xs
xsm
sm
md
lg

ถก สว.งักหมัดชกกลางสภา-"เลียวหลังแลหน้าจากรากหญ้าสู่รากแก้ว"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

2ส. 1 ค. ร่วมถกสถานการณ์รอบสัปดาห์ สว.งัดหมัดชกกลางสภาอันทรงเกียรติ, บุชขึ้นแท่นผู้นำสมัยที่ 2, "เหลียวหลังแลหน้าจากรากหญ้าสู่รากแก้ว" ใช้งบรัฐหาเสียงหรือไม่ สรุปพูดเรื่องการเมืองโลกมีแต่เรื่องไม่ดี

สโรชา – สวัสดีค่ะ คุณผู้ชม ขอต้อนรับเข้าสู่รายการก่อนจะถึงวันจันทร์ค่ะ เปิดกันด้วยเพลงเพราะจากอี๊ด ฟุตบาท คิดว่าฟังกันไปเพลงแรกถึงแม้จะยาวแต่ว่าก็เพราะจริงๆ ช่วงแรกนี้กลับมาพบกับเราทั้ง 3 คน คุณสำราญ รอดเพชร คุณคำนูณ สิทธิสมาน และดิฉันสโรชา พรอุดมศักดิ์ค่ะ

สำราญ , คำนูณ – สวัสดีครับ

สโรชา – อย่าลืมนะคะ ว่าสามารถที่จะโทรมาคุยกันได้ในรายการที่ 0-2629-4433 ค่ะ คุยกันหลายต่อหลายเรื่องค่ะวันนี้ แต่ว่าก่อนอื่นเลยเมื่อเช้านี้เราทั้ง 3 คน มีภารกิจสำคัญมา เราไปทำบุญกันมา

คำนูณ – ไปทอดกฐินครับ ที่วัดอ้อน้อยธรรมอิสระ ก็ปกติทุกปี คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ชาวคณะผู้จัดการนี่ก็จะไปทอดกฐินประจำปีที่วัดนี้ ปีนี้พิเศษเพราะว่าวันที่ 7 พฤศจิกายนเป็นวันคล้ายวันเกิดของผู้จัดการ ก็เลยไปกันอุ่นหนาฝาคั่ง

สโรชา – ตอนแรกคิดว่าจะไปเฉพาะบริษัทเรา แต่ว่าพอไปถึงนี่คนล้นหลามมากๆ คือตกใจพอสมควรว่าเยอะแยะขนาดนี้

คำนูณ – ท่านประธานใหญ่ก็ พล.อ.ประวิทย์ วงศ์สุวรรณ ผบ.ทบ. แล้วก็มีทั้งทหารเรือ ทหารอากาศ สำนักปลัดกระทรวงกลาโหมไปกันหลายท่าน แล้วก็บริษัทห้างร้านต่างๆ

สำราญ – ได้ข่าวว่ามีคนไปขยับกาย สบายชีวีด้วย ตอนเช้าๆได้ข่าว

สโรชา – ใช่ค่ะ คือหลังจากที่หลวงปู่เทศน์เสร็จ บรรดาลูกศิษย์ที่นั่งฟังเทศน์อยู่ ท่านก็ชักชวนให้ลุกขึ้นขยับกาย ซึ่งก็สอนไปด้วย ดิฉันไม่เคยมาก่อนเลย แต่ก็เพิ่งมาไปเมื่อเช้า
คำนูณ – ของคุณมีรังสีอะไรออกมาจากฝ่ามือไหม

สโรชา – รู้สึกเหมือนเวลาเราเพ่งจิตไปที่ฝ่ามือนานๆ เรารู้สึกนะ แต่ไม่รู้ว่ารู้สึกอะไร

คำนูณ – คุณสำราญระวังนะ ระวังอย่าทำให้คุณสโรชาไม่พอใจ

สโรชา – ขยับกาย สบายชีวี วิถีพุทธด้วย

สำราญ – แต่วันนี้ไหนๆ เปิดด้วยวงฟุตบาทแล้ว เราไปที่เรื่องภาคใต้เลยละกัน
สโรชา – แต่ขอไปที่เรื่องต่างประเทศซักครู่หนึ่งละกัน เพราะว่าเมื่อซักครู่นี้ก็ดูข่าวต่างประเทศไปพลางๆ ตอนนี้อิรักก็วิกฤตหนัก เพราะว่าตอนนี้ก็จะไปถล่มที่ฟัลลูจา ซึ่งตอนนี้ก็ประกาศภาวะฉุกเฉินไปเรียบร้อยแล้ว 60 วัน อยู่ทางภาคใต้ ตรงนี้เป็นเมืองที่เขาต่อต้าน เขาเรียกว่าทำสงครามกันมายืดเยื้อมาตั้งแต่เข้าไปยึด ยึดกันไปยึดกันมาจนกระทั่งล่าสุด ในที่สุด สหรัฐก็ประกาศแน่ๆแล้ว ว่าจะต้องปิดเมือง ถล่มและยึดกลับให้ได้ เพราะถือว่าเป็นฐานที่มั่นของฝ่ายต่อต้าน ก็ไปทั่วโลกแล้วตอนนี้

คำนูณ – แล้วอีก 10 ปีอะไรจะเกิดขึ้นนะ

สโรชา – ไม่ทราบจริงๆ

สำราญ – มันมีที่คุณสนธิพูดไว้ในเมืองไทยรายสัปดาห์ พูดถึงการฝึกเป็นยังไงนะ พอจะสรุปเป็นเนื้อๆ

