xs
xsm
sm
md
lg

2ส.1ค.เปิดประเด็นประชุมเอดส์โลก วิจารณ์นโยบายพรรคมหาชน -เปิดตัวผู้ว่ากทม.คนล่าสุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คำนูณ สำราญ และสโรชา ร่วมกันถก เปิดฉากประชุมเอดส์ไทยเป็นเจ้าบ้าน เปิดตัว “วุฒิพงศ์ เพรียบจริยวัฒน์ “ลงสมัครชิงผู้ว่ากทม. ปิดประเด็น “สนั่น ขจรประศาสน์” บอกลาประชาธิปัตย์ เปิดทางให้หล่อใหญ่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นแท่นหัวหน้าพรรค - และวิจารณ์นโยบายหลักของพรรคใหม่ล่าสุด “มหาชน”

สโรชา -สวัสดีค่ะ มาพบกับรายการก่อนจะถึงวันจันทร์ เมื่อสักครู่นี้ชมการถ่ายทอดสดพิธีเปิด การประชุมนานาชาติว่าด้วยเรื่องเอดส์ ครั้งที่ 15 ชมกันไปแล้วไม่ว่าจะเป็นนายกหรือว่าท่านเลขาธิการสหประชาชาติ คุณโคฟี อันนัน ก็กล่าวไปเรียบร้อยแล้ว กลับมาถึงตอนนี้มาถึงรายการของเรา เช่นเคยค่ะ เราจะสรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องสำคัญๆ จะมีอะไรบ้าง รวมทั้งมองไปถึงสัปดาห์หน้า จะมีเรื่องอะไรบ้างที่น่าจับตามอง เช่นเคยค่ะกับรายการก่อนจะถึงวันจันทร์ พบกับเราทั้ง 3 คนค่ะ คุณสำราญ รอดเพชรค่ะ

สำราญ – สวัสดีครับ

สโรชา – คุณคำนูณ สิทธิสมานค่ะ

คำนูณ – สวัสดีครับ

สโรชา – และดิฉันสโรชา พรอุดมศักดิ์นะคะ สัปดาห์นี้เราไม่มีน้องๆ มาร้องเพลง เป็นเพราะว่าเราถ่ายทอดสดเรื่องการประชุมเอดส์ด้วย ก็เลยไม่ทราบว่าเวลามันจะยังไง ก็เลยเผื่อไว้ก่อน

สำราญ – สรุปแล้วเหลื่อมมาแค่ 5 นาที ก็จบพอดีเลย

สโรชา – จบพอดี ตอนนี้เขามีพิธีเป็นการแสดงบนเวทีอยู่

คำนูณ – มีบางคนนะครับ ไม่ได้สนใจท่านนายก ไม่สนใจท่านโคฟี อันนัน สนใจคนท้ายๆที่ขึ้นมา

สโรชา – นางงามจักรวาลคนล่าสุดใช่ไหมคะ คุณเจนนิเฟอร์ ฮอปกินส์ จากออสเตรเลีย เพิ่งได้ตำแหน่งมาสดๆร้อนๆเลยนะ

สำราญ – แต่เขาไม่มีซับไตเติ้ล คุณฟังอยู่สรุปว่ายังไงบ้าง

สโรชา – ก็คือจริงๆแล้วการที่เธอขึ้นกล่าวเนี่ยนะคะ เป็นการนำเข้าสู่พิธีการจุดเทียน เพื่อไว้อาลัยผู้ที่เสียชีวิตไปด้วยโรคเอดส์ที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นเธอก็จะพูดถึงน้องคนนึงซึ่งติดเชื้อHIV แล้วก็ได้พูดคุยกับเธอ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ก็เล่าสู่กันฟังว่ามีคนอีกหลายๆ คนซึ่งอยู่ในโลกใบนี้ ซึ่งมีเชื้อนี้แต่ก็ยังสามารถที่จะมีความหวังในชีวิตอยู่ต่อไป แล้วก็ต่อสู้กับโรคนี้ต่อไป แล้วก็พิธีที่เราเห็นอย่างที่เราเห็นกันเมื่อสักครู่ เป็นการจุดเทียนเพื่อที่จะไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต

สำราญ – ทั้งโลกนี่คงจะเสียชีวิตกันไปไม่รู้กี่ล้านคนนะ

สโรชา – หลายอยู่นะ ไม่ทราบตัวเลขที่แน่ชัด แต่ว่าทราบว่าเยอะพอสมควร แต่บ้านเรานี่ถือว่าเป็นประเทศที่สามารถจะต่อสู้กับโรคนี้ได้ดีที่สุดประเทศหนึ่ง

สำราญ – ก่อนที่จะไปเนื้อหาเรื่องโรคเอดส์ คือดูการถ่ายทอดทางช่อง 11 เมื่อกี๊นะครับ เที่ยวนี้ต้องยอมรับว่าท่านนายกทักษิณเนี่ย คือผมเป็นคนที่ภาษาอังกฤษไม่เอาไหน พอจะรู้ว่าใครพูดเก่งไม่เก่ง เที่ยวนี้ดูท่านนายกพูดภาษาอังกฤษแข็งแรงมาก รู้สึกไหม

สโรชา – แข็งแรงมาก ดูคล่องมาก พูดอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม

สำราญ – เต็มเปี่ยมแล้วก็คือ ภาษาสำเนียงนี่

สโรชา – ไปได้สวยตั้งแต่ต้นจนจบเลยนะคะ ก็ดูดีได้หน้าสำหรับบ้านเรา

สำราญ – ท่านก็ดูเต็มร้อยนะ สำหรับตัวท่าน

คำนูณ – ถือว่าเป็นการประชุมที่ใหญ่มาก แล้วก็จะมีตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 16

สำราญ – จริงๆ ถ้าฟังท่านนายกพูดเมื่อวานนะ ก็คือมีการประชุมสามัญซ้อนๆกันอยู่ ประชุมนานาชาติ องค์กรนานาชาติ ประชุมของเอเชียแปซิฟิก ผู้นำนะ อย่างไม่เป็นทางการ แล้วก็มีการประชุมอะไรอีกซักอย่างหนึ่ง

คำนูณ – ที่จริงเมื่อเช้าก็เป็นการประชุมระดับรัฐมนตรี ก็มีพิธีที่กระทรวงการต่างประเทศ แต่ว่าตอนค่ำนี่ก็เป็นพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ

สำราญ – แต่ที่เขากรี๊ดกันมากที่สุด รวมทั้งคนแถวนี้ ไม่ใช่โคฟี อันนัน ไม่ใช่นายกทักษิณนะ เป็นดาราฮอลลิวูด ยิ่งแก่ยิ่งหล่อ

สโรชา – แน่นอน ออกหน้าออกตา นอกจากจะหล่อ นอกจากจะแสดงหนังเก่ง ยังทำตัวเป็นประโยชน์ให้กับชาวโลกด้วย ดิฉันนับถือ ปลื้มมาก ริชาร์ด เกียร์ นอกนั้นก็ยังมีคุณแอชลีย์ จัสต์มาด้วย นั่นก็เป็นนางเอกฮอลลิวูดชื่อดัง ที่ก็อุทิศตัวเองให้กับการต่อต้าน การต่อสู้โรคเอดส์ด้วย

คำนูณ – ตอนนี้พิธีการก็ยังอยู่ใช่ไหมครับ

สโรชา – ใช่ค่ะ ตอนนี้เป็นการแสดง

คำนูณ – ภาพที่เราเห็นนี่เป็นภาพสดจากช่อง 11 ขณะนี้

สำราญ – ก็คงเป็นภาพการแสดงนะ การแสดงที่ไม่ได้แสดงธรรมดา แสดงแล้วมีความหมาย มีนัย

สโรชา – คือต้องยอมรับว่าบ้านเรานี่จัดเรื่องแบบนี้นี่เก่ง

คำนูณ – สุดยอดครับ เรื่องการประชุม เรื่องพิธีกรรม การต้อนรับขับสู้อะไรนี่ เขาว่าไม่มีที่ไหนสู้ได้ เราจัดเทนนิสที่อยู่ในเอทีพีทัวร์ ไทแลนด์โอเพ่นเมื่อปีที่แล้วเป็นปีแรก ปรากฏว่ายังไงรู้ไหมครับ ก็คือ เขาลงมติกันว่าประเทศไทยจัดเอทีพีทัวร์ได้ดีที่สุดเลยในรอบปี ทั้งๆที่เพิ่งจัดเป็นปีแรก

