xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” มองสังคมไทยเพี้ยน ตำหนิ “ตบนม” โชว์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สนธิ ตำหนิ “ตบนม” คิดถึงแต่กำไรเป็นตัวตั้ง และมองสังคมไทย “เพี้ยน” เพราะคิดแต่เรื่องไร้สาระ พร้อมเผยแฟชั่นนมใหญ่มาจากฮอลลิวูด นอกจากนี้แจงปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ตกเป็นเครื่องมือของขบวนการสากล คล้ายสงครามตัวแทนสมัยสงครามเย็น รวมถึงเสนอให้ตั้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนจังหวัด เพื่อร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นธรรมของเจ้าหน้าที่

สโรชา – สวัสดีค่ะคุณผู้ชมขอต้อนรับเข้าสู่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ อาหารสมองก่อนเข้านอนในทุกคืนวันศุกร์ค่ะ กลับมาพบกันเป็นประจำกับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ดิฉัน สโรชา พรอุดมศักดิ์ ค่ะ คุณผู้ชมค่ะในรายการเรา เราได้พูดถึงเรื่องของปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาหลายครั้งแล้วนะคะ พูดในมิติของความขัดแย้ง ในมิติของการเมือง มิติการเมืองระหว่างประเทศ มิติวัฒนธรรม ศาสนา รวมไปถึงมิติของประวัติศาสตร์ด้วย วันนี้เราคงจะต้องมาทบทวนกันซักนิดนึง สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เราพูดมานั้นเป็นยังไงบ้าง และทบทวนกันซักนิดนึง คุณสนธิไม่กลัวหรือค่ะ ถ้าเกิดพูดเรื่องนี้แล้ว เดี๋ยวเราจะถูกเข้าข่ายขาประจำกับเขาบ้าง

สนธิ – มันไม่เชิงขาประจำนะครับคุณสโรชา ถ้าท่านผู้ชมทางบ้านจำได้ เราเคยพูดเรื่องนี้ เราพูดในเชิงสร้างสรรค์ และเราแนะนำ เราอธิบายว่าทางออกน่าจะเป็นอย่างไร เราไม่ได้แค่วิพากษ์วิจารณ์ธรรมดา และหลายๆ อย่างที่เราพูดนั้น ก็ต้องยอมรับว่าในอดีตทางรัฐบาลได้นำไปทำ เป็นเพียงแต่ว่าผู้ปฏิบัติในระดับล่างนั้นหรือว่าผู้ที่นำนโยบายซึ่งท่านนายกฯ เอาไปทำ ไม่ได้นำเรื่องนี้ทำต่อไปให้ถึงที่นะครับ อีกประเด็นหนึ่งที่เราคงจะต้องพูดในเรื่องของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็คือว่า ความเป็นห่วงเป็นใยในเรื่องของอารมณ์ของคน เพราะว่าผมมีความเชื่อมั่นว่า ถ้าเราแก้ปัญหาด้วยอารมณ์นั้นแก้ไม่ได้ซึ่งคือในช่วงหลังๆ นั้น สังคมไทย เวลาพูดเรื่องนี้ทีไร ผมจะโดนด่าประจำ คุณเป็นคนไทยหรือเปล่า อะไรประมาณนั้นซึ่งผมไม่ถือสาอะไร เพราะว่า คนที่ด่าว่าผมหรือว่าไม่เห็นด้วย ก็เป็นสิทธิซึ่งผมยอมรับได้นะครับ แต่คนที่มีความรู้สึกว่า คือคำถามที่จะเป็นคำถามที่นิยมที่สุดคือว่า แล้วทหารตำรวจที่ตายไป คุณจะว่ายังไงบ้าง คือเป็นการถามคำถามแบบกำปั้นทุบดิน คล้ายๆว่า ถ้าเขาชกหน้าคุณมา 3 ทีแล้วคุณไม่ชกตอบบ้างหรือ คุณจะไม่ทำอะไรหรือ คำถามนี้มันไม่ควรจะเป็นคำถาม คำถามเช่นนี้เป็นการแสดงออกถึงวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่ยังไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ซึ่งเรื่องนี้มันจะมีสืบเนื่องต่อไปว่า ในที่สุดแล้วถ้าเรามีอารมณ์แบบนั้น เราก็จะตกไปในหลุมพรางกับดักซึ่งเขาขุดล่อเราตลอดเวลา

สโรชา – คือต้องแยกอารมณ์ออกมา

สนธิ – ครับ แล้วคุณสโรชา เรื่องนี้จะว่าเบื่อก็เบื่อ ไม่อยากพูดก็ไม่อยากพูด เพราะว่าพูดทีไร มันก็กลับไปรูปเดิมอีก คือว่าจริงๆ แล้วเราใช้อารมณ์มากจนเกินไปนะครับ ผมคิดว่าเราน่าจะอธิบายที่มา ที่ไป อีกประการหนึ่งที่สำคัญมาก ผมคิดว่า ในเชิงสากลนั้นเรายังไม่ค่อยอธิบายให้ผู้ชมทางบ้านฟังเท่าไหร่นัก และมีเรื่องบางเรื่องท่านผู้ชมทางบ้านยังไม่รู้ อย่างเช่นเรื่องเหตุการณ์ที่ตากใบที่เกิดขึ้นมา มีอะไรหลายอย่างซึ่งยังไม่สมบูรณ์ ก็คงต้องมาเล่าให้ฟังตลอดจนคนชาวมุสลิม คนภาคใต้ที่สูญหายไปเป็นจำนวนประมาณ 2,400 กว่าคน ในรอบปีสองปีที่ผ่านมานี้ คนในกรุงเทพฯและคนที่กำลังมีอารมณ์ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น

สโรชา – ค่ะ ก็จะนำมาอธิบายกันให้รู้ในรายการนี้นะคะ

สนธิ – ต้องอธิบายกันครับ

สโรชา ค่ะ แต่เรื่องที่จะไม่พูดไม่ได้เลย คงจะเป็นเรื่องราวของการตบนม ถ้าพูดให้สุภาพ

สนธิ – ฝ่ามือมหากาฬ

สโรชา – ถ้าพูดให้สุภาพนิดนึงคงจะต้องพูดว่าเป็นการนวดเสริมทรวงอก แต่พูดตบนมกันเยอะเหลือเกิน

สนธิ – จริงๆ ก็คือการตบนมนั่นแหละครับ ผัวะๆ ที

สโรชา – ก็ฮือฮาค่ะ

สนธิ – แต่มันมีนัยที่ลึกซึ้งมากกว่าการแสดงออกในการตบนม ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องโยงใยไปถึงรากเหง้าพวกเราและอิทธิพลที่พวกเราได้รับ ตลอดจนสังคมได้รับ ที่ผมเป็นห่วงมากที่สุดคือว่าเดี๋ยวนี้เราเริ่มไม่รู้จักเส้นแบ่งแล้ว สมัยก่อนเราทำอะไรเรามีเส้นแบ่ง เดี๋ยวนี้ไม่รู้แล้ว

สโรชา – ไม่คิดแล้วว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม

สนธิ – ไม่ได้คิด เพราะฉะนั้นแล้ว ผมคิดว่าเรื่องนี้มันมีนัยที่โยงไปถึงในอดีต และอธิบายได้ถูกว่าทำไมเราถึงมาเป็นอย่างนี้กันทุกวันนี้ ทำไมเราถึงมาเป็นมนุษย์อีกพันธุ์หนึ่ง ทุกวันนี้

สโรชา – เราก็นำมาเป็นคำถามในสัปดาห์นี้ด้วยนะคะ เอสเอ็มเอสตอบเรามาด้วยนะคะคุณผู้ชม

