สนธิขำกลิ้ง มวยกลางวุฒิสภา ยกย่องประทินเป็นส.ว.ที่เป็นกลาง และกล้าชนกับหลายเรื่อง ส่วนอดุลย์ รู้กันทั้งสภาว่ามีชื่อเสียงด้านไหน กรณีค้าขายกับขุนส่าไม่ต้องบอกว่าเป็นใครเพราะรู้กันดีทั้งแม่ฮ่องสอน ด้านเลือกตั้งอเมริกา ยังยืนยันบุชต้องบุกอิหร่านแน่ โดยสร้างสถานการณ์และส่งกองกำลังเข้าไป พร้อมคาดการณ์ให้ระวังเศรษฐกิจถดถอย ปี 2548-2550
สโรชา – สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับเข้าสู่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์อาหารสมองก่อนเข้านอนในทุกคืนวันศุกร์ค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้ง กับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ดิฉัน สโรชา พรอุดมศักดิ์ คุณผู้ชมค่ะ ข่าวเด่นประจำสัปดาห์นี้คงจะไม่พ้นเรื่องราวการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐนะคะ ในที่สุดจอร์จ ดับเบิลยู บุชก็สามารถที่จะล้างประวัติศาสตร์ของพ่อ กลับมานั่งในตำแหน่งสูงสุดของสหรัฐเป็นสมัยที่สอง แต่หลังจากที่ได้รับเลือกตั้งแล้วก็มีหลายท่านวิพากษ์วิจารณ์และเป็นห่วงว่าสถานการณ์การเมืองโลกในอีก 4 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไรจะร้อนรุ่มเหมือน 4 ปีที่ผ่านมาหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความพยายามหรือความต้องการของสหรัฐอเมริกาที่จะเข้ามาตั้งฐานทัพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วันนี้คงจะต้องคุยกันเรื่องนี้ยาวหน่อยนะคะ คุณสนธิ
สนธิ - How many roads must a man walk down
สโรชา – คุณสนธิร้องเพลงนี้ก็ดีแล้ว คุณผู้ชมอาจจะสงสัยนะคะว่า สัปดาห์ที่แล้วตอนท้ายรายการดิฉันเป็นอะไรไป ซึ่งก็มีคำถามมาค่อนข้างจะเยอะนะคะว่าเอ๊ะ ร้องไห้หรือเปล่า และถ้าร้องร้องเพราะอะไร ก็อยากจะเรียนให้ทุกๆท่านทราบถ้าหากว่าดูอยู่ในสัปดาห์ที่แล้ว จริงๆ แล้วสะเทือนใจในเหตุการณ์ พอเจอเพลง ดิฉันไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีการเปิดเพลงนี้
สนธิ – โดนแกล้ง
สโรชา – โดนแกล้ง ใช่ พอเปิดเพลงนี้ ก็ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยอยู่ ก็ขอประทานโทษคุณผู้ชม ณ ทีนี้ด้วย เพราะควบคุมอารมณ์ไม่ได้เท่าที่ควร
สนธิ – จะร้องซ้ำวันนี้ก็ได้นะ
สโรชา – ไม่ควรค่ะ ไม่ควรทำเป็นกิจวัตรนะคะ แต่ว่าดิฉันขอถามนิดนึงว่า ได้ข่าวว่าคุณสนธิไปจัดรายการเป็นภาษาลาวหรือค่ะ
สนธิ – ความจริงคุณสโรชาเองก็เว้าลาวเหมือนกันนะ
สโรชา – ใช่ไหมค่ะ เราสองคนพูดเป็นภาษาลาว จริงๆ แล้วไปฟังเสียงดีกว่า เพราะดิฉันอธิบายไม่ถูกเหมือนกันนะคะ ว่า อะไรยังไง ไปฟังเสียงค่ะ เราทั้ง 2 คน จัดรายการเป็นภาษาลาว เป็นอย่างไร ไปฟังกันค่ะ
(รายการภาษาลาว)
สนธิ – เป็นรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ที่พากษ์ลาว ลิปซิ้งเลยครับ เหมือนเลยครับทุกอย่าง คือมีพี่น้องประชาชนชาวลาว ที่พำนักอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ติดรายการนี้และได้ดูโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมไป ก็เลยขอ เราก็เลยตัดสินใจที่จะพากษ์เป็นภาษาลาวให้ เพราะฉะนั้นคุณสโรชากับผมต้องเว้าลาว
สโรชา – ดิฉันไม่เคยทราบเลยค่ะว่าดิฉันพูดภาษาลาวได้ชัดขนาดนี้
สนธิ – ผมมองครั้งแรก ผมยังขำเลยครับ ยังหัวเราะไม่หายเลย
สโรชา – แต่อีกเรื่องหนึ่งที่ค่อนข้างจะเด็ดในสัปดาห์นี้คือเรื่องราวของหมัดมวยในสภาสูงของเรา
สนธิ – หมัดชุดครับ แยบซ้าย ตามด้วยขวาและตกลงด้วยซ้ายตรงหน้าอกอีกที
สโรชา – ท่านเป็นโปรเฟสชั่นแนลนี่ค่ะ
สนธิ – เป็นมืออาชีพครับ คือท่านส.ว. อดุลย์ วันไชยธนวงศ์ เป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก เพราะคุณประทินอายุ 70 แล้ว ถ้าซัก 40 กว่าๆ ผมว่าจะได้เห็นรายการเทคนิเคิล น็อคเอาท์ กันตรงนั้นเลย แต่ว่าเรื่องนี้ต้องคุยเพราะมีนัยหลายๆ อย่าง นอกเหนือจากกำปั้นที่ฟาดปาก คือประเด็นพล.ต.อ.ประทิน ทิ่มปากคุณอดุลย์ วันไชยธนวงศ์ มีประเด็นมากกว่าการชกหน้าคุณอดุลย์
สโรชา – วันนี้เราคงต้องได้คุยกันเรื่องนี้ด้วยค่ะ คำถามเอสเอ็มเอสของเราในสัปดาห์นี้ก็เรียนถามคุณผู้ชมเรื่องนี้ว่า คุณผู้ชมเห็นว่า พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ จะต้องลาออกจากตำแหน่งส.ว.หรือไม่ ควราลาออกกดเอ็มที 1 ไม่ควรลาออกกดเอ็มที 2 ส่งมาที่ 84820 ค่ะ หรือโทร.มาที่ 02-201-6055-60 ขอบคุณฟรีอินเตอร์เน็ตค่ะ ที่เอื้อเฟื้อระบบเอสเอ็มเอสให้กับเราเช่นเคยค่ะ เราแจกโทรศัพท์มือถือ สัปดาห์นี้เป็นโทรศัพท์มือถือพานาโซนิก เอ็กซ์ 200 ค่ะ แจกกัน 1 เครื่อง เราจะสุ่มหมายเลขผู้โชคดีท้ายรายการค่ะ ส่งมาเยอะๆ นะคะ นอกจากนี้แล้วจะแจกเสื้อฟรีอินเตอร์เน็ตเป็นเสื้อทีเชิ้ต 3 ตัว ให้เช่นกัน สำหรับผู้โชคดีทั้ง 4 ท่านคือโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องและเสื้อทีเชิ้ตอีก 3 ตัว นอกจากนี้ประชาสัมพันธ์ซักนิดนึงนะคะ ในตลอดเดือน พ.ย.นี้ทุกวันอาทิตย์ที่ 7 14 21 และ 28 อยากจะเรียนเชิญทุกๆ ท่านเข้าสู่โครงการผู้จัดการสุขภาพในเวลาบ่ายโมงถึง 4 โมงเย็น โดยเข้าร่วมอบรมกับอาจารย์สิน ภิรมย์ภักดี ค่าอบรม 120 บาท เราจะรับจำนวนจำกัด คือ 20 ท่านเท่านั้น ที่อาคารอนุรักษ์บ้านเจ้าพระยา สนใจติดต่อ 02-629-2211 ต่อ 1117 1118 และ 1152 ค่ะ พักซักครู่เดี๋ยวกลับมาคุยกันค่ะ
*************
สโรชา – กลับมาสู่เมืองรายสัปดาห์ค่ะ ไปคุยกันเรื่องหมัดๆ มวยๆ ก่อนดีกว่า ดิฉันเห็นภาพตามสื่อโทรทัศน์แล้วตกใจ คุณสนธิ ตกใจหรือเปล่าค่ะ ตอนที่เห็น
สนธิ – (หัวเราะ) ผมไม่ได้ตกใจ เพราะผมรู้จักท่านประทินมานานแล้ว ท่านประทินชื่อเดิมท่านชื่อ ประทิน นามสกุลก้อนแก้ว ไม่ได้นามสกุล สันติประภพ ท่านประทินเป็นมนุษย์โบราณพันธุ์พิเศษ พันธุ์สุดท้ายเป็นคนซึ่งทางธรรมเรียกว่า เป็นคนคิดอะไรก็พูดอย่างนั้น ตรงไปตรงมา เป็นคนโผงผาง จริงๆแล้วเป็นคนไม่มีพิษ มีภัยกับใครนะคะ สมัยที่เป็นอธิบดีกรมตำรวจ สมัยก่อนซึ่งเขาเรียกกันว่าอธิบดีกรมตำรวจ ท่านประทินเป็นคนซึ่งตำรวจทุกคนกลัว เพราะว่าถ้าทำผิดนิดผิดหน่อย ย้ายหมดเลย คือไม่สนใจเลยนะ แล้วจะยิ่งใหญ่มาจากไหน ไม่เคยกลัวใคร อาจจะเป็นเพราะว่าโดยพื้นฐานแล้วตั้งแต่หนุ่ม คือเรียนหนังสือมาเคยเป็นนักมวยสากลสมัครเล่น ได้แชมป์เหรียญทอง ทีนี้แต่เป็นคนใจร้อน คือว่ากันว่า เวลาท่านประทินไปตีกอล์ฟ พวกแคดดี้ในสนามกอล์ฟ จะจับฉลากว่าใครเป็นคนแบกถุง ไม่มีใครอยากไป เพราะเป็นขี้โมโห มีอยู่ครั้งหนึ่ง กำลังพัดลูกจะลงหลุม นกอยู่บนต้นไม้ส่งเสียงร้องจิ๊จ๊ะ หันไปไล่นก ไปตวาดนกให้เงียบเพื่อจะดีกอล์ฟ คือโดยพื้นฐานเป็นคนนิสัยอย่างนั้นนะ ทีนี้ถามว่าคุณอดุลย์ วันไชยธนวงศ์ นึกไม่สบายอะไรถึงจะต้องลุกจากที่นั่งตัวเอง คือเก้าอี้เขามีให้ตัวเองนั่งอยู่ไม่นั่ง และคุณอดุลย์ มีชื่อเสียงมาก ประเภทชอบเดินไปหาคน
สโรชา – เดินไปเพื่ออะไรค่ะ
สนธิ – เดินไปเพื่อพูดจากอะไรไม่รู้ หลายๆ และช่วงหลังใน 2-3 วัน ทางพวกส.ว. หลายๆ คนที่ถูกคุณอดุลย์ เดินไปแบบนี้ ก็เริ่มมาออกให้สัมภาษณ์ว่าคุณอดุลย์ชอบเดินแบบนี้ ผมเองก็โดน คือ ผมจะอุปมาอุปมัยให้ฟังแล้วกัน เหมือนกับคุณสโรชา พวกเราอยู่ในซอยซอยหนึ่งเดินเข้าเดินออกตลอดเวลา และจะมีนักเลงนั่งหน้าปากซอย บอกว่าคุณสโรชามานี่ซิ พอมาถึงก็เอามือเขกหัวคุณสโรชาป๊อก คนโน้นเดินมาก็เขกป๊อก ทุกคนโดนเขกก็หนีหมด มีอยู่วันหนึ่งเดินเข้ามา ไปเขกหัวคุณประทิน คุณประทินแกชกสวนตูม หงายหลังลุกขึ้นมาทำอะไรไม่ถูก เพราะเคยเดินเข้าไปหาเขา ทีนี้พอเดินเข้าไปหาคุณประทิน คนอายุ 70 และมีเลือดนักสู้อยู่แล้ว ก็คิดถึงสมัยเป็นนักมวย คุณแอ้มเล่นเดินรี่มาหาผม ผมก็ต้องซ้ายก่อน และขวา คือมันเหมือนโดยอัตโนมัติ คือเคยฝึกมาแล้วอย่างนี้ใช่ไหม นี่ขนาด 70 แล้วยังเล่นเอาปากแตก และที่ผมขำ ผมขำสุดฤทธิ์สุดเดชเลย คือว่าคุณสำราญรอดเพชร สัมภาษณ์คุณอดุลย์ วันไชยธนวงศ์ ส.ว. แม่ฮ่องสอน ผมหวังว่าคนแม่ฮ่องสอนคงจะฟังอยู่ ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคนแม่ฮ่องสอนคิดยังไง ก็คือว่า คุณสำราญถามว่า ถามน่ารักมาก บอกคุณอดุลย์ตอนที่โดนชก คิดจะชกตอบไหม คุณอดุลย์บอกว่า ผมกำลังจะฮึด ตาเหลือบไปเห็นพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็เลยนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณก็เลยหยุด ผมก็เลยนึกในใจว่าคุณอดุลย์ใช้ได้และผมอยากจะบอกชาวแม่ฮ่องสอนว่าถ้าวันข้างหน้า คุณอดุลย์หมดเทอมอีก 2 ปีบอกว่าไม่ต้องทำอาชีพอะไร เปิดคณะลิเก คุณอดุลย์เก่งมากๆ เป็นสุดยอดลิเกเลยงานนี้ คือพูดได้อย่างนี้ ผมต้องยกมือให้เลยนะ ว่าพอผมเงยหน้าไปเจอพระบรมฉายาลักษณ์นิ่งเลย และพระบรมฉายาลักษณ์ก็มีให้ดูตลอดเวลา ทำไมเวลาคุณมองพระบรมฉายาลักษณ์ทำไมคุณไม่รู้จักนั่งอยู่กับที่เฉยๆ และไม่ต้องเดิน เดินเข้าไปทำไม
สโรชา – แต่ว่าหลายๆ ท่านก็ถามนะคะว่า จริงๆ แล้วเดินเข้าไปก็ยังไม่ทันทำอะไรเลย จริงๆแล้วสวนออกมาก่อนอย่างนั้น บอกว่าป้องกันตัว
สนธิ – คุณสโรชาเดินปรี่เข้าไป ในวงการนักเลง หรือวงการลูกผู้ชาย ผมเด็กโรงเรียนประจำ การชกต่อยกันเป็นเรื่องธรรมดา เป็นสัญชาตญาณของเด็กโรงเรียนประจำ สมมติว่าไม่ถูกกัน ถ้าคุณเดินปรี่เข้ามาหาผม ผมไม่ฟังอะไรแล้วผมต้องชกก่อน ต้องต่อยก่อน เพราะผมไม่รู้คุณจะมาอีท่าไหน
สโรชา – เขาอาจจะมาดีก็ได้ เขาอาจจะอยากมาคุย
สนธิ – เอาอย่างนี้ดีกว่า โดยสรุป ผมคิดว่าคุณประทินไม่สมควรทำ โดยวุฒิภาวะแล้ว เป็นวุฒิสมาชิก ถามผมว่า ถ้าผมเป็นคุณประทิน ผมจะทำไหม ผมก็ทำ แต่ว่าถามว่าควรไหม ก็ไม่ควร แต่ถ้าถามผมว่าผมเสียใจ เฉพาะผมนะ ผมไม่เสียใจ
สโรชา – ไม่ห่วงหรือค่ะว่าภาพพจน์จะดู...
