"หนีหนี้"ฆ่ายกครัว3ศพลาโลก
ปัญหาหนี้สิน ถือเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เกิดคดีฆ่ายกครัว 3 ศพ และเป็นข่าวที่ทำให้สังคมหดหู่ และตั้งคำถามว่า ว่าทำไม จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย หักคอลูก และยิงเมีย เขาไม่มีทางออกอย่างอื่นแล้วหรือ โดยเหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ต.สมชาย เพียขันธ์ สารวัตรเวร สภ.ต.สาขลา อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายภายในบ้านเลขที่ 333/82 ม.วิเศษสุขนคร ซอยประชาอุทิศ 90 ต.คลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ หลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดประมาณ 50 ตารางวา พบศพผู้เสียชีวิตนอนเรียงกันอยู่บนเตียง 3 ศพ ทราบชื่อ นายชาตรี ทรัพย์เพิ่มพูนผล อายุ 30 ปี สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดจุด 22 เข้าที่บริเวณขมับขวาทะลุซ้ายนอนตะเคียงตาย โดยที่มือขวา ถือปืนจุด 22 ในขณะที่มือซ้ายได้โอบร่างของ ด.ช.ศุภกร ทรัพย์เพิ่มพูนผล อายุ 2 ปี 8 เดือน บุตรชาย สภาพศพคอหัก และอีกศพคือ นางพัฒชยา ทรัพย์เพิ่มพูนผล อายุ 25 ปี ภรรยาซึ่งตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน นอนเสียชีวิตใกล้กัน สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าที่บริเวณห้าอก 1 นัด ชายโครงซ้าย 1 นัด
โดยจุดเกิดเหตุพบจดหมายลาตาย เขียนด้วยลายมือของนายชาตรี ระบุว่า "ขอโทษที่ต้องทำแบบนี้ เพราะไม่มีทางเลือก หันหน้าไปหาใครก็ไม่มีใครช่วย และลูกเมียก็ยินยอมที่จะตายไปพร้อมกัน ขอให้ทุกคนอโหสิให้ด้วย สำหรับศพทั้ง 3 ขอให้ญาตินำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเดียวกัน เป็นเวลา 3 วัน และให้เผาพร้อมกัน พ่อ แม่ ลูก นอกจากนั้น ในจดหมายยังมีเนื้อหาระบุว่า ตนได้ขอร้องให้เมียไปอยู่ต่างจังหวัด แต่ด้วยความรัก เมียก็ไม่ยอมไป จึงไม่รู้จะทำอย่างไร โดยก่อนตายได้ดื่มเหล้าก่อนตัดสินใจสังหารหมู่ ส่วนกิจการโกดังเก็บข้าวขอให้แม่ช่วยดูแลให้ด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายมีหนี้สินอยู่จำนวน 3 ล้านบาท โดยบ้านที่อาศัยอยู่ก็ติดจำนอง และธนาคารก็ติดต่อมาเพื่อจะทำการยึดบ้าน และรถยนต์ จึงทำให้เกิดความเครียด สำหรับนายชาตรีผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าของโกดังเก็บข้าวย่านโรงสีพระสมุทรเจดีย์
เครียดปัญหาหนี้สิน ฆ่าตัวตายพร้อมลูกเมีย 3 ศพ