xs
xsm
sm
md
lg

'ทักษิณ' มาฟอร์มเดิม!! หว่านเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ทักษิณ” ใช้ทฤษฎีเบาหวานเยียวยาเศรษฐกิจไทยช่วงวิกฤต สั่งให้อาหารด้วยการเพิ่มเงินในกระเป๋าประชาชน ทั้งขึ้นเงินเดือนราชการ 5% ทุกระดับขั้น ขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำ ขอให้บริษัทเอกชนขึ้นเงินเดือนให้พนักงานที่เงินเดือนต่ำกว่า 1 หมื่นบาทอีก 1 พัน แต่ขั้นต่ำต้อง 7.5 พันบาท โดยให้นำมาลดหย่อนภาษีได้ 150% ศุกร์นี้ดีเดย์จ่ายเงินให้หมู่บ้านบริหารเองหมู่บ้านละ 2.5 แสนบาท พร้อมเดินหน้าดึงราคาสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น ฝากขอโทษประชาชนที่ต้องลอยตัวดีเซล แต่จะลดค่าใช้จ่ายให้ด้วยการเพิ่มโรคที่จะรักษาด้วย 30 บาท ปรับโครงสร้างหนี้ประชาชน และให้ทุนการศึกษา

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในงาน Montfort 72 ปี “Beyond Education Reform…The Hub of Knowledge” ว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยในขณะนี้พื้นฐานเศรษฐกิจยังดี แต่ที่น่าตกใจก็แค่น้ำมัน จึงต้องช่วยกันประหยัด อย่างอื่นไม่ต้องตกใจ เพราะหนี้เสียของสถาบันการเงินต่างๆ ก็ลดลงจากช่วงที่เกิดวิกฤต แต่วันนี้เศรษฐกิจไม่รื่นเพราะน้ำมันแพง จึงจำเป็นต้องเติมเงินในกระเป๋าให้ประชาชน และลดรายจ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น

โดยวิธีการที่รัฐบาลจะนำมาใช้ในการเพิ่มเงินในกระเป๋า ได้แก่การขึ้นเงินเดือนข้าราชการทุกระดับ 5% และจะเพิ่มเงินให้ข้าราชการบำนาญอีก 5% เช่นเดียวกัน ใช้เงินประมาณ 2 หมื่นล้านบาท เริ่มตั้งแต่ ต.ค.2548

การเพิ่มเงินให้กับประชาชนผู้ใช้แรงงาน โดยได้มอบหมายให้คณะกรรมการไตรภาคีไปพิจารณาปรับค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำให้เพิ่มขึ้น จากเดิมคิดทีละ 1 บาท คราวนี้ให้คิดที่ 6 บาท ส่วนจะขึ้นยังไงให้ไปคุยกันระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง และให้ขึ้น 2 ระดับ คือระดับแรงงานทั่วไป และแรงงานมีฝีมือ ซึ่งจะให้เริ่มตั้งแต่เดือน ส.ค.นี้ ทั้งนี้หากบริษัทเอกชนที่มีค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมคนงานให้มีฝีมือเพิ่มขึ้น ก็ให้สามารถนำมาหักลดหย่อยภาษีได้ 200%

การจูงใจให้ภาคเอกชนปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพหรือค่าครองชีพให้กับพนักงานลูกจ้าง โดยหากใครยังมีเงินเดือนไม่ถึง 1 หมื่นบาท ให้เพิ่มขึ้น 1 พันบาท และหากยังไม่ถึง 7 พันบาท ให้เพิ่มให้ถึง 7 พันบาท โดยเงินส่วนที่เพิ่มสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ 150% ซึ่งจะทำให้อัตราจ้างแรงงานต่ำสุดอยู่ที่ 7 พันบาท

การปรับเพิ่มรายได้ให้กับผู้สูงอายุ โดยขณะนี้มีผู้สูงอายุในประเทศไทยประมาณ 5-6 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นผู้ยากไร้ 1.1 ล้านคน และเป็นผู้ที่ได้รับเบี้ยเลี้ยงยังชีพจำนวน 300 บาท/คน/เดือน เพียง 5 แสนคน ซึ่งรัฐบาลจะจัดให้อีก 5 แสนคนได้รับเบี้ยเลี้ยงยังชีพให้ครบ