สนธิ – เพราะว่าตบนมกลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้ผู้หญิงต้องการให้มีหน้าอกที่กระชับและใหญ่

สโรชา – ใช่ เป็นแฟชั่นไปแล้วหรือเปล่า ใช่ไหมค่ะ คุณผู้ชมเห็นด้วยหรือไม่นะคะ ว่าเรื่องนี้อกหัก เป็นเรื่องเล็ก แต่เรื่องอกเล็กเป็นเรื่องใหญ่ ตอบเรากลับมานะคะ ถ้าเห็นด้วย กดเอ็มที 1 ไม่เห็นด้วยกดเอ็มที 2 ค่ะ ส่งมาที่ 84820 หรือโทร.มาที่ 02-201-6055-60 ค่ะ ขอบคุณฟรีอินเตอร์เน็ตที่เอื้อเฟื้อระบบเอสเอ็มเอสให้กับเรา ในสัปดาห์นี้และหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นเคยค่ะ เราแจกโทรศัพท์มือถือพานาโซนิก 1 เครื่องในทุกๆ สัปดาห์นะคะ สัปดาห์นี้เป็นพานาโซนิก เอ 200 มินิโฟน แถบสีสุดสวีทค่ะ พร้อมกับเสื้อทีเชิ้ตของฟรีอินเตอร์เน็ต แจกกันทั้งหมด 3 ตัวในแต่ละสัปดาห์ เอสเอ็มเอสเข้ามาเยอะๆ นะคะ แสดงความคิดเห็นหรือโทร.มาที่เบอร์ สายปกติก็ได้ค่ะ มีข่าวประชาสัมพันธ์ซักนิดนึงค่ะ คุณผู้ชมอย่าลืมนะคะว่า มีหนังสือเมืองไทยรายสัปดาห์ เล่ม 1-3 นะคะ ถ้าหากว่าจองกันล่วงหน้าทั้ง 3 เล่มจะได้รับวีซีดีเบื้องหลังการถ่ายทำของรายการนี้ รวมไปถึงเสื้อยืดที่มีโลโก้เมืองไทยรายสัปดาห์ 1 ตัวค่ะ สามารถจองกันได้ที่บีทีเอสและซีเอสบุค ทุกสาขาเลยค่ะ หรือโทร.มาที่ 02-629-4488 ต่อ 2208-9 ค่ะ สามารถจองได้ถึงวันที่ 15 มีนาคมนี้นะคะ และอยากจะเรียนเชิญคุณผู้ชมได้เข้าอบรมขยับกายสบายชีวีวิถีพุทธรุ่นที่ 9 ค่ะ มี 2 รอบนะคะ รอบ 09.00-12.00 น. และรอบ 13.00-16.00 น. จะอบรมกันในวันเสาร์ที่ 5 12 19 26 มีนาคม และวันที่ 2 เมษายน ทั้งหมดรวมแล้ว 15 ชั่วโมงค่ะ ที่อาคารบ้านเจ้าพระยาถนนพระอาทิตย์จะรับเพียง 70 ท่านเท่านั้นนะคะ สามารถที่จะโทร.มาสอบถามข้อมูลได้ที่ 02-629-2211 ต่อ 1118 หรือ 1152 ค่ะ พักซักครู่เดี๋ยวกลับมาคุยกันค่ะ

************

สโรชา – กลับมาสู่เมืองไทยรายสัปดาห์นะคะ ไปคุยประเด็นแรกกันก่อนดีกว่า เรื่องของการนวดเสริมอก คุณสนธิค่ะ ตกลงเขาก็ฮือฮากันพอสมควรแต่ประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์คือเหมือนจะเจตนาออกมาแสดงอย่างนี้เพื่อสร้างข่าว ยอดขายจะได้ขึ้น

สนธิ – เรื่องนี้มองได้ 2 มิติ มิติหนึ่งคือเรื่องของการค้า อีกมิติหนึ่งคือว่า ทำไมเรื่องของนม เรื่องของต้ม มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้วทุกวันนี้ มิติแรก ผมคิดว่าเป็นเรื่องของการเห็นแก่ตัวมากๆ ของผู้ประกอบการ คือวันนี้ถึงเขาจะโดนอย.ปรับ หรือจะโดนสคบ.ปรับแต่งานประชาสัมพันธ์ที่เขาได้ออกไปในสื่อมวลชนทั้งหมด ทั้งหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ มูลค่ามหาศาล แท้ที่จริงแล้วต้องการจะเพิ่มยอดขาย ผมว่าบริษัทนี้เห็นแก่ตัวมาก ผมว่าใช้ไม่ได้ ทีนี้ถ้าคุณจะเพิ่มยอดขาย ชาโออิชิยังไม่เป็นไร คุณจะเอาใครก็ตามมายืนและตะโกนลั่นมาบุญครองหรือทุกแห่งพร้อมกันหมด โดยตั้งนาฬิกาว่า 10.15 น. ทุกศูนย์การค้าจะมีคนถือชาโออิชิ และร้องบันไซว่าดื่มชาโออิชิผมไม่ว่าอะไรกัน เพราะอย่างน้อยที่สุดตัวสินค้า ยังไม่ได้ล้ำเส้นที่ผมเรียกว่าเส้นแห่งศีลธรรม นะครับ แต่การทำเช่นนี้และผมดูเขาให้สัมภาษณ์มันสะท้อนให้เห็นเจตนารมณ์ที่แท้จริง เขาเล่าให้ฟังอย่างภาคภูมิใจเลยว่าเขาส่งออกขายต่างประเทศ เขากะจะขายในเมืองไทยตกแล้วประมาณเท่านี้ๆ เฉลี่ยแล้วผมทำตัวเลขคูณว่าที่เขาพูดจริง หลังจากนี้แล้วเขาจะได้รายได้ปีละ 1,250 ล้านบาท

สโรชา – จากการมาร์เก็ตติ้งด้วยใช่ไหมค่ะ

สนธิ - จากการมาร์เก็ตติ้งครับ แต่ว่าสังคมไทยจะพินาศไปยังไงเขาไม่สนใจ

สโรชา – แต่เขาบอกว่าเขาเคยถูกกล่าวหาว่า โฆษณาเกินจริง และนั่นคือที่นำมาซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะว่าอยากจะพิสูจน์

สนธิ – การโฆษณาเกินจริงหรือไม่เกินจริงนั้น ประเด็นไม่ได้อยู่ที่นั่น ประเด็นอยู่ที่ว่า ถ้ามันเป็นไปได้และทำได้จริง ปากต่อปากมันออกไป ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้ก็ได้ ผมถามคุณสโรชาอย่างหนึ่ง วันนี้ผมอ่านความเห็นที่เข้ามาในเว็บไซต์ของผู้จัดการแล้ว หลายคนที่มาจากสหรัฐอเมริกาเขาส่งความเห็นมาเลยว่า แม้กระทั่งในสหรัฐเขายังไม่มีการทำเช่นนี้เลย จู่ๆ เอาคนมาเปลือยอกและมานวด มองดูเหมือนกับว่าเป็นทางวิชาการ ผมถามกลับคุณสโรชา ถ้าผมจะสั่งเครื่องขยายองคชาติ ผู้ชายมา และมาทดลองเหมือนกับที่เขาทำหน้าอก ผมใช้กระบวนทัศน์เดียวกัน พาราไดม์เดียวกัน ถูกไหม ไม่ได้ ในสังคมไทย หรือว่าในทุกๆ สังคมมันจะมีเส้นเส้นหนึ่ง เส้นนี้เขาเรียกว่าเส้นแบ่ง สุดท้ายแล้วจะล้ำเส้นนี้ไม่ได้ หรือถ้าเราจะพูดว่าเส้นนี้เหมือนฟางเส้นสุดท้ายบนหลังอูฐที่วางลงไปปั๊บ อูฐหลังหักเลย เส้นศีลธรรมก็จะถึงจุดจุดหนึ่งซึ่งเกินกว่านี้ไม่ควร นะครับ เส้นของความโลภ ถึงจุดจุดนี้ก็น่าจะพอแล้ว เส้นถึงความใจร้าย ถึงจุดนี้ก็พอแล้ว เส้นตรงนี้มันไม่ได้มีในกติกา แต่มันมีอยู่ในจิตวิญญาณ สุดแล้วแต่เราอยู่ในสังคมไหน

