่างนี้ ทีนี้เรื่องที่ถูกอดีตนายกฯ อานันท์ สวนกลับก็คือ ท่านนายกฯ ทักษิณ บอกว่า ที่บอกว่า กฎหมาย พ.ร.ก.บอกเจ้าหน้าที่ไม่ต้องรับผิดจะต้องกระทำการโดยสุจริต สมควรแก่เหตุและความจำเป็น และไม่ตัดสิทธิ์ผู้เสียหายที่จะฟ้องร้องทางแพ่ง ปรากฏว่าอดีตท่านนายกฯ อานันท์ ท่านถามนิ่มๆ มันอยู่ที่ใครเป็นคนวินิจฉัยว่าการกระทำใดบริสุทธิ์หรือไม่ เขาก็ยกตัวอย่างในกรณีคุณสมชาย นีละไพจิตร ท่านนายกฯ ทักษิณ บอกว่า ได้มีการจับตัวผู้ต้องหาแล้ว คนทำผิดถูกลงโทษ จับเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาฆ่าคนตาย แต่ตั้งข้อหาฆ่าคนตายยังไม่ได้เพราะยังไม่พบศพ ได้มีการจับกุมตัวผู้กระทำผิดแล้ว
สโรชา - กำลังดำเนินอยู่ในชั้นศาล
สนธิ - แต่ท่านนายกฯ ทักษิณท่านพูดไม่หมด เพราะว่าไม่เคยมีการลงโทษเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่อุ้มฆ่า โดยเฉพาะตำรวจ นี่คือประเด็นที่อดีตท่านนายกฯ อานันท์ ท่านพยายามพูด บอกว่า เอาละมันมีผู้ก่อการร้ายจริง มันมีคนพยายามจะทำร้าย ทำลายคนบริสุทธิ์จริง แต่ว่าเรา จำได้ไหมครับว่าเราเคยพูดเรื่องนี้มานานแล้ว เราต้องให้คำตอบกับชาวบ้านก่อนว่า คนของเขาที่หายไป หายไปได้ยังไง ใครเอาไป ถ้าเรายังตอบตรงนี้ให้เขาไม่ได้ สันติสุขมันไม่มี
สโรชา - เราจะให้มวลชนเข้าข้างเราได้ยังไง
สนธิ - มวลชนไม่มีวันเข้าข้างเรา เราจะออกอีกร้อย พ.ร.ก.ยกกำลังสิบก็ไม่ได้ เราตอบคำถาม คือคนมุสลิมเป็นคนซึ่งตรงไปตรงมา ถ้าเราบอกว่า ขอโทษทีเจ้าหน้าที่เราเป็นคนอุ้มเองจะดำเนินการให้ หรือว่าเจ้าหน้าที่เราอุ้มเองแต่จับตัวไม่ได้ แต่ว่าเจ้าหน้าที่อุ้มเรายอมรับ เขายอมรับได้แต่ขอให้บอกเขาตรงๆ แต่ไม่ใช่ไปหาเขามาแล้วแล้วบอกว่าไม่รู้หายไปไหน หรือว่า เมื่อตำรวจ ทหารใช้ พ.ร.ก.นี้ไปแล้ว เมื่อใช้ไปแล้วย่อมมีการละเมิดเป็นของธรรมดา เพราะว่าย่อมมีตำรวจหรือใครก็ตามที่หมั่นไส้พวกเด็กหนุ่มที่มากวนโอ๊ยตลอดเวลา แต่พวกเด็กหนุ่มๆ พวกนั้นอาจจะไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย อาจจะรู้แต่ว่าไม่ได้ร่วม แต่ไม่ชอบเจ้าหน้าที่เป็นหลัก พอไปถามบอกว่า เรื่องอะไรของคุณผมจะไปไหนหนักกะบาลอะไรคุณ เท่านี้เองก็เกิดความแค้นแต่ทำอะไรไม่ได้
สโรชา - คือมีแรงกดดันทั้ง 2 ฝ่าย
สนธิ - มีแรงกดดันอยู่แล้ว
สโรชา - เพราะฉะนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการปะทะบ้าง
