มารีฟรานซ์ฟันธงปัจจัยลบไม่กระทบต่อภาพรวมสถาบันลดน้ำหนัก เชื่อตลาดรวมปีนี้จะโตสูงถึง 30% ครึ่งปีหลังเดินหน้าจัดกิจกรรมหนักโดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาหญิงที่พบว่ามีปัญหามากสุด ล่าสุดทำวิจัยผลโพลชี้นักศึกษา 51% ลดน้ำหนักผิดวิธี และ 71% อยากผอมเพื่อคนรักมากกว่าเพื่อสุขภาพ คาดสิ้นปีนี้มีสัดส่วนกลุ่มนักศึกษาเพิ่มเป็น 7-8%
นางสาวศศิวีณ์ ซื่อตรง ผู้จัดการฝ่ายการตลาด สถาบันลดน้ำหนักและสัดส่วนมารีฟรานซ์ บอดี้ไลน์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า จากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ราคาน้ำมันแพงขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของธุรกิจสถาบันลดน้ำหนัก เนื่องจากคนที่เข้ามาใช้บริการของมารีฟรานซ์ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มแมสที่เน้นเรื่องสุขภาพเป็นหลักและจะไม่อิงกับสภาพเศรษฐกิจ ในส่วนกำลังซื้อมองว่ายังไม่ตก เพราะปัญหาน้ำมันที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่สะสมมานานแล้วและไม่รุนแรงเหมือนตอนยุคฟองสบู่แตก
ล่าสุดมารีฟรานซ์ทำวิจัย “สลิมมิ่ง โพลล์” ในกลุ่มนักศึกษาหญิงอายุ 18 ปีขึ้นไป พบว่านักศึกษาหญิงมีวิธีการลดน้ำหนักที่ผิด โดย 51% ลดด้วยวิธีการอดอาหารและกินยาลดความอ้วน ส่วนเป้าหมายหลักในการลดเพื่อดึงดูดเพศตรงข้าม คิดเป็น 71%
ทั้งนี้จากการวิจัยพบว่านักศึกษายังมีความรู้ทางด้านโภชนาการที่ไม่ถูกต้องอยู่ ทำให้มารีฟรานซ์ตระหนักเห็นถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าวนี้ จึงเดินหน้าเตรียมจัดงาน “สลิม สมาร์ท บาย มารีฟรานซ์ บอดี้ไลน์” และจัดเสวนาให้ความรู้แก่วัยรุ่นในช่วงอาทิตย์หน้า รวมถึงเตรียมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ “นิหน่า สุฐิตา เรืองรองหิรัญญา” ในฐานะตัวแทนนักศึกษาที่มีน้ำหนักมาก และมีแผนเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ที่เจาะกลุ่มตลาดแมสด้วยในช่วงครึ่งปีหลังนี้
ปัจจุบันมารีฟรานซ์มีฐานสมาชิกอยู่ 50,000 ราย โดยแบ่งเป็นสัดส่วนกลุ่มแมส 60% คุณแม่หลังคลอด 25% ผู้ชาย 3-5% และนักศึกษา 2-3% โดยสิ้นปีคาดว่าจำนวนลูกค้าจะเพิ่มเป็น 80,000 ราย โดยสัดส่วนลูกค้ากลุ่มนักศึกษาคาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 7-8%
สำหรับยอดรายได้ทั้งปีมารีฟรานซ์ตั้งเป้าโตขึ้น 30% ซึ่งช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมายอดรายได้โต 25% จากการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกิจกรรมบีโลว์ เดอะ ไลน์ ส่วนตลาดรวมของสถาบันลดน้ำหนักและกระชับสัดส่วนมีมูลค่า 1,500 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าตลาดรวมจะโตสูงถึง 30% ในส่วนของมารีฟรานซ์คาดว่าปีนี้จะมีแชร์เพิ่มเป็น 58% จากเดิมปีที่แล้วที่มีแชร์ 55%