สนธิ จวกฮอนด้า ซีอาร์วี เป็นรถเจ้าปัญหา ผลิตไม่ได้มาตรฐาน ระบุเป็นบุญของมนุษยชาติที่ไม่ผลิตเครื่องบิน เพราะ ทุก 100 ลำ ต้องตก 1 ลำ พร้อมเผยบริษัทรถยนต์มีอิทธิพลมากในเมืองไทยเนื่องจากสนิททุกรัฐบาล ทำให้อยู่เหนือผู้บริโภค นอกจากนี้ยังเปิดเผยหมดเปลือกถึงเบื้องหลังค่าเงินบาทลอยตัว ปี 2540 ยันไม่ใช่ รัฐบาลพล.อ.ชวลิต ทำให้ประเทศไทยเป็นซากศพ แต่เพราะธนาคารแห่งประเทศไทย เตือนพวกเก็งกำไรค่าเงินขณะนั้นกำลังถูกกรรมตามหลอน และเตรียมออกหนังสือแฉเรื่องนี้เช่นกัน
สโรชา – สวัสดีค่ะ คุณผู้ชม ขอต้อนรับเข้าสู่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ อาหารสมองก่อนเข้านอน ในทุกคืนวันศุกร์ค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้งนึงค่ะ กับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ดิฉัน สโรชา พรอุดมศักดิ์ค่ะ วันนี้มีเรื่องใหญ่หนึ่งเรื่องค่ะ ที่เราต้องพูดคุยกันอย่างลึกซึ้ง หนังสือเล่มนี้นะคะ หนังสือบันทึกลับ 2540 ความจริงที่ถูกปกปิดมาเป็นเวลานาน เชื่อว่าคุณผู้ชมคงจะได้เห็นหรือได้ยินข่าวเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้มาพอสมควรแล้วนะคะ แต่เชื่อว่าหลายๆ ท่านฟังแล้วอาจจะไม่ค่อยเข้าใจ ตกลงแล้ว เรื่องราวการตัดสินใจลดค่าเงินบาท ในปี 2540 เป็นอย่างไร ตัวละครที่มีบทบาทในการตัดสินใจครั้งนั้นคือใครบ้างและการดำเนินการทั้งหมดที่ว่าข้อสงสัย หนังสือเล่มนี้ถูกนำมาพิมพ์ในช่วงนี้จะใช้เป็นเครื่องมือในการหาเสียงหรือในการเลือกตั้งครั้งนี้หรือไม่ค่ะ คุณสนธิ คุยกันยาวใช่ไหมค่ะ
สนธิ – ต้องคุยกันยาว จริงๆ แล้วที่มาที่ไปของหนังสือเล่มนี้ก็มีพอสมควร และทำไมถึงออกในช่วงนี้ก็มีเหตุผลเหมือนกัน แต่ว่าผมว่าอันนี้เก็บไว้ในเบรก 2 ผมอยากจะพูดเรื่องซีอาร์วี
สโรชา – ค่ะ คุณเดือนเพ็ญ และซีอาร์วี เจ้าปัญหาคันนั้น
สนธิ – ครับ คุณเดือนเพ็ญ ศิลาเกษ วันนี้เขาไปเจอกันที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค สคบ. ตกลงว่าทางฮอนด้ายินดีที่จะซื้อรถจากคุณเดือนเพ็ญ คุณเดือนเพ็ญ ก็น่ารักบอกว่า รักซีอาร์วี แต่ช่วยไม่ได้ เมื่อเป็นอย่างนี้ จะไปซื้อฟอร์จูนเนอร์แล้ว โตโยต้า แต่ประเด็นที่ผมอยากจะพูดกับคุณสโรชาและผู้ชมที่บ้าน กรณีคุณเดือนเพ็ญ สะท้อนให้เห็นถึงนัย 2-3 ประการนะครับ นัยประการแรกคือว่า ฮอนด้าใช้ไม่ได้งานนี้ แย่มากๆ ทำไมถึงแย่มากๆ คือ ตัวเองรู้อยู่แล้วว่า รถเป็นรถป้ายแดง ใช้มาแค่ 2 เดือน แล้วประวัติการเข้ามาซ่อมกับเขา 3-4 ครั้งแล้ว จริงๆ แล้วเมื่อเขาเสนอมา ตัวเองต้องฉกฉวยวิกฤติตรงนี้ให้เป็นโอกาส ด้วยการเอารถคืนมาแล้วเปลี่ยนคันใหม่ให้เขา และเอารถคันนี้มารื้อซะใหม่ เอามารื้อว่าปัญหาอยู่ที่ไหน จะต้องซ่อมยังไง เพราะว่าซีอาร์วี ช่วงหลังเป็นรถที่ใช้ไม่ได้จริงๆ เพราะว่าเฟืองท้ายดังและแอร์บางทีร้อนบ้างเย็นบ้าง คือเป็นรถเจ้าปัญหาคือช่วง 2-3 ปีหลัง คือฮอนด้าประกอบรถค่อนข้างอันเดอร์ คุณภาพไม่ถึง
สโรชา – ไม่เหมือนสมัยก่อน
สนธิสนธิ – คุณสโรชา แต่ก่อนก็ใช้ฮอนด้า เมื่อกี้ก่อนเข้ารายการเราคุยกันเรื่องกระจกขวา อย่างเช่นฮอนด้า แจซ กระจกทางขวาจะมีปัญหาหมดทุกคัน
สโรชา – จะเป็นจุดอ่อนของเขา
สนธิสนธิ – ที่ร้ายกาจคือว่า แทนที่จะแก้ปัญหา โดยเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส กลับมาพูดในเชิงที่เรียกว่าค่อนข้างจะโอหังเล็กๆ
สโรชา – ประโยคเด็ดที่ดิฉันเชื่อว่าทำให้คุณเดือนเพ็ญตัดสินใจถึงขนาดทุบรถ คงจะเป็นประโยคที่ว่า ใน 100 คัน มี 1 คัน แหละที่เป็นปัญหา คือเหมือนกับช่วยอะไรไม่ได้
สนธิ - ผมเพิ่ง บอกคุณสโรชา ว่า เป็นสิริมงคลกับมนุษยชาติ ในโลกนี้ที่ฮอนด้าไม่ได้สร้างเครื่องบิน เพราะถ้ามันสร้างเครื่องบินแล้ว ทุกๆ 100 ลำ ต้องมี 1 ลำต้องตก คนเป็นร้อย เป็นพัน เพราะฉะนั้นแล้ว พูดอย่างนี้พูดได้ยังไง เพราะฉะนั้นแล้วผมอยากภาวนาให้ประธานฮอนด้าที่ญี่ปุ่นเรียกประธานฮอนด้าในเมืองไทยและบรรดาพวกญี่ปุ่นต่างชาติทั้งหลายให้กลับไปบ้านเมืองซะ ไปฝึกอบรม วิธีดูแลลูกค้า ตรวจสอบลูกค้า ไม่เป็นไร รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ไม่ต้องโฆษณาฮอนด้าก็ได้ ผมไม่รับ ไม่มี และทุกสิ่งทุกอย่างเราต้องสู้เพื่อผู้บริโภค ถูกไหมครับ อีกนัยหนึ่งที่ผมยังพูดค้าง ก็คือว่า ผู้บริโภคเมืองไทย เจ็บเนื้อเจ็บตัวตลอด ไม่เคยได้รับการปกป้อง นี่กรณีคุณเดือนเพ็ญ ศิลาเกษ ซึ่งสะสมเงินเพื่อไปซื้อฮอนด้า แกบอกว่า แกเป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้า กว่าจะซื้อเสื้อผ้ามาได้ กว่าจะขายเสื้อผ้า ซื้อรถคันละล้านต้นๆ นะครับ คนบางคน รถยนต์สำหรับคนไทยแล้ว เป็นสรณะ คนบางคนนะ ไม่พร้อมที่จะดาวน์บ้านซื้อบ้าน แต่ไปเช่าคอนโดเดือนละ 4,000-5,000 บาทแต่พร้อมที่จะดาวน์รถ และผ่อนรถ คือรถกลายเป็นสัญลักษณ์ ซึ่งผมไม่รู้ว่าเป็นความคิดที่ถูกหรือผิด นะครับ แต่ก็เป็นในสังคมนั้น คนไทยลงทุนในเรื่องนี้สูงมาก คุณเดือนเพ็ญ ยังพอจะเอาค้อนปอนมาทุบ และยังได้รถคืน คุณสโรชา นึกถึงชาวบ้านธรรมดา ที่ไปซื้อทีวีสี 21 นิ้ว ซักเครื่องและมีปัญหา และเอาไปขอเปลี่ยนเขาจะให้เปลี่ยนไหม เขาไม่มีวันจะให้เปลี่ยนหรอก ผมถึงบอกว่า จริงๆ แล้วกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคนั้นไม่เข้มแข็งพอ และลักษณะของรัฐบาลทุกรัฐบาล ไม่ใช่เฉพาะรัฐบาลนี้ กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคอ่อนแอมาก ไม่ได้ออกมาคุ้มครองผู้บริโภค แต่เป็นการคุ้มครองผู้ประกอบการ และนายทุน
สโรชา – ดิฉัน ขอตั้งข้อสังเกตเรื่องการซื้อรถในเมืองไทยซักนิดนึงว่า จริงๆ แล้วเราจะไม่ได้ลองรถที่เราซื้อ เราต้องไปลองรถที่เขามีอยู่แล้ว เป็นเดโม คาร์ ว่าพอใจไหม จองรถ ทำเรื่องอะไรเรียบร้อย ไปรับรถ ต้องเซ็นรับก่อน ที่จะนำรถออกจากดีลเลอร์ ชิป ได้ ซึ่งผิดกับในอเมริกา ลองคันไหน ซื้อคันนั้น คือเราสามารถรู้ได้เลยว่าสิ่งที่เราจะซื้อคืออะไร รูปลักษณ์เป็นยังไง คุณภาพเป็นยังไง
สนธิ – และในต่างประเทศนะครับ เขามีกฎหมายระบุชัดเลย ว่า รถใหม่ถ้าใช้ไม่เกิน 2 หรือ 3 เดือน ถ้าต้องเข้าอู่ซ้ำซากเกินกว่า 2 ครั้ง ซ่อมแซมในสิ่งที่ คือรถใหม่ไม่ควรจะมีอะไรเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรีก็ไม่ควรจะตาย เฟืองท้ายก็ไม่ควรจะดัง เขาบอกว่า ถ้าลองเข้าไปซ่อม 2-3 ครั้งแล้ว เจ้าของรถไม่พอใจ มีสิทธิ์ขายคืนได้ หรือเปลี่ยนใหม่ได้ เป็นกฎหมายบังคับเลย แต่ว่าเมืองไทย บริษัทรถยนต์เป็นเจ้า อาจจะเป็นเพราะว่ามีอิทธิพลมากมาย มีความสนิทสนมกับนักการเมืองทุกรัฐบาล คือง่ายๆ คุณสโรชา ซื้อรถยนต์มาคันหนึ่ง คุณสโรชา กี่เดือนถึงจะได้ทะเบียนรถ
สโรชา – 2 เดือนมั้งประมาณนั้น
สนธิ– จริง ๆ แล้วที่ถูกต้องคือซื้อวันนี้ต้องได้ทะเบียนวันนี้ ก็เมื่อคุณจ่ายเงินไปเรียบร้อยแล้ว ทำไมคุณต้องรอทะเบียน
สโรชา – เขาบอกว่ามันมีกระบวนการไปจดทะเบียน และโดยส่วนมาก คนชอบใช้ป้ายแดง ซักพักก่อนแล้วค่อยเปลี่ยน
สนธิ – ไม่สำคัญนะ หรือว่า กำหนดเลย ซื้อวันนี้อีก 7 วันได้ ใช่ไหมครับ ทำไมคุณซื้อรถวันนี้และคุณจ่ายเงินหมดวันนี้และเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณต้องขับรถ พอ 6 โมงเย็นต้องกลับบ้าน ไม่งั้นตำรวจจับ ไม่มีเหตุผล
สโรชา – ใช่ค่ะ เพราะฉะนั้นก็ฝากไว้แล้วกันนะคะ สำหรับกฎกติกาต่างๆ ที่สามารถจะดูแล หรือว่า คุ้มครองผู้บริโภคได้มากกว่านี้ นะคะ ซึ่งนำมาสู่คำถามเอสเอ็มเอสของเรา ในคืนนี้ค่ะ เราเรียนถามคุณผู้ชมค่ะว่า คุณผู้ชมคิดว่าควรจะมีกฎหมายบังคับผู้ผลิตให้รับรถใหม่ที่มีปัญหาคืนหรือไม่ นะคะ ถ้าเห็นควรกดเอ็มที 1 ถ้าไม่ควร เอ็มที 2 ส่งมาที่ 84820 นะคะ หรือโทร.มาที่ 02-201-6055-60 ค่ะ ขอบคุณฟรีอินเตอร์เน็ตค่ะที่เอื้อเฟื้อระบบเอสเอ็มเอส ให้กับเราค่ะ เช่นเคยค่ะ เราแจกโทรศัพท์มือถือ พานาโซนิก นะคะ รุ่นใหม่ล่าสุด เอ็กซ์ 700 ค่ะ ระบบซิมเบียน โฟน รับชมทีวีบนมือถือได้ 1 เครื่อง และมีทีเชิร์ตด้วยนะคะ ของฟรีอินเตอร์เน็ต แจกฟรีๆ 3 ตัว ในคืนนี้ โทรศัพท์ 1 เครื่อง ทีเชิร์ต 3 ตัวสุ่มจากหมายเลขของเอสเอ็มเอสที่ส่งเข้ามานะคะ เพราะฉะนั้นพักกันซักครู่หนึ่งค่ะ เดี๋ยวกลับมาคุยกันในประเด็นของการตัดสินใจลดค่าเงินบาท ในปี 2540 ซักครู่เดียวค่ะ
********************
สโรชา – กลับมาสู่เมืองไทยรายสัปดาห์ วันนี้มีเรื่องต้องคุยกันเรื่องใหญ่ ซึ่งเป็นข่าวฮือฮาในสัปดาห์นี้นะคะ หนังสือซึ่งออกมาโดยคุณปานเทพ คิดว่ายังไงค่ะ คุณสนธิเล่า คงจะทราบดีละ ตั้งแต่ไล่กลับไป
