ยกฟ้อง"กลม บางกรวย"คดีปืน
เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง ในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายณรงค์ อุ่นแพทย์ หรือกลม บางกรวย เป็นจำเลยในความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยคดีนี้ สืบเนื่องจากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 53/33 ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2544 ซึ่งเป็นบ้านของนายณรงค์ เพื่อหาหลักฐานในคดีหวยล็อกงวดประจำวันที่ 1 มิ.ย.44 และพบอาวุธปืน จำนวน 2 กระบอก แต่นายณรงค์ไม่สามารถชี้แจงถึงที่ไปที่มาของอาวุธปืนดังกล่าวได้ โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลย 8 เดือน ปรับ 4 พันบาท และลดโทษ 1 ใน 4 คงจำคุก 6 เดือน ปรับ 3 พันบาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้มีกำหนด 1 ปี
โดยศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้อง นายณรงค์ เนื่องจากพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยไม่ได้พักอาศัยอยู่ในบ้านดังกล่าว ตามที่ตำรวจขออนุมัติหมายศาลเข้าไปตรวจค้น เพราะจำเลยมีบ้านพักอาศัยจำนวนหลายหลัง เนื่องจากมีภรรยาหลายคนโดยหลังจากที่ ภรรยาของจำเลยได้รับสารภาพในชั้นสอบสวนว่า อาวุธปืนที่พบในตู้เสื้อผ้าในบ้านดังกล่าว ได้มีผู้มาจำนำไว้ การที่จำเลยให้การรับสารภาพ เนื่องจากถูกเจ้าพนักงานสอบสวนอ้างว่ามีโทษปรับเพียงอย่างเดียว คดีนี้โจทก์นำสืบว่าจำเลยซึ่งเป็นเพศชาย น่าจะเป็นผู้ครอบครองอาวุธปืน มากกว่าเพศหญิงซึ่งเป็นความเห็นส่วนตัวของพยานโจทก์ที่เป็นพนักงานสอบสวนนั้น ยังไม่พอรับฟังลงโทษจำเลยได้ตามฟ้อง และการสืบพยานในศาลชั้นต้น พยานของจำเลยได้นำสืบ เบิกความสอดคล้องต้องกัน เกี่ยวกับการรับจำนำอาวุธปืนดังกล่าวของภรรยาว่าจำเลยไม่มีส่วนรู้เห็น เกี่ยวกับการครอบครองอาวุธปืนดังกล่าวพยานหลักฐานโจทก์จึงมีน้ำหนักไม่เพียงพอที่จะฟังได้แน่ชัดว่าจำเลยกระทำผิด ดังนั้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกจำเลย 8 เดือน ปรับ 4,000 บาท โดยลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุก 6 เดือน ปรับ 3,000 บาท แต่จำเลยไม่เคยต้องโทษมาก่อน ศาลชั้นต้นจึงให้รอลงอาญาไว้ 1 ปีนั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วยจึงพิพากษายกฟ้อง
เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง ในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายณรงค์ อุ่นแพทย์ หรือกลม บางกรวย เป็นจำเลยในความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยคดีนี้ สืบเนื่องจากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 53/33 ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2544 ซึ่งเป็นบ้านของนายณรงค์ เพื่อหาหลักฐานในคดีหวยล็อกงวดประจำวันที่ 1 มิ.ย.44 และพบอาวุธปืน จำนวน 2 กระบอก แต่นายณรงค์ไม่สามารถชี้แจงถึงที่ไปที่มาของอาวุธปืนดังกล่าวได้ โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลย 8 เดือน ปรับ 4 พันบาท และลดโทษ 1 ใน 4 คงจำคุก 6 เดือน ปรับ 3 พันบาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้มีกำหนด 1 ปี
โดยศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้อง นายณรงค์ เนื่องจากพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยไม่ได้พักอาศัยอยู่ในบ้านดังกล่าว ตามที่ตำรวจขออนุมัติหมายศาลเข้าไปตรวจค้น เพราะจำเลยมีบ้านพักอาศัยจำนวนหลายหลัง เนื่องจากมีภรรยาหลายคนโดยหลังจากที่ ภรรยาของจำเลยได้รับสารภาพในชั้นสอบสวนว่า อาวุธปืนที่พบในตู้เสื้อผ้าในบ้านดังกล่าว ได้มีผู้มาจำนำไว้ การที่จำเลยให้การรับสารภาพ เนื่องจากถูกเจ้าพนักงานสอบสวนอ้างว่ามีโทษปรับเพียงอย่างเดียว คดีนี้โจทก์นำสืบว่าจำเลยซึ่งเป็นเพศชาย น่าจะเป็นผู้ครอบครองอาวุธปืน มากกว่าเพศหญิงซึ่งเป็นความเห็นส่วนตัวของพยานโจทก์ที่เป็นพนักงานสอบสวนนั้น ยังไม่พอรับฟังลงโทษจำเลยได้ตามฟ้อง และการสืบพยานในศาลชั้นต้น พยานของจำเลยได้นำสืบ เบิกความสอดคล้องต้องกัน เกี่ยวกับการรับจำนำอาวุธปืนดังกล่าวของภรรยาว่าจำเลยไม่มีส่วนรู้เห็น เกี่ยวกับการครอบครองอาวุธปืนดังกล่าวพยานหลักฐานโจทก์จึงมีน้ำหนักไม่เพียงพอที่จะฟังได้แน่ชัดว่าจำเลยกระทำผิด ดังนั้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกจำเลย 8 เดือน ปรับ 4,000 บาท โดยลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุก 6 เดือน ปรับ 3,000 บาท แต่จำเลยไม่เคยต้องโทษมาก่อน ศาลชั้นต้นจึงให้รอลงอาญาไว้ 1 ปีนั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วยจึงพิพากษายกฟ้อง