ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้ประทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน ณ พระที่นั่งบรมพิมาน เกี่ยวกับเหตุการณ์ ธรณีพิบัติ คลื่นยักษ์สึนามิ หลังเสร็จสิ้น พิธีสวด พระอภิธรรมศพคุณพุ่ม เจนเซ่น ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อค่ำวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยมีใจความว่า
ก่อนอื่นขอขอบใจพวกเราคนไทยทุกคน ที่ได้ให้กำลังใจ ขอบใจทุกคนที่รักคุณพุ่มและขอแสดงความเสียใจกับทุกคน ที่ต้องสูญเสียกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ กำลังใจที่ได้รับนี้เป็นความซาบซึ้ง ทำให้ตัวเองเข้มแข็ง ที่จะทำงานต่อไป ได้ติดตามข่าวสารจากสื่อต่างๆ ทราบว่าทุกคนรักน้องพุ่ม ดีใจที่น้องพุ่มอยู่ในดวงใจของทุกคน ทำให้มีกำลังใจมากขึ้น และขอขอบใจที่ทุกคนให้กำลังใจ ทุกวันนี้ที่มีการสวดพระอภิธรรมน้องพุ่ม ก็มีผู้คนมาให้กำลังใจ มาแสดงความเสียใจ ทุกคนต่างร่วมทุกข์ด้วย ทำให้มีกำลังใจเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน และขอบใจในความช่วยเหลือของทุกคน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่ช่วยหาน้องพุ่ม
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ รับสั่งด้วยน้ำเสียงเศร้าสลดพระทัยอีกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์สะเทือนใจ เป็นความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ของคนมากมายในหลายๆประเทศ ในส่วนของประเทศไทย คนที่ประสบเหตุสึนามิต่างเสียขวัญอย่างมาก เราเป็นผู้ได้ร่วมเหตุการณ์ด้วยตัวเอง การสูญเสียน้องพุ่มเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต แต่ก็ต้องทำใจ เป็นความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ของคนไทย โดยเฉพาะพี่น้องทางภาคใต้ฝั่งอันดามัน 6 จังหวัด ที่สูญเสียอย่างมากมาย เป็นอะไรที่บรรยายไม่ได้ เราเข้าใจในความรู้สึก ความสูญเสีย แต่ก็ต้องมีสติ และทำจิตใจให้เข้มแข็ง ทำความดี และทำความดีช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ มีรับสั่งว่า ต่อไปเมื่อใจแข็งแรงขึ้น อีกไม่นานก็จะไปเยี่ยมพี่น้องแถบนั้น ไม่อยากให้ทุกคนลืมน้องพุ่ม เพราะเขารักเมืองไทยมากๆ อยากให้น้องพุ่มอยู่ในดวงใจทุกคน ก็อยากตั้งมูลนิธิทำอะไรเพื่อน้องพุ่ม เป็นมูลนิธิช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเด็กด้อยโอกาส อยากให้ทุกคนมีจิตใจที่เข้มแข็งและขอบใจที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้ นับเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายจริงๆ สำหรับพวกเราและแขกที่มาเยี่ยมประเทศเรา โอกาสนี้อยากบอกเลยว่า จะงดงานแม่น้ำของแผ่นดินปีที่ 6 เพราะปีนี้ทำแนวบันเทิงสนุกสนาน สถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมาะแก่การมีงานบันเทิง ตอนนี้พวกเราคนไทยกำลังอยู่ในสภาวะเศร้าสลด เป็นภาวะที่ทุกคนสูญเสียมากๆ ไม่ใช่ของตัวเองคนเดียว แต่คนอื่นก็สูญเสีย เพราะฉะนั้น งานแม่น้ำของแผ่นดินปีนี้ต้องของดก่อน ตอนนี้เป็นเวลาที่ควรคิดทำอะไรช่วยคนไทย ที่ประสบความลำบากมากกว่า เป็นเวลาที่ต้องมีการฟื้นฟู เพราะทั้งทรัพย์สมบัติและธรรมชาติก็เสียหาย อีกทั้งยังต้องฟื้นฟูสภาพจิตใจด้วย ส่วนงานอื่นๆ ส่วนตัวก็จะทำต่อไป โดยเฉพาะงานที่ทำเพื่อน้องพุ่ม ยาเสพติด และโครงการทูบีนัมเบอร์วันก็จะเริ่มทำต่อไปและทำอย่างไม่หยุด