สโรชา – จิตสำนึกไงค่ะ

สนธิ – เราอยู่ในสังคมมุสลิมทางตะวันออกกลาง เขาก็จะมีเส้นของเขา เราอยู่ในสังคมตะวันตก ซึ่งแม้กระทั่งสังคมตะวันตกนั้นความเสรีนิยมในเรื่องหลายเรื่อง ตลอดจนในเรื่องเพศนั้นเขายังมากกว่าเราเยอะ เขาก็ยังมีเส้นพอสมควร แต่เมืองไทยไม่มี ที่ผมเสียดายคือคุณปริศนา พรายแสง คุณปุ๊กกี้คนนี้ คือแกพูดฉอดๆ แกพูดหน้าตาเฉยเลย ถ้ามันดีจริง ทำไมคุณปุ๊กกี้ไม่ทำกับตัวเองและก็เดินเปลือยหน้าอกละ

สโรชา – คุณปุ๊กกี้ใช้อีกชนิดหนึ่ง

สนธิ – ก็ให้ชาวบ้านดู ดูนะคะของปุ๊กกี้ ดีไหมค่ะอย่างโน้นอย่างนี้ ก็ว่ากันไป แต่ผมกำลังชี้ให้เห็นว่ามันไม่ใช่อย่างนี้เป็นอันขาดเลย เพราะฉะนั้นแล้ว ผมเป็นห่วงมาก และผมไม่เห็นด้วย และผมถือว่าเจ้าของกิจการอันนี้ใช้ไม่ได้ ใช้ไม่ได้จริงๆ คุณควรจะรู้สิ่งที่คุณทำ และที่ผมต้องตำหนิมากที่สุดคือใครรู้ไหม พวกประชาสัมพันธ์ที่คิดเรื่องนี้ ผมอ่านข่าวเขาพูดให้สัมภาษณ์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์บอกว่าถ้าจะแนะนำอะไร มันไม่แรง อย่างนี้ถึงจะแรง ผมถามว่าถ้าคุณแรงแบบนี้คุณเปลือยหน้าอก คุณมานวดหน้าอก และคุณขายของได้ และคุณร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี อีกหน่อยคนซึ่งเห็นแก่ได้ ก็เฮ้ย เขาทำแบบนี้แรง เขาไปได้ ถ้าเราทำเหมือนเขา ไม่แรง เพราะเขาทำมาแล้ว ต้องทำแรงกว่านั้น มันก็ยิ่งเพิ่มไปเรื่อยๆ ไม่รู้จักหยุดยั้ง นะครับ มันไม่มีความพอดี

สโรชา – คุณสนธิคิดว่าความกล้าตรงนี้มาจากไหน คือทำไมเขาถึงกล้าทำ

สนธิ – ตรงนี้มาอีกมิติหนึ่ง คือเดี๋ยวนี้เราเอากำไรเป็นตัวตั้ง เมื่อเราเอากำไรเป็นตัวตั้งแล้ว เราจะพูดกับตัวเองตลอดเวลาเลยว่า ทำอะไรก็ได้ขอให้ได้กำไรชิ้นนั้นมา อันนี้เป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก

สโรชา – ประโยคเด็ดนะ

สนธิ – จะเด็ดไม่เด็ดผมไม่รู้ แต่ที่ผมรู้อยู่อย่างหนึ่ง สมัยแม่ผม ทั้งแม่ ทั้งปู่ ทั้งย่า ทั้งยายของพวกเรานะครับ หรือรุ่นพี่ ป้า น้า อาเรา สมัยก่อน ทำไมเขาไม่เห็นจะต้องมายุ่งเรื่องหน้าอกเล็กหน้าอกใหญ่เป็นยังไง

สโรชา – ค่านิยมมันผิดกัน

สนธิ ทำไมเดี๋ยวนี้ผู้หญิงที่ดี ผู้หญิงที่สวยจะต้องหน้าอกใหญ่ เซ็กซี่หน้าอกใหญ่ แฟชั่นมันมาจากไหนคุณสโรชา

สโรชา – จากต่างประเทศ

สนธิ – มันมาจากฮอลลิวูด ก็ไม่เห็นหรือครับ เบย์ วอทช์ พาเมลา แอนเดอร์สัน หน้าอกวิ่งกันเหมือนกับอุ้มแตงโมอยู่ 2 ลูกอย่างนี้ แค่ดูก็อึดอัดแทบตายอยู่แล้ว เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ยังมามีดาราต่างประเทศฮอลลิวูด ผมไม่เคยเห็นดาราฮอลลิวูดคนไหนที่ไปออกงานแล้ว ไม่โชว์ความอึ๋มของหน้าอก และเดี๋ยวนี้เริ่มเป็นประเพณีไปแล้ว ในบ้านเราเดี๋ยวนี้ก็ถือเป็นธรรมดา ต้องให้เห็นร่องเนินอกซักนิดนึง สมัยโบราณ สมัยยุควิคตอเรีย จำได้ไหมครับ เขามีการดันหน้าอกขึ้นมาให้สูงนูนๆ อันนั้นเผอิญเป็นประเพณีของฝรั่งเขาชอบของเขาอย่างนั้น ของอังกฤษ แต่ของไทยก็ไม่ได้สนใจในเรื่องพวกนี้ ของไทยนี่ปิด สมัยโบราณนานมาแล้ว ของไทยก็เปลือยอก ผู้หญิงไม่ใส่เสื้อผ้าเลยนะข้างบน คือมันเป็นยุคเป็นสมัยมาเรื่อยๆ แต่ว่าที่ผมกำลังชี้ให้เห็นว่า เดี๋ยวนี้ผู้หญิงสมัยนี้ความเป็นธรรมชาติแทบจะไม่มี ไม่เสริมอก ก็ทำจมูก ไม่ทำจมูกก็กรีดตา ไม่กรีดตาก็เสริมคาง หลายคนหน้าอก จมูก ตา คาง พร้อมและยังจะต้องเย็บอีกต่างหาก เย็บให้ตึง เย็บทุกจุดนะครับ ไม่ต้องบรรยาย แต่กำลังเล่าให้ฟัง ว่าในขณะนี้ในสังคมไทยทุกวันนี้ กำลังถูกอิทธิพลที่ไม่ค่อยดีแบบนี้ครอบงำจนกระทั่ง คือพ่อแม่ให้อะไรมา ควรจะพอใจได้ไหม กลายเป็นเดี๋ยวนี้เราเชื่อในสิ่งซึ่งไร้สาระอย่างเช่น เราเชื่อในเรื่องโหงวเฮ้งมากจนเกินไป แก้โหงวเฮ้งซักหน่อยได้ไหมค่ะ ได้ไหมครับ ทำจมูกให้สูงซักหน่อย นะครับ หรือว่าปากคุณห้อยมากไป ทฤษฎีต่างๆ เยอะแยะไปหมด