สนธิ - พอมี พ.ร.ก.ตรงนี้มาก็ย่อมมีการละเมิดอย่างแน่นอนที่สุดเหมือนกรณีตากใบ พอเอาเด็กพวกนี้เข้ามา ใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทีนี้พอเด็กพวกนี้หายไป สมมุติว่าเกิดลงไม้ลงมือแรงไปหน่อย เกิดเป็นอะไรไปแล้วเด็กหายไป ทีนี้พ่อแม่ก็แห่มาแล้วซิ ลูกผมหายไปไหน คุณเอาลูกผมไป 7 วันแล้วลูกผมอยู่ที่ไหน ทางนี้ก็บอว่าผมไม่ได้เอาลูกคุณมา ชาวบ้านที่เห็นบอกเอาไป ฉันเห็นมันจับไป คุณสโรชามันไม่ใช่เรื่องสนุกเชื่อผมซิเรื่องนี้ อีกประการหนึ่งยังพูดเรื่องคุณสมชาย นีละไพจิตร ไม่ได้ อย่างกรณีคุณสมชาย ทนายสมชาย แม้ว่าจะจับตำรวจที่เกี่ยวข้องได้แต่ในที่สุดก็ได้ประกัน และคนที่สำคัญที่สุดคือ พ.ต.ท.ชัชชัย เลี่ยมสงวน ปัจจุบันกลับมาเป็นรองผู้กำกับ 4 ของกองปราบเรียบร้อยแล้ว ไม่มีความพยายามที่จะสืบไปถึงการสั่งการถึงเบื้องบนเลย นี่ผมยกตัวอย่างให้ฟัง ทีนี้พอภรรยาคุณสมชายซึ่งไม่รู้ว่าสามีหายไปไหน ซึ่งเชื่อว่าสามีตัวเองถูกเก็บตายไปแล้ว เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาบอกว่าเขาจะดำเนินคดี แล้วเขาก็จับพวกตำรวจที่เกี่ยวข้องไป แล้วได้รับการประกันตัว แล้วจู่ๆ คนที่ได้รับการประกันตัวกลับไปทำงานเหมือนเดิม ผมถามว่า ภรรยาคุณสมชายสบายดีไหม
สโรชา - คือคงต้องมีข้อข้องใจ
สนธิ - แกข้องใจมากๆ แล้วถามว่า เขาเชื่อในอำนาจรัฐรึเปล่าเขาก็ไม่เชื่อ ทีนี้คำถามก็มี มันก็ 2 ฝ่าย ถ้าไม่โดนด้วยตัวเองก็ไม่รู้สึก คนกรุงเทพฯ อยู่ห่างตรงนั้น
สโรชา -เห็นแต่ข่าว
สนธิ - แต่ถ้าเราเป็นพ่อ แม่ที่ลูกหายไป เราต้องรู้สึก ในทางเดียวกันอีกฝ่ายก็บอกว่า คุณสนธิแล้วคนบริสุทธิ์ พระ ข้าราชการ ผู้พิพากษา ที่ถูกยิงตายพ่อแม่เขาว่ายังไง เห็นรึยังมันทุกข์ทั้ง 2 ฝ่าย แต่เมื่อทุกข์ทั้ง 2 ฝ่ายแล้วจะฆ่าเพื่อระงับการฆ่า มันไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง
สโรชา - คือต้องทำความเข้าใจ
สนธิ - ทีนี้ผมเห็นว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ทีนี้ถ้ามองในแง่บริหารแล้วผมมีความรู้สึกว่า เอาละถ้าท่านนายกฯ ท่านเชื่อในเรื่องการใช้อำนาจเด็ดขาด ท่านใช้ไป ถ้าท่านเชื่อในนโยบายท่านอดีตนายกฯ อานันท์ ก็มาทางนี้เลย
สโรชา - หมายความว่ายังไง ทางใดทางหนึ่ง
สนธิ - ทางใดทางหนึ่ง ไม่ใช่ซิ ถ้าท่านเชื่อ ท่านต้องเชื่อแบบไหน ถ้าท่านเชื่อ 2 ทางผสมกันท่านก็ต้องจับ 2 ทางมาผสมกันทันทีไม่ใช่คู่ขนานเดินกันไป
สโรชา - ร่วมงานกันอย่างจริงจัง
