xs
xsm
sm
md
lg

ยกฟ้อง "เสี่ยเชียงกง" ปืนโหด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยกฟ้อง "เสี่ยเชียงกง" ปืนโหด

คดีเสี่ยเชียงกง ฆ่าน้องเขย ได้ข้อสรุปในชั้นศาลอุทธรณ์แล้ว โดยเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ที่ผ่านมา ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิกร ตั้งงามวิทยกุล อายุ 48 ปี อาชีพเป็นเถ้าแก่ร้านเชียงกง เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน คดีนี้ในศาลชั้นต้น ศาลได้พิพากษาให้ประหารชีวิต ต่อมาจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์อ้างว่าเป็นการกระทำโดยป้องกัน และไม่เกินสมควรแก่เหตุ

คดีนี้ เมื่อวันที่ 10 ก.พ.45 จำเลยใช้ปืนลูกซองวินเชสเตอร์ เบอร์ 12 พับฐาน พกพาไปในร้านสมบูรณ์อะไหล่ยนต์ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. แล้วยิงนายนุกูล กิ่งโคกกรวด ถึงแก่ความตาย โจทก์มีพยานเป็นญาติผู้ตายเบิกความว่าวันเกิดเหตุเป็นงานพิธีไหว้ศพและปลดทุกข์ครั้งที่ 4 ของนายจุงใน แซ่ตั้ง บิดาของตระกูลตั้งงามวิทยากุล มีลูกๆ 12 คนและครอบครัวมาร่วมงาน ผู้ตายเป็นสามีของนางสุนีย์ กิ่งโคกกรวด น้องคนเล็ก จำเลยมีความโกรธแค้นที่ญาติแบ่งสมบัติจำนวนมหาศาลของนายจุงใน ไม่ลงตัว และเกรงว่าจะถูกแย่งอำนาจการบริหารงาน โดยเฉพาะระแวงว่าผู้ตายซึ่งเป็นน้องเขยจะอยู่เบื้องหลังการแทรกแซงนโยบายบริหารการค้าของครอบครัว จนเมื่อถึงเวลาเสร็จงานพิธี จำเลยดักรอผู้ตายที่ชั้นล่างของอาคารแล้วใช้ปืนลูกซองยิงผู้ตาย 1 นัด กระสุนถูกที่บริเวณศีรษะด้านขวาทำให้กะโหลกกระเด็นขาดไปเสี้ยวหนึ่งสมองไหลตายคาที่

จำเลยนำสืบว่า ตนเป็นน้องคนที่ 9 ปัจจุบันป่วยเป็นโรคร้ายแรงจนญาติรังเกียจ ต้องหนีไปรักษาตัวที่ จ.กาญจนบุรี แต่ยังมีอำนาจบริหารเป็นคนเซ็นสั่งจ่ายเงินเดือนแก่ทายาททุกคน ผู้ตายเป็นสามีน้องคนเล็กซึ่งตนเป็นคนชักนำให้มาอยู่กินด้วยกัน และร่วมทำกิจการค้าด้วยกัน แต่ผู้ตายกลับเห็นตนเป็นศัตรู มีการทะเลาะเบาะแว้งและด่าทอตน และได้ใช้อาวุธปืนลูกโม่ สมิธฯ ขนาด.38 ยิงใส่ตนก่อน 4 นัด ตนจึงนำปืนลูกซองที่พกไว้ป้องกันตัว ยิงสวนไป 1 นัดโดยไม่ได้เล็ง เป็นการยิงเพื่อป้องกันตัว

ศาลอุทธรณ์ได้ปรึกษาหารือกัน โดยพิเคราะห์จากพยานโจทก์จำเลยหักล้างกันแล้วพบว่า คดีนี้ไม่มีประจักษ์พยานเห็นขณะยิงกัน แต่รายงานการตรวจพิสูจน์พบว่ามีการยิงกันหลายนัด โดยทายาทต่างพูดไม่ตรงกันคล้ายกับปิดบังข้อเท็จจริง จากสภาพศพผู้ตายนอนบนบันได มีปืนลูกโม่ตกอยู่ ในโม่มีกระสุนยิงแล้ว 4 นัด คาอยู่ 1 นัด ในศพพบว่ามีแอลกอฮอล์ถึง 110 มิลลิกรัม แสดงว่าดื่มสุราจนเมามาก่อน และผู้ตายเป็นฝ่ายยิงจำเลยก่อน ขณะที่จำเลยยิงผู้ตายเพียง 1 นัด รูปคดีจึงฟังเป็นว่าจำเลยยิงผู้ตายเพื่อป้องกันตัวโดยไม่เกินสมควรแก่เหตุ จึงไม่เป็นความผิด ศาลต้องยกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างฎีกา หลังฟังคำพิพากษาจำเลยได้ยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น