ด้านที่ประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน + 3 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมที่โรงแรมดุสิตธานี ระหว่างวันที่ 25 – 26 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น นำโดยนางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยรัฐมนตรีสาธารณสุขจากประเทศสมาชิกอาเซียน + 3 และผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิกตะวันตก ร่วมแถลงผลสรุปของการประชุมเรื่องโรคไข้หวัดนกว่าจะร่วมกันป้องกันหวัดนกอย่างจริงจัง โดยจะร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างเปิดเผยโปร่งใส ร่วมพัฒนาบุคลากรสอบสวนโรค แต่ละประเทศวางแผนรับมือโรคอุบัติใหม่ และประเทศที่มีความพร้อมสูงจะช่วยเหลือประเทศอื่นที่เกิดการระบาด ส่วนที่ไทยเสนอเป็นศูนย์กลางระบาดวิทยาไข้หวัดนกประจำภูมิภาคองค์การอนามัยโลกสนับสนุน แต่ยังไม่สรุป ขณะที่องค์การอนามัยโลกย้ำเตือนทุกประเทศวางแผนรับมือการระบาดของไข้หวัดใหญ่ครั้งใหม่
ซึ่งทางด้าน ดร.ชิเกรุ โอมิ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก กล่าวว่า การออกมาระบุว่า อาจจะเกิดการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ครั้งใหม่ เพื่อให้ทุกประเทศได้ตระหนักและเตรียมการป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งจะลดความเสียหายได้มาก โดยการคำนวณจำนวนผู้เสียชีวิตจากการระบาดว่าประมาณ 7 ล้านคนนั้น คำนวณจากจำนวนประชากรของทุกประเทศทั่วโลก จากความรู้และประสบการณ์การระบาดที่มีการเตรียมการเพื่อรองรับการระบาดของไข้หวัดใหญ่รอบใหม่ จะต้องมีการเตรียมเรื่องการผลิตยาต้านไวรัส มีมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และมาตรการที่ใช้ป้องกันการระบาดของโรคซาร์สอาจไม่เพียงพอกับการจัดการกับโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากเชื้อไข้หวัดนกมีความสัมพันธ์กับสังคมและเศรษฐกิจมากกว่า
และต่อข้อถามเรื่องการระดมทุนการป้องกันโรคไข้หวัดนก ในการประชุมครั้งนี้เหมือนเมื่อครั้งระดมทุนเพื่อแก้ปัญหาโรคซาร์ส ดร.ชิเกรุ โอมิ กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดถึงการระดมทุน การดำเนินการตอนนี้เป็นลักษณะที่องค์การอนามัยโลกประสานไปยังองค์กรที่มีขีดความสามารถในการสนับสนุน