สนธิ – หนังสือเล่มนี้ ท่านพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ท่านตั้งใจทำ คือ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นคนพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง พูดจาแล้วต้องแปล บางทีพูดแล้วไม่เข้าใจ แต่ว่า ความที่พูดไม่รู้เรื่อง แต่พล.อ.ชวลิต เป็นคนที่มีน้ำใจเป็นสุภาพบุรุษสุดๆ โดนวิพากษ์วิจารณ์อะไรก็ไม่ว่าอะไร นั่งเฉย ปิดปากเงียบ เพราะว่าพล.อ.ชวลิตนั้นทำงานเบื้องหลังมามาก ก็มีความเคยชินกับการวิพากษ์วิจารณ์ แต่เหตุการณ์เมื่อปี พ.ศ. 2540 นั้น จนกระทั่งปัจจุบัน พล.อ.ชวลิต ถูกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวหามาตลอด ว่าเป็นคนที่ทำให้เศรษฐกิจพัง นะครับ ท่านอดทนมาตลอด ไม่พูดอะไร ไม่รู้จะพูดอะไร นานๆ พูดที เบรกมาแตกตอนช่วงนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ที่ท่านนายกฯ ทักษิณ ไปปาฐกถา ครบรอบ 3 ปี ของ บสท. คือ หัวข้อ 60 ล้านไทย พ้นภัยเศรษฐกิจ ย่อวิกฤติต่อโอกาส โดยบสท. เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2547 เผอิญท่านนายกฯ ทักษิณ ท่านไปแขวะรัฐบาลชุดพรรคประชาธิปัตย์ ท่านไปบอกว่า ได้มีการดำเนินการผิดพลาด แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโดยตั้งกู้ด แบงก์ขึ้นมา แต่ไม่มีแบด แบงก์ ขายธนาคารต่างๆ ให้ฝรั่งในราคาถูก จนรัฐบาลผมต้องเข้ามาแก้ปัญหา ซื้อคืนในราคาแพง เท่านั้น นอกนั้นแล้ว ไฮไลท์สำคัญ คือท่านนายกฯ ทักษิณ เปรียบเทียบว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นหมอรักษาคนไข้ แต่รัฐบาลชุดก่อนทำหน้าที่แบบสัปเหร่อ ตรงนี้อดีตนายกฯ ชวนก็ฟิวส์ขาดนะครับ ก็คือว่าท่านก็เลยพูดบอกว่า ออกมาตอบโต้ ก็บอกว่าจริงอยู่เมื่อปลายปี 2540 ต้องเป็นสัปเหร่อ เพราะรัฐบาลก่อนหน้านั้น ภายใต้รัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่มีรองนายกฯ ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต่างหากที่ทำให้ประเทศไทย เป็นศพ โดยเน้นที่การปรับอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2540 เท่านั้นเอง พี่จิ๋ว ของผมฟิวส์ไม่ขาด หม้อไฟระเบิด
สโรชา – ไม่ใช่แค่ฟิวส์ขาดแล้ว
สนธิ– ก็เลยตัดสินใจที่จะผลักดันหนังสือเล่มนี้ออกมาทันที
สโรชา – นี่คือเหตุการณ์เมื่อเดือนธ.ค. นี้เอง
สนธิ– ก็เลยเร่งทันทีเลย เอาหละ ไหนๆ พูดกันแล้วจะได้มาหงายไพ่ซักที ว่าใครบ้างที่จะรับผิดชอบ เรื่องนี้ก่อนที่ผมจะพูดต่อไป ผมอยากจะเตือนคนซึ่งฟังเรื่องนี้ และเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นมิสเตอร์เอ็กซ์ มิสเตอร์วาย มิสเตอร์แซด หรือว่าจะเป็นรัฐบาลชุดไหนที่เกี่ยวข้องกัน และเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น หรืออะไรก็ตามให้รู้ว่า ณ วันนี้ อดีตเริ่มกลับมาหลอกหลอนตัวเองแล้ว ในทางพุทธเขาเรียกว่า กรรมกำลังเริ่มตามสนอง คุณสโรชา จำได้ไหม อาทิตย์ที่แล้ว ผมพูดถึงเรื่องนายโรเบิร์ต เอส แมคนามารา ปัจจุบันนี้ นายโรเบิร์ต เอส แมคนามารา กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะช้ำใจกับการกระทำของตัวเอง เมื่อนานมาแล้วครั้งหนึ่งสมัยสงครามเวียดนาม แต่ก่อนที่จะพูดเรื่องนี้ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะเทคนิเคิล ซับซ้อน เป็นเรื่องการเงิน การทอง ก็ขออนุญาตคุณสโรชาและท่านผู้ชมทางบ้านหลายๆ ท่านที่ท่านชำนาญ เรื่องเศรษฐกิจและการเงิน ขอให้อดทนกับผมนิดนึง เพราะว่ายังมีพ่อแม่พี่น้องที่เป็นแฟนประจำรายการนี้ ที่ท่านไม่ค่อยรู้เรื่องนี้ ผมจะยกตัวอย่างให้ฟัง ประเทศประเทศหนึ่ง จำเป็นต้องมีเงินตราต่างประเทศสำรองเอาไว้ เงินตราต่างประเทศนี้ สำรองไว้ในลักษณะไหน สำรองเอาไว้โดยที่เงินนี้เอามาจากไหน ก็คือเงินซึ่งส่งออก ขายของออกไป ต่างประเทศ เขาจ่ายเงินมาเป็นดอลลาร์ เมื่อจ่ายเป็นดอลลาร์แล้ว พ่อค้าถือดอลลาร์ไว้ ไม่ได้ ต้องเอาดอลลาร์มาขายคืนให้กับธนาคารชาติ คุณสโรชาขายของไปเมืองนอกได้ 100 ดอลลาร์ เอากลับมาคุณสโรชาก็เอา 100 ดอลลาร์ ขายคืนให้กับแบงก์ชาติ ในอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งกำหนดเอาไว้ว่าจะต้องเป็นเท่าไหร่ คุณสโรชาก็เอาเงินบาทซึ่งแบงก์ชาติมอบให้ เอามา แบงก์ชาติก็เก็บดอลลาร์ไว้ แบงก์ชาติเก็บไว้เยอะขึ้น เมื่อมีมากก็เอาไปซื้อพันธบัตรที่สหรัฐอเมริกา แต่ก็ถือว่าเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ คือพูดง่ายๆ ว่า อีกหน่อยคุณสโรชา จะไปซื้อของจากเมืองนอกบ้าง เขาขายเป็นดอลลาร์ คุณสโรชาไม่มีดอลลาร์ แต่มีเงินบาท ก็เอาเงินบาทไปซื้อเงินดอลลาร์จากแบงก์ชาติ ซึ่งแบงก์ชาติเพิ่งซื้อจากคุณสโรชามา แบงก์ชาติก็ขายคืนดอลลาร์ให้คุณสโรชา ในอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันนั้นเวลานั้นที่ซื้อ เมื่อเสร็จแล้ว แบงก์ชาติก็ส่งดอลลาร์นี้ สั่งให้แบงก์พาณิชย์ ออกเงินดอลลาร์ผ่านแบงก์ชาติ เอาไปจ่ายให้ผู้ที่คุณสโรชาไปซื้อของ เข้าใจแล้วใช่ไหมครับ
สโรชา – พูดง่ายๆ ดิฉันไม่ต้องเอาเงินดอลลาร์ส่งไปให้กับทางปลายทาง
สนธิ – ไม่ต้องครับ เพราะฉะนั้นแล้วเงินตราต่างประเทศไม่ใช่มีเฉพาะดอลลาร์ ก็มีเงินเยน เงินปอนด์ เงินสวิส แต่ว่าสกุลดอลลาร์เป็นสกุลหลัก ที่เราใช้อยู่ นี่คือที่มาว่าทำไมธนาคารแห่งประเทศไทย ถึงมีเงินสำรอง การมีเงินสำรอง ก็แปลว่าเราขายของมากกว่าที่เราซื้อของ เราถึงมีเงินสำรอง มีส่วนต่างตรงนั้นไว้ ทีนี้เงินสำรองตรงนี้ เมื่อปี 2527 ในสมัยที่พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีและคุณสมหมาย ฮุนตระกูล อดีตรมว.คลังซึ่งท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว ท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ท่านได้ปรับเงินบาทให้ลอยตัว คำว่าลอยตัว หมายความว่าไม่กำหนดว่า เงินบาท จะต้องไปผูกกับเงินดอลลาร์ เป็นจำนวนเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นแล้วได้ปรับไปแล้ว ครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2527 ตอนนั้นเศรษฐกิจก็วุ่นวายพอสมควร แต่ว่าหลังจากนั้นผ่านไปซักปีกว่าๆ ทุกอย่างก็เข้าเป็นไปตามระบบนะครับ หลังจากนั้นมา ก็ได้มีการพูดกันว่า จากนี้ไป คุณสมหมายพูดเอง ว่าจะไม่มีการลอยตัว คือราคาค่าเงินบาทต่อดอลลาร์จะไม่ลดไปมากกว่านี้อีกแล้ว เพราะท่านปรับให้ลอยตัวแล้ว ลอยตัวหมายความว่าเมื่อเศรษฐกิจไม่ดี บาทก็อ่อน ตามภาวะการตลาดที่แท้จริง บาทก็ราคาสูง ต่อดอลลาร์ ถ้าเศรษฐกิจแข็ง บาทก็ลดลงมาต่อดอลลาร์ ใช่ไหมครับ เข้าใจนะครับ ทีนี้มาดูเหตุการณ์นิดนึง คือวันนี้ท่านนายกฯ ทักษิณ ท่านชี้ไปที่คุณชวน คุณชวน ท่านชี้ไปที่คุณชวลิต คุณชวลิต ท่านก็เลยโบ้ยต่อ ไปที่คุณชวนอีกทีเหมือนกัน คือต้องเล่าเหตุการณ์ให้ฟังนิดนึง หลังจากที่พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ท่านลงจากเวทีในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณท่านขึ้นมาและต่อด้วยคุณชวน หลีกภัย พล.อ.ชาติชาย 2 ยุคนั้นและคุณอานันท์ ปันยารชุน และคุณชวน 2-3 ยุคนั้นเป็นยุคซึ่งเขาต้องการจะเปิดเสรีประเทศ คำว่าเปิดเสรีหมายความว่า เขาไม่ต้องการให้มีการควบคุมอัตรา เงินตราต่างประเทศ ในลักษณะที่เป็นการควบคุมในอดีต คือว่าสมัยก่อนนั้น คุณสโรชาตั้งบริษัท จะกู้เงินเมืองนอกมา ต้องผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย กู้ตรงไม่ได้ ทีนี้เผอิญช่วงนั้นเป็นช่วงซึ่งอเมริกาเริ่มจะรุก ใช้นโยบายการเงินรุกออกมานอกโลก คือใช้ดอลลาร์ รุกออกมาเพื่อให้คนกู้ดอลลาร์มากๆ เพื่อเป็นหนี้อเมริกมาก อเมริกาจะได้เข้ามาทำธุรกรรมทางการเงินได้ ก็เลยมีการเสนอให้เปิดประเทศ โดยใช้กฎบีไอบีเอฟ
สโรชา – คือเปิดเสรีทางด้านการเงิน
สนธิ – คือว่าคุณสโรชาสามารถจะไปติดต่อธนาคารกรุงเทพ บอกว่า ผมขอกู้เงินต่างประเทศนะ และธนาคารกรุงเทพก็เป็นคนกู้ให้ ธนาคารกรุงเทพกู้ให้ สมมติว่าดอกเบี้ยในประเทศตอนนั้น 15 เปอร์เซ็นต์ แต่เงินต่างประเทศ มันประมาณ 6 เปอร์เซ็นต์ มันมีส่วนต่างตั้ง 9 เปอร์เซ็นต์ ธนาคารกรุงเทพ อาจจะกิน 2 เปอร์เซ็นต์ เป็นค่าบริการ ก็ยังมีส่วนต่างเหลือ 7 เปอร์เซ็นต์ 7 เปอร์เซ็นต์ก็มีกำไรตรงนี้มาก หลายคนก็กู้มาเพื่อทำให้ต้นทุนการผลิตถูก แต่หลายคนกู้มาเพื่อมาเล่นเงิน แน่นอน เพราะว่ากู้มาต้นทุน 7 เปอร์เซ็นต์ และคุณก็ไปลงทุนทางอื่น ปล่อยกู้ทางอื่น ไปปล่อยให้ไฟแนนซ์กู้ เพื่อไฟแนนซ์ปล่อยกู้ต่อ เลยทำให้ดอกเบี้ยหลายๆ ยุคในช่วงนั้น เป็นดอกเบี้ยราคาที่สูง นะครับ
สโรชา – และทำอย่างนี้กันเยอะมาก
สนธิ– พูดง่ายๆ ว่า ภาคเอกชนก็เลยเริ่มเป็นหนี้กันอย่างมหาศาล จากการซึ่งเปิดเสรีโดยการเปิดเสรีครั้งนั้นเป็นการเปิดเสรีที่ไม่ได้มองดูตาม้าตาเรือ ให้พร้อม คำว่า ตาม้าตาเรือหมายความว่าไม่ได้พิจารณาว่า พื้นฐานทางเศรษฐกิจ ธรรมรัฐ ธรรมาภิบาลของบ้านเรามีพร้อมหรือยัง ในเรื่องพวกนี้เหมาะสมหรือไม่ เอาเป็นว่า เพื่อจะช่วยพวกพ้อง ธุรกิจของตัวเอง ให้มีความเจริญเติบโตขึ้นมาได้และให้กู้เงินราคาถูกมา ก็ทำกันแหลกลาญเลย เพราะฉะนั้นธนาคารพาณิชย์ตัวดี ก็ไปกู้เงินต่างประเทศมาในอัตรา 7 เปอร์เซ็นต์ และมาปล่อยกู้ บวกๆ เข้าไปอีก เป็น 18 19 20 21 เปอร์เซ็นต์ให้กับพวกคุณ พวกผม เพราะว่าเงินฝากในประเทศตอนนั้นมันสูง สมมติว่าเงินฝาก 12 เปอร์เซ็นต์ มีอยู่ครั้งหนึ่ง 10 เปอร์เซ็นต์ เงินกู้ก็สูงตาม แต่ถ้าเงินที่ได้มาเพื่อปล่อยมันต่ำ มันก็มีส่วนต่างเยอะ ตรงนี้ไม่มีใครพูด ตรงนี้บีไอบีเอฟ เกิดขึ้นในยุครัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ คุณชวน หลีกภัย อันนี้เราพูดตามเนื้อผ้าเลยนะครับ ความเป็นจริงนะครับ เมื่อเกิดแบบนี้ เศรษฐกิจฟองสบู่ก็เริ่มแล้ว เริ่มเจริญเติบโต คนก็ใช้เงินเละเทะหมดเลยนะครับ ปรากฏว่า เรามีหนี้ภาคเอกชนบวกหนี้รัฐบาล มากกว่าเงินสำรองที่เรามีอยู่ ข้อมูลอันนี้ใครรู้ ธนาคารแห่งประเทศไทยรู้คนเดียว คนอื่นไม่มีใครรู้ ธนาคารแห่งประเทศไทยเขาจะมีฝ่ายกองทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งจะมีผู้จัดการกองทุนอยู่ ซึ่งผู้จัดการกองทุนในยุคนั้นชื่อคุณ ชัยวัฒน์ วิบูลสวัสดิ์ นะครับ เพราะฉะนั้นแล้วธนาคารชาติจะเป็นผู้เดียวเท่านั้นเองที่รู้ ว่าเงินในเก๊ะ เรามีเท่าไหร่ เงินดอลลาร์ในเก๊ะเรามีเท่าไหร่และเราเป็นหนี้เท่าไหร่ แต่ไม่ยอมพูด แต่ว่าต่างชาตินั้นดูออกว่าเรา เขาเรียกว่าเราบลัฟ เราเล่นเผ เราหน้าสเตท เราหน้าเห่า แต่เรากบ 2 คู่เท่านั้นเอง สรุปง่ายๆ ว่า ฝรั่งดูออก ก็เลยเริ่มมีการสงสัย จนกระทั่ง พูดง่ายๆ ว่าทุกอย่างอยู่ในสภาพที่โซซัดโซเซมาตลอด เราติดลบมาตลอด ตั้งแต่ยุครัฐบาลคุณชวน หลีกภัยมา คือสถานการณ์เลวร้ายมาตลอด จนกระทั่งมาถึงคุณชวลิต ยงใจยุทธ อุปมาอุปมัย เหมือนกับประเทศไทย ใกล้ตายแล้วตอนนั้น
