3 ผู้ร่วมสนทนาถกประเด็นฮ็อต เศรษฐกิจถกประเด็นน้ำมัน ชี้กระแสสังคมช่วงนี้ไม่พอใจรัฐบาลทักษิณ แย้มเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. “ชูวิทย์" มาแรงในหมู่วัยรุ่น พร้อมลุ้นกับไปโอลิมปิกที่จอมพลังสาวไทยบันทึกประวัติศาสตร์ เป็นนักกีฬาหญิงคนแรกที่คว้าเหรียญทองให้ชาติ
สโรชา - สวัสดีค่ะท่านผู้ชม ขอต้อนรับเข้าสู่รายการก่อนจะถึงวันจันทร์ และเช่นเคยค่ะวันอาทิตย์เช่นนนี้ กลับมาพบกับเราทั้งสามคนค่ะ คุณสำราญ รอดเพชร คุณคำนูณ สิทธิสมาน และดิฉันสโรชา พรอุดมศักดิ์ค่ะ
สำราญ -,คำนูณ– สวัสดีครับ
สโรชา - วันนี้มีเรื่องที่จะต้องคุยกันเยอะมาก แต่ว่าจะคุยเรื่องอะไรก่อนดี
สำราญ - วันนี้ต้องแสดงความยินดีกับคุณสโรชา ได้รางวัลเทพทองของสมาคมนักวิทยุ นักโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จากรายการที่โมเดิร์นไนน์นะ
สโรชา - ใช่ค่ะ เมืองไทยรายสัปดาห์
สำราญ - ได้กับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล เจ้าสำนักของเราก็ได้ด้วย ในรายการเดียวกัน ซึ่งหายไป 2 สัปดาห์
สโรชา - เพิ่งกลับมาเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว กลับมาพร้อมเรื่องร้อนๆ เรื่องเด็ดๆ คือเราคุยกันเรื่องธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้ว่าการ แล้วตรงกับวันที่หม่อมอุ๋ยท่านแถลงพอดี
สำราญ - แล้วมันตรงกับวันศุกร์ 13 ด้วยนะ
สโรชา - คุณก็อย่าโยงไปถึงตรงนั้นสิ ดิฉันพยายามไม่พูดแล้วนะ
สำราญ - คือสังเกตได้ ก็พอจะรู้ว่าคุณสนธิจะพูดถึงเรื่องนี้ เรื่อง bank กรุงไทย เรื่อง bank ชาติ บทบาทของผู้ว่าการ แล้วพอเช้ามา ม.ร.ว. ปรีดิยาธร แถลงเลย แล้ววันเดียวกันอีกดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์แถลงข่าวลือต่างๆ แล้ววันเดียวกันอีกโบรกเกอร์ต่างๆในตลาดหลักทรัพย์เขาประชุมกัน
สโรชา - สรุปแล้วทั้งวันเต็มไปด้วยความเคลื่อนไหวของแวดวงการเงิน การคลังบ้านเรา
สำราญ - แต่ขอโทษที ศุกร์ 13 มันก็ยังเป็นศุกร์ 13 ตลาดหุ้นปิดที่ 588 จุด ดีที่ไม่เล่นหุ้นนะ ไม่งั้นจัดรายการไม่ได้
สโรชา - คงทำไม่รู้เรื่อง มัวแต่คิดกังวลใจอยู่ 588 ในรอบกี่เดือนนะ
สำราญ - เขาบอกในรอบ 2 สัปดาห์นะ
สโรชา - ต่ำสุด
สำราญ - คือถ้าจำได้ต้นปีมันขึ้นถึง 800 นะ
สโรชา - เขาบอกว่า คือปลายปีที่แล้วเนี่ย มันอยู่ที่ประมาณ 600 ปลายๆกำลังจะ 700 เขาก็บอกว่าภายในปี 47 นี้ ต้องทะลุ 800 แน่ๆ
สำราญ - แล้วมันก็ทะลุ 700 มาตั้งเยอะ กำลังจะไต่ 800 อยู่แล้ว แต่จะย้อนไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ผมพอจำได้ มันปิดอยู่ที่ 637 แถวนี้นะครับ แล้วมันร่วงมา 2 อาทิตย์มาปิดที่ 588 เมื่อวันศุกร์นี่ เขาเรียกว่ามันลดลงไป 7% ครึ่ง ถ้าคิดเป็นตลาดรวมก็หายไป 2 แสน 9 หมื่นล้าน
คำนูณ– สาเหตุก็คือจากข่าวลือ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่เป็นเหตุให้คุณชายปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าแบงค์ชาติต้องออกมาแถลง ข่าวลือว่าท่านจะลาออกบ้าง ข่าวลือว่าจะถูกปลดบ้าง ข่าวลือว่าจะมีการกีดกันไม่ให้คุณวิโรจน์ นวลแข กลับมาเป็นกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยบ้าง แล้วก็ข่าวลือว่ากองทุนฟื้นฟูจะถอนออกจากธนาคารกรุงไทยบ้าง อะไรต่อมิอะไรหลายๆอย่าง แต่จริงๆจุดเริ่มต้นมันคือ เกิดจากแบงค์ชาติที่ให้ข่าวกับสื่อมวลชนในทำนองว่า ธนาคารกรุงไทยทำท่าจะมีหนี้เสียจาก 14 โครงการ แล้วก็พูดยกตัวอย่างว่า ก็ต้องดูไว้ก่อนเกรงจะเหมือน BBC
สำราญ - นี่พูดในที่เปิดเผยใช่ไหม
คำนูณ– คือวันที่พูดเนี่ยคือ ขอไม่ให้สื่อมวลชนอัดเทปกับถ่ายโทรทัศน์
สโรชา - คือจะปิดก็ไม่เชิง จะเปิดเสียทีเดียวก็คงไม่ใช่ มันก็เลยเกิดความสับสน เกิดความไม่แน่นอนว่า ท่านต้องการจะพูดอย่างเป็นทางการหรือเปล่า
คำนูณ– คือความเหมาะสมอะไรต่ออะไร มีอะไรในเรื่องนี้ คือคนที่เป็นผู้ว่าแบงค์ชาติพูดอะไรออกมา มันก็เหมือนวาจาสิทธิ์ ตลาดก็ต้องเอาไปตีความ
สำราญ - แต่เท่าที่จำได้ มีทั้งคุยอย่างไปเป็นทางการ แล้วก็พูดอยู่นิดหน่อย ที่เป็นอะไรเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว มันก็เลยก้ำกึ่ง กำกวม สีเทาๆ แค่สีเทามันก็ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง เพราะคนพูดหรือคนที่ให้ข่าวเป็นประมุขของแบงค์
สโรชา - คือดิฉันว่าสีเทานี่น่ากลัว ถ้าสีขาวไปเลยก็เป็นข่าวดี ถ้าดำไปเลยก็เป็นข่าวร้ายแน่ๆ แต่ว่าเทาเนี่ย ดิฉันว่าความไม่แน่นอนที่น่ากลัวที่สุด ถ้าดำไปเลยเขาก็รู้แล้วว่าความเลวร้ายที่สุดมันคืออะไร แต่ถ้าเป็นเทามันก็เหมือนกะเกณฑ์ไม่ถูกว่ามันจะยังไงดี
สำราญ - คือคุณสนธิท่านก็มีพยานหลักฐาน มีประจักษ์พยานที่จะให้ข้อมูลได้ชัดเจน
สโรชา - มันเป็นประเด็นใหญ่ก็ตรง BBC นี่แหละ
สำราญ - คือผู้ว่าแบงค์ชาติท่านก็ปฏิเสธทุกๆข่าวลือ ว่างั้นเถอะ 10%ที่จะถอนจากรุงไทยกองทุนก็ไม่ถอน แล้วสุดท้ายก็คือ ไม่ลาออก แต่ก็ยอมรับว่าท่านก็ถือหุ้นอยู่ในบริษัทต่างๆ คือ 10 กว่าบริษัทที่ท่านเป็นกรรมการ เป็นบอร์ดอยู่นะ ท่านก็บอกว่าถอยมาหมดแล้ว แต่ถึงตอนนี้ก็ยังมีอยู่
สโรชา - ที่คุยกับคุณสนธิในรายการก็มีอยู่ว่า คำถามอาจจะเกิดขึ้นได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าทำจริงๆ แต่ว่ามนุษย์เราบางครั้งมันก็อดจะคิดไม่ได้
สำราญ - ทีนี้บทบาทของดร.สมคิด อีกซีกหนึ่งนะ ท่านก็แถลงก็คือข่าวปลดหม่อมอุ๋ยมาแรงมาก ท่านก็เลยดับไฟว่าไม่มีการปลด แล้วตอนนี้ทุกข่าวอันไหนที่ไม่ออกมาจากปากท่าน อย่าไปเชื่อ ให้ฟังจากท่าน คือข่าวลือต้องยอมรับว่ามีบาบาทและส่งผลกระทบกับตลาดหุ้นอย่างใหญ่หลวง แต่ตอนนี้คิดดูว่าตลาดหุ้นจาก 700 เกือบ 800 ลดฮวบมาอยู่ที่ 588 จุด
สโรชา - มันสาหัส
สำราญ - เขาว่าคนติดหุ้นนี่เยอะ ขนาดคุณโอ๊ค พานทองแท้ยังสารภาพบอกว่า คุณโอ๊คนี่ไปติดหุ้น เจ๊งเพราะหุ้นนี่เยอะ เพราะบอกว่าเล่นหุ้นโดยไม่ได้ดูพื้นฐาน ไปตามกระแส ก็ว่ากันไป อันตราย คือดร.สมคิดต้องหยุด สยบข่าวลือต่างๆว่าไม่จริง ต่อไปให้ฟังจากท่านก็แล้วกัน คือต้องเอาผิด ต้องไล่เบี้ยกัน โบรกเกอร์ไหนเป็นคนปล่อยข่าว ซึ่งโบรกเกอร์นี่มันก็ไม่ธรรมดานะ นี่ก็สิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น
คำนูณ– คือมีการพูดไปถึงนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ด้วย ที่ออกรายการต่างๆเนี่ย ก็เป็นปัญหาโลกแตกนะ อันที่จริงการวิเคราะห์หลักทรัพย์ก็เหมือนกับการวิพากษ์วิจารณ์การเมือง มันก็เป้นความคิดเห็นส่วนตัว จะพิสูขน์ได้อย่างไร ว่าความคิดเห็นนั้นตั้งอยู่บนฐานของความบริสุทธิ์ใจ หรือไม่ เราเองเราวิพากษ์วิจารณ์ไปก็ถือว่าเราบริสุทธิ์ใจ แต่บางคนเขาก็อาจจะบอกว่านี่ไม่บริสุทธิ์ ทำให้สถานการณ์ปั่นป่วนวุ่นวาย