การเพิ่มเงินเดือนให้กับอาสาสมัครที่ทำงานให้กับโครงการต่างๆ ของรัฐบาล โดยจากเดิมได้เงินเดือน 7.5 พันบาท จะเพิ่มให้เป็น 1 หมื่นบาท โดยนับแต่เดือนนี้จะขึ้นให้เลย 2.5 พันบาท และตั้งแต่เดือน ต.ค.2548 เป็นต้นไปจะได้ 1 หมื่นบาท นอกจากนี้จะประสานกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นสนับสนุนให้แม่บ้านทำกิจกรรมสร้างอาชีพ ซึ่งรัฐบาลจะจัดหาเงินให้

“ที่สำคัญ ในวันศุกร์นี้(15 ก.ค.)รัฐบาลจะจัดงบประมาณภาคประชาชน โดยให้หมู่บ้านละ 2.5 แสนบาท ให้นำเอาเงินจำนวนนี้ไปแก้ปัญหาของตัวเอง สร้างรายได้ให้ตัวเอง โดยเงินจะเข้าไปยังคณะกรรมการหมู่บ้านโดยไม่ผ่านข้าราชการ ไม่เหมือนไอติมที่จะละลายระหว่างทาง โดยจะใช้เงินประมาณ 2 หมื่นล้านบาท” พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

ส่วนมาตรการเพิ่มรายได้ให้สินค้าเกษตร พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า สินค้าข้าว เดือน ส.ค.นี้จะเชิญรัฐมนตรีประเทศผู้ค้าข้าวมาร่วมรับประทานอาหาร และจะหารือถึงการดึงราคาข้าวขึ้น เพราะน้ำมันจับมือกันดึงขึ้น วันนี้ไทยและประเทศผู้ค้าข้าวจะร่วมกันดึงราคาข้าวขึ้น กุ้ง แต่เดิมมีปัญหาถูกสหรัฐฯ เรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) แต่เท่าที่ได้คุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ แจ้งว่าในเดือน ก.ย.นี้จะทบทวนเอดีให้กุ้งไทย และยังมีข่าวดีจากสหภาพยุโรป (อียู) ที่จะคืนสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ให้กับกุ้งไทยในเดือน ก.ย.เช่นเดียวกัน

ยางพารา ได้ส่งสัญญาณไปแล้วว่าราคายางดิบจะต้องมีราคาเพิ่มขึ้นตามราคายางสังเคราะห์ ซึ่งล่าสุดราคาเพิ่มเป็น 60 บาทต่อ กก.จากเดิม 40 บาทต่อ กก. ลำไย จะร่วมมือกับรัฐบาลจีนในการระบายผลผลิตลำไยที่ออกสู่ตลาด ส่วนสินค้าเกษตรอื่นๆ ที่ออกมามากจะขอความร่วมมือให้คนไทยรับฝากเก็บไว้ในบ้าน เช่น กุ้ง เก็บคนละ กก. 15 ล้านครัวเรือน กุ้งหายวับทันที 1.5 หมื่นตัน ข้าวสารเก็บ 5 กก. หาย 7.5 หมื่นตัน ขณะเดียวกันจะเร่งขยายตลาดให้กับสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอทอป)

นอกจากนี้ รัฐบาลจะเร่งรัดการจ่ายเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยขณะนี้มีเงินค้างอยู่ประมาณ 3.7 แสนล้านบาท ทั้งงบประมาณของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ และเพิ่มการจ้างงานในชนบท โดยจะใช้งบประมาณของผู้ว่าซีอีโอ งบท้องถิ่น และงบกลาง ทำการสร้างถนน พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว บำบัดน้ำเสีย จัดการขยะ ส่วนผู้รับเหมาโครงการรัฐ หากทำงานเสร็จแล้วจะจ่ายเงินให้ทันที แต่ต้องนำแบงก์การันตีมาวาง ต่อไปหากตรวจรับงานมีปัญหา มีค่าปรับ ก็จะดึงเงินจากแบงก์การันตีที่วางไว้

