xs
xsm
sm
md
lg

ก่อนจะถึงวันจันทร์คุยกับว่าที่ผู้ว่าฯ และผู้สมัครอกหัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ก่อนจะถึงวันจันทร์ภาคพิเศษกาะติดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ สัมภาษณ์ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ พร้อมเปิดใจผู้สมัครผู้ว่าฯ สอบตก

  • สโรชา – สวัสดีค่ะ กลับเข้ามาสู่รายการก่อนจะถึงวันจันทร์ ซึ่งตอนนี้ก็ค่อนข้างจะแน่นอนแล้ว ว่าผู้ว่าฯคนใหม่ น่าจะเป็นคุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน แต่ก่อนที่เราจะไปติดตามการนับคะแนนอย่างต่อเนื่อง ในก่อนจะถึงวันจันทร์คืนนี้ เราคงต้องคุยกันด้วยว่า ผลการเลือกตั้งวันนี้จะมีผลกระทบอย่างไรต่อการเมืองโดยรวม และพรรคไทยรักไทยจะว่าอย่างไร เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ นอกจากเราทั้งสามคนที่จะมาพบกันแล้วในคืนวันอาทิตย์ แต่วันนี้มีแขกพิเศษที่จะมาร่วมเจาะลึก และวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบกับคุณสำราญ รอดเพชร คุณคำนูณ สิทธิสมาน และสวัสดีเป็นพิเศษ คุณสนธิ ลิ้มทองกุลค่ะ
  • สำราญ,คำนูณ, สนธิ – สวัสดีครับ
  • สโรชา – ไม่เจอหน้าเจอตากันในก่อนจะถึงวันจันทร์ แต่ว่าตอนนี้ก็คือ พอจะทราบแล้วนะ น่าจะเป็นไปตามคาด จะไม่เรียกว่า Exit Poll ก็แล้วกัน จะเรียกว่าการวิจัยดีไหม ของหลายๆช่องหลายๆสำนัก ก็น่าจะเป็นคุณอภิรักษ์ ดูผลคะแนนล่าสุดที่ปรากฏอยู่ในจอ นี่ก็ทิ้งห่างพอสมควรนะคะ
  • สนธิ – 2:1 ได้ไหม?
  • สำราญ – ครึ่งต่อครึ่งนะครับ
  • สนธิ – คือผมคิดว่า ผมไม่รู้นะ เราเคยพูดเรื่องนี้กันมานานแล้ว คะแนนที่ 1 กับที่ 2 เนี่ย ถ้าเฉียดฉิวก็แสดงว่า เสียงที่คนนิยมพรรคไทยรักไทยก็ยังไม่ตก แต่ว่าถ้าชนะกันแบบครึ่งต่อครึ่งนี่ ผมคิดว่า พรรคไทยรักไทยต้องไปทบทวนยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของ สส. ในปี 2548 เสียใหม่ ผมว่าต้องประเมินตัวเองอย่างหนักเลย แล้วก็อันนี้พูดกันอย่างนักวิเคราะห์ทางการเมืองจริงๆ ไม่เข้าข้างใคร คุณสำราญว่ายังไง
  • สำราญ – ก็คงกระทบแน่นอน เพียงแต่ว่าจะพลิกข้างกันไหม อันนี้ก็พูดมาหลายทีแล้วว่า ตอนนี้ประชาธิปัตย์มีอยู่ 9 ไทยรักไทยมีอยู่ 28 เฉพาะกทม.นะ สส. มันจะพลิกข้างกันไหม ประชาธิปัตย์ 28 ไทยรักไทย 9 ทำนองนี้นะครับ ผมคิดว่าจะไม่สวิงถึงขนาดนั้นนะ ถ้ามุมมอง แต่ว่าจะกระทบอย่างแน่นอน คือไทยรักไทยจะหายไปหลายเสียง
  • สโรชา – ค่ะ แต่ที่แน่ๆ มันมีตัวแปรเข้ามาอีกตัวนึงนะ คือพรรคต้นตระกูลไทย ตกลงเขาจะยังไงนี่ เขาประกาศแล้วนะว่า ถึงแม้ว่าการแพ้ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯนี่ เขาลงสส.แน่นะคะ คุณชูวิทย์
  • สำราญ – คุณชูวิทย์เขาประกาศวันนี้ที่ให้สัมภาษณ์หลายช่อง เขาบอกว่าตอนแรกนี่คือจะแจ้งเกิด 10 เสียง ต่อมาให้สัมภาษณ์อีกว่าจะขอซักครึ่งหนึ่ง ผมคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ แต่อาจจะแจ้งเกิดได้เป็นบางเขต คนสองคนน่าจะเป็นอย่างนั้น ท่าจะเป็นไปได้
  • สนธิ – สัมพันธวงศ์ได้ไหม
  • คำนูณ – ถ้าตัวแกลงเอง
  • สนธิ – ถ้าตัวคุณชูวิทย์ลงนะ
  • สำราญ – คือแค่ได้ที่นั่งเดียวนะ ต้นตระกูลไทย ผมว่าคุณชูวิทย์ชนะแล้ว ก็เป็นสีสันอย่างหนึ่ง
  • สโรชา – คุณคำนูณเห็นด้วยไหมคะ?
  • คำนูณ – ถ้าตัวแกลงเองเขตสัมพันธวงศ์
  • สโรชา – คนอื่นไม่มีสิทธิเลยหรือในพรรคเนี่ย? คือหมายความว่าจะแจ้งเกิดเป็นพรรคเลย คงไม่ได้
  • คำนูณ – คงจะยาก เพราะว่ากฎเกณฑ์ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ไม่เอื้ออำนวยให้พรรคขนาดเล็กเกิด อย่างเป็นต้นว่า คะแนนปาร์ตี้ลิสต์เนี่ย จำเป็นจะต้องได้ 5% ของผู้มาออกเสียง ซึ่งขนาดคราวที่แล้วเอาง่ายๆ พรรคชาติไทยยังต้องลุ้นกันจนตัวโก่ง ชาติพัฒนาก็ลุ้นกันนาทีสุดท้าย
  • สำราญ – ก็มีทางเดียว คุณชูวิทย์ต้องมาลงเขต
  • คำนูณ – คุณชูวิทย์ต้องลงเขต เลือกเขตที่อาจจะใช้การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ เป็นตัววัดว่าเขตใด
  • สนธิ – น่าจะเป็นสัมพันธวงศ์ ถ้าอย่างนั้น
  • คำนูณ – แกเคยบอกเราครับ ในรายการสภาท่าพระอาทิตย์ ว่าเป็นสัมพันธวงศ์ ซึ่งเราก็เคยคุยว่า จะทำให้สัมพันธวงศ์เป็นเขตที่สนุก เพราะว่าไทยรักไทยก็มีอยู่ มีใครนะคุณสำราญ
  • สำราญ – คุณอรทัย ฐานะจาโร
  • สนธิ – เมื่อเที่ยงผมไปทานข้าวเที่ยงแถวเยาวราช มันน่าสนใจ คือไปถามร้านแถวๆนั้นว่าเลือกใคร เขาก็บอกว่าต้องชูวิทย์ ที่เลือกชูวิทย์เพราะว่าสู้กับตำรวจใช่ไหม? เขาบอกว่า ใช่ พวกเขาไม่ชอบตำรวจ คือชูวิทย์นี่เป็นภาพสะท้อนของการที่เขาไม่พอใจ การกระทำของหน่วยงานราชการ อย่าว่าแต่ตำรวจเลย แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่เขตอะไรก็ตามที่ไปก่อปัญหา นั่นคือเหตุผลว่าทำไม คุณชูวิทย์ชนะสัมพันธวงศ์ใช่ไหม?