สโรชา – จมูกสูงเป็นเขื่อน ไม่ให้เงินไหลออก ต่างๆ นานา

สนธิ – ทีนี้ตรงนี้เราตัดเรื่องโหงวเฮ้งด้านนี้ออกไป เรามาถึงเรื่องสรีระของผู้หญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องหน้าอก กลายเป็นว่าภาพยนตร์ในช่วงหลัง ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมานี้นะครับ เน้นที่ผู้หญิงหน้าตาดีและก็โชว์หน้าอกที่ใหญ่พอสมควร อย่างน้อยต้องพอสมควร เข้าใจไหมครับ และก็กลายเป็นค่านิยมที่ตายตัวไปแล้วว่า เดี๋ยวนี้การทำหน้าอก ไม่มีอะไรเสียหาย เป็นเรื่องปกติ ตรงนี้มันก็เลยทำให้กิจกรรมทางด้านเครื่องสำอางที่จะต้องมาส่งเสริมการขายทางด้านนี้เริ่มเติบโตขึ้นมา เมื่อเริ่มเติบโตขึ้นมาก็เลยเกิดกรณีทำยังไงให้ขายดีล่ะ นะครับและอย่างที่หัวข้อที่คุณสโรชาตั้งว่า อกหักเรื่องเล็ก อกเล็กเรื่องใหญ่

สโรชา – พูดไปเดี๋ยวคนจะคิดว่าดิฉันตั้งจริงๆ นะคะ คุณสนธิ ไม่พูดนะคะว่าใครตั้ง ไม่พูด

สนธิ – เป็นเรื่องจริงนะครับ เดี๋ยวนี้ผู้หญิงเป็นห่วง เป็นห่วงหน้าอก ถึงขนาดต้องใส่ซิลิโคนช่วยกัน ผมก็ถามว่า อกเล็กแล้วมันเป็นยังไง อกใหญ่แล้วมันเป็นยังไง ตัวเตี้ยแล้วเป็นยังไง ตัวสูงแล้วเป็นยังไง

สโรชา – เดี๋ยวนี้เขายืดขากันด้วยนะคะ

สนธิ – ทำไมสังคมไทยไม่พูดถึงว่า ขอโทษนะครับ ทำไมยายนี่โง่จัง ยายนี่ฉลาดจัง ทำไมไม่มองที่ปัญญาที่อยู่ในศีรษะ หรือว่าผู้หญิงบางคนสวยทุกอย่าง แต่ว่าไม่มีกบาล อันนี้ผมยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ เรากลับไปเน้นเดี๋ยวนี้เน้นเรื่องพวกนี้ ฉะนั้นสังคมไทยเริ่มไร้สาระตั้งแต่เรื่องพวกนี้ เมื่อไร้สาระแต่เรื่องพวกนี้แล้ว เรื่องที่สาระ เรื่องที่ต้องมีสติช่วยกันคิด ก็คิดไม่ออก มัวไปคิดเรื่องอื่น หรือพอมีเรื่องอะไรขึ้นมา ก็ใช้อารมณ์คิด นี่ไงครับ เรื่องอารมณ์จะโยงไปถึงเรื่องอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตข้างหน้า ผมถึงบอกให้ทราบว่าพวกเราได้รับกระบวนทัศน์ที่ผิดมาตลอดแล้วเราไม่หาทางที่จะส่งเสริมหรือป้องกัน ของแบบนี้คุณสโรชา ผมจะเรียนให้ทราบ ว่าของแบบนี้มันเป็นเรื่องของรากเหง้า เรื่องของจิตวิญญาณ และที่สำคัญที่สุดคือว่า การจะทำการค้าอะไรก็ตามนี่ มันต้องมีขอบเขต ถึงจุดจุดหนึ่ง มันต้องรู้ตัวเองว่าพอได้แล้ว และถ้ามองด้วยเหตุด้วยผล ถ้าสินค้าที่คุณปุ๊กกี้เอามาแสดง มีเหตุมีผลและใช้ได้ดีจริงๆ เขาแทบจะไม่ต้องโฆษณา

สโรชา – คือปากต่อปาก

สนธิ – แน่นอนที่สุดครับ ถ้าทำได้ผลจริงๆ นะครับ ผมยืนยัน อย่างน้อยที่สุดเขาก็เอาพรรคพวกเพื่อนฝูงเขาที่หน้าอกเล็ก เอามาทำกัน หรือที่ห้อยย้อยคลาย เอามาให้ทำกัน ถ้ามันดีแล้วพวกนี้ก็จะบอกว่า เธอดีจังเลย พูดต่อไปก็มา และที่ผมรับไม่ได้คือว่า มีคนพูดในคอมเมนต์ในเว็บไซต์ของผู้จัดการ บอกว่า เขาเอามาแสดงในที่เอกชน ไม่ใช่ที่สาธารณะก็คือโรงแรม เขาบอกอย่างนี้

สโรชา – โรงแรมนี่เอกชนแล้ว

สนธิ – เขามองว่าเอกชน ปัญหาข้อผิดพลาดคือสื่อเอง เป็นคนเอามาตีแผ่ ก็คุณจงใจที่จะเชิญสื่อทุกประเภทไป และพวกสื่อก็พอๆ กัน พอพูดบอกว่าไปดูการนวดหน้าอก ก็ไปกันตรึมเลย และก็ถ่ายกันแบบตาแทบเหล่เลย กล้องก็จับกันอยู่แค่นั้น คือโทษนะครับ ถ้าเป็นลักษณะก็หญิงร้ายชายชั่ว ก็พอๆ กัน ทั้งสองฝั่งนั่นแหละพอๆ กัน ผมพูดแล้วผมขำว่าเมืองไทยมันไร้สาระ ถึงขนาดที่เรื่องบางเรื่องเด็กที่เรียนดี คนที่ทำความดี จะเชิญสื่อมวลชนไปทำข่าวซักชิ้นหนึ่ง ลากไปยังแทบจะอิดออด หรือเผลอๆ ไม่ไป แต่พอบอกเชิญไปดูตบนมเท่านั้นแหละ ทั้งช่างภาพเอย พวกหนุ่มกลัดมันทั้งหลายรีบไปมุงกันเต็มไปหมด ผมถึงบอกว่าเมืองไทย มันเพี้ยนไปแล้ว

สโรชา – จริงๆมีเรื่องอื่นจะพูดคุยกันเยอะแยะ มีเรื่องที่ต้องทำข่าวอีกเยอะ

สนธิ – อันนี้เป็นสังคมองค์ความรู้หรือที่เราพยายามจะสร้าง ถ้าเอาสังคมองค์ความรู้ที่เราพยายามสร้างออกมาในรูปแบบนี้ ผมว่าเราอย่ามาสร้างดีกว่าองค์ความรู้แบบนี้