สโรชา – คุณสนธิพูดทำนองว่า คือตั้งข้อสังเกตว่า เวลามีมอเตอร์ไซด์วิ่งผ่านและยิง และมีผู้เสียชีวิต สังเกตได้ว่าเจ้าหน้าที่มักจะจับไม่ค่อยได้ นั่นคือเป็นการฝึกจากประเทศบังคลาเทศ คือเขาจะเดินทางเลาะชายแดนไปผ่านทางพม่า และก็อ้อมเข้าทางบังคลาเทศ ไปฝึกที่นั่นแล้วก็ย้อนกลับมาใหม่ แล้วก็มาอยู่ใน 3 จังหวัด

สำราญ – อันนี้เหมือนเป็นแขนง เป็นกิ่งก้านของการก่อการร้ายโลกนะ

สโรชา – คือพูดง่ายๆว่ามีความเชื่อมโยงกัน มีการฝึกกันอย่างดี คือไม่ใช่อย่างที่เราเคยคิดกันว่า จับปืนแล้วไปยิงนี่ไม่ใช่

สำราญ – คือไม่ใช่มวยสมัครเล่นว่างั้นเถอะ มีสำนักมีค่ายเรียบร้อย แต่ภาคใต้ก็ยังเหมือนเดิมนะ วันนี้ท่านนายกฯก็ไปทอดกฐินที่ตากใบ ก็ไปวัดหลวง วันชลธาราสิงเห เป็นวัดอารามหลวงชั้นตรี ก็ไปทอดกฐิน แล้วก็ได้ไปพูดคุยกับรองทหารสูงสุด พล.อ. สิริชัย ธัญญสิริ ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการ กองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ให้สัมภาษณ์เท่าที่ฟังจับสาระได้ก็คือ คล้ายๆว่าไปกระชับแผน คือก่อนหน้านั้นเมื่อวันเสาร์ท่านก็ไปพูดที่ในวิทยุตอนเช้า บอกว่าตอนนี้สถานการณ์มันคืออะไร มันก็คือท่านใช้คำว่า เป็นสงครามจิตวิทยา แล้วก็สงครามลอบทำร้าย ก็น้ำเสียงไม่ถึงขั้นให้ความมั่นใจว่า คือตอนนี้ท่านคงเกร็งแล้วไม่กล้าประกาศ 30 วัน 60 วันไม่ได้ ใช้คำประกาศที่ภาคใต้ไม่ได้เด็ดขาด ก็สถานการณ์ถ้าพูดในเชิงความหมายก็คือ แนวโน้มยังน่าเป็นห่วง

สโรชา – น่าเป็นห่วงมากขึ้นด้วยมั้งคะ จากตากใบมา

คำนูณ - ถ้าพูดกันอย่างไม่ใจร้าย ก็ต้องพูดว่า ไม่ใช่ว่าน่าเป็นห่วงแล้วล่ะ ภาคใต้ขณะนี้คือสถานการณ์สงคราม คือฝ่ายตรงข้ามนี่ก็ใช้สงครามจรยุทธ์ แต่ว่าเป็นจรยุทธ์ที่แตกต่างจากสงครามจลยุทธ์ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย อันนี้เป็นการจลยุทธ์ในเมือง แล้วก็มีสาเหตุที่ผสมผสานกันหลายฝ่าย อิทธิพลจากต่างประเทศ ทางสากลก็มี แล้วสิ่งที่น่าสนใจก็คือ ทางสหรัฐเขาพยายามที่จะเข้ามาเกี่ยวข้อง เข้ามาสนับสนุน เข้ามาร่วม

สำราญ – เอาเป็นว่า ถ้าเราป่วนเขามีเงื่อนไข
คำนูณ – เขาพยายามจะเข้ามา แล้วเขาก็ใช้สิ่งเหล่านี้เป็นอาวุธในการต่อรอง

สำราญ – ปัญหาคือ เขาทำให้ป่วนด้วยไหม

คำนูณ – อันนี้ก็ บางสำนักคิดและเชื่อเช่นนั้น เพราะว่าในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สิ่งที่พูดกันมากก็คือ การแพร่กระจายเข้าไปของสำนักคิดที่เรียกว่า วาฮาบิ ที่มาทางซาอุดีอาระเบีย แล้วก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่ ถ้าพูดถึงว่าเราจะโยงกับสถานการณ์โลก เราจะเห็นได้ว่า แหล่งก่อกำเนิดของอัลกอ อิดะหื ก็คือซาอุดีอาระเบีย แล้วก็อันที่จริง ที่น่าสนใจก็คือ เป็นการเข้าไปจัดตั้งหรือเข้าไปร่วมสนับสนุนของสหรัฐตั้งแต่เริ่มต้น ตั้งแต่สร้างอัลกออิดะห์

สำราญ – บินลาเดนนี่เป็นนิกายไหน

คำนูณ – บินลาเดนนี่ถือว่าเป็นผลผลิตของสหรัฐในการสร้างกลุ่มนี้ขึ้นมา

สำราญ – ไม่ หมายถึงว่าเป็นชีอะห์ สุหนี่

สโรชา – ไม่มีใครทราบแน่ชัด แต่ที่แน่ๆก็คือว่าเป็นผลผลิตอย่างที่คุณคำนูณว่า ของอเมริกาสร้างขึ้น คือสร้างเขามากับมือ เพื่อที่จะไปต่อต้านคนที่ตัวเองคิดว่าเป็นศัตรู แต่ในที่สุดแล้ว เขาก็หายตัวไปแล้วก็ไปโผล่อีกทีในตาลีบัน