  • คำนูณ – คะแนนจริงยังไม่ออก
  • สนธิ – คือคะแนนสัมพันธวงศ์จะสูงมาก ผมคิดว่าคุณชูวิทย์
  • สโรชา – รู้สึกว่าจะไม่ถึงที่ 1 แต่ว่าแซงคุณปวีณาขึ้นมาเป็นอันดับ 2
  • สนธิ – ผมว่าถ้าแกแซงคุณปวีณา แล้วถ้าแกลงเดี่ยวๆนะ ผมว่าแกไม่สิทธิได้ ผมเห็นด้วย แกอาจจะได้ และผมคิดว่าแกคงไปเล่น สส. มากกว่าไปเล่น สว. สว.ต้องรอปี 49 ซึ่งตัวกระแสอาจจะตกไปแล้วก็ได้ตอนนั้น ตอนนี้เหล็กกำลังร้อนต้องตีเสียก่อน แต่อีกอันหนึ่งสังเกตไหม คุณนิติภูมินี่นะ เป็นบทพิสูจน์อย่างนะ คนที่มาทำสื่ออยู่ในวงการสื่อ ถ้าลงเข้าไปเล่นการเมืองแล้วเนี่ย ดีๆชั่วๆมีคะแนนติด มีแฟนคลับอยู่ประจำ ผมไม่ได้เล่าให้ฟังอย่างนึง เป็นประเด็นทางการเมืองที่เขาเชือดเฉือนกันใหญ่ คือวันที่ผมไปปาฐกถาที่หาดใหญ่ ก็มีคุณสมพงศ์ ศักดิ์กวี เพิ่งเดินทางจากนครศรีธรรมราชกลับมา บอกว่าที่นั่นมีการฟาดฟันกันหนัก ระหว่างประชาธิปัตย์กับไทยรักไทย ถึงกับขึ้นป้ายใหญ่ว่า “ใครบอกว่าเศรษฐกิจทักษิณไม่ดี ควายตัวละ 32 ล้านบาท” พอรุ่งขึ้นป้ายใหม่ขึ้นบอกว่า “เศรษฐกิจทักษิณดีแน่ ซื้อควาย 1 ตัวเท่ากับ 32 ถ้าซื้อยกคอก 1000 ล้าน” คือโดยนัยก็คือ 32 ล้านก็คือเป็นข่าวที่ประชาธิปัตย์ปูดออกมาบอกว่า ไทยรักไทยซื้อตัว สส. ประชาธิปัตย์จังหวัดตรังมา 32 ล้าน ส่วนพันล้านนั้นก็เป็นข่าวซึ่งคุณเอกยุทธ อัญชัญบุตรออกมาเป็นข่าวว่า พร้อมที่จะให้พรรคประขาธิปัตย์ 1000 ล้าน ก็คือซื้อยกคอก คือเขาเชือดเฉือนกันอย่างดุเดือดมาก
  • สโรชา – แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว คุณอภิรักษ์สงสัยจะมาวิน เราไปฟังเสียงของท่านนายกกันดีกว่าค่ะ ว่าท่านว่าอย่างไรเกี่ยวกับจะเรียกว่าชัยชนะ ก็อาจจะว่าได้ในตอนนี้ ไปฟังเสียงท่านนายกกันก่อนค่ะ

    *****VTR*****
  • นายกฯทักษิณ – กทม.ต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ถ้าไม่เช่นนั้นการทำงาน งบประมาณกทม.มีจำกัด แต่ปัญหากทม.ใหญ่ เพราะฉะนั้นรัฐบาลจะให้การสนับสนุนเต็มที่ คือใครก็ช่างที่มาเป็นผู้ว่าฯกทม.ที่ประชาชนเลือกแล้ว รัฐบาลพร้อมจะทำงานด้วย
  • ผู้สื่อข่าว – การที่คนของพรรคประชาธิปัตย์ได้รับการเลือกตั้งตรงนี้ เป็นสัญญาณอะไรบ้างรึเปล่าคะ? ในทางการเมือง
  • นายกฯทักษิณ – ในทางการเมืองไม่เกี่ยวกับ ประชาชนเวลาเลือกตั้ง เหมือนกับถามคำถามเรื่องนึง เขาก็ตอบเรื่องนึง เขาไม่ได้ตอบคำถาม 2 เรื่อง
  • ผู้สื่อข่าว – มันจะส่งผลไปถึงการเลือกตั้งใหญ่หรือเปล่า
  • นายกฯทักษิณ – เอ่อ ไม่น่าจะเกี่ยวเลยนะครับ เพราะฉะนั้นนี่เอาเป็นว่า เลือกตั้งกทม.เที่ยวนี้ ผมต้องขอแสดงความยินดีกับคุณอภิรักษ์ แล้วก็พร้อมที่จะให้ความสนับสนุนในการทำงาน ในฐานะผู้ว่ากทม.ให้ประสบผลสำเร็จ
  • ผู้สื่อข่าว – ในส่วนของพรรคไทยรักไทย คิดว่ามันเป็นกระแสไหม
  • นายกฯทักษิณ – ไม่เกี่ยวเลย เพราะว่าไทยรักไทยไม่ได้ส่ง แสดงว่ามันเป็นเรื่องของประชาชน เลือกคุณอภิรักษ์ก็เป็นเรื่องที่เหมาะสม
  • ผู้สื่อข่าว – ถ้ามีอะไรขัดบางอย่างกับรัฐบาลจะทำยังไง
  • นายกฯทักษิณ – ไม่มีหรอก การขัดกันในการทำงานเป็นเรื่องธรรมดา ตราบใดที่เราอย่าไปเล่นการเมืองเท่านั้นเอง ไม่มีปัญหาหรอก
  • ผู้สื่อข่าว – ที่ผ่านมามี สส. ไทยรักไทยบางส่วนไปสนับสนุนคุณปวีณา อันนี้มันจะสะท้อนอะไร?
  • นายกฯทักษิณ – โอ๊ย อันนี้ไม่เป็นไรเลย เพราะว่าในเมื่อพรรคไม่ส่ง ใครจะไปสนับสนุนใคร ก็เป็นสิทธิ เป็นอิสระของเขา ซึ่งเขาก็สนับสนุนผู้สมัครคนอื่นด้วยก็มี เพราะฉะนั้นก็ถือว่า พรรคไม่ได้ส่ง เมื่อพรรคไม่ส่ง เราตั้งใจอยู่แล้วว่า เราต้องการให้การเมืองระดับชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราค่อนข้างจะมั่นใจว่า โอกาสที่เราจะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกมันมี เพราะงั้นเราต้องการที่จะให้ เอ่อ ไม่อยากเข้าไปยุ่งกับการแข่งขันในระดับการเมืองท้องถิ่น แต่ต้องการจะสนับสนุนให้ผู้บริหารท้องถิ่นที่ประชาชนเลือกมานั้น ได้รับการสนับสนุนการทำงาน ให้ประสบผลสำเร็จ
  • ผู้สื่อข่าว – เท่าที่ดูนโยบายของคุณอภิรักษ์นี่ โดยเฉพาะเรื่องจราจร ที่มีออกมาคล้ายๆของรัฐบาล
  • นายกฯทักษิณ – ไม่มีปัญหาเลย มันต้องทำงานด้วยกันอยู่แล้ว เพราะจริงๆแล้วนี่นโยบายจราจรขอวกทม.นี่ ทำยังไงมันก็ต้องใช้เงินรัฐบาล แล้วทำยังไงรัฐบาลก็ต้องเข้าไปจัดระบบการขนส่งระดับใหญ่ ซึ่งในกทม.ในวันนี้ รถมันติดมาก มันต้องใช้ขนส่งระดับใหญ่ ระดับใหญ่นี่มันจะเอาตังค์ที่ไหน ก็เอาตังค์รัฐบาล รัฐบาลก็มีสำนักนโยบายขนส่ง ซึ่งผู้ว่าฯกทม.เป็น 1 ในกรรมการ ซึ่งผมเป็นประธานอยู่แหละ
  • ผู้สื่อข่าว – ท่านนายกมองคุณอภิรักษ์เป็นอย่างไรบ้างคะ?
  • นายกฯทักษิณ – เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ เป็นนักบริหารครับ ก็ดี ได้ใช้มิติของการบริหารไปแก้ปัญหากทม. ซึ่งค่อนข้างจะเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและยุ่งยากเยอะ เพราะฉะนั้นถ้าใช้มิติของการบริหารก็คงจะช่วยได้เยอะ
  • ผู้สื่อข่าว – ท่านมองว่าคุณอภิรักษ์จะทำหน้าที่ผู้ว่าฯได้ดีใช่ไหม?
  • นายกฯทักษิณ – โอ๊ย คนรุ่นใหม่น่ะ คนรุ่นใหม่น่าจะทำงานได้ ไม่มีปัญหา เพราะว่าเขาคงจะไม่มีปาร์ตี้ไลน์ มาเป็นอุปสรรคในการทำงานร่วมกับรัฐบาลมากนัก
  • ผู้สื่อข่าว – ที่ผ่านมาในการทำ Poll คุณอภิรักษ์นำมาตลอดเลยหรือเปล่าคะ?
  • นายกฯทักษิณ – เอ่อ มานำช่วงหลังครับ เพราะว่าช่วงหลังนี้ ตอน Poll เราเห็นชัด คุณปวีณาไหลลงเร็วมาก แล้วก็ 8 วันสุดท้ายนี่ผมรู้แล้ว ว่าคุณอภิรักษ์ชนะ
  • ผู้สื่อข่าว – วิเคราะห์ไหมคะ ว่าที่ขึ้นมานำนี่เพราะอะไร?
