การปรับปรุงบัญชียาใหม่หลังจากที่ใช้บัญชียาหลักของปี 2542 มาเป็นเวลา 5 ปี ได้เวลาเปลี่ยนแปรแล้วซึ่งการปรับปรุงบัญชียาหลักครั้งนี้จะมีส่วนช่วยให้หลักประกันส่วนต่าง ๆ ทั้งประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกโรค ประกันสังคม สวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ สามารถนำยาในบัญชียาหลักไปใช้ได้ด้วย
ศ.น.พ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ กล่าวว่า บัญชียาหลักฉบับใหม่นี้จะประกอบไปด้วยยาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นโรคหลายโรคก็สามารถรักษาได้จากที่เคยหมดหวังเช่น โรคมะเร็ง ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าอีกระดับหนึ่งของการปรับปรุงบัญชียาหลักในครั้งนี้ ขณะเดียวกันในส่วนของราคาที่เคยสูงมาก ยาบางตัวชุดละเป็น 100,000 ก็ลดต่ำลง และประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมในหลักประกันต่าง ๆ ตนในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติก็ได้พยายามดูถึงความจำเป็นของยาที่จะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับโรคที่มีความจำเป็นจริง ๆ แต่โรคบางโรคก็ไม่อนุญาตให้นำมาเข้าบัญชีฯ เช่น ยารักษาสิว หัวล้าน ฯลฯ
ศ.ดร.ภักดี โพธิศิริ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า การปรับปรุงบัญชียาหลักครั้งนี้ทุกอย่างจะเท่าเทียมกัน สำหรับบัญชียาหลักแห่งชาติฉบับใหม่นี้ นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการแห่งชาติด้านยา ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการแห่งชาติด้านยา ที่ 2/2547 เรื่อง บัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ.2547 แล้วเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2547 ซึ่งจะมี ผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2547 เป็นต้นไป
เลขาธิการฯ อย. กล่าวต่อว่า การพัฒนาจัดทำบัญชียาหลักแห่งชาติครั้งนี้ มุ่งให้เป็นบัญชียาสำหรับคนไทย โดยเน้นยาที่ต้องใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพของประชาชนชาวไทยให้ครอบคลุมโรคต่างๆ มากขึ้น อาทิ โรคหอบหืด โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดินอาหาร โรคข้อ โรคไต โรคผิวหนัง โรคติดเชื้อ โรคมะเร็ง รวมถึงโรคเอดส์ ซึ่งโดยเฉพาะโรคเอดส์ได้เพิ่มรูปแบบยา 26 ยา คิดเป็นสูตรยา 13 รายการโดยมีตัวยาที่มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลในการรักษาแต่ละโรคบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักฯ ด้วย ขอให้คนไทยมั่นใจว่าจะได้รับยาดี มีประสิทธิภาพ
ศ.น.พ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ กล่าวว่า บัญชียาหลักฉบับใหม่นี้จะประกอบไปด้วยยาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นโรคหลายโรคก็สามารถรักษาได้จากที่เคยหมดหวังเช่น โรคมะเร็ง ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าอีกระดับหนึ่งของการปรับปรุงบัญชียาหลักในครั้งนี้ ขณะเดียวกันในส่วนของราคาที่เคยสูงมาก ยาบางตัวชุดละเป็น 100,000 ก็ลดต่ำลง และประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมในหลักประกันต่าง ๆ ตนในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติก็ได้พยายามดูถึงความจำเป็นของยาที่จะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับโรคที่มีความจำเป็นจริง ๆ แต่โรคบางโรคก็ไม่อนุญาตให้นำมาเข้าบัญชีฯ เช่น ยารักษาสิว หัวล้าน ฯลฯ
ศ.ดร.ภักดี โพธิศิริ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า การปรับปรุงบัญชียาหลักครั้งนี้ทุกอย่างจะเท่าเทียมกัน สำหรับบัญชียาหลักแห่งชาติฉบับใหม่นี้ นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการแห่งชาติด้านยา ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการแห่งชาติด้านยา ที่ 2/2547 เรื่อง บัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ.2547 แล้วเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2547 ซึ่งจะมี ผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2547 เป็นต้นไป
เลขาธิการฯ อย. กล่าวต่อว่า การพัฒนาจัดทำบัญชียาหลักแห่งชาติครั้งนี้ มุ่งให้เป็นบัญชียาสำหรับคนไทย โดยเน้นยาที่ต้องใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพของประชาชนชาวไทยให้ครอบคลุมโรคต่างๆ มากขึ้น อาทิ โรคหอบหืด โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดินอาหาร โรคข้อ โรคไต โรคผิวหนัง โรคติดเชื้อ โรคมะเร็ง รวมถึงโรคเอดส์ ซึ่งโดยเฉพาะโรคเอดส์ได้เพิ่มรูปแบบยา 26 ยา คิดเป็นสูตรยา 13 รายการโดยมีตัวยาที่มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลในการรักษาแต่ละโรคบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักฯ ด้วย ขอให้คนไทยมั่นใจว่าจะได้รับยาดี มีประสิทธิภาพ