สนธิ – ผมไม่มีอะไรจะปิด ผมเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ผมก็มีรัก โลภ โกรธ หลง คือคุณประทินเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่าเหตุผลทำไมคุณประทินกับคุณอดุลย์ถึงเป็นอย่างนั้น ครั้งหนึ่งเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ซักประมาณ ก่อนปี 2540 ผมเคยกระชากคอคนคนหนึ่งบนเครื่องบินการบินไทย และกระแทกเข้ากับผนังเครื่องบิน เหตุผลเพราะว่าผมสติแตก ผมโกรธ เพราะคนคนนั้นพูดจากวนโอ๊ย ผมก็เลยคิดว่า คนคนนี้ถ้าพูดด้วยเหตุผลไม่ได้ ต้องเล่นแบบนี้ ถามผมว่าผมควรทำไม ผมไม่ควรทำ ถามว่าผมเสียใจไหม ผมไม่เสียใจ นอกจากนั้นแล้วผมก็ยังชี้หน้าบอกต่อไปว่า อย่าให้ผมเจอคุณที่ไหนนะ ถ้าคุณยังไม่ยุติปากเสียใส่ผม ผมจะชกคุณให้คว่ำ ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม พูดอย่างนี้ แต่พอมองย้อนหลังแล้ว ถามว่าผมควรพูดอย่างนั้นไหม ผมไม่ควรพูด
สโรชา – แต่คุณสนธิหมายความว่าในบางครั้งในบางอารมณ์ คนเรามันเป็นธรรมชาติ
สนธิ – คือมันต้องดูเหตุผลด้วย คุณอดุลย์เองรู้อยู่แก่ใจ ว่าคุณอดุลย์ทำอะไรบ้างอยู่ในสภานั้น เพราะในวุฒิสภาก็มีคนพูดจาอยู่เยอะ รู้จักคุณอดุลย์พอสมควร ว่าคุณอดุลย์มีชื่อเสียงในทางไหน เข้าใจไหมครับ ทั้งหมดนี้คุณสโรชามันย้อนกลับมาถึงบทบาทของวุฒิสภา มันเหมือนกันยังไง เหตุที่เกิดอย่างนั้น คนไปเทียบเอาบอกว่า สภาไทยเหมือนสภาไต้หวันเข้าไปแล้ว ทีนี้คนเทียบแบบนี้คนเทียบโดยไม่เข้าใจถึงข้อเท็จจริง สภาไต้หวันคือมีพรรครัฐบาล และพรรคฝ่ายค้าน คือพรรคก๊กมินตั๋ง 2 ฝ่ายทะเลาะกัน แต่ว่าสภาไทยถ้าเป็นส.ส. พรรคไทยรักไทย กับส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มาชกกัน จะเหมือนสภาไต้หวัน แต่อันนี้เป็นวุฒิสภา นัยของวุฒิสภานั้นจะต้องไม่เข้าข้างใคร จะต้องยึดถือผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก แต่เผอิญวุฒิสภาของบ้านเราเป็นวุฒิสภาที่ถือหางกัน ในยุคที่พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร เป็นประธานวุฒิสภา ยุคนั้นคำสั่งหรือว่ามติหรืออะไรก็ตามเป็นไปตามในแนวของการดูเหมือนจะรังแกพรรคไทยรักไทย แต่พอมายุคคุณสุชน ชาลีเครือ เป็นประธานวุฒิสภา ทุกสิ่งทุกอย่างก็เหมือนกับว่าจะช่วยพรรคไทยรักไทย กลายเป็นว่าทีใครทีมัน ก็เลยมีส.ส. วุฒิสมาชิกหลายคนซึ่งชอบทำตัวเป็นอีแอบ คือจริงๆแล้ว ตัวเองมีบทบาทเป็นวุฒิสมาชิก ผมไม่สนใจ จะมาจากเชียงใหม่ จะมาจากแม่ฮ่องสอน จะมาจากนครศรีธรรมราช คนคนนี้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญบอกแล้วว่า ต้องไม่สังกัดพรรคการเมืองใด ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่วิธีการกระทำ ก็จะแอบฝักใฝ่ฝ่ายรัฐบาล อีกฝ่ายก็จะแอบฝักใฝ่ฝ่ายค้าน เรื่องนี้ต้องตำหนิสมาชิกส่วนใหญ่ในวุฒิ
สโรชา – เหมือนกับไม่มีอะไรแตกต่างกับส.ส.
สนธิ – ไม่มีอะไรแตกต่างเลย เพราะฉะนั้นเมื่อทางฝ่ายค้าน หรือว่า คุณเจิมศักดิ์ ปิ่นทองได้เอาเรื่องหนังสือตากใบ เบื้องหลังตากใบมาพูด คุณเจิมศักดิ์ก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นสายของฝ่ายตรงกันข้าม ถ้างั้นส.ส.ฝ่ายวุฒิสมาชิก คุณอดุลย์ ก็เป็นที่รู้กันว่าเป็นคนซึ่งคอยป่วนให้พรรคไทยรักไทยตลอดเวลา อะไรที่จะทำให้พรรคไทยรักไทยเสียหายคุณอดุลย์จะลุกขึ้นมาป่วน คุณอดุลย์ก็มีญาติเป็นส.ส.พรรคไทยรักไทย คุณอดุลย์ก็เลยป่วน ทีนี้คุณประทินยืนอยู่ตรงกลาง คุณประทินไม่ได้เป็นไทยรักไทยหรือประชาธิปัตย์ ตรงนี้ที่ผมเคารพนับถือ เพราะว่าคุณประทินเป็นคนซึ่งตรงไปตรงมา และเป็นคนซึ่งทำหน้าที่วุฒิสมาชิก โดยภาพรวมแล้วเป็นคนซึ่งได้จรรโลงให้วุฒิสภา ยังหลงเหลือคุณประโยชน์ต่อสังคมบ้าง คุณประทินมีส่วนสำคัญเลยที่จะทำให้คนมีความรู้สึกว่า วุฒิสภามันยังพอใช้ได้มีคนอย่างคุณประทินอยู่ เพราะคุณประทินกล้าเดินไปทำในเรื่องบางเรื่องซึ่งวุฒิสภาไม่กล้าทำ วุฒิสภาไม่กล้ามาตำหนิรัฐบาล แม้กระทั่งในยุคซึ่งพล.ต.มนูญกฤต รูปขจร เป็นประธานวุฒิสภา คุณประทินก็ลุกขึ้นมาสู้ในหลายๆ เรื่อง ให้กับพรรคไทยรักไทยเช่นกัน เพราะฉะนั้นผมถือว่า คุณประทินซึ่งเป็นคนทำหน้าที่ตรวจสอบ ถ่วงดุลได้ดีในหลายกรณี ซึ่งเปรียบไม่ได้เลย กับพวกสมาชิกอีกจำนวนไม่น้อยที่มีพฤติกรรมสยบต่ออำนาจและผลประโยชน์ ชอบทำตัวเป็นอีแอบทางการเมือง มีรูปธรรมฝักใฝ่การเมือง สังกัดพรรคการเมืองในทางปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคไทยรักไทย มีทั้งนั้น ไม่ต้องเถียงกันเลย อันนี้เราเห็นกันมานานแล้ว และไม่คำนึงถึงเป้าหมายภาระหน้าที่ของวุฒิสภา ตามเป้าประสงค์ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ตรงนี้ต่างหากที่ผมบอกว่าผมเห็นใจคุณประทิน
สโรชา – คือคุณสนธิหมายความว่า ในความคิดคุณสนธิ คุณประทินทำหน้าที่ขึ้นอยู่กับหลักการและนโยบายที่กำลังถกเถียงกันอยู่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนโยบายของพรรคใด
สนธิ – คุณประทินต้องยกนิ้วให้ และผมจะบอกให้อย่างหนึ่ง คุณประทิน เป็นวุฒิสมาชิก ที่มาจากการเลือกตั้งในกรุงเทพมหานคร เสียงคุณประทินเป็นเสียงบริสุทธิ์ ที่ผมพูดนี้ผมไม่ได้หมายความว่าเสียงวุฒิสมาชิกที่มาจากต่างจังหวัดนั้นไม่บริสุทธิ์ แต่ว่าโดยเปอร์เซ็นต์แล้ว วุฒิสมาชิกที่ได้รับเลือกตั้งจากต่างจังหวัดนั้น จะมีหัวคะแนนของตัวเอง จะมีหัวคะแนนของพรรคพวกตัวเอง เช่น พรรคพวกซึ่งเป็นส.ส.พรรคประชาธิปัตย์บ้าง พรรคไทยรักไทยบ้าง ส่งคนคนนี้เข้าไปก็เอาหัวคะแนนเทเสียงให้ แต่คุณประทินแต่ไหนแต่ไรไม่เคยเล่นการเมือง พอออกจากตำรวจ ซักพักเดินขึ้นศาล เพราะโดนตำรวจด้วยกันฟ้องหลายๆ กรณี ก็ตัดสินใจลงเลือกตั้งวุฒิสภา คนกรุงเทพฯ เอาคะแนนบริสุทธิ์เลือกให้คุณประทินเข้ามา คุณประทินไม่เคยมีหัวคะแนน ผมถือว่าคุณประทินจากมุมมองคุณประทิน ถึงแม้พฤติกรรมไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม แต่ผมถือว่าท่านยังคงดำรงไว้ซึ่งคุณสมบัติความเป็นสมาชิกวุฒิสภา ไม่ได้เปลี่ยนสี แปลงธาตุ แปลงวิญญาณจิตใจให้เป็นสมาชิกสภาอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งใช้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นผมถือว่าคุณประทิน ทำอยู่ทุกอย่าง ผมเห็นใจคุณประทิน และผมไม่ตำหนิคุณประทิน แต่ถ้าถามว่าสมควรไหม ไม่สมควร คุณประทินควรจะระงับจิตใจไว้นิดนึง แต่ถ้าสมมติ คุณอดุลย์เกิดเดินไปหา แล้วคุณประทินอยู่เฉยๆ แล้วไปผลักอกคุณประทิน คุณประทิน ก็บอกว่า ถ้าคุณมาผลักผม ผมก็ต้องชกก่อน แต่คุณอดุลย์วันนี้เนื่องจากโดนชกไปแล้ว ก็บอกว่า นี่เดินมาเฉยๆ แต่พฤติกรรมการเดินของคุณอดุลย์ เดินบ่อยเหลือเกินในลักษณะแบบนี้ ไปหาคนหลายคน คือบทเรียนเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อีกหน่อยเก้าอี้ของคุณอยู่ที่ไหน นั่งอยู่ที่นั่น จะได้ไม่เกิดเรื่อง อย่ามาเที่ยวลุกเพ่นพ่านไปโน่นไปนี่ และอย่างที่ผมบอกเมื่อกี้ว่าคุณอดุลย์ต้องขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกนี้ ที่คุณประทินอายุ 70 ถ้าคุณประทินซัก 50-60 ผมว่าป่านนี้ไม่จืด
สโรชา – คุณสนธิพูดอย่างนี้ บางท่านอาจจะว่าได้หรือเปล่า ว่าอย่างนี้เป็นบทเรียนไม่ดีนะ เดี๋ยวนี้ท่านอื่นเกิดมีอารมณ์โกรธขึ้นมาบ้างจะทำตามท่านประทินทำยังไงละคะ
สนธิ – มันไม่ใช่มันต้องดูเป็นกรณีไป คุณสโรชา คุณจะยกตัวอย่างคุณประทิน และตั้งเป็นมาตรฐานว่าอีกหน่อย ส.ส.หรือส.ว.สามารถลุกขึ้น คุณประทินเป็นลูกผู้ชายพอนะ ท่านบอกว่าท่านเสียใจ ท่านไม่ขอโทษ ท่านขอโทษไม่ได้ เพราะท่านรู้ว่าท่านไม่ผิด ท่านรู้ว่าท่านถูกยั่วยุมาก่อน ทีนี้ประเด็นที่เถียงกัน ที่บอกว่าคุณประทินไปบอกว่า มีส.ว. ที่เคยค้าขายกับขุนส่า แล้วร่ำรวยมา และคุณอดุลย์เดินไปแล้วอ้างว่า เขาไม่เกี่ยวเขาต้องการไปชี้แจงหรืออะไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ต้องพูดกัน ความจริงคนนั้นรู้อยู่แก่ใจว่าใครเป็นใคร ใครบ้างค้าขายกับขุนส่า พวกของเถื่อนทั้งหลาย จนกระทั่งร่ำรวยขึ้นมาในเวลาไม่นานมีเงินเยอะแยะไปหมด คนแม่ฮ่องสอนเขารู้กันดี ผมก็รู้ ผมก็มีนักข่าวอยู่เชียงใหม่ เคยไปแม่ฮ่องสอน ก็เล่าให้ฟัง เปิดโปงหมด เพราะฉะนั้นคุณเอามือปิดฟ้าไม่ได้ พูดไม่ได้ แต่ใจคุณย่อมรู้ว่า ใครคนนั้นเป็นคนซึ่งค้าขายกับขุนส่า
สโรชา –โอเคค่ะ หมดเวลาแล้วค่ะสำหรับช่วงนี้ คุยกันพอสมควรสำหรับเรื่องหมัดๆ มวยๆ ที่เกิดขึ้น ในสภาสูงบ้านเรา คุณผู้ชมมีความคิดเห็นอย่างไรก็โทร.มาประเด็นนี้อย่าลืมว่าเป็นหัวข้อเอสเอ็มเอสให้กับเราด้วย พักซักครู่เดี๋ยวกลับมาคุยกันเรื่องสหรัฐอเมริกาค่ะซักครู่เดียวค่ะ
*************
สโรชา – กลับมาสู่เมืองไทยรายสัปดาห์ค่ะ ไปคุยกันถึงเรื่องผู้นำสหรัฐคนใหม่ดีกว่านะคะ จอร์จ ดับเบิลยู บุช จริงๆ แล้วไม่ใช่คนใหม่แต่กลับมาเป็นสมัยที่สอง หลังจากจริง ๆ ได้ฟาดฟันกันมาพอสมควรและเป็นระยะเวลาหลายต่อหลายเดือน เราเคยคุยกันแล้วเรื่องนี้ว่าโอเค บุชกลับมา