คำนูณ – คือ 10 ปีในอัฟกานิสถานนี่ คิดดูก็แล้วกันอัลกออิดะห์ หรือบินลาเดนนี่ เขาจะมีประสบการณ์ขนาดไหน แล้วก็การต่อสู้ การบ่มเพาะมันก็ก่อเกิดขึ้นมา เพียงแต่ว่าในระยะหลัง ศัตรูเปลี่ยนจากโซเวียตกลับมาเป็นสหรัฐอเมริกา อันนี้ก็เชื่อได้ว่า หลายสิ่งหลายอย่างก็คงเป็นปริศนาอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

สำราญ – อีกนิดเดียวที่ท่านนายกฯพูด มันก็ยังเป็นประเด็นอยู่เล็กๆ พูดถึงอาวุธปืน ก็พูดแล้วท่านก็ยอมรับในรายการวิทยุ อบกว่าปืนที่พูด แล้วท่านเคยพูด หรือรายการเคยออกข่าวบอกว่า เอาไปขายให้อาเจะห์ หรือให้โน่นให้นี่ที่อินโดนีเซีย บอกว่าตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เพราะผืนที่เริ่มค้นพบอาก้าบางกระบอกนั้นก็คือ เอาไปซุ่มที่จุดต่างๆ แล้วปืนเหล่านี้ได้หันมายิงเจ้าหน้าที่

คำนูณ – อันนี้เป็นคำตอบสุดท้ายหรือยัง

สำราญ – อย่าให้ผมพูดเลย

คำนูณ – เห็นว่าพูดกันไปพูดกันมาหลายทีแล้ว แล้วแต่ว่าจะไปถามใคร

สำราญ – มันถึงว่า มันอ่อนอกอ่อนใจกับการข่าวบ้านเราเหลือเกิน

สโรชา – 400 กระบอกที่ว่านี้ คือที่ไปพบว่า กลับมายิงเจ้าหน้าที่น่ะกี่กระบอก

คำนูณ – ที่บอกว่าไปขุดพบในสวน ก็ไม่ชัดเจนว่ากี่กระบอก ถ้าไปถาม เสธ.แดงก็บอกว่า ตามไปถึงอาเจะห์โน่น

สโรชา – เราก็พูดกันไป เดี๋ยวเขาก็หาว่าเราบั่นทอนอีก

สำราญ – ก็ไม่เป็นไร เราพูดของจริง เพราะอยากให้การข่าวมันดีขึ้น

คำนูณ – พูดอย่างนี้จะมีใครเดินเข้ามาชกเราหรือเปล่า

สโรชา – นี่แสดงว่าจะเข้าเรื่องคุณประทินใช่ไหม
คำนูณ – คือภาคใต้นี่ มันไม่น่าจะเกี่ยวกับการชกกันในสภา แต่ก่อนที่จะชกกัน สาเหตุมันมาจากเรื่องภาคใต้ ก็คือสว.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ท่านออกสมุดปกเหลือง ชื่อ ความจริงที่ตากใบ โดยที่ท่านลงไปสำรวจเหตุการณ์ ซึ่งก็ด้วยความเคารพ มีหลายฝ่ายวิจารณ์ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นกี่วัน แล้วท่านลงไปใช้เวลาอยู่กี่วัน สามารถบันทึกออกมาเป็นเล่ม ก็ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งมีความรู้สึกว่า อาจจะเกินไปซักนิดนึง ไม่น่าจะเป็นความจริงก็เลยไปท้วงติง และก็เกิดการอภิปรายโต้เถียงกันไป เพราะว่าในอดีตที่ผ่านมา อ.เจิมศักดิ์ก็บำเพ็ญตนเป็นขั้วตรงข้ามกับรัฐบาล พูดกันตรงๆ ในขณะที่ สว. อีกกลุ่มหนึ่งเขาก็บำเพ็ญตนเป็นฝ่ายรัฐบาลเต็มที่ มันก็เรียกว่ามีการเจรจามีการอภิปราย บริภาษต่อว่าต่อขานกันมาเนิ่นนาน คุณประทินก็ลุกขึ้นมาประท้วงคุณอดุลย์ แล้วพอประท้วงคุณอดุลย์เสร็จ คุณประทินก็พูดในทำนองว่า เหมือนความจริงบางอย่าง เรื่องคนที่ค้าขายกับขุนส่า ไม่ได้เอ่ยชื่อคุณอดุลย์ แต่ว่าพูดในวาระที่พูดถึงคุณอดุลย์ เขาเป็น สว. แม่ฮ่องสอน คุณประทินท่านก็เคยเป็นอธิบดีกรมตำรวจ แล้วงานที่ท่านเชี่ยวชาญมากคืองานปราบปรามยาเสพติด เพราะฉะนั้นท่านอาจจะมีข้อมูลอะไรบางอย่าง

สโรชา – คือดิฉันดูภาพ หลังจากที่ตกใจเสร็จแล้ว ต้องทึ่งท่านประทินนะ คือออกเป็นชุดนะ คือไม่ธรรมดาแน่ๆอยู่แล้ว คือมาทราบทีหลังว่าท่านเป็นนักมวยเก่า ตอนแรกถึงกับอึ้งว่าได้ขนาดนี้เลยเหรอ

