เข้มห้ามขายเหล้าบุหรี่ในวัด สถานศึกษา

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาปัญหาเหล้า-บุหรี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่รัฐบาลเอาจริงเอาจัง มีการนำเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าครม.โดยใช้ 2 มาตรการในการแก้ไขปัญหาเหล้าและบุหรี่ คือ การบังคับใช้กฎหมาย ควบคู่กับการรณรงค์ โดยจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ ทั้ง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก 2546 ห้ามขายบุหรี่เหล้าให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี และ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ไม่สูบบุหรี่ ปี 2535 ห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ ส่วนการรณรงค์จะประสานกับองค์กรพัฒนาเอกชน เพื่อสร้างเครือข่าย ลดการสูบบุหรี่ และลดการดื่มเหล้ารายใหม่

ทั้งนี้ มติครมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ประกาศห้ามขายเหล้าบุหรี่ในสถานศึกษา-ศาสนสถานและจำหน่ายเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี พร้อมคุมเวลาเหล้า 2 กะ ส่วนเรื่องห้ามแบ่งขาย-ไม่ผ่านเหตุกลัวกรรมกรไม่มีเงินซื้อ พร้อมกับมอบให้ “ดร.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์-นายวิษณุ เครืองาม” เดินหน้าศึกษาต่อ ด้านสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติเตรียมนำข้อเสนอห้ามพระสูบบุหรี่เข้าที่ประชุม มส. 29 ธ.ค.นี้

นายต่อพงศ์ ไชยสาส์น รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้เห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง ให้มีการจัดระเบียบการจำหน่ายและบริโภคสุราในประเทศ โดยห้ามจำหน่ายสุราและยาสูบแก่เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี พร้อมกำหนดให้ผู้ได้รับอนุญาตขายปลีกสุราในประเภทที่ 3 และ 4 หรือแบ่งเป็นตามปริมาตรการขาย สามารถจำหน่ายสุราได้เฉพาะเวลา 11.00 - 14.00 น. และตั้งแต่เวลา 17.00 - 24.00 น. รวมทั้งไม่อนุญาตให้จำหน่ายสุราในบริเวณสถานศึกษา และศาสนสถาน โดยมาตรการทั้งหมดจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป

ส่วนข้อเสนอเรื่องมาตรการเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับสุรา และมาตรการเพิ่มอัตราค่าธรรมเนียมในใบอนุญาตจำหน่ายนั้น กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการศึกษาปรับโครงสร้างภาษีดังกล่าวให้สอดคล้องกับภาวการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งจะนำเสนอ ครม.เพื่อพิจารณาต่อไป

ด้านนพ.ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ได้ข้อยุติในเรื่องสินบนนำจับผู้ขายเหล้าและบุหรี่ให้กับเด็กและเยาวชนต่ำกว่า 18 ปีแล้ว โดยนำค่าปรับร้อยละ 80 เป็นรางวัลนำจับ โดยแบ่งร้อยละ 60 ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมงาน อีกร้อยละ 20 ให้ผู้แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมและส่งฟ้องศาล