สำราญ - คือวิพากษ์นี่ก็พอนั่นได้ แต่ที่มันปล่อยข่าวอยู่ในตลาด ปล่อยโดยไม่วิพากษ์นะ นี่แหละ คนที่ไม่สันทัดจัดเจนนะ เรียบร้อย
สโรชา - เดี๋ยวนี้นักลงทุนเขาเจอหน้า เขาถามว่าติดอยู่เท่าไหร่ คือไม่พูดถึงการซื้อการขาย พูดถึงแค่ว่าติดอยู่เท่าไหร่ และจะตัดตรงเสียๆไว้ตรงไหนดี เมื่อไหร่ถึงจะดี
คำนูณ– จริงๆแล้วก็ไม่ใช่แค่ครั้งนี้ เราทำข่าวมา ทุกยุคทุกสมัย ตลาดหุ้นนี่เป็นที่ๆเหมาะกับการปล่อยข่าวมากที่สุด ไม่เฉพาะข่าวทางเศรษฐกิจ ข่าวทางการเมืองก็เหมาะกับการปล่อย เพราะว่าคนมักจะขาดสติ และความรู้เกี่ยวกับเรื่องต่างๆนี่ไม่มี ลือกันได้พิสดารนักหนา แล้วจริงๆมันมีผล
สโรชา - แล้วยิ่งบางคนที่ถึงแม้จะไม่ได้ยินข่าวลือ แต่เห็นมันร่วงกรู ก็ต้องเข้าไปขายกับเขาบ้างล่ะ
สำราญ - ก็ดูวันศุกร์ หม่อมอุ๋ยปฏิเสธออกมา ดร.สมคิดอย่างนี้ โบรกเกอร์ก็ประชุมกับกลต.อย่างนี้ มันควรจะหยุดได้นะ แต่วันศุกร์ก็ยังร่วงไป 6-7 จุด
สโรชา - ค่าน้ำมันขึ้นนี่มันมีผลไหมคะ เราจะไปดูปัจจัยอื่นๆบ้างไหม ว่าจริงๆแล้วที่มันตก เพราะว่าข่าวลือแน่นอนล่ะ มันอาจจะเป็นปัจจัยหลัก
คำนูณ– ประมาณ 3 แสนล้านที่หายไปตลอด 15 วันทำการ จริงๆแล้วก็ประมาณ 20 กว่าวัน ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 27-28 กรกฎาคมที่มีข่าวเรื่องนี้ออกมา เฉพาะในกลุ่มธนาคารหุ้นตกไปกว่า 1 แสนล้านบาท เฉพาะแบงค์กรุงไทยเองก็หลายหมื่นล้านบาท
สโรชา - แล้วราคาน้ำมันนี้มันเกี่ยวบ้างไหม ส่งผลให้เลวร้ายลงกว่าอีก
สำราญ - คือเรามองแบบนักสังเกตการณ์ทั่วไปนี่ ผมว่าปัจจัยแรกคือความเชื่อมั่นรวมๆต่อรัฐบาล ผมว่ามันไม่เพิ่มขึ้นนะ แถมมันยังลงอีกนิดหน่อย ความไม่เชื่อมั่นต่อรัฐบาล มันสะท้อนได้เหมือนกันนะ ประการที่สองคือปัจจัยเรื่องของราคาน้ำมันเหล่านี้ ภาวะเศรษฐกิจโลก ภาวะเศรษฐกิจบ้านเราที่ส่งผลกระทบกันมาเป็นลูกโซ่
คำนูณ– เต็มถังตอนนี้ก็ทะลุหลัก 1000 บาทไปแล้ว
สโรชา - คือขนาดว่ายังไม่ขึ้นเต็มที่ ครึ่งถังนี่ 650 บาท
สำราญ - พอตลาดหุ้นนี่ทรุดนี่ คนไปจมในหุ้นนี่เยอะ เงินจมในตลาดคือเงินไม่เอามาผลิตถูกไหม ไม่หมุนเวียน ก็น่าห่วง ผมคิดว่าน่าห่วง
สโรชา - แต่พูดถึงราคาน้ำมัน เราก็ต้องคุยถึงมาตรการประหยัดบ้างล่ะ
คำนูณ– ก็ฟังดูเห็นว่าจะมีทั้งระยะเฉพาะหน้า เป็นบัญญัติ 10 ประการ ระยะกลาง ระยะยาว และก็ดูเหมือนว่าจะเข้มขึ้น แต่ว่าก็คงจะสร้างความโอดครวญให้กับชนชั้นกลางในเมืองหลวงมากขึ้น เพราะเท่าที่ฟังๆดู มาตรการแต่ละมาตรการก็เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ คือผมคิอว่า ชีวิตนี้เราคงไม่อยากขับรถออกจากบ้านหรอก ถ้ามันมีทางเลือกอย่างอื่น เป็นต้นว่าสามารถจะเดินออกมาจากบ้าน มาขึ้นรถใต้ดินหือรถลอยฟ้า เราก็ไม่รังเกียจหรอก แต่ปัญหาทุกวันนี้คือระบบชนส่งมวลชนบ้านเรามันไม่ใช่น่ะ คือรถไฟฟ้า รถใต้ดินที่มีอยู่ มันก็วนแต่ในเมือง ก็ได้คนแค่กลุ่มหนึ่งเท่านั้นเอง
สโรชา - จะขออนุญาตเปรียบกับสิงคโปร์นิดนึง ว่าจริงๆแล้วถึงแม้ว่าจะเป็นเมืองเล็ก แต่ว่าเขาทำระบบขนส่งมวลชนได้ในระดับขอชมเชยว่าดีมาก สามารถที่จะใช้บัตรใบเดียวกันขึ้นทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า คือขึ้นได้ทั้งหมดเลย
คำนูณ– คือตอนนี้ตามเมืองใหญ่ๆ ระบบขนส่งมวลชนนี่ ตั๋วใบเดียว ขึ้นได้ทุกอย่าง แล้วก็มีให้เลือกหลากหลายราคา จะตั๋ววัน ตั๋วเดือน ตั๋วปี นักศึกษามีหมด เพราะฉะนั้นคนของเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้รถ มาตรภาษีเกี่ยวกับรถ หรือการขัยรถเข้ามาในเมืองเนี่ย ค่าใช้จ่ายสูง แต่ในบ้านเรานี่ถ้าจู่ๆ ค่าที่จอดรถก็แพงขึ้น ถนนหลายสายห้ามจอด ห้ามขับรถคนเดียว ระบบนี้ถือว่าดี แต่ว่าถ้าเป็นผู้หญิงก็ต้องคิดให้หนักหน่อยว่าจะขับกับใคร ขนาดผมยังคิดหนัก
สำราญ - จริงๆเวิร์คชอปวันที่ 18 นี้นะ มีทั้งสั้น กลาง ยาว สั้นๆก็อย่างที่คุณคำนูณว่ามา คือทั้งหลายทั้งปวงจะรวมศูนย์อยู่ที่ว่า ทำอย่างไรเราจะประหยัดพลังงาน คำถามใหญ่ๆก็มีอยู่อย่างน้อยก็ 2 อย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำถามเรื่องราคาน้ำมัน เรื่องของการลอยตัวดีเซล จะลอยตัวไปแค่ไหน อย่างไร คือที่เรารับฟังมาก็คือ อย่างน้อยก็สิ้นปีถึงจะปรับราคา แค่ไม่กี่เดือน นักวิชาการผู้รู้ก็ยังเถียงกันว่า ไม่ไหวต้องปรับดีเซลได้แล้ว เพราะมันอุ้มไม่ไหวแล้ว
คำนูณ– คือไปอุ้มนี่มันก็ดี คือทำให้สินค้าราคาไม่ขึ้น แต่ว่ามันก็จะไปบิดเบือนโครงสร้างการใช้น้ำมัน แล้วอีกหน่อยนี่คนก็จะหันมาใช้ดีเซลมากขึ้น ใช้รถผิดประเภทมากขึ้น
สำราญ - คือเอาความรู้สึกของคนทั่วไป เขาบอกว่ารัฐบาลยังแก้ไม่ตรงประเด็นนะ แต่ว่าคือฟังรัฐบาลวันที่ 18 ซักหน่อย
สโรชา - รอดูเขาต่อไป เดี๋ยวเราจะพักกันซักครู่นึงค่ะ ไปฟังข่าวต้นชั่วโมงแล้วกลับมา ยังมีประเด็นของการเมืองรออยู่ ซักครู่เดียวค่ะ
สโรชา - มาคุยกันถึงเรื่องการเมืองซักนิด
คำนูณ– เป็นสัปดาห์ที่มีอะไรหลายๆอย่างก่อตัวขึ้นที่น่าสนใจ คือถ้าจะดูภาพรวม เสียงหรือกระแสสังคมค่อนข้างจะไม่ค่อยสบายใจกับรัฐบาลของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร มาหลายสายเหลือเกิน บทความของนพ.ประเวศ วะสี อันนี้ก็ชัดเจน ค่อนข้างแรงพอสมควร และที่สำคัญคือการแสดงออกอย่างชัดเจนของท่าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ซึ่งเป็นผู้ที่ชักนำท่านทักษิณ ชินวัตรเข้ามาสู่วงการเมือง เป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม เมื่อ 10 ปีก่อน อันนี้ก็ชัดเจนว่า แสดงความไม่เห็นด้วย โดยการแสดงออกหลายอย่าง อย่างท่านโทรศัพท์ไปคือพูดง่ายๆว่าท่านจงใจให้สัมภาษณ์รายการวิทยุดังๆหลายรายการ และหลายครั้งกับหลายคน ในเชิงที่คนกรุงเทพเขาไม่เอาพรรคไทยรักไทยแล้วล่ะ พรรคไทยรักไทยก็รู้ก็เลยไม่ส่งผู้ว่าลง ก็บอกว่า หลายๆอย่างที่รัฐบาลทำผิดพลาดไป แล้วเท่าที่ทราบไม่เพียงแต่ท่าน พล.ต.จำลองให้สัมภาษณ์เท่านั้นนะครับ ในหนังสือ “เราคิดอะไร” คุณสำราญคงจะจำได้ เป็นหนังสือของชาวอโศก ซึ่งก็เป็นกลุ่มก้อนที่หนาแน่นตามสมควร เขาก็ทั้งบทนำอะไรต่ออะไรมาเป็นชุดเลย ทิศทางชัดเจน โดยเฉพาะหน้าปกที่ขึ้นต้นประมาณว่า คนดีที่ขยันแต่ยากจนดีกว่าคนดีที่ขยันแต่ร่ำรวยประมาณนี้ แล้วก็ข้างในนี่เป็นชุดเลย
สำราญ - การเมืองอย่างที่คุณคำนูณสรุปภาพมาก็คือ ย้ายพรรคก็ยังมีเกิดขึ้นตามปกติ สส.ลาออกก็ 40 กว่าคนแล้วทั้งสภา ประชาธิปัตย์ก็มีตัวเลขแล้ว 22 คน คือลาออกจากสส.คือหมายความว่า จะไปที่อื่นนะ ไปชาติไทย ไปไทยรักไทย ไปที่โน่นที่นี่ก็แล้วแต่