นอกจากนี้ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ยังรับสั่งด้วยว่า เมื่อผ่านเหตุการณ์มาถึงตรงนี้ และมานั่งอยู่ตรงนี้ ถือว่าเป็นอะไรที่สุดๆ อยากให้ทุกคนทำอะไรดีๆ ทำความดีช่วยผู้อื่น ส่วนตัวก็จะทำอย่างสุดความสามารถ ที่จะช่วยทุกๆ อย่าง จะทำงานให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ ขอขอบใจทุกคนที่ให้กำลังใจ และทรงย้ำขอให้ทุกคนอย่าลืมน้องพุ่ม เพราะน้องพุ่มรักทุกคน ทุกคนต้องทำจิตใจให้เข้มแข็ง ความสูญเสียเป็นอะไรสุดจะบรรยายได้ เหมือนเราที่สูญเสียลูก คนที่เรารัก เป็นการยากที่จะทำใจได้ แต่ก็ต้องทำจิตใจให้เข้มแข็ง เพื่อเราจะได้ทำอะไรดีๆ ให้ประเทศชาติ ขณะที่เราได้เปิดบัญชีให้น้องพุ่มไว้ และจะตั้งเป็นมูลนิธิต่อไป สำหรับคนที่ประสงค์ร่วมทำบุญกับน้องพุ่มก็สามารถบริจาคเงินเข้าบัญชีชื่อ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา เพื่อคุณพุ่ม เจนเซ่น
เมื่อผู้สื่อข่าวทูลถามว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงให้กำลังใจทูลกระหม่อมฯในการสูญเสียครั้งนี้อย่างไรบ้าง ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ รับสั่งตอบว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า ต้องเข้มแข็งและทำงานต่อไป
โอกาสเดียวกันนี้ คุณพลอยไพลิน เจนเซ่น พระธิดาองค์โตของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ขณะเกิดเหตุพักอยู่ที่บ้านเพื่อนที่ซานดิเอโก ตอนนั้นเวลา 8 โมงเช้า เพื่อนก็มาบอกว่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองไทย และคุณพุ่มก็หายไปด้วย ตอนนั้นรู้สึกตกใจแย่มาก เป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อ เป็นแผ่นดินไหวที่ไม่น่าเกิดขึ้น ก็พยายามติดต่อกลับมาที่เมืองไทย แต่ติดต่อใครไม่ได้ เพื่อนก็พยายามช่วยติดต่อ ตอนนั้นเข้าไปเปิดคอมพิวเตอร์ดูข่าวไทยรัฐจากอินเตอร์เน็ต รู้สึกอัพเซ็ตมาก ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็มีคนที่ทำงานอยู่สนามบิน โทรศัพท์มาถามว่า อยากจะกลับเมืองไทยหรือเปล่า ตอนนั้นเวลา 8 โมงครึ่ง เครื่องบินจะออกเวลา 11 โมง ก็คิดว่าไม่ทัน เพราะต้องขับรถจากซานดิเอโกไปขึ้นเครื่องที่แอลเอ ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ตอนนั้นยังมีความหวังอยู่ พอได้ยินว่าน้องพุ่มเล่นเจ็ตสกีอยู่ในน้ำ ใส่เสื้อชูชีพ น่าจะรอดได้ ก็พยายามคิดว่าน้องพุ่มคงไม่เป็นไร
คุณพลอยไพลินเล่าด้วยว่า ตลอดทางที่นั่งเครื่องมา 20 ชั่วโมง ก็คิดว่าคุณพุ่มคงรอดแน่ ไม่เป็นไร พอมาถึงสนามบินเมืองไทย สมเด็จพระเทพฯ เสด็จมารับ ทุกคนทำหน้าเศร้ามาก ก็เดาไม่ถูกว่าเกิดอะไรขึ้น คิดว่าเขาคงเศร้าที่หาไม่เจอ ถามใครๆ ก็ไม่รู้เรื่อง จนมาถึงที่นั่งพระบรมพิมาน เห็นทุกคนใส่ชุดดำ ก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น จนเจอแม่ และแม่เป็นคนบอก เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ซึ่งไม่น่าเชื่อเลย ขนาดตอนนี้ยังรับไม่ได้ รู้สึกว่าน้องพุ่มแค่ไปเที่ยวที่ไหน เดี๋ยวก็กลับมา ไม่รู้สึกว่าหายไป ตอนแรกมีกำหนดกลับอเมริกา วันที่ 8 ม.ค. นี้ ก็เลื่อนกำหนดกลับเพื่ออยู่เป็นเพื่อนแม่ เพราะตอนนี้แม่แย่มาก หลังให้สัมภาษณ์ คุณพลอยไพลินยังได้ฝากกำลังใจไปถึงผู้ประสบภัยว่า ขอให้ทุกคนเข้มแข็ง อาทิตย์หน้าจะลงไปช่วยให้กำลังใจผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้