  • นายกฯทักษิณ – คือตัวเลือกตัวแรกนี่มันเหมือนกับว่า ฝุ่นมันตลบคนยังหามองไม่เห็นว่า จะเอายังไง พอฝุ่นหายตลบคนก็ตัดสินใจได้ว่าควรจะเลือกใคร อันนี้เป็นเรื่องปกติที่คนกรุงเทพฯ ก็จะต้องใช้วิจารณญาณ ว่าควรจะเลือกใครที่มาทำงานให้เขาได้ เพราะเขามั่นใจว่าคุณอภิรักษ์ดูยังหนุ่ม และก็เป็นนักบริหารมาก่อน น่าจะทำงานได้
  • ผู้สื่อข่าว – คิดว่ามันจะเป็นปัจจัยในการเลือกผู้สมัครของพรรค ในการลงครั้งหน้าด้วยหรือเปล่าคะ? ที่จะเอาคนรุ่นใหม่ไฟแรงมาลง
  • นายกฯทักษิณ – จริงๆเลือก สส. ไม่เหมือนกัน เขาเลือก สส.มาทำงานในสภา พรรคต่างหากที่เป็นคนเลือกรัฐมนตรี แต่ว่าผู้ว่าฯกทม.นี่มันเป็นการสมัครมาเป็นนักบริหาร มันคนละแบบเลย เรื่องพวกนี้ประชาชนแยกแยะออกหมด

    *****

  • สโรชา – ค่ะ เสียงของท่านนายกนะคะ ว่าจริงแล้วรู้มาแล้ว 8 วันแล้วล่ะ ว่าจริงๆแล้วน่าจะเป็นคุณอภิรักษ์ เพราะ Poll คุณปวีณาค่อนข้างจะถดถอยไปเรื่อยๆ จริงๆแล้วท่านพูดมาตั้งนานแล้ว ก่อนที่จะเปิดรับสมัครด้วยซ้ำไป ว่าท่านทราบว่าจะเป็นผู้ชาย อายุไม่ถึง 60 ตอนนั้นเราเคยวิเคราะห์กันเลยว่า ใครตกเกณฑ์ 60 บ้าง แสดงว่าท่านก็แม่นเหมือนกันนะ จริงๆแล้วคุณสุดารัตน์ก็ให้สัมภาษณ์วันนี้ บอกว่า การที่จะต้องมาทำงานร่วมกันแก้ไขปัญหาของกทม.เนี่ย มาทำงานร่วมกับรัฐบาลเป็นเรื่องที่สำคัญเหมือนกันนะ ไม่ใช่ว่าเราจะมาขัดแย้งกันได้ เพราะว่ารัฐบาลนี่ต้องให้การสนับสนุนค่อนข้างจะเยอะ ถึงจะแก้ได้ขาด
  • สนธิ – คือเมื่อกี๊ ท่านนายกให้สัมภาษณ์ ผมว่ามันมีอยู่จุดหนึ่งถ้าคุณสังเกต ท่านบอกว่า อย่ามาเล่นการเมืองก็แล้วกัน ก็คือว่า ณ ตอนนี้ผมเองมองว่า วันนี้เนี่ยพรรคไทยรักไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณทักษิณ ชินวัตร ทำอะไรมากไปกว่าการขอแสดงความยินดี แล้วก็พร้อมจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เนี่ย เกินกว่านั้นไม่ได้แล้ว ขาดกว่านั้นก็ไม่ได้ ก็เป็นมารยาททางการเมือง แต่ว่าผมยังไม่แน่ใจว่า ทางฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ เพราะว่าช่วงนี้เราต้องยอมรับว่าเขาฮึกเหิมมาก เหมือนกับว่าต้นไม้ที่ไม่ได้น้ำมานานแล้ว แล้ววันนี้มีคนเอาน้ำมารดต้นไม่ต้นนี้ หลังจากฝั่งกระถางของไทยรักไทยมีคนรดน้ำตลอด วันนี้จู่ๆฝั่งโน้นไม่มีน้ำ น้ำมาทางนี้ ทีนี้ถ้าหากเกิดพรรคประชาธิปัตย์จับประเด็นตรงนี้ แล้วพลิกผันไปชี้ให้เห็นว่า กระแสพรรคไทยรักไทยตรงแล้วนะในกทม. คือคล้ายๆกับใช้ความชำนาญ ใช้ศักยภาพ ไปตีปีก ผมเชื่อว่าความขัดแย้งทางการเมือง จะสนุกแล้วคราวนี้ ผมไม่รู้ว่าคุณเห็นว่ายังไง
  • คำนูณ – ผมว่าเท่าที่ดูมาโดยตลอด คุณอภิรักษ์วางตัวได้ดี คือวางตัวแตกต่างจากความเป็นประชาธิปัตย์ค่อนข้างมาก แม้กระทั่งวินาทีที่จะเหมือนจะรู้ว่าชนะแล้ว ก็ยังการ์ดสูง แล้วไม่พูดถึงประเด็นปัญหาการเมือง แล้วก็พูดมาโดยตลอดว่า สามารถที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลได้ ก็อาจจะเป็นภูมิหลังของคุณอภิรักษ์เอง ก็ถือว่าไม่ใช่แบบประชาธิปัตย์แท้ๆ
  • สโรชา – คือไม่ได้มาแนวกระแสนักการเมืองอย่างแท้จริง
  • สนธิ – เขาไม่ได้โตมาทางการเมือง เขาโตมาจากการทำงานภาคเอกชนมาตลอด เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย การที่เขาจะแสดงออกนี่ เขาแสดงออกค่อนข้างระวังนิดนึง
  • คำนูณ – ผมว่าถ้าจะให้ดี คุณอภิรักษ์ในฐานะว่าที่ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ ควรจะแยกตัวออกมาระดับหนึ่ง รักษาระยะห่างจากพรรคประชาธิปัตย์ไว้ จะทำให้การบริหารมันเป็นไปด้วยดี
  • สโรชา – แต่ดูทีท่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นเลยนะ ภาพที่ออกมานี่ วันนี้ก็อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์ ล้อมรอบไปด้วยผู้ใหญ่ในพรรคทั้งนั้นเลย แล้วก็ค่อนข้างจะมีการสัมภาษณ์อย่างต่อเนื่องถึงชัยชนะในครั้งนี้
  • สนธิ – ผมฟันธงได้เลยว่า สันติภาพจะมีชั่วครู่ชั่วยาม
  • สำราญ – 3 เดือน
  • สนธิ – ไม่ถึง ผมว่าแค่ประมาณกันยายนนี้เอง เพราะว่าต้องยอมรับว่า อภิรักษ์คือหมากประชาธิปัตย์ สำหรับการเลือกตั้งในปี 2548 เมื่อเขามีของต้องใช้ในการเลือกตั้งนี่ ถ้าเขาไม่ใช่ เขาโง่ แล้วเรื่องการแคนนอนเนี่ยนะ ประชาธิปัตย์เก่ง ตีแคนนอนแกเก่งอยู่แล้ว เป็นความชำนาญ แล้วยิ่งรู้ว่านายกคนนี้เป็นประเภท พอประดาบก็เลือดเดือดนี่นะ ซักพักหนึ่ง ทีนี้คำถามก็คือว่า จากนี้ไปจนกระทั่งถึงวันเลือกตั้ง ซึ่งตามกฎหมายก็ประมาณมกราคม 2548
  • คำนูณ – คงจะตกกุมภาพันธ์
  • สนธิ – ใน 5 เดือนนี้ ผมคิดว่าตัวท่านนายก ท่านจะวางตัวยังไง ถ้าท่านวางตัวได้นิ่มนวล แล้วก็ท่านรับฟังความเห็นชาวบ้านเขามากขึ้น แล้วแสดงออกในทิศทางที่ค่อนข้างที่จะ เป็นอะไรบางอย่างที่ฝ่ายตรงกันข้าม ผมไม่ได้หมายถึงพรรคการเมืองนะ ฝ่าย NGO ฝ่ายนักวิชาการ ฝ่ายรู้ทัน ถ้าสมมุติว่ามีแนวทางประนีประนอนอยู่บ้าง หรือว่ามีช่องทางออกให้เดิน ไม่ไปดันให้หลังเขาชนกำแพง ผมคิดว่าโอกาสที่ไทยรักไทยในกทม. คือคนไทยเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบใครก็ตาม ที่มาไม่ได้ทำเก่งหนึ่ง และสอง ถ้าทำผิดพลาดแล้วก็ไม่ซ้ำเติม แต่ถ้าสมมุติว่าท่านยังออกมาชนพวกนี้ต่อ ตามปฏิกิริยาฉับพลันซึ่งท่านมีอยู่ ตรงนี้นั่นแหละที่จะเป็นเรื่องเป็นราว
  • สำราญ – คือโดยรวมๆ ถ้าท่วงทำนอง ท่าทีของนายกเป็นไปแบบวันนี้นะ ตลอดนะ ผมว่าจะได้เชิงบวกนะ แต่ถ้านอตหลุดขึ้นมาก็ลำบาก
  • คำนูณ – อาจจะเป็นผลดีด้วยซ้ำที่คุณอภิรักษ์ชนะ คืออย่างน้อยก็มีเวลาอีก 5 เดือน ก่อนถึงเลือกตั้งทั่วไป
  • สโรชา – คือทุกคนเป็นเพื่อนกันหมด อะไรประมาณนั้น
  • คำนูณ – แต่โอกาสปะทะมันก็มีเยอะ
  • สนธิ – สูงมากๆ
  • คำนูณ – เพราะว่านายกท่านก็พูดในรายการ นายกทักษิณคุยกับประชาชน บอกว่า ตอนนี้เยี่ยมครบทุกจังหวัดแล้ว ต่อไปจะไปเยี่ยมกทม. จะไปทุกเขตเลย ดูว่าเขาต้องการอะไร มันจะไปซ้ำเหลื่อมกัน
  • สำราญ – ก็ไม่ไปก็ไม่ได้อีกนะ หาว่าไม่รักษาคำพูด ไปก็อาจจะโดนวิจารณ์หน่อย
  • สโรชา – ต้องดูนโยบาย ถามว่านโยบายที่เขาจะสวนกันอย่างชัดเจนเป็นไปได้ไหมคะ?
  • สนธิ – นโยบายคงไม่ใช่เรื่องการสวนทางหรอก แต่การไม่เห็นด้วยกับการทำงาน จะมีมาก สมมุติว่า คุณต้องเข้าใจอย่างนะ ถ้ารัฐบาลเห็นด้วยกับโครงการที่กทม.เสนอไป สมมุติว่ากทม.เสนอการแก้ไขปัญหาจราจร งบ 4 พันล้าน รัฐบาลเสนอมาอนุมัติงบก้อนนี้ คนตัดสินใจที่จะใช้งบอยู่ที่กทม.แล้ว ไม่ใช่รัฐบาล แล้วผมก็ไม่คิดว่ารัฐบาลชุดนี้จะใจกว้างพอ ที่จะยกเงินก้อนหนึ่งเอามาให้กทม. ซึ่งเขารู้ว่าคุณอภิรักษ์ก็คือ พรรคฝ่ายค้านมาใช้เงินก้อนนี้ เพราะฉะนั้นแล้วอันนี้ก็คือ จุดขัดแย้งที่ค่อนข้างจะรุนแรงพอสมควร ผมกลับมองตรงนี้มากกว่า
  • สโรชา – แล้วอย่างนี้มันจะไม่ทำให้คนเมืองหลวง มีความรู้สึกว่าขัดขวางกันเอง คือแทนที่จะคิดว่าผลประโยชน์ของคนในเมืองหลวงเป็นใหญ่ กลับไปคิดถึงผลประโยชน์ที่พรรคการเมืองแต่ละพรรคจะได้ มันจะไม่ชัดเจนเกินไปหรือคะ?
