xs
xsm
sm
md
lg

2 ส. 1 ค. วิเคราะห์ผู้ว่าฯ-การเมืองรัสเซีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"ก่อนจะถึงวันจันทร์" มองการเมืองเวทีใหญ่ ผ่านสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ ศึกษาการเมืองจากเหตุการณ์จับตัวประกันในรัสเซีย ชี้เป็นความน่ากลัวของอำนาจเบ็ดเสร็จ นอกจากนี้ยังถกประเด็นฮ็อต "ฮีโร่โอลิมปิก" และเก็บตกบรรยากาศงานรวมพลคนข่าว

สโรชา - สวัสดีค่ะ มาพบกับรายการก่อนจะถึงวันจันทร์ ในวันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน 2547 และเช่นเคยกับเราทั้ง 3 คน คุณสำราญ รอดเพชร คุณคำนูณ สิทธิสมาน และดิฉันสโรชา พรอุดมศักดิ์ค่ะ

สำราญ , คำนูณ – สวัสดีครับ

สโรชา – มาพูดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาในสัปดาห์นี้ เริ่มต้นที่งานรวมพลคนข่าวที่ อิมแพค เมืองทองธานี โดยท่านนายกฯทักษิณก็ได้แวะมาที่บูท manager thaiday.com แล้วก็ให้สัมภาษณ์สดกับ 11 news1 ด้วย ก่อนนายกฯไปจีน ก็คือออกจากงานนี้ไปก็ขึ้นเครื่องเลย นายกฯก็พูดเรื่องสื่อนะเป็นหลัก บอกว่าจะไม่แทรกแซงก็ว่ากันไป ซึ่งก็คงเป็นข่าวกันไปเรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับวันเสาร์ที่ผ่านมา เมื่อวานนี้ โอ้โห ดิฉันงงจริงๆ คือบูท ลักษณะบูทจะเป็นกลมๆแล้วด้านในก็จะเป็นเวที แล้วก็จะมีวงด้านนอกเป็นกล้องตั้งอยู่ ปกติแล้วที่ผ่านมาคนดูก็จะยืนดูรอบนอก แต่ว่าสำหรับคุณสนธิแล้ว คนกรูเข้ามาข้างใน นั่งกันหน้าเวที คืออยู่กันใกล้ๆเลย แล้วก็พอจบปุ๊บอย่างกับดารา

คำนูณ – เห็นเขาบอกว่าหนังสือคุณสนธิขายหมดเกลี้ยงเลย เรื่อง ”ต้องแพ้เสียก่อนถึงจะชนะได้” เป็นหนังสือที่พิมพ์ออกมาแล้วประมาณ 2 ปี เขาก็เหลือในสต๊อกนิดหน่อยก็นำไปขาย ก็หมดเกลี้ยงและระบาดไปถึงหนังสืออื่นๆในเครือ ก็เขาซื้อมาเพื่อขอลายเซ็นคุณสนธิ เขาเรียกว่าเมื่อวานนี้ อิทธิพลของ ส.เอฟเฟค เพราะของคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดาเขาก็ไปจัด “ถึงลูกถึงคน” ด้วย

สโรชา – ค่ะ ประมาณบ่ายสาม ส่วนของคุณสนธิประมาณ 6 โมงเย็น เรียกว่าเจอกันพอดี คือจบจากทางโน้นก็มาทางนี้เลย มีบางท่านดูรายการวันศุกร์ ซึ่งก็มีประชาสัมพันธ์กันเล็กน้อยว่าเราจะไปเจอกันในงาน แล้วปรากฏว่าเข้าใจกันว่าจะไปจัดที่บูทของช่อง 9 อสมท. เพราะว่าเราออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์ ก็ไปรอที่นั่นก็ปรากฏว่าเขียนโน้ตขึ้นมาหาดิฉันว่า ดีใจมากๆเลยที่เจอ เพราะไปรออยู่ที่บูทช่อง 9 นานมาก จนกระทั่งทนไม่ไหวเข้าไปถามเขาว่า ตกลงจะมาไหม รายการนี้ เขาก็บอกว่าไม่มา บอกเสียใจมากกำลังจะเดินกลับบ้าน เผอิญเดินผ่านทางบูท manager พอดี ก็เลยดีอกดีใจ ว่าได้เจอตัวจริง

คำนูณ – เห็นว่าคุณสนธิพูดเรื่องนักข่าว ชีวิตนักข่าว

สโรชา – เรื่องของสื่อ ไปฟังกันซักนิดนะคะ ไปฟังว่าคุณสนธิพูดว่าอะไรบ้าง ไปฟังกันค่ะ

*****VTR *****

สนธิ – ข้าราชการที่สกปรกนั้นจะกลัวพวกนี้ พอโดนด่าก็จะส่งคนมาติดต่อ ก็ตกลงกันที่ร้านอาหาร ก็จ่ายเงินกัน วันที่ 5 พอจ่ายเงินกันเรียบร้อย มันก็ดึงปลั๊กออก ไม่มีข่าวเช่นนี้กันอีกต่อไปเลย สมัยนั้น ไม่ได้อยู่ไกลนะครับ หนังสือพิมพ์ที่ผมพูดถึงเนี่ย คุณก็เห็นๆกันอยู่ตลอดเวลา ณ เวลานี้ในท้องตลาดก็ยังมีอยู่ แต่ว่า เป็นตำนานของหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น แต่สมัยนี้มันหมดไปแล้ว แปลว่าคนรุ่นเก่าที่ทำหนังสือพิมพ์ โดยที่ถือธนู ถือคันไถเพื่อไปรีดไถเขาเนี่ย ยุคนี้ไม่ใช่ไม่มี ยังมีอยู่แต่ว่าน้อยลงกว่าเก่าเยอะ หรืออุปมาอุปมัยอีกนัยหนึ่ง คนหนังสือพิมพ์ คนสื่อสารมวลชนเลวไหม? ต้องตอบว่าเลว แต่ว่าเลวมากหรือเลวน้อย ส่วนใหญ่จะเลว ถามว่าผมเลวไหม? ผมตอบว่าผมเลว แต่ผมเลวน้อยที่สุด

สโรชา – งั้นเดี๋ยวถามต่อเนื่องเลยก็แล้วกันนะคะ มีคุณผู้ชมถามว่า สื่อไทยนี่กล้าหรือกลัวรัฐกันแน่ ฟันธงมาเลยซิ

สนธิ – >สื่อไทยนี่ไม่เกรงกลัวรัฐ แต่เจ้าของสื่อมันกลัวรัฐ

สโรชา – โอเค มีหลายคนบอกว่าสื่อเนี่ย เป็นสิ่งที่จะช่วยหรือทำร้ายคนก็ได้ คุณสนธิคิดยังไง?

สนธิ – ปัญหาของสื่อมันขึ้นอยู่กับปัญหาของท่านผู้ชมทั้งหลาย เราต้องยอมรับ ว่าคนไทยชอบอ่านข่าวที่อยากอ่าน แต่ไม่ชอบอ่านข่าวที่ควรอ่าน ข่าวที่อยากอ่านคือข่าวอะไร ข่าวที่อยากอ่านคือข่าว “น้องสาว ปู มัณฑนา โห่สิริ ขับรถไปกาญจนบุรี ไปตบเพื่อน เรื่องการแย่งกิ๊ก หรือว่าการเล่าเรื่องของกิ๊ก” นั่นคือข่าวที่ประชาชนอยากอ่าน มันมันส์ แต่ว่าข่าวที่ควรอ่านเนี่ย คนไทยไม่ชอบ แต่ว่าจะไปโทษคนไทยก็ไม่ได้ เพราะว่าระบบของสังคม ระบบของรัฐบาล มันทำให้พวกเราเป็นพวกที่ค่อนข้างเฮงซวย เพราะว่ามันเอาทั้งโทรทัศน์ ทั้งวิทยุ ทั้งหนังสือพิมพ์มามอมเมาพวกเราตลอดเวลา พวกเราเนี่ยเป็นผลผลิตของสื่อ ต้องจำเอาไว้ ลูกๆของเราก็คือผลผลิตของโทรทัศน์ เพราะฉะนั้นแล้วถ้าตำหนิต้องตำหนิรัฐบาล เพราะรัฐบาลไม่มีมาตรการที่จะจำกัด ผมเคยเห็นมีแต่ละครน้ำเน่า มีแต่เกมโชว์ ผมไม่เคยเห็นมันมีความเป็นสาระอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