คำนูณ– พูดถึงขบวนการต่างๆที่ก่อตัวขึ้นมาในเชิงที่ไม่ค่อยจะเอาด้วยกับรัฐบาล มันก็เริ่มต้นมาตั้งแต่ที่คุณสำราญไปงานของอ.เจิมศักดิ์ ชมรมคนรู้ทันนี่ก็ไม่ธรรมดาที่เกิดขึ้นมา แล้วผมคิดว่าทิศทางของทั้งหมดมันจะหนักหนาขึ้นตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป คือช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ผมได้ยินมาว่า ท้ายสุดมันอาจจะก่อตัวขึ้นมาว่า ถ้าเผื่อว่าจะแสดงการไม่เห็นด้วยกับพรรคไทยรักไทย กับท่านนายกทักษิณ ให้เลือกคุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน มันจะทำให้คุณอภิรักษ์ได้คะแนนจากคนที่เขาอาจจะไม่ได้ชอบเป็นการส่วนตัว แต่ว่าเป็นคนเดียวที่ชัดเจนว่า ไม่ใช่ไทยรักไทย อันนี้ก็น่าสนใจ ถ้าสมมุติว่าคุณอภิรักษ์ชนะนี่ ก็ต้องถือว่าไทยรักไทยเสียหน้า แล้วก็จะต้องมีผล มันเหมือนกับว่าชัยชนะมันจะเป็นการไปโด๊ปพลัง ที่เขาไม่ค่อยเห็นด้วยกับรัฐบาลให้คึกคักขึ้น
สำราญ - ถ้าคุณอภิรักษ์ชนะการเลือกตั้ง โมเมนตัมก็จะเปลี่ยนไปนะ ไทยรักไทยก็จะโดนซ้ำสองเรื่องสส.ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีทั้งหมด 37 ที่นั่งนี่ เดี๋ยวนี้ไทยรักไทยเขามีอยู่ 28 คน ประชาธิปัตย์มีอยู่ 9 แต่เขาบอกว่ามันจะพลิกเลยนะ เขาว่าเขาคือประชาธิปัตย์นะ คือเขาคำนวณเข้าข้างตัวเอง บอกจะซิวมาถึง 29 ถ้าได้มาถึง 29 นะ จะทำให้ที่นั่งเขานี่ ได้ 157 ที่นั่ง
คำนูณ– ผลมันก็คงจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงการเมืองระดับประเทศอะไรมากมายนัก ไทยรักไทยก็คงเป็นรัฐบาลต่ออีกสมัยหนึ่งแน่นอน ผมว่าอย่างนั้นนะ แต่ว่ามันจะทำให้สถานภาพของไทยรักไทย เริ่มไปเหมือนกับรัฐบาลเสียงข้างมากในอดีตพรรคอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นพรรคสามัคคีธรรม พรรคความหวังใหม่ ย้อนไปถึงพรรคชาติไทย ก็คือได้คะแนนเสียงในต่างจังหวัด แต่ไม่ได้คะแนนเสียงในกรุงเทพ ซึ่งมันก็มีผลต่อการดำเนินนโยบายในอนาคตมากพอสมควร
สโรชา - พูดง่ายๆคือเสียงไม่หนักแน่นเหมือนแต่ก่อน ถ้าหากเป็นอย่างนั้นจริงๆ
คำนูณ– ทั้งๆที่ไทยรักไทยสืบเชื้อสายมาจากพรรคพลังธรรม ซึ่งมีคะแนนเสียงในกรุงเทพที่เรียกว่าสูสี พอฟัดพอเหวี่ยงกับพรรคประชาธิปัตย์
สำราญ - คือชนะตัวเลข สส. แต่ไม่ชนะใจประชาชนว่างั้นเถอะ มันก็อยู่ลำบากเหมือนกัน หมายถึงทิศทางทางการเมือง ไม่ว่าสมัยไหน คือเสียงท่วมท้นจริงแต่ว่าถ้าการแก้ปัญหามันสวนทางต่อความรู้สึกนึกคิด สวนทางกับสามัญสำนึกทั่วไป ก็อย่างว่ามันก็ลำบาก
สโรชา - อย่างนี้เท่าที่ฟังทั้ง 2 ท่านพูด นี่ก็คือว่า จากกระแสที่ออกมาพรรคนี้ จริงๆแล้วเจตนาเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าอย่างเห็นได้ชัดเลยหรือเปล่า
สำราญ - มันมีส่วนจากกระแสเกมการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. และกระแสใหญ่มันก็มีมาบรรจบกันพอดี ด้วย ผมว่ามันมีการก่อตัวของหลายกลุ่มหลายก้อน
คำนูณ– คือท่านจำลอง ศรีเมืองนี่ท่านชัดเจน ว่าสนับสนุนคุณมานะ อันนี้น่าจะเกี่ยวกับกทม.ซักเกินครึ่ง แต่ว่าอย่างกระแสการก่อตัวของพลังอื่นๆ มันคงเป็นธรรมชาติของมันอยู่แล้ว แต่ว่าผลการเลือกตั้งกทม.มันจะมีส่วนช่วยโด๊ป สมมุติว่าคุณปวีณาเธอชนะ ที่จะโด๊ปก็คงฝ่อไป
สโรชา - เหมือนกับหยุดยั้ง เหมือนมีอะไรมากั้นกระแสไว้
คำนูณ– ที่น่าสนใจนะ เมื่อวันเสาร์นี่ คุณหน่อย สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ก็ชัดเจนเป็นครั้งแรกนะ ก็เรียกประชุมยืนยันที่จะสนับสนุนคุณปวีณา
สโรชา - ถ้าพูดจริงๆแล้วตอนแรก ไม่อยากจะต้องทำแบบนี้
สำราญ - คือตอนแรกคงคล้ายๆที่คุณธวัชชัย สัจจกุลวิเคราะห์ไว้ คล้ายๆไทยรักไทยเขาดูตัวนะ ถ้าบิ๊กหอยมาแรง เขาก็จะเทให้บิ๊กหอย ถ้าคุณปวีณามาแรง เขาจะเทให้คุณปวีณา แม้แต่คุณเฉลิม สมมุตินะมาแรงนี่ ก็เทให้คุณเฉลิม แต่ตอนนี้ดูแล้วคือ เขาดูโพลกันลึกๆ ก็คือก็คงจะให้ไปคุณปวีณา
สโรชา - แล้วอย่างนี้ที่บอกว่า ไม่เกี่ยวไม่ข้อง อิสระจริงๆ
คำนูณ– ก็ต้องพูดไปตามบทน่ะ เธอก็ต้องพูดไปตามบท ไทยรักไทยก็ต้องพูดไปตามบท
สโรชา - สถานการณ์เปลี่ยน ก็ต้องเปลี่ยนไปตามสถานการณ์
สำราญ - จริงๆมันก็แต่แรกแล้วล่ะ มันก็มีที่มาอยู่แล้วเพียงแต่ว่าอันไหนที่มันยังมีทางเลือกอยู่บ้าง ก็เผื่อๆไว้หน่อย แต่พอถึงโค้งสุดท้าย อีกสองสัปดาห์เท่านั้นเอง
คำนูณ– ตอนนี้คุณชูวิทย์ก็มาแรง โดยเฉพาะในหมู่ที่เขาเรียกตัวเองว่าคนรุ่นใหม่ คนอายุ 18 ขึ้นไปจนถึง 22-23 อาจจะไม่เกิน 25 อันนี้มาแรงโดยไม่มีเหตุผล แล้วก็อีกประเภทหนึ่งก็คือความสะใจ
สโรชา - พวกหลุดโลก พวกแบบว่าเอาเสียหน่อย ลองดูหน่อย ไหนๆก็ไหนๆ
สำราญ - ก็เป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึก
คำนูณ– ก็มีโอกาสนะ
สำราญ - เขาติดอันดับ 3 อยู่ตามโพล พูดกันตรงๆนะ อันดับ 1 อันอับ 2 ก็แล้วแต่โพลไหนนะ ก็คือคุณปวีณา กับคุณอภิรักษ์
สโรชา - แต่พูดถึงแกก็เอาจริงเอาจังนะ สำหรับตอนนี้ ขอพูดเรื่องยุบพรรคชาติพัฒนาซักนิด เหลือเวลาไม่กี่นาที
สำราญ - ก็คงจะไม่มีอะไร แทบจะไม่ต้องสนใจแล้ว มันเหลือแต่พิธีกรรมอย่างเดียวตอนนี้ คือมาเกลี้ยงพรรคเลย หมดสิ้นสกุลชาติพัฒนาแล้ว แม้แต่ท่านวินัย สมพงศ์ ท่านก็บอกว่าท่านไม่ใช่เลือดเนื้อชาติพัฒนา
สโรชา - ที่ไม่ไปเพราะกลัวจะไม่มีที่ยืนอยู่ในพรรคหรือเปล่า จริงๆท่านรู้สึกอย่างนั้นจริงๆหรือเปล่า ดิฉันฟังรายงานข่าวแล้วติดๆนิดหน่อย เหมือนกับที่ท่านบอกว่า สาเหตุที่ท่านคัดค้านตอนแรกเนี่ย ก็เพราะว่ากลัวว่าไปแล้ว
คำนูณ– จะได้อันดับปาร์ตี้ลิสต์ไม่ดี อันนี้ฟังจากข่าวเราก็ไม่ได้คุยกับท่านโดยตรง โดยบุคลิกแล้วนี่ จริงๆเราเชื่อนะ เราอาจจะผิดมาโดยตลอด คือท่านไม่น่าจะคิดอย่างนี้ คือการไปไม่ไปสำหรับพันเอกวินับ สมพงศ์มันน่าจะมีหลัก เห็นบอกว่าทีแรกที่ไม่อยากไปไทยรักไทย เพราะเกรงว่า กลัวว่าไปแล้วเขาจะจัดให้อยู่ลำดับปาร์ตี้สิสต์ไม่ดี แต่ผมลองตั้งคำถามดูว่า ถ้าท่านชาติชายยังอยู่ สถานการณ์อย่างนี้ท่านจะยุบพรรคไหม คุณสำราญบอกว่าคงไม่ยุบ แต่พอถามคุณกร ทัพพะรังสี บอกว่าเป็นน้าชาติ ยุบไปนานแล้ว ไม่รอจนถึงวันนี้หรอก
สำราญ - คุณกรนี่ยุคุณสุวัจน์ให้ยุบมาตลอด อันนี้ของจริงเลย
สโรชา - เอาล่ะค่ะ เดี๋ยวเราจะไปพักกันซักครู่นึงนะคะ กลับมาเดี๋ยวมาติดตาม ข่าวคราวโอลิมปิก มาคุยกันซักหน่อยดีไหม เราได้เหรียญกันแล้วนะคะ เดี๋ยวคุยเรื่องโอลิมปิกแล้วก็ข่าวต่างประเทศ ซักครู่นึงค่ะ
สโรชา - กลับมาช่วงสุดท้ายของก่อนจะถึงวันจันทร์ ก่อนที่จะไปคุยเรื่องข่าวต่างประเทศ เดี๋ยวเราไปคุยเรื่องกีฬาซักนิดนึง ดิฉันเข้าใจว่าตอนนี้นักกีฬาของเรากำลังแข่ง
คำนูณ– กำลังลุ้นเหรียญที่ 2 ครับ คือเมื่อวานนี้ได้มาแล้ว 1 เหรียญทองแดงจากกีฬายกน้ำหนัก