สนธิ - ไม่ใช่ร่วมงาน เอามาร่วมทำกันทันทีเลยประสานทันทีเลย ทำทันที ไม่ใช่ว่าเอาละคุณอานันท์จะทำก็ทำไป ผมจะทำอย่างนี้ผมก็ทำไป เพราะฉะนั้นแล้วมันไปอีหลักอีเหลื่ออย่างนี้ผมคิดว่าเสียทั้ง 2 ฝ่าย ซ้ายก็ด่า ขวาก็ดุ ไม่เห็นหรอคุณสมัคร สุนทรเวช เริ่มออกมาแล้ว ไม่พอใจท่านนายกฯ ว่าทำไมต้องเป็นอย่างนี้ๆ ทีนี้คนที่น่าสงสารที่สุดคือ ตำรวจและทหารในพื้นที่ เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะได้ทำงานแบบไหน พอมี พ.ร.ก.มาก็ดีใจว่าจะได้ทำงานได้เต็มที่ ในความคิดของเขา แต่พอเจอเรื่องนี้ขึ้นมา เอาละข้างบนจะเอายังไงกันแน่ เพราะฉะนั้นแล้วไม่มีใครทำงานกันเลยตอนนี้ ล่าสุดเพิ่งเห็นข่าวว่าระเบิดที่นราธิวาสอีก 7 จุด
สโรชา - ก่อความไม่สงบอีก 7 จุด
สนธิ - ทีนี้อีก 7 จุดการก่อความไม่สงบนี้เชื่อได้ว่าเป็นการยั่วยุให้คนมีความเห็นว่าใช้ พ.ร.ก.เถอะแนวทางสมานฉันท์ใช้ไม่ได้แล้ว ผมบอกคุณสโรชาแล้วว่า แนวทางก่อการร้ายวัตถุประสงค์ก่อการร้ายเพื่ออะไร เพื่อสร้างความรุนแรง สร้างความหวาดกลัว เมื่อสร้างความหวาดกลัวแล้วรัฐก็ต้องใช้ความรุนแรงเข้าปะทะความรุนแรง
สโรชา - นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ
สนธิ - นั่นหละคือสิ่งที่เขาต้องการ นั่นคือหลุมพรางที่เขาขุดเอาไว้เราก็รู้แล้วเราก็เดินไปตกในหลุมพรางอันนั้นตลอดเวลา
สโรชา - จะให้นิ่งเสียมันก็ทำไม่ได้รึเปล่า
สนธิ - มันไม่ใช่ มันมีกระบวนการ ขั้นตอนหลายขั้นตอนซึ่งจะต้องทำแล้วเราไม่เคยทำ อย่างเช่น กระบวนการขั้นตอนว่า การยอมรับว่าเขาต่างกับเรา กระบวนการขั้นตอนที่ตอบคำถามเขาก่อนว่าคนของเขาหายไปไป ถ้าเราตอบตรงนี้ได้หลังจากนั้นแล้วเราจะทำอะไรผมคิดว่าเขาไม่ว่า เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วถ้าเรายังตอบคำถามเขาไม่ได้ความที่เขาไม่ไว้ใจเรา คุณสโรชาปลาจะอยู่ได้รึเปล่าถ้าไม่มีน้ำ น้ำนี่คือประชาชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ประชาชนนั่นคือน้ำ พวกเราเจ้าหน้าที่รัฐคือปลา จะอยู่ได้อย่างไรถ้าเขาไม่ให้ความร่วมมือ แล้ว 1 ปีกับอีก 6 เดือนที่ผ่านมาจับใครไม่ได้เลยก็เพราะว่าเขาไม่ให้ความร่วมมือ เราก็ต้องถามตัวเองกลับว่า ทำไมเขาถึงไม่ให้ความร่วมมือ ผมขอให้เขาให้ความร่วมมือแล้วรู้ว่าโจรมันอยู่ที่ไหนนะอย่าว่าแต่เข้าไปจับเลย เข้าไปจับตายยังได้เลยไม่เป็นไร แต่ขอให้เขาให้ความร่วมมือก่อน จุดแรกต้องให้เขาให้ความร่วมมือกับเราก่อน
สโรชา - พูดง่ายๆ คือต้องยอมรับความแตกต่าง
สนธิ - ต้องยอมรับความแตกต่าง
