เจ้าหน้าที่ระดับสูงของวอชิงตัน เปิดเผยเมื่อวันศุกร์(3) ว่าประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ได้ร้องขอให้รัมสเฟลด์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมต่อไปอีกวาระ โดยรัมสเฟลด์ได้ตอบรับคำขอดังกล่าว ระหว่างการพบหารือกัน ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ (29) โดยเจ้าหน้าที่คนนี้กล่าวว่า ประธานาธิบดีบุช เห็นว่ารัมสเฟลด์มีความเหมาะสมที่สุดกับตำแหน่งดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เขาได้พิสูจน์ตัวว่าเป็นผู้นำในช่วงเวลาสงครามอันท้าทาย
การที่บุชไม่เปลี่ยนรัฐมนตรีกลาโหม่ก็เพราะเป็นการดีกว่าในเมื่อสหรัฐฯยังเผชิญกับภาวะหน้าสิ่วหน้าขวาน ในช่วงหลังสังครามอิรัก ขณะที่ทหาร 12,000 คน กำลังจะเดินทางไปเสริมกำลังกองทัพในอิรัก ทำให้เป็นกองกำลังที่มีขนาดใหญ่มากสุดเป็นวัติการณ์ของกองทัพสหรัฐฯในอิรัก ด้วยจำนวนทหารทั้งหมด 150,000 คน เพื่อรับมือกับการเลือกตั้งอิรักที่กำหนดไว้ 30 มกราคมปีหน้า ท่ามกลางเหตุรุนแรงในอิรักยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องของกลุ่มกบฎ
ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน ศุกร์ (3) ทอมมี ทอมป์สัน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งเป็นรายล่าสุด หลังจากที่ เมื่อวันอังคาร (30) ทอม ริดจ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯได้ยื่นจดหมายลาออกเสนอประธานาธิบดีบุชแล้ว โดยนับตั้งแต่ประธานานาธิบดีบุชคว้าชัยชนะได้เป็นผู้นำสหรัฐเป็นสมัยที่ 2 เมื่อ 2 พฤศจิกายน รัฐมนตรีของเขารวมแล้ว 8 คนจากทั้งหมด 15 คนได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้ว รวมทั้งคอลิน พาวเวลล์ รัฐมนตรีต่างประเทศ ที่เปิดทางให้คอนโดลีซซา ไรซ์ ซึ่งเดินนโยบายสายเหยี่ยวเช่นเดียวกับบุช และรัมสเฟลด์เข้ามาสืบทอดอำนาจต่อไป