สโรชา – แต่เรตติ้งดีนะ

สนธิ ก็เพราะว่าไปวัดที่เรตติ้งไง ไปวัดที่เงินอยู่ที่ไหน ใครทำเงินได้มากที่สุด เมื่อใดก็ตามที่เราเอาเงิน เอาตัวเลขเป็นตัวตั้งแล้ว จิตวิญญาณเราก็หายไป พอจิตวิญญาณเราหายไป เราก็เจออย่างเช่นน้องสาวมัณฑนานั่งรถไปตบเขา แต่ไหนแต่ไรผมไม่เคยได้ยิน เด็กสาวนั่งรถจากกทม.ไปกาญจนบุรี เพื่อไปตบเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง ผมไม่เคยได้ยินว่าเด็กวันรุ่นมานั่งกิ๊กกัน มานั่งจูบ มานั่งกอด มานั่งร่วมเพศกันในรถเมล์ เกิดมาไม่เคยได้ยิน เพิ่งจะมาได้ยินเมื่อ 2-3 ปีนี้เอง คำถามก็มีอยู่ว่า แล้วประเทศเรา สังคมเรามันเกิดอะไรขึ้น เรามีความสุขหรือกับความร่ำรวยของประเทศ แล้วพวกเราเนี่ยฉิบหายทางจิตวิญญาณ ถ้าเราอยากจะรวยทางวัตถุ แต่เราจน เราเป็นผีดิบ ผีตายซาก ไม่มีจิตวิญญาณ ก็เชิญตามสบาย แต่ผมไม่เอา

สโรชา – คิดว่าบางครั้งสื่อขายข่าวเพื่อธุรกิจมากเกินไปหรือเปล่า

สนธิ – สื่อทั้งหนังสือพิมพ์ ทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ก็อยากจะขายดี พอยอดขายดีขึ้นมาโฆษณาก็ลงเยอะ โทรทัศน์ก็อยากจะมีรายการที่มีเรตติ้งสูงๆ และรายการอะไรที่มีเรตติ้งสูงๆ ก็ต้องเป็นรายการเกมโชว์ ละครน้ำเน่า เพื่ออะไร เพื่อโฆษณาจะได้มาลง เมื่อโฆษณามาลงแล้ว คนที่ได้กำไรก็คือเจ้าของหนังสือพิมพ์ เจ้าของโทรทัศน์ก็กำไร เพราะฉะนั้นแล้วมันเป็นวงจรอุบาทว์ ต้องล้มวงจรนี้เสีย ไม่งั้นแล้ว มันก็ยังเป็นวงจรอุบาทว์ต่อไป

สโรชา – คุณสนธิมองดูสื่อมวลชนด้วยกันในปัจจุบัน แล้วคิดว่าสื่อเป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริงหรือไม่

สนธิ – สื่อเป็นตัวแทนของประชาชนบางส่วน จะสังเกตอะไรอย่างไหม สื่อนี่เนื่องจากข้อจำกัด ข้อบังคับในเชิงธุรกิจ ทำให้เขาไม่สามารถมาต่อสู้ให้กับประชาชนที่ยากไร้ได้ เอายกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ กรณียายฮาย รู้ใช่ไหมยายฮาย กรณียายฮายนี่สื่อไม่สนใจเลย หรือสนใจก็ลงข่าวเล็กๆน้อยๆ ผมถามว่ากรณียายฮาย กับกรณีตั๊ก - บงกชนี่ สื่อจะเอากรณีไหนพาดหัวข่าวมากกว่า ก็ต้องเอาตั๊ก - บงกช เพราะมันขายได้ ยายฮายขายไม่ได้ เพราะยายฮายเหี่ยวแล้ว ไม่มีความหมาย นี่ผมพูดความจริงนะ คุณอยากฟังการฟันธงไม่ใช่หรือ ไม่งั้นคุณจะมายืนกันทำไมล่ะ

สโรชา – ค่ะ ก็ภาพจากงานเมื่อวานนี้ คนก็ค่อนข้างจะให้ความสนใจเยอะพอสมควร คุณสนธิกลายเป็นดาราไปเลย เพราะว่าหลังจบงาน ก็ขอลายเซ็นกันสุดชีวิต ซึ่งวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายแล้ว แต่ว่าจริงๆแล้วดูภาพรวมของงาน ดิฉันว่าน่าภูมิใจ คือคนดูให้ความสนใจ ให้ความสำคัญกับข่าวมากขึ้นเยอะในยุคนี้ ถ้าเป็นสมัยก่อน ดิฉันว่าจัดงานรวมพลคนข่าวเนี่ย คนอาจจะจัดทำไม ไม่รู้จัก ไม่อยากเจอ อะไรประมาณนี้ แต่ว่าในยุคนี้คนให้ความสนใจเยอะขึ้นมาก

สำราญ – แต่ว่าบูทของไทยเดย์ดอทคอมก็มีช่องของภาษาลาว

สโรชา – ภาษาลาว ลาวเอเชีย เราก็นำผู้ประกาศซึ่งเป็นคนในพื้นที่เลย แล้วก็นำมาเว้าในรายการสดๆเลย ก็คนดูก็ชื่นชอบ แล้วก็มีภาษาอังกฤษด้วย เราก็นำทีมผู้ประกาศไปจัดรายการที่นั่น ก็ถือว่าฟีดแบ็กที่กลับมาก็ดีพอสมควรเลย แล้วทั้ง 2 ท่านไปจัดมาวันศุกร์เป็นอย่างไรบ้าง

สำราญ – ก็เขาให้ไปพูดเรื่องการเมืองหลังเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ก็พอเป็นน้ำจิ้มนะ คือบรรยากาศมัน

คำนูณ – เวลามันน้อย แล้วช่วงเวลาคิดว่ามันยังไม่ให้ ไม่ใช่เวลาที่คนจะไปเยอะ คือเวลา 14.30 น. แต่ก็ดีครับ คุณอาแถมก่อนเรา

สโรชา – แต่ก็ผ่านไปแล้วนะคะ สำหรับงานรวมพลคนข่าว ก็คิดว่าก็คงมีโอกาสจัดขึ้นในโอกาสหน้า

คำนูณ – ถ้าใครอยากฟังคุณสนธิ ผมคิดว่าเขาคงเอาเทปมาออก

สำราญ – คือต้องบอกว่า ผมฟังแค่ 5 นาทีนะ คือพูดดิบๆจากใจเลยนะ

สโรชา – ใช่ ไม่มี scrip ไม่มีการเตี๊ยมกันล่วงหน้า ก็แค่บอกว่าไม่คุยเรื่องสื่อแล้วกันค่ะ

สำราญ – คิดอย่างไร พูดอย่างนั้น แล้วก็แสดงความเป็นตัวตน

สโรชา – มีเล่าเบื้องหน้าเบื้องหลัง เรื่องของคุณสนธิเอง ว่าเคยฟันฝ่าอุปสรรค มีศัตรูปองร้าย ก็เล่าทั้งหมดเลย แล้วก็มีบอก เอ๊ะ แล้วมันเรื่องอะไรที่ผมจะต้องมาเล่าเรื่องพวกนี้ให้คุณฟัง มีเรื่องของคุณชูวิทย์ด้วยนะ แต่ดุเด็ดเผ็ดมันจริงๆ เมื่อวานนี้ สุดยอด ก็ดีค่ะดี ได้ไปพบปะกันกับแฟนๆรายการด้วย อีกเรื่องนึง เรื่องอะไรต่อไปดี เรื่องโอลิมปิก เราคุยเบาๆให้จบเบรกนี้เลยดีกว่า เบรกหน้าจะได้ไปเรื่องการเมือง เรื่องโอลิมปิก กลับมาแล้วสำหรับนักกีฬาหลายๆท่าน ดิฉันว่าเป็นกระแสเลยล่ะ