สโรชา – ตอนนี้เราก็เทนนิสเฟดคัพอะไรนะ

คำนูณ – เฟดคัพ ก็เป็นการแข่งขันทีมหญิง ซึ่งว่าไทยแข่งกับออสเตรเลียแล้วชนะเนี่ย ก็คือเข้าไปอยู่ใน ถ้าผมจำไม่ผิดนะ 16 ทีมสุดท้ายก็ถือว่าเป็นครั้งประวัติศาสตร์ แล้วก็ชนะอย่างขาดลอย ก็คือนำไปก่อน 3-0 แต้ม แต่ว่าแต้มที่ 4 นี่ผมไม่ได้ดู

สำราญ – กลับมาที่ คือผมทราบว่าคนในข่าวเมื่อวันก่อน วันพฤหัส จับเรื่องโรคเอดส์ แล้วเห็นว่าสายเข้ามาเยอะ คนถามเข้ามาเยอะ คนสนใจเรื่องโรคเอดส์เยอะ ก็มีข้อมูลที่น่าสนใจไหม

สโรชา – คือเราเชิญผู้ที่ติดเชื้อมาท่านหนึ่ง แล้วก็มีมูลนิธิเข้าถึงเอดส์อีกท่านหนึ่ง แล้วก็มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคของกรมควบคุมโรคมาด้วย ก็ได้พูดคุยกันในลักษณะว่า ผู้ที่ติดเนี่ยติดมาจากไหน จริงๆแล้วก็น่าตกใจเหมือนกันนะ เขาบอกว่าไปเที่ยวตามประสาผู้ชาย ไปเที่ยวผู้หญิงก็จะป้องกันทุกครั้ง แต่กลับกลายเป็นว่าถ้าเกิดย้อนกลับไป คาดว่าน่าจะติดมาจากแบบกิ๊กน่ะ แบบกิ๊ก คือไปเที่ยวแล้วก็ไปถูกตาต้องใจแล้วก็ไป one night stand อะไรอย่างนี้

คำนูณ – คือผู้หญิงที่หากินโดยตรงเนี่ย เขาจะดูแลร่างกายดีกว่าผู้หญิงที่ไม่ได้หากินแต่เป็นกิ๊ก

สโรชา – ใช่ คือดูหน้าตาดี ท่าทางดี ไม่น่าจะ คือมองแล้วไม่น่าจะ ก็เลยนึกว่าไม่ต้องป้องกัน ปรากฏกว่าไม่ใช่ เพราะว่าไล่กลับไปดู เขาบอกว่าเขาจะป้องกันทุกครั้งถ้าออกไปเที่ยว แต่เดาว่าคงจะติดจากเรื่องนี้มากกว่า แต่ในลักษณะของตัวเลขในบ้านเรา เขาบอกว่าติดกันตอนนี้ก็หลักหลายแสนอยู่ เพียงแต่ว่าอัตราการติดเพิ่มขึ้นเนี่ยมันน้อยลงมาก จากเมื่อ 10 ปีก่อนติดกันประมาณแสนกว่ารายต่อปี แต่ตอนนี้เหลือ 2 หมื่นเท่านั้นเอง ลดลงฮวบเลยค่ะ

สำราญ – ผมฟังอธิบดีคุณหมอจรัญใช่ไหม ที่ท่านบอกว่าผู้หญิงนี่เดี๋ยวนี้ อัตราเสี่ยงสูงกว่าผู้ชาย ตัวเลขนั้นแซงหน้าผู้ชาย