สโรชา – คุณสนธิ หมายความว่าตั้งแต่บีไอบีเอฟมา หนี้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เงินเก็บเรามีอยู่จำนวนหนึ่ง
สนธิ- มีอยู่จำนวนหนึ่งและน้อยลงไปเรื่อยๆ ทีนี้พอมาถึงยุคพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อยู่เพียง 9 เดือน จริงๆ แล้ว 9 เดือน แกทำให้ประเทศไทย เป็นศพแกทำไม่ได้หรอก คือประเทศไทยนั้น เริ่มบาดเจ็บมาทีละนิด ๆ จนกระทั่งสาหัสมาก่อนที่แกจะเข้า พอแกเข้าก็เจียนตายแล้ว นั่นคือเหตุผล ซึ่งแกน้ำท่วมปาก แกพูดไม่ได้ เพราะว่าเผอิญมาพังในยุคแก แต่เดี๋ยวเราจะมาคุยกันว่าทำไมถึงพัง เพราะเบรกนี้หมดแล้ว
สโรชา – ไปพักโฆษณากันก่อนนะคะ เดี๋ยวกลับมาดูว่า สรุปแล้วที่สะสมมาทั้งหมด ตลอดระยะเวลาหลายๆ รัฐบาลมาจนถึงยุคของท่านบิ๊กจิ๋ว ของเรา เกิดอะไรขึ้นและเพราะเหตุใด มีใครอยู่เบื้องหลัง มีใครเป็นคนรู้ เป็นคนเห็นบ้าง ซักครู่เดียวกลับมาค่ะ
********************
สโรชา – กลับมาสู่เมืองไทยรายสัปดาห์นะคะ เมื่อซักครู่คุยกันได้ถึงตอนที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธเข้ามาบริหารประเทศได้ พอเข้ามาไม่นานก็เจอกับปัญหาซึ่งต้องแก้ไข
สนธิ– ปัญหาคือว่า ต่างชาติเริ่มรู้แล้วว่าสถานะของประเทศไทย ไม่ดี เพราะว่ามีการขาดดุลการค้าตลอด ฝรั่งจะรู้ข้อมูลมากกว่าเรา เพราะเขาสามารถจะเช็คยอดส่งออก เมื่อยอดส่งออกตกลง ก็หมายความว่า ความสามารถที่จะทำรายได้ ซึ่งเป็นเงินตราต่างประเทศน้อยลง ทีนี้ต้องทบทวนความจำนิดนึง ช่วงที่ท่านรัฐมนตรีสมหมาย ฮุนตระกูล ท่านลดค่า ท่านปล่อยให้เงินบาทลอยตัว เมื่อปี 2527 เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ครั้งนั้นท่านกำหนดเลย ให้ธนาคารแห่งประเทศให้คง เขาเรียกว่า แบนด์วิธ ให้คงช่องที่เงินบาทจะเคลื่อนไหวได้เต็มที่
สโรชา – สูงสุดเท่าไหร่ ต่ำสุดเท่าไหร่
สนธิ – แต่ว่ากว้างให้กว้าง แต่พอหลังจากที่ท่านไม่อยู่แล้ว ธนาคารแห่งประเทศไทยตัวดี ลดแบนด์วิธ *** ตรงนี้ลงมาให้แคบลง คือให้เคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ เหตุผลที่ทำเช่นนั้นมีอยู่ 2 เหตุผล เหตุผลแรกคือว่า หนึ่ง การที่ให้ความกว้าง ให้ความยืดหยุ่นของเงินบาทสูง เคลื่อนไหวได้เยอะ ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องมีสติปัญญามากพอสมควรในการที่จะคำนวณได้ จะต้อง ระวัง ต้องใช้ปัญญาเป็น ในการที่จะขายบาท ซื้อดอลลาร์ คือพูดง่ายๆ ว่า ต้องมีความเป็นมืออาชีพมาก วิธีเดียวที่ไม่ต้องทำงานเหนื่อย ไม่ต้องใช้ปัญญาเยอะ คือว่า ให้แคบลง ก็คือว่าจะเคลื่อนแค่ไหน แค่นั้น ถ้ามันจะสูงเกินไป ก็ขายดอลลาร์คืน ถ้ามันจะต่ำเกินไป ก็ซื้อดอลลาร์เข้ามา เท่านั้นเอง แทนที่จะให้เงินบาทนั้น สะท้อนภาพที่แท้จริง ถ้ามันเป็นอย่างที่ท่านรัฐมนตรีสมหมายพูดตั้งแต่ต้น ปัญหามันไม่มีแล้ว เอาละ ตรงนี้เข้าใจนะครับ เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อกลไกในการทำให้เงินบาท มีความยืดหยุ่นได้เต็มที่ ถูกบีบโดยที่พวกเราไม่รู้เลย ถ้าคุณจะถามแดนสนธยา อยู่ที่ไหน ไม่ใช่อ.ส.ม.ท.นะ ธนาคารแห่งประเทศไทย ผมจะบอกให้ อ.ส.ม.ท. ถือว่าเป็นลูกหลานแดนสนธยา แต่ว่าธนาคารแห่งประเทศนี่แดนสนธยา ตัวจริง เสียงจริงและของจริง ให้รู้ไว้ด้วย อันนี้ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ ทีนี้เหตุการณ์เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ต่างประเทศพวกเฮดจ์ ฟันด์ ก็คือพวกอีแร้ง ทีมีเงินทุนอยู่ และก็ไปเก็งค่าเงิน เงินเปโซ เม็กซิโก จะตกแล้วนะ สงสัยมันจะอ่อนนะ เราไปซื้อ เราขายเป็นเงินเปโซออกไป มันก็ยิ่งตกไป พวกนี้ก็มาเล่นเงินบาทตลอด ทีนี้พอมาเล่นเงินบาทตลอด โดยนัยแล้วเขามีผู้จัดการกองทุนรักษาระดับ เขาก็ต้องดูว่า ตายแล้ว มีคนมาเล่นเงินบาท เขาก็อาจจะปกป้องเงินบาทชั่วคราว ในช่วงรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ก็เริ่มมีการปกป้องเงินบาท จนกระทั่งมีการประชุมกันหลายครั้ง นะครับ ระหว่างดร.อำนวย วีรวรรณ ซึ่งตอนนั้นเป็นรมว.คลัง หลายๆ คนก็บอกตลอดเวลา ว่าเงินบาทนั้น ในลักษณะการเคลื่อนไหวที่แคบๆ นั้นจะอยู่ไม่ได้นะ ต้องปล่อยให้ลอยตัว คนที่ค้านเสียงแข็ง คนเดียวและตลอดเวลา ชื่อคุณชัยวัฒน์ วิบูลสวัสดิ์ ผู้จัดการรักษากองทุน คุณชัยวัฒน์ จะเป็นคนบอกว่าไม่ได้ บาทจะลอยไม่ได้ บาทจะต้องแข็ง จะต้องเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ คนที่ใช้เงินเพื่อไปซื้อและไปปกป้องเงินบาท ผู้จัดการตัวจริงคือ คุณชัยวัฒน์ วิบูลสวัสดิ์ แต่ไม่เคยมีใครพูดถึง และวันนี้คุณชัยวัฒน์ วิบูลสวัสดิ์ มาเป็นประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย เป็นเรื่องซึ่งน่าสนใจมาก ถ้าไม่เชื่อให้ไปดูคำพิพากษาของศาล ที่เขาฟ้องคุณเริงชัย มะระกานนท์ ว่ารับผิดชอบเรื่องนี้ คุณเริงชัย ให้การหมดทุกอย่าง
สโรชา – คือตอนนั้นท่านเป็นผู้ว่าการแบงก์ชาติ
สนธิ– พร้อมหลักฐาน คือคุณเริงชัยไม่ได้รับรายงานจากคุณชัยวัฒน์ คุณชัยวัฒน์เก็บเอาไว้ และคุณเริงชัยท่านพูดตรงๆ ท่านก็ไม่ได้เป็นผู้ว่าฯแบงก์ชาติที่เก่งกาจอะไร เป็นพิเศษ แต่ว่าท่านเป็นคนซึ่งโอเคนะ เข้าใจไหม คือต้องมีคนรายงานให้ข้อมูลที่แท้จริงท่าน ในที่สุดคุณอำนวย วีรวรรณ ท่านรู้สึกว่าชักไม่ไหวแล้ว ท่านเลยลาออกวันที่ 19 มิ.ย. 2540 คุณสโรชาและท่านผู้ชมที่บ้านจำวันที่ดีๆ นะครับ ดร.อำนวย วีรวรรณ ลาออกเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. วันที่ 21 มิ.ย. วันเสาร์ ท่านลาออกวันพฤหัสบดี ที่ 19 มิ.ย. 2540 วันเสาร์ ที่ 21 มิ.ย. 2540 ได้มีการประชุมกันในระดับผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย 6 คน
สโรชา – แต่ท่านนายกฯ ตอนนั้นคือท่านบิ๊กจิ๋ว ออกทีวีในวันเดียวกันใช่ไหมค่ะ ที่ท่านอำนวยลาออกไป คือ ยืนยันว่า จะไม่มีการลอยตัวค่าเงินบาท
สนธิ – ถูกต้องครับ แต่หลังจากนั้น วันเสาร์ มีประชุม โดยคุณชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ตอนนั้นท่านเป็นรองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย คุณธัญญา ศิริเวทิน ท่านผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ คุณศิริ การเจริญดี ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ คุณบัณฑิต นิจถาวรซึ่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการธนาคาร คุณไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ซึ่งท่านเป็นหัวหน้าส่วนวิเคราะห์ ภาคธุรกิจการเงินและคุณเกลียวทอง เหตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ ทั้ง 6 คนนี้ประชุมและค่อยมีมติเป็นเอกฉันท์ ว่าไม่ไหวแล้ว ต้องปล่อยให้ลอยตัว วันที่ 21 นะครับ ถึงแจ้งคุณเริงชัย มะระกานนท์ ว่าต้องลอยตัว นะครับ พวกแบงก์ชาติรู้แล้วต้องลอยตัว ก็ยังไปหลอกพี่จิ๋วผมอีก นะครับ ว่ายังแข็งอยู่ ไม่มีอะไร คือสิ่งที่พี่จิ๋ว ของผม พี่จิ๋ว เป็นคนน่าสงสารมาก คือหนึ่งนอกจากพูดไม่รู้เรื่องแล้วยังถูกหลอกง่ายๆ ด้วย
สโรชา – คือท่านก็ต้องฟังคนที่ให้คำปรึกษา
สนธิ– ใช่ครับ วันเสาร์ 21 นะครับ อาทิตย์ที่ 22 มิ.ย. จันทร์ ที่ 23 อังคารที่ 24 พุธ ที่ 25 ช่วงนั้นวันที่ 19 รู้สึกว่าคุณทนง พิทยะ เข้ามาแล้ว ผมจำได้ บินกลับจากต่างประเทศมาได้รับการโปรดเกล้า ฯ ทันที เพื่อมาแทนดร.อำนวย วีรวรรณ คือถ้ามองดูด้วยเหตุผลนะคุณสโรชา เขาถามว่าทำไมพวกธนาคารแห่งประเทศไทย ถึงไม่แจ้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่าพวกเขาเห็นว่า ไม่ไหวแล้วจะต้องปล่อยลอยตัว เขาให้การในศปร. 3 น่าสนใจมาก เขาบอกว่า เนื่องจากว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กำลังยุ่งเกี่ยวกับพระราชบัญญัติงบประมาณในสภาอยู่ คือเรื่องของประเทศชาติ ประเทศจะเจ๊ง พังพินาศทลายลงไป ยังบอกว่าอย่าเพิ่งไปรบกวนท่านรัฐมนตรี ท่านรัฐมนตรียุ่งอยู่ ถ้าคนที่มีสติปัญญานะครับ แล้วก็ไม่ฉลาดน้อยนัก ก็จะบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ท่านเลิกจากงบประมาณเมื่อไหร่ ไปดักที่สภา แล้วบอกท่านครับ มีเรื่องสำคัญขอพบหน่อยและบอกว่า ต้องรีบตัดสินใจทันที เก็บเงียบเลยนะครับ พฤหัสบดี ที่ 26 มิ.