สำราญ - จากน้องอารีย์ วิรัฐถาวร ก็ดีนะ คืออย่างน้อยมีชื่อประเทศไทยปรากฏตั้งแต่วันแรกเลย แล้วจะปรากฏไปอีกนานเลยนะ แล้ววันนี้อีกไม่กี่นาทีคงจะได้อีกซักเหรียญ จากอุดมพร พลศักดิ์
สโรชา - ตอนนี้เรากำลังลุ้นกันอย่างใจจดใจจ่อ ว่าจะได้เหรียญอะไร
สำราญ - น้องอารีย์นี่เมืองกาญนะ กาญจนบุรี ป่านนี้ก็คงจะเตรียมการจัดงานกันแล้วล่ะ
คำนูณ– ก็โดดเด่นนะครับ สมาคมยกน้ำหนักแห่งประเทศไทย ของพล.ท.อินทรัตน์ ยอดบางเตย
สโรชา - ในระหว่างที่ลุ้นกันอยู่ก็ไปติดตามประเด็นข่าวต่างประเทศ วันนี้ขอเริ่มที่ประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศสิงคโปร์เขาก็ได้นายกคนใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว คือ นายลี เซียน ลุง ท่านเป็นผู้นำคนที่ 3 ของสิงคโปร์ อายุ 52 ปีถือว่าเป็นคนเก่งคนหนึ่ง เป็นลูกของคุณลี กวน ยู ผู้ก่อตั้งประเทศเลยล่ะ หลังจากได้รับอิสรภาพมาจากมาเลเซียเมื่อไม่กี่ปี 34-35 ปีได้ คุณลี กวน ยูก็ขึ้นเป็นผู้นำประเทศ ครองตำแหน่งนี้ 10 กว่าปี ก็ได้พัฒนาประเทศพอสมควร จากที่ไม่มีอะไรเลย แต่สามารถที่จะทำให้ประเทศสิงคโปร์ กลายเป็นโบรกเกอร์ของเอเชียไปได้ แล้วก็มามอบอำนาจให้คุณโก๊ะ จก ตง ซึ่งก็อยู่มาได้ซักระยะหนึ่ง แต่ว่าจริงแล้วคุณโก๊ะ จก ตง ครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ ก็เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่ารอคุณคนนี้ฝึกงานอยู่ เรียกว่าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาหลายตำแหน่งมาแล้ว เพื่อที่จะก้าวขึ้นเป็นนายกคนที่ 3 คุณโก๊ะ จก ตง ก็ก้าวไปเป็นรัฐมนตรีอาวุโสเหมือนกับคุณลี กวน ยู ทีนี้ก็มีคำถามขึ้นมาเยอะว่าคุณลี เซียน ลุงจะทำยังไง คือคนปรามาสไว้เยอะว่า ทุกวันนี้ได้มาเป็นเพราะพ่อบารมีเยอะ เพราะฉะนั้นดูเหมือนว่าตอนนี้งานหนักพอสมควร เพื่อที่จะพิสูจน์ตัวเอง แต่ว่าคนสิงคโปร์ชอบนะ และได้การยอมรับเรียกว่าดี เพราะว่าชาวสิงคโปร์เขารักลี กวน ยูมาก พอมาถึงว่าเป็นลูกก็ได้คะแนนไปกว่าครึ่งแล้ว ตอนนี้ก็อยู่ที่ว่าจะพิสูจน์ผลงานตัวเองได้มากน้อยขนาดไหน แต่ที่แน่ๆนโยบายของเขาต้องเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมพอสมควร เขาบอกว่าสองยุคก่อนเป็นยุคที่ก่อสร้างประเทศ จากประเทศที่ค่อนข้างเคร่งครัด ระเบียบจัด กฎหมายแรง เขาอาจจะผ่อนปรนมากขึ้น จากที่บอกว่าเคี้ยวหมากฝรั่งไม่ได้ ก็อาจจะต้องปรับเปลี่ยนไป จะต้องลดความรุนแรงของกฎหมาย เพื่อให้ต่างชาติเห็นว่า จริงๆแล้วโครงสร้างมันมีอยู่แล้วล่ะ ตอนนี้เราต้องพัฒนาต่อไป แต่ว่าปัญหาหนักอีกปัญหาหนึ่งก็คือ ประชากรของชาวสิงคโปร์ ตอนนี้มีอยู่แค่เกือบ 4 ล้าน ตอนนี้เขาเองประสบปัญหาเดียวกับญี่ปุ่น ซึ่งก็คือว่าประชากรน้อยไป แล้วผู้สูงอายุจะมากขึ้นเรื่อยๆ เขาบอกภายในปี 2030 เนี่ย สิงคโปร์จะมีผู้สูงอายุอยู่ 8 แสนคนจากประชากรทั้งหมดเพียง 4 ล้านกว่าคนเท่านั้นเอง พูดง่ายๆว่าชาวสิงคโปร์ไม่แต่งงาน ถึงแต่งงานบางท่านก็ไม่มีลูก เพราะฉะนั้นต้องแก้ปัญหานี้เร่งด่วน ดิฉันคุยกับสาวสิงคโปร์หลายคนบอกว่าไม่อยากแต่งงาน เพราะว่าสามารถทำงานไปได้เรื่อยๆ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งผู้ชายมาเลี้ยง เขาก็หาเลี้ยงตัวเองได้ ลูกก็ไม่ได้อยากมีเป็นพิเศษ ก็จะมีทำไม
สำราญ - นโยบายจะเปลี่ยนเยอะไหม อย่างเศรษฐกิจ ความเป็นศูนย์กลาง
สโรชา - คงยังไม่เปลี่ยนแบบกะทันหัน ช่วงนี้คงเป็นการเปลี่ยนการใช้ชีวิตของชาวสิงคโปร์มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระตุ้นเรื่องการแต่งงาน การมีลูก เขาโปรโมทการมีเพศสัมพันธ์ในรถนะคะ ถึงขั้นนั้นเลย
สำราญ - คือยังไงก็ได้ให้มีลูกกันหน่อย
สโรชา - คือผู้หญิงนี่มีลูกแล้ว สามารถที่จะได้เงินสนับสนุนมากขึ้น ลดหย่อนภาษีได้มากขึ้น แถมยังหยุดงานได้ยาวขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นก็ถือว่าเป็นแรงจูงใจ ตอนนี้ยกน้ำหนักก็ได้ไปแล้วนะคะ 1 เหรียญทอง
คำนูณ– ทำลายสถิติโลกด้วย
สโรชา - ขอแสดงความยินดีด้วย
สำราญ - ผมว่าตอนนี้ปิดเมืองโคราชฉลองกัน
คำนูณ– แต่ว่าโอลิมปิกเที่ยวนี้ ประเทศไทยเท่าทุนแล้ว ที่เหลือไปเป็นกำไร แล้วก็ยังมีกีฬาอีกหลายประเภท มวยสากลสมัครเล่นก็ยังอยู่ แต่ว่าปีนี้อาจจะไม่ร้อนแรงเท่าครั้งก่อนๆ
สโรชา - กลับไปเรื่องต่างประเทศอีกซักนิดนึง ที่ประทศอังกฤษ มีนักโทษคนนึงติดคุกตลอดชีวิตคดีข่มขืนนะ แต่ถูกลอตเตอรี่ 531 ล้านบาท
คำนูณ– มันควรจะดีใจหรือเสียใจ
สโรชา - คือโดนคดีข่มขืนเนี่ย คือหลุดออกมาระยะหนึ่ง แล้วก็ติดใหม่ด้วยคดีเดิม คราวนี้ติดตลอดชีวิตเลยตั้งปี 2532 แต่ว่าตามกฎหมายของอังกฤษ เขาสามารถที่จะออกมาอยู่ข้างนอกภายใต้ความควบคุมของเจ้าหน้าที่ได้ในระยะหนึ่ง ถ้าประพฤติดี แล้วระยะนี้เนี่ยก็เกิดไปซื้อลอตเตอรี่แล้วเกิดถูกขึ้นมา ทำไงล่ะทีนี้ จะได้ใช้ไหม
สำราญ - มันก็ซื้ออิสรภาพไม่ได้เสียด้วย
คำนูณ– แต่คนที่จะวุ่นวายข้างนอกก็คือญาติพี่น้อง ใครจะมีสิทธิที่จะได้ดูแลเงินนี้แทน หรือแม้กระทั่งว่าใครจะมีสิทธิได้รับมรดก ถ้าเผื่อหาชีวิตไม่แล้ว
สโรชา - แต่ที่แน่ๆเริ่มวุ่นวายแล้ว พอเริ่มรู้ข่าวปุ๊บก็ต้องย้ายเรือนจำทันทีเลย เพราะว่าเขากลัวอันตราย คือพูดง่ายๆว่าขู่ เพื่อที่จะทำร้ายแล้วก็ไปเอาเงินมา
สำราญ - แล้วถ้าเผาลอตเตอรี่ทิ้งเสียล่ะ
สโรชา - ญาติพี่น้องคงตัดหางปล่อยวัดเลย ไม่ดูแลเลย
สำราญ - สรุปแล้วคือทุกขลาภ
สโรชา - แล้วก็มีอีกข่าวนึงที่ต้องพูดให้ได้ หลังจากที่สหรัฐ แคนาดาเขาประสบความสำเร็จกันไปแล้ว ตอนที่ผู้ประกาศสาวที่ประเทศอังกฤษก็เอาบ้าง เขาก็จะอ่านข่าวไป ถอดไปชิ้นสองชิ้น
สำราญ - นี่ช่องไหนนี่
สโรชา - เป็นช่องดาวเทียมแพร่ภาพในอังกฤษ ออกอากาศหลัง 4 ทุ่มครึ่งไปแล้ว เด็กๆห้ามดู แต่ว่าใครที่อยากจะเจริญหูเจริญตาไปพลางๆ ก็สามารถติดตามชมกันได้ แต่ว่าเขามีข้อแม้ ไม่ใช่ว่าไม่มีจรรยาบรรณ ถ้าเกิดว่าเป็นข่าวที่มีคนตาย เขาจะไม่ถอด เพราะถือว่าให้เกียรติกับผู้เสียชีวิตในช่าวนั้นๆ แต่ถ้าเกิดว่าเป็นข่าวอื่น เขาก็จะถอดไปทีละชิ้นสองชิ้นก็ถอดไปเรื่อยๆ
สำราญ - คิดว่าอีก 5 ปี 10 ปีจะมีที่เมืองไทยไหม
สโรชา - ถ้าเป็น Play TV ดิฉันว่าเป็นไปได้ แต่คงโดนโจมตีมากๆเลย
คำนูณ– เมืองไทยคงจะไม่ได้มั้ง แต่ใครจะไปรู้ ผมว่าน้องแนทนี่มีโอกาส หรือส่งเธอไปอยู่อังกฤษก็ไม่เลว
สโรชา - เอาล่ะ เหลือนาทีเดียว มีอะไรติดตามสัปดาห์หน้า
คำนูณ– ก็ความเขม็งเกลียวทางการเมืองก็คงจะลดลง เพราะพรุ่งนี้ข่าวเหรียญทองจากน้องอรก็คงจะพาดพัวทุกฉบับ และก็เป็นความยินดีของทุกส่วน
สำราญ - แต่ยังไงวันที่ 18 ก็ต้องติดตาม workshop ของน้ำมันนะ
