วิกฤตน้ำภาคตะวันออก

หลังจากที่ ส.อ.ท.ออกมาชี้ปัญหาน้ำดิบในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งในขณะนี้ยังไม่น่าไว้วางใจ แม้จะมีการขุดน้ำบาดาลเพื่อเสริมปริมาณน้ำของอ่างเก็บน้ำ โดยทางรัฐบาลก็ได็พยามแก้ไขถึงขนาดมีการปรับโยกย้ายตำแหน่งของอธิบดีกรมบาดาลใหม่ และมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านสถานการณ์น้ำในภาคตะวันออกมาหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และได้ชี้แจงนโยบายการแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำในภาคตะวันออกให้กับภาคอุตสาหกรรมได้รับทราบ รวมทั้งขอความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากภาคอุตสาหกรรมด้วย ซึ่งแนวทางการแก้ไขนั้นมีทั้งแบบระยะสั้น และระยะยาว โครงการขุดเจาะบ่อบาดาล รวมไปถึงแนวทางการวางท่อส่งน้ำโดยเอกชนเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายก่อน

ซึ่งล่าสุดเอกชนภาคตะวันออกทั้งปิโตรเคมี เหล็ก ที่เริ่มไม่มั่นใจว่าปริมาณน้ำที่มีจะเพียงพอหรือไม่เร่งสตอกสินค้า เป็นการด่วน เพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนผลิตภัณฑ์ในประเทศ แต่ทางรัฐบาลก็ได้ออกมาให้ความเชื่อมั่นอีกว่าจะมีน้ำใช้เพียงพอไปอีก 200 วัน โดยจะแก้ไขปัญหาน้ำทั้งภาคการเกษตรและภาคอุตสาหกรรมอย่างเท่าเทียมกันไม่มีการเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด ส่วนปัญหาน้ำขาดคุณภาพนั้นก็มีการยืนยันอย่างหนักแน่นเช่นกัน โดยใช้เกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลกมาเป็นข้อพิสูจน์ ทั้งนี้ทางภาคเอกชนได้มีการประชุมและสรุปผลในวันที่ 21 ก.ค.48ที่ผ่านมาและเตรียมเสนอมาตรการเพิ่มเติมให้รัฐบาลพิจารณาอีกครั้งในสัปดาห์หน้าต่อไป

กกร. เตรียมเสนอ 4 มาตรการแก้ปัญหาน้ำสัปดาห์หน้า
“พินิจ” ให้ความมั่นใจเอกชนมีน้ำใช้อีก 200 วัน
“ยงยุทธ”ซัด“สภาอุตาหกรรม”ปล่อยข่าวน้ำไม่พอใช้ คุณภาพต่ำ พึ่งรัฐไม่ได้
'วัฒนา' เร่งหาแนวทางแก้ปัญหาน้ำขาดแคลนในระยอง