ย. ทวนอีกที 19 อำนวยลาออก 20 ทนง เป็น 21 พวกขุนพลแบงก์ชาติประชุมว่าไม่ไหวแล้วต้องลอยตัว แต่ก็ยังหลอกพี่จิ๋วของผมอีก 22 23 24 25 ไม่มีใครบอกใครเลยทั้งสิ้น เพิ่งมาบอกทนง พิทยะ วันที่ 26 ว่าต้องอย่างนี้แล้ว คุณทนง พิทยะ ก็เลยบอกว่า งั้นลอยตัวไป 26 แต่ก็แปลก ก็ไม่ลอย 26 คือ เรื่องนี้ละเอียดอ่อนนะครับ มันเป็นการได้เสียของประเทศชาติ เป็นการได้เสีย คือเรื่องเงินทอง เราจะลอยตัวค่าเงินบาท จาก 25 เป็น 27 บาทเท่านั้นเอง รู้ช้าไปวันหนึ่ง รู้เร็วไปวันหนึ่ง กำไรเป็นหมื่นเป็นพันล้าน เป็นแสนล้าน ประเทศชาติพินาศชิบหายเป็นหมื่นเป็นแสนล้านเช่นกัน แต่พวกนี้ ทำเหมือนประธานฮอนด้า นะครับ นั่งทองไม่รู้ร้อน แล้วยังมีหน้ามาบอกว่า เนื่องจากรัฐมนตรีนั้นกำลังประชุมงบประมาณอยู่ และคุณสโรชา คุณจะไม่ให้ผมวิพากษ์วิจารณ์พวกแบงก์ชาติได้ไง คุณดูพฤติกรรมแบบนี้ซิ ให้อภัยกันไม่ได้เลย เสร็จแล้วมาบอกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในยุคนั้น วันพฤหัสบดีที่ 26 เสาร์ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัสบดี 6 วันนี้ ผมไม่รู้ว่ามีข่าวรั่วไปถึงใคร มีการเก็งกำไรไปมากน้อยแค่ไหน นะครับ เสร็จเรียบร้อยแล้ว 26 คุณทนงก็น่ารัก ก็ยังเก็บไว้อีก วันที่ 26 ผมก็ไม่รู้ว่าเก็บเอาไว้ทำไม คือคุณทนง ให้การกับศปร. ว่า ทางผู้ว่าแบงก์ชาติ คือคุณเริงชัย มะระกานนท์ บอกว่า เอาละผมขอกลับไปปรึกษาเจ้าหน้าที่แบงก์ชาติ คุณทนง ในฐานะเป็นรัฐมนตรีคลัง ต้องบอกว่าคุณไม่ต้องปรึกษาแล้ว คุณไปพบกับท่านนายกฯ ชวลิต เลยประกาศลอยตัวเดี๋ยวนี้ ต้องทันทีเลยนะครับ ก็ไม่ ก็ยังปล่อยไปถึง 26 คือวันพฤหัสบดี วันที่ 27 วันศุกร์ 28 วันเสาร์ 29 ก็เลยยกพลพรรค ตอนเช้า ไปหาคุณชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งในบ้านหลังนั้นก็มีรัฐมนตรีโภคิน พลกุล นั่งอยู่ด้วย ก็ไปพูดบอกว่า อย่างนี้แล้ว แต่ว่าก็บอกว่าให้พล.อ.ชวลิต ให้มายืนยันว่า ไม่ลด ท่านพล.อ.ชวลิต วันจันทร์ ท่านก็ยังยืนยันว่าไม่ลด วันที่ 29 ทำนองนี้ ปรากฏว่า วันจันทร์คุณเริงชัยเดินเข้าไปที่ทำเนียบ พร้อมกระดาษแผ่นหนึ่ง บอกพล.อ.ชวลิตว่า จำเป็นต้องลดแล้ว วันจันทร์ที่ 30 แต่ก็ไม่ประกาศ มาประกาศวันที่ 2 ก.ค. โดยอ้างว่า วันที่ 1 เป็นวันหยุดธนาคาร คือความพังพินาศของประเทศไทย นี่จะต้องติดด้วยวันหยุดใช่ไหม ผมรับไม่ได้ตรงนี้ เพราะฉะนั้นแล้วจาก 21 มิ.ย. จนถึง 2 ก.ค. คือ 11 วัน ตรงนี้เป็นประวัติศาสตร์ที่ใครทำเวรทำกรรมเอา มีวาระซ่อนเร้นอะไรไว้ ใครรู้อะไรบ้าง ใครข่าวรั่วไปถึงใคร ใครไปแอบซื้อเงินดอลลาร์ไว้ ไปสวอปเอาไว้ นะครับ มีการสวอปอย่างมหาศาล ในช่วงเวลานั้น อย่างมหาศาล ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่กล้าเปิดเผยข้อมูลตรงนี้ ผมวิงวอน อยากจะให้เปิดเผย ตรงนี้ 11 วัน คุณสโรชา ไอ้ตัวร้ายซึ่งเก็งกำไร มันรู้กันหมดแล้วว่ายังไงก็ต้องลด ธรรมดา คุณเอ๊ย แค่ชั่วโมงเดียวเขาก็รู้กันเลย เขาก็ยังไล่ซื้อ นี่ 11 วัน มีการเตรียมตัว ผม ภาวนาต่อพระสยามเทวาธิราช สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่มีอยู่ในสากลโลก พ่อบ้าน พ่อเมือง ขอให้จงสาปแช่ง พวกซึ่งมีเจตนาร้าย หรือว่าเอาประโยชน์ของที่มันเกิดขึ้นพวกนี้และมาทำให้ประเทศชาติพังพินาศ ส่วนหนึ่งของการพังพินาศซึ่งไม่ควรจะพังพินาศมากแบบนี้ เพราะ 11 วันตรงนี้แหละที่เป็นเหตุการณ์ ตรงนี้ก็มีคนพูดกัน ไม่พูดไม่ได้ เป็นไงเป็นกันต้องพูดกัน ชาติไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ชาติไม่ใช่ของผู้ว่าแบงก์ชาติ ไม่ใช่ของเจ้าหน้าที่แบงก์ชาติ แต่ชาติเป็นของทุกคน เราให้ความเชื่อมั่นให้ความศรัทธา ในสติปัญญาที่เขามีอยู่ เพื่อจะให้เขาปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน แต่เขากลับมีความคิดอะไร ผมก็ไม่รู้ มีวาระซ่อนเร้นอะไร ก็ไม่รู้ ปล่อยให้เหตุการณ์ซึ่งควรจะกระทำเมื่อ 11 วันที่แล้ว มาทำเอา ล่วงเลยมา ตรงนี้ที่ผมรับไม่ได้เลย
สโรชา – ค่ะ คุณผู้ชมค่ะ เดี๋ยวเราจะพักกันซักครู่นะคะ เดี๋ยวเรามาดูผลโพล และมาสรุปเรื่องนี้ ในช่วงสุดท้ายของรายการซักครู่เดียวค่ะ
********************
สโรชา – กลับมาช่วงสุดท้ายของรายการเมืองไทยรายสัปดาห์นะคะ ไปดูผลโพล กันค่ะ เราเรียนถามคุณผู้ชมนะคะว่า คุณผู้ชมคิดว่าควรจะมีกฎหมายบังคับผู้ผลิตให้รับรถใหม่ที่มีปัญหาคืนหรือไม่ คุณผู้ชมตอบกลับมาว่า ควร 89 เปอร์เซ็นต์ ไม่ควร ประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ ไปดูหมายเลขผู้โชคดีค่ะที่จะรับโทรศัพท์มือถือ พานาโซนิกรุ่น เอ็กซ์ 700 หนึ่งเครื่องในค่ำคืนนี้ค่ะ เป็นโทรศัพท์ ซิมเบียน โฟนค่ะ รับชมทีวีบนมือถือได้นะคะ 1 หมายเลขค่ะ และหมายเลขผู้โชคดีที่ได้รับทีเชิร์ต ของฟรีอินเตอร์เน็ตจำนวน 3 ท่าน นะคะ ตามที่เห็นอยู่บนจอค่ะ เดี๋ยวทางทีมงานจะติดต่อคุณผู้ชมกลับไป หลังรายการเลิกค่ะ กลับมา เรื่องนี้ต่อค่ะ ยังไม่จบ
สนธิ– ยังไม่จบ คุณสโรชา พอพล.อ.ชวลิต ด้วยความโกรธ ท่านก็เลยลาออก นี่คือเหตุผลที่สำคัญที่สุดที่ท่านลาออก บนเวทีวันนั้น บนเวทีการเมือง คนสงสัยทำไมท่านลาออก เพราะท่านโดนหลอก คือพวกนี้เป็นตัวการและโกรธอีกเรื่องคือว่า พล.อ.ชวลิต เป็นคนที่น่าสงสาร คนรอบด้านท่าน ใช้ไม่ได้เลย ที่เกาะทำมาหากินกับท่านมาตลอด ที่นอบน้อมเวลาท่านเป็นใหญ่ขึ้นมา ไปตั้งห้อง ไปนั่งหน้าห้องท่าน ไปเดินเข้าห้องท่าน พวกนี้เป็นพวกที่ขอยืมมือพล.อ.ชวลิต ทำมาหากิน และพล.อ.ชวลิต ท่านก็เป็นคนซึ่งเลอะเทอะมากๆ นี่ก็พูดต่อหน้า ผมรักท่านมาก พี่จิ๋ว สนิทกัน พูดได้ ท่านเป็นคนใจดี ท่านเป็นสุภาพบุรุษ พอมารัฐบาลชวน 2 ข้อเท็จจริงอันหนึ่งซึ่งท่านผู้ชมทางบ้าน และคุณสโรชายังไม่รู้นะ 56 ไฟแนนซ์ที่ถูกปิด ถูกปิดโดยคุณธารินท์ นิมมานเหมินทร์ ปิดตายเลย การปิด 56 ไฟแนนซ์ ก็เลยมีผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อลูกหนี้ แต่สมัยพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ท่านสั่งให้หยุดชั่วคราว ไม่เหมือนกันนะ เรื่องที่สอง ซึ่งไม่เคยมีใครพูด วันหลังผมรับปากคุณสโรชาและคุณผู้ชมทางบ้าน ผมจะเขียนหนังสือต้องแพ้เสียก่อนถึงชนะได้ ภาค 2 และจะมีรายละเอียดเรื่องพวกนี้ นะครับ คือในการปกป้องค่าเงินบาทนั้น มันมีสัญญาว่า ต่างชาติจะต้องส่งมอบเงินบาทให้เราภายใน 6 เดือน คือเมื่อถึงกำหนดหลังจากรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ลาออกแล้ว ถึงกำหนดสมัยรัฐบาล ชวน 2 เขาจะต้องส่งเงินมา ฝรั่งมันไม่มีเงินบาทจะมาส่ง ปรากฏอะไรรู้ไหม คุณธารินท์ นิมมานเหมินทร์ สั่งให้ยกเลิกที่เราสร้างรั้วเอาไว้ ครั้งแรก คือว่า ระยะเวลาที่ต้องส่งมอบเงินบาท เพื่อรับเงินดอลลาร์ซึ่ง เมื่อถึงกำหนดแล้ว แต่ได้มีการขยายให้กับนักโจมตีค่าเงิน ถึง 2 ครั้ง ขยายเวลาให้เขา เขาบอกว่าเขาไม่มีปัญญาส่ง เราก็ให้เวลาอีก 3 เดือน เขาบอกว่าไม่มีปัญญาส่ง ให้เวลาอีก 3 เดือนซึ่งในข้อเท็จจริงคุณขยายไม่ได้ คุณต้องบอกว่าคุณต้องส่ง เขาบอกว่าไม่มีให้ส่ง งั้นผมก็ไม่มีดอลลาร์ให้คุณ คุณไม่มีบาทให้ผม ผมไม่มีดอลลาร์ให้คุณ เรามานั่งคุยกันหน่อย ตกลงในแง่ดีว่า ราคาเท่าไหร่ แทนที่จะเลิกสัญญาเขาและเรียกค่าเสียหายกลับไม่ทำ นี่คือส่งเสริมให้โจร
สโรชา – คือคนที่มาถล่มค่าเงินบ้านเรา
สนธิ– ถล่มค่าเงินบาทเรา และเราไปรื้อรั้วซะ ชั้นที่สอง เราก็ดันไปเปิดตลาดเงินบาท ให้นักโจมตีเงินบาทมาหาเงินบาทในประเทศไทยได้ เข้าใจหรือยัง เห็นหรือยัง ตรงนี้ ไม่เคยมีใครพูด ผมใฝ่ฝันให้มีคนฟ้องร้องผมซะหน่อยในเรื่องนี้ จริงๆ
สโรชา – ฟ้อง ยังไงค่ะ จะได้สามารถเรียกพยานมา
สนธิ– ผมจะพิสูจน์ได้เลย เพราะว่ามีหลักฐานพิสูจน์ได้ เมื่อถึงเวลาที่คุณต้องส่งเงินบาท หมดสัญญา ต้องส่ง คุณกลับไปต่อสัญญาให้เขา เสร็จแล้วคุณไปเปิดตลาดเงินบาท ให้เขามาซื้อเงินบาทในประเทศไทย เพื่อมาคืนผม ตรงนี้ใครทำผิดละ ผมถึงบอกคุณสโรชา เวรกรรมนั้นมันมีจริง วันนี้เรื่องทั้งหมด ที่เกิดขึ้น คือเหตุการณ์ในอดีตกำลังตามมาหลอกหลอน คุณจะร่ำรวยจากการเล่นเงินบาท จะรู้ข้อมูลที่รั่ว หรือว่าคุณจะมีส่วนสมรู้ร่วมคิด ในการให้คนร่ำรวยและคุณได้ส่วนแบ่ง หรือคุณจะมีส่วนกับต่างชาติ ในการให้ต่างชาติ สามารถที่จะคืนเงินบาทให้ได้ หรือคุณจะมีส่วนอะไรก็ตาม แผ่นดินไทยเป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีอยู่ ตราบใดถ้าคุณไม่มีหิริโอตัปปะ วันหนึ่งจะต้องมาถึงคุณ วันนี้หนังสือเล่มนี้เริ่มออกมาหลอนแล้ว
สโรชา – ยอดขายสูงมากเลยนะคะ มีคนจองแล้วเป็นพันๆ เล่ม
สนธิ– ครับและเขาจะมีบันทึกเล่มสองออกมาอีก ที่พูดเช่นนี้ไม่ใช่รัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธจะดี รัฐมนตรียุคท่านใช้ไม่ได้ ไม่ว่าจะไอคิวต่ำ อีคิวต่ำ เอ็มคิว มอรัล ควอเชียน ก็ต่ำ ใช้ไม่ได้ ยุคพี่จิ๋วเป็นยุครวบรวมเสือสิงห์กระทิงแรดทั้งหลายเข้ามา และประเทศชาติส่วนหนึ่งแย่เพราะว่ารัฐมนตรีของพี่จิ๋วเขา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พี่จิ๋วไม่ได้เป็นคนทำประเทศไทยเป็นซากศพ ต้องเคลียร์ตรงนี้ก่อน
สโรชา – ค่ะ หลังจากที่เข้าใจผิดมาหลายต่อหลายปีทั้งหมด คุณปานเทพ บอกว่า 8 ปีแล้วที่ผมฟังเรื่องราวต่างๆ คนต่าง ๆมาโจมตีพล.อ.ชวลิต ว่า ทำอย่างโน้นอย่างนี้ ทำให้เศรษฐกิจไทยย่ำแย่ ก็ได้อธิบายกันแล้วนะคะ สำหรับบันทึกลับ 2540 ความจริงที่ถูกปกปิดมาเป็นเวลานาน เป็นที่ถกเถียงกัน เป็นเรื่องที่นำมาวิพากษ์วิจารณ์กันพอสมควรในสัปดาห์นี้ นำมาพูดคุยและสนทนากันในเมืองไทยรายสัปดาห์ค่ะคืนนี้ค่ะ คิดว่าคุณผู้ชมคงจะได้รับข้อมูลไปมากพอสมควรนะคะ ก็นำไปประกอบกับข้อมูลอื่นๆ ที่ได้รับชมและคุณผู้ชมคิดเอาเองแล้วกัน ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น เป็นอย่างไร และเราควรจะชี้นิ้วไปที่ใครดี สำหรับพินาศทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปี 2540 หมดเวลาแล้วค่ะสำหรับ เมืองไทยรายสัปดาห์กลับมาพบกันใหม่ในคืนวันศุกร์หน้านะคะ วันนี้ ลาไปเพียงเท่านี้ สวัสดีค่ะ