สนธิ – ผมพูดแล้วใช่ไหมว่าบุชชนะ
สโรชา – ค่ะ พูดแล้วและเป็นจริงด้วย แต่ว่าที่ดิฉันอยากจะเรียนถาม คือว่า ผลกระทบยังไงไม่รู้ แต่ว่าเมื่อไหร่เขาจะบุกอิหร่านอีก อย่างนี้ดีกว่า
สนธิ – เหตุผลเดียวที่ผมให้บุชชนะตอนนั้น 2 เหตุผล จริงๆ รวมเป็นเหตุผลเดียว คนอเมริกาห่วงใยตัวเองมาก โดยไม่สนใจว่าโลกจะเป็นยังไง เหตุการณ์ 11 ก.ย. มันเปลี่ยนชีวิตโลกไปหมดเลย เราอยู่ในโลกใบใหม่แล้ว โลกใบเก่า ที่เราเคยพูดอะไรด้วยเหตุด้วยผล ไม่มีต่อไปแล้ว โลกใบใหม่คือโลกแห่งความรุนแรง ที่บุชชนะเพราะว่า คนอเมริกันเป็นกังวลในเรื่องความปลอดภัยของตัวเอง เมื่อเป็นกังวลในเรื่องความปลอดภัยของตัวเองแล้ว คนอเมริกันต้องการผู้นำที่เข้มแข็งและเด็ดขาด เพราะฉะนั้นถ้าคนอเมริกันตั้งเป้าไว้ว่า อเมริกาคือเป้าของผู้ก่อการร้าย แทนที่จะหันมาพิจารณาว่า ทำไมผู้ก่อการร้ายถึงจงเกลียดจงชังอเมริกา เมื่อไม่ได้คิดมาในเรื่องเหตุตามหลักพระธรรมคำสั่งสอนแล้ว ที่พระพุทธเจ้าบอกว่าทุกอย่างต้องดูที่เหตุ เมื่อเขาไม่ดูเหตุ เขาดูแต่ผลอย่างเดียว เมื่อเขาดูแต่ผลว่าเป็นเป้า เขาก็เลยต้องการผู้นำที่เข้มแข็ง ผู้นำซึ่งสามารถที่จะทำให้ผลอันนั้นของเขา เขามีความสบายใจ ในนัยตัวนี้ นายบุชเหนือกว่านายแคร์รีเยอะ คุณก็ยอมรับ เพราะคุณก็เป็นคนที่วิเคราะห์การเมืองอเมริกาได้ลึกซึ้งพอสมควร เพราะฉะนั้นแล้วด้วยเหตุอันนี้บุชถึงชนะแคร์รี ทีนี้พอบุชชนะแคร์รีแล้ว นัยมันมีอะไรบ้าง คุณจำได้ไหม มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เคยออกรายการด้วยกัน และผมบอกว่า วันที่รีพับลิกัน คอนเวนชั่น ประกาศเสนอนอมิเนทบุชออกมา บุชประกาศว่าไง เขาบอกว่าพระผู้เป็นเจ้าได้มอบฉันทามติให้เขาลงมารับใช้ พระเจ้า เพื่อทำให้โลกนี้มีสันติสุข เพราะฉะนั้นแล้วการที่เขาชนะครั้งนี้ ยิ่งไปตอกย้ำสิ่งซึ่งเขาเชื่อ ว่าเขาได้มาอย่างนั้นโดยที่นายบุชยังไม่สำคัญเท่ากับคนที่แวดล้อมเขา คุณสโรชาก็ทราบว่า ประธานาธิบดีตัวจริงก็คือนายดิ๊ก เชนีย์ รองประธานาธิบดี ไม่ใช่นายบุช นายบุชคือตัวตลก ตัวข้างหน้า หุ่นเชิด ออกไปพูดเฉยๆ แต่คนดำเนินนโยบายทั้งหลายอยู่ที่คอนโดลิซ่า ไรซ์ อยู่ที่ดิ๊ก เชนีย์ และที่สำคัญที่สุด เขามีคนอยู่ประมาณ 7-8 คนที่เป็นระดับทำงาน ระดับทำงานพวกนี้จะคุมอยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม หลายๆ กระทรวง ซึ่งเป็นกระทรวงยุทธศาสตร์ของพรรครีพับลิกัน 7-8 คนนี้คือพวกนีโอคอนเซอร์เวทีฟ พวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่งเลยพวกนี้ พวก 6 หรือ8คนพวกนี้เป็นพวกซึ่งเจริญเติบโตมา และเรียนหนังสือมาในแนวนีโอคอนเซอร์เวทีฟ คือในแนวที่ได้ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่แรกแล้วว่า คนอเมริกันหรือคนผิวขาวนั้นจะต้องเป็นซุพรีม ลีดเดอร์ คือสุดยอดแห่งผู้นำของโลก พวกนี้มีความเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า อเมริกาต้องใช้อำนาจทางการทหารเข้าไป เพื่อทำให้โลกยอมในสิ่งต่างๆ ซึ่งเป็นวาระที่อเมริกาวางไว้ นั่นคือสิ่งที่เขาเชื่อมาตลอดเลย เขาไม่เคยผิด แม้กระทั่งในยุคที่บิล คลินตัน เป็นประธานาธิบดี กลุ่มคนพวกนี้เป็นกลุ่มคนซึ่งได้ร่างปฏิญญาของอเมริกายุคใหม่ขึ้นมา และเสนอให้บิล คลินตัน ไปบอกให้ดำเนินการตามแบบนี้ เผอิญบิล คลินตันไม่ทำตาม พอนายบุชขึ้นมา คนพวกนี้ก็จะเป็นคนซึ่งเข้ามายุ่งเกี่ยวและวางนโยบายให้บุช คนพวกนี้คือคนประเภทไหนบ้าง เหมือนเป็นปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการกลาโหม
สโรชา – ความมั่นคงภายใน
สนธิ – พวกนี้จะเป็นพวกซึ่งร่างนโยบายเตรียมทุกอย่าง ชงใส่พานส่งไปให้นายบุชนำไปแล้วก็ปฏิบัติต่อไป
สโรชา – คนซึ่งเป็นสายเหยี่ยวทั้งนั้นเลย
สนธิ – สายเหยี่ยวหมดครับ สายพิราบไม่มี เพราะคนพวกนี้เชื่อว่าหนึ่ง แผนที่ทางตะวันออกกลาง ต้องจัดใหม่หมด ต้องเปลี่ยนใหม่ หมายความว่าตอนนี้เขาบุกอิรักแล้ว และคุณสโรชาจำได้ไหมบุชพูดขึ้นมาคำหนึ่งหลังจากได้รับชัยชนะแล้ว เขาบอกว่าเขาจะนำประชาธิปไตยในกระบวนทัศน์ของเขา
สโรชา – เป็นประโยคเด็ด สู่ประชาคมทั่วโลก
สนธิ – ทีนี้ประชาธิปไตยของนายบุชนั้นเป็นประชาธิปไตยที่เอื้อประโยชน์ต่ออเมริกา ที่น่ากลัวที่สุดคือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะขณะนี้อเมริกาเขาถือว่าเขาเข้าตะวันออกกลางได้มากพอสมควรแล้ว เขาเข้าไปยึดอิรัก เขามีเครือข่ายเขาเรียบร้อยแล้ว แต่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เขามองว่า เขายังพึ่งพาใครไม่ได้ เพราะมีทั้งอินโดนีเซีย มีทั้งมาเลเซีย และบางประเทศ ปากีสถาน และเริ่มมีทางชายแดนภาคใต้ของไทย ถูกไหมครับ สมัยก่อน สิ่งหนึ่งซึ่งชี้ให้เห็นชัด และในรายงานการพิจารณาเรื่อง 11 ก.ย. ซึ่งผมได้อ่านบ้างบางส่วนมีอยู่หน้าหนึ่ง ระบุชัดเลย จากรายงาน ว่าพวกบรรดาผู้ก่อการร้ายที่ไปก่อการร้าย ในอเมริกานั้น มีบางส่วนได้มาใช้ประเทศไทยโดยเฉพาะทางใต้และพรมแดนต่อมาเลเซียเป็นที่พำนักพักพิง และคุณอย่าลืมว่านายฮัมบาลี ที่ถูกจับที่อยุธยาก็คือหัวหน้าเจไอ เจมาห์อิสลามิยา พวกนี้คือกลุ่มต่างๆซึ่งแต่ก่อนนั้นเป็นกลุ่มซึ่งตั้งขึ้นมาค่อนข้างจะอิสระซึ่งกันและกัน มาวันนี้พวกนี้ซื้อแฟรนไชส์มาจากอัลกออิดะห์ อัลกออิดะห์วันนี้ขายแฟรนไชส์ซะแล้ว คุณนำอันนี้มาคุณขาดอะไร ผมฝึกอบรมให้ ผมเทรนให้ ทางภาคใต้ผมจะยกตัวอย่างให้คุณสโรชาฟัง ทางภาคใต้นั้น พวกโจรก่อการร้ายที่ขี่มอเตอร์ไซค์แลยิงพวกทหารตายหรือประชาชน คุณรู้ไหมเขาฝึกกันยังไง เขาใช้กระบวนทัศน์ของโฮจิมินห์ เทรล ในสงครามเวียดนาม เวียดนามเหนือจะฝึกพวกคนเวียดนามใต้ให้มาสู้รบ กับรัฐบาลเวียดนามใต้และทหารอเมริกัน เขาใช้คนพวกนี้เดินเท้าเรื่อยๆ ขึ้นไปทางภาคเหนือ หลบเลี่ยงไปเรื่อยๆและจะมีคนทางภาคเหนือ เวียดนามเหนือมาพาไปฝึก 3-6 เดือนแล้วส่งกลับมาทางใต้ก็เช่นกันทางใต้จะมีกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ไปคัดสรรเลือกเอาเด็กหนุ่มบางส่วน เด็กหนุ่มพวกนี้จะเดินทางไปทางไหน จะเข้าระนองขึ้นมาทางเหนือไปเชียงราย ออกด่านตม.ไปเพื่อเข้าพม่า และเขาจะใช้มุสลิมเครือข่ายเดียวกันในพม่า คนพม่ามารับเด็กหนุ่มพวกนี้ซึ่งมาจากชายแดนใต้ไทย พาเดินทางไปที่บังกลาเทศ เพื่อไปฝึกที่สถานฝึกอาวุธ ฝึกวางระเบิด ฝึกลอบสังหาร และฝึกขี่มอเตอร์ไซค์และยิงเจ้าหน้าที่ ฉะนั้นคุณจะสังเกตได้ว่า พอพวกนี้ฝึก 3-6 เดือนเสร็จแล้วเขาจะส่งกลับ พวกนี้จะเดินทางกลับมาจากบังกลาเทศ ข้ามมาที่พม่า จากพม่าข้ามเข้าเชียงราย เข้าระนอง และนั่งรถไฟหรือรถบขส. กลับเข้าไปสู่ 3 จังหวัดภาคใต้ และไปตั้งเป็นเซลต่างๆ เพราะฉะนั้นคุณสโรชาจะเห็นว่า ตำรวจทหารที่เจอผู้ก่อการร้ายซึ่งขี่มอเตอร์ไซค์และยิงพวกตำรวจทหารตาย ไม่เคยจับได้
สโรชา – เพราะได้ฝึกมาอย่างนี้
สนธิ – ได้ฝึกเป็นระบบมาเรียบร้อยแล้ว ไปหารังในการฝึก หาไม่เจอ ข้อมูลอันนี้หน่วยสืบราชการลับไทย หรือทหารไทย ตำรวจไทยอยากจะรู้ ผมจะให้เป็นวิทยาทาน และไม่ต้องไปหาที่ไหน ผมจะบอกให้ไปเข้าเว็บไซต์ไหน อ่านแล้วจะรู้ทันทีว่าเป็นยังไง มีชื่อเสร็จเรียบร้อยหน่วยงานไหนเขาฝึกให้ และผมจะบอกเอาบุญให้กับหน่วยงานราชการไทย ว่าวิธีที่จะเอาที่ปรึกษาเพื่อที่จะมาสู้กับผู้ก่อการร้ายนี้อย่าชักศึกเข้าบ้าน อย่าไปเอาเงินซีไอเอ เงินอเมริกันเหมือนอย่างที่ท่านพล.ต.ท.ปรุง บุญผดุง ท่านบอกว่า เอาเงินมาเพื่อสร้างตึก เงินร้อยกว่าล้านสร้างตึก ประเทศไทยไม่มีหรือ มี จริงๆ ไม่ได้เอาเงินมาสร้างตึกหรอก เงินก้อนนั้นคือเงินที่มาฝึกอบรมและเอามาที่จะให้ประเทศไทยหาข้อมูลและเขาขอลิ้งค์ต่อข้อมูลกับเรา ถ้าจะต้องการปราบ ไม่ต้องใช้อเมริกันมาสอนเราปราบ ถ้าเราไม่ชำนาญเรื่องนี้ ประเทศเดียวในภูมิภาคนี้และในโลกนี้ที่ช่วยเราได้คืออินเดีย เพราะอินเดียสู้กับผู้ก่อการร้ายในแคชเมียร์มาตลอด มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ แต่พอนายบุชขึ้นมาแล้ว การเจรจาต่อรอง ของเขามีน้ำหนัก เพราะเขาอยู่อีก 4 ปี ตอนนี้ที่เขาจะเริ่มถล่มทลายเข้าไปในประเทศไทยแล้ว เขาจะเริ่มเลย เฮ้ย เข้ามาร่วมขบวนการกัน ซักพักโทรศัพท์ถึงนายกฯ ทักษิณ ผมเชื่อต้องมีแน่นอน เมื่อใดก็ตามที่เราต่อสายกับเขาแล้วเราเอากำลังเขาหรือเอาความรู้ความสามารถของเขา เอาอุปกรณ์ของเขามา เริ่มเชื่อมโยงทางข้อมูล เมื่อนั้นเราถูกชักศึกเข้าบ้านแน่นอน
สโรชา – คือมีนโยบายต่างประเทศของบุชอยู่ 2 ประการซึ่งดูเหมือนว่าเขาพยายาม จะเปิดทางสำหรับเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว ประการแรกเลย คือเขาจะขอความร่วมมือจากยุโรป เพื่อจัดการกับอิหร่าน เรื่องของอาวุธนิวเคลียร์ ประการที่สอง คือจะย้ายกองกำลังที่เคยประจำอยู่ในยุโรป ในช่วงหลังสงครามเย็น ย้ายมาในประเทศที่เขาเรียกว่า ประเทศที่อยู่ด่านหน้าในสงครามการก่อการร้าย ตรงนี้เขากำลังหมายถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยนะคะ
สนธิ – แน่นอนที่สุด ด่านหน้า เพราะสำหรับเขาแล้ว ณ วันนี้ เขาถือว่าอัฟกานิสถานในสายตาของเขามีการเลือกตั้งไปแล้ว นายฮามิด คาร์ไซ ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี เป็นคนของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่คำถามคือว่าเหตุการณ์สงบ หรือไม่สงบเขาไม่สนใจ เขาต้องการโชว์ให้ชาวโลกเห็นว่า พอฉันเข้ามายึดอัฟกานิสถานมีการเลือกตั้งแล้ว เป้าหมายต่อไปอิรัก ที่น่ากลัวที่สุดคือว่า ถ้าอเมริกาเริ่มรุกมาทางนี้ พวกเซลผู้ก่อการร้ายสากล อาจจะเริ่มเห็นไอเดียแล้วว่า เอาละอเมริกาต้องการที่จะใช้ 3 จังหวัดภาคใต้ เป็นฟรอนท์ในการเปิดสงคราม ผมขอเล่นด้วยคน นี่ไงตรงนี้เข้าใจไหม ที่น่าเป็นห่วงตรงนี้ ว่าผมขอเล่นด้วยคน เมื่อเล่นด้วยคนแล้ว คนที่โชคร้ายคือพวกเรา ผมถึงบอกว่าเรื่อง 3 จังหวัดภาคใต้นั้นจริงๆ แล้ว ต้องหาโอกาสพูดอีกซักครั้งหนึ่ง เพราะว่าผมมีแนวความคิดที่ผมคิดว่าน่าจะแก้ได้ ถ้ารัฐบาลใจกว้างพอที่จะเปิดหูฟัง และอย่าทำตนเป็นภูเขายอดที่สูงที่รับน้ำไม่ได้ ทำตนเป็นหนองน้ำและทำตัวให้ต่ำ ไม่มีอัตตาและรับฟังความคิดเห็นและผมจะเล่าให้ฟัง ว่าเป็นยังไงบ้างที่ควรจะทำได้ แต่ที่น่ากลัวมากอย่างที่บอกอิหร่านนี่เป้าต่อไปแน่นอนเหมือนอย่างที่ผมเคยพูด อิรัก เมื่อก.ค. ปี 2546 ตอนนั้นว่าบุชต้องบุกอิรักแน่ แต่การบุกอิหร่านงวดนี้จะบุกเหมือนบุกอิรักแบบนั้นคงทำไม่ได้ เพราะว่ารู้ทันกันหมดแล้วทั่วโลก ฉะนั้นถ้าบุชบุกอิหร่านครั้งหนึ่ง มันจะไปซ้ำรอยเดิม แต่ว่าจะมีกุศโลบายหลายๆ อย่าง ที่จะซอยอิหร่านหรือว่า สร้างความวุ่นวายหลังจากที่เขายึดอิรักได้แล้ว เขาอาจจะส่งทหารไปเพิ่มและตั้งทหารติดพรมแดนอิหร่านขึ้นมาและก็สร้างเหตุการณ์เกิดขึ้น เพื่อให้ตัวเขารุกเข้าไปในอิหร่านได้ทีละคืบ
สโรชา – ค่ะ ช่วงนี้หมดเวลาในเบรกนี้แล้ว เราจะพักกันซักครู่หนึ่ง กลับมา นอกจากจะดูผลโพลแล้ว จะเรียนถามถึงราคาน้ำมัน ใกล้ตัวคนไทยซักนิดนึง สำหรับราคาน้ำมัน ถึงแม้ว่าพอบุชได้ตำแหน่งแล้ว และราคาตกลงไปพอสมควรเลย 2 เหรียญ ภายในวันเดียว ตรงนี้หลายๆ คนบอกว่า แนวโน้มภายภาคหน้าระยะยาวต้องขึ้นต่อเนื่องแน่นอน จริงเท็จขนาดไหนเดี๋ยวกลับมาคุยกันค่ะ
*************
สโรชา – กลับมาช่วงสุดท้ายของเมืองไทยรายสัปดาห์ ไปดูผลโพลกันนะคะเราเรียนถามคุณผู้ชมว่าคุณผู้ชมคิดว่าพล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ควรจะลาออกจากตำแหน่งส.ว.หรือไม่ คุณผู้ชมตอบกลับมาว่าไม่ควรลาออก 69 เปอร์เซ็นต์ ควรจะลาออก 31 เปอร์เซ็นต์ค่ะ เดี๋ยวซักครู่เราจะไปดูผู้โชคดี สุ่มขึ้นมาสำหรับผู้โชคดีที่จะได้รับรางวัล พานาโซนิกเอ็กซ์ 200 ในสัปดาห์นี้ 1 เครื่องและผู้โชคดีที่จะได้รับทีเชิ้ตจากฟรีอินเตอร์เน็ต 3 ตัว อีกซักครู่คงจะปรากฏทางหน้าจอนะคะ สำหรับหมายเลขผู้โชคดี เดี๋ยวทางรายการจะติดต่อกลับไป เพื่อจะมารับรางวัลนี้ หมายเลขผู้โชคดี ตามที่ปรากฏทางหน้าจอ อีกซักครู่จะสุ่มอีก 3 หมายเลขเพื่อที่จะแจกทีเชิ้ต ฟรีอินเตอร์เน็ต 3 ตัวค่ะ ซักครู่หนึ่งนะคะ ฟรีอินเตอร์เน็ตเราแจกกันทุกสัปดาห์ สำหรับทีเชิ้ตและโทรศัพท์มือถือพานาโซนิก ทางรายการจะติดต่อกลับไป กลับมาสู่เรื่องราวของสหรัฐอเมริกาบ้าง ราคาน้ำมันแน่นอนค่ะได้รับผลกระทบ ถึงแม้ว่าจะลงไปค่อนข้างจะเยอะ แต่เขาบอกว่าแนวโน้มระยะยาวนี้ ต้อง 50 กว่า
สนธิ – น้ำมันกลับไม่น่ากลัว เพราะน้ำมันมันแพงขึ้นยังไงก็ตามมันจะใช้ระยะเวลาหนึ่งปรับตัว วันนี้เราลอยตัวน้ำมันเบนซินไปแล้ว จะสังเกตว่าคนไม่บ่นแล้ว เพราะเริ่มปรับตัวได้ ชิน คือว่าถ้ามันแพงมาก และต้องใช้เงินมากก็ลดการใช้ลง โดยปริยาย ที่น่ากลัวคือว่า ถ้าสหรัฐอเมริกายังใช้นโยบายรุกรานชาวบ้านเขาทั่วโลก การทำสงครามทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นสงครามเพื่อปราบปรามต่อสู้ผู้ก่อการร้ายเป็นสงครามที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า นอน-โปรดัคทีฟ มันไม่ใช่การผลิต มันเป็นนอน-โปรดัคทีฟ สเปนดิ้ง การใช้เงินนั้นถ้าใช้เงินเพื่อลงทุนและมีเครื่องจักรผลิตข้าวของออกมาไม่เป็นไร แต่นี่ลงทุนไปเพื่อทำสงครามมันไม่มีรีเทิร์น ถามว่าวันนี้อเมริกาใช้เงินอยู่ในอิรัก ปีหนึ่งประมาณ 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ วันนี้อเมริกามีงบประมาณที่ติดลบ อยู่ 540,000 ล้านเหรียญ แปลว่า อเมริกาจำเป็นที่จะต้องพึ่งเงินจากต่างประเทศ เงินจากรัฐบาลไทย เงินจากจีน เงินจากญี่ปุ่น ที่เราส่งออกแล้วได้เป็นดอลลาร์ แล้วเราก็เอาเงินดอลลาร์ที่เราส่งออก ไปซื้อพันธบัตรของอเมริกาเพื่อให้อเมริกาเอาพันธบัตรนั้น เอามารองรับหนี้ตัวเองที่ตัวเองสร้างจากสิ่งต่างๆ เหล่านี้ คำถามมีอยู่ว่า งบประมาณติดลบ 540,000 ล้านนั้นจะติดลบได้ต่อไปอีกนานแค่ไหน นั่นคือสิ่งที่น่ากลัว คุณสโรชาจะเห็นว่า 3 ปีที่ผ่านมานี้ ค่าของเงินดอลลาร์อะเก็นส์ เงินยูโร หายไป 30 เปอร์เซ็นต์ ผมคำนวณอย่างคร่าวๆ ว่านายบุชอีก 4 ปีข้างหน้า ถ้าหากว่านายบุชยังไม่เปลี่ยนนิสัยใจคอหรือยังไม่เลิกการเป็นอันธพาลแบบนี้ต่อไป หรือว่าไม่หาสาเหตุว่าทำไมผู้ก่อการร้ายถึงจงเกลียดจงชังอเมริกาและแก้ปัญหาตรงนั้นผมเชื่อว่าค่าเงินดอลลาร์จะต้องติดลบต่อไป หายไปอีกอย่างน้อย 30-40 เปอร์เซ็นต์ แปลว่าในระยะเวลา 8 ปี เงินดอลลาร์นั้นมูลค่าหายไปประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ และนี่จะเป็นคำตอบโยงกลับมาหาคุณสโรชาว่าทำไมราคาน้ำมันมันแพง ที่ราคาน้ำมันแพง เพราะว่าพวกอาหรับที่ขายน้ำมันออกมา มีความรู้สึกว่ามูลค่าดอลลาร์ที่เข้ามาซื้อน้ำมันวันนี้เมื่อเทียบกับ 10-20 ปีที่แล้ว มันเทียบไม่ได้เลย ถึงแม้ว่าจะเป็นมูลค่าที่สูงกว่า มันยังน้อยกว่ามูลค่าสมัยก่อน พวกอาหรับก็เลยฉลาด เอาราคาน้ำมันไปอิงราคาทองคำ ไม่อิงราคาดอลลาร์ เพราะฉะนั้นทองคำ ปี 2546 ก.ค. ที่ผมพูด บาทละ 4,700 ปีนี้บาทละ 8,000 กว่า ทองคำราคาเท่าไหร่ ดอลลาร์ต้องราคาเท่านั้น นั่นคือที่มาของว่าทำไมน้ำมันจู่ๆ ถึงพรวดมากลายเป็น 50-60 เพราะไปอิงกับราคาทองคำ เพราะว่าทางอาหรับก็บอกว่า เฮ้ย 20 ปีที่แล้ว ฉันเคยขายน้ำมันได้ราคาเท่านี้ เพราะฉะนั้นแล้ว มา 20 ปีนี้ ในเมื่อดอลลาร์มันตก ฉันจะต้องอิงทองคำเหมือนเดิม นายก็ต้องเพิ่มจำนวนดอลลาร์ขึ้นมา คำถามที่กลัวที่สุดคือว่า ล่าสุดจากการที่ผมเช็คในเว็บไซต์ ประเทศต่างๆ อย่างเช่นประเทศไทยคือประเทศที่ไปซื้อพันธบัตรอเมริกัน เดี๋ยวนี้ลดการซื้อลงแล้ว จากแต่ก่อนเคยซื้อ 100 เปอร์เซ็นต์ เดี๋ยวนี้ซื้อ 40 เปอร์เซ็นต์ หายไป 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถูกแปรสภาพเป็นเงินเยนบ้าง เป็นทองคำบ้าง ไปเป็นยูโรบ้าง อเมริกาก็เลยขาด 60 เปอร์เซ็นต์นี้ เลยต้องวิ่งเข้ามาหาเงินกู้จากในตลาดพันธบัตร ในตลาดหลักทรัพย์ของตัวเอง เมื่อเข้าไปหาเงินกู้ในตลาดหลักทรัพย์ ในตลาดพันธบัตรนั้นดอกเบี้ยอเมริกาก็ต้องขึ้น ดอกเบี้ยพันธบัตรก็ต้องสูงขึ้น เพื่อดึงนักลงทุนมาซื้อ ดอกเบี้ยอเมริกาขึ้น ดอกเบี้ยทั่วโลกก็ต้องขึ้นตาม นั่นคือโลกกำลังก้าวเข้าไปสู่ภาวะของเศรษฐกิจที่จะต้องถดถอยภายในปลายปี 2548 2549 และ 2550
สโรชา – โอ้โหน่ากลัวนะ
สนธิ – ไม่เชื่อจดเอาไว้ ท่านผู้ชม ตั้งแต่ ก.ค. 2546 ผมพูดยังไงไม่เคยผิดและคอยดูต่อไปแล้วกัน
สโรชา – ค่ะ แสดงว่าต้องเตรียมตัวเตรียมใจในระดับหนึ่ง ว่าปลาย ปี 2548 2549 2550 เศรษฐกิจโลกจะถดถอย จะทำอะไรตอนนี้ต้องคิดระยะยาวซักนิดนึง อย่าสร้างหนี้สร้างสินไว้ ก็รอดูว่าพ่อหมอของเราจะแม่นหรือไม่แม่นอย่างไร เท่าที่ผ่านมา ที่ติดตามมา ถ้าคุณผู้ชมติดตามมาตั้งแต่ปีที่แล้ว รายการเราสู่ปีนี้ พ่อหมอของเราค่อนข้างจะแม่นพอสมควรนะคะ เพราะฉะนั้นลองเตรียมตัวเตรียมใจกันซักนิดนึงค่ะ สำหรับเศรษฐกิจที่อาจจะฟุบในช่วงปลายปีหน้า ต่อเนื่องไปอีก 2 ปี อย่าเพิ่งไปสร้างหนี้สร้างสินไว้กับใครนะคะเพราะอาจจะลำบากใน 2-3 ปีข้างหน้าค่ะ หมดเวลาแล้วค่ะ สำหรับเมืองไทยรายสัปดาห์ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ดิฉัน สโรชา พรอุดมศักดิ์ สวัสดีค่ะ