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ส่วนการลดค่าใช้จ่าย สิ่งที่เป็นปัญหาที่สุดคือน้ำมัน ต้องขออภัยประชาชน เพราะได้ปล่อยให้น้ำมันดีเซลลอยตัวแล้ว โดยให้เป็นไปตามกลไกตลาดที่แท้จริง และแม้จะลอยตัวแล้ว รัฐบาลยังจะอุดหนุนด้านภาษีสรรพสามิตอยู่ 1 บาท ทำให้ราคาถูกว่า 1 บาท ขณะเดียวกัน จะร่วมมือกับจีน และสหรัฐฯ ในการสกัดการเก็งกำไรของเฮดฟันด์ เพราะเฮดฟันด์ทำให้ระบบการค้าน้ำมันบิดเบือน

“เรื่องน้ำมันรัฐบาลได้มีมาตรการออกมาแล้ว ทั้งปิดปั๊ม ปิดป้าย แต่ที่ทำไม่ได้ช่วยอะไรมาก แต่เป็นสัญลักษณ์ที่จะทำให้คนไทยช่วยกันประหยัด”

สำหรับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคของรัฐบาล ที่ช่วงนี้มีข่าวเอาไปรวมกับกองทุนต่างๆ ขอยืนยันว่าไม่มี แต่เป็นระบบการจ่ายเงินมารวมกัน ไม่ใช่รวมกองทุน เพื่อช่วยในการป้องกันการใช้บริการซ้ำซ้อน ขณะเดียวกัน รัฐบาลจะขยายการใช้บริการ 30 บาทครอบคลุมโรคต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่น ทันตกรรมเด็ก ไทรอยเด็ก ตรวจโรคเก๊า มะเร็งปากมดลูก โรคหลอดเลือด ช่องปากและฟันเทียม รวมถึงโรคเอดส์

ส่วนในเรื่องการให้ทุนการศึกษา รัฐบาลจะยังคงเดินหน้าต่อ และจะให้ทุนในโครงการ 1 ทุน 1 อำเภอรุ่นที่ 2 ต่อไป ส่วนผู้ที่เรียนดีแต่ยากจน ก็สามารถที่จะทำเรื่องขอทุนได้เช่นกัน

พร้อมกันนี้ รัฐบาลจะตั้งหน่วยเคลื่อนที่และศูนย์ซ่อมประจำบ้าน โดยให้นักเรียน นักศึกษาของอาชีวะและราชมงคล เดินทางออกไปซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น พัดลม ตู้เย็น มอเตอร์ไซต์ ให้กับประชาชนทั่วประเทศ โดยซ่อมให้ฟรี

ขณะเดียวกัน จะปรับโครงสร้างหนี้ภาคประชาชน หลังจากที่ได้มีการปรับหนี้ภาคธุรกิจไปแล้ว การสนับสนุนให้บริษัท และรัฐวิสาหกิจเข้าไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ให้มากขึ้น การสร้างบ้านเอื้ออาทร บ้านมั่นคง และบ้านน็อกดาว จะทำต่อ โดยตั้งเป้าภายใน 3-4 ปี ประชาชนจะมีบ้าน 5 แสนหลังคาเรือน

ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่า โครงการลงทุนขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) ที่จะรัฐบาลจะทำเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต ไม่ใช่การลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะเริ่มตั้งแต่ปีนี้ และ 3-4 ปีจะแล้วเสร็จในบางโครงการ

ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นประเทศตนเอง ไม่ต้องรักผม ชอบผม ขอให้รักประเทศ แล้วผมจะทำให้ดีที่สุด เศรษฐกิจมีพื้นฐานแข็ง ถอดน้ำมันออก รับรองวิ่งฉิว ฉะนั้น อย่าท้อถอน ท้อแท้ ท้อใจ ซึ่งผมก็พูดเพื่อตัวเองด้วย”พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวในที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น