xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ ก.ล.ต.ซื้อเวลาเลื่อนช้างเข้าตลาดหุ้น เชื่อรูปเตือนบนซ่องบุหรี่ช่วยลด"ขี้ยาขาจร"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รายการก่อนจะถึงวันจันทร์ ออกอากาศทางช่อง 11 News 1 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 21.05-22.30 น. ดำเนินรายการโดยสำราญ รอดเพชร คำนูณ สิทธิสมาน และสโรชา พรอุดมศักดิ์

สโรชา- - สวัสดีค่ะ คุณผู้ชม ขอต้อนรับเข้าสู่รายการก่อนจะถึงวันจันทร์ค่ะ วันนี้เปิดรายการด้วยความเก่งกาจสามารถของน้องๆเด็กไทยนะคะ จากโรงเรียนพาทยกุลการดนตรีและนาฏศิลป์ค่ะ จริงๆท่านผู้ชมที่ดูอยู่ ถ้าเกิดอยากให้ลูกหลานเก่งอย่างน้องๆที่มาวันนี้ สามารถที่จะให้มาเข้าหลักสูตรฤดูร้อนนี้ได้ โดยจะมีหลักสูตรวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคมถึงวันที่ 21 เมษายนนี้ค่ะ เช่นเคยค่ะกับก่อนจะถึงวันจันทร์ วันนี้มีเรื่องที่ต้องคุยกันหลายต่อหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำเมา น้ำมัน รวมไปถึงเรื่องวุ่นๆในการเมือง ที่ดูเหมือนว่าถึงแม้ว่าจะเปิดสภาแค่นัดแรกก็วุ่นเสียแล้ว กลับมาพบกับเราทั้ง 3 คนเช่นเคยค่ะ คุณสำราญ รอดเพชร คุณคำนูณ สิทธิสมาน และดิฉันสโรชา พรอุดมศักดิ์ค่ะ

สำราญ , คำนูณ – สวัสดีครับ

สโรชา – มาเริ่มกันด้วยเรื่องอะไรดี เรื่องเบียร์ช้างก่อนเลยไหม เขาถกเถียงกันเยอะ แล้ววันศุกร์นี่คุยกับคุณสนธิ ก็ได้แง่มุมต่างๆเยอะเหมือนกัน

สำราญ – ผลโหวตเป็นอย่างไรนะ โหวตประเด็นนี้หรือเปล่า

สโรชา – โหวตประเด็นนี้ แล้วก็ค่อนข้างจะก้ำกึ่งกัน ก็ 50 กว่า 40 กว่าประมาณนี้ คือก็ไม่ทิ้งห่างกันมากนัก กับการเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยนะคะ กับการเข้าตลาดของเบียร์ช้าง เป็นอย่างไรแล้ว ตกลงตลาดเขาจะประชุมใช่ไหม วันที่ 23 นี้

สำราญ – เขาจะประชุมชี้ขาดกันก็ในวันที่ 23 นะ แต่ผมว่าเผลอๆไม่ได้ชี้ขาดหรอก

สโรชา – ทำไมล่ะ

คำนูณ – ซื้อเวลา

สำราญ – ซื้อเวลาออกไปนะ ด้วยการรอข้อมูลหรืออะไรซักอย่าง

คำนูณ – เห็นว่าอาจจะโยนกลับไปให้ กลต. พิจารณาใหม่

สโรชา – สายที่ดิฉันได้รับทราบมาก็ประมาณนี้เหมือนกัน ใช่ไหมครับ

คำนูณ – คือ กลต. นี่เขาอ้างว่า ได้มีมติไว้ตั้งแต่ปี 2538 ทีนี้เมื่อเกิดมีการคัดค้านขึ้นมามากนี่ กรรมการตลาดคงไม่ตัดสินวันที่ 23 นี้หรอก ก็อาจจะบอกว่าตั้งแต่ปี 2538 มันก็ตั้ง 10 แล้ว อย่างกระนั้นเลย กลต. ลองกลับไปทบทวนดูอีกทีดีไหม

สโรชา – ยังยืนยันอย่างนั้นหรือเปล่า

สำราญ – ถ้ายืนยันก็จะได้ว่ากันอย่างนั้นต่อไป

สโรชา – พูดง่ายๆว่าโยนกลับไปให้ กลต. ตัดสินใจ

สำราญ – ผมดูอย่างนี้นะ คือเหตุผลก็โอเคที่เถียงกันทั้ง 2 ฟาก 2 ฝ่าย ตอนนี้นี่ใครถูกใครผิดก็ว่ากันไปนะ คือมันเถียงกันไม่จบในเชิงข้อมูล มันอยู่ที่ว่าใครจะยืนข้างไหนอย่างไร แล้วก็พูดกันถึงมิติไหนอย่างไร ก็วันนี้ก็อย่างที่วุฒิสภาเขาอภิปรายกันนะ ไปกันเยอะเหมือนกัน 400-500 คน ก็ดำเนินการ แล้วก็เขาจะเดินสาย คือผมเชื่อว่ากระบวนการคัดค้านนี่ก็คงจะแข็งแรง แข็งขันอยู่พอประมาณ เที่ยวนี้นะ แล้วสามัคคีกันทุกฝ่าย ทั้งเที่ยวนี้สันติอโศก ธรรมการ พระพยอม ใครต่อใครคือเป็นหนึ่งเดียว ค่อนข้างนะ ค่อนข้างจะเป็นหนึ่งเดียวกัน

สโรชา – ภาพนี้ไม่ค่อยจะได้เห็นนะ พระไปที่ตลาดหลักทรัพย์นี่

สำราญ – คือ 23 ก็ไปอีกแน่ ทั้งฆราวาส ทั้งผ้าเหลือง ทั้งผ้าอะไรก็แล้วแต่ แล้วผมเชื่อว่าจะมากกว่าเมื่อวันศุกร์ ทีนี้อย่างที่คุณคำนูณว่าคือ ตลาดเองวันที่ 23 มีนาคมนี่ ผมว่าน่าจะยังไม่มีมติอะไรออกมาชี้ขาด คือเขาจะเคลื่อนไหวถึงขั้นที่ว่า ใครมีญาติโยมที่รู้จักกับบอร์ดทั้ง 11 คนนี่นะ ที่จะประชุมวันที่ 23 ก็ให้ไปเคลื่อนไหว

สโรชา – ให้ไปล็อบบี้เสีย

สำราญ – ไปขอร้อง ร้องขออะไรก็แล้วแต่ เขาก็มียุทธวิธีของเขานะ

สโรชา – แต่ดูท่าทางคณะกรรมการตลาดเองก็ยังก้ำกึ่งพอสมควร แสดงว่าน่าจะออกมาในรูปว่า โยนกลับไปที่ กลต.

สำราญ – ก็คงจะเป็นอย่างนั้น

คำนูณ – คือตลาดก็ไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้ ก็คงงงเหมือนกัน

สำราญ – ก็เลยไม่รู้จะพูดประเด็นไหน เรื่องของน้ำเมา

สโรชา – เอาส่วนตัวนิดนึงนะ ถามว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย คือบางคนเขาก็ว่ามันก็มีเหตุผล สิ่งที่หลายๆท่านออกมาคัดค้าน ว่าโอเคมันอาจจะส่งเริมนะ ทำให้คนมึนเมากันมากขึ้นนะ เพราะว่ามีเงินที่จะมาโฆษณาอะไรมากขึ้น ต้นทุนลดลง ขายได้ราคาถูกขึ้น แต่บางคนเขาก็บอกว่าไม่เห็นเกี่ยว คือจริงๆเขาจะถูกลง หรือเขาจะโฆษณายังไงนี่ ก็ไม่เกี่ยวกับการที่เขาจะเข้าไประดมทุนใสนตลาดหลักทรัพย์

