ข่าวที่สร้างความสลดหดหู่อีกข่าวหนึ่งในรอบสัปดาห์ คือ ข่าว "น้องต้นกล้า" ด.ช.ภูวริช เกษวิชิต วัย 8 ปี ซึ่งเกือบพิการตาบอด แถมมีสภาพ ร่างกายเหมือนศพเดินได้ เน่าเฟะทั้งตัว ซึ่งผลเกิดจากการแพ้ยาในโรคที่ไม่ได้เป็น โดยมารดาได้มา ยื่นฟ้องกระทรวงสาธารณสุข เรียกค่าเสียหาย 11 ล้านบาท จากโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีและโรงพยาบาลยุพราชเวียงสระในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โดยระบุว่า แพทย์วินิฉัยโรค รักษาอาการผิดพลาดและไม่เอาใจใส่ดูแล
ทั้งนี้ นางอัญชลี เกษวิชิต อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104/3 ม.1 ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เดินทางมายื่นฟ้องสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อฟ้องโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง ในข้อหาละเมิด และเรียกค่าเสียหาย 11,800,000 บาท ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539
นางอัญชลี เล่าว่า เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2547 น้องต้นกล้ามีอาการปวดศีรษะ จึงพาไปหาหมอที่โรงพยาบาล แต่ไม่หาย ซึ่งหมอระบุว่าเด็กเป็นโรคลมชัก และให้ยาแก้ชักมากินจนผื่นพุพองขึ้นที่หน้าและหู แต่หมอก็ยังบอกไม่ใช่แพ้ยา ทำให้น้องต้นกล้ามีอาการแพ้ยาอย่างรุนแรง กระทั่งผิวหนังพุพองเป็นแผลทั่วตัว สายตามองไม่ชัดเจน เล็บมือเล็บเท้าหลุดเสียหาย ขนตาทิ่มแทงลูกตา ทุกข์ทรมานจนถึงทุกวันนี้
"น้องต้องนอนโรงพยาบาล 66 วัน ซึ่งทุกครั้งที่ทำแผลน้องต้องดมยาสลบ ปวดทรมาน ซึ่งเมื่อพาไปเช็คที่ ร.พ.ศิริราชผลปกติ ไม่ได้เป็นโรคลมชัก ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เดินทางมายื่นฟ้องที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ในคดีความแพ่ง ซึ่งศาลนัดมารับฟังวันที่ 8 ส.ค.48 ตอนนี้ทุกข์ใจมาก เหตุการณ์เกิดขึ้นมาปีกว่าแล้ว ไม่รู้จะดำเนินไปจนถึงเมื่อไหร่ แต่ยืนยันจะขอต่อสู้เพื่อสิทธิและความถูกต้องให้ลูกชายต่อไป"