สโรชา - มาตรการจะมีผลกระทบอย่างไรบ้างกับชีวิตประจำวันของเรา ต้องติดตามค่ะ เพราะฉะนั้นเดี๋ยวมาคุยกันต่อในสัปดาห์หน้า สัปดาห์นี้หมดเวลาเพียงเท่านี้ค่ะ เราทั้ง 3 คนลาไปก่อน สวัสดีค่ะ
สโรชา - สวัสดีค่ะท่านผู้ชม ขอต้อนรับเข้าสู่รายการก่อนจะถึงวันจันทร์ และเช่นเคยค่ะวันอาทิตย์เช่นนนี้ กลับมาพบกับเราทั้งสามคนค่ะ คุณสำราญ รอดเพชร คุณคำนูณ สิทธิสมาน และดิฉันสโรชา พรอุดมศักดิ์ค่ะ
สำราญ -,คำนูณ– สวัสดีครับ
สโรชา - วันนี้มีเรื่องที่จะต้องคุยกันเยอะมาก แต่ว่าจะคุยเรื่องอะไรก่อนดี
สำราญ - วันนี้ต้องแสดงความยินดีกับคุณสโรชา ได้รางวัลเทพทองของสมาคมนักวิทยุ นักโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จากรายการที่โมเดิร์นไนน์นะ
สโรชา - ใช่ค่ะ เมืองไทยรายสัปดาห์
สำราญ - ได้กับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล เจ้าสำนักของเราก็ได้ด้วย ในรายการเดียวกัน ซึ่งหายไป 2 สัปดาห์
สโรชา - เพิ่งกลับมาเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว กลับมาพร้อมเรื่องร้อนๆ เรื่องเด็ดๆ คือเราคุยกันเรื่องธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้ว่าการ แล้วตรงกับวันที่หม่อมอุ๋ยท่านแถลงพอดี
สำราญ - แล้วมันตรงกับวันศุกร์ 13 ด้วยนะ
สโรชา - คุณก็อย่าโยงไปถึงตรงนั้นสิ ดิฉันพยายามไม่พูดแล้วนะ
สำราญ - คือสังเกตได้ ก็พอจะรู้ว่าคุณสนธิจะพูดถึงเรื่องนี้ เรื่อง bank กรุงไทย เรื่อง bank ชาติ บทบาทของผู้ว่าการ แล้วพอเช้ามา ม.ร.ว. ปรีดิยาธร แถลงเลย แล้ววันเดียวกันอีกดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์แถลงข่าวลือต่างๆ แล้ววันเดียวกันอีกโบรกเกอร์ต่างๆในตลาดหลักทรัพย์เขาประชุมกัน
สโรชา - สรุปแล้วทั้งวันเต็มไปด้วยความเคลื่อนไหวของแวดวงการเงิน การคลังบ้านเรา
สำราญ - แต่ขอโทษที ศุกร์ 13 มันก็ยังเป็นศุกร์ 13 ตลาดหุ้นปิดที่ 588 จุด ดีที่ไม่เล่นหุ้นนะ ไม่งั้นจัดรายการไม่ได้
สโรชา - คงทำไม่รู้เรื่อง มัวแต่คิดกังวลใจอยู่ 588 ในรอบกี่เดือนนะ
สำราญ - เขาบอกในรอบ 2 สัปดาห์นะ
สโรชา - ต่ำสุด
สำราญ - คือถ้าจำได้ต้นปีมันขึ้นถึง 800 นะ
สโรชา - เขาบอกว่า คือปลายปีที่แล้วเนี่ย มันอยู่ที่ประมาณ 600 ปลายๆกำลังจะ 700 เขาก็บอกว่าภายในปี 47 นี้ ต้องทะลุ 800 แน่ๆ
สำราญ - แล้วมันก็ทะลุ 700 มาตั้งเยอะ กำลังจะไต่ 800 อยู่แล้ว แต่จะย้อนไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ผมพอจำได้ มันปิดอยู่ที่ 637 แถวนี้นะครับ แล้วมันร่วงมา 2 อาทิตย์มาปิดที่ 588 เมื่อวันศุกร์นี่ เขาเรียกว่ามันลดลงไป 7% ครึ่ง ถ้าคิดเป็นตลาดรวมก็หายไป 2 แสน 9 หมื่นล้าน
คำนูณ– สาเหตุก็คือจากข่าวลือ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่เป็นเหตุให้คุณชายปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าแบงค์ชาติต้องออกมาแถลง ข่าวลือว่าท่านจะลาออกบ้าง ข่าวลือว่าจะถูกปลดบ้าง ข่าวลือว่าจะมีการกีดกันไม่ให้คุณวิโรจน์ นวลแข กลับมาเป็นกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยบ้าง แล้วก็ข่าวลือว่ากองทุนฟื้นฟูจะถอนออกจากธนาคารกรุงไทยบ้าง อะไรต่อมิอะไรหลายๆอย่าง แต่จริงๆจุดเริ่มต้นมันคือ เกิดจากแบงค์ชาติที่ให้ข่าวกับสื่อมวลชนในทำนองว่า ธนาคารกรุงไทยทำท่าจะมีหนี้เสียจาก 14 โครงการ แล้วก็พูดยกตัวอย่างว่า ก็ต้องดูไว้ก่อนเกรงจะเหมือน BBC
สำราญ - นี่พูดในที่เปิดเผยใช่ไหม
คำนูณ– คือวันที่พูดเนี่ยคือ ขอไม่ให้สื่อมวลชนอัดเทปกับถ่ายโทรทัศน์
สโรชา - คือจะปิดก็ไม่เชิง จะเปิดเสียทีเดียวก็คงไม่ใช่ มันก็เลยเกิดความสับสน เกิดความไม่แน่นอนว่า ท่านต้องการจะพูดอย่างเป็นทางการหรือเปล่า
คำนูณ– คือความเหมาะสมอะไรต่ออะไร มีอะไรในเรื่องนี้ คือคนที่เป็นผู้ว่าแบงค์ชาติพูดอะไรออกมา มันก็เหมือนวาจาสิทธิ์ ตลาดก็ต้องเอาไปตีความ
สำราญ - แต่เท่าที่จำได้ มีทั้งคุยอย่างไปเป็นทางการ แล้วก็พูดอยู่นิดหน่อย ที่เป็นอะไรเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว มันก็เลยก้ำกึ่ง กำกวม สีเทาๆ แค่สีเทามันก็ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง เพราะคนพูดหรือคนที่ให้ข่าวเป็นประมุขของแบงค์
สโรชา - คือดิฉันว่าสีเทานี่น่ากลัว ถ้าสีขาวไปเลยก็เป็นข่าวดี ถ้าดำไปเลยก็เป็นข่าวร้ายแน่ๆ แต่ว่าเทาเนี่ย ดิฉันว่าความไม่แน่นอนที่น่ากลัวที่สุด ถ้าดำไปเลยเขาก็รู้แล้วว่าความเลวร้ายที่สุดมันคืออะไร แต่ถ้าเป็นเทามันก็เหมือนกะเกณฑ์ไม่ถูกว่ามันจะยังไงดี
สำราญ - คือคุณสนธิท่านก็มีพยานหลักฐาน มีประจักษ์พยานที่จะให้ข้อมูลได้ชัดเจน
สโรชา - มันเป็นประเด็นใหญ่ก็ตรง BBC นี่แหละ
สำราญ - คือผู้ว่าแบงค์ชาติท่านก็ปฏิเสธทุกๆข่าวลือ ว่างั้นเถอะ 10%ที่จะถอนจากรุงไทยกองทุนก็ไม่ถอน แล้วสุดท้ายก็คือ ไม่ลาออก แต่ก็ยอมรับว่าท่านก็ถือหุ้นอยู่ในบริษัทต่างๆ คือ 10 กว่าบริษัทที่ท่านเป็นกรรมการ เป็นบอร์ดอยู่นะ ท่านก็บอกว่าถอยมาหมดแล้ว แต่ถึงตอนนี้ก็ยังมีอยู่
สโรชา - ที่คุยกับคุณสนธิในรายการก็มีอยู่ว่า คำถามอาจจะเกิดขึ้นได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าทำจริงๆ แต่ว่ามนุษย์เราบางครั้งมันก็อดจะคิดไม่ได้
สำราญ - ทีนี้บทบาทของดร.สมคิด อีกซีกหนึ่งนะ ท่านก็แถลงก็คือข่าวปลดหม่อมอุ๋ยมาแรงมาก ท่านก็เลยดับไฟว่าไม่มีการปลด แล้วตอนนี้ทุกข่าวอันไหนที่ไม่ออกมาจากปากท่าน อย่าไปเชื่อ ให้ฟังจากท่าน คือข่าวลือต้องยอมรับว่ามีบาบาทและส่งผลกระทบกับตลาดหุ้นอย่างใหญ่หลวง แต่ตอนนี้คิดดูว่าตลาดหุ้นจาก 700 เกือบ 800 ลดฮวบมาอยู่ที่ 588 จุด
สโรชา - มันสาหัส
สำราญ - เขาว่าคนติดหุ้นนี่เยอะ ขนาดคุณโอ๊ค พานทองแท้ยังสารภาพบอกว่า คุณโอ๊คนี่ไปติดหุ้น เจ๊งเพราะหุ้นนี่เยอะ เพราะบอกว่าเล่นหุ้นโดยไม่ได้ดูพื้นฐาน ไปตามกระแส ก็ว่ากันไป อันตราย คือดร.สมคิดต้องหยุด สยบข่าวลือต่างๆว่าไม่จริง ต่อไปให้ฟังจากท่านก็แล้วกัน คือต้องเอาผิด ต้องไล่เบี้ยกัน โบรกเกอร์ไหนเป็นคนปล่อยข่าว ซึ่งโบรกเกอร์นี่มันก็ไม่ธรรมดานะ นี่ก็สิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น
คำนูณ– คือมีการพูดไปถึงนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ด้วย ที่ออกรายการต่างๆเนี่ย ก็เป็นปัญหาโลกแตกนะ อันที่จริงการวิเคราะห์หลักทรัพย์ก็เหมือนกับการวิพากษ์วิจารณ์การเมือง มันก็เป้นความคิดเห็นส่วนตัว จะพิสูขน์ได้อย่างไร ว่าความคิดเห็นนั้นตั้งอยู่บนฐานของความบริสุทธิ์ใจ หรือไม่ เราเองเราวิพากษ์วิจารณ์ไปก็ถือว่าเราบริสุทธิ์ใจ แต่บางคนเขาก็อาจจะบอกว่านี่ไม่บริสุทธิ์ ทำให้สถานการณ์ปั่นป่วนวุ่นวาย
สำราญ - คือวิพากษ์นี่ก็พอนั่นได้ แต่ที่มันปล่อยข่าวอยู่ในตลาด ปล่อยโดยไม่วิพากษ์นะ นี่แหละ คนที่ไม่สันทัดจัดเจนนะ เรียบร้อย