สำราญ – ผมนี่โดยส่วนตัว พูดไปคนก็คงหมั่นไส้นะ คือผมไม่เชื่อว่าเข้าหรือไม่เข้าตลาดมันจะเป็นประเด็นที่ชี้ขาดว่าเยาวชนคนรุ่นใหม่ๆ จะต้องติดเหล้าเมายากันมากขึ้น มันอยู่ที่เหตุปัจจัยอื่นๆมากกว่า คืออย่างน้อยเรื่องการของรณรงค์การคัดค้าน เรื่องของการซื้อการขายนี่ก็เป็นเรื่องหนึ่งนะ ที่จะหยุดยั้ง หรือว่าจะทำให้มันทุเลาเบาบางลงไปได้ ไม่ใช่ว่าเบียร์ช้างเข้าตลาดแล้ว มีเงินในการโฆษณาอะไรต่างๆมากขึ้น ก็จริงนะ แต่ว่ามันก็ไม่ใช่ประเด็นที่ชี้ขาด ประเทศนี้เมาหนักแน่ แต่ถามว่าดีไหมถ้าให้เหล้ามันลดน้อยลงจากสังคมนั่นดี แล้วสังคมก็ควรจะมีทิศทางเป็นอย่างนั้น คือต้องรณรงค์ว่าคนรุ่นใหม่รุ่นหลังนะ ควรจะติดเหล้าน้อยลง ควรจะมาเสพสุขเรื่องแบบนี้น้อยลง

สโรชา – ก็คือควรจะรณรงค์เสีย แต่ว่าเขาจะเข้าตลาดหรือไม่เข้าตลาด จริงๆแล้วไม่น่าจะเป็นประเด็น

สำราญ – ไม่น่าจะเป็นประเด็นเท่าไหร่

สโรชา – คุณคำนูณเห็นด้วยไหมคะ

คำนูณ – สำหรับตัวผมเข้าหรือไม่เข้าก็คงไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ คือถ้าถามส่วนตัวจริงๆนะ ไม่เดือดร้อนน่ะ เข้าก็ได้ ไม่เข้าก็ได้ คือกลุ่มที่ออกมารณรงค์นี่เหมือนกับว่า จะใช้กรณีนี้เป็นสัญลักษณ์ที่จะรณรงค์ทางด้านคุณธรรมต่อไป แล้วเห็นว่ากรณีนี้เป็นกรณีที่สามารถจะระดมมวลชนได้ง่าย ระดมการสนับสนุนได้ง่าย ก็เลยหยิบยกมาเป็นสัญลักษณ์อะไรซักอย่างหนึ่ง แต่มันไม่ได้ความว่าสมมุติว่า เบียร์ช้างไม่เข้าตลาดแล้ว เหล้าเบียร์มันจะหมดไปจากประเทศไทย มันก็มีเท่าเดิม อาจจะมีมากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป

แล้วก็ไม่ใช่ว่าเบียร์ช้างเขาจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้ เขาอาจจะเข้าตลาดไทยวันนี้ไม่ได้ พรุ่งนี้เขาอาจจะไปเข้าตลาดสิงคโปร์ ตลาดฟิลิปปินส์ เขาก็ระดมทุนได้อยู่ดี ผมก็เลยไม่เข้าใจว่าที่ออกมารณรงค์กันนี่คืออะไร รณรงค์ไม่ให้เบียร์ช้างเข้าตลาด หรือว่ารณรงค์ไม่ให้คนกินเหล้า รู้สึกว่าจะเป็นประเด็นรณรงค์ไม่ให้เบียร์เข้าตลาด ซึ่งผมว่ามันน่าจะเป็นคนละประเด็นกับการรณรงค์สร้างคุณธรรม จริยธรรมในสังคมไทยโดยรวมนะครับ

แต่ว่าถ้าให้วิเคราะห์แล้วนี่ก็คือว่า ก็คือว่าเป็นการระดมพลซึ่งสามารถสร้างแนวร่วมได้อย่างกว้างขวาง เพราะว่าเงินเยอะครับ คือเมื่อวันศุกร์คุณสนธิพูดถึงประเด็นศูนย์คุณธรรม ผมก็ไปค้นมาดูว่าศูนย์คุณธรรม ท่านพลตรีจำลอง ศรีเมือง ท่านเป็นประธาน ศูนย์คุณธรรมนี่เป็น 1 ใน 8 โครงการที่เขาเรียกว่ากระตุกต่อมคิดของสังคมไทย มีศูนย์คุณธรรม มีศูนย์การเรียนรู้ ห้องสมุดที่มีชีวิต พิพิธภัณฑ์นะครับ หลายอย่าง งบประมาณทั้งปีทั้ง 8 โครงการนี้ ตกประมาณ 4.1 พันกว่าล้านบาท เฉพาะในศูนย์คุณธรรมได้งบประมาณมา 226 ล้านบาท

อันนี้ในส่วนของเฉพาะศูนย์คุณธรรม ที่พลตรีจำลอง ศรีเมืองเป็นประธาน และก็มีผู้อำนวยการศูนย์ท่านหนึ่ง เป็นคนจากเครือข่ายสันติอโศก แต่ว่าในส่วนของศูนย์คุณธรรมนี่ ก็จะมีทุกศาสนา เฉพาะศาสนาพุทธก็มีทุกนิกายเข้ามาร่วมกัน ถ้าย้อนไปนี่เมื่อตอนต้นปี หรือปลายปีที่แล้ว มีการรณรงค์เรื่องรับฟังแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยศาสนิกทุกศาสนานี่นะ ก็พลตรีจำลองก็ออกมา แล้วถ้าจำได้นี่ก็จะเริ่มมีเสียงโวยวายออกมาจากท่านพระกิตติศักดิ์ บอกว่าพลตรีจำลองนี่เอาคุณธรรมนี่ไปกระทำการอะไรบางอย่าง ที่อาจจะเป็นการผูกขาดความคิด

แต่สรุปแล้วนี่มันเป็นโครงการที่เป็นธงใหญ่ ซึ่งก็เงินสนับสนุนจากภาครัฐเหมือนกัน แม้ว่าพลตรีจำลองจะออกมาคัดค้านครั้งนี้ โดยการสวมหมวกกองทัพธรรมมูลนิธิ แต่ว่าเวทีศูนย์คุณธรรมนี่ มันก็สามารถจะทำให้ได้พูดคุยพบปะกัน เพราะฉะนั้นเราจะเห็นกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวหลากหลาย วันก่อนที่รัฐสภานี่ นำโดยคุณธำรงค์ แสงสุริยจันทร์ ก็จะเป็นสันติอโศกนะครับ แต่ว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี่หลากหลาย ไม่ใช่ที่สันติอโศกอย่างเดียว

สำราญ – อย่างวันนี้วุฒิสภา กรรมาธิการศาสนา วัฒนธรรมนี่นะ ที่มีคุณผ่อง เล่งอี้ เป็นประธาน

คำนูณ – อันนี้ก็ธรรมกาย

สำราญ – อันนี้ก็คือชัดๆ ไม่ได้ไปกล่าวหาอะไรนะ คุณผ่องก็ชัดเจนว่าเป็นสำนักไหน

คำนูณ – เป็นสำนักวัดธรรมกาย และก็มีกรรมการของตลาดท่านหนึ่ง ท่านก็ประกาศตัวว่าไม่เห็นด้วยเต็มที่ ก็คือคุณอนันต์ อัศวโภคิน อันนี้ก็ศิษย์คนสำคัญของวัดพระธรรมกาย เพราะฉะนั้นงานนี้มันมีพลัง แล้วอีกหน่อยนี่ที่จะเห็นคือคงไม่ใช่ผ้าเหลืองอย่างเดียว คือคงจะมีศาสนาซิกข์ ศาสนาอิสลามอะไรออกมาเคลื่อนด้วย เพราะฉะนั้นถ้าบอร์ดไม่ลงมติในวันที่ 23 ซื้อเวลาในการโยนกลับไปให้ กลต.นี่ ซื้อเวลาคือไม่ให้ตัวเองโดนด่า

สโรชา – ซื้อเวลานี่นานเท่าไหร่ เป็นเดือนไหม

สำราญ – ผมว่าคงเป็นเดือนล่ะ

คำนูณ – เป็นเดือน กลต. ก็คงลำบากใจ

สโรชา – นิ่งเงียบไปก่อน แล้วก็ค่อยโยน เขาเรียกว่าอะไร เผือกร้อนเหรอ

สำราญ – แล้วก็ค่อยดูอุณหภูมิของประเทศอีกทีหนึ่ง ว่าเป็นอย่างไร

คำนูณ – แต่ว่าก็จะทำให้กระบวนการเคลื่อนไหวคัดค้านนี่ เขาเหมือนได้ผลนะ

สำราญ – แต่เที่ยวนี้คือเขาสามัคคีกันจริงๆนะ คือจะไปประเมินว่าไม่มีพลังนี่ไม่จริง เที่ยวนี้มีพลังเยอะ