*************
สโรชา – สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับเข้าสู่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์อาหารสมองก่อนเข้านอนในทุกคืนวันศุกร์ค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้ง กับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ดิฉัน สโรชา พรอุดมศักดิ์ คุณผู้ชมค่ะ ข่าวเด่นประจำสัปดาห์นี้คงจะไม่พ้นเรื่องราวการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐนะคะ ในที่สุดจอร์จ ดับเบิลยู บุชก็สามารถที่จะล้างประวัติศาสตร์ของพ่อ กลับมานั่งในตำแหน่งสูงสุดของสหรัฐเป็นสมัยที่สอง แต่หลังจากที่ได้รับเลือกตั้งแล้วก็มีหลายท่านวิพากษ์วิจารณ์และเป็นห่วงว่าสถานการณ์การเมืองโลกในอีก 4 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไรจะร้อนรุ่มเหมือน 4 ปีที่ผ่านมาหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความพยายามหรือความต้องการของสหรัฐอเมริกาที่จะเข้ามาตั้งฐานทัพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วันนี้คงจะต้องคุยกันเรื่องนี้ยาวหน่อยนะคะ คุณสนธิ
สนธิ - How many roads must a man walk down
สโรชา – คุณสนธิร้องเพลงนี้ก็ดีแล้ว คุณผู้ชมอาจจะสงสัยนะคะว่า สัปดาห์ที่แล้วตอนท้ายรายการดิฉันเป็นอะไรไป ซึ่งก็มีคำถามมาค่อนข้างจะเยอะนะคะว่าเอ๊ะ ร้องไห้หรือเปล่า และถ้าร้องร้องเพราะอะไร ก็อยากจะเรียนให้ทุกๆท่านทราบถ้าหากว่าดูอยู่ในสัปดาห์ที่แล้ว จริงๆ แล้วสะเทือนใจในเหตุการณ์ พอเจอเพลง ดิฉันไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีการเปิดเพลงนี้
สนธิ – โดนแกล้ง
สโรชา – โดนแกล้ง ใช่ พอเปิดเพลงนี้ ก็ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยอยู่ ก็ขอประทานโทษคุณผู้ชม ณ ทีนี้ด้วย เพราะควบคุมอารมณ์ไม่ได้เท่าที่ควร
สนธิ – จะร้องซ้ำวันนี้ก็ได้นะ
สโรชา – ไม่ควรค่ะ ไม่ควรทำเป็นกิจวัตรนะคะ แต่ว่าดิฉันขอถามนิดนึงว่า ได้ข่าวว่าคุณสนธิไปจัดรายการเป็นภาษาลาวหรือค่ะ
สนธิ – ความจริงคุณสโรชาเองก็เว้าลาวเหมือนกันนะ
สโรชา – ใช่ไหมค่ะ เราสองคนพูดเป็นภาษาลาว จริงๆ แล้วไปฟังเสียงดีกว่า เพราะดิฉันอธิบายไม่ถูกเหมือนกันนะคะ ว่า อะไรยังไง ไปฟังเสียงค่ะ เราทั้ง 2 คน จัดรายการเป็นภาษาลาว เป็นอย่างไร ไปฟังกันค่ะ
(รายการภาษาลาว)
สนธิ – เป็นรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ที่พากษ์ลาว ลิปซิ้งเลยครับ เหมือนเลยครับทุกอย่าง คือมีพี่น้องประชาชนชาวลาว ที่พำนักอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ติดรายการนี้และได้ดูโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมไป ก็เลยขอ เราก็เลยตัดสินใจที่จะพากษ์เป็นภาษาลาวให้ เพราะฉะนั้นคุณสโรชากับผมต้องเว้าลาว
สโรชา – ดิฉันไม่เคยทราบเลยค่ะว่าดิฉันพูดภาษาลาวได้ชัดขนาดนี้
สนธิ – ผมมองครั้งแรก ผมยังขำเลยครับ ยังหัวเราะไม่หายเลย
สโรชา – แต่อีกเรื่องหนึ่งที่ค่อนข้างจะเด็ดในสัปดาห์นี้คือเรื่องราวของหมัดมวยในสภาสูงของเรา
สนธิ – หมัดชุดครับ แยบซ้าย ตามด้วยขวาและตกลงด้วยซ้ายตรงหน้าอกอีกที
สโรชา – ท่านเป็นโปรเฟสชั่นแนลนี่ค่ะ
สนธิ – เป็นมืออาชีพครับ คือท่านส.ว. อดุลย์ วันไชยธนวงศ์ เป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก เพราะคุณประทินอายุ 70 แล้ว ถ้าซัก 40 กว่าๆ ผมว่าจะได้เห็นรายการเทคนิเคิล น็อคเอาท์ กันตรงนั้นเลย แต่ว่าเรื่องนี้ต้องคุยเพราะมีนัยหลายๆ อย่าง นอกเหนือจากกำปั้นที่ฟาดปาก คือประเด็นพล.ต.อ.ประทิน ทิ่มปากคุณอดุลย์ วันไชยธนวงศ์ มีประเด็นมากกว่าการชกหน้าคุณอดุลย์
สโรชา – วันนี้เราคงต้องได้คุยกันเรื่องนี้ด้วยค่ะ คำถามเอสเอ็มเอสของเราในสัปดาห์นี้ก็เรียนถามคุณผู้ชมเรื่องนี้ว่า คุณผู้ชมเห็นว่า พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ จะต้องลาออกจากตำแหน่งส.ว.หรือไม่ ควราลาออกกดเอ็มที 1 ไม่ควรลาออกกดเอ็มที 2 ส่งมาที่ 84820 ค่ะ หรือโทร.มาที่ 02-201-6055-60 ขอบคุณฟรีอินเตอร์เน็ตค่ะ ที่เอื้อเฟื้อระบบเอสเอ็มเอสให้กับเราเช่นเคยค่ะ เราแจกโทรศัพท์มือถือ สัปดาห์นี้เป็นโทรศัพท์มือถือพานาโซนิก เอ็กซ์ 200 ค่ะ แจกกัน 1 เครื่อง เราจะสุ่มหมายเลขผู้โชคดีท้ายรายการค่ะ ส่งมาเยอะๆ นะคะ นอกจากนี้แล้วจะแจกเสื้อฟรีอินเตอร์เน็ตเป็นเสื้อทีเชิ้ต 3 ตัว ให้เช่นกัน สำหรับผู้โชคดีทั้ง 4 ท่านคือโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องและเสื้อทีเชิ้ตอีก 3 ตัว นอกจากนี้ประชาสัมพันธ์ซักนิดนึงนะคะ ในตลอดเดือน พ.ย.นี้ทุกวันอาทิตย์ที่ 7 14 21 และ 28 อยากจะเรียนเชิญทุกๆ ท่านเข้าสู่โครงการผู้จัดการสุขภาพในเวลาบ่ายโมงถึง 4 โมงเย็น โดยเข้าร่วมอบรมกับอาจารย์สิน ภิรมย์ภักดี ค่าอบรม 120 บาท เราจะรับจำนวนจำกัด คือ 20 ท่านเท่านั้น ที่อาคารอนุรักษ์บ้านเจ้าพระยา สนใจติดต่อ 02-629-2211 ต่อ 1117 1118 และ 1152 ค่ะ พักซักครู่เดี๋ยวกลับมาคุยกันค่ะ
*************
สโรชา – กลับมาสู่เมืองรายสัปดาห์ค่ะ ไปคุยกันเรื่องหมัดๆ มวยๆ ก่อนดีกว่า ดิฉันเห็นภาพตามสื่อโทรทัศน์แล้วตกใจ คุณสนธิ ตกใจหรือเปล่าค่ะ ตอนที่เห็น
สนธิ – (หัวเราะ) ผมไม่ได้ตกใจ เพราะผมรู้จักท่านประทินมานานแล้ว ท่านประทินชื่อเดิมท่านชื่อ ประทิน นามสกุลก้อนแก้ว ไม่ได้นามสกุล สันติประภพ ท่านประทินเป็นมนุษย์โบราณพันธุ์พิเศษ พันธุ์สุดท้ายเป็นคนซึ่งทางธรรมเรียกว่า เป็นคนคิดอะไรก็พูดอย่างนั้น ตรงไปตรงมา เป็นคนโผงผาง จริงๆแล้วเป็นคนไม่มีพิษ มีภัยกับใครนะคะ สมัยที่เป็นอธิบดีกรมตำรวจ สมัยก่อนซึ่งเขาเรียกกันว่าอธิบดีกรมตำรวจ ท่านประทินเป็นคนซึ่งตำรวจทุกคนกลัว เพราะว่าถ้าทำผิดนิดผิดหน่อย ย้ายหมดเลย คือไม่สนใจเลยนะ แล้วจะยิ่งใหญ่มาจากไหน ไม่เคยกลัวใคร อาจจะเป็นเพราะว่าโดยพื้นฐานแล้วตั้งแต่หนุ่ม คือเรียนหนังสือมาเคยเป็นนักมวยสากลสมัครเล่น ได้แชมป์เหรียญทอง ทีนี้แต่เป็นคนใจร้อน คือว่ากันว่า เวลาท่านประทินไปตีกอล์ฟ พวกแคดดี้ในสนามกอล์ฟ จะจับฉลากว่าใครเป็นคนแบกถุง ไม่มีใครอยากไป เพราะเป็นขี้โมโห มีอยู่ครั้งหนึ่ง กำลังพัดลูกจะลงหลุม นกอยู่บนต้นไม้ส่งเสียงร้องจิ๊จ๊ะ หันไปไล่นก ไปตวาดนกให้เงียบเพื่อจะดีกอล์ฟ คือโดยพื้นฐานเป็นคนนิสัยอย่างนั้นนะ ทีนี้ถามว่าคุณอดุลย์ วันไชยธนวงศ์ นึกไม่สบายอะไรถึงจะต้องลุกจากที่นั่งตัวเอง คือเก้าอี้เขามีให้ตัวเองนั่งอยู่ไม่นั่ง และคุณอดุลย์ มีชื่อเสียงมาก ประเภทชอบเดินไปหาคน
สโรชา – เดินไปเพื่ออะไรค่ะ
สนธิ – เดินไปเพื่อพูดจากอะไรไม่รู้ หลายๆ และช่วงหลังใน 2-3 วัน ทางพวกส.ว. หลายๆ คนที่ถูกคุณอดุลย์ เดินไปแบบนี้ ก็เริ่มมาออกให้สัมภาษณ์ว่าคุณอดุลย์ชอบเดินแบบนี้ ผมเองก็โดน คือ ผมจะอุปมาอุปมัยให้ฟังแล้วกัน เหมือนกับคุณสโรชา พวกเราอยู่ในซอยซอยหนึ่งเดินเข้าเดินออกตลอดเวลา และจะมีนักเลงนั่งหน้าปากซอย บอกว่าคุณสโรชามานี่ซิ พอมาถึงก็เอามือเขกหัวคุณสโรชาป๊อก คนโน้นเดินมาก็เขกป๊อก ทุกคนโดนเขกก็หนีหมด มีอยู่วันหนึ่งเดินเข้ามา ไปเขกหัวคุณประทิน คุณประทินแกชกสวนตูม หงายหลังลุกขึ้นมาทำอะไรไม่ถูก เพราะเคยเดินเข้าไปหาเขา ทีนี้พอเดินเข้าไปหาคุณประทิน คนอายุ 70 และมีเลือดนักสู้อยู่แล้ว ก็คิดถึงสมัยเป็นนักมวย คุณแอ้มเล่นเดินรี่มาหาผม ผมก็ต้องซ้ายก่อน และขวา คือมันเหมือนโดยอัตโนมัติ คือเคยฝึกมาแล้วอย่างนี้ใช่ไหม นี่ขนาด 70 แล้วยังเล่นเอาปากแตก และที่ผมขำ ผมขำสุดฤทธิ์สุดเดชเลย คือว่าคุณสำราญรอดเพชร สัมภาษณ์คุณอดุลย์ วันไชยธนวงศ์ ส.ว. แม่ฮ่องสอน ผมหวังว่าคนแม่ฮ่องสอนคงจะฟังอยู่ ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคนแม่ฮ่องสอนคิดยังไง ก็คือว่า คุณสำราญถามว่า ถามน่ารักมาก บอกคุณอดุลย์ตอนที่โดนชก คิดจะชกตอบไหม คุณอดุลย์บอกว่า ผมกำลังจะฮึด ตาเหลือบไปเห็นพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็เลยนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณก็เลยหยุด ผมก็เลยนึกในใจว่าคุณอดุลย์ใช้ได้และผมอยากจะบอกชาวแม่ฮ่องสอนว่าถ้าวันข้างหน้า คุณอดุลย์หมดเทอมอีก 2 ปีบอกว่าไม่ต้องทำอาชีพอะไร เปิดคณะลิเก คุณอดุลย์เก่งมากๆ เป็นสุดยอดลิเกเลยงานนี้ คือพูดได้อย่างนี้ ผมต้องยกมือให้เลยนะ ว่าพอผมเงยหน้าไปเจอพระบรมฉายาลักษณ์นิ่งเลย และพระบรมฉายาลักษณ์ก็มีให้ดูตลอดเวลา ทำไมเวลาคุณมองพระบรมฉายาลักษณ์ทำไมคุณไม่รู้จักนั่งอยู่กับที่เฉยๆ และไม่ต้องเดิน เดินเข้าไปทำไม
สโรชา – แต่ว่าหลายๆ ท่านก็ถามนะคะว่า จริงๆ แล้วเดินเข้าไปก็ยังไม่ทันทำอะไรเลย จริงๆแล้วสวนออกมาก่อนอย่างนั้น บอกว่าป้องกันตัว
สนธิ – คุณสโรชาเดินปรี่เข้าไป ในวงการนักเลง หรือวงการลูกผู้ชาย ผมเด็กโรงเรียนประจำ การชกต่อยกันเป็นเรื่องธรรมดา เป็นสัญชาตญาณของเด็กโรงเรียนประจำ สมมติว่าไม่ถูกกัน ถ้าคุณเดินปรี่เข้ามาหาผม ผมไม่ฟังอะไรแล้วผมต้องชกก่อน ต้องต่อยก่อน เพราะผมไม่รู้คุณจะมาอีท่าไหน
สโรชา – เขาอาจจะมาดีก็ได้ เขาอาจจะอยากมาคุย
สนธิ – เอาอย่างนี้ดีกว่า โดยสรุป ผมคิดว่าคุณประทินไม่สมควรทำ โดยวุฒิภาวะแล้ว เป็นวุฒิสมาชิก ถามผมว่า ถ้าผมเป็นคุณประทิน ผมจะทำไหม ผมก็ทำ แต่ว่าถามว่าควรไหม ก็ไม่ควร แต่ถ้าถามผมว่าผมเสียใจ เฉพาะผมนะ ผมไม่เสียใจ
สโรชา – ไม่ห่วงหรือค่ะว่าภาพพจน์จะดู...