คำนูณ – กระแสเห่อวีรบุรุษ วีรสตรี คำว่าเห่อในที่นี้ไม่ได้แปลความหมายว่าไม่ดี แต่อย่างหนึ่งก็คือ สังคมไทยนี่ เห่อเร็วแล้วก็เลิกเห่อเร็วเหมือนกัน

สำราญ – ก็ซักเดือนนะ แล้วก็ค่อยๆมีเรื่องอื่นมาทดแทน

คำนูณ – น้องๆเขาต้องปรับตัว คือกลับมาถึงเมืองไทย ได้เหรียญนี่ชีวิตเปลี่ยนไปเลย

สโรชา – ดังกว่าดาราอีก น้องอรนี่ ดิฉันเชื่อว่าไปเดินที่ไหน ไม่มีใครไม่รู้จักนะ ใช่ไหมคะ

สำราญ – มันถึงว่าคือถ้าย้อนมองนะ ผมคิดว่า คำให้ศีลให้พร คำเตือนสติของหลวงพ่อคูณนี่ดีมาก ถ้าเราย้อนมอง ก็คือนี่แหละนะ หลวงพ่อคูณบอกว่า อย่าลืมตัว ลืมอะไรลืมได้ แต่อย่าลืมตัวนะ แล้วต้องหมั่นฟิตซ้อมสม่ำเสมอ คือหลวงพ่อคูณเข้าใจว่า กระแสสังคมจะต้อนรับและก็รางวัล ทรัพย์สินเงินทองจะไหลมาเทมา

สโรชา – ตอนนี้เท่าไหร่แล้ว คนละจะกว่า 20 ล้านแล้วใช่ไหม ถ้ารวมทรัพย์สิน ดิฉันเห็นรถแต่ละยี่ห้อ

คำนูณ – ถ้าเหรียญทองนี่เกินไปแล้วครับ 20-30 ล้านแล้ว เฉพาะปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ คือเหรียญทองแดง น้องวิว เยาวภา บุรพลชัย ผมว่าจะเป็นเหรียญทองแดงที่รวยกว่าเหรียญทอง เพราะว่าคือมันอาจจะพูดได้ต่อจากเรื่องแรก คือเรื่องสื่อ อิทธิพลของสื่อ โดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์เนี่ย คือความหัวไวของคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ไปสัมภาษณ์น้องวิวในรายการ “ถึงลูกถึงคน” ตอนกลางดึก แล้วแกก็รู้ว่า คือนักกีฬาคนอื่น คนต่างจังหวัดนี่ เขากลับบ้านที่ต่างจังหวัด เขาก็ต้อนรับกันใหญ่โต เตรียมกันมาเป็นแรมเดือน ไม่ใช่สิ พอรู้ว่าได้เหรียญก็จัดการ แต่ว่าน้องวิวเนี่ยเป็นคนกรุงเทพ ทางกรุงเทพไม่มีใครเตรียมรับเลย แกก็ประกาศออกอากาศเลย รายการเรื่องเล่าเช้านี้ช่อง 3 จะจัดให้ที่สวนเบญจสิริ ซึ่งมันใกล้ๆกับช่อง 3 ก็พอเช้าวันศุกร์ใช่ไหม ที่จัดรายการต้อนรับเนี่ย ในภาพที่ปรากฏก็ผู้คนล้มหลาม แล้วก็ทุกคนไปปรากฏตัว เพื่อไปมอบรางวัลให้น้องวิว หลังจากนั้นมาทุกฝ่ายก็ออกมาแก้ต่างว่า เตรียมอยู่แล้ว วันนี้ก็มีจัดที่ลานหน้าตรงราชประสงค์ เซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า แล้วก็กทม.ก็จะจัดให้อีก

สำราญ – สร้างกำลังใจนักกีฬาโอลิมปิก ต้องพูดอย่างนี้ ดาราไปกันหมด วันนี้มีคุณสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มีคุณพิมล ศรีวิกรณ์ ซึ่งเป็นผู้จัดการทีมเทควนโด ก็ได้ไปเรียบร้อยแล้ว ธอส.นี่ให้บ้าน 1 หลัง เจ๊หน่อยนี่ควักทอง 2 บาท ซีพีนี่ก็ให้เป็นล้าน ใครต่อใครนี่เยอะ

สโรชา – คือพูดง่ายๆว่าสปอนเซอร์รายใหญ่ๆในประเทศไทย งานนี้ถ้าคุณไม่ควัก คุณแย่มากๆเลยนะ เพราะว่าเขาทุกเจ้าเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นวงการรถ วงการอาหาร เครื่องดื่มนี่เต็มที่นะ เขาถือว่าเป็นโอกาสนะ คือมีรถอยู่ยี่ห้อหนึ่ง ดิฉันไม่เอ่ยชื่อนะ คือตอนนี้มอบไปแล้วจำไม่ได้ว่ากี่คัน แต่รวมมูลค่าแล้วกว่า 10 ล้าน ดิฉันเข้าใจง่ามันคุ้มเกินคุ้มเลยนะ เหมือนว่าได้ประชาสัมพันธ์

สำราญ – แล้วน้องวิวอย่างที่คุณคำนูณพูดเมื่อสักครู่ ก็คือมีการจัดงานต้อนรับบ่อยครั้งที่สุด อาจจะเพราะคุณสรยุทธจุดชนวนขึ้นมา

คำนูณ – คุณสรยุทธไปแล้ว วันนี้ที่สมาคมเทควนโดที่จัดให้ที่เซ็นทรัลเวิลด์ กทม.จะจัดให้ที่ลานคนเมือง แล้วก็มีเขตบางซื่อ

สำราญ - แล้วก็บังเอิญพ่อเขาเป็นทหารประทวน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ เขาก็ระดมพลจัดงานอีกต่างหาก

คำนูณ – คือทุกคนขอมีส่วนร่วมเป็นชุมชนของน้องวิว ตอนแรกทุกคนลืมหมด

สโรชา – คือดูภาพแล้วคนจะคิดว่า เราต้อนรับทั้งหมดเลย เพราะว่าลงที่กทม. ลงที่ดอนเมือง เราก็ต้อนรับวันนั้นเลย แต่ไม่ได้แยกออกมาเป็นน้องวิวเดี่ยวๆเท่านั้นเอง

สำราญ – บังเอิญกรุงเทพ 1 ยังไม่มีผู้ว่าฯ เป็นรอยต่อ ประการที่ 2 โดยพื้นฐานอย่างที่เราเคยคุยนะ มันไม่มีความผูกพัน ไม่มีความเป็นพ่อเมืองอย่างจังหวัดนครฯ จังหวัดร้อยเอ็ด อะไรอย่างนี้ คนกรุงเทพจริงๆไม่มีความผูกพัน มันรู้แต่ว่าเกิดกรุงเทพ หรือมาอยู่กรุงเทพ

คำนูณ – จะไปว่าคุณสมัครแกก็ลำบากนะ เพราะว่าวันแรกเนี่ย ท่านก็ไปรับที่โรงแรมอิมพีเรียล ควีนสปาร์ค และท่านก็เตรียมของขวัญอย่างดีนะ พระสยามเทวาธิราชจำลอง แล้วก็ท่านได้ให้โอวาทดี คือท่านก็มองในฐานะว่า ก็ต้อนรับแล้ว

สำราญ – คือน้องวิวยังมีงานอีกเยอะดูท่าทาง บังเอิญว่าวันที่ 7 กันยายนเป็นวันเกิดของเธอ