คำนูณ – แล้วคนไทยนี่สนับสนุน

สโรชา – จริงเหรอ คนส่วนมากก็ยังก้ำกึ่งอยู่ไม่ใช่เหรอคะ

คำนูณ – คือคนไทยนี่นะ ถ้าไปถามว่าซ่องดีไหม ก็บอกว่าไม่ดี แต่ถามว่าซ่องมันเต็มเมือง แล้วว่าอะไรไหม เข้าไหม ก็ตอบว่าเข้า ไปถามว่าเบียร์เข้าตลาดดีไหมไม่ดี แต่ซื้อกินไหมก็กิน ถามว่าบุหรี่ดีไหม ไม่ดี สูบไหมก็สูบ

สำราญ – แต่ผมว่าคนคงก้ำกึ่งนะ คิดคล้ายๆคุณแอ้มนะ

สโรชา – ใช่ไหมคะ ดิฉันคุยกับหลายต่อหลายท่าน ก็ยังคืออาจจะคิดเหมือนกันว่าอาจจะไม่เกี่ยว

สำราญ – แต่ไม่ได้เถียงว่า ขบวนการที่เคลื่อนไหวนั้นทำสิ่งที่ดีไหม ก็ทำสิ่งที่ดี มันก็แปลกๆดีนะ

คำนูณ – แต่ผมคิดอีกมุมหนึ่งบ้างนี่นะ ธุรกิจผลิตสุรา ผลิตเบียร์นี่ มันถูกกฎหมายไหม ธุรกิจผลิตบุหรี่นี่มันถูกกฎหมายไหม แล้วการที่ธุรกิจประเภทหนึ่ง ธุรกิจแบบหนึ่งเขาเติบโตขึ้นมานี่ เขาต้องการที่จะเข้าไปเทรดในตลาดหลักทรัพย์นี่ มันผิดกฎหมายไหม

สโรชา – ไม่ผิด ในหลักกฎหมายนะคะ พูดถึงในหลักกฎหมายนะ มันไม่ผิด

คำนูณ – แล้วจะเอาหลักอะไรไปห้ามเขาล่ะ นี่ผมถามอย่างไม่รู้จริงๆนะ

สโรชา – หลักจริยธรรม

สำราญ – เพราะว่าบ้านเมืองมันมีหลักกฎหมายอย่างเดียวไม่ได้

คำนูณ – ถ้าตามหลักจริยธรรม ทำไมเราปล่อยให้มีการผลิตแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ล่ะ

สโรชา – เพราะว่าเราเป็นสังคมเสรี

สำราญ – คือมันก็คล้ายๆว่าคุยกันไม่จบ ทำไมต้องผลิตบุหรี่ด้วย บุหรี่ก็ไม่ดี

คำนูณ – ทำไมต้องมาเสียเงินรณรงค์ ติดรูปน่ากลัวๆไว้บนซอง ก็ห้ามมันผลิตมันไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ

สโรชา – จะเวิร์คไหม มีคนถกเถียงกันเยอะ รูปน่ากลัวๆบนซองบุหรี่

สำราญ – คือผมว่าจริงๆนะ คืออย่างสูงสุดคือเราได้ตอบไปแล้วว่า ก็มันเฉยๆน่ะ เข้าก็ได้ ไม่เข้าก็ได้นะ คือไม่เดือดร้อน

สโรชา – เชื่อว่าคนธรรมดาไม่กระทบ

สำราญ – แต่ว่าคือถ้าเขาได้เข้าตลาด เราก็มีวิธีการอื่นที่จะรณรงค์ต่อต้าน แม้กระทั่งวันที่ 25 มีนาคมนี้นะ เริ่มบังคับใช้แล้ว บุหรี่ต้องพิมพ์รูปเตือนบนซอง เป็นการรณรงค์ที่ดีไหม โอเคเสียเงินเสียทองเยอะพอประมาณนะ แต่มันก็คงจะยับยั้งได้พอสมควรเหมือนกัน คนที่จะสูบบุหรี่ใหม่ๆ ขาจรใหม่ๆที่จะวอร์คอินเข้ามาสูบบุหรี่นะ ก็ไม่สูบ

สโรชา – ดิฉันว่าซองที่ใส่ใหม่ๆจะขายดีขึ้น เพราะว่าคนที่ไม่สูบอาจจะไม่เริ่มสูบ คนที่สูบอยู่แล้วถามว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้เปลี่ยนใจและเลิกสูบไหม ดิฉันว่ายาก สิ่งที่เขาจะทำคืออะไร ออกไปซื้อซอง เพราะว่ายี่ห้อดังๆนี่มีทุกยี่ห้อเท่าที่ดิฉันเห็น ก็คือซื้อมาแล้วก็ถ่ายใส่กล่อง เพื่อดูไม่น่าเกลียดอะไรประมาณนั้น แต่ก็คงจะมีผลต่อเยาวชนซึ่งก็ดี แต่ถามว่ารุ่นเราๆอย่างนี้ ถ้าเกิดว่าสูบอยู่แล้ว ดิฉันว่าก็น่าจะช่วยได้

สำราญ – คงไม่มีผลเท่าไหร่ สำหรับคนที่สูบอยู่แล้ว แล้วก็ติดบุหรี่แล้วนะครับ แต่ก็คิดเหมือนกันแหละนะ คือผมพูดจากตัวผมเอง คือผมบังเอิญว่าสูบบุหรี่ อันนี้เรียนท่านผู้ชมตรงๆนะครับ ก็ทำให้เรายับยั้งชั่งใจเล็กๆ ก็มีส่วนนะ

สโรชา – เขาบอกว่าวางอยู่บนโต๊ะนี่ ไม่ทำให้ไม่อยากสูบบุหรี่นะ แต่ทำให้ทานข้าวไม่ลง จะต้องถึงขั้นเก็บใส่กระเป๋า

สำราญ – ก็มีส่วนครับ แต่ก็อย่าใช้งบกันเยอะมากนะ คือทุกวันนี้งบต่อต้านอบายมุขคือผมดูแล้ว คือเริ่มใช้กันเปะปะ

คำนูณ – เมื่อกี๊พูดเฉพาะศูนย์คุณธรรมใช่ไหม ปี 2548 นี่ 226 ล้านนี่ ไม่ต้องพูดถึง สสส.นะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพนี่

สำราญ – นี่ก็ตัวใช้งบเหมือนกัน นี่พูดตรงๆนะ ไม่ได้ว่าคุณหมอประกิต ไม่ได้ว่า สสส. นะ คือเรื่องการใช้งบนี่คุณผู้ชมไม่รู้ ชาวบ้านไม่รู้ แล้วนี่ก็ใช้กันแบบอีรุ่ยฉุยแฉกก็มี ว่างๆค่อยมาว่ากันทีหลัง

สโรชา – แต่ว่าตอนนี้เดี๋ยวไปพักกันซักครู่หนึ่งก่อน ไปฟังเพลงเพราะจากน้องๆนะคะ แล้วเดี๋ยวกลับมาในช่วงต่อไป คงจะต้องมาคุยกันถึงราคาน้ำมัน และเรื่องราวของการเมือง เรื่องราวในสภาซึ่งฮือฮากันมาก จะถูก จะผิด จะยังไง เดี๋ยวกลับมาคุยกันในช่วงต่อไป ซักครู่เดียวค่ะ

*********************************

สโรชา – กลับมาถึงรายการก่อนจะถึงวันจันทร์นะคะ เราไปดูความคิดเห็นของคุณผู้ชมซักนิดนึง คุณดวงจากเชียงรายบอกว่า เห็นด้วยกับการนำเบียร์ช้างเข้าตลาดหุ้น แต่มีข้อแม้ว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ห้ามโฆษณาทางสื่อสารมวลชนค่ะ พระที่ไม่ขอเอ่ยนามนะคะ บอกว่ามันเสียภาพพจน์ของพระ พระไปประท้วงมันไม่ใช่หน้าที่ ควรอยู่วัดปฏิบัติธรรมมากกว่า น่าจะไปตรวจสอบพระที่ไปประท้วง ไม่สมควรอย่างยิ่ง