สนธิ – ผมไม่มีอะไรจะปิด ผมเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ผมก็มีรัก โลภ โกรธ หลง คือคุณประทินเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่าเหตุผลทำไมคุณประทินกับคุณอดุลย์ถึงเป็นอย่างนั้น ครั้งหนึ่งเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ซักประมาณ ก่อนปี 2540 ผมเคยกระชากคอคนคนหนึ่งบนเครื่องบินการบินไทย และกระแทกเข้ากับผนังเครื่องบิน เหตุผลเพราะว่าผมสติแตก ผมโกรธ เพราะคนคนนั้นพูดจากวนโอ๊ย ผมก็เลยคิดว่า คนคนนี้ถ้าพูดด้วยเหตุผลไม่ได้ ต้องเล่นแบบนี้ ถามผมว่าผมควรทำไม ผมไม่ควรทำ ถามว่าผมเสียใจไหม ผมไม่เสียใจ นอกจากนั้นแล้วผมก็ยังชี้หน้าบอกต่อไปว่า อย่าให้ผมเจอคุณที่ไหนนะ ถ้าคุณยังไม่ยุติปากเสียใส่ผม ผมจะชกคุณให้คว่ำ ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม พูดอย่างนี้ แต่พอมองย้อนหลังแล้ว ถามว่าผมควรพูดอย่างนั้นไหม ผมไม่ควรพูด
สโรชา – แต่คุณสนธิหมายความว่าในบางครั้งในบางอารมณ์ คนเรามันเป็นธรรมชาติ
สนธิ – คือมันต้องดูเหตุผลด้วย คุณอดุลย์เองรู้อยู่แก่ใจ ว่าคุณอดุลย์ทำอะไรบ้างอยู่ในสภานั้น เพราะในวุฒิสภาก็มีคนพูดจาอยู่เยอะ รู้จักคุณอดุลย์พอสมควร ว่าคุณอดุลย์มีชื่อเสียงในทางไหน เข้าใจไหมครับ ทั้งหมดนี้คุณสโรชามันย้อนกลับมาถึงบทบาทของวุฒิสภา มันเหมือนกันยังไง เหตุที่เกิดอย่างนั้น คนไปเทียบเอาบอกว่า สภาไทยเหมือนสภาไต้หวันเข้าไปแล้ว ทีนี้คนเทียบแบบนี้คนเทียบโดยไม่เข้าใจถึงข้อเท็จจริง สภาไต้หวันคือมีพรรครัฐบาล และพรรคฝ่ายค้าน คือพรรคก๊กมินตั๋ง 2 ฝ่ายทะเลาะกัน แต่ว่าสภาไทยถ้าเป็นส.ส. พรรคไทยรักไทย กับส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มาชกกัน จะเหมือนสภาไต้หวัน แต่อันนี้เป็นวุฒิสภา นัยของวุฒิสภานั้นจะต้องไม่เข้าข้างใคร จะต้องยึดถือผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก แต่เผอิญวุฒิสภาของบ้านเราเป็นวุฒิสภาที่ถือหางกัน ในยุคที่พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร เป็นประธานวุฒิสภา ยุคนั้นคำสั่งหรือว่ามติหรืออะไรก็ตามเป็นไปตามในแนวของการดูเหมือนจะรังแกพรรคไทยรักไทย แต่พอมายุคคุณสุชน ชาลีเครือ เป็นประธานวุฒิสภา ทุกสิ่งทุกอย่างก็เหมือนกับว่าจะช่วยพรรคไทยรักไทย กลายเป็นว่าทีใครทีมัน ก็เลยมีส.ส. วุฒิสมาชิกหลายคนซึ่งชอบทำตัวเป็นอีแอบ คือจริงๆแล้ว ตัวเองมีบทบาทเป็นวุฒิสมาชิก ผมไม่สนใจ จะมาจากเชียงใหม่ จะมาจากแม่ฮ่องสอน จะมาจากนครศรีธรรมราช คนคนนี้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญบอกแล้วว่า ต้องไม่สังกัดพรรคการเมืองใด ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แต่วิธีการกระทำ ก็จะแอบฝักใฝ่ฝ่ายรัฐบาล อีกฝ่ายก็จะแอบฝักใฝ่ฝ่ายค้าน เรื่องนี้ต้องตำหนิสมาชิกส่วนใหญ่ในวุฒิ
สโรชา – เหมือนกับไม่มีอะไรแตกต่างกับส.ส.
สนธิ – ไม่มีอะไรแตกต่างเลย เพราะฉะนั้นเมื่อทางฝ่ายค้าน หรือว่า คุณเจิมศักดิ์ ปิ่นทองได้เอาเรื่องหนังสือตากใบ เบื้องหลังตากใบมาพูด คุณเจิมศักดิ์ก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นสายของฝ่ายตรงกันข้าม ถ้างั้นส.ส.ฝ่ายวุฒิสมาชิก คุณอดุลย์ ก็เป็นที่รู้กันว่าเป็นคนซึ่งคอยป่วนให้พรรคไทยรักไทยตลอดเวลา อะไรที่จะทำให้พรรคไทยรักไทยเสียหายคุณอดุลย์จะลุกขึ้นมาป่วน คุณอดุลย์ก็มีญาติเป็นส.ส.พรรคไทยรักไทย คุณอดุลย์ก็เลยป่วน ทีนี้คุณประทินยืนอยู่ตรงกลาง คุณประทินไม่ได้เป็นไทยรักไทยหรือประชาธิปัตย์ ตรงนี้ที่ผมเคารพนับถือ เพราะว่าคุณประทินเป็นคนซึ่งตรงไปตรงมา และเป็นคนซึ่งทำหน้าที่วุฒิสมาชิก โดยภาพรวมแล้วเป็นคนซึ่งได้จรรโลงให้วุฒิสภา ยังหลงเหลือคุณประโยชน์ต่อสังคมบ้าง คุณประทินมีส่วนสำคัญเลยที่จะทำให้คนมีความรู้สึกว่า วุฒิสภามันยังพอใช้ได้มีคนอย่างคุณประทินอยู่ เพราะคุณประทินกล้าเดินไปทำในเรื่องบางเรื่องซึ่งวุฒิสภาไม่กล้าทำ วุฒิสภาไม่กล้ามาตำหนิรัฐบาล แม้กระทั่งในยุคซึ่งพล.ต.มนูญกฤต รูปขจร เป็นประธานวุฒิสภา คุณประทินก็ลุกขึ้นมาสู้ในหลายๆ เรื่อง ให้กับพรรคไทยรักไทยเช่นกัน เพราะฉะนั้นผมถือว่า คุณประทินซึ่งเป็นคนทำหน้าที่ตรวจสอบ ถ่วงดุลได้ดีในหลายกรณี ซึ่งเปรียบไม่ได้เลย กับพวกสมาชิกอีกจำนวนไม่น้อยที่มีพฤติกรรมสยบต่ออำนาจและผลประโยชน์ ชอบทำตัวเป็นอีแอบทางการเมือง มีรูปธรรมฝักใฝ่การเมือง สังกัดพรรคการเมืองในทางปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคไทยรักไทย มีทั้งนั้น ไม่ต้องเถียงกันเลย อันนี้เราเห็นกันมานานแล้ว และไม่คำนึงถึงเป้าหมายภาระหน้าที่ของวุฒิสภา ตามเป้าประสงค์ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ตรงนี้ต่างหากที่ผมบอกว่าผมเห็นใจคุณประทิน
สโรชา – คือคุณสนธิหมายความว่า ในความคิดคุณสนธิ คุณประทินทำหน้าที่ขึ้นอยู่กับหลักการและนโยบายที่กำลังถกเถียงกันอยู่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนโยบายของพรรคใด
สนธิ – คุณประทินต้องยกนิ้วให้ และผมจะบอกให้อย่างหนึ่ง คุณประทิน เป็นวุฒิสมาชิก ที่มาจากการเลือกตั้งในกรุงเทพมหานคร เสียงคุณประทินเป็นเสียงบริสุทธิ์ ที่ผมพูดนี้ผมไม่ได้หมายความว่าเสียงวุฒิสมาชิกที่มาจากต่างจังหวัดนั้นไม่บริสุทธิ์ แต่ว่าโดยเปอร์เซ็นต์แล้ว วุฒิสมาชิกที่ได้รับเลือกตั้งจากต่างจังหวัดนั้น จะมีหัวคะแนนของตัวเอง จะมีหัวคะแนนของพรรคพวกตัวเอง เช่น พรรคพวกซึ่งเป็นส.ส.พรรคประชาธิปัตย์บ้าง พรรคไทยรักไทยบ้าง ส่งคนคนนี้เข้าไปก็เอาหัวคะแนนเทเสียงให้ แต่คุณประทินแต่ไหนแต่ไรไม่เคยเล่นการเมือง พอออกจากตำรวจ ซักพักเดินขึ้นศาล เพราะโดนตำรวจด้วยกันฟ้องหลายๆ กรณี ก็ตัดสินใจลงเลือกตั้งวุฒิสภา คนกรุงเทพฯ เอาคะแนนบริสุทธิ์เลือกให้คุณประทินเข้ามา คุณประทินไม่เคยมีหัวคะแนน ผมถือว่าคุณประทินจากมุมมองคุณประทิน ถึงแม้พฤติกรรมไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม แต่ผมถือว่าท่านยังคงดำรงไว้ซึ่งคุณสมบัติความเป็นสมาชิกวุฒิสภา ไม่ได้เปลี่ยนสี แปลงธาตุ แปลงวิญญาณจิตใจให้เป็นสมาชิกสภาอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งใช้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นผมถือว่าคุณประทิน ทำอยู่ทุกอย่าง ผมเห็นใจคุณประทิน และผมไม่ตำหนิคุณประทิน แต่ถ้าถามว่าสมควรไหม ไม่สมควร คุณประทินควรจะระงับจิตใจไว้นิดนึง แต่ถ้าสมมติ คุณอดุลย์เกิดเดินไปหา แล้วคุณประทินอยู่เฉยๆ แล้วไปผลักอกคุณประทิน คุณประทิน ก็บอกว่า ถ้าคุณมาผลักผม ผมก็ต้องชกก่อน แต่คุณอดุลย์วันนี้เนื่องจากโดนชกไปแล้ว ก็บอกว่า นี่เดินมาเฉยๆ แต่พฤติกรรมการเดินของคุณอดุลย์ เดินบ่อยเหลือเกินในลักษณะแบบนี้ ไปหาคนหลายคน คือบทเรียนเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อีกหน่อยเก้าอี้ของคุณอยู่ที่ไหน นั่งอยู่ที่นั่น จะได้ไม่เกิดเรื่อง อย่ามาเที่ยวลุกเพ่นพ่านไปโน่นไปนี่ และอย่างที่ผมบอกเมื่อกี้ว่าคุณอดุลย์ต้องขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกนี้ ที่คุณประทินอายุ 70 ถ้าคุณประทินซัก 50-60 ผมว่าป่านนี้ไม่จืด
สโรชา – คุณสนธิพูดอย่างนี้ บางท่านอาจจะว่าได้หรือเปล่า ว่าอย่างนี้เป็นบทเรียนไม่ดีนะ เดี๋ยวนี้ท่านอื่นเกิดมีอารมณ์โกรธขึ้นมาบ้างจะทำตามท่านประทินทำยังไงละคะ
สนธิ – มันไม่ใช่มันต้องดูเป็นกรณีไป คุณสโรชา คุณจะยกตัวอย่างคุณประทิน และตั้งเป็นมาตรฐานว่าอีกหน่อย ส.ส.หรือส.ว.สามารถลุกขึ้น คุณประทินเป็นลูกผู้ชายพอนะ ท่านบอกว่าท่านเสียใจ ท่านไม่ขอโทษ ท่านขอโทษไม่ได้ เพราะท่านรู้ว่าท่านไม่ผิด ท่านรู้ว่าท่านถูกยั่วยุมาก่อน ทีนี้ประเด็นที่เถียงกัน ที่บอกว่าคุณประทินไปบอกว่า มีส.ว. ที่เคยค้าขายกับขุนส่า แล้วร่ำรวยมา และคุณอดุลย์เดินไปแล้วอ้างว่า เขาไม่เกี่ยวเขาต้องการไปชี้แจงหรืออะไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ต้องพูดกัน ความจริงคนนั้นรู้อยู่แก่ใจว่าใครเป็นใคร ใครบ้างค้าขายกับขุนส่า พวกของเถื่อนทั้งหลาย จนกระทั่งร่ำรวยขึ้นมาในเวลาไม่นานมีเงินเยอะแยะไปหมด คนแม่ฮ่องสอนเขารู้กันดี ผมก็รู้ ผมก็มีนักข่าวอยู่เชียงใหม่ เคยไปแม่ฮ่องสอน ก็เล่าให้ฟัง เปิดโปงหมด เพราะฉะนั้นคุณเอามือปิดฟ้าไม่ได้ พูดไม่ได้ แต่ใจคุณย่อมรู้ว่า ใครคนนั้นเป็นคนซึ่งค้าขายกับขุนส่า
สโรชา –โอเคค่ะ หมดเวลาแล้วค่ะสำหรับช่วงนี้ คุยกันพอสมควรสำหรับเรื่องหมัดๆ มวยๆ ที่เกิดขึ้น ในสภาสูงบ้านเรา คุณผู้ชมมีความคิดเห็นอย่างไรก็โทร.มาประเด็นนี้อย่าลืมว่าเป็นหัวข้อเอสเอ็มเอสให้กับเราด้วย พักซักครู่เดี๋ยวกลับมาคุยกันเรื่องสหรัฐอเมริกาค่ะซักครู่เดียวค่ะ