********************
สโรชา – สวัสดีค่ะ คุณผู้ชม ขอต้อนรับเข้าสู่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ อาหารสมองก่อนเข้านอน ในทุกคืนวันศุกร์ค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้งนึงค่ะ กับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ดิฉัน สโรชา พรอุดมศักดิ์ค่ะ วันนี้มีเรื่องใหญ่หนึ่งเรื่องค่ะ ที่เราต้องพูดคุยกันอย่างลึกซึ้ง หนังสือเล่มนี้นะคะ หนังสือบันทึกลับ 2540 ความจริงที่ถูกปกปิดมาเป็นเวลานาน เชื่อว่าคุณผู้ชมคงจะได้เห็นหรือได้ยินข่าวเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้มาพอสมควรแล้วนะคะ แต่เชื่อว่าหลายๆ ท่านฟังแล้วอาจจะไม่ค่อยเข้าใจ ตกลงแล้ว เรื่องราวการตัดสินใจลดค่าเงินบาท ในปี 2540 เป็นอย่างไร ตัวละครที่มีบทบาทในการตัดสินใจครั้งนั้นคือใครบ้างและการดำเนินการทั้งหมดที่ว่าข้อสงสัย หนังสือเล่มนี้ถูกนำมาพิมพ์ในช่วงนี้จะใช้เป็นเครื่องมือในการหาเสียงหรือในการเลือกตั้งครั้งนี้หรือไม่ค่ะ คุณสนธิ คุยกันยาวใช่ไหมค่ะ
สนธิ – ต้องคุยกันยาว จริงๆ แล้วที่มาที่ไปของหนังสือเล่มนี้ก็มีพอสมควร และทำไมถึงออกในช่วงนี้ก็มีเหตุผลเหมือนกัน แต่ว่าผมว่าอันนี้เก็บไว้ในเบรก 2 ผมอยากจะพูดเรื่องซีอาร์วี
สโรชา – ค่ะ คุณเดือนเพ็ญ และซีอาร์วี เจ้าปัญหาคันนั้น
สนธิ – ครับ คุณเดือนเพ็ญ ศิลาเกษ วันนี้เขาไปเจอกันที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค สคบ. ตกลงว่าทางฮอนด้ายินดีที่จะซื้อรถจากคุณเดือนเพ็ญ คุณเดือนเพ็ญ ก็น่ารักบอกว่า รักซีอาร์วี แต่ช่วยไม่ได้ เมื่อเป็นอย่างนี้ จะไปซื้อฟอร์จูนเนอร์แล้ว โตโยต้า แต่ประเด็นที่ผมอยากจะพูดกับคุณสโรชาและผู้ชมที่บ้าน กรณีคุณเดือนเพ็ญ สะท้อนให้เห็นถึงนัย 2-3 ประการนะครับ นัยประการแรกคือว่า ฮอนด้าใช้ไม่ได้งานนี้ แย่มากๆ ทำไมถึงแย่มากๆ คือ ตัวเองรู้อยู่แล้วว่า รถเป็นรถป้ายแดง ใช้มาแค่ 2 เดือน แล้วประวัติการเข้ามาซ่อมกับเขา 3-4 ครั้งแล้ว จริงๆ แล้วเมื่อเขาเสนอมา ตัวเองต้องฉกฉวยวิกฤติตรงนี้ให้เป็นโอกาส ด้วยการเอารถคืนมาแล้วเปลี่ยนคันใหม่ให้เขา และเอารถคันนี้มารื้อซะใหม่ เอามารื้อว่าปัญหาอยู่ที่ไหน จะต้องซ่อมยังไง เพราะว่าซีอาร์วี ช่วงหลังเป็นรถที่ใช้ไม่ได้จริงๆ เพราะว่าเฟืองท้ายดังและแอร์บางทีร้อนบ้างเย็นบ้าง คือเป็นรถเจ้าปัญหาคือช่วง 2-3 ปีหลัง คือฮอนด้าประกอบรถค่อนข้างอันเดอร์ คุณภาพไม่ถึง
สโรชา – ไม่เหมือนสมัยก่อน
สนธิสนธิ – คุณสโรชา แต่ก่อนก็ใช้ฮอนด้า เมื่อกี้ก่อนเข้ารายการเราคุยกันเรื่องกระจกขวา อย่างเช่นฮอนด้า แจซ กระจกทางขวาจะมีปัญหาหมดทุกคัน
สโรชา – จะเป็นจุดอ่อนของเขา
สนธิสนธิ – ที่ร้ายกาจคือว่า แทนที่จะแก้ปัญหา โดยเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส กลับมาพูดในเชิงที่เรียกว่าค่อนข้างจะโอหังเล็กๆ
สโรชา – ประโยคเด็ดที่ดิฉันเชื่อว่าทำให้คุณเดือนเพ็ญตัดสินใจถึงขนาดทุบรถ คงจะเป็นประโยคที่ว่า ใน 100 คัน มี 1 คัน แหละที่เป็นปัญหา คือเหมือนกับช่วยอะไรไม่ได้
สนธิ - ผมเพิ่ง บอกคุณสโรชา ว่า เป็นสิริมงคลกับมนุษยชาติ ในโลกนี้ที่ฮอนด้าไม่ได้สร้างเครื่องบิน เพราะถ้ามันสร้างเครื่องบินแล้ว ทุกๆ 100 ลำ ต้องมี 1 ลำต้องตก คนเป็นร้อย เป็นพัน เพราะฉะนั้นแล้ว พูดอย่างนี้พูดได้ยังไง เพราะฉะนั้นแล้วผมอยากภาวนาให้ประธานฮอนด้าที่ญี่ปุ่นเรียกประธานฮอนด้าในเมืองไทยและบรรดาพวกญี่ปุ่นต่างชาติทั้งหลายให้กลับไปบ้านเมืองซะ ไปฝึกอบรม วิธีดูแลลูกค้า ตรวจสอบลูกค้า ไม่เป็นไร รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ไม่ต้องโฆษณาฮอนด้าก็ได้ ผมไม่รับ ไม่มี และทุกสิ่งทุกอย่างเราต้องสู้เพื่อผู้บริโภค ถูกไหมครับ อีกนัยหนึ่งที่ผมยังพูดค้าง ก็คือว่า ผู้บริโภคเมืองไทย เจ็บเนื้อเจ็บตัวตลอด ไม่เคยได้รับการปกป้อง นี่กรณีคุณเดือนเพ็ญ ศิลาเกษ ซึ่งสะสมเงินเพื่อไปซื้อฮอนด้า แกบอกว่า แกเป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้า กว่าจะซื้อเสื้อผ้ามาได้ กว่าจะขายเสื้อผ้า ซื้อรถคันละล้านต้นๆ นะครับ คนบางคน รถยนต์สำหรับคนไทยแล้ว เป็นสรณะ คนบางคนนะ ไม่พร้อมที่จะดาวน์บ้านซื้อบ้าน แต่ไปเช่าคอนโดเดือนละ 4,000-5,000 บาทแต่พร้อมที่จะดาวน์รถ และผ่อนรถ คือรถกลายเป็นสัญลักษณ์ ซึ่งผมไม่รู้ว่าเป็นความคิดที่ถูกหรือผิด นะครับ แต่ก็เป็นในสังคมนั้น คนไทยลงทุนในเรื่องนี้สูงมาก คุณเดือนเพ็ญ ยังพอจะเอาค้อนปอนมาทุบ และยังได้รถคืน คุณสโรชา นึกถึงชาวบ้านธรรมดา ที่ไปซื้อทีวีสี 21 นิ้ว ซักเครื่องและมีปัญหา และเอาไปขอเปลี่ยนเขาจะให้เปลี่ยนไหม เขาไม่มีวันจะให้เปลี่ยนหรอก ผมถึงบอกว่า จริงๆ แล้วกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคนั้นไม่เข้มแข็งพอ และลักษณะของรัฐบาลทุกรัฐบาล ไม่ใช่เฉพาะรัฐบาลนี้ กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคอ่อนแอมาก ไม่ได้ออกมาคุ้มครองผู้บริโภค แต่เป็นการคุ้มครองผู้ประกอบการ และนายทุน
สโรชา – ดิฉัน ขอตั้งข้อสังเกตเรื่องการซื้อรถในเมืองไทยซักนิดนึงว่า จริงๆ แล้วเราจะไม่ได้ลองรถที่เราซื้อ เราต้องไปลองรถที่เขามีอยู่แล้ว เป็นเดโม คาร์ ว่าพอใจไหม จองรถ ทำเรื่องอะไรเรียบร้อย ไปรับรถ ต้องเซ็นรับก่อน ที่จะนำรถออกจากดีลเลอร์ ชิป ได้ ซึ่งผิดกับในอเมริกา ลองคันไหน ซื้อคันนั้น คือเราสามารถรู้ได้เลยว่าสิ่งที่เราจะซื้อคืออะไร รูปลักษณ์เป็นยังไง คุณภาพเป็นยังไง
สนธิ – และในต่างประเทศนะครับ เขามีกฎหมายระบุชัดเลย ว่า รถใหม่ถ้าใช้ไม่เกิน 2 หรือ 3 เดือน ถ้าต้องเข้าอู่ซ้ำซากเกินกว่า 2 ครั้ง ซ่อมแซมในสิ่งที่ คือรถใหม่ไม่ควรจะมีอะไรเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรีก็ไม่ควรจะตาย เฟืองท้ายก็ไม่ควรจะดัง เขาบอกว่า ถ้าลองเข้าไปซ่อม 2-3 ครั้งแล้ว เจ้าของรถไม่พอใจ มีสิทธิ์ขายคืนได้ หรือเปลี่ยนใหม่ได้ เป็นกฎหมายบังคับเลย แต่ว่าเมืองไทย บริษัทรถยนต์เป็นเจ้า อาจจะเป็นเพราะว่ามีอิทธิพลมากมาย มีความสนิทสนมกับนักการเมืองทุกรัฐบาล คือง่ายๆ คุณสโรชา ซื้อรถยนต์มาคันหนึ่ง คุณสโรชา กี่เดือนถึงจะได้ทะเบียนรถ
สโรชา – 2 เดือนมั้งประมาณนั้น
สนธิ– จริง ๆ แล้วที่ถูกต้องคือซื้อวันนี้ต้องได้ทะเบียนวันนี้ ก็เมื่อคุณจ่ายเงินไปเรียบร้อยแล้ว ทำไมคุณต้องรอทะเบียน
สโรชา – เขาบอกว่ามันมีกระบวนการไปจดทะเบียน และโดยส่วนมาก คนชอบใช้ป้ายแดง ซักพักก่อนแล้วค่อยเปลี่ยน
สนธิ – ไม่สำคัญนะ หรือว่า กำหนดเลย ซื้อวันนี้อีก 7 วันได้ ใช่ไหมครับ ทำไมคุณซื้อรถวันนี้และคุณจ่ายเงินหมดวันนี้และเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณต้องขับรถ พอ 6 โมงเย็นต้องกลับบ้าน ไม่งั้นตำรวจจับ ไม่มีเหตุผล
สโรชา – ใช่ค่ะ เพราะฉะนั้นก็ฝากไว้แล้วกันนะคะ สำหรับกฎกติกาต่างๆ ที่สามารถจะดูแล หรือว่า คุ้มครองผู้บริโภคได้มากกว่านี้ นะคะ ซึ่งนำมาสู่คำถามเอสเอ็มเอสของเรา ในคืนนี้ค่ะ เราเรียนถามคุณผู้ชมค่ะว่า คุณผู้ชมคิดว่าควรจะมีกฎหมายบังคับผู้ผลิตให้รับรถใหม่ที่มีปัญหาคืนหรือไม่ นะคะ ถ้าเห็นควรกดเอ็มที 1 ถ้าไม่ควร เอ็มที 2 ส่งมาที่ 84820 นะคะ หรือโทร.มาที่ 02-201-6055-60 ค่ะ ขอบคุณฟรีอินเตอร์เน็ตค่ะที่เอื้อเฟื้อระบบเอสเอ็มเอส ให้กับเราค่ะ เช่นเคยค่ะ เราแจกโทรศัพท์มือถือ พานาโซนิก นะคะ รุ่นใหม่ล่าสุด เอ็กซ์ 700 ค่ะ ระบบซิมเบียน โฟน รับชมทีวีบนมือถือได้ 1 เครื่อง และมีทีเชิร์ตด้วยนะคะ ของฟรีอินเตอร์เน็ต แจกฟรีๆ 3 ตัว ในคืนนี้ โทรศัพท์ 1 เครื่อง ทีเชิร์ต 3 ตัวสุ่มจากหมายเลขของเอสเอ็มเอสที่ส่งเข้ามานะคะ เพราะฉะนั้นพักกันซักครู่หนึ่งค่ะ เดี๋ยวกลับมาคุยกันในประเด็นของการตัดสินใจลดค่าเงินบาท ในปี 2540 ซักครู่เดียวค่ะ
สโรชา – กลับมาสู่เมืองไทยรายสัปดาห์ วันนี้มีเรื่องต้องคุยกันเรื่องใหญ่ ซึ่งเป็นข่าวฮือฮาในสัปดาห์นี้นะคะ หนังสือซึ่งออกมาโดยคุณปานเทพ คิดว่ายังไงค่ะ คุณสนธิเล่า คงจะทราบดีละ ตั้งแต่ไล่กลับไป