คำนูณ – ก็มีการเป่าเค้กล่วงหน้าไปเรียบร้อยแล้ว เผอิญน้องวิวเขามีแววที่จะเป็นดาราได้นะ

สโรชา -เขาหน้าตาน่ารักนะ ว่าไม่ได้ ดูเท่

สำราญ – ก็คือรวมความแล้ว รัฐบาลก็ให้ความใส่ใจพอสมควร แต่ว่าแต่ละสมาคม โดยภาพรวมจะสามารถที่จะทำการบ้านเพื่อ 4 ปีข้างหน้าได้หรือเปล่า

คำนูณ – ก็คือสื่อเขาก็ขุดเอานักกีฬาในอดีตที่อาจจะถูกลืมไป มีนักยกน้ำหนักท่านหนึ่งที่เคยได้เหรียญเงินเอเชี่ยนเกมส์ ที่ฮิโรชิม่า เมื่อประมาณปี 2541 ปัจจุบันก็เป็นลูกจ้างชั่วคราวอยู่ที่เทศบาลนครเชียงใหม่ ได้เงินเดือน 4 พันกว่าบาท

สำราญ คุณสง่า วังคีรี

คำนูณ – ครับ ตอนนี้ก็คงจะได้พลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย เห็นว่าอย่างเมื่อตอนเย็นก็ได้ไปแล้ว เท่าที่ผมฟังนะ 3-4 แสน

สโรชา – ก็ดูรายการนั้นแล้ว น้ำตาท่วมจอไปกับเขาด้วย

คำนูณ – นี่ก็เป็นเรื่องของสื่อเหมือนกันนะ พอสื่อนำมาออกทีวี ทุกฝ่ายกุลีกุจอกัน

สโรชา – คือถ้ามองในแง่ดี มันก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีนะ ว่ามีอำนาจตรงนี้แล้ว ก็สามารถที่จะช่วยคนได้ อย่างเช่นคุณสง่า ถ้าไม่ได้มาออกรายการนี้ ก็คงจะเป็นนักกีฬ่าที่ถูกลืมต่อไป เพราะฉะนั้นก็จะได้แก้ไขอะไร ที่สังคมคิดว่ามันผิด แล้วก็นำมาเผยแพร่ เพื่อที่จะทำให้มันถูกซักที ตอนนี้ก็เชื่อว่า นักกีฬาทุกๆคนก็จะต้องปรับตัวกันพอสมควร

สำราญ – หลังจากนี้ 1 เดือน ต้องปรับอีก คือมันจะหายไปนะ ไม่เหมือนเดิน ใจหายใจวูบ อันนี้ต้องทำใจ คือต้องรู้ตัวน่ะ

สโรชา – คือมันกลับไปสู่ชีวิตปกติของตนเอง ที่จะต้องกลับไปซ้อมหนักเหมือนเดิม แต่ในช่วงนี้ก็ถือว่า อยู่ในสายตาประชาชน

คำนูณ – ตักตวงให้เต็มที่ อย่าไปปฏิเสธ ใครให้อะไรมารับหมด แต่ว่าจะใช้ต้องระวัง

สำราญ – คือก็ดีนะ สังคมให้กันอย่างเต็มที่ แต่ว่าอย่าหลงใหลได้ปลื้ม อย่าเพลิดเพลินจนเกินไป ก็ใช้สติที่หลวงพ่อคูณให้มานั่นแหละ คาถาที่ดีที่สุด อย่าลืมตัว

สโรชา – เดี๋ยวเราจะพักกันซักครู่ค่ะคุณผู้ชม กลับมาพูดกันถึงเรื่องการเมืองกันบ้าง เรื่องของคุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯคนใหม่ของเรา แล้วก็ผู้สมัครที่ไม่ได้เป็นผู้ว่าฯก็เนื้อหอมไปตามๆกัน ส่วนจะเป็นใครยังไง จะเข้าพรรคไหน ไม่เข้าพรรคไหน เดี๋ยวกลับมาคุยกันช่วงหน้าค่ะ

สโรชา – กลับมาเรื่องราวของคนในข่าวบ้าง พูดถึงผู้ว่าฯคนใหม่ซักนิดนึงได้ไหมคะ สดๆร้อนๆ กกต.เพิ่งรับรองไป

คำนูณ – ไม่ค่อยดังเท่าไหร่

สโรชา – ถูกอะไรกลบล่ะคะ

คำนูณ – ถูกคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ คนที่ได้อันดับ 3 เนี่ยกลบหมด นี่พูดจริงๆ คือเป็นผู้ว่าฯก็โอเค ข้อวิเคราะห์ก็คงวิเคราะห์กันไปหมดแล้ว เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แล้วก็สื่อทุกสื่อก็วิเคราะห์ใกล้เคียงกันต่อจากนี้ ถ้าจะมีเรื่องน่าจับตา ก็คือต้องเข้าหารือกับท่านนายกฯทักษิณ ชินวัตร เรื่องการแก้ปัญหาจราจร

สโรชา – เข้าพบแล้วจะปรึกษาหารือกันถึงวิธีการแก้ไข จะร่วมมือกันยังไงดีระหว่างกทม. กับรัฐบาล

คำนูณ – ก็เป็นศิลปะที่ทั้ง 2 ฝ่ายต้องพบปะพูดคุยกัน

สำราญ – คือถ้าเรามองกลางๆนะ เอาผลประโยชน์ของผู้คนเป็นตัวตั้ง ถ้าเอาปัญหาจราจรเป็นตัวตั้งด้วยแล้ว มันยิ่งต้องพบปะกัน คืองานนี้ไม่มีทางที่ใครจะทำวันแมนโชว์ได้ กทม.คนเดียวไม่ได้ รัฐบาลฝั่งเดียวก็ไม่ได้ จะต้องมาหารือกัน เพราะอย่างน้อยนโยบายที่คุณชูวิทย์ คุณเฉลิม หรือคุณอภิรักษ์หาเสียงไว้ คืออย่างน้อยนี่ จราจรจะแก้สำเร็จได้ จะมีอยู่วลีหนึ่ง ประโยคนี้ว่า มันต้องไปเชื่อมโยงกับระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ รถไฟฟ้า รถใต้ดิน อย่างนี้เป็นต้นนะครับ ทีนี้จะเชื่ออย่างไร จะสร้างที่จอดรถขนาดใหญ่อย่างไร จะสร้างที่จอดรถอัจฉริยะอย่างที่ดร.สามารถ ท่านว่าไว้ได้อย่างไร มันต้องหารือ คืองานนี้ถ้าพูดอย่างสั้นที่สุดก็คือ ต่างฝ่ายต่างต้องได้ คือไม่งั้นงานจะไม่สำเร็จ จะเป็นพ่อแง่แม่งอน แล้วชาวบ้านก็เดือดร้อนกันต่อไป

สโรชา – คือถ้าเอาเรื่องความขัดแย้งของพรรคเป็นตัวตั้งเนี่ย เรียบร้อย จบเห่ แปลว่าเราเดือดร้อน คือได้ผู้ว่าฯใหม่มาก็ไม่ได้ทำอะไร มัวแต่ทะเลาะกันอยู่ แต่สมมุติว่า

สำราญ – รถไฟฟ้าบนดินนี่ กทม.เขาเป็นเจ้าของสัมปทาน ทีนี้รัฐก็เกี่ยวข้องโดยตรงอยู่ด้วย ทีนี้ทิศทางนี่ การจะเชื่อมการจะต่อเส้นทาง ขยายเส้นทางไปเส้นทางไหนกี่กิโลเมตร นอกจากกทม.แล้ว รัฐบาล กระทรวงคมนาคมเป็นเจ้าภาพ เขาดูแลอยู่ด้วย คือแผนแม่บทรัฐบาลเขาดูแลอยู่ แล้วคุณสุริยะวันนี้นี่ พูดตรงๆก็คือเรื่องรถไฟฟ้าลอยฟ้าบนดินเนี่ย รัฐบาลเขาก็มีแนวคิดค่อนข้างจะแน่นอนว่า จะต้องไปซื้อมา คือต้องการซื้อไม่ว่าบนดินใต้ดิน เท่าที่เราฟังน้ำเสียงของรัฐบาลก็เป็นเพราะว่า คือตราบใดถ้าให้เอกชนเขาเป็นเจ้าของสัมปทาน แล้วก็ดูแลกันต่อไป เขาก็จะเริ่มเยอะ ถ้ารัฐบาลเป็นเจ้าของเสียเอง