  • สนธิ – ก็น่าจะเป็น 2 แนวทางนะ ในเชิงว่าจะมีส่วนนึงก็บอกว่า เลือกคนที่เข้ากับรัฐบาลไม่ได้ก็จะเป็นอย่างนี้ อีกแนวทางหนึ่ง ก็มองไปแนวทางการเมือง ก็บอกว่า รัฐบาลแกล้ง เพราะว่าไม่ใช่คนของตัว ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะมองลักษณะแบบไหน อย่างไร และขึ้นอยู่กับกระแสและข่าวจะว่ายังไงบ้าง และก็ขึ้นอยู่กับท่าน พล.ต. จำลอง ศรีเมืองด้วย ว่าจะช่วยให้เขารักกัน หรือจะช่วยทำให้เขาฆ่ากัน มันเกี่ยวพันกันหมด คือการเมืองในกทม. โดยเฉพาะอย่างยิ่งนาทีนี้ มันละเอียดอ่อนไปหมด มันไม่ใช่เรื่องของวิชารัฐศาสตร์การเมืองแล้ว มันไม่ใช่ว่าท่านนายกออกมาพูดอย่างนี้แล้วน่าดีใจนะ ต่อไปนี้แล้วทุกอย่างจะราบรื่นแล้วนะ
  • คำนูณ – คือคุณอภิรักษ์ก็เป็นตัวละครตัวหนึ่ง ที่รับผลประโยชน์จากการที่คนเริ่มไม่พอใจท่าทีของท่านนายกและไทยรักไทย ในช่วงซัก 1 เดือนที่ผ่านมา แต่ไม่ใช่ว่าเพราะเขาชอบประชาธิปัตย์ หรือว่าเพราะชอบคุณอภิรักษ์ชนิดเต็มร้อย อันนี้อาจจะเป็นสิ่งสำคัญ
  • สโรชา – นี่นะคะ ภาพที่เห็นอยู่นี้ เดี๋ยวจะไปที่คุณเติมศักดิ์ จารุปาน กำลังนั่งคุยกับคุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน เชิญคุณเติมศักดิ์ค่ะ
  • เติมศักดิ์ – ครับ คุณอภิรักษ์อยากจะพูดอะไรกับชาวกทม.ไหมครับ?
  • อภิรักษ์ – ก็ต้องขอขอบคุณพี่น้องชาวกทม.อีกครั้งหนึ่ง ในการลงคะแนนเสียงในวันนี้ ส่วนผมเองถ้าได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการกกต. ก็จะทุ่มเทความรู้ความสามารถทั้งหมด แล้วก็เวลาทั้งหมด ให้กับการแก้ไขปัญหาให้กับพ่อแม่พี่น้องชาวกทม. ทุกท่านครับ
  • เติมศักดิ์ – ขอบคุณมากครับ กับทั้ง 2 ท่านครับ สวัสดีครับ และนี่คือว่าที่ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ คุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน และคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นะครับ ช่วงนี้กลับไปทางสถานีครับ

    *****

  • สโรชา – ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณเติมศักดิ์ ก็ฟังจากเสียงคุณอภิรักษ์และคุณอภิสิทธิ์แล้ว ยังดูแบบ ค่อนข้างจะเก็บอาการนิดหน่อย
  • สำราญ – ไม่พลาดในการให้สัมภาษณ์
  • สโรชา – คิดว่าถ้ามีโอกาสคงจะได้เห็นคะแนนล่าสุด ว่าตอนนี้ไปกี่แสนคะแนนแล้ว
  • สนธิ – ก็เป็นมารยาทที่เหมาะสมพอดีๆ แต่ว่าผมมองการเมือง ไม่ได้มองตามภาพที่ออกมาทางโทรทัศน์ ผมมองในส่วนเบื้องลึกของหัวใจและความรู้สึก ผมเข้าใจว่าคงจะเปรมปรีดากันอย่างมหาศาลเลย อย่างน้อยที่สุดในค่ายของพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนค่ายของพรรคไทยรักไทยก็คงจะยิ้มไปด้วย กัดฟันกรอดไปด้วย คงจะต้องเป็นอย่างนี้ล่ะครับ การเมือง เพราว่าทุกคนพยายามจะฉีกออกให้เห็นว่า การเมืองของกทม.กับการเมืองระดับชาติไม่เหมือนกัน มันไม่เหมือนแน่ถ้าชูวิทย์เป็น แต่ว่าเผอิญอภิรักษ์ได้ มันต้องเกี่ยวพันกับการเมืองระดับชาติ มันหนีไม่พ้นหรอกงานนี้ เอาเป็นว่าง่ายๆวันที่หาเสียงเลือกตั้ง สมมุติว่ายุบสภาแล้ว ถามว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ใช้ประโยชน์คุณอภิรักษ์หรือ ก็ต้องใช้ ฉันใดฉันนั้น ผมถึงบอกว่าอยากจะให้ท่านผู้ชมทางบ้าน ดูลักษณะการเมืองอย่างที่มันเป็นจริง อย่าไปดูอย่างที่โทรทัศน์บอกว่ามันควรจะเป็นเช่นนั้น เพราว่าผ่านมามากแล้ว ประเภทที่ให้สัมภาษณ์ดีๆอย่างนี้ หรือพูดอย่างนี้แต่อีกด้านหนึ่งมันไม่ใช่อย่างนั้น
  • สโรชา – เดี่ยวเราจะไปที่บ้านของคุณปวีณา หงสกุลค่ะ สดจากที่นั่น คุณอรชุน เชิญค่ะ

    *****VTR*****
  • อรชุน – ตอนนี้ผมก็กลับมาอยู่กับ คุณปวีณา หงสกุลนะครับ ผู้สมัครผู้ว่าฯหมายเลข 7 ที่นี่ก็ยังคงลุ้นการนับคะแนน ชนิดที่เรียกว่าลุ้นกันตัวโก่ง เพียงแต่ว่าตอนนี้ต้องไปถามคุณปวีณาว่า ตอนนี้บางสถานีเขานำเสนอคะแนนคุณอภิรักษ์ไป 4 แสนกว่าแล้ว ของคุณปวีณายังไม่ถึง 3 แสน ตรงนี้นี่ยังพอจะมีลุ้นไหมครับ?
  • ปวีณา – ค่ะ ดิฉันคิดว่าคงยอมรับในความพ่ายแพ้ และก็ขอแสดงความยินดีกับท่านผู้ว่าฯใหม่ คุณอภิรักษ์ด้วยค่ะ
  • อรชุน – อันนี้ได้มีโอกาสโทรไปแสดงความยินดีไหมครับ?
  • ปวีณา – ก็นั่งที่นี่ สัมภาษณ์ไม่หยุดเลย ยังไม่มีโอกาสโทรไปเลย แต่ก็ฝากนะคะ แสดงความยินดีใน TV นี้ด้วยแล้วกัน แล้วก็ขอขอบคุณพี่น้องประชาชน ที่ได้ลงคะแนนเสียงให้ดิฉัน ปวีณา หงสกุลนะคะ ทุกๆคะแนนเสียง ดิฉันต้องกราบขอบพระคุณอย่างยิ่ง และก็ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่เป็นกำลังใจ แต่ไม่ได้ลงคะแนนเสียง ดิฉันก็ถือว่าทุกกำลังแรงใจ มีผู้ที่ให้กำลังแรงใจดิฉัน ดิฉันคงจะทำงาน และไม่ให้พี่น้องผิดหวังน่ะค่ะ ทุกๆท่านค่ะ
  • อรชุน – ครับ ขอย้อนกลับไปเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา คุณปวีณาออกมาบอกว่า ที่แพ้การเลือกตั้งในวันนี้ เพราะว่าลงสมัครในนามอิสระ อันนี้นี่ไม่ทำให้บรรดา สก.,สข. ของไทยรักไทยที่มาช่วยหาเสียง เขาน้อยใจแย่เหรอครับ?