สำราญ – ซ้ายนำ ขวาตาม แล้วก็ cross ซ้ายอีกที

สโรชา – แต่ว่าตอนนี้เรามีเสียงของทั้ง 2 ท่าน ไปฟังกันค่ะ

VTR

ประทิน – แต่เรื่องขอโทษซึ่งกันและกัน ถ้าให้เขาขอโทษผมน่ะได้ แต่ให้ผมไปขอโทษเขาไม่ได้ เพราะว่าผมไม่ได้เป็นคนต้นเหตุในการก่อเรื่องนี้ขึ้นมานะครับ ผมอยู่ในที่นั่งของผม แต่ก่อนที่ผมจะอภิปรายเสร็จ ใช้คำพูดกับเขาว่า ทุเรศ แล้วผมก็หันไปดูว่าเป็นใครพูด ก็เลยชี้หน้าผม พยักหน้า แล้วผมก็สังเกตว่าเขาเดินเข้ามาหาผม เมื่อเดินเข้ามาหาผมก็ต้องเตรียมตัว ผมเองระมัดระวังว่าไม่ควรทำ เหตุอย่างนี้ไม่ควรเกิดขึ้นด้วยครับ ผมถามว่าจับมือกัน ก็เหมือนกับหลอกชาวบ้านเขานะครับ ภาพที่เกิดขึ้นมันเสียหายอยู่แล้ว

อดุลย์ – ถ้าหากว่าผมเป็นนายอดุลย์ วันไชยธนวงศ์ ประชาชนธรรมดา ผมโดนแค่นี้มันโดนแค่นี้ ผมจะไม่ติดใจเอาความใดๆทั้งสิ้น แต่นี่เนื่องจากเป็นสมาชิกวุฒิสภาประเด็นแรก ประเด็นที่ 2 ก็คือเรื่องเกิดในห้องประชุมรัฐสภา ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว ภาพข่าวได้แพร่ออกไปทั่วทั้งประเทศ ทั่วโลก ซึ่งจะทำให้วุฒิสภาโดยรวมเสื่อมเสีย

สโรชา – ก็เป็นเรื่องเป็นราวไปทั่วโลก

สำราญ – หมัดนี้ผมไม่เห็นด้วยนะที่ไปชก คือท่านต้องมีวุฒิภาวะหน่อย ต้องยับยั้งอารมณ์หน่อย

คำนูณ – ผมไม่ได้ว่าคุณประทินทำถูก แต่ผมรู้สึกว่าสังคมไทย ดัดจริตนะ เรื่องแค่นี้เสียภาพพจน์ กลัวอายต่างประเทศ ที่ สส. สว. ที่มันทำบัดสีบัดเถลิง ที่บัดซบที่น่ารังเกียจมากกว่านี้ กลับเฉยๆ เรื่องชกต่อยนี่โวยวาย

สำราญ – คือหมัดไม่มีวุฒิภาวะ แต่เข้าตากรรมการ

สโรชา – จริงๆแล้วมีคนที่รู้สึกเหมือนคุณคำนูณเยอะ เพียงแต่ว่าก็เป็นห่วงเหมือนกันไง

คำนูณ – คือบางคนเขาจะบอกว่า เราไปเข้าข้างคุณประทินเพราเป็นพรรคพวกเดียวกัน ขอบอกว่าไม่เกี่ยวเลย วันก่อนผมกับคุณสำราญสัมภาษณ์คุณประทิน โดนจวกอีก ท่านก็ถามบอกว่า เดินปรี่เข้ามาอย่างนั้น คุณจะให้ผมทำอย่างไรล่ะ เป็นคุณคุณจะทำยังไง ผมก็ตอบว่า เป็นผมผมจะเดินหนีสิครับท่าน ท่านก็บอกว่า ผมไม่ใช่หน้าตัวเมียนี่
สำราญ – คือคุณประทินนี่ท่านเป็นคนใจร้อน ใจร้อนมาก บังเอิญว่าเที่ยวนี้ คนที่ถูกชกนั้นคือคุณอดุลย์ สื่อมวลชนไม่ค่อยชอบเท่าไหร่

คำนูณ – แลล้วคุณอดุลย์มีพฤติกรรมเดินปรี่เข้าไปอย่างนี้ หนึ่งก็คือ จะเรียกว่าเป็นตัวตัดเกม ก็คือเวลามีการอภิปรายอะไรขึ้นมา

สำราญ – ดูว่าเป็นตัวประท้วง เป็นฝ่ายรัฐบาล

สโรชา – ขอถามนิดนึงว่า มีคำอธิบายไหมคะ ว่าคุณอดุลย์จะเดินเข้ามาทำไม คือหมายความว่า ลุกจากเก้าอี้ปุ๊บ เดินลงมาเพื่ออะไร ท่านได้บอกไหม

สำราญ – ผมก็ถาม ท่านบอกว่า จะไปถามให้รู้ว่า คุณประทินคุณหมายถึงผมหรือเปล่า

สโรชา – ก็อาจจะมีคำถามว่า ถามตรงเก้าอี้ไม่ได้หรือ

คำนูณ – ไม่ใช่ครั้งแรกไง ถ้าคนอยู่ในสภามาหรือผู้สื่อข่าวจะเห็นว่า แกเดินเข้าไปทุกที ลักษณะดูเหมือนจะเข้าไปตัดไม้ข่มนาม แล้วเผอิญว่าผิดคน

