1.อาลัยคุณพุ่ม เจนเซน
เมื่อเวลา 17.31 น. วันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และหม่อมเจ้าสิริวัณวรี มหิดล ไปยังเมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส ในการพระราชทานเพลิงศพคุณพุ่ม เจนเซน โอรสในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ พร้อมด้วยคุณพลอยไพลิน และคุณสิริกิติยา เจนเซน เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินขึ้นเมรุ ทรงหยิบกระทงข้าวตอกดอกไม้ วางข้างโกศ และทรงจุดไฟ ธูป เทียน ดอกไม้จันทน์ที่ชนวน ชาวพนักงานประโคมแตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ แล้วเสด็จลงไปประทับพระราชอาสน์
จากนั้น พระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี คณะรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน ข้าราชบริพาร ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จำนวนหลายหมื่นคน ได้ทยอยกันขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์บนเมรุ โดยทางสำนักพระราชวังได้จัดเตรียมหนังสือที่ระลึกแจกในงานไว้ 2 เล่ม เล่มแรกเป็นประวัติของคุณพุ่ม ตั้งแต่เกิด โดยทูลกกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้นิพนธ์ด้วยพระองค์เอง พร้อมภาพประกอบ ทั้งภาพเดี่ยวของคุณพุ่ม และภาพครอบครัว บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของคุณพุ่ม รวมถึงอาการโรคออทิสติก การเลี้ยงดู การรักษา และพัฒนาการต่าง ๆ ของคุณพุ่ม ที่สำคัญคือมีสำเนาอีเมลฉบับสุดท้ายที่คุณพุ่มส่งถึงพระมารดาในคืนวันคริสต์มาส วันที่ 25 ธันวาคม 2547 ก่อนที่เช้าวันรุ่งขึ้นจะเกิดเหตุคลื่นยักษ์สึนามิเข้าถล่มบริเวณที่พัก จนคุณพุ่มถึงแก่อนิจกรรม นอกจากนี้ ยังมีคำไว้อาลัยพระราชทานจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีด้วย ส่วนหนังสืออีกเล่มเป็นนิตยสารพลอยแกมเพชร ฉบับวันที่ 30 เมษายน 2548 ในเล่มมีเรื่องราวของคุณพุ่ม และเรื่องราวต่าง ๆ ที่บุคคลใกล้ชิดเขียนถึงคุณพุ่ม นอกจากนี้ ยังมีซองบรรจุภาพคุณพุ่มในอิริยาบถต่าง ๆ และมีข้อความเป็นลายพระหัตถ์ของทูลกกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ว่า ขอขอบใจทุกคนที่รักน้องพุ่ม และขอให้น้องพุ่มอยู่ในดวงใจของทุกคนตลอดไป มอบให้เป็นที่ระลึกแก่ผู้ที่มาร่วมงานพระราชทานเพลิงศพในครั้งนี้ด้วย
ก่อนหน้านั้น ได้มีพิธีบำเพ็ญกุศลพระราชทานในการออกเมรุ ณ ศาลาสหทัยสมาคม และเชิญโกศศพคุณพุ่ม ไปยังเมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี คุณพลอยไพลิน เจนเซน และคุณสิริกิติยา เจนเซน ไปยังศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อเวลา 13.33 น. ในการนี้ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยานายกรัฐมนตรี นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คุณหญิงณฐนนท ทวีสิน ปลัดกรุงเทพมหานคร เฝ้าฯ รับเสด็จ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชา กระบะมุก พระสงฆ์ 10 รูป สวดมาติกา เสร็จแล้วทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์บังสุกุล ทรงหลั่งทักษิโณทก ขณะที่ด้านนอก นายจำริต ขันทอง อายุ 59 ปี กองพระราชพาหนะ สำนักพระราชวัง ผู้ขับรถวอจตุรมุข ทะเบียน รยล.736 จอดตั้งแถวเตรียมเคลื่อนขบวนเชิญโกศศพคุณพุ่ม เจนเซน ตามด้วยรถยนต์ทะเบียน รยล.893 ซึ่งนักเรียนนายร้อย 4 เหล่าทัพ เชิญหีบศพขึ้นรถ ต่อจากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี คุณพลอยไพลิน เจนเซน และคุณสิริกิติยา เจนเซน ประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จตามกระบวนรถยนต์เชิญโกศศพไปยังเมรุหลวงหน้าพระพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส
สำหรับริ้วขบวนเชิญโกศศพจากศาลาสหทัยสมาคม ไปยังวัดเทพศิรินทราวาส ประกอบด้วย ตำรวจม้า 10 นาย โดยม้านำขบวนเป็นม้าที่คุณพุ่ม เคยขี่เป็นประจำ ชื่อไนกี้ ตามด้วยรถตำรวจ รถพระนำศพ รถวอจตุรมุขเชิญโกศศพ และตามด้วยรถยนต์พระที่นั่ง เส้นทางเคลื่อนขบวนผ่านประตูเทวาภิรมย์ ไปตามถนนมหาราช ถนนท้ายวัง ถนนสนามไชย ถนนบำรุงเมือง ถนนกรุงเกษม เข้าสู่วัดเทพศิรินทราวาส ทางประตูด้านใต้ โดยมีประชาชนมาเฝ้ารับเสด็จฯ และไว้อาลัยคุณพุ่มตลอดทางที่ขบวนเคลื่อนผ่าน
กระทั่งเวลา 14.45 น. ริ้วขบวนเชิญโกศศพถึงวัดเทพศิรินทราวาส เชิญโกศศพแห่เวียนรอบเมรุ 3 รอบ เจ้าพนักงานประโคมแตร ปี่ กลองชนะ จนครบ 3 รอบ แล้วเชิญศพขึ้นจิตกาธาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงทอดผ้าไตร 1 ไตร สำหรับพระนำศพที่จิตกาธาน
สมเด็จพระเทพฯ ทรงเก็บอัฐิและอังคารคุณพุ่ม
ในหลวงพระราชทานจุมพิตปลอบพระทัยทูลกระหม่อมฯ
หนังสือที่ระลึกในพิธีพระราชทานเพลิงศพคุณพุ่ม เจนเซน
“บ้านคุณพุ่ม” สถานพยาบาลดูแลเด็กออทิสติก อีก 2 ปีแล้วเสร็จ
ประมวลภาพขบวนเชิญโกศ "คุณพุ่ม" จากศาลาสหทัยฯ สู่วัดเทพศิรินทร์ฯ
ขบวนเชิญโกศ "คุณพุ่ม" ถึงวัดเทพศิรินทราวาสแล้ว
ตร.พร้อมอำนวยความสะดวกขบวนเชิญโกศศพคุณพุ่ม
นครบาลตรียมพร้อม งานพระราชทานเพลิงศพ"คุณพุ่ม"
นำ“ไนกี้”ม้าตัวโปรด“คุณพุ่ม”ร่วมขบวนเคลื่อนศพ
2. หม่อมศรีรัศมิ์ฯ มีพระประสูติการพระโอรส
เมื่อ เวลาประมาณ 16.55 น. วันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินยังศาลาศิริราช 100 ปี พร้อมหม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา จากนั้นทรงสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ด้านหน้าศาลาศิริราช 100 ปี และทรงสักการะพระบรมรูปสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ภายในศาลาศิริราช 100 ปี โดยมี ศ.นพ.สุชัย เจริญรัตนกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะแพทย์โรงพยาบาลศิริราชเฝ้ารับเสด็จฯ จากนั้น เวลา 17.25 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี เสด็จฯ ยังโรงพยาบาลศิริราชด้วย
จากนั้นเมื่อเวลา 18.40 น. วันที่ 29 เมษายน 2548 สำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง หม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร มีครรภ์ ฉบับที่ 2 ว่า ตามที่สำนักพระราชวังได้มีแถลงการณ์เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2548 ว่า หม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา ได้มีครรภ์และคาดว่าจะมีพระประสูติการ ประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2548 บัดนี้ หม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา เริ่มมีอาการเจ็บครรภ์ คณะแพทย์ได้เฝ้าอาการมาโดยตลอดและมีความเห็นพ้องกันว่าการประสูติไม่เป็นไปตามปกติ สมควรผ่าตัด โดยพระบรมราชานุญาต จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. สำนักพระราชวังได้นำพระฤกษ์พระประสูติการมาติดประกาศ โดยระบุว่า พระโอรสในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร หม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา ประสูติวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พุทธศักราช 2548 เวลา 18 นาฬิกา 35 นาที 00 วินาที น้ำหนัก 2,680 กรัม ความยาวพระองค์ 47 เซนติเมตร พระเศียร 31 เซนติเมตร ลืมพระเนตรเวลา 19.00 นาฬิกา พระเนตรโต พระนาสิกโด่ง APCAR8,9 (ค่าความแข็งแรงของพระโอรส โดยบ่งบอกสุขภาพนาทีที่หนึ่ง 8 คะแนนและนาทีที่ห้า 9 คะแนน ซึ่งหากวัดค่าได้มากกว่า 7 คะแนน บ่งชี้ว่าสุขภาพมีความแข็งแรง) น้ำหนักสายพระสกุล 550 กรัม
จากนั้นสำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 3 ความว่า คณะแพทย์ได้ถวายพระประสูติการด้วยการผ่าตัด พระโอรสมีพระประสูติการเมื่อเวลา 18.35 น.วันศุกร์ที่ 29 เมษายน 2548 ทรงมีน้ำหนัก 2,680 กรัม พระโอรสและหม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา มีพระพลามัยและพลามัยแข็งแรงสมบูรณ์ดี เป็นที่พอใจของคณะแพทย์ที่ถวายการผ่าตัด
นายกฯเผย พสกนิกรปลื้มปิติ“หม่อมศรีรัศมิ์”มีพระประสูติการพระโอรส
พสกนิกรชาวไทยร่วมลงนามถวายพระพรพระโอรสฯ
แถลงการณ์สำนักพระราชวัง "หม่อมศรีรัศมิ์" มีครรภ์ ฉบับที่ 2
ประชาชนทยอยลงนามถวายพระพร "พระโอรส" อย่างต่อเนื่อง
ประมวลภาพ "พระโอรส" ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร และหม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา (ชุดที่2)
3. “อภิสิทธิ์”ซาบซึ้ง-รับโปรดเกล้าฯ ขึ้นเป็นผู้นำฝ่ายค้าน
เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร มายังพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รับพระบรมราชโองการ พร้อมทั้งแกนนำ ส.ส. และสมาชิกพรรคกว่า 50 คนเข้าร่วมแสดงความยินดี โดยนายอภิสิทธิ์ ได้ระบุว่ารู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ และจะทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านให้เป็นประโยชน์สูงสุด เนื่องจากฝ่ายค้านเป็นกลไกที่สำคัญมากในการเมืองระบอบประชาธิปไตย
นอกจากนี้ยังยืนยันว่าจะทำหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ โดยต้องมองกว้าง มองไกล และมองให้ครบทุกด้าน เพราะการเมืองในหลายเรื่องกลายเป็นแค่ประเด็นถกเถียงวันต่อวันเท่านั้น จึงอาจจะมีบางอย่างที่ถูกละเลยไป ทำให้ฝ่ายค้านต้องขยัน ต้องทำงานอย่างเข้มข้น และรับผิดชอบ
“มาร์ค”ซาบซึ้ง-รับโปรดเกล้าฯ ขึ้นเป็นผู้นำฝ่ายค้าน
4. “ทรท.-มหาชน”อุ้ม“พายัพ”พ้นผิดเสียบบัตรผี
หลังจากที่ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหานายพายัพ ปั้นเกตุ ส.ส.สิงห์บุรี พรรคไทยรักไทย ว่ากดบัตรลงคะแนนแทนกันในการประชุมสภา จนเป็นเหตุให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนกรณีดังกล่าวโดยแต่งตั้งให้นางลลิตา ฤกษ์สำราญ รองประธานสภาฯ เป็นฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว ซึ่งล่าสุด นางลลิตาได้ออกมาแถลงผลสอบ โดยอ้างว่าจากการพิจารณาพยานหลักฐาน และพยานบุคคล ซึ่งมีทั้งเอกสาร และเทปบันทึกภาพของทางรัฐสภา จึงได้ข้อสรุปว่านายพายัพไม่ได้กดบัตรลงคะแนนแทนบุคคลอื่นด้วยมติ 3 ต่อ 2 เสียง ซึ่งเสียงข้างมากประกอบด้วย เสียงส่วนตัว 1 เสียง นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ กรรมการในส่วนของพรรคไทยรักไทย และนายตุ่น จินตะเวช กรรมการจากพรรคมหาชน ส่วนกรรมการเสียงข้างน้อยคือ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จากพรรคชาติไทย และนายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ จากพรรคประชาธิปัตย์ โดยจะรายงานให้นายโภคิน พลกุล ประธานสภาฯ วินิจฉัยต่อไป