สโรชา - เดี๋ยวนี้นักลงทุนเขาเจอหน้า เขาถามว่าติดอยู่เท่าไหร่ คือไม่พูดถึงการซื้อการขาย พูดถึงแค่ว่าติดอยู่เท่าไหร่ และจะตัดตรงเสียๆไว้ตรงไหนดี เมื่อไหร่ถึงจะดี
คำนูณ– จริงๆแล้วก็ไม่ใช่แค่ครั้งนี้ เราทำข่าวมา ทุกยุคทุกสมัย ตลาดหุ้นนี่เป็นที่ๆเหมาะกับการปล่อยข่าวมากที่สุด ไม่เฉพาะข่าวทางเศรษฐกิจ ข่าวทางการเมืองก็เหมาะกับการปล่อย เพราะว่าคนมักจะขาดสติ และความรู้เกี่ยวกับเรื่องต่างๆนี่ไม่มี ลือกันได้พิสดารนักหนา แล้วจริงๆมันมีผล
สโรชา - แล้วยิ่งบางคนที่ถึงแม้จะไม่ได้ยินข่าวลือ แต่เห็นมันร่วงกรู ก็ต้องเข้าไปขายกับเขาบ้างล่ะ
สำราญ - ก็ดูวันศุกร์ หม่อมอุ๋ยปฏิเสธออกมา ดร.สมคิดอย่างนี้ โบรกเกอร์ก็ประชุมกับกลต.อย่างนี้ มันควรจะหยุดได้นะ แต่วันศุกร์ก็ยังร่วงไป 6-7 จุด
สโรชา - ค่าน้ำมันขึ้นนี่มันมีผลไหมคะ เราจะไปดูปัจจัยอื่นๆบ้างไหม ว่าจริงๆแล้วที่มันตก เพราะว่าข่าวลือแน่นอนล่ะ มันอาจจะเป็นปัจจัยหลัก
คำนูณ– ประมาณ 3 แสนล้านที่หายไปตลอด 15 วันทำการ จริงๆแล้วก็ประมาณ 20 กว่าวัน ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 27-28 กรกฎาคมที่มีข่าวเรื่องนี้ออกมา เฉพาะในกลุ่มธนาคารหุ้นตกไปกว่า 1 แสนล้านบาท เฉพาะแบงค์กรุงไทยเองก็หลายหมื่นล้านบาท
สโรชา - แล้วราคาน้ำมันนี้มันเกี่ยวบ้างไหม ส่งผลให้เลวร้ายลงกว่าอีก
สำราญ - คือเรามองแบบนักสังเกตการณ์ทั่วไปนี่ ผมว่าปัจจัยแรกคือความเชื่อมั่นรวมๆต่อรัฐบาล ผมว่ามันไม่เพิ่มขึ้นนะ แถมมันยังลงอีกนิดหน่อย ความไม่เชื่อมั่นต่อรัฐบาล มันสะท้อนได้เหมือนกันนะ ประการที่สองคือปัจจัยเรื่องของราคาน้ำมันเหล่านี้ ภาวะเศรษฐกิจโลก ภาวะเศรษฐกิจบ้านเราที่ส่งผลกระทบกันมาเป็นลูกโซ่
คำนูณ– เต็มถังตอนนี้ก็ทะลุหลัก 1000 บาทไปแล้ว
สโรชา - คือขนาดว่ายังไม่ขึ้นเต็มที่ ครึ่งถังนี่ 650 บาท
สำราญ - พอตลาดหุ้นนี่ทรุดนี่ คนไปจมในหุ้นนี่เยอะ เงินจมในตลาดคือเงินไม่เอามาผลิตถูกไหม ไม่หมุนเวียน ก็น่าห่วง ผมคิดว่าน่าห่วง
สโรชา - แต่พูดถึงราคาน้ำมัน เราก็ต้องคุยถึงมาตรการประหยัดบ้างล่ะ
คำนูณ– ก็ฟังดูเห็นว่าจะมีทั้งระยะเฉพาะหน้า เป็นบัญญัติ 10 ประการ ระยะกลาง ระยะยาว และก็ดูเหมือนว่าจะเข้มขึ้น แต่ว่าก็คงจะสร้างความโอดครวญให้กับชนชั้นกลางในเมืองหลวงมากขึ้น เพราะเท่าที่ฟังๆดู มาตรการแต่ละมาตรการก็เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ คือผมคิอว่า ชีวิตนี้เราคงไม่อยากขับรถออกจากบ้านหรอก ถ้ามันมีทางเลือกอย่างอื่น เป็นต้นว่าสามารถจะเดินออกมาจากบ้าน มาขึ้นรถใต้ดินหือรถลอยฟ้า เราก็ไม่รังเกียจหรอก แต่ปัญหาทุกวันนี้คือระบบชนส่งมวลชนบ้านเรามันไม่ใช่น่ะ คือรถไฟฟ้า รถใต้ดินที่มีอยู่ มันก็วนแต่ในเมือง ก็ได้คนแค่กลุ่มหนึ่งเท่านั้นเอง
สโรชา - จะขออนุญาตเปรียบกับสิงคโปร์นิดนึง ว่าจริงๆแล้วถึงแม้ว่าจะเป็นเมืองเล็ก แต่ว่าเขาทำระบบขนส่งมวลชนได้ในระดับขอชมเชยว่าดีมาก สามารถที่จะใช้บัตรใบเดียวกันขึ้นทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า คือขึ้นได้ทั้งหมดเลย
คำนูณ– คือตอนนี้ตามเมืองใหญ่ๆ ระบบขนส่งมวลชนนี่ ตั๋วใบเดียว ขึ้นได้ทุกอย่าง แล้วก็มีให้เลือกหลากหลายราคา จะตั๋ววัน ตั๋วเดือน ตั๋วปี นักศึกษามีหมด เพราะฉะนั้นคนของเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้รถ มาตรภาษีเกี่ยวกับรถ หรือการขัยรถเข้ามาในเมืองเนี่ย ค่าใช้จ่ายสูง แต่ในบ้านเรานี่ถ้าจู่ๆ ค่าที่จอดรถก็แพงขึ้น ถนนหลายสายห้ามจอด ห้ามขับรถคนเดียว ระบบนี้ถือว่าดี แต่ว่าถ้าเป็นผู้หญิงก็ต้องคิดให้หนักหน่อยว่าจะขับกับใคร ขนาดผมยังคิดหนัก
สำราญ - จริงๆเวิร์คชอปวันที่ 18 นี้นะ มีทั้งสั้น กลาง ยาว สั้นๆก็อย่างที่คุณคำนูณว่ามา คือทั้งหลายทั้งปวงจะรวมศูนย์อยู่ที่ว่า ทำอย่างไรเราจะประหยัดพลังงาน คำถามใหญ่ๆก็มีอยู่อย่างน้อยก็ 2 อย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำถามเรื่องราคาน้ำมัน เรื่องของการลอยตัวดีเซล จะลอยตัวไปแค่ไหน อย่างไร คือที่เรารับฟังมาก็คือ อย่างน้อยก็สิ้นปีถึงจะปรับราคา แค่ไม่กี่เดือน นักวิชาการผู้รู้ก็ยังเถียงกันว่า ไม่ไหวต้องปรับดีเซลได้แล้ว เพราะมันอุ้มไม่ไหวแล้ว
คำนูณ– คือไปอุ้มนี่มันก็ดี คือทำให้สินค้าราคาไม่ขึ้น แต่ว่ามันก็จะไปบิดเบือนโครงสร้างการใช้น้ำมัน แล้วอีกหน่อยนี่คนก็จะหันมาใช้ดีเซลมากขึ้น ใช้รถผิดประเภทมากขึ้น
สำราญ - คือเอาความรู้สึกของคนทั่วไป เขาบอกว่ารัฐบาลยังแก้ไม่ตรงประเด็นนะ แต่ว่าคือฟังรัฐบาลวันที่ 18 ซักหน่อย
สโรชา - รอดูเขาต่อไป เดี๋ยวเราจะพักกันซักครู่นึงค่ะ ไปฟังข่าวต้นชั่วโมงแล้วกลับมา ยังมีประเด็นของการเมืองรออยู่ ซักครู่เดียวค่ะ
สโรชา - มาคุยกันถึงเรื่องการเมืองซักนิด
คำนูณ– เป็นสัปดาห์ที่มีอะไรหลายๆอย่างก่อตัวขึ้นที่น่าสนใจ คือถ้าจะดูภาพรวม เสียงหรือกระแสสังคมค่อนข้างจะไม่ค่อยสบายใจกับรัฐบาลของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร มาหลายสายเหลือเกิน บทความของนพ.ประเวศ วะสี อันนี้ก็ชัดเจน ค่อนข้างแรงพอสมควร และที่สำคัญคือการแสดงออกอย่างชัดเจนของท่าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ซึ่งเป็นผู้ที่ชักนำท่านทักษิณ ชินวัตรเข้ามาสู่วงการเมือง เป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม เมื่อ 10 ปีก่อน อันนี้ก็ชัดเจนว่า แสดงความไม่เห็นด้วย โดยการแสดงออกหลายอย่าง อย่างท่านโทรศัพท์ไปคือพูดง่ายๆว่าท่านจงใจให้สัมภาษณ์รายการวิทยุดังๆหลายรายการ และหลายครั้งกับหลายคน ในเชิงที่คนกรุงเทพเขาไม่เอาพรรคไทยรักไทยแล้วล่ะ พรรคไทยรักไทยก็รู้ก็เลยไม่ส่งผู้ว่าลง ก็บอกว่า หลายๆอย่างที่รัฐบาลทำผิดพลาดไป แล้วเท่าที่ทราบไม่เพียงแต่ท่าน พล.ต.จำลองให้สัมภาษณ์เท่านั้นนะครับ ในหนังสือ “เราคิดอะไร” คุณสำราญคงจะจำได้ เป็นหนังสือของชาวอโศก ซึ่งก็เป็นกลุ่มก้อนที่หนาแน่นตามสมควร เขาก็ทั้งบทนำอะไรต่ออะไรมาเป็นชุดเลย ทิศทางชัดเจน โดยเฉพาะหน้าปกที่ขึ้นต้นประมาณว่า คนดีที่ขยันแต่ยากจนดีกว่าคนดีที่ขยันแต่ร่ำรวยประมาณนี้ แล้วก็ข้างในนี่เป็นชุดเลย
สำราญ - การเมืองอย่างที่คุณคำนูณสรุปภาพมาก็คือ ย้ายพรรคก็ยังมีเกิดขึ้นตามปกติ สส.ลาออกก็ 40 กว่าคนแล้วทั้งสภา ประชาธิปัตย์ก็มีตัวเลขแล้ว 22 คน คือลาออกจากสส.คือหมายความว่า จะไปที่อื่นนะ ไปชาติไทย ไปไทยรักไทย ไปที่โน่นที่นี่ก็แล้วแต่