สโรชา - ต้องยอมรับถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
สนธิ - เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นแล้วก็ตอบคำถามให้ได้
สโรชา - พูดง่ายๆ คือ แสดงความจริงใจ เดี๋ยวเราจะพักกันซักครู่นึงค่ะ กลับมาเดี๋ยวมาช่วงสุดท้ายมาดูผลโพล แล้วก็ยังคุยกันถึงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี ซักครู่เดียวค่ะ
สโรชา - กลับมาช่วงสุดท้ายของเมืองไทยรายสัปดาห์ ไปดูผลโพลกันค่ะ สัปดาห์นี้เราเรียนถามคุณผู้ชมค่ะว่า คุณผู้ชมเชื่อว่า พ.ร.ก.จะแก้ปัญหาภาคใต้ได้หรือไม่ คุณผู้ชมตอบเรากลับนะคะว่า ได้ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้ประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์ คุณสนธิมีอะไรจะเสริมในเรื่องของภาคใต้ซักนิดหนึ่งไหมคะ
สนธิ - ผมคิดว่า ปัญหาทางภาคใต้ผมต้องขอร้องท่านนายกฯ อย่าใช้ 3 อย่า อย่าใช้อำนาจมากจนเกินไป อย่าใช้เงินฟาดหัว และอย่าใช้อารมณ์ 3 อย่างนี่สำคัญมาก เพราะว่าผมเคยพูดมาตอนต้นว่า จริงๆ แล้วมาตรการที่คุณอานันท์เสนอมา คณะกรรมการสมานฉันท์ 14 ประการ มันเหมือนแนวทางที่คุณจาตุรนต์ ฉายแสง เคยเสนอเมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2547 6 ประการ อันหนึ่งซึ่งผมต้องเรียนให้ทราบนิดหนึ่งว่า ผมไม่เห็นด้วยกับคุณอานันท์เรื่องหนึ่ง คือสิทธิการพกปืน ผมคิดว่าการพกปืนไม่ได้หมายความว่า มันเป็นเรื่องที่ไปท้าทายอะไรทั้งสิ้น เพราะว่าความไม่ปลอดภัยในทางใต้อย่างน้อยที่สุดควรจะให้ความอบอุ่นกับคนที่อยู่ในบ้านมั่ง คนอยู่ในบ้านควรจะมีสิทธิ์
สโรชา - อันนี้คือไม่ใช่เฉพาะครูด้วย คนทั่วไป
สนธิ - ไม่ใช่เฉพาะครู คนทั่วไป ที่การพกนั้นจะต้องได้รับใบอนุญาตอยู่แล้ว คือจู่ๆ จะไปห้ามพกปืนหมดมันไม่ได้หรอก อันนี้ผมเห็นด้วยกับท่านนายกฯ ทักษิณ
สโรชา - เขามีสิทธิ์ที่จะป้องกันตัว
สนธิ - ฮะเขามีสิทธิ์ป้องกันตัวได้เหมือนกัน เพราะกรณีทาง 3 จังหวัดภาคใต้นั้นเป็นกรณีพิเศษ คือโจรยังไงก็ตามมันมีปืนอยู่แล้ว ไม่ต้องไปห้ามมัน ห้ามมันก็แอบพก เขาไม่ต้องพึ่งใบอนุญาตเขาพกอยู่แล้ว ทีนี้สิทธิขั้นพื้นฐานในการป้องกันตัวต้องให้เขา ยังไงก็ต้องให้ไม่ให้ไม่ได้ อันนี้ผมเห็นด้วยกับท่านนายกฯ ทักษิณ ต้องขออนุญาตไม่เห็นด้วยกับอดีตท่านนายกฯ อานันท์
สโรชา - ทั้งหมด 14 ประการ คุณสนธิไม่เห็นด้วย 1 ประการ
สนธิ - ประการนี้
สโรชา - การป้องกันตัว
สนธิ - การป้องกันตัว สำคัญมากเรื่องนี้