คำนูณ – ไปติดจากไหน

สำราญ – ก็คือติดจากผู้ชาย คือเมื่อกี๊มีอยู่บางประโยคที่โคฟี อันนันท่านพูดนะ ผมพยายามอ่านตามไม่ได้ฟังหรอก ท่านก็บอกว่าผู้หญิงเนี่ยทั่วโลกนะ สาเหตุมาจากการถูกกดขี่ การขาดข้อมูลข่าวสาร ก็เป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ

สโรชา – บางครั้งภรรยาก็สามีนำมาติด ก็คืออยู่ในความเสี่ยงถ้าเทียบแล้ว เพศหญิงจะเสี่ยงมากกว่าเพศชาย

สำราญ – เขาบอกว่าเมื่อก่อนติด 4 คนมีผู้ชาย 3 แต่เดี๋ยวนี้มันกลับข้างกันเลยนะ ผู้หญิง 3 ผู้ชาย 1 นี่ทานกระทรวงสาธารณสุขเขาพูดเมื่อวันก่อนนะ ก็จำมาเล่าสู่กันฟัง

สโรชา – อายุก็น้อยลงด้วยนะคะ เขาบอกตอนนี้อายุที่เสี่ยงจริงๆ ถ้าแคบๆเลยก็ประมาณ 25-29 ปี ถือว่าเป็นอายุที่เสี่ยงมากที่สุด แล้วมันก็จะลดหย่อนลงไปเรื่อยๆ แต่สำหรับเด็กนี่ ถือว่าเดี๋ยวนี้สามารถควบคุมได้เยอะแล้ว เพราะว่าบ้านเราเองก็ได้พัฒนาทางการติดเชื้อจากแม่สู่ลูกมากทีเดียว จากเดิมทีคือเขาบอกว่าปกติ ถ้าแม่เป็นเชื้อ HIV เปอร์เซ็นต์ที่จะติดถึงลูกแค่ 30% เท่านั้น แต่ถ้าเกิดเขาสามารถพัฒนายาขึ้นมาเนี่ย ติดเพียง 3% เท่านั้น ลดจาก 30 เนี่ยมาเหลือ 3

สำราญ – ตอนนี้เรามียา เขาเรียกยาต้านไวรัสเอดส์

สโรชา – ใช่ เป็นคอกเทล อันนี้คือต้านไวรัสแล้วก็ต้องทานทุก 12 ชั่วโมง คือผิดไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว ตอนนั้นที่จัดคนในข่าวเนี่ย รายการเราจะเริ่มกันประมาณ 3 ทุ่มเศษๆ 3 ทุ่มเนี่ยคุณที่มาร่วมรายการกับเราต้องทานยา ก็ยังแซวๆกันอยู่ว่าจะทานทันหรือเปล่าก่อนที่จะเข้ารายการ เผอิญว่าเราเหลื่อมมาหน่อยนึง เขาก็สามารถที่จะทานได้ แม้กระทั่ง 1 นาทีนี่ก็ไม่ได้เลย เพราะว่ามันจะทำให้ร่างกายตอบสนองต่อยาผิดปกติไป

สำราญ – อันนี้องค์การเภสัชของเราผลิตเองเลยใช่ไหม

สโรชา – ใช่ค่ะ ก็ถือว่าถูกลงเยอะ

สำราญ – ท่านนายกบอกว่าแจกไปแล้ว 5 หมื่นราย แล้วต่อไปก็ต้องผลิตแจกกันอีก คืองบประมาณแค่ไหนก็คงจะไม่เป็นปัญหาล่ะ ปัญหาคือทุกคนต้องเข้าถึงยาตัวนี้ให้ได้ คือเมื่อก่อนมันจำกัดมาก

สโรชา – ก็ถือเป็นเรื่องดีนะคะ บ้านเราก็ได้หน้าได้ตากันไปอีกครั้ง สำหรับการประชุมโรคเอดส์ มาดูเรื่องการเมืองบ้างดีกว่า ผู้ว่ากทม.