คุณเปิ้ล จากโคราชค่ะ คิดว่าพลตรีจำลองสร้างกระแส เพื่อให้ตัวเองเป็นจุดเด่น เพื่อไม่ให้ประชาชนลืมท่านหรือเปล่า จากร้อยเอ็ดค่ะ บอกว่าธุรกิจคนไทยกำลังจะเดินไปด้วยดี ทำไมคนไทยถึงต้องมาขัดขวางกัน จากชลบุรีค่ะ บอกว่าประเทศเรามีภัยแล้งรุนแรงอย่างนี้ เราก็รู้แต่เนิ่นๆอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่เตรียมตัวแก้ไขแต่เนิ่นๆ แสดงว่าข้าราชการกระทรวงเกษตรมีการคอร์รัปชั่นนะคะ คุณผู้ชมสามารถที่จะโทรเข้ามาแสดงความคิดเห็นกับเราได้ ที่ 02-6294433 ค่ะ กลับมาคุยกันต่อ เรื่องราวของน้ำมันก็บ้าง

คำนูณ – ก็พรุ่งนี้เขาจะมีการประชุมกันอีกที อีกรอบหนึ่ง แล้วก็คงจะมีมาตรการที่ชัดเจนออกมาว่า คือตอนนี้ลอยตัวยังไงมันลอยแน่ แต่รัฐบาลบอกว่าลอยไม่ได้ ก็ต้องบอกว่าลอยอย่างมีการบริหารจัดการ หรือว่าพยายามที่จะขึ้นไปให้มันใกล้เคียงความจริง แล้วก็ยังอุดหนุนต่อไป เพื่อหวังว่าราคาของตลาดโลกมันจะลงมาบ้าง ตอนนี้ดีเซลที่เติมอยู่ถูกกว่าราคาจริงประมาณซัก 5 บาทกว่าๆถึง 6 บาท ก็เลยมีความเชื่อกันว่า เป็นไปได้ที่รัฐบาลจะตัดสินใจขึ้นไปซัก 3 บาท แล้วก็อุดหนุนต่อไปอีก 3 บาท

แต่ว่าก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า ที่ขึ้นไปอีก 3 บาทเนี่ย จะขึ้นพรวดเดียว 3 บาท ซึ่งหลายฝ่ายก็เห็นด้วยนะ หลายฝ่ายเห็นด้วยกับการขึ้น 5-6 บาทเลยด้วยซ้ำไป หรือว่าจะ 3 บาทก็คือพรวดเดียว 3 บาท เพราะว่าเขาบอกว่า ตลาดนี่ซึมซับแล้วเรื่องข่าวพวกนี้ ขืนไปขึ้นทีละขยักๆนี่มันมีผลกระทบเป็นขยักๆ แต่ว่าก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะขึ้นทีเดียว 3 บาท หรือจะขึ้นสัปดาห์ละบาท หรือว่าเดือนละบาท หรือสัปดาห์ละ 60 สตางค์

สำราญ – ผมว่าเขาคงแสดงความเห็นกันอย่างกว้างขวางนะ คือวันศุกร์เท่าที่นักข่าวเล่าให้ฟัง คือ ดร.สมคิดเองก็ค่อนข้างจะมู้ดดี้พอสมควร คือมีข่าวว่าท่านนายกฯอยู่ญี่ปุ่น และก็ ดร.สมคิดกับนายกฯก็ประชุม พอประชุมแล้วนี่หนังสือพิมพ์ก็มาพาดหัวว่า คล้ายๆประชุมแล้วก็ยังไม่มีข้อสรุป ดร.สมคิดก็ค่อนข้างจะไม่ค่อยพอใจ

สโรชา – คือให้ทุกฝ่ายนี่กลับไปทบทวนกันอีกรอบหนึ่ง แล้วเดี๋ยววันจันทร์มาว่ากันใหม่

สำราญ – ก็เลยประชุมเมื่อวันศุกร์ ก็อย่างที่คุณคำนูณว่า คือมันก็มีอยู่สูตรสองสูตรนะ ว่าจะขึ้นม้วนเดียวจบ 3 บาทเลย

สโรชา – หรือว่าจะขึ้นละ 60 สตางค์ถึงบาทนึง

สำราญ – แต่ว่ามันไม่ควรจะเกิน 2 ขยักทำนองนี้ จะใช้สูตรไหน

คำนูณ – เข้าใจว่าเรื่องที่จะขึ้นไปทีเดียว 5 บาท 60 หรือ 5 บาท 40 นี่คงไม่ใช่ ก็คงจะแบบว่าขึ้นไปซักครึ่งหนึ่ง แต่ว่าครึ่งหนึ่งที่จะขึ้นไปนี่ จะขึ้นพรวดเดียวหรือว่าขึ้นทีละบาท

สำราญ – ถ้าดูอารมณ์ หรือว่าการหยั่ง หรือความคิดของท่านรัฐมนตรีพลังงาน คุณวิเศษ จูภิบาลนี่นะ ท่านก็บอกว่าขึ้นบาทหรือ 3 บาทนี่ ผลทางจิตวิทยาไม่ต่างกันมากนัก แต่นักวิชาการหลายท่านบอกว่ามันต่างกันนะ 3 บาทคือบางทีมันช็อกซีนีม่าเกินไป ทำนองนี้นะ ถ้าผ่าครึ่งยังดีกว่า 1.50 บาท และก็อีก 1.50 หรืออะไรก็แล้วแต่

สโรชา – แต่ว่าผลทางจิตวิทยาที่เขาบอกว่า มันจะมีผลเป็นขยักๆอย่างที่คุณคำนูณว่า ว่าโอเคล่ะขึ้น 1.50 มันก็มีผล แล้วไปขึ้นอีกมันก็มีผลอีก สู้ขึ้นทีเดียว 3 บาท 3.50 จบเห่ ไม่ต้องคุยกันต่อ มันน่าจะดีกว่า

สำราญ – ก็แล้วแต่ อันนี้เราคิดไง ชาวบ้านคิด แต่ว่ารัฐบาลจะคิดอย่างไร ต้องดูกันพรุ่งนี้ มะรืนนี้ ซึ่งดูท่าทีท่านนายกฯที่พูดเมื่อวันเสาร์นี่ก็ยังไม่ชัดเจนนะ

สโรชา – ท่านนายกฯกลับมาจากญี่ปุ่นแล้วหรือคะ

คำนูณ – ยังครับ พูดมาจากญี่ปุ่น และก็เลยทำให้คนเขายุ่งเหยิงกันไปหมด คือปกติรายการนายกฯพบประชาชนซัดกันชั่วโมงหนึ่ง ทีนี้ซัดมาจากญี่ปุ่นซัดไปเกือบครึ่งชั่วโมง ปรากฏว่าหยุดพูด เลิกรายการ ทีนี้รายการที่เขาถ่ายทอด คือเขาเตรียมว่ายังไง 9 โมง ปรากฏว่าต้องวิ่งกันวุ่น ต้องเข้าก่อนกำหนด คือจริงๆไปเที่ยวนี้ก็ไม่ควรพูดหรอก ความเห็นผมนะ คือถ้าทำหน้าที่จริงๆนะ อย่าไป

สโรชา – เขาก็ต้องมีพักผ่อนกันบ้าง

คำนูณ -ผมนี่ดูโฆษณาคุณเบิร์ดนะ บอกว่าแคมเปญไทยเที่ยวไทย แล้วผู้นำประเทศไม่เที่ยวไทยนี่ผมจะเที่ยวทำไม ผมมีตังค์ผมก็ไม่เที่ยว

สำราญ - ท่านบอกแล้ว ท่านบอกตอนต้นที่พูด ท่านนายกฯบอกว่าอย่างนี้ บอกว่าถ้าอยู่เมืองไทยนี่นะ มันก็ต้องทำงาน แล้วคนนั้นไปหาคนนี้ไปหา ก็เลยขออนุญาต

สโรชา – มันหนีไม่พ้นจริงๆ

คำนูณ – คือคนเรานะ จะไปก็ไปเถอะ แต่ว่าอย่าไปอ้างเหตุผลสนับสนุนการกระทำของตัวเองมากนักเลย คือพูดยังไงมันก็ถูกหมดแหละ