สนธิ – หนังสือเล่มนี้ ท่านพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ท่านตั้งใจทำ คือ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นคนพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง พูดจาแล้วต้องแปล บางทีพูดแล้วไม่เข้าใจ แต่ว่า ความที่พูดไม่รู้เรื่อง แต่พล.อ.ชวลิต เป็นคนที่มีน้ำใจเป็นสุภาพบุรุษสุดๆ โดนวิพากษ์วิจารณ์อะไรก็ไม่ว่าอะไร นั่งเฉย ปิดปากเงียบ เพราะว่าพล.อ.ชวลิตนั้นทำงานเบื้องหลังมามาก ก็มีความเคยชินกับการวิพากษ์วิจารณ์ แต่เหตุการณ์เมื่อปี พ.ศ. 2540 นั้น จนกระทั่งปัจจุบัน พล.อ.ชวลิต ถูกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวหามาตลอด ว่าเป็นคนที่ทำให้เศรษฐกิจพัง นะครับ ท่านอดทนมาตลอด ไม่พูดอะไร ไม่รู้จะพูดอะไร นานๆ พูดที เบรกมาแตกตอนช่วงนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ที่ท่านนายกฯ ทักษิณ ไปปาฐกถา ครบรอบ 3 ปี ของ บสท. คือ หัวข้อ 60 ล้านไทย พ้นภัยเศรษฐกิจ ย่อวิกฤติต่อโอกาส โดยบสท. เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2547 เผอิญท่านนายกฯ ทักษิณ ท่านไปแขวะรัฐบาลชุดพรรคประชาธิปัตย์ ท่านไปบอกว่า ได้มีการดำเนินการผิดพลาด แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโดยตั้งกู้ด แบงก์ขึ้นมา แต่ไม่มีแบด แบงก์ ขายธนาคารต่างๆ ให้ฝรั่งในราคาถูก จนรัฐบาลผมต้องเข้ามาแก้ปัญหา ซื้อคืนในราคาแพง เท่านั้น นอกนั้นแล้ว ไฮไลท์สำคัญ คือท่านนายกฯ ทักษิณ เปรียบเทียบว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นหมอรักษาคนไข้ แต่รัฐบาลชุดก่อนทำหน้าที่แบบสัปเหร่อ ตรงนี้อดีตนายกฯ ชวนก็ฟิวส์ขาดนะครับ ก็คือว่าท่านก็เลยพูดบอกว่า ออกมาตอบโต้ ก็บอกว่าจริงอยู่เมื่อปลายปี 2540 ต้องเป็นสัปเหร่อ เพราะรัฐบาลก่อนหน้านั้น ภายใต้รัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่มีรองนายกฯ ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต่างหากที่ทำให้ประเทศไทย เป็นศพ โดยเน้นที่การปรับอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2540 เท่านั้นเอง พี่จิ๋ว ของผมฟิวส์ไม่ขาด หม้อไฟระเบิด
สโรชา – ไม่ใช่แค่ฟิวส์ขาดแล้ว
สนธิ– ก็เลยตัดสินใจที่จะผลักดันหนังสือเล่มนี้ออกมาทันที
สโรชา – นี่คือเหตุการณ์เมื่อเดือนธ.ค. นี้เอง
สนธิ– ก็เลยเร่งทันทีเลย เอาหละ ไหนๆ พูดกันแล้วจะได้มาหงายไพ่ซักที ว่าใครบ้างที่จะรับผิดชอบ เรื่องนี้ก่อนที่ผมจะพูดต่อไป ผมอยากจะเตือนคนซึ่งฟังเรื่องนี้ และเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นมิสเตอร์เอ็กซ์ มิสเตอร์วาย มิสเตอร์แซด หรือว่าจะเป็นรัฐบาลชุดไหนที่เกี่ยวข้องกัน และเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น หรืออะไรก็ตามให้รู้ว่า ณ วันนี้ อดีตเริ่มกลับมาหลอกหลอนตัวเองแล้ว ในทางพุทธเขาเรียกว่า กรรมกำลังเริ่มตามสนอง คุณสโรชา จำได้ไหม อาทิตย์ที่แล้ว ผมพูดถึงเรื่องนายโรเบิร์ต เอส แมคนามารา ปัจจุบันนี้ นายโรเบิร์ต เอส แมคนามารา กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะช้ำใจกับการกระทำของตัวเอง เมื่อนานมาแล้วครั้งหนึ่งสมัยสงครามเวียดนาม แต่ก่อนที่จะพูดเรื่องนี้ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะเทคนิเคิล ซับซ้อน เป็นเรื่องการเงิน การทอง ก็ขออนุญาตคุณสโรชาและท่านผู้ชมทางบ้านหลายๆ ท่านที่ท่านชำนาญ เรื่องเศรษฐกิจและการเงิน ขอให้อดทนกับผมนิดนึง เพราะว่ายังมีพ่อแม่พี่น้องที่เป็นแฟนประจำรายการนี้ ที่ท่านไม่ค่อยรู้เรื่องนี้ ผมจะยกตัวอย่างให้ฟัง ประเทศประเทศหนึ่ง จำเป็นต้องมีเงินตราต่างประเทศสำรองเอาไว้ เงินตราต่างประเทศนี้ สำรองไว้ในลักษณะไหน สำรองเอาไว้โดยที่เงินนี้เอามาจากไหน ก็คือเงินซึ่งส่งออก ขายของออกไป ต่างประเทศ เขาจ่ายเงินมาเป็นดอลลาร์ เมื่อจ่ายเป็นดอลลาร์แล้ว พ่อค้าถือดอลลาร์ไว้ ไม่ได้ ต้องเอาดอลลาร์มาขายคืนให้กับธนาคารชาติ คุณสโรชาขายของไปเมืองนอกได้ 100 ดอลลาร์ เอากลับมาคุณสโรชาก็เอา 100 ดอลลาร์ ขายคืนให้กับแบงก์ชาติ ในอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งกำหนดเอาไว้ว่าจะต้องเป็นเท่าไหร่ คุณสโรชาก็เอาเงินบาทซึ่งแบงก์ชาติมอบให้ เอามา แบงก์ชาติก็เก็บดอลลาร์ไว้ แบงก์ชาติเก็บไว้เยอะขึ้น เมื่อมีมากก็เอาไปซื้อพันธบัตรที่สหรัฐอเมริกา แต่ก็ถือว่าเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ คือพูดง่ายๆ ว่า อีกหน่อยคุณสโรชา จะไปซื้อของจากเมืองนอกบ้าง เขาขายเป็นดอลลาร์ คุณสโรชาไม่มีดอลลาร์ แต่มีเงินบาท ก็เอาเงินบาทไปซื้อเงินดอลลาร์จากแบงก์ชาติ ซึ่งแบงก์ชาติเพิ่งซื้อจากคุณสโรชามา แบงก์ชาติก็ขายคืนดอลลาร์ให้คุณสโรชา ในอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันนั้นเวลานั้นที่ซื้อ เมื่อเสร็จแล้ว แบงก์ชาติก็ส่งดอลลาร์นี้ สั่งให้แบงก์พาณิชย์ ออกเงินดอลลาร์ผ่านแบงก์ชาติ เอาไปจ่ายให้ผู้ที่คุณสโรชาไปซื้อของ เข้าใจแล้วใช่ไหมครับ
สโรชา – พูดง่ายๆ ดิฉันไม่ต้องเอาเงินดอลลาร์ส่งไปให้กับทางปลายทาง
สนธิ – ไม่ต้องครับ เพราะฉะนั้นแล้วเงินตราต่างประเทศไม่ใช่มีเฉพาะดอลลาร์ ก็มีเงินเยน เงินปอนด์ เงินสวิส แต่ว่าสกุลดอลลาร์เป็นสกุลหลัก ที่เราใช้อยู่ นี่คือที่มาว่าทำไมธนาคารแห่งประเทศไทย ถึงมีเงินสำรอง การมีเงินสำรอง ก็แปลว่าเราขายของมากกว่าที่เราซื้อของ เราถึงมีเงินสำรอง มีส่วนต่างตรงนั้นไว้ ทีนี้เงินสำรองตรงนี้ เมื่อปี 2527 ในสมัยที่พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีและคุณสมหมาย ฮุนตระกูล อดีตรมว.คลังซึ่งท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว ท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ท่านได้ปรับเงินบาทให้ลอยตัว คำว่าลอยตัว หมายความว่าไม่กำหนดว่า เงินบาท จะต้องไปผูกกับเงินดอลลาร์ เป็นจำนวนเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นแล้วได้ปรับไปแล้ว ครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2527 ตอนนั้นเศรษฐกิจก็วุ่นวายพอสมควร แต่ว่าหลังจากนั้นผ่านไปซักปีกว่าๆ ทุกอย่างก็เข้าเป็นไปตามระบบนะครับ หลังจากนั้นมา ก็ได้มีการพูดกันว่า จากนี้ไป คุณสมหมายพูดเอง ว่าจะไม่มีการลอยตัว คือราคาค่าเงินบาทต่อดอลลาร์จะไม่ลดไปมากกว่านี้อีกแล้ว เพราะท่านปรับให้ลอยตัวแล้ว ลอยตัวหมายความว่าเมื่อเศรษฐกิจไม่ดี บาทก็อ่อน ตามภาวะการตลาดที่แท้จริง บาทก็ราคาสูง ต่อดอลลาร์ ถ้าเศรษฐกิจแข็ง บาทก็ลดลงมาต่อดอลลาร์ ใช่ไหมครับ เข้าใจนะครับ ทีนี้มาดูเหตุการณ์นิดนึง คือวันนี้ท่านนายกฯ ทักษิณ ท่านชี้ไปที่คุณชวน คุณชวน ท่านชี้ไปที่คุณชวลิต คุณชวลิต ท่านก็เลยโบ้ยต่อ ไปที่คุณชวนอีกทีเหมือนกัน คือต้องเล่าเหตุการณ์ให้ฟังนิดนึง หลังจากที่พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ท่านลงจากเวทีในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณท่านขึ้นมาและต่อด้วยคุณชวน หลีกภัย พล.อ.ชาติชาย 2 ยุคนั้นและคุณอานันท์ ปันยารชุน และคุณชวน 2-3 ยุคนั้นเป็นยุคซึ่งเขาต้องการจะเปิดเสรีประเทศ คำว่าเปิดเสรีหมายความว่า เขาไม่ต้องการให้มีการควบคุมอัตรา เงินตราต่างประเทศ ในลักษณะที่เป็นการควบคุมในอดีต คือว่าสมัยก่อนนั้น คุณสโรชาตั้งบริษัท จะกู้เงินเมืองนอกมา ต้องผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย กู้ตรงไม่ได้ ทีนี้เผอิญช่วงนั้นเป็นช่วงซึ่งอเมริกาเริ่มจะรุก ใช้นโยบายการเงินรุกออกมานอกโลก คือใช้ดอลลาร์ รุกออกมาเพื่อให้คนกู้ดอลลาร์มากๆ เพื่อเป็นหนี้อเมริกมาก อเมริกาจะได้เข้ามาทำธุรกรรมทางการเงินได้ ก็เลยมีการเสนอให้เปิดประเทศ โดยใช้กฎบีไอบีเอฟ
สโรชา – คือเปิดเสรีทางด้านการเงิน
สนธิ – คือว่าคุณสโรชาสามารถจะไปติดต่อธนาคารกรุงเทพ บอกว่า ผมขอกู้เงินต่างประเทศนะ และธนาคารกรุงเทพก็เป็นคนกู้ให้ ธนาคารกรุงเทพกู้ให้ สมมติว่าดอกเบี้ยในประเทศตอนนั้น 15 เปอร์เซ็นต์ แต่เงินต่างประเทศ มันประมาณ 6 เปอร์เซ็นต์ มันมีส่วนต่างตั้ง 9 เปอร์เซ็นต์ ธนาคารกรุงเทพ อาจจะกิน 2 เปอร์เซ็นต์ เป็นค่าบริการ ก็ยังมีส่วนต่างเหลือ 7 เปอร์เซ็นต์ 7 เปอร์เซ็นต์ก็มีกำไรตรงนี้มาก หลายคนก็กู้มาเพื่อทำให้ต้นทุนการผลิตถูก แต่หลายคนกู้มาเพื่อมาเล่นเงิน แน่นอน เพราะว่ากู้มาต้นทุน 7 เปอร์เซ็นต์ และคุณก็ไปลงทุนทางอื่น ปล่อยกู้ทางอื่น ไปปล่อยให้ไฟแนนซ์กู้ เพื่อไฟแนนซ์ปล่อยกู้ต่อ เลยทำให้ดอกเบี้ยหลายๆ ยุคในช่วงนั้น เป็นดอกเบี้ยราคาที่สูง นะครับ
สโรชา – และทำอย่างนี้กันเยอะมาก
สนธิ– พูดง่ายๆ ว่า ภาคเอกชนก็เลยเริ่มเป็นหนี้กันอย่างมหาศาล จากการซึ่งเปิดเสรีโดยการเปิดเสรีครั้งนั้นเป็นการเปิดเสรีที่ไม่ได้มองดูตาม้าตาเรือ ให้พร้อม คำว่า ตาม้าตาเรือหมายความว่าไม่ได้พิจารณาว่า พื้นฐานทางเศรษฐกิจ ธรรมรัฐ ธรรมาภิบาลของบ้านเรามีพร้อมหรือยัง ในเรื่องพวกนี้เหมาะสมหรือไม่ เอาเป็นว่า เพื่อจะช่วยพวกพ้อง ธุรกิจของตัวเอง ให้มีความเจริญเติบโตขึ้นมาได้และให้กู้เงินราคาถูกมา ก็ทำกันแหลกลาญเลย เพราะฉะนั้นธนาคารพาณิชย์ตัวดี ก็ไปกู้เงินต่างประเทศมาในอัตรา 7 เปอร์เซ็นต์ และมาปล่อยกู้ บวกๆ เข้าไปอีก เป็น 18 19 20 21 เปอร์เซ็นต์ให้กับพวกคุณ พวกผม เพราะว่าเงินฝากในประเทศตอนนั้นมันสูง สมมติว่าเงินฝาก 12 เปอร์เซ็นต์ มีอยู่ครั้งหนึ่ง 10 เปอร์เซ็นต์ เงินกู้ก็สูงตาม แต่ถ้าเงินที่ได้มาเพื่อปล่อยมันต่ำ มันก็มีส่วนต่างเยอะ ตรงนี้ไม่มีใครพูด ตรงนี้บีไอบีเอฟ เกิดขึ้นในยุครัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ คุณชวน หลีกภัย อันนี้เราพูดตามเนื้อผ้าเลยนะครับ ความเป็นจริงนะครับ เมื่อเกิดแบบนี้ เศรษฐกิจฟองสบู่ก็เริ่มแล้ว เริ่มเจริญเติบโต คนก็ใช้เงินเละเทะหมดเลยนะครับ ปรากฏว่า เรามีหนี้ภาคเอกชนบวกหนี้รัฐบาล มากกว่าเงินสำรองที่เรามีอยู่ ข้อมูลอันนี้ใครรู้ ธนาคารแห่งประเทศไทยรู้คนเดียว คนอื่นไม่มีใครรู้ ธนาคารแห่งประเทศไทยเขาจะมีฝ่ายกองทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งจะมีผู้จัดการกองทุนอยู่ ซึ่งผู้จัดการกองทุนในยุคนั้นชื่อคุณ ชัยวัฒน์ วิบูลสวัสดิ์ นะครับ เพราะฉะนั้นแล้วธนาคารชาติจะเป็นผู้เดียวเท่านั้นเองที่รู้ ว่าเงินในเก๊ะ เรามีเท่าไหร่ เงินดอลลาร์ในเก๊ะเรามีเท่าไหร่และเราเป็นหนี้เท่าไหร่ แต่ไม่ยอมพูด แต่ว่าต่างชาตินั้นดูออกว่าเรา เขาเรียกว่าเราบลัฟ เราเล่นเผ เราหน้าสเตท เราหน้าเห่า แต่เรากบ 2 คู่เท่านั้นเอง สรุปง่ายๆ ว่า ฝรั่งดูออก ก็เลยเริ่มมีการสงสัย จนกระทั่ง พูดง่ายๆ ว่าทุกอย่างอยู่ในสภาพที่โซซัดโซเซมาตลอด เราติดลบมาตลอด ตั้งแต่ยุครัฐบาลคุณชวน หลีกภัยมา คือสถานการณ์เลวร้ายมาตลอด จนกระทั่งมาถึงคุณชวลิต ยงใจยุทธ อุปมาอุปมัย เหมือนกับประเทศไทย ใกล้ตายแล้วตอนนั้น