สโรชา – อะไรก็ง่ายหน่อย อยู่ในอำนาจทั้งหมดเลย

สำราญแต่รัฐบาลก็คงต้องระมัดระวัง เพราะว่าถูกจับตาเหมือนกันว่า มีอะไรไปทับซ้อนไหม มีอะไรไปซ่อนเร้นหรือเปล่า

สโรชา – แต่ก็คิดว่าคงจะต้องร่วมมือกัน แต่ว่ามองในภาพรวมแล้ว ดิฉันว่า ถ้าเกิดให้เดาใจ ช่วงนี้ต่างฝ่ายต่างคงต้องเล่นบทพระเอกเข้าหากันนะ คือคนจับตามองอยู่นะว่าทีท่า โดยเฉพาะของรัฐบาลจะเป็นยังไง จะไปขัดแย้งเขาไหม จะไปกีดกันเขาไหม จะไปหาเรื่องเขาหรือเปล่าอะไรอย่างนี้

คำนูณ – คงไม่ทำ อย่างน้อยในภาพก็คงไม่ทำอย่างนั้น แล้วผมว่าตอนนี้ประชาธิปัตย์ก็น่าจะใจกว้าง คืออย่าไปทำตัวเป็นเจ้าของคุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน อย่าไปทำให้คุณอภิรักษ์ลำบากใจ เพราะผมเชื่อลึกๆแล้วว่า ถ้าโดยบุคลิกภาพ โดยประสบการณ์การทำงานแล้วเนี่ย นายกฯทักษิณกับคุณอภิรักษ์น่าจะพูดภาษาเดียวกัน อันที่จริงคือ ไม่รู้มีอุบัติเหตุยังไงนะ ที่ทำให้คุณอภิรักษ์นี่ถ้าว่ากันตามต้น มันเหมือนผิดฝาผิดตัวด้วยซ้ำ

สำราญ – ควรจะไปอยู่ไทยรักไทยซะ คือเขาอยู่เครือแกรมมี่มาก่อนนะ

คำนูณ – นักธุรกิจเหมือนกัน นักบริหารเหมือนกัน พูดจาภาษาใกล้เคียงกันน่ะ

สโรชา – จริงๆอาจจะผิดลักษณะที่หลายๆคนเข้าใจ เป็นภาพของพรรคประชาธิปัตย์ ถูกไหมคะ แต่ก็น่าจะน่าติดตามนะ ตกลงเขาจะเข้าพบเมื่อไหร่ น่าจะเป็นอาทิตย์หน้านะ บอกว่าหลังจากที่กกต. ประกาศรับรอง ก็จะนัดท่านนายกเลย

คำนูณ – ก็คงจะเร็วๆนี้นะครับ พร้อมๆกับที่ไปดูทำเลในการสร้าง เขาเรียกอะไรนะ รถเมล์ที่ชิดขอบทางเหรอ สายแรก

สำราญ – 20 กิโลเมตร เกษตร – นวมินทร์

คำนูณ – คือพบท่านนายกฯ เห็นว่า 9 กันยายน

สำราญ – วันนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เมื่อปี 2528 เป็นวันรัฐประหาร ของกบฏ 2 พี่น้อง ชื่อมนูญกับมนัส รูปขจร

สโรชา – 9 กันยายน ฝรั่งเขาบอกว่าเป็นวันดีไม่ใช่เหรอ วันที่ 9 เดือน 9 แต่ว่าจะพูดเรื่องคุณชูวิทย์ซักหน่อยไหมคะ ก็ช่วงนี้แกฮ้อต ตกลงแล้วแกจะเข้าที่ไหนแน่ ชาติไทย หรือว่าจะเป็นมหาชน หรือไม่ยุ่งกับใครเลย จะอยู่เดี่ยวๆ

สำราญ – ก็เห็นรายการเมืองไทยรายสัปดาห์โหวตแล้วไม่ใช่เหรอ

สโรชา ผู้คนเขาอยากให้อยู่พรรคต้นตระกูลไทยเหมือนเดิม ก็มีพรรคเป็นของตัวเอง จะได้ไม่ต้องพึ่งพิงชาวบ้านเขา โดยเฉพาะในส่วนของนโยบาย

สำราญ – ถ้าเดาใจคุณชูวิทย์ ผมว่าเขาก็อยากเดินทางนั้นแหละ แต่ว่าลึกๆดูข้อเท็จจริงทางการเมือง ก็คงจะคิดหนักเหมือนกัน

สโรชา -แต่หลายๆท่านก็ถามว่า ถ้าไม่อยากไม่ร่วมงานกับเขา ไม่มีความคิดว่ามันมีความเป็นไปได้ แล้วไปพบเขาทำไมตั้งหลายรอบ คุยกันตั้งหลายรอบ

คำนูณ – ระดับเสธ.หนั่นติดต่อมา ระดับคุณบรรหาร ศิลปอาชาติดต่อมา นี่ก็ต้องถือว่า คุณชูวิทย์ก็ยังเป็นเด็กทางการเมือง เมื่อผู้ใหญ่ติดต่อมาเนี่ย ก็ถือว่าเขาให้เกียรตินะ ก็ต้องพบปะพูดคุย แต่ว่าจะตอบอย่างไรเนี่ย ก็ยังไม่ได้ตอบอะไร แล้วเห็นว่าคุณชูวิทย์จะแถลงไม่วันพรุ่งนี้ ก็มะรืนนี้

สำราญ – คือเขาตามข่าว เขาจะให้คำตอบพรรคมหาชนนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคมหาชน หรือแม้แต่พรรคชาติไทย วันที่ 6 กันยายน ไม่ทราบว่าจะคิดออกหรือยังนะ คือคุณชูวิทย์ก็หลับตาเห็นเหมือนกัน ถ้าเดินทางไปข้างหน้านะ ค่าใช้จ่ายทางการเมืองก็เยอะเหมือนกัน แต่ว่าถ้าเขาไปทางโน้น บางที 3 แสนกว่าคะแนนของเขานี่ ตกน้ำไปเลย หายต๋อมไปเลยก็ได้นะ แต่ทีนี้คนจะรักชูวิทย์เพราะ คุณเป็นต้นตระกูลไทยนะ เพราะคุณเป็นชูวิทย์นะ ไม่อยากให้เป็น คือถ้าไปอยู่มหาชนเขาจะให้ดูแล

คำนูณ – คือคนกรุงเทพไม่รับมหาชน กับไม่รับชาติไทย คือไม่ได้เกลียดชัง ไม่ได้อะไร แต่ก็มีความรู้สึกว่า ก็หน้าเก่าๆ

สโรชา – เป็นคนที่อยู่ในวงการเก่าๆอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นพรรคทางเลือกของประชาชน เป็นพรรคทางเลือกของการเมือง

สำราญ – ยกเว้นคุณชูวิทย์เขาคิดว่า เขาก็ต้องมาชี้แจงกับชาวบ้านได้ สร้างความเข้าใจว่า ผมจำเป็นต้องอย่างนั้นอย่างนี้นะ อันนั้นก็ว่ากันไปอีกทางหนึ่งนะครับ

สโรชา – แต่มันก็จะเสียเอกลักษณ์ไปเลย นี่เป็นความเห็นส่วนตัวนะ ว่าเอกลักษณ์แกหายนะ คือต้องยอมรับอย่างที่คุณสนธิบอก ว่าแกเป็นกบฏ ซึ่งหลายๆคนชอบความเป็นกบฏของแก ถ้าเกิดว่าเมื่อไหร่ไปร่วมมือกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นนักการเมืองเต็มตัวเนี่ย ที่เป็นมาตั้งแต่ดั้งเดิมนี่ ภาพหายทันที