สโรชา – อ้าวแต่ว่าเขาไม่ได้นะ เรายังพูดเลยนะ ตั้งสิบกว่านาทีเนี่ย เอาละค่ะ แต่ก็นำมาพูดคุยกันนะคะ ถึงมิติที่แตกต่าง ว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นนั้นถ้ามองในแง่ของศีลธรรม แน่นอนค่ะ ว่า การตลาดนั้น คงจะนำเรื่องราวของศีลธรรมไม่ได้ แต่ที่เราพูดคุยกันทั้งหมด เดี๋ยวซักครู่หนึ่งคงจะได้พูดคุยกันถึงภาคใต้ วันนี้เราคุยกันถึงเรื่องตบนม ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา อย่าลืมนะคะว่าเกิดเหตุการณ์สึนามิขึ้น และก็จริงๆ แล้ว เราพูดคุยกันในรายการไปครั้งหนึ่งแล้วว่าเราอย่าปล่อยให้กระแสเรื่องราวของการเมือง การเลือกตั้ง การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ถึงตอนนี้ปัญหาของภาคใต้ ไปปกปิดประเด็นการช่วยเหลือของสึนามิเกิดขึ้น เพราะถึงแม้ว่าตอนนั้นเราบริจาคกันไป เรื่องราวความเป็นอยู่ อาหารการกิน น้ำดื่มก็ได้ช่วยกันไปแล้วถึงตอนนี้เราต้องช่วยเขาให้กลับมายืนบนขาตัวเองได้อีกครั้งหนึ่ง ชาวประมงจำนวนมาก ที่ไม่มีอาชีพ ที่จะทำงานเพราะว่าเรือไม่ได้รับการซ่อมแซม บ้านเรือนยังไม่ได้รับการซ่อมแซมเช่นกัน เพราะฉะนั้นทางหนังสือพิมพ์ผู้จัดการได้ร่วมกับมูลนิธิธรรมะอิสระ และบริษัททีพีไอ โพลีน จำกัด นะคะ ได้ตั้งบัญชีขึ้นมาเพื่อที่จะบริจาคเงินไปช่วยเหลือเพื่อซ่อมแซมบ้านและเรือของผู้ประสบภัยสึนามิที่หมู่บ้านท้ายเกาะลันตา จ.กระบี่นะคะ อยากจะเรียนเชิญคุณผู้ชมได้บริจาคความช่วยเหลือไป เดี๋ยวซักครู่หนึ่ง เราจะขึ้นเลขที่บัญชีและก็ธนาคารสาขาไหน กรุณาจดไว้ด้วยนะคะ ถ้าหากว่ามีจิตศรัทธาก็เรียนเชิญบริจาคกันได้ค่ะ อีกเรื่องหนึ่ง ที่อยากจะเล่าให้ฟังซักนิดนึง คือเรื่องราวการสัมมนาวิชาการนานาชาติครั้งที่ 1 เรื่องการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง ด้วยการแพทย์แบบผสมผสาน ในระหว่างวันที่ 16-18 มีนาคม 2548 ที่จะถึงนี้ค่ะ ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยานะคะ ผู้ที่สนใจสามารถโทร.ไปติดต่อได้ที่ 02-640-8090 ต่อ 505 ติดต่อคุณส้มได้ค่ะ พักกันซักครู่หนึ่งนะคะ เดี๋ยวกลับมาคุยกันถึงเรื่องของภาคใต้กันต่อค่ะ

**************
สโรชา – กลับมาสู่เมืองไทยรายสัปดาห์นะคะ ไปคุยกันถึงเรื่องราวใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กันบ้างค่ะ เพราะว่าเราได้พูดกันมาก็หลายรอบแล้วเหมือนกัน ในต่างมิติกัน วันนี้เรามาทบทวนกันซักนิดนึงดีไหมค่ะ

สนธิ - ถ้าให้ผมสรุป ผมอยากจะพูดเรื่องมิติทางนอกประเทศก่อน มีคนถามผมว่า ให้ผมสรุปสั้นๆ ได้ไหม ว่าเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างโลกมุสลิม กับโลกทางตะวันตกนั้น นอกเหนือจากที่มาที่ไปของประวัติศาสตร์แล้ว พอจะอธิบายในเชิงทำความรู้ร่วมสมัยได้ไหมว่า มันเกิดขึ้นได้ยังไง ผมพยายามเรียบเรียงสั้นๆ เพื่อให้ทางท่านผู้ชมที่บ้านได้เข้าใจว่า การปะทะกันของ 2 กลุ่มนี้ เกิดขึ้นมาจากกระบวนการสร้างความมั่งคั่งของทางตะวันตก ที่ไม่หยุดยั้งการสร้างความมั่งคั่ง ด้วยนโยบายเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม กระบวนการนี้ แผ่กระจายออกไป จะเป็นในรูปของเปิดเสรี จะเป็นในรูปของฮอลลิวูด ของเป๊ปซี่ โคล่า แมคโดนัลด์ จะเป็นในรูปของตลาดหลักทรัพย์

สโรชา – กระจายอย่างต่อเนื่อง

สนธิ กระจายอย่างต่อเนื่องก็ไปปะทะเอากับวัฒนธรรมปิด นั่นคือวัฒนธรรมมุสลิม ซึ่งเป็นวัฒนธรรมปิด เพราะฉะนั้นแล้วก็เกิดกระแสต่อต้าน ปกป้องลักษณะของศาสนาของเขา เพราะฉะนั้นในกระบวนการปะทะกันตรงนี้ก็คือการเกิดกระบวนการผู้ก่อการร้ายขึ้นมา นะครับ เมื่อเกิดกระบวนการผู้ก่อการร้ายขึ้นมาก็ย่อมเกิดกระบวนการผู้ต่อต้านผู้ก่อการร้าย คือเกิดกระบวนการ ถ้าภาษาอังกฤษเรียกว่า terrorism ถ้าภาษาอังกฤษอีกฝั่งเรียกว่า anti-terrorism เพราะฉะนั้นแล้วทั้ง terrorism คือขบวนการผู้ก่อการร้ายและกระบวนการต่อต้านผู้ก่อการร้ายก็เลยปะทะกัน และทั้งสองกระบวนการก็เริ่มสร้างเครือข่ายของตัวเอง ซึ่งปะทะกันเป็นจุดๆ ไปเรื่อยๆ เป็นระดับๆ ไป นะครับ จากอัลกออิดะห์ อุสซามะห์ บิน ลาดิน ชนโดยตรงกับสหรัฐอเมริกา สหรัฐอเมริกาก็เลยตอบโต้กลับมา เมื่อตอบโต้กลับมาแล้วก็สามารถที่จะปะทะตามที่ต่างๆ ทีนี้ชนชาวมุสลิมก็เป็นชนชาวมุสลิมที่มีอยู่ในทุกๆ ประเทศ จะมากจะน้อยแล้วแต่ภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ของประเทศนั้น เมื่อมีการปะทะกันเช่นนี้ วิธีการวิธีการหนึ่งของกลุ่มประเทศโลกตะวันตกที่ไม่ต้องการให้ผู้ก่อการร้ายนั้นสามารถจะระดมพลพรรคเพื่อมาก่อให้เกิดสงครามศาสนา หรือที่เขาเรียกว่าญิฮาด ก็คือส่งนักรบชาวมุสลิม เหมือนกับที่นักรบชาวมุสลิมเคยถูกส่งไปรบที่อัฟกานิสถาน เพื่อรบกับรัสเซีย เขาต้องการป้องกันตรงนี้ เพราะถ้าเขาไม่ป้องกันตรงนี้อาจจะมีชาวมุสลิมในอินโดนีเซียแสนคน ชาวมุสลิมในมาเลเซีย 20,000 คน ประเทศโน้นประเทศนี้มารวมตัวกันและก็มาต่อสู้กับพวกเขา ที่ประเทศอย่างเช่น อิรัก หรือในอนาคตคืออิหร่าน เพราะฉะนั้นวิธีการที่ดีที่สุดคือการส่งออกผู้ก่อการร้าย export terrorism ออกไป ให้ไปปรากฏในประเทศต่างๆ ที่ผมพูดคำว่าส่งออกผู้ก่อการร้าย แปลว่าอะไร ถ้าคุณสโรชาและท่านผู้ชมทางบ้านนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านผู้ชมซึ่งคอยดุด่าว่ากล่าวผมในเรื่องนี้ให้ใช้องค์ความรู้ซักนิดนึง มองย้อนหลังกลับไปว่า เมื่อประมาณวันที่ 11 ก.ย.ที่เกิดเหตุ 11 ก.ย.ขึ้นมานั้น ที่มีการระเบิดเวิลด์เทรด เครื่องบินไปชนและระเบิดนั้น หลังจากที่เกิดเรื่องแล้ว สังคม หน่วยสืบราชการลับของอเมริกาไม่ว่าจะเป็นเอ็นเอสเอ เนชั่นแนล ซีเคียวริตี้ เอเจนซี่ หรือสภาความมั่นคง เอฟบีไอ ซีไอเอ หรือหน่วยงานที่ดำเนินการทางลับต่างๆ ในสหรัฐอเมริกานั้น ถูกสภาอเมริกันตำหนิติเตียนอย่างรุนแรงว่าไม่มีความสามารถที่จะรับทราบว่าฝ่ายก่อการร้ายเคลื่อนตัวอย่างไรบ้าง ทั้งหมดนี้ก็เลยเป็นผลที่ทำให้มีการลาออก มีการไล่ออก และมีการปรับโครงสร้างของคนพวกนี้อย่างใหญ่หลวง รวมทั้งให้งบประมาณมหาศาลเข้าไปและให้อำนาจในการปฏิบัติการนอกประเทศรวมไปจนถึงการลอบสังหารบุคคลต่างๆ นอกจากประเทศสหรัฐอเมริกาได้ นะครับ ในการทำเช่นนี้ ทางหน่วยสืบราชการลับ ต้องการที่จะรู้ข่าวคราวของผู้ก่อการร้ายก่อน การที่รู้ข่าวคราวได้คือการที่จะต้องไปฝังตัวอยู่ในกระบวนการต่างๆ