สำราญ – แต่ว่าเราก็อย่าไปว่าท่านนะ เรื่องเที่ยวนิดเดียว

คำนูณ – ผมว่านี่ผิดตรงไหน ป๋าเหนาะยังว่าได้ ทำไมผมว่าไม่ได้

สำราญ – อย่าเพิ่งโยงๆ

คำนูณ – วันนี้ป๋าเหนาะชุดใหญ่เลย

สโรชา – เข้าเรื่องนี้แล้วมันยาว เดี๋ยวจะไม่จบ

สำราญ – คือน้ำมันก็คือสรุปแล้วต้องดูกันพรุ่งนี้ มะรืนนี้ ผมยังเชื่อ ทั้งที่ผมชอบทีเดียว 3 บาทเหมือนกันนะ แต่เราเอาตัวเราเป็นตัววัดไม่ได้ ผมก็เชื่อว่ารัฐบาลคงจะไม่ม้วนเดียวจบ

คำนูณ – รัฐบาลยังไงเขาก็ไม่ม้วนเดียวจบ เพราะว่าอะไรรู้ไหม ไม่ใช่เพราะว่าเหตุผลเพราะว่ามันดีกว่าหรอก เขากลัวมันเสียคะแนนนิยม ปัญหาของการตัดสินใจของรัฐบาลที่มันยุ่งเหยิงมาโดยตลอด เพราะห่วงคะแนนนิยม ปีที่แล้วที่ดึงไว้ปีกว่านะ ก็เพราะว่าจะเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ตอนนี้ก็มันก็กลัวเหมือนกันนะ คะแนนนิยมเมืองไทยมันไม่เหมือนเดโมแครต กับรีพับรีกันนะ มันเป็นกันจนถึงลูกถึงหลาน แต่คนกทม. นี่เวลามันเปลี่ยนใจ มันเปลี่ยนวูบเดียวนะ มันไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อไทยรักไทย ซื่อสัตย์ต่อประชาธิปัตย์

สำราญ – ผมว่าคงดูหลายอย่าง ดูทั้งการเมือง ดูทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจด้วย นี่เรามองแบบกลางๆนะ ไม่ใช่ว่าจะ 3 บาท หรือ 1.50 บาทเที่ยวนี้ดูการเมืองเป็นหลัก ผมไม่เชื่อ ผมเชื่อว่าดูความรู้สึก ของประชาชนนะ ผมว่าการเมืองมันก็เข้าการเมืองอีกนั่นแหละ แต่ว่าก็คือต้องดูภาพรวมทางเศรษฐกิจ ทางอะไรด้วย ชีวิตจริง แต่คะแนนนิยมคำนึงไหม ก็คำนึง

สโรชา – ก็คงหนีไม่พ้นล่ะ เรื่องนี้ คุยเรื่องนี้แล้วต้องคุยเรื่องการเมืองต่อ จะเอาเรื่องอะไรก่อนดี จะเอาป๋าเหนาะ หรือว่าคุณรังสิมาก่อนดี

คำนูณ – เรียกว่าร้อนๆ

สำราญ – มันก็เรื่องเดียวกันแหละ มันก็โยงมาจากเรื่องโหวต

คำนูณ – ก่อนจะเป็นข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์พรุ่งนี้ก็คงเป็นวันนี้ใช่ไหมครับ ป๋าเหนาะกินยาผิด คือ นี่แหละ ฟังนายกฯทักษิณพบประชาชนมากจากญี่ปุ่นนี่แหละ คือไม่ตั้งท่านเป็นประธานวิปรัฐบาลนี่ ท่านก็ไม่ว่าอะไรนะ ดันไปตั้งท่านเป็นประธานวิปกิตติมศักดิ์ ท่านก็บอกว่ามันไม่มีในประวัติศาสตร์โลก คนตั้งนี่มันตัวตลก ไม่ใช่ตัวท่านเป็นตัวตลกนะ พูดแรงมาก แล้วก็บอกว่ากริ๊งกร๊างมาบอกกันหน่อยนี่มันเสียเกียรตินักหรือ ทีคนอื่นโทรไปได้ทั่วโลก พี่เหนาะนี่กริ๊งกร๊างมาหน่อยมันเสียเกียรตินักหรือ แรงครับแรง

สำราญ – พูดแรงพรุ่งนี้เป็นข่าวอีก ของมติชน ของใครต่อใคร เราดูในเว็บไซด์นี่เรารู้ว่ามันเป็นข่าวพาดหัวแน่

คำนูณ – ไทยโพสต์นี่แน่นอน เว็บผู้จัดการเขาก็พาดไปแล้ว “ป๋าเหนาะตีแสกหน้าทักษิณ ประเทศไทยไม่ใช่ของกลุ่มทุน” แรงครับแรง และก็บอกว่าระวังนายกฯทักษิณนี่ เพื่อนหนีหน้าหมดแล้ว

สำราญ – คือท่านนายกฯก็พูดในรายการนายกฯคุยกับประชาชน บอกว่าตั้งให้คุณพงศ์เทพเป็นประธาน แล้วให้คุณเสนาะ เทียนทอง ประธานวิปคนเก่า เป็นประธานกิตติมศักดิ์ ป๋าเหนาะก็คล้ายๆว่า มันเรื่องตลก แล้วคนที่ตั้งนี่แหละที่เป็นคนที่ตลกอย่างที่คุณคำนูณว่า

คำนูณ – คือป๋าเหนาะแกก็คงคิดนะ ไม่ให้ก็ไม่ให้ แต่ทำไมมาเป็นกิตติมศักดิ์เหมือนกับแกกระสัน นี่แกใช้คำอย่างนี้นะ เหมือนแกกระสันอยากจะเป็นนัก

สำราญ – แล้วไม่โทรไปหาท่าน ไม่โทรไปหาคุณเสนาะ บอกว่าเรื่องแค่นี้ทำไมโทรไม่ได้หรือ มันเสียเกียรตินักหรือที่จะโทรหาคนอย่างนายเสนาะ ทำนองนี้นะ คือเราประเมินว่าเที่ยวนี้ไม่ธรรมดา แล้วไม่ได้พูดวูบขึ้นมานะ ผมว่าคิดแล้วถึงจะพูด

คำนูณ – คือมันสะสมมาเยอะนะ ที่บอกว่ามันเรื่องเดียวกับกรณีคุณรังสิมาก็คือ คือเป็นการติงในการทำหน้าที่ของตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรนี่ ผมว่าสถานการณ์ต่อจากนี้ไป มันจะไม่ใช่กลุ่มต่างๆในไทยรักไทยแล้ว มันจะเป็นกลุ่มของท่านนายกฯ กับกลุ่มอยากจะใช้ศัพท์ว่า กลุ่มนักเลือกตั้ง หรือกลุ่มนักการเมืองรุ่นเก่านี่ ซึ่งถ้าว่าไปแล้วนี่เขาก็เป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคไทยรักไทย ใน 377 เสียงนี่ก็เป็นของกลุ่มเหล่านี้ ซึ่งก็อาจจะอยู่กลุ่มต่างๆกันนี่ แต่ตอนนี้มันตกที่นั่งเดียวกัน รัฐมนตรีก็ไม่ได้เป็น ตำแหน่งประธานสภาก็ไม่ได้ ตำแหน่งประธานวิปซึ่งโดยปกติก็ควรจะมาจาก ส.ส.เขต มาจาก ส.ส. เขตเลือกตั้งที่จะเข้าใจกันก็ไม่ได้อีก เดี่ยวนี้เราจะมีประธานสภาอินเตอร์ ประธานวิปอินเตอร์