สโรชา - ไปคุยกันถึงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีกันซักแป๊บก่อนจะจบรายการค่ะคุณสนธิ เพราะว่า ตอนแรกเรานึกว่าจะทราบแล้ววันนี้ว่าจะเป็นยังไงแต่ในที่สุดต้องรอสัปดาห์หน้าหรือสัปดาห์ถัดไปซะด้วยซ้ำไปหลังจากที่ท่านนายกฯ บอกแล้วว่ารอ ครม.สัญจรก่อนในวันอังคารหน้าเดี๋ยวกลับมาค่อยมาคิดกันอีกรอบ ซึ่งมีคำถามต่อว่า วันนี้ซีทีเอ็กซ์มาถึง 2 เครื่อง มันจะลดกระแสกดดันให้ต้องปรับคุณสุริยะออกน้อยลงมั๊ย
สนธิ - การมาของซีทีเอ็กซ์เป็นการสร้างความเข้าใจผิดในประเด็นให้สาธารณชน
สโรชา - ทำไมคะ
สนธิ - จริงๆ แล้วการที่ซีทีเอ็กซ์มามันไม่ได้ตอบคำถามว่าเรื่องทำไมราคามันถึงแพง
สโรชา - คือราคาเท่าเดิมนะคะไม่ว่าจะซื้อตรงหรือว่าผ่านแพทริออตก็ซื้อเท่ากัน
สนธิ - ถูกต้อง คือปัญหาเมื่อบวกลบคูณหารกันแล้ว ที่ตอบไม่ได้คือทำไมต้องแอดวานซ์เงินไปก่อนตั้งแต่แรก 600 ล้านบาทหายไปไหน ใครต้องรับผิดชอบ
สโรชา - ประเด็นเดิมๆ
สนธิ - ประเด็นเดิมๆ ไม่ได้ตอบกันเลยแม้แต่นิดเดียว โยงกันไปโยงกันมา เอาละซีทีเอ็กซ์ผมบอกแล้วมาแล้วเดือน ก.ค.แสดงว่าผมบริสุทธิ์ ไม่ใช่
สโรชา - วันสุดท้ายพอดี 29 นะ
สนธิ - คุณเชที่รักของผม แพทริออตของผม ที่รับไป 600 ล้านเงียบสนิทเลย ไม่รู้ไปเข้ากระเป๋าใครบ้างผมก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นแล้วประเด็นซีทีเอ็กซ์มารึไม่มา มาก็โอเค แต่ว่ายังไม่ได้ตอบคำถามที่ผมตั้งเอาไว้ ตอนนี้โฟกัสคนก็เลยไปที่ว่า ซีทีเอ็กซ์มาแล้ว
สโรชา - เดี๋ยวจะมาครบแล้ว ส.ค.
สนธิ - สังคมเรียลไทม์มันเป็นอย่างนี้ไม่กลับไปคิดว่าตอนนั้นคาใจเรื่องอะไรบ้าง ซีทีเอ็กซ์มาแล้วจบแล้ว มันไม่ใช่ มันเรื่องเกี่ยวกับราคา มันเรื่องเกี่ยวกับเงินที่จ่ายไปล่วงหน้า มันเรื่องเกี่ยวกับเงิน 600 ล้านบาทไปเข้ากระเป๋าใครบ้างก็ไม่รู้
สโรชา - แสดงว่าคุณสนธิเห็นด้วยกับท่านประทิน
สนธิ - ผมไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับใคร ผมเห็นด้วยกับตรรกะและเหตุผลและข้อเท็จจริงที่จะต้องเป็นอย่างนี้ ทีนี้พอโยงกลับมาถึงเรื่องปรับ ครม. คือผมคิดว่าในที่สุดแล้วความไม่สงบภายในพรรคไทยรักไทย การต่อรองกันอย่างหนักก็เลยทำให้การปรับ ครม.ครั้งนี้ล่าช้าไป แน่นอนที่สุด
สโรชา - ไม่เกี่ยวกับคนนอกมาไม่หรอคะ
สนธิ - มันไม่เกี่ยว
สโรชา - ตอนแรกบอกว่าไปทาบทามคนนอกแล้วเขาไม่ค่อยเต็มใจมาเท่าไหนเลยต้องรอ
