ประธานศาลรธน.ปัดข่าวหลานค้ายาบ้า
เมื่อวันที่ 4 ก.พ.48 พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง ผกก.สส.บก.น.8 พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผกก.สส.บก.น.8 และ พ.ต.ท.ศุภกฤช เดือนแจ้งรัมย์ สว.สส.บก.น.8 ร.ต.อ.อดิศักดิ์ หล่าสกุล รอง สว.ได้นำตัวนายนพพร หรือ บอย ทองธรรมชาติ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 4 แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม. พร้อมหมายค้นศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 122/48 ลงวันที่ 4 ก.พ.2548 เข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 104/30 ชุมชนหลังวัดยางสุทธาราม แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย เพื่อตรวจค้นหายาเสพติด ซึ่งผลการตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าวนั้น ไม่พบว่ามีคนอาศัยอยู่ จึงได้นำตัวไปตรวจค้นที่บ้านของผู้ต้องหา ก็ไม่พบส่งของผิดกฎหมายเช่นกัน
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก เมื่อเวลา 02.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าว ได้ติดต่อล่อซื้อยาบ้า จำนวน 10 เม็ดจากผู้ต้องหา ในราคา 2,400 บาท โดยนัดมอบของกันที่บริเวณวัดมะกอก แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน และสามารถจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้พร้อมของกลาง และยึดรถ จยย.ฮอนด้าสีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บยฉ 522 กทม. โทรศัพท์มือถือโนเกีย 6610 ซึ่งจากการตรวจค้นภายในตัวยังพบยาบ้าอีก 200 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นของกลาง และนำตัวมาสอบสวน โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าทั้งหมดรับมาจาก นายอ๊อด วัดยาง ซึ่งอาศัยอยู่บ้านเลขที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจค้น
จากการสอบสวนนายนพพร ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ประมาณครึ่งเดือน ยังทำงานอยู่ฝ่ายสินเชื่อ ของบริษัทแคปิตอล จำกัด แต่ปรากฏว่า เงินไม่พอใช้จ่าย ภายหลังมีพรรคพวกชวนมาขายยาบ้า ซึ่งก็ทำรายได้ดี ก็เลยลาออกจากงานออกมาขายยาบ้าอย่างเดียว โดยไปรับที่บ้านนายอ๊อด ในราคาเม็ดละ 140 บาท จากนั้นก็จะนำมาขายต่อในราคา 220-240 บาท โดยจะขายวันละ 120 เม็ด จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม
นายนพพร ให้การต่อว่า ก่อนหน้าที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ได้นำเงินไปบริจาคผ่านธนาคารทหารไทย ช่วยเหลือผู้ประสอบภัยคลื่นยักษ์สึนามิ 2 ครั้ง เป็นเงิน 13,000 บาท หลังจากบริจาคแล้ว ก็บอกให้พรรคพวกหาลูกค้ามาซื้อยาเยอะๆ เพื่อจะได้นำเงินส่วนกำไรจากการขายยา ไปบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยอีก นอกจากนั้นนายนพพร ยังให้การอ้างว่า ตนเองเป็นญาติกับ ดร.กระมล ทองธรรมชาติ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ โดย ดร.กระมล เป็นน้องชายของปู่ตนเอง เคยไปเจอกันที่บ้านในจ.สุพรรณแต่ก็ไม่เคยคุยกัน
ด้านนายกระมล ทองธรรมชาติ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวชี้แจงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว นายนพพร โดยขอปฏิเสธว่านายนพพรไม่ได้เป็นหลานและไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับตน ส่วนนามสกุลที่เหมือนกันอาจจะเป็นนามสกุลที่มีความพ้องหรือเหมือนกันก็ได้ เพราะตามสายเลือดของตนเป็นคนจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมกับได้ประสานให้ตำรวจ เตรียมดำเนินคดีฐานแอบอ้าง
เมื่อวันที่ 4 ก.พ.48 พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง ผกก.สส.บก.น.8 พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผกก.สส.บก.น.8 และ พ.ต.ท.ศุภกฤช เดือนแจ้งรัมย์ สว.สส.บก.น.8 ร.ต.อ.อดิศักดิ์ หล่าสกุล รอง สว.ได้นำตัวนายนพพร หรือ บอย ทองธรรมชาติ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 4 แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม. พร้อมหมายค้นศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 122/48 ลงวันที่ 4 ก.พ.2548 เข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 104/30 ชุมชนหลังวัดยางสุทธาราม แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย เพื่อตรวจค้นหายาเสพติด ซึ่งผลการตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าวนั้น ไม่พบว่ามีคนอาศัยอยู่ จึงได้นำตัวไปตรวจค้นที่บ้านของผู้ต้องหา ก็ไม่พบส่งของผิดกฎหมายเช่นกัน
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก เมื่อเวลา 02.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าว ได้ติดต่อล่อซื้อยาบ้า จำนวน 10 เม็ดจากผู้ต้องหา ในราคา 2,400 บาท โดยนัดมอบของกันที่บริเวณวัดมะกอก แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน และสามารถจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้พร้อมของกลาง และยึดรถ จยย.ฮอนด้าสีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บยฉ 522 กทม. โทรศัพท์มือถือโนเกีย 6610 ซึ่งจากการตรวจค้นภายในตัวยังพบยาบ้าอีก 200 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นของกลาง และนำตัวมาสอบสวน โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าทั้งหมดรับมาจาก นายอ๊อด วัดยาง ซึ่งอาศัยอยู่บ้านเลขที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจค้น
จากการสอบสวนนายนพพร ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ประมาณครึ่งเดือน ยังทำงานอยู่ฝ่ายสินเชื่อ ของบริษัทแคปิตอล จำกัด แต่ปรากฏว่า เงินไม่พอใช้จ่าย ภายหลังมีพรรคพวกชวนมาขายยาบ้า ซึ่งก็ทำรายได้ดี ก็เลยลาออกจากงานออกมาขายยาบ้าอย่างเดียว โดยไปรับที่บ้านนายอ๊อด ในราคาเม็ดละ 140 บาท จากนั้นก็จะนำมาขายต่อในราคา 220-240 บาท โดยจะขายวันละ 120 เม็ด จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม
นายนพพร ให้การต่อว่า ก่อนหน้าที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ได้นำเงินไปบริจาคผ่านธนาคารทหารไทย ช่วยเหลือผู้ประสอบภัยคลื่นยักษ์สึนามิ 2 ครั้ง เป็นเงิน 13,000 บาท หลังจากบริจาคแล้ว ก็บอกให้พรรคพวกหาลูกค้ามาซื้อยาเยอะๆ เพื่อจะได้นำเงินส่วนกำไรจากการขายยา ไปบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยอีก นอกจากนั้นนายนพพร ยังให้การอ้างว่า ตนเองเป็นญาติกับ ดร.กระมล ทองธรรมชาติ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ โดย ดร.กระมล เป็นน้องชายของปู่ตนเอง เคยไปเจอกันที่บ้านในจ.สุพรรณแต่ก็ไม่เคยคุยกัน
ด้านนายกระมล ทองธรรมชาติ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวชี้แจงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว นายนพพร โดยขอปฏิเสธว่านายนพพรไม่ได้เป็นหลานและไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับตน ส่วนนามสกุลที่เหมือนกันอาจจะเป็นนามสกุลที่มีความพ้องหรือเหมือนกันก็ได้ เพราะตามสายเลือดของตนเป็นคนจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมกับได้ประสานให้ตำรวจ เตรียมดำเนินคดีฐานแอบอ้าง