สโรชา – ส่งสปายเข้าไป

สนธิ – ฝังอยู่ในอัลกออิดะห์ ฝังอยู่ในกระบวนการโจรก่อการร้ายภาคใต้เรา ฝังอยู่ในขบวนการอาบูไซยาฟ นะครับ ฝังอยู่ในหลายๆ กระบวนการ คำถามมีอยู่ว่า ด้วยเหตุผลและสิ่งแวดล้อมอันนี้ซึ่งมันยังพิสูจน์ไม่ได้ แต่มันพิสูจน์ยากของแบบนี้ แต่เมื่อดูสิ่งแวดล้อมแล้วก็ทำให้อดคิดไม่ได้ ว่าการระเบิดที่บาหลี หรือเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นรุนแรงนั้นเป็นไปได้ที่กระบวนการฝังตัวของบรรดาองค์กรลับ องค์กรสืบราชการลับของตะวันตก จงใจจะให้เกิดขึ้นตามประเทศต่างๆ จงใจเพื่อที่จะให้กระบวนการผู้ก่อการร้ายที่อยู่ในประเทศนั้น มีความขัดแย้งกับเจ้าของประเทศ ทะเลาะกันตรงนั้น เมื่อทะเลาะกันตรงนั้นแล้ว พวกแกก็อยู่ตรงนั้น อย่ามายุ่งกับฉัน

สโรชา – พูดง่ายๆว่า ไปยุ่งกับประเทศอื่นซะ ไม่ต้องมายุ่งกับตัวเขา

สนธิ – ทะเลาะกันเหมือนกับคนทางใต้ทะเลาะกับรัฐบาลไทย เข้าใจไหมครับ เหมือนกับคนอินโดนีเซีย พวกเจไอก็ทะเลาะกับรัฐบาลอินโดนีเซีย ผู้นำศาสนาเจไอก็ทะเลาะกับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ก็ดำเนินการไป ก็ฆ่าฟันกัน อเมริกาก็มีหน้าที่ช่วยเหลือรัฐบาลให้ปราบปรามคนพวกนี้ หรือพูดง่ายๆว่าให้มันยุ่งกันแถวๆ นั้น จะได้ไม่ต้องมาข้า เพราะฉะนั้นเรื่องมันก็เลยมีอยู่ตรงนี้ที่ผมคิดว่าเฉพาะเบรกนี้ผมจะเอาเรื่องของมิติทางสากลให้ทราบ และเดี๋ยวเราค่อยกลับมาครับ นี่เป็นเค้าโครง

สโรชา – ค่ะ ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรานั้นจะเห็นได้ว่าในช่วงซัก 3-4 ปีที่ผ่านมาจะมีการเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ นะคะ เป็นไปได้ไหม ว่า มันเชื่อมโยงกัน และมีผู้ที่อยู่เบื้องหลัง เป็นมหาอำนาจประเทศหนึ่ง เดี๋ยวซักครู่หนึ่งกลับมาเราจะคุยกันในประเด็นนี้ต่อซักครู่เดียวค่ะ

***************
สโรชา – กลับมาช่วงสุดท้ายของเมืองไทยรายสัปดาห์นะคะ ไปดูผลโพลกันซักนิดนึงค่ะ สัปดาห์นี้เราเรียนถามคุณผู้ชมว่า คุณผู้ชมเห็นด้วยหรือไม่ ว่าเรื่องอกหักเรื่องเล็ก เรื่องอกเล็กเรื่องใหญ่ เห็นด้วยประมาณ 27 เปอร์เซ็นต์ ไม่เห็นด้วยประมาณ 73 เปอร์เซ็นต์ แสดงว่ายังมีความหวังอยู่

สนธิ - แสดงว่าเป็นเรื่องที่เป็นสิริมงคล แสดงว่าคนยังเห็นว่าปัญญาสำคัญกว่า

สโรชา – ค่ะ ก็ไปดูหมายเลขผู้โชคดีค่ะได้รับโทรศัพท์มือถือพานาโซนิก เอ 200 นะคะ มินิโฟนแถบสีสุดสวีท แจก 1 เครื่องในสัปดาห์นี้ค่ะ พร้อมกับหมายเลขผู้โชคดีอีก 3 ท่านนะคะ ที่ได้รับทีเชิ้ตของฟรีอินเตอร์เน็ต 3 ตัวค่ะ ทางรายการจะติดต่อกลับไปเพื่อมารับของรางวัลนะคะ ไปคุยกันต่อซักนิดนึงค่ะ เรื่องราวของภาคใต้ เรามีเวลาไม่มากนัก แต่เมื่อซักครู่นี้เราทิ้งท้ายกันด้วยประเด็นของต่างประเทศ

สนธิ – ทางสากล เพราะฉะนั้นแล้วผมจะโยงให้ดู เมื่อมีการส่งออกผู้ก่อการร้ายไปแล้ว แสดงว่าเขาก็เริ่มไปหาเชื้อ เชื้อตามจุดต่างๆ ที่มีอยู่ คืออย่างเช่น ความไม่สงบในภาคใต้ ซึ่งเคยมีอยู่มาแล้ว การต่อสู้กับรัฐบาลกลางของพวกกบฏโมโร ที่มินดาเนา หรือว่า กลุ่มใครก็ตาม อย่างเช่น ปากีสถาน ในเรื่องของการต่อสู้ในเรื่องแคชเมียร์