คำนูณ – เดี๋ยวก่อนจะถึงผู้ว่ากทม. วันนี้เป็นวันสำคัญนะครับ วันนี้วันที่ 11 กรกฎาคม 2547 ก็คือนับจากนี้ไปอีก 180 วัน สภาผู้แทนราษฎรจะครบวาระ 4 ปี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หากมีสส.คนหนึ่งคนใดหรือหลายคนลาออก จะไม่ต้องมีการเลือกตั้งซ่อม ตั้งแต่นี้ไป การโยกย้ายพรรค การจัดกำลังใหม่ของพรรคการเมืองต่างๆก็คงจะเริ่งปรากฏเป็นรูปร่าง พรรคไทยรักไทยก็จะมีการประชุมงานก่อตั้งพรรคครบรอบ 6 ปี ในวันที่ 14 กรกฎาคม ก็เห็นว่าเขาจะย้อนกลับมาจัดที่โรงแรมสยามซิตี้ ซึ่งเป็นย้อนมาวันแรก ปีแรกของการก่อนตั้งพรรค มาจัดที่นี่ ก็พรรคมหาชนก็จะเปิดตัววันไหนนะ

สำราญ – วันนี้ประชุมกันไปแล้วก็เลือกตั้ง พรุ่งนี้ก็จะเดินตามกฎหมาย ไปแจ้งชื่อเป็นทางการ แล้วก็เปลี่ยนตัวกรรมการบริหาร ก็มีบางท่านก็ถูกวิพากย์วิจารณ์กันเยอะ แต่ว่านโยบายจะเปิดวันที่ 19 กรกฎคม ก็จะมีการแถลงกันว่า นโยบายหลักๆคืออะไรบ้าง มันแตกต่าง มันไม่เหมือนไทยรักไทยอย่างไร มันดีกว่าประชาธิปัตย์ตรงไหน ซึ่งเวลาคงไม่ทันนะครับวันนี้ แต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี่ พูดกันอย่างกว้างเลย ภาพรวมนี่ไฮไลท์ก็อยู่ทีประชาธิปัตย์ มันถึงจุดเปลี่ยน ต้องใช้คำว่าแตก คือถ้าไม่แตกก็ไม่กระเด็นกันมาแบบนี้

คำนูณ – คือประชาธิปัตย์ก็อยู่ในช่วงระหว่างการผลัดใบนะ คือถึงแม้ว่าจะเรียบร้อยในลักษณะที่เรียกว่า ก็สรุปสั้นๆง่ายๆว่าคุณบัญญัติ บรรทัดฐานยังอยู่ คุณประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ยังอยู่ แต่ว่าก็คงเป็นที่เข้าใจได้ว่าอยู่จนถึงหลังเลือกตั้ง

สำราญก็คือที่มาที่ไป คุณสโรชาคงรับทราบแล้ว แต่เราช่วยลำดับภาพนิดเดียว ก็คือ มันก็คือกลุ่มของคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะรู้แกวแน่นอนแล้ว เสธ.หนั่นจะไปตั้งพรรคใหม่ ทางนี้ออกมาเคลื่อนบอกว่า ใครจะไปใครจะอยู่ต้องทำให้ชัดเจน ก็คือต้องการที่จะล้างหน้าเสื่อหน้าไพ่กันใหม่ ก็ลึกๆก็คือถึงขั้น กลุ่มของคุณอภิสิทธิ์เอง คุณอภิสิทธิ์จะรู้หรือไม่ก็ตาม ก็มีแนวคิดที่แน่นอนว่า จังหวะแบบนี้แหละ ควรจะหยิบยกคุณมาร์คขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคเสีย

สโรชา – เป็นจังหวะที่ดี

สำราญ – คุณบัญญัติ บรรทัดฐานก็รู้ ก็เปิดโต๊ะวัดใจวัดดวงเลย บอกว่าใครไม่พอใจฉัน อยากให้ฉันไม่อยู่เป็นหัวหน้านะ ก็มาเข้าชื่อกัน สุดท้ายก็ไม่มีใครมา

สโรชา – เห็นบอกว่าคือแม้แต่คนเดียวก็ไม่ไปเซ็น

สำราญ – มี 3 คนมาเซ็นให้คุณบัญญัติอยู่ต่อ แล้ววันรุ่งขึ้นพอตั้งโต๊ะเสร็จนะ ก็มาประชุมสส. 9 ชั่วโมงมาราธอน ที่เขาบอกว่าหลั่งน้ำตากัน พูดกันแบบ คือคุณประดิษฐ์ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรค ผ่านชั่วโมงนี้มาได้ก็ถือว่าวิเศษสุด เป็น 9 ชั่วโมงที่เครียดมาก แล้วสุดท้ายก็อยู่กันต่อ ก็คือเอาล่ะ จบแล้ว