  • ปวีณา – ก็แพ้ไงคะ ก็แพ้ จริงๆแล้ว ตรงนั้นดิฉันขอเรียนว่า ดิฉันทำอิสระนะคะ คือลงอิสระแต่ไม่ใช่หมายความว่า พรรคอื่นมาสนับสนุน หมายความว่าคนที่ เป็นคนที่เขามาสนับสนุนส่วนตัว ไม่ใช่ในนามพรรค เพราะฉะนั้นตรงนี้ต้องเข้าใจนะคะว่า ตัวดิฉันพ่ายแพ้ด้วยตัวของดิฉันเอง อย่าไปเกี่ยวกับพรรคอื่นนะคะ ดิฉันคิดว่าตรงนี้ต้องให้ชัดเจน แต่ว่าบางครั้งดิฉันก็โดน เอ่อ กระแสหลายๆอย่าง ทำให้ประชาชนที่อาจจะชอบดิฉัน แต่ว่า ดิฉันไม่มีฐานเสียง มันก็สามารถที่จะทำให้ดิ่งได้ หรือว่ามันก็ลงไปเรื่อยๆ เพราะว่าฐานเสียงของดิฉัน หรือว่าคนที่รักปวีณาเนี่ย ก็ไม่ใช่เป็นฐานเสียงหลัก หรือว่าเป็นคะแนนที่จัดจ้าน การที่เป็นพรรคการเมืองที่หนุนอยู่นี่ เขาจะมีคะแนนที่จัดจ้าน ทีสมาชิกพรรค เป็นเรื่องที่เป็นฐานที่แน่นมาก เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็คือจุดหนึ่งที่ ดิฉันคิดไว้นะคะว่า การที่ลงผู้ว่าฯอิสระนั้นก็ดี แต่ถ้าเผื่อว่าเราไม่มีความแน่นตรงนั้น คะแนนที่เทมาให้เราอาจจะเทไหลกลับไปสู่คนอื่นได้เร็ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นดิฉันคงไม่ได้คิดอะไรมาก ไปกว่าสิ่งที่ดิฉันยอมรับว่า เสียงประชาชนคือเสียงสวรรค์ ประชาชนเลือกใคร คนนั้นก็คือผู้ว่ากทม. และก็ขอขอบคุณทุกๆคะแนนเสียงที่มอบให้กับปวีณา ตัวดิฉันเองคงจะไม่ติดใจอะไรทั้งสิ้น ก็ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์
  • อรชุน – ฟังจากที่คุณปวีณาพูดเนี่ย ดูเหมือนว่า ถ้าลงสมัครในนามพรรคการเมือง มีคะแนนจัดตั้งเนี่ยค่อนข้างจะมีโอกาส ถ้าอย่างนั้นแล้วทำไมคุณปวีณาไม่ลงสมัครในนามพรรคการเมืองล่ะครับ?
  • ปวีณา – ไม่ค่ะ ดิฉันเรียนนิดนึงว่า ตรงนั้นนี่ส่วนนึงของพรรคการเมือง ใช่ไหมคะ? พรรคการเมืองจะมีฐานคะแนนเสียง แต่ว่า ในส่วนของการเป็นผู้สมัครอิสระเนี่ย ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ประชาชนชอบ แต่ว่าคะแนนบางครั้งเนี่ย สามารถที่จะไหลไปที่อื่นได้อย่างง่าย ในกรณีที่ดิฉันอาจจะถูกโจมตีหลายๆอย่าง หลายๆประการ ว่าเป็นเงา เป็นร่างทรงของพรรค หรือแม้แต่ว่าอะไรหลายๆอย่าง ที่ดิฉันถูกโจมตี อันนั้นก็ทำให้ประชาชนอาจจะไม่เข้าใจ หรือว่าอาจจะไม่ต้องการปวีณาในส่วนนั้น หลายๆอย่างที่ดิฉันคิดว่า มันก็จะเป็นคนที่ไม่ใช่เป็นสิ่งที่แน่น เพราะนั้นก็สามารถที่จะไหลไปได้ อย่างเช่น พรรคการเมืองทุกพรรคเนี่ย จะมีสมาชิกพรรค อย่างพรรคประชาธิปัตย์หรือว่าพรรคไทยรักไทย ก็จะมีสมาชิกพรรคอยู่ 3 แสน ที่สามารถที่จะเป็นแกนสำคัญ หรือพรรคประชากรไทยก็ตาม ก็จะมีสมาชิกพรรคที่แน่น เพราะนั้นตรงนี้ก็คงจะไม่เป็นปัญหาอะไร แต่ว่าดิฉันกำลังจะหมายความว่า เอ่อ ประชาชนที่จะต้องการคนที่เป็นฝ่ายค้านเสมอไป รัฐบาลเสมอไป แต่ประชาชนก็ชอบอิสระบางครั้ง ก็แล้วแต่แยกแยะว่าสถานการณ์ใด ตรงนี้ดิฉันคงไม่อยากจะไปพูดถึงตรงนั้นแล้ว พูดถึงปัจจุบันและอนาคตดีกว่า ปัจจุบันคือใครที่ประชาชนเลือก คนนั้นก็คือผู้ว่ากทม.
  • อรชุน – ถามตรงๆครับ ถ้ารู้ว่าวันนี้ คะแนนแพ้คุณอภิรักษ์ ยังจะลงสมัครไหมครับ?
  • ปวีณา – ก็ลงนะครับ ไม่มีปัญหาเพราะว่าดิฉันเป็นอันดับ 2 นะคะ และคะแนนที่จะได้ทุกๆคะแนนเสียง เป็นคะแนนที่ดิฉันถือว่า เป็นเสียงสวรรค์ เพราะการที่ตัวดิฉันเองหรือใครก็ตามมาลงผู้ว่าฯเนี่ย หรือว่า ผู้แทนราษฎรอะไรก็ตามเนี่ย คะแนนนึงมีความหมายนะคะ แต่จะให้ประชาชนมีเลือกเราเนี่ย ดิฉันคิดว่ามันภูมิใจนะ เพราะฉะนั้นคะแนนของดิฉันเป็นอันดับสองเนี่ย มันไม่ใช่สิ่งที่ดิฉันหาได้ง่ายๆนะ ประชาชนเลือกมาขนาดนี้ ดิฉันคิดว่า ดิฉันภูมิใจ เปรียบเทียบกับ 4 ปีที่แล้ว ก็คะแนนขึ้นมาอีกตั้งมาก เพราะฉะนั้นเสียงคะแนนทุกคะแนนเสียง ดิฉันขอขอบพระคุณทุกๆท่าน แล้วดิฉันก็จะไม่ทำให้พี่น้องผิดหวังด้วย อะไรที่ดิฉันทำให้พี่น้องประชาชนได้ในอนาคต ดิฉันจะทำ
  • อรชุน – และคำถามสุดท้ายนะครับ คุณปวีณาก็เล่นการเมืองมาเป็น 10 ปี ในการเมืองระดับประเทศ ก็คาดว่าน่าจะ อนาคตน่าจะเล่นการเมืองต่อไป เพราะว่ายังมีอุดมการณ์ที่จะรับใช้ประชาชน อันนี้นี่จะย้ายตามคุณสุวัจน์ไปอยู่พรรคไทยรักไทยหรือเปล่าครับ?
  • ปวีณา – คงจะเร็วเกินไปที่ตจะตอบวันนี้นะคะ เพราะวันนี้ดิฉันกำลัง นี่ล่ะค่ะ จัดหาเสียงเสร็จแล้วก็มาวันนี้ แล้วก็มาทราบว่าเราไม่ได้เป็นผู้ว่า เพราะฉะนั้นดิฉันก็คงต้องขอเวลาซักระยะหนึ่ง ที่จะตัดสินใจ ขอพักซักนิดนึง
  • อรชุน – แต่ว่าคนเลือกคุณปวีณาก็เป็นแสน อันนี้ไม่ให้ความมั่นใจเหรอครับ ว่าจากนี้จะทำอะไร?
  • ปวีณา – ไม่ค่ะ ดิฉันเรียนนิดนึง ว่าดิฉันมั่นใจแน่นอน ไม่ได้ว่าจะหยุดการเมืองไป ก็ต้องทำการเมืองต่อไป แต่ว่าทำอะไรนั้น ดิฉันก็ต้องขอเวลาตัดสินใจนิดนึง
  • อรชุน – ครับ ขอขอบคุณคุณปวีณามากนะครับ ช่วงนี้นะครับ กลับทางสถานีกันต่อครับ
    *****

  • สโรชา – ค่ะ ขอบคุณค่ะ คุณอรชุนคะ ค่ะ ก็ตอนแรกที่บอกว่าจะไปเมืองนอกก็คงขอตัดสินใจก่อน ตอนนี้เราไปที่สาย phone in ของผู้สมัครหมายเลข 3 ค่ะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สวัสดีค่ะ สารวัตรเฉลิมคะ
  • เฉลิม –– ฮัลโหล ได้ยินไหมครับ?
  • คำนูณ – เป็นยังไงครับ สถานการณ์ตอนนี้ พอจะยอมรับสภาพ สิ่งที่เกิดขึ้นรึยังครับ
  • เฉลิม –– ไม่ฮะ ไม่รับครับ ไม่ต้องยอมรับ การเลือกตั้งผู้ว่าฯ ตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เนี่ย ท่านผู้ได้คะแนนที่ 1 ไม่ได้เป็นข้อยุตินะครับ ผมกำลังเรียนให้ทราบอย่างนี้นะ การเลือกตั้งผู้ว่าฯคราวนี้ กกต.เขามาควบคุม ใครก็ตามได้คะแนนมากยังไม่หมายความว่าชนะ ต้องอยู่ที่คณะกรรมการ กกต.รับรองหรือไม่ ต้องชี้ขาด ทีนี้ปัญหามันมีเท่าที่ผมทราบ นักข่าวเขาถามผมว่า คุณลีน่า จังได้ใบแดงเพราะ ทำการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้ง ด้วยการจัดให้มีมหรสพ หรือการรื่นเริงต่างๆ ตามมาตรา 57 ทีนี้ก็มีคนคิดและมีคนร้องเรียนกกต.ว่า ท่านผู้สมัครอีกหลายคนเนี่ย ก็มีพฤติกรรมอย่างนี้ ทางกกต.จะวินิจฉัยอย่างไร ทีนี้ในจำนวนผู้สมัครที่ถูกร้องเรียนเนี่ย ก็มีท่านที่ได้คะแนนสูงสุดวันนี้ด้วย ตรงนี้ผมถึงบอกว่า ผมยังไม่กล้าแสดงความดีใจ กับผุ้ชนะที่ได้คะแนนมาก ผมจะแสดงความดีใจเมื่อกกต.รับรองครับ
  • สำราญ – แปลว่ากกต.อาจจะมีการหยิบยกเรื่องนี้ หรืออาจจะมีผู้ร้องเรียนไปอีกครั้งหนึ่ง
  • เฉลิม –– เท่าที่ผมทราบ เขามีการร้องเรียนไปแล้ว
  • สำราญ – มีข่าวว่าคุณเฉลิมก็ยังติดใจอยากจะร้องเรียนบ้าง?