สำราญ – คือถ้าในเชิงวิเคราะห์ก็วิเคราะห์ได้ว่า คุณทักษิณก็คงจะคิดแบบที่ว่า จะสร้างมิติใหม่ในแนวรบของนิติบัญญัติ คือจะสร้างภาพใหม่ และก็ขณะเดียวกันก็เป็นการสำแดงเดชว่ากลุ่มเก่านี่ เห็นไหม ไม่มีอิทธิพลแล้ว แต่เที่ยวนี้เจอมาตั้งคุณเสนาะเป็นประธานกิตติมศักดิ์ทางวิทยุ ตั้งที่ญี่ปุ่นนะ คุณเสนาะทนไม่ได้ เพราะมันสั่งสมอย่างที่คุณคำนูณว่า ประการแรกนี่ประธานวิปถ้าในสายตาของคุณเสนาะ เอาประธานสภาก่อนนะ เขาดันคุณสุชาติ ตันเจริญอยู่ แต่เอาล่ะเมื่อส่งคุณโภคินมาแข่งก็ยอม

คำนูณ – เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร

สำราญ – ประธานวิปนี่คุณเสนาะเขาเชียร์เฮียเพ้ง คุณพงษ์ศักดิ์ รัตตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีอุตสาหกรรมเก่า แต่ก็ไม่ได้กลายเป็นคุณพงศ์เทพ ถ้าเป็นคุณพงษ์ศักดิ์นะ มันจะไม่ร้อนแรงขนาดนี้

คำนูณ – ที่จริงคุณพงษ์ศักดิ์ก็สามารถได้ทั้ง 2 ทางนะ ก็ใกล้ชิดกับท่านนายกฯทักษิณด้วย

สำราญ – คุณพงษ์ศักดิ์นี่เขาได้ทั้ง 2 อย่าง ทั้ง 2 ข้างว่างั้นเถอะ แล้วก็แรงสั่งสมจากตรงโน้นตรงนี้อีกมากมายหลายเรื่อง พอตั้งวันนี้เมื่อวานนะ

คำนูณ – มันระเบิดเปลี่ยนตั้งทางอากาศนี่ ในตำแหน่งซึ่งเหมือนโยนเศษกระดูกให้ ทีนี้ถ้าคุณเสนาะรับก็เหมือนวิ่งมางับๆเลย

สโรชา – อย่าวาดภาพอย่างนี้

คำนูณ – ไม่ มันต้องพูดกันตรงๆ

สำราญ – ทีนี้มันก็เป็นปรากฏการณ์ที่

สโรชา – ฟิวส์ขาดสิ

สำราญ – ถึงแม้จะมี 377 เสียง แต่จากนี้ไปเราก็พอจะวิเคราะห์ได้ว่า แนวรบด้านนิติบัญญัติของพรรคไทยรักไทยเอง ก็คงจะมีปัญหาอยู่เยอะเหมือนกัน แล้วได้คุณพงศ์เทพ เทพกาญจนาไปนี่คือ การเมืองมันก็ยังเป็นการเมืองอยู่อย่างนั้นแหละ ชาวบ้านจะเบื่อ ส.ส. ก็ว่าของเขาไป คุณพงศ์เทพบางทีเอาไม่อยู่นะ ก็แค่ประชุม 2 นัด มีปัญหาทั้ง 2 นัด

คำนูณ – คือที่คุณสำราญพูดว่า คุณพงษ์ศักดิ์ หรือเสี่ยเพ้งเขาได้ทั้ง 2 ทาง ไม่ใช่เราสนับสนุนนะ แต่บอกว่าถ้าจะเปลี่ยนต้องทีละจังหวะเหมือนกันนะ คือเสี่ยเพ้งนี่พูดภาษาอังกฤษก็เก่ง ก็เป็นกลุ่มทุนเหมือนกัน ใกล้ชิดท่านนายกฯ เป็นเพื่อนก๊วนกอล์ฟอะไรต่ออะไรกัน แต่ในขณะเดียวกันในหมู่ ส.ส. ก็ตบหลังตบไหล่ ไปดื่มเบียร์ซึ่งจะเป็นเบียร์ช้างหรือเบียร์อะไรก็ดื่มกันได้ ไปเที่ยวไหนก็ไปได้นี่

แต่ว่าท่านพงศ์เทพนี่ท่านเป็นผู้พิพากษาเก่านี่ ตรงเป็นไม้บรรทัด ต้องมีวัดปฏิบัติแบบสุภาพ นุ่มนวล หลักการนี่ บางที ส.ส. มันไม่ใช่น่ะ เหมือนอย่างที่ท่านประธานโภคิน พลกุล จำได้ไหมปฐมนิเทศ ส.ส. วันแรก ส.ส.มากันเต็มเลย 50 คน แล้วท่านก็บอกว่า ส.ส. ยุคต่อไปต้องพูดภาษาอังกฤษให้คล่อง จะทำงานหน้าที่แต่ในประเทศนี่มันไม่ได้ มันก็จริงนะ ถ้าทำได้ แต่ในทางความเป็นจริง ในทางปฏิบัติแล้ว มันยังไม่ใช่เช่นนั้น แล้วมันก็คงจะยังไม่ใช่เช่นนั้นไปอีกพักใหญ่

สำราญ – เรียนท่านผู้ชมนิดนึง เรื่องของการลงคะแนนแทนกันนะ รายละเอียดเราไม่พูดแล้ว เพราะมันรู้กันหมดแล้วว่าอะไรเกิดขึ้นนะ แล้วก็ท่านประธานสภาก็ยอมรับว่า มีการลงคะแนนแทนกันจริง นี่คือประเด็นสำคัญ แต่ฟังแล้วมันใจหายวูบก็คือ คุณลลิตา ฤกษ์สำราญ ประธานกรรมการสอบสวน ก็พูดตามข้อบังคับ ตามกติกานะ บอกว่าโทษฐานนี่แค่ตำหนินะ หรือว่าประณามเท่านั้นเอง เราก็คิดว่าถึงขนาดต้องคาดโทษ ต้องไล่ออก ต้องอะไรกันนะ ก็ดูแล้วบอกว่าแค่ประณาม หรือว่าแค่ตำหนิตักเตือน

คำนูณ – มันแล้วแต่ตีความ คือถ้าตีความแบบช่วยกันก็คือแค่นั้น แต่ถ้าตีความแบบจริงๆก็คือคุณขัดรัฐธรรมนูญ คุณใช้สิทธิเกิน 1 ครั้ง

สำราญ – แล้วปัญหาก็คือตั้งกรรมการสอบขึ้นมาแล้วนะ กรรมการมีอยู่ 7 คน 7 ท่าน ก็จะใช้เวลาอีกซัก 10 วันถึงจะแล้วเสร็จนะ แต่เขารู้กันตั้งนานแล้วว่าสอบมาก็ไม่รู้ว่าใครนะ ที่ไปลงคะแนนแทนกัน มือผีที่ว่านะคือมือของใคร คือหมายความว่า คือเช็กข่าวไปดูกันหมดแล้ว แล้วดูเขาก็รู้กันอยู่แล้ว ผลสอบออกมาคือ มีลงคะแนนแทนกันจริง เป็นพฤติการณ์ที่น่ารังเกียจ แต่ไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่าใครไปลงแทนกัน

สโรชา – ทำไมบอกไม่ได้ล่ะ

คำนูณ – ทำไมไม่บอกว่าเป็นผีล่ะ บอกนี่มันถึงขั้นถูกถอดถอนนะ

สำราญ – เรื่องใหญ่ ก็เตรียมตัวรับฟังข่าวนี้อีกซักสัปดาห์เศษๆ

สโรชา – แล้วทำไมไม่เอาพรุ่งนี้เสียเลยล่ะ ไหนๆว่าจะออกมาเป็นยังไง

คำนูณ – มันก็ต้องทำให้ดูจริงจังหน่อยสิ ทำให้ดูเคร่งเครียดมาก

สำราญ – คือเขารู้กันนะ ไปคุยกับผู้มีประสบการณ์ ไปคุยกับคุณอุทัย คุณสมศักดิ์นี่ ก็สุดท้ายมันหาตัวไม่ได้หรอก แต่ว่าเรื่องนี้สมัยก่อนก็เคยเกิดนะ สมัยคุณอุทัย คุณสมศักดิ์นี่ แล้วก็เตือนๆเห็นๆการลงคะแนนแทนกัน เห็นเป็นเรื่องของที่ค่อนข้างใช้คำว่าอัปยศมากนะครับ เราดูแล้ว

คำนูณ – ขอบันทึกไว้หน่อยนะครับ ว่า ส.ส. ชุดนี้ขึ้นเงินเดือนแล้ว ก็คือเป็น ส.ส. ชุดแรกที่ได้เงินเดือนขึ้นจาก 7 หมื่นกว่าบาท ก็เป็นแสนกว่าบาท