สโรชา – เคลียร์ใจ แต่จะเคลียร์กันจริงหรือเปล่า

สำราญ – ผมว่าก็ยังคาใจกันอยู่

คำนูณ – ว่ากันว่า คุณอภิสิทธิ์ก็บอกว่า พร้อมที่จะเข้ามากอบกู้พรรค แต่เข้าใจว่าถึงที่สุดแล้ว ทั้งกลุ่มที่สนับสนุนคุณอภิสิทธิ์ กลุ่มคุณชวน หลีกภัย กลุ่มอะไรต่อมิอะไร ก็ยังเห็นว่าไม่ใช่สถานการณ์ที่จะมาเปลี่ยนตอนนี้ แล้วก็คุณบัญญัตินั้น ท่านก็ลั่นวาจาไว้แล้วว่า ถ้านำพรรคประชาธิปัตย์เข้าสู้สนามเลือกตั้งแล้วแพ้ ท่านก็จะรับผิดชอบด้วยการลาออก แพ้อยู่แล้วล่ะ เพราะฉะนั้นก็คือการเปลี่ยนหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็คงจะเกิดขึ้นหลังเลือกตั้ง ก็คงจะประมาณที่เขาประชุมพรรคกัน ตามปกติเดือนเมษายนนะครับ ก็คือคงจะเป็นถึงจังหวะของคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเสียที

สโรชา – รอมานาน

สำราญก็เสธ.หนั่นก็ให้สัมภาษณ์อยู่ข้างนอกใช่ไหม นักข่าวถามทำไมต้องลาออก ท่านก็พูดเรื่อยเปื่อยจนหลุดมาท่อนหนึ่งบอกว่า ลาออกเพื่อให้คุณอภิสิทธิ์ได้เกิด คือลึกๆคล้ายๆว่า ถ้ายูไล่ไอ ไอก็ไปทำนองนี้ คือสองคนนี้เขาตอบโต้กันโดยนัย โดยในที อันนี้ก็เป็นความในใจ

สโรชา – คุณชวนว่าไงคะ

สำราญ – คุณชวนก็ให้สัมภาษณ์วิทยุคลื่นหนึ่งผมฟังพอดีหลังประชุมสส. ท่านก็บอกว่าเที่ยวหน้ายังยืนกราน ว่าจะหนุนคุณอภิสิทธิ์ให้เป็นหัวหน้าพรรค แต่ท่านก็สารภาพว่าเที่ยวที่แล้ว ได้กาคะแนนให้คุณอภิสิทธิ์ คือก็เป็นการย้ำข่าวว่า ถูกต้องแม่นยำ แต่ว่าในเมื่อคุณบัญญัติยังอยู่ บอกว่าทุกท่านทุกคนก็ต้องมาร่วมมือ คุณประดิษฐ์ก็พูดในที่ประชุมสส.วันนั้น บอกว่าเขาจะรักเสธ.หนั่น รักคุณชวนไม่มากเท่าเสธ.หนั่น แต่จะทำงานทุกอย่างเพื่อพรรค แล้วประโยคที่ทุกคนประทับใจมากก็คือ แล้วผมก็จะทุ่มเทเงินทุนต่างๆเพื่อพรรค เพื่อการเลือกตั้งให้อย่างเต็มที่

สโรชา – ประโยคเด็ด

สำราญ – ประโยคอาจจะผิดพลาด แต่ว่าความหมายประมาณนี้

คำนูณ – ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินเรื่องทอง

สำราญ – คือประชาธิปัตย์เขามีปัญหาว่า มองไปข้างหน้านะ เขาจะเอาเงินจากไหน เขามีปัญหามาก คุณสุเทพก็ไม่ขยับ ขุนพลหลักๆ ก็เหลือแต่กระเป๋าหนักๆ คุณประดิษฐ์ เลขาธิการพรรค ของคุณประดิษฐ์นี่เที่ยวหน้าแกต้องควักอีกเท่าไหร่