สโรชา – ที่มีแผลอยู่แล้ว

สนธิ – ที่มีแผลและมีเชื้อที่ปะทุอยู่แล้ว บางอันก็เริ่มมอดลง แต่ก็มีเชื้อหลงเหลืออยู่ ทางใต้ 3 จังหวัดภาคใต้ของเราต้องยอมรับว่าจะยังไงก็ตาม ขบวนการแบ่งแยกดินแดนนี้เชื้อยังอยู่ แต่อาจจะไม่ได้ลุกโพลงขึ้นมา เหมือนสมัยครั้งหนึ่ง เริ่มมอดไปทีละนิด แต่จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม มันเกิดลุกโพลงขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อลุกโพลงขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง อุปมาอุปมัยเหมือนว่ามีเรื่องมีราวเกิดขึ้นแล้ว ขบวนการสากลที่ผมเล่าให้ฟังเมื่อกี้ มันกำลังรอที่จะเชื่อมต่อมาเท่านั้นเอง รอจังหวะ ทีนี้ขบวนการสากลก็แบ่งเป็น 2 ขบวนการ จำให้ดีๆ นะครับ ขบวนการหนึ่งคือขบวนการ terrorism คือ พวกอัลกออิดะห์ อุสซามะห์ บิน ลาดิน อีกขบวนการคือ ขบวนการ anti- terrorism ทั้งสองฝั่งต้องการจะให้เรื่องราวต่างๆ ในภาคใต้เราปะทุ คือจริงๆ ทั้งสองฝั่ง ไปๆ มาๆ กลายเป็นคนโรคจิตทั้งคู่ คือคล้ายๆ ว่าจะเลือกประเทศต่อสู้กัน อุปมาอุปมัยเหมือนครั้งหนึ่ง เมื่อสมัยยุคสงครามเย็น สหรัฐปะทะกับรัสเซีย แต่ไม่ปะทะตรง แต่จะใช้ประเทศที่สาม เป็นเวทีรบ นะครับอย่างเช่นทางฝ่ายหนึ่ง อเมริกาก็สนับสนุนอาวุธ อีกฝ่ายหนึ่งรัสเซียก็ส่งกำลังให้ใต้ดินและก็สู้กัน เขาเรียกว่าสงครามตัวแทน

สโรชา – คือไม่ปะทะกันโดยตรงโดยทั้งสองคู่กรณี

สนธิ – ถูกต้อง เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นทางใต้ที่น่ากลัวที่สุด ก็คือว่า บางครั้งนโยบายที่เราทำอะไรไป เราจะไม่รู้ว่าเราเองก็ตกเป็นเครื่องมือของเขาเหมือนกัน ที่จะให้เกิดเรื่องซึ่งลุกลามขึ้นตลอดไป ทีนี้โดยนิสัยแล้ว โดยสัญชาตญาณของมนุษย์ผมคิดว่าทุกคนก็โกรธ คุณก็โกรธ ผมก็โกรธ จู่ๆ เดี๋ยวพระตาย เดี๋ยวทหารตาย เดี๋ยวชาวบ้านตาย ตายมันตลอด เพราะฉะนั้นก็เลยเกิดความรู้สึกว่าฆ่ามันเลย บางคนถึงขนาดที่เรียกว่าไร้สติ ถึงกับบอกว่าพวกมุสลิมภาคใต้ต้องฆ่าให้หมด ก็คือว่าเป็นคนซึ่งอัตตาสูง และเป็นคนที่โหดเหี้ยมอำมหิตในจิตใจ ใช้อารมณ์อย่างมากๆ ไม่ได้พินิจพิเคราะห์ว่านี่คือหลุมพรางกับดักที่เขาขุดเอาไว้ ถ้าผมต้องการให้เกิดความไม่สงบและความไม่สงบที่ต้องการที่จะเกิดต่อเนื่อง ผมต้องยุให้คุณสโรชามีอารมณ์ร้ายไปด้วยตลอดเวลาต่อเนื่อง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามคุณสโรชาจะดีกับชุมชนนี้แค่ไหน ผมไม่สนใจ ผมก็ต้องกลั่นแกล้งตลอดเวลา นะครับ คุณสโรชาบอกว่า เอาเงินมาช่วยประชาชน หมู่บ้านผม ผมไม่สนใจ หมู่บ้านผมชอบอกชอบใจที่ได้รับความช่วยเหลือ ที่ได้รับความดูแลจากรัฐ ก็ไม่สนใจ ผมก็ฆ่าต่อ คุณสโรชาบอกว่าเอ๊ะ พูดกันไม่รู้เรื่อง ถ้าอย่างนั้นบ้องหูซักทีไหม นี่ไงครับ คือการยั่วยุโทสะ ให้เกิดอารมณ์และเกิดการปราบปรามให้มากขึ้น เพราะว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องอาชญากรรม หลายคนยังเข้าใจผิด หลายคนยังมองว่า เมื่อเขาทำผิดกฎหมายก็ปราบปรามไปซิ ไม่ใช่มิติแบบนั้น ถ้าคิดเป็นมิติแบบนั้น มันไม่จบ นะครับ และเผอิญเชื้อเก่ามันอยู่ ในรอบ 2 ปีกว่าที่ผ่านมานี่ มีคนใต้ที่มีเชื้อสายมุสลิม 3 จังหวัดภาคใต้สูญหายไปจากครอบครัวเขา 2,400 คน หนังสือพิมพ์ในกรุงเทพฯไม่ได้รายงาน โทรทัศน์ไม่ได้รายงาน ประชาชนทั่วไปไม่ได้รับทราบ 2,400 คน ญาติพี่น้องพ่อแม่เขาคนละ 200 คน เอา 200 คูณเข้าไป 480,000 คน ที่ได้รับความเจ็บช้ำน้ำใจตรงนี้ เราต้องเข้าใจเขาตรงนี้ก่อน เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็ต้องถือว่าเป็นเชื้อถูกไหม เป็นเชื้อซึ่งคนที่ไม่ประสงค์ดีต่อเราต้องการประสงค์ร้าย ใช้เชื้อตัวนี้ซึ่งมีอยู่แล้ว เอาน้ำมันราดตูมเข้าไปตลอดเวลานอกจากนั้นแล้ว ยังมีบางกรณีซึ่งเราก็ให้คำตอบชาวบ้านเขาไม่ได้ อย่างเช่นกรณีของทนายสมชาย นีละไพจิตร จนวันนี้เราก็ยังให้คำตอบเขาไม่ได้ เพราะฉะนั้นแล้ววันนี้คือว่าเหตุการณ์ ณ วันนี้ วันนี้คือวันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2548 เมื่อเทียบกับมกราคม 2547 เหตุการณ์เปลี่ยนไปเยอะแล้ว เลวร้ายลงกว่าเก่ามาก เหตุผลเพราะว่าเราไปมองมิติของการใช้ความรุนแรงที่ผมพูดผมไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ปราบปราม เป็นเพียงแต่ว่ากระบวนการในการปราบปรามนั้นจนกระทั่งวันนี้เราก็ยังถามอยู่ว่ามันเกิดได้ยังไง มีอยู่ที่ไหน

สโรชา – แล้วทำยังไงละค่ะ ในเมื่อบอกว่า จะปราบปรามในระดับหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกัน ก็พยายามที่จะเข้าใจสาเหตุของสิ่งที่เกิดขึ้น มันไม่ได้เป็นสิ่งที่ง่ายๆ เลยนะคะ

สนธิเรื่องง่ายๆ ท่านนายกฯ ท่านเป็นคนที่มีความปรารถนาดี แต่คนซึ่งรับลูกจากท่านไปนั้นทำงานไม่เป็น