สำราญ – เจอนักมวยเก่าก็เรียบร้อยเลย

คำนูณ – ในอดีตของท่านก็เป็นนักกีฬามาตลอด ไม่ใช่แค่มวยสากลสมัครเล่น รักบี้ นักวิ่งระดับทีมชาติทั้งนั้น

สโรชา -คือสุดยอดนักกีฬาแล้วล่ะ คุณสนธิบอกว่า คุณอดุลย์นี่โชคดีที่สุดในโลกแล้วนะ เพราะว่าท่านประทินนี่ 70 แล้วไง สมมุติว่าท่าน 40 หรือ 50 อาจจะน็อกเอาท์ในสภาได้เลย เอาล่ะค่ะ พักกันซักครู่เดี๋ยวกลับมายังต้องคุยกันอีกหลายต่อหลายเรื่อง แต่ตอนนี้ไปฟังเพลงกันก่อนค่ะ

**************

สโรชา – กลับมาสู่ช่วงที่ 2 ของรายการก่อนจะถึงวันจันทร์ คุณป๋องจากโคราชบอกว่า ขอยกย่องคุณคำนูณพูดโดนใจมากๆ คิดว่าคงจะถูกใจเรื่องคุณประทิน ปรากฏว่า พิมพ์ต่อมาว่า ดูเลือดเย็นดี แต่บอกว่าเขาชมนะ

คำนูณ – ผมงงว่าเขาชมหรืออะไร

สโรชา – นี่แหละค่ะ เราได้ทราบถึงความคิดเห็นของคุณผู้ชมผ่านหน้าจอ

คำนูณ – มีตำรวจจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องอ่านเสียหน่อย

สำราญ – เมื่อกี๊ที่ฟังเพลง จดหมายถึงพ่อ คือคนละเนื้อหานะ แต่ในชีวิตจริงอันเนื่องจากภาคใต้นะ คือตำรวจนะ จากอีสานต้องไปอยู่ภาคใต้ เขาถูกส่งไป ก่อนไปก็ร้องห่มร้องไห้กัน ไปอยู่ 3 เดือนก็ต้องลุ้นกันว่าจะเป็นยังไง กลับถึงบ้านพ่อแม่ลูกนี่กอดกันกลมเลย คือรอดมาได้ มันสะเทือนใจ มันเกิดอะไรขึ้นในบ้านเรา

คำนูณ – ตำรวจทาง 3 จังหวัดชายแดนบอกว่า สถานการณ์ทางใต้จะต้องใช้ความเด็ดขาดเท่านั้น เหตุการณ์จึงจะสงบลงได้ คนไทยพุทธโดนฆ่ารายวันไม่ว่าเด็ก ผู้หญิง คนชรา รัฐบาลจะต้องใช้ความเด็ดขาดเท่านั้น ตอนนี้แผนการแบ่งแยกดินแดนของผู้ก่อการร้ายอยู่ในขั้นที่ 6 แล้ว ใกล้จะถึงขั้นที่ 7 ก็เข้าใจครับ เราก็มีเพื่อนฝูงเป็นตำรวจเยอะ ไม่ว่าตำรวจคนไหน ยศชั้นระดับใด เมื่อพูดถึงปัญหาภาคใต้ ชนิดที่ไม่เป็นข่าวนะ เขาก็สะท้อนความรู้สึกเช่นนี้ออกมา อันนี้คือสิ่งที่น่าเป็นห่วง

สโรชา – เบรกนี้ฟังเพลงกันมากกว่า เลยมีเวลาคุยกันน้อย ตอนนี้ก็ต้องไปฟังข่าวต้นชั่วโมงกันแล้ว เดี่ยวกลับมาเจอกันในช่วงสุดท้าย ซักครู่เดียวค่ะ

สโรชา – กลับมาช่วงสุดท้ายของก่อนจะถึงวันจันทร์นะคะ วันนี้เวลาผ่านไปเร็ว รู้สึกเพลินกับการฟังเพลงเหลือเกิน มีคุณผู้ชมจากนครปฐมบอกว่า ขอสนับสนุนคำพูดคุณคำนูณ เพราะสว.แย่ๆมีมากมาย ท่านประทินเป็นคนดี มัวแต่ไปกลัวเสียภาพลักษณ์ ก่อนหน้านี้ก็แย่อยู่แล้ว แค่นี้ไม่กระทบหรอก

สำราญ – มันเสียอยู่แล้ว

สโรชา – ตำรวจท่านเดิมที่เราพูดถึงเมื่อซักครู่ โทรกลับมาอีกครั้ง บอกว่าตัวเขาเองก็เคยถูกตามประกบยิงมาแล้ว แต่รอดมาอย่างหวุดหวิด สื่อมวลชนจะต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่และประชาชนบริสุทธิ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย

สำราญ – เห็นใจแน่นอน ล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะเห็นใจถึงไม่อยากให้มีการสู้รบปรบมือกัน หนทางใดเล่าที่มันจะหยุดยั้งสงคราม หยุดการเข่นฆ่าแบบนี้กันได้ ผมก็ไม่เห็นด้วยที่มีการไปล่ายิงตำรวจ เจ้าหน้าที่ ไม่มีใครเห็นด้วย แต่สิ่งที่เรากังวลกันไม่รู้จบ ไม่รู้ใครถูกใครผิดใครถูกกันจนบัดนี้ แนวทางหรือยุทธศาสตร์ไหนที่มันจะแก้ไขปัญหาได้ แต่เบื้องหน้าเมื่อมันเป็นอย่างนี้ มันต้องใช้นกกระดาษ ต้องใช้สันติภาพ และคนที่รักสันติทั้งหลาย หรือส่งเสียงให้พวกเขาได้ยิน