*************
สโรชา – กลับมาสู่เมืองไทยรายสัปดาห์ค่ะ ไปคุยกันถึงเรื่องผู้นำสหรัฐคนใหม่ดีกว่านะคะ จอร์จ ดับเบิลยู บุช จริงๆ แล้วไม่ใช่คนใหม่แต่กลับมาเป็นสมัยที่สอง หลังจากจริง ๆ ได้ฟาดฟันกันมาพอสมควรและเป็นระยะเวลาหลายต่อหลายเดือน เราเคยคุยกันแล้วเรื่องนี้ว่าโอเค บุชกลับมา
สนธิ – ผมพูดแล้วใช่ไหมว่าบุชชนะ
สโรชา – ค่ะ พูดแล้วและเป็นจริงด้วย แต่ว่าที่ดิฉันอยากจะเรียนถาม คือว่า ผลกระทบยังไงไม่รู้ แต่ว่าเมื่อไหร่เขาจะบุกอิหร่านอีก อย่างนี้ดีกว่า
สนธิ – เหตุผลเดียวที่ผมให้บุชชนะตอนนั้น 2 เหตุผล จริงๆ รวมเป็นเหตุผลเดียว คนอเมริกาห่วงใยตัวเองมาก โดยไม่สนใจว่าโลกจะเป็นยังไง เหตุการณ์ 11 ก.ย. มันเปลี่ยนชีวิตโลกไปหมดเลย เราอยู่ในโลกใบใหม่แล้ว โลกใบเก่า ที่เราเคยพูดอะไรด้วยเหตุด้วยผล ไม่มีต่อไปแล้ว โลกใบใหม่คือโลกแห่งความรุนแรง ที่บุชชนะเพราะว่า คนอเมริกันเป็นกังวลในเรื่องความปลอดภัยของตัวเอง เมื่อเป็นกังวลในเรื่องความปลอดภัยของตัวเองแล้ว คนอเมริกันต้องการผู้นำที่เข้มแข็งและเด็ดขาด เพราะฉะนั้นถ้าคนอเมริกันตั้งเป้าไว้ว่า อเมริกาคือเป้าของผู้ก่อการร้าย แทนที่จะหันมาพิจารณาว่า ทำไมผู้ก่อการร้ายถึงจงเกลียดจงชังอเมริกา เมื่อไม่ได้คิดมาในเรื่องเหตุตามหลักพระธรรมคำสั่งสอนแล้ว ที่พระพุทธเจ้าบอกว่าทุกอย่างต้องดูที่เหตุ เมื่อเขาไม่ดูเหตุ เขาดูแต่ผลอย่างเดียว เมื่อเขาดูแต่ผลว่าเป็นเป้า เขาก็เลยต้องการผู้นำที่เข้มแข็ง ผู้นำซึ่งสามารถที่จะทำให้ผลอันนั้นของเขา เขามีความสบายใจ ในนัยตัวนี้ นายบุชเหนือกว่านายแคร์รีเยอะ คุณก็ยอมรับ เพราะคุณก็เป็นคนที่วิเคราะห์การเมืองอเมริกาได้ลึกซึ้งพอสมควร เพราะฉะนั้นแล้วด้วยเหตุอันนี้บุชถึงชนะแคร์รี ทีนี้พอบุชชนะแคร์รีแล้ว นัยมันมีอะไรบ้าง คุณจำได้ไหม มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เคยออกรายการด้วยกัน และผมบอกว่า วันที่รีพับลิกัน คอนเวนชั่น ประกาศเสนอนอมิเนทบุชออกมา บุชประกาศว่าไง เขาบอกว่าพระผู้เป็นเจ้าได้มอบฉันทามติให้เขาลงมารับใช้ พระเจ้า เพื่อทำให้โลกนี้มีสันติสุข เพราะฉะนั้นแล้วการที่เขาชนะครั้งนี้ ยิ่งไปตอกย้ำสิ่งซึ่งเขาเชื่อ ว่าเขาได้มาอย่างนั้นโดยที่นายบุชยังไม่สำคัญเท่ากับคนที่แวดล้อมเขา คุณสโรชาก็ทราบว่า ประธานาธิบดีตัวจริงก็คือนายดิ๊ก เชนีย์ รองประธานาธิบดี ไม่ใช่นายบุช นายบุชคือตัวตลก ตัวข้างหน้า หุ่นเชิด ออกไปพูดเฉยๆ แต่คนดำเนินนโยบายทั้งหลายอยู่ที่คอนโดลิซ่า ไรซ์ อยู่ที่ดิ๊ก เชนีย์ และที่สำคัญที่สุด เขามีคนอยู่ประมาณ 7-8 คนที่เป็นระดับทำงาน ระดับทำงานพวกนี้จะคุมอยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม หลายๆ กระทรวง ซึ่งเป็นกระทรวงยุทธศาสตร์ของพรรครีพับลิกัน 7-8 คนนี้คือพวกนีโอคอนเซอร์เวทีฟ พวกอนุรักษ์นิยมสุดโต่งเลยพวกนี้ พวก 6 หรือ8คนพวกนี้เป็นพวกซึ่งเจริญเติบโตมา และเรียนหนังสือมาในแนวนีโอคอนเซอร์เวทีฟ คือในแนวที่ได้ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่แรกแล้วว่า คนอเมริกันหรือคนผิวขาวนั้นจะต้องเป็นซุพรีม ลีดเดอร์ คือสุดยอดแห่งผู้นำของโลก พวกนี้มีความเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า อเมริกาต้องใช้อำนาจทางการทหารเข้าไป เพื่อทำให้โลกยอมในสิ่งต่างๆ ซึ่งเป็นวาระที่อเมริกาวางไว้ นั่นคือสิ่งที่เขาเชื่อมาตลอดเลย เขาไม่เคยผิด แม้กระทั่งในยุคที่บิล คลินตัน เป็นประธานาธิบดี กลุ่มคนพวกนี้เป็นกลุ่มคนซึ่งได้ร่างปฏิญญาของอเมริกายุคใหม่ขึ้นมา และเสนอให้บิล คลินตัน ไปบอกให้ดำเนินการตามแบบนี้ เผอิญบิล คลินตันไม่ทำตาม พอนายบุชขึ้นมา คนพวกนี้ก็จะเป็นคนซึ่งเข้ามายุ่งเกี่ยวและวางนโยบายให้บุช คนพวกนี้คือคนประเภทไหนบ้าง เหมือนเป็นปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการกลาโหม
สโรชา – ความมั่นคงภายใน
สนธิ – พวกนี้จะเป็นพวกซึ่งร่างนโยบายเตรียมทุกอย่าง ชงใส่พานส่งไปให้นายบุชนำไปแล้วก็ปฏิบัติต่อไป
สโรชา – คนซึ่งเป็นสายเหยี่ยวทั้งนั้นเลย
สนธิ – สายเหยี่ยวหมดครับ สายพิราบไม่มี เพราะคนพวกนี้เชื่อว่าหนึ่ง แผนที่ทางตะวันออกกลาง ต้องจัดใหม่หมด ต้องเปลี่ยนใหม่ หมายความว่าตอนนี้เขาบุกอิรักแล้ว และคุณสโรชาจำได้ไหมบุชพูดขึ้นมาคำหนึ่งหลังจากได้รับชัยชนะแล้ว เขาบอกว่าเขาจะนำประชาธิปไตยในกระบวนทัศน์ของเขา
สโรชา – เป็นประโยคเด็ด สู่ประชาคมทั่วโลก
สนธิ – ทีนี้ประชาธิปไตยของนายบุชนั้นเป็นประชาธิปไตยที่เอื้อประโยชน์ต่ออเมริกา ที่น่ากลัวที่สุดคือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะขณะนี้อเมริกาเขาถือว่าเขาเข้าตะวันออกกลางได้มากพอสมควรแล้ว เขาเข้าไปยึดอิรัก เขามีเครือข่ายเขาเรียบร้อยแล้ว แต่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เขามองว่า เขายังพึ่งพาใครไม่ได้ เพราะมีทั้งอินโดนีเซีย มีทั้งมาเลเซีย และบางประเทศ ปากีสถาน และเริ่มมีทางชายแดนภาคใต้ของไทย ถูกไหมครับ สมัยก่อน สิ่งหนึ่งซึ่งชี้ให้เห็นชัด และในรายงานการพิจารณาเรื่อง 11 ก.ย. ซึ่งผมได้อ่านบ้างบางส่วนมีอยู่หน้าหนึ่ง ระบุชัดเลย จากรายงาน ว่าพวกบรรดาผู้ก่อการร้ายที่ไปก่อการร้าย ในอเมริกานั้น มีบางส่วนได้มาใช้ประเทศไทยโดยเฉพาะทางใต้และพรมแดนต่อมาเลเซียเป็นที่พำนักพักพิง และคุณอย่าลืมว่านายฮัมบาลี ที่ถูกจับที่อยุธยาก็คือหัวหน้าเจไอ เจมาห์อิสลามิยา พวกนี้คือกลุ่มต่างๆซึ่งแต่ก่อนนั้นเป็นกลุ่มซึ่งตั้งขึ้นมาค่อนข้างจะอิสระซึ่งกันและกัน มาวันนี้พวกนี้ซื้อแฟรนไชส์มาจากอัลกออิดะห์ อัลกออิดะห์วันนี้ขายแฟรนไชส์ซะแล้ว คุณนำอันนี้มาคุณขาดอะไร ผมฝึกอบรมให้ ผมเทรนให้ ทางภาคใต้ผมจะยกตัวอย่างให้คุณสโรชาฟัง ทางภาคใต้นั้น พวกโจรก่อการร้ายที่ขี่มอเตอร์ไซค์แลยิงพวกทหารตายหรือประชาชน คุณรู้ไหมเขาฝึกกันยังไง เขาใช้กระบวนทัศน์ของโฮจิมินห์ เทรล ในสงครามเวียดนาม เวียดนามเหนือจะฝึกพวกคนเวียดนามใต้ให้มาสู้รบ กับรัฐบาลเวียดนามใต้และทหารอเมริกัน เขาใช้คนพวกนี้เดินเท้าเรื่อยๆ ขึ้นไปทางภาคเหนือ หลบเลี่ยงไปเรื่อยๆและจะมีคนทางภาคเหนือ เวียดนามเหนือมาพาไปฝึก 3-6 เดือนแล้วส่งกลับมาทางใต้ก็เช่นกันทางใต้จะมีกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ไปคัดสรรเลือกเอาเด็กหนุ่มบางส่วน เด็กหนุ่มพวกนี้จะเดินทางไปทางไหน จะเข้าระนองขึ้นมาทางเหนือไปเชียงราย ออกด่านตม.ไปเพื่อเข้าพม่า และเขาจะใช้มุสลิมเครือข่ายเดียวกันในพม่า คนพม่ามารับเด็กหนุ่มพวกนี้ซึ่งมาจากชายแดนใต้ไทย พาเดินทางไปที่บังกลาเทศ เพื่อไปฝึกที่สถานฝึกอาวุธ ฝึกวางระเบิด ฝึกลอบสังหาร และฝึกขี่มอเตอร์ไซค์และยิงเจ้าหน้าที่ ฉะนั้นคุณจะสังเกตได้ว่า พอพวกนี้ฝึก 3-6 เดือนเสร็จแล้วเขาจะส่งกลับ พวกนี้จะเดินทางกลับมาจากบังกลาเทศ ข้ามมาที่พม่า จากพม่าข้ามเข้าเชียงราย เข้าระนอง และนั่งรถไฟหรือรถบขส. กลับเข้าไปสู่ 3 จังหวัดภาคใต้ และไปตั้งเป็นเซลต่างๆ เพราะฉะนั้นคุณสโรชาจะเห็นว่า ตำรวจทหารที่เจอผู้ก่อการร้ายซึ่งขี่มอเตอร์ไซค์และยิงพวกตำรวจทหารตาย ไม่เคยจับได้
สโรชา – เพราะได้ฝึกมาอย่างนี้
สนธิ – ได้ฝึกเป็นระบบมาเรียบร้อยแล้ว ไปหารังในการฝึก หาไม่เจอ ข้อมูลอันนี้หน่วยสืบราชการลับไทย หรือทหารไทย ตำรวจไทยอยากจะรู้ ผมจะให้เป็นวิทยาทาน และไม่ต้องไปหาที่ไหน ผมจะบอกให้ไปเข้าเว็บไซต์ไหน อ่านแล้วจะรู้ทันทีว่าเป็นยังไง มีชื่อเสร็จเรียบร้อยหน่วยงานไหนเขาฝึกให้ และผมจะบอกเอาบุญให้กับหน่วยงานราชการไทย ว่าวิธีที่จะเอาที่ปรึกษาเพื่อที่จะมาสู้กับผู้ก่อการร้ายนี้อย่าชักศึกเข้าบ้าน อย่าไปเอาเงินซีไอเอ เงินอเมริกันเหมือนอย่างที่ท่านพล.ต.ท.ปรุง บุญผดุง ท่านบอกว่า เอาเงินมาเพื่อสร้างตึก เงินร้อยกว่าล้านสร้างตึก ประเทศไทยไม่มีหรือ มี จริงๆ ไม่ได้เอาเงินมาสร้างตึกหรอก เงินก้อนนั้นคือเงินที่มาฝึกอบรมและเอามาที่จะให้ประเทศไทยหาข้อมูลและเขาขอลิ้งค์ต่อข้อมูลกับเรา ถ้าจะต้องการปราบ ไม่ต้องใช้อเมริกันมาสอนเราปราบ ถ้าเราไม่ชำนาญเรื่องนี้ ประเทศเดียวในภูมิภาคนี้และในโลกนี้ที่ช่วยเราได้คืออินเดีย เพราะอินเดียสู้กับผู้ก่อการร้ายในแคชเมียร์มาตลอด มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ แต่พอนายบุชขึ้นมาแล้ว การเจรจาต่อรอง ของเขามีน้ำหนัก เพราะเขาอยู่อีก 4 ปี ตอนนี้ที่เขาจะเริ่มถล่มทลายเข้าไปในประเทศไทยแล้ว เขาจะเริ่มเลย เฮ้ย เข้ามาร่วมขบวนการกัน ซักพักโทรศัพท์ถึงนายกฯ ทักษิณ ผมเชื่อต้องมีแน่นอน เมื่อใดก็ตามที่เราต่อสายกับเขาแล้วเราเอากำลังเขาหรือเอาความรู้ความสามารถของเขา เอาอุปกรณ์ของเขามา เริ่มเชื่อมโยงทางข้อมูล เมื่อนั้นเราถูกชักศึกเข้าบ้านแน่นอน