สำราญ – ก็ 3 แสนคะแนนก็จะหายต๋อมอย่างที่ว่านั่นแหละ บางทีถ้าเราคาดว่าเป็นอย่างนั้นนะ

คำนูณ ผมมองคุณชูวิทย์คล้ายๆกับคุณเฉลิม ในยุคทำพรรคมวลชน คือในที่สุดแล้วก็คือจะมีเสียงแค่ 2,3,5 ถ้าได้ถึง 10 ถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะว่าฐานเสียงมันยังอยู่ในกรุงเทพ แล้วก็เป็นบุคลิกพิเศษเฉพาะตัวของหัวหน้าพรรคเท่านั้น แต่ที่สำคัญคือต้องใช้เงินเยอะ

สโรชา – มีข่าวบ้างไหมคะ เกี่ยวกับคุณนิติภูมิ

สำราญ คุณนิติภูมิฟังข่าวมาว่า มีแนวโน้มสูงจะไปทางพรรคมหาชน นี่ฟังมาจากพรรคมหาชน เขาก็ยังพูดเข้าข้างตัวเองอยู่นะ เขาเชื่อว่าคุณชูวิทย์เกิน 60% น่าจะมา แต่วันนี้จะเหลือ 6% หรือสูญหายไปก็ไม่แน่ อันนี้ก็ต้องจับตากัน พรุ่งนี้ มะรืนนี้ ส่วนดร.นิติภูมิเขาบอกว่าคงจะไป มีแนวโน้ม

สโรชา – แล้วใครอีก คุณปวีณา มีไทยรักไทยมาทาบทามเข้าพรรคจะยังไง

สำราญ – ก็น่าเห็นใจ

สโรชา – จะไปทางไหนดี คนก็คงจะสนใจนะ แต่แกขอเวลาเดือนนึง ขอไปพักผ่อน ไปคิด

สำราญ – การเมืองมันก็รอไม่ได้ นาทีนี้มันต้องเอาสิทธิ์ไว้ก่อน

คำนูณ – เพราะว่าถ้าเกิดไม่เข้าพรรคใดพรรคหนึ่ง เกิดจับพลัดจับผลู สถานการณ์ทางการเมืองมันมีเหตุจะต้องยุบสภาก่อนเวลาที่ควรจะเป็น มันก็จะเสียสิทธิ์ในการสมัคร สส. ไป

สำราญ – คือถ้าปล่อยตามเวลา ช่วงเวลาปกตินะ ภายในวันที่ 5 ตุลาคม นี่สมมุติไม่ยุบสภาเลยนะ ภายในวันที่ 5 ต้องหารังอยู่แล้ว แม้กระทั่งเรา ถ้าเกิดว่าจะไปเล่นการเมืองนะ ก็ต้องไป

สโรชา – แล้วสนามเลือกตั้งใหญ่ เป็นอย่างไรบ้างคะ ตอนนี้ ประชาธิปัตย์เขาฮึกเหิมขึ้นไหม เขาได้ กทม. มาแล้วเนี่ย

คำนูณ – ตอนนี้เขาไปเดิมพันกันที่ตรัง คือ ก็ดีนะผมว่า ประชาธิปัตย์ไม่ได้ไปมุ่งมั่นเอาชนะอะไรที่กรุงเทพ ไม่ได้มาตีปีกกรณีคุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน แต่ไปเปิดปราศรัยที่ตรัง วันเสาร์ แล้วคล้ายๆกับลั่นวาจาเป็นคำตายไว้แล้วว่า ถ้าเผื่อไทยรักไทยเจาะที่นั่งในตรังได้นี่ ถือว่าชนะทั้งหมด

สำราญ- คือถ้าไทยรักไทยเจาะได้แม้ที่นั่งเดียว เท่ากับเขาแพ้ทั้งประเทศ ออกจากปากคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ธรรมดา เพราะที่ผ่านมา คุณสุเทพเก็บตัวตลอด หลังจากเป็นหัวคะแนนให้คุณอภิสิทธิ์แพ้เลือกตั้งหัวหน้าพรรค เขาก็พูดบนเวทีเลยนะ ได้เวลามากู้วิกฤติพรรคประชาธิปัตย์แล้ว

คำนูณ – ท่านนายกฯก็รับคำท้าแล้ว ก็ไม่เชิงรับน่ะ ก็เสมือนๆว่าวิพากษ์กลับไปว่า ประชาธิปัตย์ร้อนตัว อะไรประมาณนั้น ก็ต้องดูล่ะ ว่าคุณทวี สุระบาลเป็นยังไง

สำราญ – คือภาคใต้เขาก็ประกาศอย่างนี้ด้วยนะ นอกจากสส.เขตมีอยู่ 54 คน เขาประกาศว่าอย่างน้อย 51 แต่คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ถ้าคำนวณเป็น สส. นะคุณสโรชา ทั้ง 14 จังหวัดเนี่ย จะมี สส. 11 คนเขาบอกเขาจะต้องกวาดหมด ไม่เฉลี่ยให้ไทยรักไทยแม้แต่น้อย

คำนูณ – ไทยรักไทยประกาศว่าปาร์ตี้ลิสต์จะเอา 70

สำราญ – อันนี้ทั้งประเทศใช่ไหม ภาคใต้ 11 ที่นั่งถ้าคำนวณเป็นคะแนนแล้วนะ ประชาธิปัตย์บอกว่า ไม่ให้แม้แต่ที่นั่งเดียว คือเที่ยวนี้ไทยรักไทยเขาหวังว่า เรื่องยางพารา เรื่องโน้นเรื่องนี้ดูแล้วเวิร์คนะ เขาจะได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์มาคำนวณเป็น สส. 11 คนแบ่งมาซัก 3 คนก็ยังดีทำนองนี้ อันนี้ก็ต้องคอยติดตามกันต่อไป คือเที่ยวที่แล้วไทยรักไทย ปาร์ตี้ลิสต์ไม่มีเลยนะ ไม่ผุดที่ภาคใต้เลย แล้วเขาหวังว่าเที่ยวนี้ ซึ่งรัฐบาลได้ทำงานอย่างโน้นอย่างนี้นะ ทำเรื่องยางมาดี แต่ว่าเจอปัญหา 3 จังหวัดนี่ก็หนาวเหมือนกัน ก็ต้องคำนวณกันอีกที

สโรชา – ว่าตกลงจะเจาะได้หรือเปล่า

สำราญ – แต่ว่า สส. เขตไทยรักไทยเขามีแน่นอนแหละ

สโรชา – แต่ว่าถ้าดูภาพรวมเลือกตั้งใหญ่แล้วเนี่ย มันจะมีความเคลื่อนไหว ความเปลี่ยนแปลงในพรรคประชาธิปัตย์เองไหม ดิฉันสงสัยมากเลย คือในลักษณะว่ามันมีความขัดแย้งภายในอยู่แล้ว พอคุณอภิสิทธิ์สามารถจะดันคุณอภิรักษ์ขึ้นผู้ว่าฯกทม.ได้ กระแสภายในพรรคมันเป็นยังไง คือมีการชิงดีชิงเด่นกันเองไหม หรือว่าเราคงจะเห็นคุณบัญญัตินี่แหละ นำทัพไปถึงเลือกตั้งใหญ่แล้วค่อยว่ากัน

สำราญ – ตอนนี้คงจะตกลงปลงใจอย่างนั้น คือต้องยอมให้คุณบัญญัตินำ คือต้องพักรบ จะไม่มีการล้มเก้าอี้กันเองอีกแล้ว มากกว่านี้อีกแล้ว ก็ต้องออกมาช่วยคุณบัญญัติ คุณบัญญัติแพ้การเลือกตั้ง ก็คือนำทัพสู้ศึกแล้วได้น้อยกว่าเที่ยวที่แล้ว 130 เนี่ย แกก็ต้องเปลี่ยนตัวเองออกไป โดยทิศทาง ก็ถึงยุคของคุณอภิสิทธิ์ แต่ว่านี่คือทิศทางนะ