สโรชา – คือทั้งหลายทั้งปวงที่เราพูดกัน ไม่ใช่ว่าไม่เห็นใจเจ้าหน้าที่ หรือคนที่ใช้ชีวิตอยู่ใน 3 จังหวัด

สำราญ – คือผมก็โดนสวนมาเยอะจากเพื่อนๆที่เป็นตำรวจ ว่าอ่านบทความแล้วผิดหวัง คือเราก็เขียนตามแนวเรา ก็กลายว่าเป็นไปเข้าข้าง

คำนูณ – พวกเรานี่โดนกันหนัก เป็นพวกโจร พวกแบ่งแยกดินแดน

สโรชา – แต่จริงๆแล้วเราพูดถึงแนวทางการแก้ปัญหาเป็นหลัก
คำนูณ – คือประการหนึ่ง คำว่าเด็ดขาด อย่างไรที่เรียกว่าเด็ดขาด เราไม่ใช่ว่า ใครไปยิงเจ้าหน้าที่แล้วไปปล่อยเขา หรือไม่จับเขา ก็จับไป แต่ว่าเราคัดค้านประเภทที่เรียกว่า ไปอุ้มเขามา เอาเขาไปฆ่า

สโรชา – คือเรียกร้องว่าอย่าให้มีสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นเลย

สำราญ – ซึ่งเดี๋ยวนี้ต้องยอมรับว่ามันน้อยลงแล้ว การอุ้ม เพราะสถานการณ์มันแรงกว่านั้น มันไปไกลยิ่งกว่านั้น มีต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องอะไรต่างๆ ด้านหนึ่งเราต้องเห็นใจรัฐบาลเหมือนกัน ในการแก้ไขปัญหา คือมันไม่ใช่ง่ายๆนะ คุณชวนมาใครมา ดร.อเนกมา ใครมาก็เดี้ยงหมด เจอสถานการณ์อย่างนี้ ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทางรัฐบาล

คำนูณ – เหมือนคราว 25 ตุลาคมนะ พูดย้อนซักนิดนึง ผมเชื่อว่าเรา 3 คนจุดยืนของเรา เอาเทปมาดูนะ เราเห็นว่าการสลายการชุมนุมนั้นทำถูกแล้ว แล้วถ้ามีผู้เสียชีวิต 6 คนก็ดูสมเหตุสมผล พอรับฟังได้

สำราญ – น่าจะอธิบายได้

คำนูณ – แต่ว่า การขนคนแล้วตายไปอีก 70 กว่านี่ พูดยังไงมันก็รับไม่ได้

สโรชา – แต่ว่าวันนั้นถ้าจำไม่ผิด เราก็ไม่ได้ไปลงรายละเอียดในตอนนั้น คือหมายความว่าความผิดพลาดมันเกิดขึ้น เราก็พูดทำนองว่า เรามามองข้างหน้ากัน ว่าตากใบเราจะเดินต่อไปอย่างไร

คำนูณ – คือไม่อยากพูดให้สะเทือนใจกันมาก

สำราญ – แต่ว่าก็ให้กำลังใจตำรวจด้วย แต่ว่าคือทำอย่างไร คือต้องยอมรับว่า มันเป็นอำนาจที่เหนือตำรวจนี้ไปอีก
คำนูณ – คือเราก็เด็ดขาดมา 40-50 ปีแล้วนะ ก็ไม่เห็นหมดซักที

สโรชา – ต่อมาก็เรื่อง “เหลียวหลังแลหน้า จากรากหญ้าสู่รากแก้ว” แต่ว่าก็เป็นยังไงบ้าง เปิดมาเมื่อวานนี้อย่างอลังการ และในที่สุดเราก็เห็นนะ ท่านนายกฯออกมาพูดคุย และก็มีคณะรัฐบาลชุดใหญ่นั่งพูดคุยด้วย แล้วก็มีการซักถามด้วยนะ

สำราญ – คือต้องเล่าเหตุการณ์นิดนึง เล่าในทางกายภาพก่อน งานนี้ถ้าในมุนของผม น่าจะคล้ายๆคุณคำนูณด้วย มันเป็นลูกติดพันมาจากการคิกออฟการเลือกตั้งของพรรคไทยรักไทย คือรัฐบาลก่อนหน้านี้อยู่ในกระแสขาลงนี่มาก ก็เลยเป็นการแก้เกมยุทธวิธีทางการเมือง พูดกันตรงๆนะ ซึ่งเขาก็มีสิทธิทำได้ ไม่ว่ากัน เพียงแต่ว่าจะทำอย่างไร ใช้งบประมาณกันแค่ไหน นั่นก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง ก็เป็นลูกติดพันมาจากการคิกออฟแคมเปญของพรรคไทยรักไทย ก็เลยมาจัดงานนี้ วันที่ 6-10 พฤศจิกายน 2547 ใช้งบรัฐบาล เบื้องแรกก็ฟังว่า 230 ล้านบาท แต่ฟังไปฟังมา มันจะ 400 ล้านบาท อันนี้ยังไม่ชัดนะ แต่ว่า 230 ล้านที่เบื้องแรกนั้นชัดเจนเลย ก็ทำงานกัน ยึด 8 ห้อง 8 ศูนย์ของเมืองทองธานี ก็ไปวันแรกก็อย่างที่เราได้ดูช่อง 11 ถ่ายทอด บรรยากาศบางอย่างก็ได้รับได้เห็นกันอยู่ ก็ไปกันแทบทุกรัฐมนตรีแหละ มีแต่คุณอนุรักษ์ จุรีมาศ รัฐมนตรีวัฒนธรรมนะ ไปเปิดงาน แต่ว่าไม่ได้อยู่บนเวทีตอนที่มีการสัมภาษณ์ ชาติไทยมีรัฐมนตรี 2 ท่าน คุณนิกรอยู่ คุณอนุรักษ์เปิดงานเสร็จไม่ทราบมีธุระอะไร คุณวราเทพรัฐมนตรีช่วยขนาดขาเดี้ยงก็ยังต้องไปนั่งบนเวที ก็ไปร่วมงานกัน ก็ประเด็นอย่างที่หนังสือพิมพ์เขาวิพากษ์วิจารณ์กัน ก็เวียนๆ คืองานนี้เป็นงานฟันธงว่าเป็นงานหาเสียงแน่นอน ท่านนายกฯก็ยอมรับแล้วว่าเอาผลงานมาหาเสียง