สำราญ – รวมๆแล้วก็เป็นประมาณ 1 แสน 4 พันอย่างน้อย ทั้งค่าตำแหน่ง ค่าเงินเดือนอะไรก็แล้วแต่

คำนูณ – บำนาญก็ขึ้น

สโรชา – ก็นำมาพูดกัน แล้วคุณผู้ชมก็เก็บข้อมูลไปพิจารณานะคะว่า เห็นด้วยไม่เห็นด้วยอย่างไร หรือว่าจะโทรมาแสดงความคิดเห็นในรายการก็ได้นะตะ มีคุณผู้ชมโทรมาค่อนข้างเยอะ เดี๋ยวเรากลับมาในช่วงต่อไป ไปฟังข่าวต้นชั่วโมง แล้วกลับมาในช่วงสุดท้ายของรายการค่ะ

*********************************

สโรชา – กลับมาช่วงสุดท้ายของก่อนจะถึงวันจันทร์นะคะ ก่อนที่จะไปติดตามประเด็นของข่าวต่างประเทศ ไปดูความคิดเห็นของท่านผู้ชมกันซักนิดนึง เข้ามาค่อนข้างจะเยอะในวันนี้ คุณสุกรี จากแม่สอดค่ะ อยากถามว่าทำไม พล.ต.จำลอง ถึงไม่ประท้วงเรื่องหวยใต้ดินบ้าง เพราะหวยเป็นเครื่องมือมอมเมาประชาชนอย่างดี แม้กระทั่งพระสงฆ์ ครูขนุน จากกาญจนบุรีค่ะ คิดว่าคุณสนธิพูดเรื่องเหล้า เป็นปลายเหตุ เป็นการมองด้านเดียว แต่ไม่ได้พูดว่าเหล้าเป็นต้นเหตุในสาเหตุหลายๆอย่าง อยากให้ต่อสู้เพื่อนคุณธรรม

แฟนประจำจากโคราชค่ะ สำหรับท่านนายกฯ การประชุมครั้งแรกน่าจะอยู่เป็นประธานสำหรับการประชุมเสียก่อน และอยากตำหนินายกฯว่าทำไมไม่เที่ยวเมืองไทย จากภูเก็ตค่ะ หลังจากที่ท่านนายกฯได้เป็นรัฐบาลแล้ว ลืมผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์สึนามิไปแล้วหรือยัง ไม่เหมือนตอนที่จะเลือกตั้ง มีโครงการที่ช่วยเหลือเยอะแยะ แต่พอเราไปติดต่อกับหน่วยงานนั้นจริงๆ เขาก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เหมือนกับว่าพวกนี้เขาไม่ได้รับลูกจากนายกฯ ไม่ทราบว่าแก้แค้นชาวใต้ที่ไม่เลือกท่านหรือเปล่า

คุณธานีโชติ จากโอไฮโอบอกว่าอยากถามที่วิจารณ์กันอยู่เรื่องเบียร์ช้างนี่ ได้ประโยชน์อะไร เพราะว่ามันเป็นผลประโยชน์ของเจ้าของเบียร์ช้างไม่ใช่ประโยชน์ของชาติที่ได้ประโยชน์เลย ข้าราชการจากสระบุรีค่ะ ขอชมว่า 11 News 1 ดีมาก สัญญาณชัดเจน คุณสโรชาแต่งตัวดีมาก ไม่วาบหวิว เป็นตัวอย่างที่ดีต่อเด็กๆและประชาชน คุณวิทยา วอชิงตัน บอกว่าเรื่องน้ำมันควรจะขึ้นทีเดียวเลย เพราะว่าตราบใดที่ยังมีเรื่องสงครามอิรักอยู่ ที่อเมริกาน้ำมันแพงมากๆเลย อย่าปรับขึ้นหลายครั้ง ควรปรับทีเดียว

คุณเหมันต์ จากไอโอวาค่ะ ขอขอบพระคุณที่ท่านทั้งสามพูดตรงไปตรงมา แล้วไม่ทำตัวเป็นกระบอกเสียงให้รัฐบาล และนี่เป็นสิ่งที่ดีที่คนไทยที่ติดตามช่อง 11 News 1 อย่างต่อเนื่อง คุณพงศ์ จากมุกดาหารค่ะ อยากจะติงคุณสมัครในรายการมองรอบด้าน ว่าเข้าข้างรัฐบาลมากเกินไป พูดแบบไม่คิด น่าจะเปลี่ยนชื่อรายการเป็นมองด้านเดียวนะคะ จากชมรมกาแฟสัตหีบค่ะ บอกว่าทำไมต้องด่ารัฐบาลข้างเดียว ด่าอยู่ฝ่ายเดียว ด่านิดด่าหน่อยอยู่เรื่อย ช่วยชี้แจง คุณประเทืองจากสุรินทร์ค่ะ บอกว่าเสียดายคะแนนที่เทให้พรรคไทยรักไทยทั้งครอบครัว

จากบอสตันบอกว่า ขอประณามการกระทำของคุณโภคินและคุณลลิตา ว่าทำไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง อยากถามว่าภายในพรรคไทยรักไทย มีหน่วยงานตรวจสอบการทำงานหรือไม่นะคะ ก็เป็นความคิดเห็นจากคุณผู้ชม หลายต่อหลายด้าน ก่อนที่จะไปชี้แจงเรื่องของการตำหนิรัฐบาล จริงๆแล้วทำงานอาชีพนี้ไม่เคยได้แต่งตัววาบหวิวค่ะ ขอบอก ขอบ่นนะคะ แต่ด้วยอาชีพแล้วไม่สามารถอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้ดิฉันยกเวทีให้คุณคำนูณชี้แจงเรื่องด่ารัฐบาล

คำนูณ – คือไม่ได้ด่าแรง เพียงแต่วิพากษ์วิจารณ์บ้าง ซึ่งก็เป็นความเห็นที่อาจจะผิดหรือจะถูกได้ แต่ว่ารายการเรามันก็ไม่ใช่รายการอ่านข่าว แต่เป็นรายการกึ่งๆวิเคราะห์ กึ่งๆวิพากษ์วิจารณ์ กึ่งๆคาดการณ์ และก็ถือว่าเป็นการมองจากมุมที่อาจจะแตกต่างไปจากท่านผู้ชม คือวันนี้ก็จะเห็นว่ากระแสเสียงที่เข้ามาก็จะหลากหลาย คนที่ชอบรัฐบาลเต็มที่เราวิพากษ์วิจารณ์ไปเขาก็จะว่าเรา คนที่อาจจะไม่ชอบรัฐบาล เราวิพากษ์วิจารณ์ไปเขาก็บอกว่า ขอบคุณที่ไม่เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาล ก็ถือเสียว่านี่ก็เป็นอีกทางหนึ่ง ความคิดเห็นจากอีกทางหนึ่ง เรา 3 คนเองบางทีก็ไม่ได้คิดเหมือนกัน ก็ถือว่าเป็นการยั่วให้ท่านผู้ชมคิด จะเรียกว่ายั่วให้แย้ง หรือว่ากระตุกต่อมคิดของท่าน

สำราญ – คือว่า ผมว่าเรื่องความคิดนี่ เราต้องเปิดใจกว้างนะ ท่านผู้ชมจะวิพากษ์วิจารณ์เรากลับก็สบายเลย คือมันกึ่งวิเคราะห์ กึ่งวิพากษ์วิจารณ์ มันจำเป็นนะ เพราะว่ามันไม่ใช่เป็นรายการอ่านข่าวอย่างเดียว แล้วเราก็แสดงความเห็นแบบมีเหตุมีผลรองรับอยู่เล็กน้อย หรือมากในบางกรณี ก็แล้วแต่เวลาด้วยนะครับ แต่อยากเรียนว่าเรื่องความคิดเห็นต่างนี่มันธรรมดามากครับ แฝดอิน-จัน ตัวติดกัน แต่ความคิดเห็นยังไม่เหมือนกัน ยังชกกันเลย ดังนั้นเราสามคนก็ไม่ได้คิดเหมือนกันทุกเรื่อง แล้วก็ย่อมไม่เหมือนกับท่านผู้ชมหลายเรื่องเหมือนกัน แต่ก็ลองฟังเหตุฟังผลดูว่ารับฟังได้ไหม จบ