  • เฉลิม –– ไม่ใช่ครับ คุณสำราญ ผมนี่นะครับ เรียนปริญญาเอกเรื่องนี้ ผมไม่การร้องเรียน แต่หลังจากทุกอย่างยุติแล้ว รับรองแล้ว ผมจะถามกกต.ว่า ข้าราชการที่ประกาศตัวลงสมัครเนี่ย ก็ไม่ต้องลาออกได้ใช่ไหม ต่อไปนี้ผู้กำกับตามสถานีตำรวจนครบาลหรือภูธร หรือนายอำเภอหรือผู้ว่าฯ ท่านประกาศจะลงสมัคร แต่ท่านไม่ลาออก ท่านอยู่ตำแหน่งแล้วท่านก็ไปหาเสียง ผมจะถามว่าคุณลีน่า จังได้ใบแดง แล้วผุ้สมัครคนอื่นๆที่ท่านว่าจะอนุโลม โดยขณะที่ยังไม่ได้เบอร์แล้วมาสมัครเนี่ย ท่านดีดสีตีเปล่า มีกลองยาวมีแตรมีมังกรเนี่ย ได้ ผมเห็นด้วย แต่เมื่อท่านไปสมัครได้เบอร์แล้ว ท่านถือว่าเป็นผู้สมัครตามมาตรา 57 หรือไม่ ผมจะถามกกต. เพื่อให้กกต.ตอบ แล้วผมจะทำเป็น case stady เพื่อเป็นวิทยานิพนธ์ ผมไม่ร้องเรียน
  • คำนูณ – ในวันสมัครนี่คุณเฉลิมมีขบวนไปไหมครับ
  • เฉลิม –– ไม่มี แหม คุณวิษณุยังบอกเลยว่า คุณเฉลิมมาด้วยความเงียบเหงา จริงๆภรรยาผมเขาเตรียมการตั้งแต่หัวค่ำ พวกกลองยาวมานอนที่บ้าน 7 คน ผมถามไปงานอะไร เขาบอกพรุ่งนี้ อ.ลำเนาบอกให้ไปเชียร์ ผมบอกลับบ้านไปเลยนะ เพราะมันเป็นการแสดงมหรสพ
  • สำราญ – แต่คุณเฉลิมครับ นิดเดียวครับ มีคนแย้งในเชิงเทคนิคข้อกฎหมายว่า อาจจะไม่เข้าข่ายก็ได้
  • เฉลิม –– อันนี้ผมไม่ทราบ ต้องให้กกต.เป็นคนตอบ แต่ผมเรียนหนังสือเล่มนี้ ผมไม่อยากได้คำวินิจฉัย ผมจะไม่มีการร้องเรียนใคร แต่เมื่อทุกอย่างยุติแล้ว ผมก็จะถามกกต.ว่า เรื่องนี้ท่านว่ายังไง? ผมเข้าใจครับ คำวินิจฉัยของกกต.ถือเป็นการยุติ
  • สำราญ – ตกลงว่าคุณเฉลิมทราบว่า มีการร้องเรียนไปแล้วในเรื่องนี้ คุณเฉลิมไม่จำเป็นต้องไปร้องเรียนอีก
  • เฉลิม –– ผมไม่ร้องอยู่แล้ว ผมไม่ร้องแต่ผมจะถาม ว่าที่ท่านวินิจฉัยอย่างนี้ ท่านมีเหตุผลอะไร เพราะผมจะเอาเป็นกรณีศึกษา เป็นวิทยาทาน ผมเรียนอย่างนี้ สมมุติว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดท่านหนึ่ง ท่านจะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค A แล้วท่านก็ไม่ลาออก ก็เลียนแบบคุณพงศพัศ ไปขึ้นป้ายหาเสียง ไปโน่นไปนี่ กับคนนั้นคนนี้ พอถึงเวลามีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง ท่านถึงลาออกเนี่ย ท่านก็ได้เปรียบมาตลอด เพราะท่านเป็นข้าราชการประจำ ผมจะถามไว้เป็นกรณีศึกษา ผมจะถามคนที่จะสมัครรับเลือกตั้งว่า เอาล่ะ คุณเอากลองยาวมา เอาลำตัดลิเกมา ยังไม่ได้สมัครคุณไม่ผิด แล้วพอได้เบอร์มา คุณเอาไปแห่ในตลาด คุณก็ไม่ผิด ก็ไม่เป็นไร ผมไม่ได้ว่าอะไรครับ
  • สำราญ – ตอนนี้คุณเฉลิมพอจะทราบคะแนนของตัวเองบ้างหรือยังครับ?
  • เฉลิม –– อ๋อ ไม่ครับ ไม่เป็นไรครับ ผมถือว่าได้คะแนนเท่านี้ก็ถือว่าเยอะแล้ว เพราะถูกโจมตี ขนาดวันเสาร์ไป ITV ก็ยังมีใบปลิวโจมตีที่สยาม ผมก็เลยบอกกับทุกคนว่า ลูกผมไม่ได้เป็นรองผู้ว่าฯ ไม่ได้เป็นเลขา เพราะอายุเขาน้อย แต่ความรู้เขามีปริญญาโท ถึงแม้จะมาเป็นภารโรงผมยังไม่รับเลย เพราะภารโรงมันมีที่ไหนล่ะ จบปริญญาโท ชาวบ้านหัวเราะ
  • สำราญ – เอาล่ะครับ ขอบพระคุณมากครับ คุณเฉลิมครับ สวัสดีครับ
  • สโรชา – ยังไม่ทันได้ถามว่า เวทีต่อไปจะเป็นเวที สว. ไหม หรือว่าจะเป็น สส.ดี
  • สำราญ – พอดีมีผู้ที่ได้คะแนนลำดับ 3 รอเข้าสาย
  • สโรชา – ใช่ เราไปคุยกับคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ค่ะ แต่เดี๋ยวรอต่อสายซักครู่
  • สนธิ – แต่ที่คุณเฉลิมพูดนี่ ประเด็นใหญ่ แต่ผมคิดว่า คุณเฉลิมก็เป็นคนที่รู้เรื่องทางกฎหมายมาก แล้วที่ผมฟังอยู่โดยไม่ออกความเห็นเมื่อกี๊นี่ ผมคิดว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเด็นของคุณพงศพัศ เป็นประเด็นใหญ่มาก คุณเฉลิมพูดผมก็ยังประหลาดใจ เพราะว่าไม่มีการข่าวลงว่า คุณพงศพัสลาออกจากตำแหน่งตำรวจ แต่ว่ามาหาเสียง มาใส่ชื่อตลอดเลย ตรงนี้เนี่ยจะทำให้ คงไม่ทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ แต่คงทำให้คะแนนคุณปวีณาต้องถอนออก
  • คำนูณ – คุณปวีณามีโอกาสที่จะได้ใบแดง

  • สโรชา – ค่ะ คุณชูวิทย์มาแล้วนะคะ ดิฉันสโรชานะคะ อยู่กับคุณสนธิ คุณคำนูณ และคุณสำราญค่ะ คุณชูวิทย์ตอนนี้เป็นอย่างไร ติดตามคะแนนไปถึงไหนแล้วคะ?
  • ชูวิทย์ – ก็นี่ล่ะครับ ดูคะแนนอยู่ เพราะผมถือว่าวันนี้ผมประสบความสำเร็จ เป็นคะแนนเสียงของคนรุ่นใหม่ และก็เป็นคะแนนเสียงที่บริสุทธิ์จริงๆ
  • คำนูณ – วันแรกที่คุณชูวิทย์สมัคร คาดคิดไว้ไหมครับ ว่าจะได้มายืน ณ จุดนี้
  • ชูวิทย์ – เวลาที่ผมมาสมัครเนี่ย ผมมีเป้าหมาย ผมรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ แต่ทีนี้ผมบอกใครไม่ได้ เพราะบอกใครๆก็ไม่เชื่อผม วันนี้เนี่ยก็เป็นก้าวๆหนึ่งเฉยๆ ที่ได้เดินไป ในอนาคตก็คงมีอีกเยอะครับที่จะทำ วันนี้ผมไม่ประสบความสำเร็จก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะหยุด
  • คำนูณ – คุณชูวิทย์จะสมัคร สส. ไหมครับ อย่างที่เราเคยคุยกัน สส. เขตเลือกตั้ง
  • ชูวิทย์ – สมัคร สส. นี่ผมคงต้องทำอยู่แล้ว แต่ว่าจะเป็น สส.เขต หรือปาร์ตี้ลิสต์ ก่อนที่จะก้าวไปตรงนั้น ผมก็มีโครงการที่จะทำในฐานะที่ผมไม่ได้ตำแหน่ง ผมก็ทำในส่วนที่ผมทำได้ ในด้านอื่นๆได้
  • คำนูณ – โครงการอะไรบ้างครับ พอจะยกตัวอย่างได้ไหม?