คำนูณ – ก็ต้องทำใจการเมืองระบอบนี้ คือคนที่เป็นพรรครัฐบาลเขาสวมหมวก 2 ใบ หมวกพรรคการเมืองคือหมวกไทยรักไทย นั่นก็เรื่องหนึ่ง แต่หมวกของความเป็นรัฐบาลก็เรื่องนึง แต่ว่าบังเอิญเป็นรัฐบาลที่เป็นไทยรักไทยเกือบจะ 100% เรื่องมันก็เลย

สโรชา – คือในอดีตเราจะเห็นรัฐบาลผสม

คำนูณ – แล้วในอดีตเนี่ย ก็ไม่รู้จะจัดเป็นเทศกาลได้อย่างไร ไม่มีผลงาน ไม่มีอะไรใหม่ๆ จริงๆนะ คือไทยรักไทยจะทำดีไม่ดี วิพากษ์วิจารณ์กันไป แต่มันทำใหม่เยอะ แต่ว่าพรรคอื่นๆที่เข้ามาเป็นรัฐบาลแต่ละรัฐบาล

สโรชา – อาจจะเป็นเพราะว่า ไม่ได้มีเป็นประชามติขนาดนั้นหรือเปล่า คือเป็นกลุ่มเป็นก้อน คือแต่ละพรรคก็ไปหาเสียงของตัวเองสิ

คำนูณ – รัฐธรรมนูญเขาไม่ได้ห้ามจัดงานแบบนี้นะ

สำราญ – เดี๋ยวตอนท้ายจะพูดเรื่องกฎหมายนิดนึงนะ แต่ว่าในความรู้สึกส่วนตัว ผมรู้สึกเสียดายเงิน

คำนูณ – วันอังคารนี่เขาจะมีการประชุม ครม. โชว์ ให้ประชาชนดูว่าทำงานกันอย่างไร ผมว่าถ้าจะให้ดีน่าจะใส่ห้องกระจก แบบรายการเดอะ สตาร์อะไรอย่างนี้ นอนยังไง ตื่นยังไง เข้าห้องน้ำทำยังไง คิดยังไง พูดยังไง ซ้อมบท อ่านหนังสืออะไรอย่างไร มีกล้องติดไว้ถ่ายทอด แล้วมี sms โหวต

สำราญ – กลับมาที่เรื่องกฎหมาย ที่วิจารณ์กันว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ดูแล้วคงไม่ผิดหรอก ถ้าดูตามตัวอักษร ไม่มีกฎหมายอะไรที่จะไปเอาผิดได้

สโรชา – คือเขาทำในนามรัฐบาลใช่ไหม

สำราญ – แล้วกฎหมายเลือกตั้งก็กำลังแก้ไขอยู่นะ กฎหมาย
เลือกตั้งกำลังแก้ไขให้ไปสู่ประเด็นที่ว่า ก่อนครบเทอมสภานะ คุณไปหาเสียง คุณไปให้สัญญา หรือคุณให้เงินอะไรอย่างนี้ ผิด แต่ตอนนี้อยู่ในขั้นวุฒิสภา กฎหมายก่อนครบเทอม 60 วัน ซึ่งในความหมายนี้คือ ก่อนครบเทอมในวันที่ 5 มกราคม 2548 นะ กฎหมายนี้ยังไม่บังคับใช้นะ กฎหมายเลือกตั้งนี่ เราก็มองข้ามช็อตไปเลยว่าคงไม่ทันหรอก เพราะวุฒิสภาไปแสดงความเห็นบางคนบอกว่า 60 วันมันน้อยไป เอาซัก 6 เดือนเถอะ คือพอวันที่ 26 พฤศจิกายนสภาปิด กฎหมายนี้ไม่ผ่าน ไม่ผ่านมันก็ใช้กฎหมายเดิมก็คือไม่มีการระบุเวลาว่า ก่อนกี่วันคุณถึงจะใช้เงินไม่ได้ คุณจะสัญญาไปหาเสียงอย่างนั้นไม่ได้ ก็เหมือนเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ดังนั้นคนที่ทำงานหนักก็คือ กกต. เลือกตั้งเที่ยวหน้าก็จะอยู่ภายใต้ดุลพินิจของ กกต. ซึ่งต้องพูดว่า คนเชื่อถือน้อยแล้ว กกต. ในยุคปัจจุบัน กกต.ก็บอกว่าจะไปสังเกตดูที่เมืองทองว่าเขาใช้เงิน หรือเขามีอะไรกันบ้าง