สนธิ - คนนอกนี่ง่ายเพราะว่าความมั่นใจของท่านนายกฯ มีสูงมาก คุณจะมาหรือไม่มาไม่สำคัญหรอก สำคัญว่าถ้าผมเอาคุณวางตรงโน้นตรงนี้แล้วในที่สุดคนสั่งการอยู่ที่ผมคนเดียว ก็เราเคยพูดเรื่องนี้มาแล้วไงว่าการปรับ ครม.ไม่ว่าจะครั้งไหนก็ตามอย่าไปสนใจ ไม่มีความหมาย เฉพาะครั้งนี้มีจุดสนใจอยู่จุดเดียว
สโรชา - ว่าจะบริหารกันยังไง
สนธิ - ว่าถ้าท่านนายกฯ ยังให้คุณสุริยะนั่งอยู่ที่คมนาคมก็แสดงว่าท่านนายกฯ เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของคุณสุริยะ ไม่เป็นไร ส่วนประชาชนจะไม่เห็นด้วยก็อีกเรื่องหนึ่ง ท่านอาจจะไม่สนใจเสียงประชาชน แต่ถ้าท่านย้ายคุณสุริยะออกไปข้างนอกประชาชนจะถามกลับอีกเหมือนกัน อย่างน้อยผมจะถามกลับแล้ว 367 เสียงที่ท่านยกให้คุณสุริยะท่านยกไปทำไมไม่มีความหมายใช่ไหม
สโรชา - อาจจะเป็นไปได้ไหมว่าปรับเพราะว่าการก่อสร้างล่าช้า นี่ช้าไปตั้ง 6 เดือน 8 เดือน
สนธิ - ก็ไม่ทราบ อันนั้นผมคิดว่ามันไม่มีความหมายหรอกครับ ไม่มีความหมายเท่าไหร่
สโรชา - ย้อนถามคุณสนธินิดหนึ่งเพราะว่าสัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันถึงเรื่องการเข้าพรรษา วันเข้าพรรษาพอดีเลยวันศุกร์ที่แล้ว ก็มีการคุยกันถึงเรื่องหลักธรรมที่จะนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ได้ปฏิบัติบ้างไหมคะ
สนธิ - ก็ได้ทำอยู่บ้างครับ
สโรชา - คือเขาบอกว่าถ้าปฏิบัติแล้วจะได้ขึ้นสวรรค์ ถ้าใครที่ไม่ปฏิบัติก็จะลงนรก
สนธิ - คุณสโรชารู้ไหมว่านรกกับสวรรค์ห่างกันแค่ไหน
สโรชา - มามุกไหนนี่
สนธิ - ไม่ ไม่ถามว่าคุณทราบไหม
สโรชา - ไม่ทราบค่ะ
สนธิ - นรกกับสวรรค์ห่างกันไม่เกิน 10 เมตร แล้วมีอยู่วันหนึ่งยมบาลบอกเทวดาเรามาสร้างสะพานเชื่อมกันดีกว่า นรกสร้างมาครึ่งหนึ่งสวรรค์สร้างมาครึ่งหนึ่ง
สโรชา - ใน 10 เมตร
สนธิ - 10 เมตร พอตกลงกันปั๊บภายใน 1 วันนรกสร้างเสร็จครึ่งหนึ่งแล้ว สวรรค์ยังสร้างไม่ได้ อีก 2 เดือนสวรรค์ก็ยังสร้างไม่ได้ ยมบาลก็ถามว่า เทวดาทำไมตั้ง 2 เดือนสร้างไม่ได้ เทวดาบอกกลุ้มใจหารัฐมนตรีที่เซ็นคำสั่งให้สร้างแล้วหาผู้รับเหมาไม่เจอเลย บนสวรรค์ไม่มีเลย
สโรชา - มุกๆ มุกนะคะคุณผู้ชมอย่าคิดมากมุก นะคะว่าจบกันด้วยมุกขำของคุณสนธิละกันนะคะสัปดาห์นี้ พบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าสำหรับเมืองไทยรายสัปดาห์ สำหรับวันนี้คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ดิฉันสโรชา พรอุดมศักดิ์ ลาคุณผู้ชมไปเพียงเท่านี้ค่ะ สวัสดีค่ะ