ด้านนายนิพิฎฐ์ ออกมาตำหนิว่า ขนาดมีการยอมรับว่ากดบัตรแทนกัน แต่กลับหาคนผิดไม่ได้ แล้วจะไปตรวจสอบเรื่องใหญ่ๆ อย่างการทุจริตเครื่องตรวจระเบิดของสนามบินหนองงูเห่าในสหรัฐได้อย่างไร ขณะเดียวกับที่ น.ส.รังสิมา ชี้ชัดว่าการที่นายพายัพพ้นผิดนั้น เพราะเป็นการช่วยพวกพ้องของตัวเอง พร้อมยืนยันว่าไม่เคยกลัวหากจะถูกฟ้องกลับ เพราะเรื่องเกิดขึ้นกลางสภา แต่กลับหาคนผิดไม่ได้ ทำให้นางลลิตา ออกมาตอบโต้ว่าการวินิจฉัยเป็นไปตามพยาน และหลักฐาน และไม่ได้ช่วยให้นายพายัพพ้นผิดแต่อย่างใด
“ลลิตา”โต้ไม่ได้ช่วย“พายัพ”ยันตัดสินไปตามหลักฐาน
“มหาชน”เดือด!“ตุ่น”โหวตช่วย“พายัพ”พ้นผิดกดบัตรผี
"ทรท.-มหาชน"แท็กทีมอุ้ม"พายัพ"พ้นผิดเสียบบัตรผี
5. จับโกง“หนองงูเห่า”ยังวุ่น!“ฝ่ายค้าน-รัฐบาล”ซัดกันนัว
หลังจากที่มีข่าวออกมาว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ทุจริตการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด (CTX) เพื่อใช้กับระบบตรวจสอบกระเป๋าสายพานลำเลียงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งผลให้นายสุริยะ ออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่าจะรับผิดชอบทุกอย่างหากพบการทุจริต พร้อมกับชี้แจงว่าราคาอุปกรณ์จริงแค่ 1,400 ล้านบาท ส่วนอีก 4,300 ล้านนั้นเป็นงบขยายสายพาน ซึ่งไม่ใช่และตัวอาคารที่ใช้สำหรับทดสอบเมื่อตรวจพบวัตถุระเบิด รวมทั้งยังอ้างถึงบริษัทจีอีอินวิชั่นออกมาการันตีว่าไม่พบการทุจริต ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมายืนยันว่าไม่มีการทุจริตในการจัดซื้ออุปกรณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด เพราะบริษัทอินวิชั่นซื้อของผ่านนายหน้าคือ บริษัทแพทริออต ซึ่งไม่เกี่ยวกันชัดเจน รอคำยืนยันจากสหรัฐ และที่ต้องออกมาพูดเพราะประเทศไทยได้รับความเสียหาย
นายสุวโรช พะลัง ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ออกมาแฉคำฟ้องศาลแคลิฟอร์เนียว่าไม่ตรงกับคำพูดของฝ่ายบริหาร โดยยืนยันว่าจะยื่นเรื่องให้กับนายโภคิน พลกุล ประธานสภาฯ เพื่อขอให้อนุมัติความร่วมมือให้กับคณะ กมธ.เดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจะไปศึกษากระบวนการยุติธรรม ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาเบรก พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งฟันธงว่าไม่มีการทุจริตนั้น ไม่สามารถหักล้างข้อมูลของสหรัฐได้ เนื่องจากเป็นการตรวจสอบกันเองภายใน พร้อมเรียกร้องให้เปิดเผยข้อเท็จจริงทั้งหมดโดยเร็วที่สุด
ปชป.งัด 8 คำถามจี้“ทักษิณ”เอาจริงจับโกง“หนองงูเห่า”
“แม้ว” โบ้ยเจ้ากรมข่าวลือ ตีดัมมี่แทง “สุริยะ” หลุดตำแหน่ง
“ชวน”ติงนายกฯใจร้อนด่วนสรุป“สุริยะ”ไม่เกี่ยว
ลือ“แม้ว”เตรียมปรับครม.เว้นวรรค“สุริยะ”ลบภาพโกง
6. “เสธ.หนั่น”ผงาด!นั่งหัวหน้าพรรคมหาชนตามคาด