  • ชูวิทย์ – เอ่อ ผมจะพัฒนาที่ดินที่ซอย 10 ให้เป็นสาธารณประโยชน์โดยมีห้องสมุด โดยมีสนาม สวนสาธารณะ แล้วก็มีศูนย์รับเลี้ยงเด็ก โดยโครงการนี้ผมจะทำให้เสร็จสิ้นภายใน 1 ปี
  • คำนูณ – ตกลงตอนแรกที่มีข่าวว่าจะขายไปได้ ยังไม่ได้ขายไปเหรอครับ?
  • ชูวิทย์ – มีคนมาเสนอผม 1200 ล้าน คนเสนอเขามีตัวตนนะ แต่ว่าผมได้ปฏิเสธไป ณ วันนี้ผมคิดไว้ว่า ถ้าผมไม่ได้ ผมจะทำให้สิ่งที่พิสูจน์คนที่ดูถูก เหยียดหยามผม ให้เห็นว่า คนอย่างผมนี่แหละครับที่ควรจะใช้ คนอย่างผมเนี่ยแหละทำได้
  • คำนูณ – คือไม่ทำโครงการโรงแรมเดิมนั่นหมดเลยใช่ไหมครับ?
  • ชูวิทย์ – ผมล้มไปแล้ว 20 ล้านผมถือว่าค่าออกแบบ เลิก ผมทุบทิ้ง แล้วก็จะมาพัฒนาเป็นสาธารณประโยชน์ ผมจะทำให้เป็นประโยชน์แก่สังคม แม้ว่าผมไม่ได้เป็นผู้ว่าฯกทม.ก็แล้วแต่
  • คำนูณ – นี่เป็นการตัดสินใจที่แน่นอนแล้ว
  • ชูวิทย์ – แน่นอนครับ สิ่งที่ผมอยากทำ และสิ่งที่ผมอยากพิสูจน์ให้คนที่ไม่เคยให้โอกาสผม เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นว่า แม้ผมไม่มีตำแหน่งทางการเมือง
  • สำราญ – ฟังเมื่อตอนบ่าย คุณชูวิทย์บอกว่า พรรคต้นตระกูลไทย จะแจ้งเกิดในกรุงเทพถึง 10 เก้าอี้ทีเดียว ไม่ทราบว่าฟังผิดไปหรือเปล่าครับ?
  • ชูวิทย์ – ไม่ผิดหรอกครับ 37 เขตทั่วกทม.ผมจะส่งครบทุกเขต และผมคาดหวังว่าจะได้ประมาณซัก 10 ที่นั่ง
  • สำราญ – หวังมากไปไหมครับ?
  • ชูวิทย์ – มากหรือน้อยก็เหมือนกันแหละครับ คนส่วนมากจะดูถูกผมแต่เริ่มต้นแหละ อันนี้ก็มันต้องดูต่อไปครับ ผมเคยบอกแล้วว่า คนที่เลือกผู้ว่าฯกทม.เนี่ย ไม่ได้เลือกด้วยปัญญาและเหตุผล แต่เลือกด้วยอารมณ์และความรู้สึกในขณะนั้น ดังนั้นบอกว่า เลือกด้วยปัญญาและเหตุผลหลายครั้งที่ผ่านมา เราไม่ได้เลือกด้วยปัญญาเหรอครับ เพราะเราได้คนที่ไม่พอใจมาเสมอ
  • คำนูณ – โครงการที่สุขุมวิท 10 นี่ จะเริ่มต้นเมื่อไหร่ครับ?
  • ชูวิทย์ – ผมจะเริ่มต้นให้ทันวันที่ 29 สิงหาคมปีหน้าครับ หมายถึงว่าเสร็จนะครับ
  • สำราญ – ฉลองวันเกิดเลย
  • ชูวิทย์ – ใช่ครับ ผมก็ไม่ได้ฉลองมาหลายปีแล้ว ปีที่แล้วผมก็ไม่ได้ฉลอง
  • สำราญ – คุณชูวิทย์จะลงเขตใช่ไหมครับ? ถ้าลง สส.เนี่ย
  • ชูวิทย์ – ตัดสินอยู่ว่าจะลงเขตหรือว่าปาร์ตี้ลิสต์ดี เพราะว่าการลงเขตมันทำให้ต้องเสียเวลา ในการรักษาพื้นที่ของตนเอง ไม่มีเวลาไปดูลูกทีม
  • คำนูณ – แต่ว่าชีวิตต่อไปนี้ เป็นการทำงานทางการเมืองแน่นอนที่สุดแล้ว
  • ชูวิทย์ – ครับ ก็คงจะต้องเลือกทางเดินใหม่
  • คำนูณ – มีคำถามจากทางบ้านถามเข้ามา บอกว่าคุณชูวิทย์เคยบอกว่า ถ้าได้เป็นผู้ว่ากทม.จะขายกิจการ อาบ อบ นวด ตอนนี้ไม่ได้เป็นแล้วจะยังประกอบการต่อไปไหมครับ?
  • ชูวิทย์ – เอ่อ ผมคงประกอบการไม่ได้ ก็สิ่งต่างๆที่ผ่านมาก็คงพิสูจน์แล้วว่า เมื่อผมพูดออกไปแล้ว ผมต้องให้ได้ ผมก็รู้ตัวผมดีครับ เพราะงั้นที่เหลืออยู่นี่ ตอนนี้รอวันขายอย่างเดียว
  • คำนูณ – ก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่น่าติดตาม
  • ชูวิทย์ – สิ่งที่ผมอยากเรียนไว้ก็คือ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับผมนี่ เป็นปรากฏการณ์ใหม่ ที่พิสูจน์ว่าคนธรรมดา ที่ใช้เวลาแค่ 2-3 เดือนในการไต่เต้าขึ้นมา ถ้าสังคมกทม.เนี่ย ให้โอกาสผมมากกว่านี้ ตัวตนของผมซึ่งเป็นคนหมู่มากในกรุงเทพฯเนี่ย ตอบรับผม กระแสของผมในอาทิตย์สุดท้ายที่มาถึงเนี่ย แล้วปล่อยมันไว้นะ ให้กระแสมันไปอย่างนั้นนะ ผมคงได้มากกว่านี้ แต่ว่าวันนี้ ผมยินดี ผมพอใจ ผมถือว่าเป็นชัยชนะของผมนะ
  • คำนูณ – ครับ ขอบคุณมากครับ หวังว่าโอกาสหน้าเราคงได้สนทนากันได้มากกว่านี้นะครับ
  • สโรชา – ถ้ายังไงเดี๋ยวเราพักกันซักครู่หนึ่ง แล้วเดี๋ยวกลับมาอีกซักครู่เดียวค่ะ

  • สโรชา – ค่ะ กลับมาอีกครั้งนะคะ สำหรับก่อนจะถึงวันจันทร์ภาคพิเศษ เราเกาะติดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ เมื่อซักครู่เราคุยกับหลายต่อหลายท่านไปเรียบร้อยแล้ว ไปคุยกับดร.มานะ มหาสุวีระชัยกันบ้านนะคะ สวัสดีค่ะ ได้คุยกับท่านมหาจำลองบ้างหรือยังคะ คุณมานะ?
  • มานะ – ยังไม่ได้คุยเลยครับ เพราะว่าติดต่อท่านไม่ได้ ท่านอยู่ที่เมืองกาญจน์ ตั้งแต่ตอนสายแล้ว
  • คำนูณ – คุณมานะยอมรับไหมครับ? ผลที่ออกมาก็ยังไม่ออกเป็นทางการ
  • มานะ – อ๋อ ยอมรับครับ
  • คำนูณ – พอจะวิเคราะห์ได้ไหมครับ ว่าที่ผลเป็นอย่างนี้มันเกิดอะไรขึ้น?
  • มานะ – เกิดอะไรขึ้น ผมว่ามันก็คงเป็นความไม่ค่อยจะสบอารมณ์กับรัฐบาลเท่าไหร่นัก คะแนนถึงได้ถล่มทลายในตอนท้ายนี่นะครับ
  • คำนูณ – แค่คะแนนของดร.มานะ ก็มาดีพอสมควรใช่ไหมครับ?
  • มานะ – ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักนะ เพราะว่าก็ได้น้อยกว่าที่คิดเยอะ
  • สโรชา – ตอนแรกหวังไว้เท่าไหร่คะ?
  • มานะ – ก็น่าจะเป็นแสนน่ะครับ แต่รู้สึกว่าคงจะไม่ถึงใช่ไหม ผมเท่าที่ดูตัวเลขไม่ค่อยขึ้นเท่าไหร่เลย ได้อันดับที่ 7 ใช่ไหมครับ ได้เท่าไหร่ครับตอนนี้ เท่าที่เช็คดูเนี่ย
  • คำนูณ – ผลยังไม่อยู่ในรีดเดอร์บอร์ดเลยครับ
  • มานะ – อ้าว เมื่อกี๊เห็นท่านปลัดรัฐนนท์บอกว่าได้ลำดับที่ 7
  • คำนูณ – ถ้าลำดับที่ 7 จริง ก็ต้องถือว่าดีมากพอสมควรนะครับ เพราะว่าจริงๆก็คือ ในกลุ่มที่เกาะกลุ่มนำกันมาตั้งแต่ต้น มันก็จะมี 5 อันดับ ก็แสดงว่าดร.มานะนี่ก็อยู่ถัดจากกลุ่มนำไป เสียใจไหมครับ?