สโรชา – อย่างนั้นเลยหรือค่ะ

สนธิ – คุณจำได้ไหมกรณีตากใบ ท่านนายกฯ ออกมาพูดทีหลัง ท่านบอกว่า ความช่วยเหลือให้พวกครอบครัวที่กำพร้าพ่อ กำพร้าลูก มีปัญหาที่ตากใบที่ตายไปนั้นรัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือ คุณสโรชา ลงไปสำรวจ ผมอยากให้ท่านนายกฯ ส่งคนไปดูให้ดีๆ ความช่วยเหลือนั้นถ้าจะถึงถึงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ อีก 99 เปอร์เซ็นต์ยังไม่ได้ไป จะติดขัดตรงไหน ผมไม่รู้ แต่นี่เป็นเพียงแต่ยกตัวอย่างให้ฟัง นะครับ ผมคิดว่าการแก้ปัญหาภาคใต้นั้นจะต้องแก้เป็นระบบ ปราบก็ปราบ ป้องกันก็ป้องกัน แก้มิติวัฒนธรรมก็ต้องแก้ แก้ไปพร้อมกัน ถ้าเราจะมีกองกำลังกองพลที่ 15 ก็มีไป ถึงแม้ว่าผมอาจจะมีข้อสงสัยและอาจจะไม่เห็นด้วยกับวิธีการตั้งกำลังพลตรงนี้ ซึ่งผมคิดว่าน่าจะทำได้ดีกว่าการระดมกันเอาทหารไปอีก 1 กองพล อันที่สอง ปราบปราม ป้องกัน และต้องมีหน่วยปราบปราม และต้องแยกอีก คือ หน่วยปราบม็อบ เพราะอย่าลืมว่า ม็อบที่กรือเซะ และม็อบที่ตากใบนั้น เกิดขึ้นเพราะเราไม่ชำนาญในการปราบม็อบและการที่จะเกิดม็อบอีกครั้งหนึ่งและจะใช้ทหารเข้าไปปราบนั้น กรณีก็จะเหมือนกับที่ตากใบ ซ้ำแล้วซ้ำอีก ที่สำคัญที่สุดคือว่าทำอย่างไรที่จะให้ 3 จังหวัดภาคใต้นั้น เป็นเขตแดน คุณจะเรียกว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษเรียกไป หรือผมเรียกรวมกันแล้วเป็นมณฑลพิเศษมณฑลหนึ่งที่มีคนจากส่วนกลางลงไปปกครอง มีกองทหารตั้งและให้เขาปกครองตนเอง ผมพูดอย่างนี้ก็ต้องโดนด่า เหมือนกับว่าคุณคนไทยหรือเปล่า คุณรักชาติหรือเปล่า มันไม่ใช่ประเด็น นี่แหละคือการรักชาติที่แท้จริง เพราะว่าจากเหตุการณ์วันนี้คุณสโรชา เราต้องยอมรับนะ

สโรชา – มีคนหลายคนอาจจะถามว่าถ้าเกิดไปถึงขั้นนั้นแล้วมันอาจจะไปสู่ขั้นอื่นๆ ต่อๆ ไปหรือไม่ นั่นคือสิ่งที่เขากลัว

สนธิ – นั่นคือที่มาของการตั้งกองพลที่ 15 อยู่ใน 3 จังหวัดภาคใต้ รักษาการ คือรักษาขอบพัทธสีมาของเรา คล้ายๆ ว่า 3 จังหวัดภาคใต้เป็นของเราอยู่ แต่ไม่เป็นไร ผมจะชี้ให้เห็นประเด็นที่สำคัญมากๆ นะครับ ผมเคยแนะนำไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ถ้าคนไหนก็ตามที่ฟังและพูดให้ท่านนายกฯฟังได้ กรุณานำไปเรียนท่านนายกฯ แต่ละจังหวัดเราเคยพูดแล้วครั้งหนึ่งจะต้องตั้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ของจังหวัดขึ้นมา จำได้ไหม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน จะเป็น 9 คน 7 คน หรือ 11 คนก็ตาม ไม่เป็นไร แต่ขอให้เชิญฝั่งมุสลิมมีมากกว่าเรา 1 คน ถ้า 11 คน ของเขา 6 ของเรา 5 ถ้า 7 ของเขา 4 ของเรา 3 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนจังหวัดนี้คืออะไร คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนจังหวัดก็คือลักษณะกึ่งๆ การตัดสินความที่เราให้เขาเป็นคนชี้เป็นชี้ตาย

สโรชา – เมื่อร้องเรียนหรือค่ะ

สนธิ – เมื่อมีการมาร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของราชการที่ไม่เป็นธรรมต่อเขา แล้วมีการทำร้ายทำลายอะไรก็ตามที่เขาร้องเรียนขึ้นมาให้คณะกรรมการชุดนี้เป็นผู้พิจารณา ถ้าเขาพิจารณาว่าไอ้นี่เป็นโจรจริง และไปฆ่าคนจริงและถูกจับมา ตำรวจทำเห็นชอบแล้ว ผมเชื่อว่าคณะกรรมการที่เข้ามาจำนวนมากกว่าเรา 1 คนนั้น ย่อมเป็นคนที่มีเหตุมีผล เขาไม่ใช่เป็นคนร้าย เผอิญเราไม่เคยให้เกียรติเขา เราไม่เคยไว้ใจเขา ให้เขาตัดสินใจ เราอาจจะ 4 เสียง 5 เสียง ชนะไป ไม่เป็นไร เราเคารพในสิทธิเขา แต่ว่าข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ เมื่อถูกตีแผ่ไป ถ้าเขาเกเร เขาไม่มีเหตุผลเขาก็อยู่ไม่ได้ ถูกไหมครับ ถ้าเขายิ่งเกเร สังคมพิพากษา แต่ถ้าเขาพิพากษาแล้ว การที่พิพากษาข้างเราว่าเราทำไม่ผิด เป็นความชอบธรรมของเราอย่างโปร่งใสที่สุด ผมคิดว่าจุดแรกต้องทำตรงนี้ก่อน เพราะว่าเขาไม่เคยไว้ใจเจ้าหน้าที่รัฐ เราก็บอกว่าคุณไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่รัฐ ผมจะสร้างกลไกตรงนี้มาให้คุณสบายใจโอเคไหม เริ่มตรงนี้ก่อนซิ

สโรชา – สร้างความไว้วางใจ แสดงเจตนาที่ดี

สนธิ – ถูกต้อง เวลาเราหมดแล้ว แต่นี่เป็นแค่ตัวอย่างเล็กๆ ซึ่งยังมีอีกหลายเฟซ ซึ่งจะทำได้ ขั้นแรก ผมมีอีกเยอะซึ่งผมคิดว่าน่าจะทำได้ ผมไม่ได้เป็นขาโจ๋ซึ่งมาวิพากษ์แล้วไม่แนะนำ

สโรชา – ขาประจำ

สนธิ – ผมไม่ใช่ขาประจำ

สโรชา – ค่ะ ก็นำมาพูดคุยในรายการนะคะ เพราะว่าบางครั้งอาจจะมีหลายๆ ท่านมองเห็นว่า ก็วิพากษ์วิจารณ์กันไป พูดกันได้ นะคะ แต่รู้จริงหรือเปล่าถ้าหากว่าไม่รู้จริงก็ไม่ต้องพูด แต่ในขณะเดียวกันขอเสนอแนะวิธีการซึ่งคิดว่าดีที่สุดนะคะ ก็นำมาเล่าสู่กันฟังในค่ำคืนนี้ หมดเวลาแล้วค่ะ สำหรับเมืองไทยรายสัปดาห์นะคะ กลับมาพบกันใหม่ วันศุกร์หน้า สำหรับวันนี้คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ดิฉัน สโรชา พรอุดมศักดิ์ ลาไปเพียงเท่านี้ สวัสดีค่ะ

*************
กำลังโหลดความคิดเห็น