คำนูณ– พูดถึงขบวนการต่างๆที่ก่อตัวขึ้นมาในเชิงที่ไม่ค่อยจะเอาด้วยกับรัฐบาล มันก็เริ่มต้นมาตั้งแต่ที่คุณสำราญไปงานของอ.เจิมศักดิ์ ชมรมคนรู้ทันนี่ก็ไม่ธรรมดาที่เกิดขึ้นมา แล้วผมคิดว่าทิศทางของทั้งหมดมันจะหนักหนาขึ้นตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป คือช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ผมได้ยินมาว่า ท้ายสุดมันอาจจะก่อตัวขึ้นมาว่า ถ้าเผื่อว่าจะแสดงการไม่เห็นด้วยกับพรรคไทยรักไทย กับท่านนายกทักษิณ ให้เลือกคุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน มันจะทำให้คุณอภิรักษ์ได้คะแนนจากคนที่เขาอาจจะไม่ได้ชอบเป็นการส่วนตัว แต่ว่าเป็นคนเดียวที่ชัดเจนว่า ไม่ใช่ไทยรักไทย อันนี้ก็น่าสนใจ ถ้าสมมุติว่าคุณอภิรักษ์ชนะนี่ ก็ต้องถือว่าไทยรักไทยเสียหน้า แล้วก็จะต้องมีผล มันเหมือนกับว่าชัยชนะมันจะเป็นการไปโด๊ปพลัง ที่เขาไม่ค่อยเห็นด้วยกับรัฐบาลให้คึกคักขึ้น
สำราญ - ถ้าคุณอภิรักษ์ชนะการเลือกตั้ง โมเมนตัมก็จะเปลี่ยนไปนะ ไทยรักไทยก็จะโดนซ้ำสองเรื่องสส.ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีทั้งหมด 37 ที่นั่งนี่ เดี๋ยวนี้ไทยรักไทยเขามีอยู่ 28 คน ประชาธิปัตย์มีอยู่ 9 แต่เขาบอกว่ามันจะพลิกเลยนะ เขาว่าเขาคือประชาธิปัตย์นะ คือเขาคำนวณเข้าข้างตัวเอง บอกจะซิวมาถึง 29 ถ้าได้มาถึง 29 นะ จะทำให้ที่นั่งเขานี่ ได้ 157 ที่นั่ง
คำนูณ– ผลมันก็คงจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงการเมืองระดับประเทศอะไรมากมายนัก ไทยรักไทยก็คงเป็นรัฐบาลต่ออีกสมัยหนึ่งแน่นอน ผมว่าอย่างนั้นนะ แต่ว่ามันจะทำให้สถานภาพของไทยรักไทย เริ่มไปเหมือนกับรัฐบาลเสียงข้างมากในอดีตพรรคอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นพรรคสามัคคีธรรม พรรคความหวังใหม่ ย้อนไปถึงพรรคชาติไทย ก็คือได้คะแนนเสียงในต่างจังหวัด แต่ไม่ได้คะแนนเสียงในกรุงเทพ ซึ่งมันก็มีผลต่อการดำเนินนโยบายในอนาคตมากพอสมควร
สโรชา - พูดง่ายๆคือเสียงไม่หนักแน่นเหมือนแต่ก่อน ถ้าหากเป็นอย่างนั้นจริงๆ
คำนูณ– ทั้งๆที่ไทยรักไทยสืบเชื้อสายมาจากพรรคพลังธรรม ซึ่งมีคะแนนเสียงในกรุงเทพที่เรียกว่าสูสี พอฟัดพอเหวี่ยงกับพรรคประชาธิปัตย์
สำราญ - คือชนะตัวเลข สส. แต่ไม่ชนะใจประชาชนว่างั้นเถอะ มันก็อยู่ลำบากเหมือนกัน หมายถึงทิศทางทางการเมือง ไม่ว่าสมัยไหน คือเสียงท่วมท้นจริงแต่ว่าถ้าการแก้ปัญหามันสวนทางต่อความรู้สึกนึกคิด สวนทางกับสามัญสำนึกทั่วไป ก็อย่างว่ามันก็ลำบาก
สโรชา - อย่างนี้เท่าที่ฟังทั้ง 2 ท่านพูด นี่ก็คือว่า จากกระแสที่ออกมาพรรคนี้ จริงๆแล้วเจตนาเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าอย่างเห็นได้ชัดเลยหรือเปล่า
สำราญ - มันมีส่วนจากกระแสเกมการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. และกระแสใหญ่มันก็มีมาบรรจบกันพอดี ด้วย ผมว่ามันมีการก่อตัวของหลายกลุ่มหลายก้อน
คำนูณ– คือท่านจำลอง ศรีเมืองนี่ท่านชัดเจน ว่าสนับสนุนคุณมานะ อันนี้น่าจะเกี่ยวกับกทม.ซักเกินครึ่ง แต่ว่าอย่างกระแสการก่อตัวของพลังอื่นๆ มันคงเป็นธรรมชาติของมันอยู่แล้ว แต่ว่าผลการเลือกตั้งกทม.มันจะมีส่วนช่วยโด๊ป สมมุติว่าคุณปวีณาเธอชนะ ที่จะโด๊ปก็คงฝ่อไป
สโรชา - เหมือนกับหยุดยั้ง เหมือนมีอะไรมากั้นกระแสไว้
คำนูณ– ที่น่าสนใจนะ เมื่อวันเสาร์นี่ คุณหน่อย สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ก็ชัดเจนเป็นครั้งแรกนะ ก็เรียกประชุมยืนยันที่จะสนับสนุนคุณปวีณา
สโรชา - ถ้าพูดจริงๆแล้วตอนแรก ไม่อยากจะต้องทำแบบนี้
สำราญ - คือตอนแรกคงคล้ายๆที่คุณธวัชชัย สัจจกุลวิเคราะห์ไว้ คล้ายๆไทยรักไทยเขาดูตัวนะ ถ้าบิ๊กหอยมาแรง เขาก็จะเทให้บิ๊กหอย ถ้าคุณปวีณามาแรง เขาจะเทให้คุณปวีณา แม้แต่คุณเฉลิม สมมุตินะมาแรงนี่ ก็เทให้คุณเฉลิม แต่ตอนนี้ดูแล้วคือ เขาดูโพลกันลึกๆ ก็คือก็คงจะให้ไปคุณปวีณา
สโรชา - แล้วอย่างนี้ที่บอกว่า ไม่เกี่ยวไม่ข้อง อิสระจริงๆ
คำนูณ– ก็ต้องพูดไปตามบทน่ะ เธอก็ต้องพูดไปตามบท ไทยรักไทยก็ต้องพูดไปตามบท
สโรชา - สถานการณ์เปลี่ยน ก็ต้องเปลี่ยนไปตามสถานการณ์
สำราญ - จริงๆมันก็แต่แรกแล้วล่ะ มันก็มีที่มาอยู่แล้วเพียงแต่ว่าอันไหนที่มันยังมีทางเลือกอยู่บ้าง ก็เผื่อๆไว้หน่อย แต่พอถึงโค้งสุดท้าย อีกสองสัปดาห์เท่านั้นเอง
คำนูณ– ตอนนี้คุณชูวิทย์ก็มาแรง โดยเฉพาะในหมู่ที่เขาเรียกตัวเองว่าคนรุ่นใหม่ คนอายุ 18 ขึ้นไปจนถึง 22-23 อาจจะไม่เกิน 25 อันนี้มาแรงโดยไม่มีเหตุผล แล้วก็อีกประเภทหนึ่งก็คือความสะใจ
สโรชา - พวกหลุดโลก พวกแบบว่าเอาเสียหน่อย ลองดูหน่อย ไหนๆก็ไหนๆ
สำราญ - ก็เป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึก
คำนูณ– ก็มีโอกาสนะ
สำราญ - เขาติดอันดับ 3 อยู่ตามโพล พูดกันตรงๆนะ อันดับ 1 อันอับ 2 ก็แล้วแต่โพลไหนนะ ก็คือคุณปวีณา กับคุณอภิรักษ์
สโรชา - แต่พูดถึงแกก็เอาจริงเอาจังนะ สำหรับตอนนี้ ขอพูดเรื่องยุบพรรคชาติพัฒนาซักนิด เหลือเวลาไม่กี่นาที
สำราญ - ก็คงจะไม่มีอะไร แทบจะไม่ต้องสนใจแล้ว มันเหลือแต่พิธีกรรมอย่างเดียวตอนนี้ คือมาเกลี้ยงพรรคเลย หมดสิ้นสกุลชาติพัฒนาแล้ว แม้แต่ท่านวินัย สมพงศ์ ท่านก็บอกว่าท่านไม่ใช่เลือดเนื้อชาติพัฒนา
สโรชา - ที่ไม่ไปเพราะกลัวจะไม่มีที่ยืนอยู่ในพรรคหรือเปล่า จริงๆท่านรู้สึกอย่างนั้นจริงๆหรือเปล่า ดิฉันฟังรายงานข่าวแล้วติดๆนิดหน่อย เหมือนกับที่ท่านบอกว่า สาเหตุที่ท่านคัดค้านตอนแรกเนี่ย ก็เพราะว่ากลัวว่าไปแล้ว
คำนูณ– จะได้อันดับปาร์ตี้ลิสต์ไม่ดี อันนี้ฟังจากข่าวเราก็ไม่ได้คุยกับท่านโดยตรง โดยบุคลิกแล้วนี่ จริงๆเราเชื่อนะ เราอาจจะผิดมาโดยตลอด คือท่านไม่น่าจะคิดอย่างนี้ คือการไปไม่ไปสำหรับพันเอกวินับ สมพงศ์มันน่าจะมีหลัก เห็นบอกว่าทีแรกที่ไม่อยากไปไทยรักไทย เพราะเกรงว่า กลัวว่าไปแล้วเขาจะจัดให้อยู่ลำดับปาร์ตี้สิสต์ไม่ดี แต่ผมลองตั้งคำถามดูว่า ถ้าท่านชาติชายยังอยู่ สถานการณ์อย่างนี้ท่านจะยุบพรรคไหม คุณสำราญบอกว่าคงไม่ยุบ แต่พอถามคุณกร ทัพพะรังสี บอกว่าเป็นน้าชาติ ยุบไปนานแล้ว ไม่รอจนถึงวันนี้หรอก
สำราญ - คุณกรนี่ยุคุณสุวัจน์ให้ยุบมาตลอด อันนี้ของจริงเลย
สโรชา - เอาล่ะค่ะ เดี๋ยวเราจะไปพักกันซักครู่นึงนะคะ กลับมาเดี๋ยวมาติดตาม ข่าวคราวโอลิมปิก มาคุยกันซักหน่อยดีไหม เราได้เหรียญกันแล้วนะคะ เดี๋ยวคุยเรื่องโอลิมปิกแล้วก็ข่าวต่างประเทศ ซักครู่นึงค่ะ
สโรชา - กลับมาช่วงสุดท้ายของก่อนจะถึงวันจันทร์ ก่อนที่จะไปคุยเรื่องข่าวต่างประเทศ เดี๋ยวเราไปคุยเรื่องกีฬาซักนิดนึง ดิฉันเข้าใจว่าตอนนี้นักกีฬาของเรากำลังแข่ง
คำนูณ– กำลังลุ้นเหรียญที่ 2 ครับ คือเมื่อวานนี้ได้มาแล้ว 1 เหรียญทองแดงจากกีฬายกน้ำหนัก
สำราญ - จากน้องอารีย์ วิรัฐถาวร ก็ดีนะ คืออย่างน้อยมีชื่อประเทศไทยปรากฏตั้งแต่วันแรกเลย แล้วจะปรากฏไปอีกนานเลยนะ แล้ววันนี้อีกไม่กี่นาทีคงจะได้อีกซักเหรียญ จากอุดมพร พลศักดิ์