สโรชา – จบแล้วใช่ไหมคะ เรื่องการเมือง

สำราญ – ก็ไม่มีอะไรมาก สัปดาห์หน้าก็ติดตามเรื่องน้ำมัน เรื่องน้ำเมา แล้ววันที่ 23 รัฐบาลก็มีการแถลงนโยบาย 23-25 ก็ต้องฟังรัฐบาลว่า 9 ขอบความคิด 9 ขอบนโยบายนี่มันมีอะไรบ้าง

คำนูณ – ติดตามเหตุการณ์ในสภา ดูการทำหน้าที่ของท่านประธานโภคิน พลกุล และก็จะเห็นการทำหน้าที่ของเป็นประธานในที่ประชุมของ 2 รองประธานว่าจะได้รับความร่วมมือแค่ไหน คุณสุชาติ ตันเจริญนั้นน่าจะได้รับความร่วมมือเยอะที่สุด ส่วนคุณลลิตา ฤกษ์สำราญนี่น่าติดตาม

สำราญ – คุณลลิตาเธอไม่มีปัญหา เพราะว่าคุณเสนาะสนับสนุนอยู่

คำนูณ – อาจารย์โภคินนี่ท่าจะเหนื่อย

สโรชา – พูดง่ายๆ งานหนักกว่าคนอื่น

สำราญ – แต่มันไม่มีอะไรมาก มันอยู่ที่การประสานงาน บทบาทของวิปนี่จะสำคัญมาก ถ้าวิปจะระเบียบไม่ดี จัดจราจรไม่ดี มันก็เละได้

คำนูณ – ก็ต้องติดตามดูบทบาทของประธานวิปด้วย และประธานวิปกิตติมศักดิ์นี่ล่ะ ตกลงจะเอาไหม

สำราญ – พูดอย่างนี้ก็คือไม่รับไง ต้องดูว่าท่านนายกฯกลับมาพรุ่งนี้จะมีอะไรไหม

สโรชา – เดี๋ยวไปดูต่างประเทศกันซักนิด เพราะว่าเพิ่งจะครบรอบการทำสงครามในอิรักไป ก็ตอนนี้หลายๆฝ่ายก็ออกมาประท้วงกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐเอง ประธานาธิบดีบุชเข้ามาเป็นสมัยที่ 2 ก็ยังยืนยันอยู่นะคะ ในการครบรอบ 2 ปีว่าการบุกอิรักในตอนนั้น ก็ถูกต้องตามกติกาทุกอย่าง ทำไปนี่ผลที่ออกมาก็เป็นไปอย่างที่คาด คือสหรัฐอเมริกาปลอดภัยจากภัยคุกคามมากยิ่งขึ้นกว่าเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ขณะที่อดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซนอยู่ในอำนาจอยู่

นั่นก็เป็นคำยืนยันจากประธานาธิบดีบุชนะคะ ว่ายังคงที่จะเดินหน้าต่อไปในการกวาดล้างกระบวนการก่อการร้าย รวมไปถึงเผด็จการทั่วโลก อันนี้ก็หลายๆคนก็คงจะเห็นว่าส่งสัญญาณไปยังเกาหลีเหนือค่อนข้างจะชัดเจนพอสมควร รวมไปถึงอิหร่านด้วย แต่ว่าข่าวคราวที่จะบุกอิหร่านค่อนข้างที่จะเงียบไปในพักนี้ เพราะว่าก็มีการเดินสายของนางคอนโดลีซซา ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ ซึ่งไปหลายประเทศค่ะ ไปเดินทางในเอเชียก็ไป รู้สึกว่าจะไป 6 ประเทศ วันนี้ก็ไปที่จีน แต่ไม่มาไทย ไม่ได้เยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ไปที่เอเชียเหนือเสียเยอะ

และก็ไปที่จีนก็ไปคุยกับผู้นำจีน และก็คุยในลักษณะคล้ายๆกับจะให้จีนนี่ช่วยกดดันเกาหลีเหนือ ในการกลับมาพูดคุยในเรื่องราวของอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้งหนึ่ง เพราะว่า 6 ประเทศที่ร่วมกันคุยในครั้งนั้น การเจรจารอบสุดท้ายรอบล่าสุดนี่ก็ล้มเหลวไปอย่างไม่เป็นท่าเลย คราวนี้ไปขอความร่วมมือจากจีนว่าอย่างนั้น หลายๆคนนี่ตั้งใจไว้อยู่แล้วว่า นางคอนโดลีซซา ไรซ์ไปครั้งนี้ คงจะต้องพูดถึงเรื่องที่จีนประกาศมีกฎหมายว่า ถ้าหากว่าไต้หวันนี่แสดงอาการตีตัวออกห่าง สามารถใช้ความรุนแรงได้ทันที อันนี้เหมือนสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง

หลายๆฝ่ายก็คาดการณ์ว่าน่าจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด แต่จริงๆแล้วกลับกลายเป็นว่า ไม่ได้พูดเรื่องนี้ หรือถ้าพูดก็ไม่ได้รับการรายงานข่าวออกมา เพราะว่ากำลังจะไปขอความช่วยเหลือเขานี่ ก็ไม่อยากที่จะไปกระทบกระเทือนเรื่องภายในของเขา เพราะจีนประกาศมาตั้งแต่ต้นแล้ว หลายวันก่อนว่าออกจดหมายอย่างนี้แล้ว ยุโรป อเมริกาไม่ต้องมายุ่งเรื่องภายในของเขา เขาจัดการของเขาเองได้ เพราะฉะนั้นครั้งนี้ดูเหมือนว่าสหรัฐอเมริกาค่อนข้างจะอ่อนไปพอสมควร

สำหรับประเด็นของไต้หวัน แต่ว่าคงจะขอเป็นขอแลกเปลี่ยนก็แล้วกันว่า ไปช่วยหน่อยเรื่องของเกาหลีเหนือ ช่วยกระตุ้นให้เกาหลีเหนือกลับมาที่โต๊ะเจรจาอีกครั้งหนึ่ง มีการประชุมกัน 6 ฝ่ายอีกครั้ง เพื่อที่จะพูดคุยกันเรื่องอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้งหนึ่งนะคะ แต่ก็ในอิรักเองก็ยังมีการโจมตีกันต่อไป ประธานาธิบดีบุชก็ยืนยันยอมรับว่า ยังคงมีการต่อต้านสหรัฐกันต่อไป แต่สหรัฐก็ยังยินยันเหมือนกันที่จะคงกำลังในอิรักจนกว่าจะสามารถฝึกกองกำลังของอิรัก สามารถที่จะป้องกันตัวเองได้ รับมือกับกองโจรได้ ถึงจะยอมถอยออกมา ตอนนี้มีทหารสหรัฐตายในอิรักประมาณ 1500 นายแล้วนะคะ ก็ไม่น้อยใน 2 ปี แต่ตอนนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะดึงทหารออกมาได้เมื่อไหร่

สำราญ – แล้วรัฐบาลอิรักจะเกิดได้เมื่อไหร่

สโรชา – จริงๆเกิดแล้วนะคะ แต่ว่าทางรูปธรรม หรือว่าการปฏิบัตินี่ หลายๆฝ่ายเขาก็ฟันธงว่า ยังไงก็เป็นร่างทรงของสหรัฐอเมริกา เพราะฉะนั้นก็ยังไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร ในการดำเนินการในหลายๆเรื่อง ซึ่งตอนนี้ก็เหมือนกับเรารักษาการกันไป แต่ถามจริงๆว่าในการดำเนินการตัดสินใจ ขอตกลงอะไรหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นนานาชาติ หรือว่าเรื่องของภายในของเขาก็ยังไม่มีการจัดการที่ดีพอ เพราะว่าก็ยังคงต้องรับมือกับกองโจรอยู่ และนี่ก็คือทั้งหมดของรายการก่อนจะถึงวันจันทร์นะคะ หมดเวลาแล้ววันนี้เราทั้ง 3 คนคงต้องลาไปก่อน สวัสดีค่ะ

*********************************
กำลังโหลดความคิดเห็น