สโรชา – แต่โดยสรุปว่าในนามของรัฐบาลตอนนี้ ถือว่าเป็นไร

สำราญ – ไม่เป็นไร แต่ว่าความเหมาะสมหรือคนจะคิดยังไงก็เป็นอีกเรื่องนะ ผมว่าคนไม่ชอบก็เยอะ คือคนรู้สึกมันโหดกับฝ่ายค้านไปบ้าง พอสมควร

สโรชา – แต่เขาก็ไม่ได้ห้ามให้ฝ่ายค้านจัดนะ

สำราญ – ฝ่ายค้านก็ไปเถียงกันเรื่องรถสีอะไรอีก

สโรชา – ค่ะ เอาเป็นว่าไปดูต่างประเทศกันบ้าง เอาสั้นๆแล้วกันเรื่องบุชแน่นอน ไม่พ้นเรื่องนี้หรอกค่ะ ในที่สุดเขาออกมาแล้วว่า บุชชนะค่อนข้างที่จะขาดลอยพอสมควร 286/252 ของแคร์รี่ ตอนนี้เขารวมโอไฮโอในเม็กซิโก กับไอโอวาเข้าไปแล้ว

คำนูณ – แคร์รี่ก็ 252 จบแค่นั้นเอง ตอนแรกมัน 254 / 252 ตอนแรกก็คิดว่าสูสี แต่ในที่สุดบุชก็ได้ 3 รัฐที่เหลืออยู่ก็กวาดไปอีก ก็ไปที่ 286 ก็ถือว่าชนะแล้วล่ะ ไม่มีปัญหาแล้วนะคะ แต่ที่แน่ๆ ที่เม็กซิโกเขาห่างกัน 2 พันกว่าเสียงเองนะ ในขณะที่ไอโอวาห่างกันแค่ 13000 เองนะ เชื่อว่าพูดอย่างนี้แล้ว จริงๆแล้วถ้าดู popular Vote จริงๆแล้วไม่ได้ขาดลอย ตอนนี้อยู่แค่ 2-3 ล้านไม่เกิน ประมาณ 3 ล้านกว่าที่ทิ้งกัน ก็ถือว่าประชาชนชาวอเมริกาก็คงไม่ได้เทไปทางใดทางหนึ่งอย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าแถวยาวๆ ที่ไปกัน ส่วนใหญ่จะสนับสนุนบุช เพราะช่วงท้ายดูเหมือนว่าแคร์รี่จะตีตื้นแล้วล่ะ พอเห็นอย่างนี้ผู้สนับสนุนบุชก็แห่ออกมาใช้เสียงกันยกใหญ่ บินลาเดนก็ออกมาช่วยด้วย ก็ไม่รู้ว่าตกลงว่าเทปนี่จริงไหม คือบุชทำเองหรือเปล่า คงไม่ใช่นะคะ เพราะนักวิเคราะห์เขาก็ออกมาบอกว่า ของจริง คืออยากจะมีเอี่ยวว่างั้นเถอะ แต่กลายว่าเป็นช่วยบุชไปเลย ก็กลับมาเป็นสมัยที่ 2 ก็เรียกได้ว่า หวาดผวานะสำหรับคนทั่วโลก ตอนนี้ก็รอดูล่ะค่ะ ว่าเมื่อไหร่อิหร่านจะเป็นรายต่อไป เชื่อว่าจะไปอิหร่าน หลายๆฝ่ายเขาฟันธง รวมทั้งคุณสนธิด้วย บอกว่าอิหร่านแน่ๆ เขาบอกว่าน่าจะรอสถานการณ์อิรักอีกซักปีนึง แล้วมีสิทธิว่าจะบุกอิหร่าน คือแน่ๆเขากดดันยุโรปให้เข้าข้าง

สำราญ – ที่อัฟกานิสถานเขาเลือกตั้ง ก็ได้คนที่อเมริกาสนับสนุน

สโรชา – ก็แน่นอนอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องที่คาดการณ์กันอยู่แล้ว แต่ต้องรออาทิตย์หน้าค่ะ หลังที่บุชกลับมาเป็นสมัยที่สอง โทนี่ แบลร์ นายกฯของอังกฤษก็จะมาเยือนที่วอชิงตันวันพฤหัสบดี กับวันศุกร์

สำราญ – ของอังกฤษนี่เลือกเมื่อไหร่

สโรชา – กลางปีค่ะ ประมาณพฤษภาคมปีหน้า ซึ่งก็คิดว่าจะได้อีก ทำให้การบุกอิหร่านคงจะง่ายขึ้น

สำราญ – ฟังดูแล้วมีแต่ความรุนแรงนะ

สโรชา – มันไม่มีข่าวดีเลยนะ มันไม่มีข่าวดีเลยในการเมืองโลก

คำนูณ – ถ้าบุชชนะ มันก็มีข่าวดีอย่างนะ นายกฯทักษิณต้องชนะด้วย เมื่อ 4 ปีที่แล้วเป็นอย่างนั้นนะ

สโรชา – โลกรุนแรงเราต้องไปฟังเพลงกันนะ แล้วกลับมาพบกับเราทั้ง 3 คนได้ใหม่ในคืนวันอาทิตย์หน้าค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้ง สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ

คำนูณ , สำราญ - สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น