สโรชา - ตอนนี้เรากำลังลุ้นกันอย่างใจจดใจจ่อ ว่าจะได้เหรียญอะไร
สำราญ - น้องอารีย์นี่เมืองกาญนะ กาญจนบุรี ป่านนี้ก็คงจะเตรียมการจัดงานกันแล้วล่ะ
คำนูณ– ก็โดดเด่นนะครับ สมาคมยกน้ำหนักแห่งประเทศไทย ของพล.ท.อินทรัตน์ ยอดบางเตย
สโรชา - ในระหว่างที่ลุ้นกันอยู่ก็ไปติดตามประเด็นข่าวต่างประเทศ วันนี้ขอเริ่มที่ประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศสิงคโปร์เขาก็ได้นายกคนใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว คือ นายลี เซียน ลุง ท่านเป็นผู้นำคนที่ 3 ของสิงคโปร์ อายุ 52 ปีถือว่าเป็นคนเก่งคนหนึ่ง เป็นลูกของคุณลี กวน ยู ผู้ก่อตั้งประเทศเลยล่ะ หลังจากได้รับอิสรภาพมาจากมาเลเซียเมื่อไม่กี่ปี 34-35 ปีได้ คุณลี กวน ยูก็ขึ้นเป็นผู้นำประเทศ ครองตำแหน่งนี้ 10 กว่าปี ก็ได้พัฒนาประเทศพอสมควร จากที่ไม่มีอะไรเลย แต่สามารถที่จะทำให้ประเทศสิงคโปร์ กลายเป็นโบรกเกอร์ของเอเชียไปได้ แล้วก็มามอบอำนาจให้คุณโก๊ะ จก ตง ซึ่งก็อยู่มาได้ซักระยะหนึ่ง แต่ว่าจริงแล้วคุณโก๊ะ จก ตง ครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ ก็เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่ารอคุณคนนี้ฝึกงานอยู่ เรียกว่าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาหลายตำแหน่งมาแล้ว เพื่อที่จะก้าวขึ้นเป็นนายกคนที่ 3 คุณโก๊ะ จก ตง ก็ก้าวไปเป็นรัฐมนตรีอาวุโสเหมือนกับคุณลี กวน ยู ทีนี้ก็มีคำถามขึ้นมาเยอะว่าคุณลี เซียน ลุงจะทำยังไง คือคนปรามาสไว้เยอะว่า ทุกวันนี้ได้มาเป็นเพราะพ่อบารมีเยอะ เพราะฉะนั้นดูเหมือนว่าตอนนี้งานหนักพอสมควร เพื่อที่จะพิสูจน์ตัวเอง แต่ว่าคนสิงคโปร์ชอบนะ และได้การยอมรับเรียกว่าดี เพราะว่าชาวสิงคโปร์เขารักลี กวน ยูมาก พอมาถึงว่าเป็นลูกก็ได้คะแนนไปกว่าครึ่งแล้ว ตอนนี้ก็อยู่ที่ว่าจะพิสูจน์ผลงานตัวเองได้มากน้อยขนาดไหน แต่ที่แน่ๆนโยบายของเขาต้องเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมพอสมควร เขาบอกว่าสองยุคก่อนเป็นยุคที่ก่อสร้างประเทศ จากประเทศที่ค่อนข้างเคร่งครัด ระเบียบจัด กฎหมายแรง เขาอาจจะผ่อนปรนมากขึ้น จากที่บอกว่าเคี้ยวหมากฝรั่งไม่ได้ ก็อาจจะต้องปรับเปลี่ยนไป จะต้องลดความรุนแรงของกฎหมาย เพื่อให้ต่างชาติเห็นว่า จริงๆแล้วโครงสร้างมันมีอยู่แล้วล่ะ ตอนนี้เราต้องพัฒนาต่อไป แต่ว่าปัญหาหนักอีกปัญหาหนึ่งก็คือ ประชากรของชาวสิงคโปร์ ตอนนี้มีอยู่แค่เกือบ 4 ล้าน ตอนนี้เขาเองประสบปัญหาเดียวกับญี่ปุ่น ซึ่งก็คือว่าประชากรน้อยไป แล้วผู้สูงอายุจะมากขึ้นเรื่อยๆ เขาบอกภายในปี 2030 เนี่ย สิงคโปร์จะมีผู้สูงอายุอยู่ 8 แสนคนจากประชากรทั้งหมดเพียง 4 ล้านกว่าคนเท่านั้นเอง พูดง่ายๆว่าชาวสิงคโปร์ไม่แต่งงาน ถึงแต่งงานบางท่านก็ไม่มีลูก เพราะฉะนั้นต้องแก้ปัญหานี้เร่งด่วน ดิฉันคุยกับสาวสิงคโปร์หลายคนบอกว่าไม่อยากแต่งงาน เพราะว่าสามารถทำงานไปได้เรื่อยๆ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งผู้ชายมาเลี้ยง เขาก็หาเลี้ยงตัวเองได้ ลูกก็ไม่ได้อยากมีเป็นพิเศษ ก็จะมีทำไม
สำราญ - นโยบายจะเปลี่ยนเยอะไหม อย่างเศรษฐกิจ ความเป็นศูนย์กลาง
สโรชา - คงยังไม่เปลี่ยนแบบกะทันหัน ช่วงนี้คงเป็นการเปลี่ยนการใช้ชีวิตของชาวสิงคโปร์มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระตุ้นเรื่องการแต่งงาน การมีลูก เขาโปรโมทการมีเพศสัมพันธ์ในรถนะคะ ถึงขั้นนั้นเลย
สำราญ - คือยังไงก็ได้ให้มีลูกกันหน่อย
สโรชา - คือผู้หญิงนี่มีลูกแล้ว สามารถที่จะได้เงินสนับสนุนมากขึ้น ลดหย่อนภาษีได้มากขึ้น แถมยังหยุดงานได้ยาวขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นก็ถือว่าเป็นแรงจูงใจ ตอนนี้ยกน้ำหนักก็ได้ไปแล้วนะคะ 1 เหรียญทอง
คำนูณ– ทำลายสถิติโลกด้วย
สโรชา - ขอแสดงความยินดีด้วย
สำราญ - ผมว่าตอนนี้ปิดเมืองโคราชฉลองกัน
คำนูณ– แต่ว่าโอลิมปิกเที่ยวนี้ ประเทศไทยเท่าทุนแล้ว ที่เหลือไปเป็นกำไร แล้วก็ยังมีกีฬาอีกหลายประเภท มวยสากลสมัครเล่นก็ยังอยู่ แต่ว่าปีนี้อาจจะไม่ร้อนแรงเท่าครั้งก่อนๆ
สโรชา - กลับไปเรื่องต่างประเทศอีกซักนิดนึง ที่ประทศอังกฤษ มีนักโทษคนนึงติดคุกตลอดชีวิตคดีข่มขืนนะ แต่ถูกลอตเตอรี่ 531 ล้านบาท
คำนูณ– มันควรจะดีใจหรือเสียใจ
สโรชา - คือโดนคดีข่มขืนเนี่ย คือหลุดออกมาระยะหนึ่ง แล้วก็ติดใหม่ด้วยคดีเดิม คราวนี้ติดตลอดชีวิตเลยตั้งปี 2532 แต่ว่าตามกฎหมายของอังกฤษ เขาสามารถที่จะออกมาอยู่ข้างนอกภายใต้ความควบคุมของเจ้าหน้าที่ได้ในระยะหนึ่ง ถ้าประพฤติดี แล้วระยะนี้เนี่ยก็เกิดไปซื้อลอตเตอรี่แล้วเกิดถูกขึ้นมา ทำไงล่ะทีนี้ จะได้ใช้ไหม
สำราญ - มันก็ซื้ออิสรภาพไม่ได้เสียด้วย
คำนูณ– แต่คนที่จะวุ่นวายข้างนอกก็คือญาติพี่น้อง ใครจะมีสิทธิที่จะได้ดูแลเงินนี้แทน หรือแม้กระทั่งว่าใครจะมีสิทธิได้รับมรดก ถ้าเผื่อหาชีวิตไม่แล้ว
สโรชา - แต่ที่แน่ๆเริ่มวุ่นวายแล้ว พอเริ่มรู้ข่าวปุ๊บก็ต้องย้ายเรือนจำทันทีเลย เพราะว่าเขากลัวอันตราย คือพูดง่ายๆว่าขู่ เพื่อที่จะทำร้ายแล้วก็ไปเอาเงินมา
สำราญ - แล้วถ้าเผาลอตเตอรี่ทิ้งเสียล่ะ
สโรชา - ญาติพี่น้องคงตัดหางปล่อยวัดเลย ไม่ดูแลเลย
สำราญ - สรุปแล้วคือทุกขลาภ
สโรชา - แล้วก็มีอีกข่าวนึงที่ต้องพูดให้ได้ หลังจากที่สหรัฐ แคนาดาเขาประสบความสำเร็จกันไปแล้ว ตอนที่ผู้ประกาศสาวที่ประเทศอังกฤษก็เอาบ้าง เขาก็จะอ่านข่าวไป ถอดไปชิ้นสองชิ้น
สำราญ - นี่ช่องไหนนี่
สโรชา - เป็นช่องดาวเทียมแพร่ภาพในอังกฤษ ออกอากาศหลัง 4 ทุ่มครึ่งไปแล้ว เด็กๆห้ามดู แต่ว่าใครที่อยากจะเจริญหูเจริญตาไปพลางๆ ก็สามารถติดตามชมกันได้ แต่ว่าเขามีข้อแม้ ไม่ใช่ว่าไม่มีจรรยาบรรณ ถ้าเกิดว่าเป็นข่าวที่มีคนตาย เขาจะไม่ถอด เพราะถือว่าให้เกียรติกับผู้เสียชีวิตในช่าวนั้นๆ แต่ถ้าเกิดว่าเป็นข่าวอื่น เขาก็จะถอดไปทีละชิ้นสองชิ้นก็ถอดไปเรื่อยๆ
สำราญ - คิดว่าอีก 5 ปี 10 ปีจะมีที่เมืองไทยไหม
สโรชา - ถ้าเป็น Play TV ดิฉันว่าเป็นไปได้ แต่คงโดนโจมตีมากๆเลย
คำนูณ– เมืองไทยคงจะไม่ได้มั้ง แต่ใครจะไปรู้ ผมว่าน้องแนทนี่มีโอกาส หรือส่งเธอไปอยู่อังกฤษก็ไม่เลว
สโรชา - เอาล่ะ เหลือนาทีเดียว มีอะไรติดตามสัปดาห์หน้า
คำนูณ– ก็ความเขม็งเกลียวทางการเมืองก็คงจะลดลง เพราะพรุ่งนี้ข่าวเหรียญทองจากน้องอรก็คงจะพาดพัวทุกฉบับ และก็เป็นความยินดีของทุกส่วน
สำราญ - แต่ยังไงวันที่ 18 ก็ต้องติดตาม workshop ของน้ำมันนะ
สโรชา - มาตรการจะมีผลกระทบอย่างไรบ้างกับชีวิตประจำวันของเรา ต้องติดตามค่ะ เพราะฉะนั้นเดี๋ยวมาคุยกันต่อในสัปดาห์หน้า สัปดาห์นี้หมดเวลาเพียงเท่านี้ค่ะ เราทั้ง 3 คนลาไปก่อน สวัสดีค่ะ