มติครม. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้สั่งชะลอย้ายสถานศึกษาจากสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เนื่องจากมีเสียงคัดค้านจากครูจำนวนมาก พร้อมทั้งครูจากทั่วประเทศได้เดินทางไปชุมนุมร่วมกันที่หอประชุมคุรุสภาเพื่อยื่นหนังสือต่อผู้บริหาร ศธ.เพื่อให้มีการทบทวนการถ่ายโอนสถานศึกษาในสังกัดไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและแยื่นข้อเรียกร้องให้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การประเมินอาจารย์ 2 ระดับ 7 เป็นอาจารย์ 3
ดังนั้น ครม.เห็นว่า ประเด็นเหล่านี้ต้องมีการหารือร่วมกัน จึงให้ ศธ. และคณะกรรมการกระจายอำนาจและคณะกรรมการพัฒนาข้าราชการพลเรือน (กพร.) ประชุมร่วมกันอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความชัดเจน โดยให้ชะลอเรื่องนี้ไว้ก่อน โดยไม่ได้มีการกำหนดกรอบเวลาไว้ ตามมติ ครม. จนกว่าจะเกิดความชัดเจน
ขณะที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลกำลังซื้อเวลาเพื่อรอให้การเลือกตั้งผู้แทนราษฎรครั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 ก.พ.2548 แล้วเสร็จก่อน จึงค่อยถ่ายโอนสถานศึกษานั้น ดร.อดิศัย โพธารามิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้มีเจตนาในลักษณะดังกล่าว แต่หลังจากที่ ศธ.ประกาศกฎกระทรวงเกี่ยวกับการถ่ายโอนสถานศึกษาออกไปแล้วปรากฏว่าครูทุกคนสับสนและตกใจ เกือบ 100% ไม่เห็นด้วยกับวิธีการดังกล่าว ซึ่งหากจะมองว่าศธ.ไม่ต้องการโอนสถานศึกษาตนคงไม่ออกกฎกระทรวงดังกล่าวมาเลยจะดีที่สุดแต่เมื่อออกกฎกระทรวงมาแล้วมีเสียงสะท้อนกลับมาศธ.ก็ต้องรับฟังแต่บังเอิญใกล้เลือกตั้งเลยทำให้ถูกนำไปผูกโยงกับเรื่องการเมืองทั้งที่ไม่ใช่เลย เพราะอย่างไร ศธ.ก็ต้องทำอยู่แล้ว
ล่าสุดนายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ระบุเห็นด้วยกับการถ่ายโอนสถานศึกษาไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) พร้อมเสนอให้มีความชัดเจนในขั้นตอนมากขึ้น
" รู้สึกเห็นด้วยว่าหากจะมีการถ่ายโอนสถานศึกษาไปจะต้องให้เกิดความชัดเจนและมีความสุข เป็นประเด็นที่ต้องคุยกันต่อไป ทั้งนี้ตนไม่ได้บอกว่าจะต้องยกเลิก พ.ร.บ.กำหนดแผนฯ หรือจะไปหักล้างอะไร เพียงแต่วันนี้เมื่อปฏิบัติแล้วไม่ประสานหรือขัดกันอยู่ ก็อาจปรับปรุงกฎระเบียบเพิ่มเติมข้อความให้ชัดเจน"
ดังนั้น ครม.เห็นว่า ประเด็นเหล่านี้ต้องมีการหารือร่วมกัน จึงให้ ศธ. และคณะกรรมการกระจายอำนาจและคณะกรรมการพัฒนาข้าราชการพลเรือน (กพร.) ประชุมร่วมกันอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความชัดเจน โดยให้ชะลอเรื่องนี้ไว้ก่อน โดยไม่ได้มีการกำหนดกรอบเวลาไว้ ตามมติ ครม. จนกว่าจะเกิดความชัดเจน
ขณะที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลกำลังซื้อเวลาเพื่อรอให้การเลือกตั้งผู้แทนราษฎรครั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 ก.พ.2548 แล้วเสร็จก่อน จึงค่อยถ่ายโอนสถานศึกษานั้น ดร.อดิศัย โพธารามิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้มีเจตนาในลักษณะดังกล่าว แต่หลังจากที่ ศธ.ประกาศกฎกระทรวงเกี่ยวกับการถ่ายโอนสถานศึกษาออกไปแล้วปรากฏว่าครูทุกคนสับสนและตกใจ เกือบ 100% ไม่เห็นด้วยกับวิธีการดังกล่าว ซึ่งหากจะมองว่าศธ.ไม่ต้องการโอนสถานศึกษาตนคงไม่ออกกฎกระทรวงดังกล่าวมาเลยจะดีที่สุดแต่เมื่อออกกฎกระทรวงมาแล้วมีเสียงสะท้อนกลับมาศธ.ก็ต้องรับฟังแต่บังเอิญใกล้เลือกตั้งเลยทำให้ถูกนำไปผูกโยงกับเรื่องการเมืองทั้งที่ไม่ใช่เลย เพราะอย่างไร ศธ.ก็ต้องทำอยู่แล้ว
ล่าสุดนายอดิศัย โพธารามิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ระบุเห็นด้วยกับการถ่ายโอนสถานศึกษาไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) พร้อมเสนอให้มีความชัดเจนในขั้นตอนมากขึ้น
" รู้สึกเห็นด้วยว่าหากจะมีการถ่ายโอนสถานศึกษาไปจะต้องให้เกิดความชัดเจนและมีความสุข เป็นประเด็นที่ต้องคุยกันต่อไป ทั้งนี้ตนไม่ได้บอกว่าจะต้องยกเลิก พ.ร.บ.กำหนดแผนฯ หรือจะไปหักล้างอะไร เพียงแต่วันนี้เมื่อปฏิบัติแล้วไม่ประสานหรือขัดกันอยู่ ก็อาจปรับปรุงกฎระเบียบเพิ่มเติมข้อความให้ชัดเจน"