สโรชา – คุณสนธิ หมายความว่าตั้งแต่บีไอบีเอฟมา หนี้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เงินเก็บเรามีอยู่จำนวนหนึ่ง
สนธิ- มีอยู่จำนวนหนึ่งและน้อยลงไปเรื่อยๆ ทีนี้พอมาถึงยุคพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อยู่เพียง 9 เดือน จริงๆ แล้ว 9 เดือน แกทำให้ประเทศไทย เป็นศพแกทำไม่ได้หรอก คือประเทศไทยนั้น เริ่มบาดเจ็บมาทีละนิด ๆ จนกระทั่งสาหัสมาก่อนที่แกจะเข้า พอแกเข้าก็เจียนตายแล้ว นั่นคือเหตุผล ซึ่งแกน้ำท่วมปาก แกพูดไม่ได้ เพราะว่าเผอิญมาพังในยุคแก แต่เดี๋ยวเราจะมาคุยกันว่าทำไมถึงพัง เพราะเบรกนี้หมดแล้ว
สโรชา – ไปพักโฆษณากันก่อนนะคะ เดี๋ยวกลับมาดูว่า สรุปแล้วที่สะสมมาทั้งหมด ตลอดระยะเวลาหลายๆ รัฐบาลมาจนถึงยุคของท่านบิ๊กจิ๋ว ของเรา เกิดอะไรขึ้นและเพราะเหตุใด มีใครอยู่เบื้องหลัง มีใครเป็นคนรู้ เป็นคนเห็นบ้าง ซักครู่เดียวกลับมาค่ะ
สโรชา – กลับมาสู่เมืองไทยรายสัปดาห์นะคะ เมื่อซักครู่คุยกันได้ถึงตอนที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธเข้ามาบริหารประเทศได้ พอเข้ามาไม่นานก็เจอกับปัญหาซึ่งต้องแก้ไข
สนธิ– ปัญหาคือว่า ต่างชาติเริ่มรู้แล้วว่าสถานะของประเทศไทย ไม่ดี เพราะว่ามีการขาดดุลการค้าตลอด ฝรั่งจะรู้ข้อมูลมากกว่าเรา เพราะเขาสามารถจะเช็คยอดส่งออก เมื่อยอดส่งออกตกลง ก็หมายความว่า ความสามารถที่จะทำรายได้ ซึ่งเป็นเงินตราต่างประเทศน้อยลง ทีนี้ต้องทบทวนความจำนิดนึง ช่วงที่ท่านรัฐมนตรีสมหมาย ฮุนตระกูล ท่านลดค่า ท่านปล่อยให้เงินบาทลอยตัว เมื่อปี 2527 เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ครั้งนั้นท่านกำหนดเลย ให้ธนาคารแห่งประเทศให้คง เขาเรียกว่า แบนด์วิธ ให้คงช่องที่เงินบาทจะเคลื่อนไหวได้เต็มที่
สโรชา – สูงสุดเท่าไหร่ ต่ำสุดเท่าไหร่
สนธิ – แต่ว่ากว้างให้กว้าง แต่พอหลังจากที่ท่านไม่อยู่แล้ว ธนาคารแห่งประเทศไทยตัวดี ลดแบนด์วิธ *** ตรงนี้ลงมาให้แคบลง คือให้เคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ เหตุผลที่ทำเช่นนั้นมีอยู่ 2 เหตุผล เหตุผลแรกคือว่า หนึ่ง การที่ให้ความกว้าง ให้ความยืดหยุ่นของเงินบาทสูง เคลื่อนไหวได้เยอะ ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องมีสติปัญญามากพอสมควรในการที่จะคำนวณได้ จะต้อง ระวัง ต้องใช้ปัญญาเป็น ในการที่จะขายบาท ซื้อดอลลาร์ คือพูดง่ายๆ ว่า ต้องมีความเป็นมืออาชีพมาก วิธีเดียวที่ไม่ต้องทำงานเหนื่อย ไม่ต้องใช้ปัญญาเยอะ คือว่า ให้แคบลง ก็คือว่าจะเคลื่อนแค่ไหน แค่นั้น ถ้ามันจะสูงเกินไป ก็ขายดอลลาร์คืน ถ้ามันจะต่ำเกินไป ก็ซื้อดอลลาร์เข้ามา เท่านั้นเอง แทนที่จะให้เงินบาทนั้น สะท้อนภาพที่แท้จริง ถ้ามันเป็นอย่างที่ท่านรัฐมนตรีสมหมายพูดตั้งแต่ต้น ปัญหามันไม่มีแล้ว เอาละ ตรงนี้เข้าใจนะครับ เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อกลไกในการทำให้เงินบาท มีความยืดหยุ่นได้เต็มที่ ถูกบีบโดยที่พวกเราไม่รู้เลย ถ้าคุณจะถามแดนสนธยา อยู่ที่ไหน ไม่ใช่อ.ส.ม.ท.นะ ธนาคารแห่งประเทศไทย ผมจะบอกให้ อ.ส.ม.ท. ถือว่าเป็นลูกหลานแดนสนธยา แต่ว่าธนาคารแห่งประเทศนี่แดนสนธยา ตัวจริง เสียงจริงและของจริง ให้รู้ไว้ด้วย อันนี้ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ ทีนี้เหตุการณ์เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ต่างประเทศพวกเฮดจ์ ฟันด์ ก็คือพวกอีแร้ง ทีมีเงินทุนอยู่ และก็ไปเก็งค่าเงิน เงินเปโซ เม็กซิโก จะตกแล้วนะ สงสัยมันจะอ่อนนะ เราไปซื้อ เราขายเป็นเงินเปโซออกไป มันก็ยิ่งตกไป พวกนี้ก็มาเล่นเงินบาทตลอด ทีนี้พอมาเล่นเงินบาทตลอด โดยนัยแล้วเขามีผู้จัดการกองทุนรักษาระดับ เขาก็ต้องดูว่า ตายแล้ว มีคนมาเล่นเงินบาท เขาก็อาจจะปกป้องเงินบาทชั่วคราว ในช่วงรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ก็เริ่มมีการปกป้องเงินบาท จนกระทั่งมีการประชุมกันหลายครั้ง นะครับ ระหว่างดร.อำนวย วีรวรรณ ซึ่งตอนนั้นเป็นรมว.คลัง หลายๆ คนก็บอกตลอดเวลา ว่าเงินบาทนั้น ในลักษณะการเคลื่อนไหวที่แคบๆ นั้นจะอยู่ไม่ได้นะ ต้องปล่อยให้ลอยตัว คนที่ค้านเสียงแข็ง คนเดียวและตลอดเวลา ชื่อคุณชัยวัฒน์ วิบูลสวัสดิ์ ผู้จัดการรักษากองทุน คุณชัยวัฒน์ จะเป็นคนบอกว่าไม่ได้ บาทจะลอยไม่ได้ บาทจะต้องแข็ง จะต้องเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ คนที่ใช้เงินเพื่อไปซื้อและไปปกป้องเงินบาท ผู้จัดการตัวจริงคือ คุณชัยวัฒน์ วิบูลสวัสดิ์ แต่ไม่เคยมีใครพูดถึง และวันนี้คุณชัยวัฒน์ วิบูลสวัสดิ์ มาเป็นประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย เป็นเรื่องซึ่งน่าสนใจมาก ถ้าไม่เชื่อให้ไปดูคำพิพากษาของศาล ที่เขาฟ้องคุณเริงชัย มะระกานนท์ ว่ารับผิดชอบเรื่องนี้ คุณเริงชัย ให้การหมดทุกอย่าง
สโรชา – คือตอนนั้นท่านเป็นผู้ว่าการแบงก์ชาติ
สนธิ– พร้อมหลักฐาน คือคุณเริงชัยไม่ได้รับรายงานจากคุณชัยวัฒน์ คุณชัยวัฒน์เก็บเอาไว้ และคุณเริงชัยท่านพูดตรงๆ ท่านก็ไม่ได้เป็นผู้ว่าฯแบงก์ชาติที่เก่งกาจอะไร เป็นพิเศษ แต่ว่าท่านเป็นคนซึ่งโอเคนะ เข้าใจไหม คือต้องมีคนรายงานให้ข้อมูลที่แท้จริงท่าน ในที่สุดคุณอำนวย วีรวรรณ ท่านรู้สึกว่าชักไม่ไหวแล้ว ท่านเลยลาออกวันที่ 19 มิ.ย. 2540 คุณสโรชาและท่านผู้ชมที่บ้านจำวันที่ดีๆ นะครับ ดร.อำนวย วีรวรรณ ลาออกเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. วันที่ 21 มิ.ย. วันเสาร์ ท่านลาออกวันพฤหัสบดี ที่ 19 มิ.ย. 2540 วันเสาร์ ที่ 21 มิ.ย. 2540 ได้มีการประชุมกันในระดับผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย 6 คน
สโรชา – แต่ท่านนายกฯ ตอนนั้นคือท่านบิ๊กจิ๋ว ออกทีวีในวันเดียวกันใช่ไหมค่ะ ที่ท่านอำนวยลาออกไป คือ ยืนยันว่า จะไม่มีการลอยตัวค่าเงินบาท
สนธิ – ถูกต้องครับ แต่หลังจากนั้น วันเสาร์ มีประชุม โดยคุณชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ตอนนั้นท่านเป็นรองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย คุณธัญญา ศิริเวทิน ท่านผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ คุณศิริ การเจริญดี ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ คุณบัณฑิต นิจถาวรซึ่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการธนาคาร คุณไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ซึ่งท่านเป็นหัวหน้าส่วนวิเคราะห์ ภาคธุรกิจการเงินและคุณเกลียวทอง เหตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ ทั้ง 6 คนนี้ประชุมและค่อยมีมติเป็นเอกฉันท์ ว่าไม่ไหวแล้ว ต้องปล่อยให้ลอยตัว วันที่ 21 นะครับ ถึงแจ้งคุณเริงชัย มะระกานนท์ ว่าต้องลอยตัว นะครับ พวกแบงก์ชาติรู้แล้วต้องลอยตัว ก็ยังไปหลอกพี่จิ๋วผมอีก นะครับ ว่ายังแข็งอยู่ ไม่มีอะไร คือสิ่งที่พี่จิ๋ว ของผม พี่จิ๋ว เป็นคนน่าสงสารมาก คือหนึ่งนอกจากพูดไม่รู้เรื่องแล้วยังถูกหลอกง่ายๆ ด้วย
สโรชา – คือท่านก็ต้องฟังคนที่ให้คำปรึกษา
สนธิ– ใช่ครับ วันเสาร์ 21 นะครับ อาทิตย์ที่ 22 มิ.ย. จันทร์ ที่ 23 อังคารที่ 24 พุธ ที่ 25 ช่วงนั้นวันที่ 19 รู้สึกว่าคุณทนง พิทยะ เข้ามาแล้ว ผมจำได้ บินกลับจากต่างประเทศมาได้รับการโปรดเกล้า ฯ ทันที เพื่อมาแทนดร.อำนวย วีรวรรณ คือถ้ามองดูด้วยเหตุผลนะคุณสโรชา เขาถามว่าทำไมพวกธนาคารแห่งประเทศไทย ถึงไม่แจ้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่าพวกเขาเห็นว่า ไม่ไหวแล้วจะต้องปล่อยลอยตัว เขาให้การในศปร. 3 น่าสนใจมาก เขาบอกว่า เนื่องจากว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กำลังยุ่งเกี่ยวกับพระราชบัญญัติงบประมาณในสภาอยู่ คือเรื่องของประเทศชาติ ประเทศจะเจ๊ง พังพินาศทลายลงไป ยังบอกว่าอย่าเพิ่งไปรบกวนท่านรัฐมนตรี ท่านรัฐมนตรียุ่งอยู่ ถ้าคนที่มีสติปัญญานะครับ แล้วก็ไม่ฉลาดน้อยนัก ก็จะบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ท่านเลิกจากงบประมาณเมื่อไหร่ ไปดักที่สภา แล้วบอกท่านครับ มีเรื่องสำคัญขอพบหน่อยและบอกว่า ต้องรีบตัดสินใจทันที เก็บเงียบเลยนะครับ พฤหัสบดี ที่ 26 มิ.