สโรชา – คือมีนโยบายต่างประเทศของบุชอยู่ 2 ประการซึ่งดูเหมือนว่าเขาพยายาม จะเปิดทางสำหรับเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว ประการแรกเลย คือเขาจะขอความร่วมมือจากยุโรป เพื่อจัดการกับอิหร่าน เรื่องของอาวุธนิวเคลียร์ ประการที่สอง คือจะย้ายกองกำลังที่เคยประจำอยู่ในยุโรป ในช่วงหลังสงครามเย็น ย้ายมาในประเทศที่เขาเรียกว่า ประเทศที่อยู่ด่านหน้าในสงครามการก่อการร้าย ตรงนี้เขากำลังหมายถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยนะคะ
สนธิ – แน่นอนที่สุด ด่านหน้า เพราะสำหรับเขาแล้ว ณ วันนี้ เขาถือว่าอัฟกานิสถานในสายตาของเขามีการเลือกตั้งไปแล้ว นายฮามิด คาร์ไซ ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี เป็นคนของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่คำถามคือว่าเหตุการณ์สงบ หรือไม่สงบเขาไม่สนใจ เขาต้องการโชว์ให้ชาวโลกเห็นว่า พอฉันเข้ามายึดอัฟกานิสถานมีการเลือกตั้งแล้ว เป้าหมายต่อไปอิรัก ที่น่ากลัวที่สุดคือว่า ถ้าอเมริกาเริ่มรุกมาทางนี้ พวกเซลผู้ก่อการร้ายสากล อาจจะเริ่มเห็นไอเดียแล้วว่า เอาละอเมริกาต้องการที่จะใช้ 3 จังหวัดภาคใต้ เป็นฟรอนท์ในการเปิดสงคราม ผมขอเล่นด้วยคน นี่ไงตรงนี้เข้าใจไหม ที่น่าเป็นห่วงตรงนี้ ว่าผมขอเล่นด้วยคน เมื่อเล่นด้วยคนแล้ว คนที่โชคร้ายคือพวกเรา ผมถึงบอกว่าเรื่อง 3 จังหวัดภาคใต้นั้นจริงๆ แล้ว ต้องหาโอกาสพูดอีกซักครั้งหนึ่ง เพราะว่าผมมีแนวความคิดที่ผมคิดว่าน่าจะแก้ได้ ถ้ารัฐบาลใจกว้างพอที่จะเปิดหูฟัง และอย่าทำตนเป็นภูเขายอดที่สูงที่รับน้ำไม่ได้ ทำตนเป็นหนองน้ำและทำตัวให้ต่ำ ไม่มีอัตตาและรับฟังความคิดเห็นและผมจะเล่าให้ฟัง ว่าเป็นยังไงบ้างที่ควรจะทำได้ แต่ที่น่ากลัวมากอย่างที่บอกอิหร่านนี่เป้าต่อไปแน่นอนเหมือนอย่างที่ผมเคยพูด อิรัก เมื่อก.ค. ปี 2546 ตอนนั้นว่าบุชต้องบุกอิรักแน่ แต่การบุกอิหร่านงวดนี้จะบุกเหมือนบุกอิรักแบบนั้นคงทำไม่ได้ เพราะว่ารู้ทันกันหมดแล้วทั่วโลก ฉะนั้นถ้าบุชบุกอิหร่านครั้งหนึ่ง มันจะไปซ้ำรอยเดิม แต่ว่าจะมีกุศโลบายหลายๆ อย่าง ที่จะซอยอิหร่านหรือว่า สร้างความวุ่นวายหลังจากที่เขายึดอิรักได้แล้ว เขาอาจจะส่งทหารไปเพิ่มและตั้งทหารติดพรมแดนอิหร่านขึ้นมาและก็สร้างเหตุการณ์เกิดขึ้น เพื่อให้ตัวเขารุกเข้าไปในอิหร่านได้ทีละคืบ
สโรชา – ค่ะ ช่วงนี้หมดเวลาในเบรกนี้แล้ว เราจะพักกันซักครู่หนึ่ง กลับมา นอกจากจะดูผลโพลแล้ว จะเรียนถามถึงราคาน้ำมัน ใกล้ตัวคนไทยซักนิดนึง สำหรับราคาน้ำมัน ถึงแม้ว่าพอบุชได้ตำแหน่งแล้ว และราคาตกลงไปพอสมควรเลย 2 เหรียญ ภายในวันเดียว ตรงนี้หลายๆ คนบอกว่า แนวโน้มภายภาคหน้าระยะยาวต้องขึ้นต่อเนื่องแน่นอน จริงเท็จขนาดไหนเดี๋ยวกลับมาคุยกันค่ะ
*************
สโรชา – กลับมาช่วงสุดท้ายของเมืองไทยรายสัปดาห์ ไปดูผลโพลกันนะคะเราเรียนถามคุณผู้ชมว่าคุณผู้ชมคิดว่าพล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ควรจะลาออกจากตำแหน่งส.ว.หรือไม่ คุณผู้ชมตอบกลับมาว่าไม่ควรลาออก 69 เปอร์เซ็นต์ ควรจะลาออก 31 เปอร์เซ็นต์ค่ะ เดี๋ยวซักครู่เราจะไปดูผู้โชคดี สุ่มขึ้นมาสำหรับผู้โชคดีที่จะได้รับรางวัล พานาโซนิกเอ็กซ์ 200 ในสัปดาห์นี้ 1 เครื่องและผู้โชคดีที่จะได้รับทีเชิ้ตจากฟรีอินเตอร์เน็ต 3 ตัว อีกซักครู่คงจะปรากฏทางหน้าจอนะคะ สำหรับหมายเลขผู้โชคดี เดี๋ยวทางรายการจะติดต่อกลับไป เพื่อจะมารับรางวัลนี้ หมายเลขผู้โชคดี ตามที่ปรากฏทางหน้าจอ อีกซักครู่จะสุ่มอีก 3 หมายเลขเพื่อที่จะแจกทีเชิ้ต ฟรีอินเตอร์เน็ต 3 ตัวค่ะ ซักครู่หนึ่งนะคะ ฟรีอินเตอร์เน็ตเราแจกกันทุกสัปดาห์ สำหรับทีเชิ้ตและโทรศัพท์มือถือพานาโซนิก ทางรายการจะติดต่อกลับไป กลับมาสู่เรื่องราวของสหรัฐอเมริกาบ้าง ราคาน้ำมันแน่นอนค่ะได้รับผลกระทบ ถึงแม้ว่าจะลงไปค่อนข้างจะเยอะ แต่เขาบอกว่าแนวโน้มระยะยาวนี้ ต้อง 50 กว่า
สนธิ – น้ำมันกลับไม่น่ากลัว เพราะน้ำมันมันแพงขึ้นยังไงก็ตามมันจะใช้ระยะเวลาหนึ่งปรับตัว วันนี้เราลอยตัวน้ำมันเบนซินไปแล้ว จะสังเกตว่าคนไม่บ่นแล้ว เพราะเริ่มปรับตัวได้ ชิน คือว่าถ้ามันแพงมาก และต้องใช้เงินมากก็ลดการใช้ลง โดยปริยาย ที่น่ากลัวคือว่า ถ้าสหรัฐอเมริกายังใช้นโยบายรุกรานชาวบ้านเขาทั่วโลก การทำสงครามทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นสงครามเพื่อปราบปรามต่อสู้ผู้ก่อการร้ายเป็นสงครามที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า นอน-โปรดัคทีฟ มันไม่ใช่การผลิต มันเป็นนอน-โปรดัคทีฟ สเปนดิ้ง การใช้เงินนั้นถ้าใช้เงินเพื่อลงทุนและมีเครื่องจักรผลิตข้าวของออกมาไม่เป็นไร แต่นี่ลงทุนไปเพื่อทำสงครามมันไม่มีรีเทิร์น ถามว่าวันนี้อเมริกาใช้เงินอยู่ในอิรัก ปีหนึ่งประมาณ 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ วันนี้อเมริกามีงบประมาณที่ติดลบ อยู่ 540,000 ล้านเหรียญ แปลว่า อเมริกาจำเป็นที่จะต้องพึ่งเงินจากต่างประเทศ เงินจากรัฐบาลไทย เงินจากจีน เงินจากญี่ปุ่น ที่เราส่งออกแล้วได้เป็นดอลลาร์ แล้วเราก็เอาเงินดอลลาร์ที่เราส่งออก ไปซื้อพันธบัตรของอเมริกาเพื่อให้อเมริกาเอาพันธบัตรนั้น เอามารองรับหนี้ตัวเองที่ตัวเองสร้างจากสิ่งต่างๆ เหล่านี้ คำถามมีอยู่ว่า งบประมาณติดลบ 540,000 ล้านนั้นจะติดลบได้ต่อไปอีกนานแค่ไหน นั่นคือสิ่งที่น่ากลัว คุณสโรชาจะเห็นว่า 3 ปีที่ผ่านมานี้ ค่าของเงินดอลลาร์อะเก็นส์ เงินยูโร หายไป 30 เปอร์เซ็นต์ ผมคำนวณอย่างคร่าวๆ ว่านายบุชอีก 4 ปีข้างหน้า ถ้าหากว่านายบุชยังไม่เปลี่ยนนิสัยใจคอหรือยังไม่เลิกการเป็นอันธพาลแบบนี้ต่อไป หรือว่าไม่หาสาเหตุว่าทำไมผู้ก่อการร้ายถึงจงเกลียดจงชังอเมริกาและแก้ปัญหาตรงนั้นผมเชื่อว่าค่าเงินดอลลาร์จะต้องติดลบต่อไป หายไปอีกอย่างน้อย 30-40 เปอร์เซ็นต์ แปลว่าในระยะเวลา 8 ปี เงินดอลลาร์นั้นมูลค่าหายไปประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ และนี่จะเป็นคำตอบโยงกลับมาหาคุณสโรชาว่าทำไมราคาน้ำมันมันแพง ที่ราคาน้ำมันแพง เพราะว่าพวกอาหรับที่ขายน้ำมันออกมา มีความรู้สึกว่ามูลค่าดอลลาร์ที่เข้ามาซื้อน้ำมันวันนี้เมื่อเทียบกับ 10-20 ปีที่แล้ว มันเทียบไม่ได้เลย ถึงแม้ว่าจะเป็นมูลค่าที่สูงกว่า มันยังน้อยกว่ามูลค่าสมัยก่อน พวกอาหรับก็เลยฉลาด เอาราคาน้ำมันไปอิงราคาทองคำ ไม่อิงราคาดอลลาร์ เพราะฉะนั้นทองคำ ปี 2546 ก.ค. ที่ผมพูด บาทละ 4,700 ปีนี้บาทละ 8,000 กว่า ทองคำราคาเท่าไหร่ ดอลลาร์ต้องราคาเท่านั้น นั่นคือที่มาของว่าทำไมน้ำมันจู่ๆ ถึงพรวดมากลายเป็น 50-60 เพราะไปอิงกับราคาทองคำ เพราะว่าทางอาหรับก็บอกว่า เฮ้ย 20 ปีที่แล้ว ฉันเคยขายน้ำมันได้ราคาเท่านี้ เพราะฉะนั้นแล้ว มา 20 ปีนี้ ในเมื่อดอลลาร์มันตก ฉันจะต้องอิงทองคำเหมือนเดิม นายก็ต้องเพิ่มจำนวนดอลลาร์ขึ้นมา คำถามที่กลัวที่สุดคือว่า ล่าสุดจากการที่ผมเช็คในเว็บไซต์ ประเทศต่างๆ อย่างเช่นประเทศไทยคือประเทศที่ไปซื้อพันธบัตรอเมริกัน เดี๋ยวนี้ลดการซื้อลงแล้ว จากแต่ก่อนเคยซื้อ 100 เปอร์เซ็นต์ เดี๋ยวนี้ซื้อ 40 เปอร์เซ็นต์ หายไป 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถูกแปรสภาพเป็นเงินเยนบ้าง เป็นทองคำบ้าง ไปเป็นยูโรบ้าง อเมริกาก็เลยขาด 60 เปอร์เซ็นต์นี้ เลยต้องวิ่งเข้ามาหาเงินกู้จากในตลาดพันธบัตร ในตลาดหลักทรัพย์ของตัวเอง เมื่อเข้าไปหาเงินกู้ในตลาดหลักทรัพย์ ในตลาดพันธบัตรนั้นดอกเบี้ยอเมริกาก็ต้องขึ้น ดอกเบี้ยพันธบัตรก็ต้องสูงขึ้น เพื่อดึงนักลงทุนมาซื้อ ดอกเบี้ยอเมริกาขึ้น ดอกเบี้ยทั่วโลกก็ต้องขึ้นตาม นั่นคือโลกกำลังก้าวเข้าไปสู่ภาวะของเศรษฐกิจที่จะต้องถดถอยภายในปลายปี 2548 2549 และ 2550
สโรชา – โอ้โหน่ากลัวนะ
สนธิ – ไม่เชื่อจดเอาไว้ ท่านผู้ชม ตั้งแต่ ก.ค. 2546 ผมพูดยังไงไม่เคยผิดและคอยดูต่อไปแล้วกัน
สโรชา – ค่ะ แสดงว่าต้องเตรียมตัวเตรียมใจในระดับหนึ่ง ว่าปลาย ปี 2548 2549 2550 เศรษฐกิจโลกจะถดถอย จะทำอะไรตอนนี้ต้องคิดระยะยาวซักนิดนึง อย่าสร้างหนี้สร้างสินไว้ ก็รอดูว่าพ่อหมอของเราจะแม่นหรือไม่แม่นอย่างไร เท่าที่ผ่านมา ที่ติดตามมา ถ้าคุณผู้ชมติดตามมาตั้งแต่ปีที่แล้ว รายการเราสู่ปีนี้ พ่อหมอของเราค่อนข้างจะแม่นพอสมควรนะคะ เพราะฉะนั้นลองเตรียมตัวเตรียมใจกันซักนิดนึงค่ะ สำหรับเศรษฐกิจที่อาจจะฟุบในช่วงปลายปีหน้า ต่อเนื่องไปอีก 2 ปี อย่าเพิ่งไปสร้างหนี้สร้างสินไว้กับใครนะคะเพราะอาจจะลำบากใน 2-3 ปีข้างหน้าค่ะ หมดเวลาแล้วค่ะ สำหรับเมืองไทยรายสัปดาห์ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ดิฉัน สโรชา พรอุดมศักดิ์ สวัสดีค่ะ
*************