นายคำรบลักขิ์ สุรัสวดี ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า จากผลการศึกษาความแข็งแรงของโครงสร้างเสาโฮปเวลล์ ล่าสุดหลังจากมีการมอบหมายให้สถาบันวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและสถาบันเทคโนโยลีแห่งเอเซีย (AIT) ทำการศึกษาร่วมกัน ซึ่งขณะนี้ผลศึกษาคืบหน้ากว่าร้อยละ 80 สามารถระบุได้แล้วว่า มีเสา 2 ต้นเท่านั้นจากเสาที่มี 981 ต้นที่คุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานต้องทุบทิ้ง โดยเตรียมเดินหน้าใช้ประโยชน์จากโครงสร้างดังกล่าวทันที โดยเฉพาะโครงการเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง (มักกะสัน -สุวรรณภูมิ) และการผสมผสานโครงการในส่วนของการขนส่งประเภทอื่นที่จะทำให้การลงทุนในโครงการที่คาดว่าจะใช้งบประมาณไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี เริ่มจากการยกระบบทางรถไฟธรรมดาที่วิ่งตามแนวเลียบถนนวิภาวดีรังสิต-มักกะสัน นำรางขึ้นไปวางอยู่บนฐานของเสาโฮปเวลล์ ทำให้ในอนาคตจะมีระบบรถไฟรางคู่ คือ รางรถไฟธรรมดาและระบบรางสำหรับรถไฟฟ้าอยู่รวมกัน ซึ่งโครงการทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การดูแลของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)