ย. ทวนอีกที 19 อำนวยลาออก 20 ทนง เป็น 21 พวกขุนพลแบงก์ชาติประชุมว่าไม่ไหวแล้วต้องลอยตัว แต่ก็ยังหลอกพี่จิ๋วของผมอีก 22 23 24 25 ไม่มีใครบอกใครเลยทั้งสิ้น เพิ่งมาบอกทนง พิทยะ วันที่ 26 ว่าต้องอย่างนี้แล้ว คุณทนง พิทยะ ก็เลยบอกว่า งั้นลอยตัวไป 26 แต่ก็แปลก ก็ไม่ลอย 26 คือ เรื่องนี้ละเอียดอ่อนนะครับ มันเป็นการได้เสียของประเทศชาติ เป็นการได้เสีย คือเรื่องเงินทอง เราจะลอยตัวค่าเงินบาท จาก 25 เป็น 27 บาทเท่านั้นเอง รู้ช้าไปวันหนึ่ง รู้เร็วไปวันหนึ่ง กำไรเป็นหมื่นเป็นพันล้าน เป็นแสนล้าน ประเทศชาติพินาศชิบหายเป็นหมื่นเป็นแสนล้านเช่นกัน แต่พวกนี้ ทำเหมือนประธานฮอนด้า นะครับ นั่งทองไม่รู้ร้อน แล้วยังมีหน้ามาบอกว่า เนื่องจากรัฐมนตรีนั้นกำลังประชุมงบประมาณอยู่ และคุณสโรชา คุณจะไม่ให้ผมวิพากษ์วิจารณ์พวกแบงก์ชาติได้ไง คุณดูพฤติกรรมแบบนี้ซิ ให้อภัยกันไม่ได้เลย เสร็จแล้วมาบอกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในยุคนั้น วันพฤหัสบดีที่ 26 เสาร์ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัสบดี 6 วันนี้ ผมไม่รู้ว่ามีข่าวรั่วไปถึงใคร มีการเก็งกำไรไปมากน้อยแค่ไหน นะครับ เสร็จเรียบร้อยแล้ว 26 คุณทนงก็น่ารัก ก็ยังเก็บไว้อีก วันที่ 26 ผมก็ไม่รู้ว่าเก็บเอาไว้ทำไม คือคุณทนง ให้การกับศปร. ว่า ทางผู้ว่าแบงก์ชาติ คือคุณเริงชัย มะระกานนท์ บอกว่า เอาละผมขอกลับไปปรึกษาเจ้าหน้าที่แบงก์ชาติ คุณทนง ในฐานะเป็นรัฐมนตรีคลัง ต้องบอกว่าคุณไม่ต้องปรึกษาแล้ว คุณไปพบกับท่านนายกฯ ชวลิต เลยประกาศลอยตัวเดี๋ยวนี้ ต้องทันทีเลยนะครับ ก็ไม่ ก็ยังปล่อยไปถึง 26 คือวันพฤหัสบดี วันที่ 27 วันศุกร์ 28 วันเสาร์ 29 ก็เลยยกพลพรรค ตอนเช้า ไปหาคุณชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งในบ้านหลังนั้นก็มีรัฐมนตรีโภคิน พลกุล นั่งอยู่ด้วย ก็ไปพูดบอกว่า อย่างนี้แล้ว แต่ว่าก็บอกว่าให้พล.อ.ชวลิต ให้มายืนยันว่า ไม่ลด ท่านพล.อ.ชวลิต วันจันทร์ ท่านก็ยังยืนยันว่าไม่ลด วันที่ 29 ทำนองนี้ ปรากฏว่า วันจันทร์คุณเริงชัยเดินเข้าไปที่ทำเนียบ พร้อมกระดาษแผ่นหนึ่ง บอกพล.อ.ชวลิตว่า จำเป็นต้องลดแล้ว วันจันทร์ที่ 30 แต่ก็ไม่ประกาศ มาประกาศวันที่ 2 ก.ค. โดยอ้างว่า วันที่ 1 เป็นวันหยุดธนาคาร คือความพังพินาศของประเทศไทย นี่จะต้องติดด้วยวันหยุดใช่ไหม ผมรับไม่ได้ตรงนี้ เพราะฉะนั้นแล้วจาก 21 มิ.ย. จนถึง 2 ก.ค. คือ 11 วัน ตรงนี้เป็นประวัติศาสตร์ที่ใครทำเวรทำกรรมเอา มีวาระซ่อนเร้นอะไรไว้ ใครรู้อะไรบ้าง ใครข่าวรั่วไปถึงใคร ใครไปแอบซื้อเงินดอลลาร์ไว้ ไปสวอปเอาไว้ นะครับ มีการสวอปอย่างมหาศาล ในช่วงเวลานั้น อย่างมหาศาล ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่กล้าเปิดเผยข้อมูลตรงนี้ ผมวิงวอน อยากจะให้เปิดเผย ตรงนี้ 11 วัน คุณสโรชา ไอ้ตัวร้ายซึ่งเก็งกำไร มันรู้กันหมดแล้วว่ายังไงก็ต้องลด ธรรมดา คุณเอ๊ย แค่ชั่วโมงเดียวเขาก็รู้กันเลย เขาก็ยังไล่ซื้อ นี่ 11 วัน มีการเตรียมตัว ผม ภาวนาต่อพระสยามเทวาธิราช สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่มีอยู่ในสากลโลก พ่อบ้าน พ่อเมือง ขอให้จงสาปแช่ง พวกซึ่งมีเจตนาร้าย หรือว่าเอาประโยชน์ของที่มันเกิดขึ้นพวกนี้และมาทำให้ประเทศชาติพังพินาศ ส่วนหนึ่งของการพังพินาศซึ่งไม่ควรจะพังพินาศมากแบบนี้ เพราะ 11 วันตรงนี้แหละที่เป็นเหตุการณ์ ตรงนี้ก็มีคนพูดกัน ไม่พูดไม่ได้ เป็นไงเป็นกันต้องพูดกัน ชาติไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ชาติไม่ใช่ของผู้ว่าแบงก์ชาติ ไม่ใช่ของเจ้าหน้าที่แบงก์ชาติ แต่ชาติเป็นของทุกคน เราให้ความเชื่อมั่นให้ความศรัทธา ในสติปัญญาที่เขามีอยู่ เพื่อจะให้เขาปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน แต่เขากลับมีความคิดอะไร ผมก็ไม่รู้ มีวาระซ่อนเร้นอะไร ก็ไม่รู้ ปล่อยให้เหตุการณ์ซึ่งควรจะกระทำเมื่อ 11 วันที่แล้ว มาทำเอา ล่วงเลยมา ตรงนี้ที่ผมรับไม่ได้เลย
สโรชา – ค่ะ คุณผู้ชมค่ะ เดี๋ยวเราจะพักกันซักครู่นะคะ เดี๋ยวเรามาดูผลโพล และมาสรุปเรื่องนี้ ในช่วงสุดท้ายของรายการซักครู่เดียวค่ะ
สโรชา – กลับมาช่วงสุดท้ายของรายการเมืองไทยรายสัปดาห์นะคะ ไปดูผลโพล กันค่ะ เราเรียนถามคุณผู้ชมนะคะว่า คุณผู้ชมคิดว่าควรจะมีกฎหมายบังคับผู้ผลิตให้รับรถใหม่ที่มีปัญหาคืนหรือไม่ คุณผู้ชมตอบกลับมาว่า ควร 89 เปอร์เซ็นต์ ไม่ควร ประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ ไปดูหมายเลขผู้โชคดีค่ะที่จะรับโทรศัพท์มือถือ พานาโซนิกรุ่น เอ็กซ์ 700 หนึ่งเครื่องในค่ำคืนนี้ค่ะ เป็นโทรศัพท์ ซิมเบียน โฟนค่ะ รับชมทีวีบนมือถือได้นะคะ 1 หมายเลขค่ะ และหมายเลขผู้โชคดีที่ได้รับทีเชิร์ต ของฟรีอินเตอร์เน็ตจำนวน 3 ท่าน นะคะ ตามที่เห็นอยู่บนจอค่ะ เดี๋ยวทางทีมงานจะติดต่อคุณผู้ชมกลับไป หลังรายการเลิกค่ะ กลับมา เรื่องนี้ต่อค่ะ ยังไม่จบ
สนธิ– ยังไม่จบ คุณสโรชา พอพล.อ.ชวลิต ด้วยความโกรธ ท่านก็เลยลาออก นี่คือเหตุผลที่สำคัญที่สุดที่ท่านลาออก บนเวทีวันนั้น บนเวทีการเมือง คนสงสัยทำไมท่านลาออก เพราะท่านโดนหลอก คือพวกนี้เป็นตัวการและโกรธอีกเรื่องคือว่า พล.อ.ชวลิต เป็นคนที่น่าสงสาร คนรอบด้านท่าน ใช้ไม่ได้เลย ที่เกาะทำมาหากินกับท่านมาตลอด ที่นอบน้อมเวลาท่านเป็นใหญ่ขึ้นมา ไปตั้งห้อง ไปนั่งหน้าห้องท่าน ไปเดินเข้าห้องท่าน พวกนี้เป็นพวกที่ขอยืมมือพล.อ.ชวลิต ทำมาหากิน และพล.อ.ชวลิต ท่านก็เป็นคนซึ่งเลอะเทอะมากๆ นี่ก็พูดต่อหน้า ผมรักท่านมาก พี่จิ๋ว สนิทกัน พูดได้ ท่านเป็นคนใจดี ท่านเป็นสุภาพบุรุษ พอมารัฐบาลชวน 2 ข้อเท็จจริงอันหนึ่งซึ่งท่านผู้ชมทางบ้าน และคุณสโรชายังไม่รู้นะ 56 ไฟแนนซ์ที่ถูกปิด ถูกปิดโดยคุณธารินท์ นิมมานเหมินทร์ ปิดตายเลย การปิด 56 ไฟแนนซ์ ก็เลยมีผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อลูกหนี้ แต่สมัยพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ท่านสั่งให้หยุดชั่วคราว ไม่เหมือนกันนะ เรื่องที่สอง ซึ่งไม่เคยมีใครพูด วันหลังผมรับปากคุณสโรชาและคุณผู้ชมทางบ้าน ผมจะเขียนหนังสือต้องแพ้เสียก่อนถึงชนะได้ ภาค 2 และจะมีรายละเอียดเรื่องพวกนี้ นะครับ คือในการปกป้องค่าเงินบาทนั้น มันมีสัญญาว่า ต่างชาติจะต้องส่งมอบเงินบาทให้เราภายใน 6 เดือน คือเมื่อถึงกำหนดหลังจากรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ลาออกแล้ว ถึงกำหนดสมัยรัฐบาล ชวน 2 เขาจะต้องส่งเงินมา ฝรั่งมันไม่มีเงินบาทจะมาส่ง ปรากฏอะไรรู้ไหม คุณธารินท์ นิมมานเหมินทร์ สั่งให้ยกเลิกที่เราสร้างรั้วเอาไว้ ครั้งแรก คือว่า ระยะเวลาที่ต้องส่งมอบเงินบาท เพื่อรับเงินดอลลาร์ซึ่ง เมื่อถึงกำหนดแล้ว แต่ได้มีการขยายให้กับนักโจมตีค่าเงิน ถึง 2 ครั้ง ขยายเวลาให้เขา เขาบอกว่าเขาไม่มีปัญญาส่ง เราก็ให้เวลาอีก 3 เดือน เขาบอกว่าไม่มีปัญญาส่ง ให้เวลาอีก 3 เดือนซึ่งในข้อเท็จจริงคุณขยายไม่ได้ คุณต้องบอกว่าคุณต้องส่ง เขาบอกว่าไม่มีให้ส่ง งั้นผมก็ไม่มีดอลลาร์ให้คุณ คุณไม่มีบาทให้ผม ผมไม่มีดอลลาร์ให้คุณ เรามานั่งคุยกันหน่อย ตกลงในแง่ดีว่า ราคาเท่าไหร่ แทนที่จะเลิกสัญญาเขาและเรียกค่าเสียหายกลับไม่ทำ นี่คือส่งเสริมให้โจร
สโรชา – คือคนที่มาถล่มค่าเงินบ้านเรา
สนธิ– ถล่มค่าเงินบาทเรา และเราไปรื้อรั้วซะ ชั้นที่สอง เราก็ดันไปเปิดตลาดเงินบาท ให้นักโจมตีเงินบาทมาหาเงินบาทในประเทศไทยได้ เข้าใจหรือยัง เห็นหรือยัง ตรงนี้ ไม่เคยมีใครพูด ผมใฝ่ฝันให้มีคนฟ้องร้องผมซะหน่อยในเรื่องนี้ จริงๆ
สโรชา – ฟ้อง ยังไงค่ะ จะได้สามารถเรียกพยานมา
สนธิ– ผมจะพิสูจน์ได้เลย เพราะว่ามีหลักฐานพิสูจน์ได้ เมื่อถึงเวลาที่คุณต้องส่งเงินบาท หมดสัญญา ต้องส่ง คุณกลับไปต่อสัญญาให้เขา เสร็จแล้วคุณไปเปิดตลาดเงินบาท ให้เขามาซื้อเงินบาทในประเทศไทย เพื่อมาคืนผม ตรงนี้ใครทำผิดละ ผมถึงบอกคุณสโรชา เวรกรรมนั้นมันมีจริง วันนี้เรื่องทั้งหมด ที่เกิดขึ้น คือเหตุการณ์ในอดีตกำลังตามมาหลอกหลอน คุณจะร่ำรวยจากการเล่นเงินบาท จะรู้ข้อมูลที่รั่ว หรือว่าคุณจะมีส่วนสมรู้ร่วมคิด ในการให้คนร่ำรวยและคุณได้ส่วนแบ่ง หรือคุณจะมีส่วนกับต่างชาติ ในการให้ต่างชาติ สามารถที่จะคืนเงินบาทให้ได้ หรือคุณจะมีส่วนอะไรก็ตาม แผ่นดินไทยเป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีอยู่ ตราบใดถ้าคุณไม่มีหิริโอตัปปะ วันหนึ่งจะต้องมาถึงคุณ วันนี้หนังสือเล่มนี้เริ่มออกมาหลอนแล้ว
สโรชา – ยอดขายสูงมากเลยนะคะ มีคนจองแล้วเป็นพันๆ เล่ม
สนธิ– ครับและเขาจะมีบันทึกเล่มสองออกมาอีก ที่พูดเช่นนี้ไม่ใช่รัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธจะดี รัฐมนตรียุคท่านใช้ไม่ได้ ไม่ว่าจะไอคิวต่ำ อีคิวต่ำ เอ็มคิว มอรัล ควอเชียน ก็ต่ำ ใช้ไม่ได้ ยุคพี่จิ๋วเป็นยุครวบรวมเสือสิงห์กระทิงแรดทั้งหลายเข้ามา และประเทศชาติส่วนหนึ่งแย่เพราะว่ารัฐมนตรีของพี่จิ๋วเขา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พี่จิ๋วไม่ได้เป็นคนทำประเทศไทยเป็นซากศพ ต้องเคลียร์ตรงนี้ก่อน
สโรชา – ค่ะ หลังจากที่เข้าใจผิดมาหลายต่อหลายปีทั้งหมด คุณปานเทพ บอกว่า 8 ปีแล้วที่ผมฟังเรื่องราวต่างๆ คนต่าง ๆมาโจมตีพล.อ.ชวลิต ว่า ทำอย่างโน้นอย่างนี้ ทำให้เศรษฐกิจไทยย่ำแย่ ก็ได้อธิบายกันแล้วนะคะ สำหรับบันทึกลับ 2540 ความจริงที่ถูกปกปิดมาเป็นเวลานาน เป็นที่ถกเถียงกัน เป็นเรื่องที่นำมาวิพากษ์วิจารณ์กันพอสมควรในสัปดาห์นี้ นำมาพูดคุยและสนทนากันในเมืองไทยรายสัปดาห์ค่ะคืนนี้ค่ะ คิดว่าคุณผู้ชมคงจะได้รับข้อมูลไปมากพอสมควรนะคะ ก็นำไปประกอบกับข้อมูลอื่นๆ ที่ได้รับชมและคุณผู้ชมคิดเอาเองแล้วกัน ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น เป็นอย่างไร และเราควรจะชี้นิ้วไปที่ใครดี สำหรับพินาศทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปี 2540 หมดเวลาแล้วค่ะสำหรับ เมืองไทยรายสัปดาห์กลับมาพบกันใหม่ในคืนวันศุกร์หน้านะคะ วันนี้ ลาไปเพียงเท่านี้ สวัสดีค่ะ