  • มานะ – ก็ไม่ครับ ในเมื่อพี่น้องชาวกทม.ได้ตัดสินแล้ว ยังไงก็ต้องเป็นอย่างนั้น เพราะถือว่าผมก็ทำดีที่สุดแล้วล่ะ
  • คำนูณ – เข้าใจว่าคะแนนของดร.มานะก็ดี ดร.อีกหลายๆคนในกลุ่มกลางก็ดี ที่จริงคงไม่ใช่เพราะว่าประชาชนนิยมท่านเพียงแค่นี้ เพียงแต่ว่าการตัดสินใจของคนกทม. คือคิดหลายตลบ พอคิดไปคิดมาแล้วเนี่ย อาจจะมีคนจำนวนมากที่อยากลงให้ดร.มานะ กับอีกหลายๆคนที่มีความรู้สึกว่า ไม่ใช่คนนำ ถ้าลงไปแล้วพูดง่ายๆว่าจะเสียของ ก็เอาไปลงให้คนที่มีโอกาสอันดับ 1-2 ที่เขาแข่งกันอยู่ อะไรอย่างนี้
  • มานะ – ที่ต้องการว่า กลัวรัฐบาลจะชนะ ก็มีคนมาพูดกับผมเยอะเหมือนกันนะ เมื่อซัก 2 สัปดาห์ที่แล้ว ผมต้องออกมาให้สัมภาษณ์บอกว่า อย่าไปคิดอย่างนั้นมาก แต่รู้สึกว่า มันจะแรงนะตรงนี้ กระแสมันแรง
  • คำนูณ – แล้วตอนนี้ดร.มานะคิดจะทำอะไรต่อไปครับ ลงสส.ไหม?
  • มานะ – คงต้องขอพักก่อนครับ เพราะว่า 40 วันที่ผ่านมา ผมก็เต็มที่ ส่วนเรื่องสส.คงไม่ได้ลง เพราะว่าตอนนี้ผมไม่ได้สังกัดพรรคไหน ลงสส. มันต้องสังกัดพรรค คงอาจจะไม่ทันก็ได้ ผมคิดว่าคงจะลงไม่ทัน เพราะว่ามันต้องมีสังกัดพรรคอยู่ 90 วัน แล้วก็ต้องปรึกษาหารือกับพรรคพวกดูก่อนครับ ครอบครัว
  • คำนูณ – ในส่วนของนโยบายของดร.มานะที่เสนอออกมา หลายๆสิ่งหลายๆอย่าง ที่น่าจะดูดี เราจะนำไปเสนอให้ผู้ว่ากทม. คนใหม่ เขาพิจารณาด้วยไหมครับ?
  • มานะ – ผมว่าข้อเสนอของผม มันก็เป็นข้อเสนอที่มีความชัดเจน แล้วก็สั้น ง่ายด้วย ง่ายที่จะทำ ก็ถ้าท่านจะทำไปใช้ นำไปทำ ผมก็ยินดีนะครับ ผมเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อชาวกทม. ผมเชื่อว่าทำได้ เป็นเรื่องที่ทำได้ เพราะว่า สิ่งหนึ่งที่ผมได้จากการสมัครครั้งนี้ ก็คือว่า มันได้ตกผลึกทางความคิด ในเรื่องเกี่ยวกับปัญหากทม.และวิธีแก้ไข ซึ่งมันก็วนเวียนเป็นอะไรที่ผมผ่านมา แล้วก็เคยเห็น มีประสบการณ์ ได้เคยมีความรู้ มันตกผลึกเป็นวิธีการปฏิบัติที่ชัดเจน สั้น ง่าย ถ้าผมไม่ได้ลงสมัครรอบนี้ ผมก็คงไม่ได้คิดรวบรัดตัดความ ออกมาเป็นสิ่งที่ผมนำเสนอ มันก็คงลอยไปลอยมาอยู่
  • คำนูณ – ครับ ก็ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ
  • มานะ – ครับ ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับ
  • คำนูณ – ขอบพระคุณครับ
  • สโรชา – คุณมานะก็ยังไม่ได้คุยกับท่านมหาจำลอง ไม่รู้ท่านจะว่ายังไงบ้างนะ เดี๋ยวเรารอสายคุณนิติภูมิอยู่ คุณนิติภูมินี่ถือว่าเป็นม้ามืดนะ ถ้าเข้าใจไม่ผิด น่าจะมาเป็นอันดับ 5 รองจากคุณเฉลิม ถ้าไม่เข้าคลาดเคลื่อน คะแนนมากกว่าคุณพิจิตรเสียอีก
  • คำนูณ – ก็เรียกว่าถัดจากกลุ่มนำแล้ว คุณนิติภูมิถือว่ามาแรง
  • สำราญ – คนที่เงียบๆ ปัญญาชนหนุ่มสาว ก็เลือกนิติภูมิกันเยอะ
  • คำนูณ – คุณนิติภูมิก็เจอวิชามารช่วงสุดท้ายเข้าเยอะเหมือนกัน โดนกล่าวหาว่าเป็นมุสลิม เหมือนกับคุณอภิรักษ์ คุณอภิรักษ์นั่นภรรยาเป็นมุสลิม แต่วันนี้ก็ยังเป็นคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ คือยังมีอีกหลายยก แต่ว่าผู้ที่ได้คะแนนนำอย่างเป็นทางการ ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะได้ผู้ว่าฯ ก็กกต.ต้องประกาศรับรอง ซึ่งอาจจะเป็นภายในอย่างเร็ว 3-7 วัน ถ้าไม่มีเสียงร้องเรียน
  • สโรชา – อย่างกรณีคุณลีน่า จังที่โดนใบแดง เราลองไปฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับกรณีนี้ ว่าส่วนมากเขาคิดยังไงกัน ไปฟังกันค่ะ

    *****VTR*****
    ประชาชน 1 – คือเขาควรจะรู้ ว่าเขาทำอะไรไป มันควรหรือไม่ควร ไม่ใช่ว่าพอตัวเองมาโดน แล้วก็จัดแจงบอกว่า คนอื่นทำไมไม่โดน
    ประชาชน 2 – แสดงทุกวันเลย คนอื่นเขาทำกันวันเดียว ทุกครั้งที่มีการสมัคร เขาทำอย่างนี้ทั้งหมด แล้วต่อไปเขาก็ไม่ได้แสดงมหรสพ แต่คุณลีน่า จังแกแสดงทุกวันเลย ยุติธรรมนะ ผมว่ายุติธรรม เพราะว่าคนอื่นเขาไม่ได้ฝ่าฝืน วันแรกน่ะ ทุกคนทำเหมือนๆกันหมด ไม่เป็นไร แต่วันต่อๆมา คุณลีน่าแกแสดงทุกวัน คนอื่นเขาไม่ได้แสดง
    ประชาชน 3 – คืออย่างของคุณลีน่า เขาไปแสดงวันที่แบบว่า ที่เขาไปที่สีลมใช่ไหม ที่เอาคนขึ้นไปเต้นอยู่บนรถ มันก็เกินไปหน่อย เพราะว่าดูชุดที่ใส่ด้วย อะไรประมาณอย่างนี้
    ประชาชน 4 – คือดูลักษณะว่ามันโจ่งแจ้งเกินไป แสดงถึงเจตนาชัดเจน
    ประชาชน 5 – ไม่เห็นด้วย เพราะว่าคนอื่นก็น่าจะโดนด้วยเหมือนกัน เพราะว่าก็เป็นการจัดมหรสพเหมือนกัน

    *****

  • สโรชา – นี่ก็เป็นความคิดเห็นนะคะ แต่ว่าตอนนี้ไปที่สายคุณนิติภูมิค่ะ สวัสดีค่ะ
  • คำนูณ – ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ เพราะว่าคะแนนที่ได้รับนี่ถือว่า ดีมากๆเลย แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะชนะ คุณนิติภูมิในฐานะที่อีกด้านหนึ่งก็เป็นนักวิเคราะห์การเมือง มองการตัดสินใจของคนเมืองหลวงครั้งนี้ว่าอย่างไรครับ
  • นิติภูมิ – ผมอยากจะเรียนว่า ผมมองว่าพี่น้องประชาชน ได้สั่งสอนรัฐบาล ผมขออนุญาตใช้คำที่หนักไปหน่อย คือสั่งสอนในแง่ว่า ขอให้รัฐบาลมีความจริงใจกับประชาชน มีอะไรก็บอกอย่างโปร่งใส เราจะเห็นว่าการสมัครครั้งนี้ ประชาธิปัตย์ประกาศตัว เรียกว่าเต็มตัวอย่างว่า แต่ว่าในซีกของรัฐบาล ทั้งผู้นำแล้วแกนนำพรรค ไม่มีใครสง่ากล้าหาญพอมาเดินกับผู้สมัครของคุณ มีแต่หลบๆซ่อนๆ เวลามีคนไปถาม ก็บอกว่าไม่ได้ส่งใครลงสมัคร แต่มีพฤติกรรมก็กลับสนับสนุนคนๆนั้น แล้วพี่น้องประชาชนก็เอือมกับระบบนี้เต็มที แต่ว่าก็ยังให้โอกาสรัฐบาลอยู่นะครับ ครั้งนี้ก็คงแค่อยากสั่งสอน ผมว่า
    กำลังโหลดความคิดเห็น