สโรชา – ก็ติดตามกันต่อไปเลือกตั้งใหญ่ ดูแล้วก็คงจะเป็นซักต้นปีหน้าใช่ไหมคะ ไม่น่าจะเร็วกว่านั้น

คำนูณ – วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ถ้าเผื่อว่าครบวาระ

สำราญ – คือถ้าครบวาระก็เลือกตั้งใน 45 วัน วันที่ 5 มกราคม สภาครบเทอม

คำนูณ – เอาเป็นว่ายังไงก็กุมภาพันธ์น่ะ

สโรชา – ก็ติดตามกันต่อไป เชื่อว่าการหาเสียงก็คงจะเป็นไปอย่างคึกคักตลอดครึ่งปีหลังนี้ นโยบายต่างๆก็คงจะดุเด็ดเผ็ดมันพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วาทะของท่านนายก คงจะต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด ว่าการเดินหมากต่อไปของทั้งไทยรักไทยและประชาธิปัตย์จะเป็นอย่างไร เดี๋ยวเราจะพักกันซักครู่นึงค่ะ กลับมาติดตามประเด็นของข่าวต่างประเทศบ้าง เพราะว่าค่อนข้างจะมีความเคลื่อนไหวสูงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าเป็นการบุกยึดโรงเรียน ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปเกือบ 400 ราย รวมไปถึงการเมืองของสหรัฐอเมริกา และมาเลเซียด้วย พักซักครู่ เดี๋ยวกลับมาติดตามกันค่ะ

สโรชา – มาถึงช่วงสุดท้ายของรายการแล้วนะคะ มาติดตามการบุกยึดโรงเรียนที่รัสเซีย โดยมีผู้เสียชีวิตทั้งตัวประกันและผู้ก่อการร้าย เสียชีวิตทั้งหมดเลย 129 คน ตอนนั้นประธานาธิบดีก็เกือบจะถูกล้มเก้าอี้ด้วยซ้ำไป เพราะว่าเขาบอกว่าใช้ความรุนแรงเกินเหตุ โดยที่ไม่นึกถึงชีวิตของตัวประกันเลย ในครั้งนี้หลายๆฝ่ายเฝ้าติดตามว่า ปูตินจะทำยังไง แต่เคราะห์นี้เขายอมรับว่าจริงๆแล้วไม่ได้เจตนาที่จะใช้กำลัง เชื่อหรือไม่เชื่ออีกเรื่องหนึ่งนะคะ ยอดผู้เสียชีวิตตอนนี้ก็ใกล้ๆ 400 แล้วค่ะ ทั้งตัวประกัน ทั้งผู้ก่อการร้าย รวมไปถึงผู้เสียชีวิตในช่วงที่ผู้ก่อการร้ายยึดโรงเรียน ตอนแรกคือวันพุธ ใช้เวลาอยู่ 2 ชั่วโมง ตัวประกันที่ติดอยู่ข้างในก็ออกมาเล่า ผู้ที่รอดชีวิตก็ออกมาเล่าว่า ไม่ได้ทานอะไรเลย ตลอด 2 วันที่ถูกจับไว้ แล้วก็ต้องดื่มปัสสาวะตัวเอง เพื่อที่จะประทังชีวิตไว้ คือเป็นเหตุการณ์ซึ่งไม่รู้หลายๆฝ่ายก็บอกว่า เป็นการล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าเลย ของหน่วยข่าวกรองรัสเซีย เพราะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการบุกโรงเรียนเนี่ย ก็มีผู้ก่อการร้ายก่อเหตุ 2 รอบเลย ติดต่อกัน แล้วก็บอกว่าในครั้งนี้ถือว่า รัฐคงต้องอธิบายกันอีกเยอะล่ะ เพราะว่าคนเป็นนับพันเนี่ย เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นเนี่ย เขายังไงกันแน่ ถึงแม้จะไม่ได้เจตนาใช้กำลังเนี่ย แต่ก็คงต้องตอบคำถามกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น

สำราญ – แล้วคนร้ายก็ตั้งหลาย 10 นะ

สโรชา – ล่าสุดบอกว่าคนร้ายประมาณ 23 คน โดยที่เสียชีวิตไปแล้ว ตรวจสอบแล้ว มีเป็นคนที่มาจากประเทศอาหรับเป็นส่วนใหญ่ แล้วก็เชื่อว่าคงมีการเชื่อมโยงเครือข่ายไปยัง อัลกอร์ อีดะ ด้วย คือเดิมทีเข้าใจกันว่าเป็นกบฏเชสเนีย ที่มีการต่อสู้กันเป็นระยะเวลายาวนาน และก็เป็นผู้ที่รับผิดชอบการก่อเหตุหลายๆครั้งในรัสเซียเอง แต่ในครั้งนี้แล้ว ถ้าดูจากผู้เสียชีวิตน่าจะมีการเชื่อมโยงไปถึง อัลกอร์ อีดะ ด้วย เพราะฉะนั้นคงไม่สามารถที่จะฟันธง ว่ามันเป็นความขัดแย้งภายในประเทศของเขาเอง คงจะมีการช่วยเหลือ อย่างน้อยที่สุดเรื่องของการวางแผน ร่วมกับอัลกอร์ อีดะมา

คำนูณ – ผสมผสาน อัลกอร์ อีดะ เขามาทำตรงนี้แล้วเขาจะได้อะไร

สโรชา – ก็ได้ภาพว่าเขาสามารถที่จะเชื่อมโยงกับกลุ่มกบฏทั่วโลกแล้วตอนนี้ คือเขาสามารถที่จะเข้าไปในหลายประเทศ ไปเชื่อมโยงกับกลุ่มกบฏหรือชนกลุ่มน้อย แล้วก็ช่วยให้คนกลุ่มนั้นก่อเหตุ เพื่อที่จะกระทบต่อเสถียรภาพในรัฐบาลกลางนั้นๆได้ เพราะฉะนั้นในครั้งนี้ก็คงไม่ผิดกับประเทศอื่นๆ ที่เราเคยเห็น ว่ามีการช่วยเหลือทางด้านการเงิน ด้านการวางแผน ทางด้านการเทรน คือเขาบอกว่า กบฏเชสเนียเคยเดินทางไปในตะวันออกกลาง เพื่อที่จะไปเทรนหลายต่อหลายคนเหมือนกัน โดยที่ทางการรัสเซียก็ทราบ คิดว่าจากนี้ไป การดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีปูติน คงไม่ง่ายแล้วล่ะ เพราะว่ามันต้องตอบคำถามค่อนข้างจะเยอะ เหตุการณ์ครั้งนี้ดิฉันว่ารุนแรงและสะเทือนขวัญมากกว่าเหตุการณ์ 11 กันยายนในตอนนั้น ถึงแม้ว่าจะดูยิ่งใหญ่และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า หลายต่อหลายเท่า แต่ครั้งนี้จะเห็นได้ชัดว่า ภาพที่ออกมา เด็กกระทบเยอะมาก เด็กที่วิ่งออกมาไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ใส่กางเกงชั้นในเพียงตัวเดียวเท่านั้น ตัวผอม เพลีย ไม่ได้ทานอะไรเลย วิ่งหนีเอาชีวิตรอดออกมา คือมันเป็นภาพที่คนทั่วโลกมองแล้ว คงจะต้องตั้งคำถามว่า รัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่

สำราญ – คือเครื่องบินชนตึกมันยังดูเหนือความควบคุมนะ แต่พลาดตรงที่ปล่อยขึ้นเครื่องมากได้อย่างไร แต่นี่คือมันเหยียบจมูกคล้ายๆใจกลางเมือง