ท้ายสุด พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตประธานที่ปรึกษาพรรค ก็ขึ้นนั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคไปตามคาดการณ์ เมื่อที่ประชุมได้ได้พิจารณาเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่แทนชุดเก่าที่หมดวาระลงโดย พล.ท.บุญยัง บูชา กรรมการบริหารพรรค ได้เสนอชื่อ พล.ต.สนั่น เป็นหัวหน้าพรรค โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งมีกรรมบริหารพรรคหลายคนต่างแสดงความเห็นสนับสนุน อีกทั้งไม่มีใครเสนอชื่อผู้อื่นเข้าแข่งขัน ในที่สุดที่ประชุมได้ลงมติให้ พล.ต.สนั่น เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เลือกรองหัวหน้าพรรค 7 คน รองเลขาธิการพรรค 3 คน เหรัญญิก 1 คน โฆษกพรรค 1 คน และกรรมการบริหารพรรคอีก 32 คน โดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใกล้ชิดกับ พล.ต.สนั่น และมาจากสายปากน้ำของนายวัฒนา อัศวเหม สำหรับ ส.ส.ของพรรคทั้งสองคนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการบริหารพรรคด้วย ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรค ได้เว้นเอาไว้ก่อน เพื่อรอผลการหารือกับ พล.ต.สนั่น ซึ่งควรให้ พล.ต.สนั่น เป็นผู้คัดเลือกโดยระหว่างนี้ให้นายอรรคพลรักษาการไปก่อน พร้อมกับแต่งให้ตั้งนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค และคณะที่ปรึกษาพรรคอีก 50 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักวิชาการ และนักธุรกิจบางส่วน
“อินทิรา" ปัดจัดฉากดัน "เสธ.หนั่น" นั่งหัวเรือ "มหาชน"
“เสธ.หนั่น”ยังเหนียมเก้าอี้หัวหน้าพรรค ขอ 2 วันทำใจ
ตามคาด “เสธ.หนั่น” นั่งหัวหน้าพรรคมหาชน
“เสธ.หนั่น”ไม่หวั่น!ยันเดินหน้าทำ“พรรคมหาชน”ต่อไป
7.เพลิงโหมตึกใบหยก1
เวลา 12.45 น.วันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่อาคารใบหยก 1 ถนนราชปรารถ เขตพญาไทย กทม. โดยมีผู้ได้ยินเสียงระเบิดขึ้นที่ห้องควบคุมไฟฟ้าใหญ่ของตัวอาคาร ซึ่งอยู่ที่ชั้น 4 โดยตัวต้านทานค่าได้ระเบิด เนื่องจากทนความร้อนไม่ไหว และเกิดกลุ่มควันขึ้น เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือสำลักควัน
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมกำลังพร้อมรถน้ำไปยังที่เกิดเหตุ และสั่งการปิดถนนรอบบริเวณตัวอาคารทั้งหมด โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ได้ทำการทุบกระจกด้านหน้าตัวอาคาร และฉีดน้ำเข้าไปหล่อเลี้ยงเพื่อควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง ได้ลากสายฉีดน้ำ เดินเข้าไปในตัวอาคาร เพื่อควบคุมเพลิงภายใน และในเวลาไม่นาน ก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยไม่มีการลุกลามไปยังห้องข้างเคียง
หลังเกิดเหตุ ผู้คนที่พักอาศัยในอาคารตึกใบหยก 1 และบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ค้าขายเสื้อผ้า ต่างแตกตื่น และวิ่งหนีลงมา มีบางส่วนที่เดินลงมาทางบันไดหนีไฟด้านหลังอาคารไปยังบริเวณลานจอดรถ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน มีกลุ่มควันสีดำ พวยพุ่งออกมาจากตัวอาคารบริเวณชั้น 6 ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปดับเพลิงอีกครั้ง และต่อมา นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. ได้ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อันตราย ในขณะที่วันรุ่งขึ้นทางสำนักงานเขตราชเทวี ได้ออกประกาศสั่งปิดตึกใบหยก 1 เป็นเวลาถึง 45 วัน แต่ภายหลังผ่านไปได้เพียงวันเดียว ก็ยกเลิกประกาศดังกล่าว
ตำรวจเร่งสอบพยานสรุปเหตุเพลิงไหม้ใบหยก
ตึกใบหยก1กลับสู่ภาวะปกติแล้ว-อนุญาตผู้ค้าสำรวจความเสียหาย
“ปธ.กลุ่มใบหยก”ยัน สปริงเกอร์ ทำงานทันควัน หลังเหตุเพลิงไหม้
ประกาศ “ตึกใบหยก 1” เป็นเขตอันตราย!
หม้อแปลงบึ้มจนเกิดเพลิงไหม้ตึกใบหยก1แต่ควบคุมได้แล้ว