สโรชา – ถามจริงๆแล้วใครๆก็ทำได้ ถ้าหากว่าในวันพรุ่งนี้ กลุ่มกบฏอีกกลุ่มหนึ่งอยากจะทำอย่างนี้ขึ้นมา รัฐบาลก็ไม่สามารถที่จะหยุดยั้งพวกเขาได้

คำนูณ – คือจะบอกว่าเป็นกลางเมืองเสียทีเดียวก็ลำบาก คือมันเป็นกลางเมืองในสาธารณรัฐแห่งหนึ่ง ในหลาย 10 รัฐ คือรัสเซียนี่มีประธานาธิบดีเต็มไปหมด ของสาธารณรัฐย่อยๆ อันนี้ก็เป็นสาธารณรัฐเล็กๆ

สโรชา – แต่ก็ถือว่า คือเมืองนี้ก็สั่นสะเทือนกันไปทั้งเมือง วันนี้เองนะคะ วันอาทิตย์ก็มีพิธีทางศาสนาในการฝังศพผู้ที่เสียชีวิตให้ครั้งนี้ เขาบอกว่าทั้งเมืองเนี่ย ถ้าเกิดฟังแล้วได้ยินเสียงโห่ร้อง เสียโหยหวนจากบรรดาญาติพี่น้องที่สูญเสียลูก สามีภรรยาในเหตุการณ์ครั้งนี้ เพราะฉะนั้นก็คิดว่า มันคงยังไม่จบเพียงเท่านี้ ดิฉันเชื่ออย่างนั้น คือประธานาธิบดีปูตินออกโทรทัศน์สดๆเลยนะคะ ว่ายอมรับถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น แต่คนจะรับคำอธิบายของท่านหรือเปล่า

คำนูณ – ที่สำคัญก็คือไม่มีเสรีภาพของสื่อ ทำให้ข่าวสารมันก็ดูเหมือนโกหกมาตั้งแต่แรก แล้วก็ค่อยๆมายอมรับทีละนิดๆ ในที่สุดก็ปิดไม่ได้

สำราญ – สื่อเขาวิเคราะห์เส้นทางขอเป็นเอกราชของเชสเนีย

สโรชา – เขาบอกไม่มีทางที่จะเป็นไปได้หรอก คือมันเป็นสิ่งที่รัฐบาลกลางไม่สามารถจะยอมรับได้ ในขณะที่เชสเนียเองก็จะไม่มีวันยอมรับว่า จะต้องขึ้นกับรัฐบาลกลาง ไม่มีเอกภาพเป็นของตัวเอง เพราะฉะนั้นมันเป็นความขัดแย้งที่มองไม่เห็นว่ามันจะลงเอยได้อย่างไร นอกจากว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายนึงยอม ซึ่งก็เป็นไปได้ยากมาก

คำนูณ – ขึ้นอยู่กับว่าใครจะตายหมดก่อน ซึ่งเชสเนียเสียเปรียบ น้อยกว่าเยอะ

สโรชา ต้องยอมรับว่าสื่อในรัสเซียก็ไม่มีเสรีภาพที่จะรายงานสิ่งเหล่านี้ออกมา โดยเฉพาะในเชสเนียเอง สื่อที่จะเข้าไป แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย รัฐบาลกลางไม่อนุญาตให้สื่อต่างชาติเข้าไปในเชสเนีย ก็เลยเกิดคำถามขึ้นมาว่า คุณกำลังทำอะไรอยู่ในนั้น

คำนูณ – มันเป็นความโหดร้ายของโลกยุคปัจจุบัน อย่างเห็นที่พวกกบฏที่เขาเข้าไปยึดเนี่ย เขาประกาศว่า ถ้าเกิดว่าเขาเสียชีวิตไป 1 คน เขาจะต้องเอาคืนตัวประกัน 50 คน ถ้าเกิดเขาบาดเจ็บจะเอาคืน 20 คน

สโรชา – ก็คือในช่วงแรกที่มีการบุกยึดโรงเรียน ก็มีหลายๆฝ่าย ตอนนี้ยังไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบนะคะ แต่ว่ามีการแสดงความคิดเห็นว่า สาเหตุที่ไม่แสดงความรับผิดชอบเพราะว่า เป็นการบุกยึดโรงเรียน ซึ่งกระทบต่อเด็ก และก็มันก็ทำให้ภาพตรงนั้นเสียไป มันติดลบ ก็ทำให้ไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบตรงนี้ ไปดูความเคลื่อนไหวในประเทศมาเลเซียบ้าง เป็นคำพิพากษาที่เซอร์ไพส์พอสมควร สำหรับศาลฎีกาของมาเลเซียได้สั่งปล่อยตัวนายอัลวา อิบราฮิม อดีตรองนายกฯของมาเลเซีย เป็นข่าวฮือฮามาตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา ที่โดนข้อหาฉ้อโกง และประพฤติผิดทางเพศด้วย ติดคุกไปก็ศาลพิพากษาในช่วงนั้น ผิดทั้ง 2 ข้อหาเลย จนกระทั่งท้ายสุดศาลฎีกากลับคำพิพากษา ปล่อยตัว จริงๆแล้วต้องติดคุกอีก 9 ปีเต็มๆเลย ตอนนี้ก็ได้รับการปล่อยตัวมา นักวิเคราะห์การเมืองเขาก็ต่างฟันธงกัน ว่าเป็นเพราะว่าท่านมหาธีร์ มุฮัมหมัดไม่ได้อยู่ในตำแหน่งแล้ว เพราะไม่สามารถจะมาชิงตำแหน่งนายกฯได้ เลยถูกปล่อยตัวออกมา เพราะไม่มีอันตรายต่อใคร

คำนูณ – ก็เป็นเรื่องที่น่าวิเคราะห์ และก็น่าเก็บเป็นบทเรียนเหมือนกัน มาเลเซียนี่เป็นการเมืองเกือบๆจะกึ่งพรรคเดียว แล้วก็เป็นประชาธิปไตยแบบกึ่งๆอำนาจเบ็ดเสร็จเหมือนกัน แล้วทิศทางการกำหนดอะไรเนี่ย คือ เหมือนคุณจะจับกุม คุณก็จับกุมได้ทันที ข้อหาสารพัดมี

สโรชา – ก็มีคนวิเคราะห์กันพอสมควร ว่าก็เป็นตัวอย่างของอีกหลายๆประเทศ ซึ่งความน่ากลัวของอำนาจเบ็ดเสร็จมันอยู่ตรงไหน แต่ว่าทิศทางต่อไป แกคงไม่กลับมาหลังจากไปรักษาตัวที่เยอรมัน เพราะไม่แน่ใจว่า จะโดนห้ามเล่นการเมืองอีก 5 ปีหรือเปล่า ก็ต้องติดตามกันต่อไปสำหรับการเมืองของมาเลเซีย ส่วนเรื่องการเมืองในสหรัฐ เอาสั้นๆแล้วกัน ก็คือประธานาธิบดีบุชก็ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ จากพรรครีพับรีกันในการชิงตำแหน่งผู้นำในสมัยที่ 2 ซึ่งโพลล์ในตอนนี้ก็ยังสูสีอยู่ ยังดูไม่ออกว่าใครจะชนะ แทบจะเสมอกันเลย ไม่มีใครได้เปรียบใคร

สำราญ – เหมือนอย่างคุณอภิรักษ์ – ปวีณา ตอนแรกๆ

สโรชา – ใช่ค่ะ แต่ไม่ทราบว่า ไปๆมาๆทำไมกลายเป็นอย่างนี้ไปได้ แต่ตอนนี้หมดเวลาแล้วค่ะ สำหรับรายการก่อนจะถึงวันจันทร์ ติดตามเรื่องราวต่างๆที่น่าสนใจกันได้ใหม่ในอาทิตย์หน้า สำหรับวันนี้เรา 3 คนขอลาไปก่อน สวัสดีค่ะ
กำลังโหลดความคิดเห็น