คำนูณ – ควักเพื่อไปเป็นฝ่ายค้าน ควักเพื่ออนาคตที่ไม่แน่นอนของตัวเอง เพราะต้องยอมรับว่า ก็ลั่นวาจาไว้จะให้ผมรักคุณชวนมากกว่าเสธ.หนั่น เป็นไปไม่ได้ แกก็คงกระอักกระอ่วนใจนะ แล้วก็คือหัวหน้าพรรคไป เลขาธิการพรรคก็ต้องไปอยู่แล้ว นี่จะกลับมาอีกก็ยังมองไม่เห็น เป็นสิ่งที่ผมช้ำใจนะ

สโรชา – แล้วถ้าเกิดครั้งหน้า หลังจากเลือกตั้งเสร็จแน่นอน มีการเปลี่ยนถูกไหมคะ หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จะมีคนไหลไปอยู่มหาชนเพิ่มขึ้น คือตอนนี้แน่นอนว่าโดยตำแหน่ง แล้วโดยศักดิ์ศรีแล้วเนี่ย ไม่ไป แต่ในอนาคตนี่ หลังเลือกตั้งที่บอกว่าประชุมกันเมษายน

คำนูณ – ถึงตอนนั้นมันก็จะไปติดกฎอะไรขึ้นมาอีกแล้วครับ ก็คือว่าคนที่เป็นสส.พรรคประชาธิปัตย์ไปแล้ว จู่ๆจะย้ายไปพรรคอื่นมันก็ติดกฎ อาจจะถูกพรรคขับออก อาจจะเสียภาพ

สำราญ – คือหลังจากนั้นต้องมาวิเคราะห์กันอีกที แต่นี่เฉพาะหน้าคือ ภาพประชาธิปัตย์จะทำได้นะ ก็มีอยู่ประเด็นเดียว ก็คือ ทำอย่างไรให้ไทยรักไทยนั้นได้คะแนนไม่ถึงครึ่ง สมมุติได้ 249 เสียงจาก 500 เสียงนะ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าการเมืองมันพลิกนะ ซึ่งมันเป็นไปได้ยากมาก เอาชาติไทย เอามหาชน เอาใครต่อใครมารวมตรงนี้ เพื่อไม่ให้ไทยรักไทยเป็นรัฐบาล มีประตูเดียวเท่านั้นซึ่งเท่ากับประตูนี้ถูกปิดไปแล้ว มันยาก

สโรชา – คือไม่แน่การเมืองบ้านเรา

สำราญ – ถ้าปาฏิหาริย์มีจริงนะ

คำนูณ – บางทีเรื่องเล็กๆ ถ้ามองย้อนไป ถ้ามันพลิกไปนะ คือรัฐบาลต้องเสียคะแนน อย่างชนิดที่เรียกว่าใหญ่หลวง แล้วก็ประชาชนรับไม่ได้

สโรชา – คือจากนี้ไปถึงปลายปี ถ้าเกิดวิกฤติอะไรซักอย่างหนึ่งเนี่ย

คำนูณ – ต้องเป็นวิกฤติผิดธรรมชาติด้วยนะ ระดับ 14 ตุลาประมาณนั้น

สำราญ – เดี๋ยวนี้เราก็ดูสิ คือถ้าทุกคนยังจำในฟุตบอลยูโรได้นะ ทดเวลาบาดเจ็บ 3 นาทียังยิงกันได้ตั้ง 2 ประตู 6 เดือนที่เหลือนี่มัน

คำนูณ – คือกรณีที่อยุธยานี่นะ คนแก่ 2 คน คนสาวคนนึง เด็กคนนึงเนี่ย สมมุติกรณีนั้นเกิดตายขึ้นมาเนี่ย สถานการณ์มันก็อาจจะเป็นอีกอย่างหนึ่ง เกี่ยวโดยตรง

สำราญ – เดี๋ยวจะมีเรื่องพรรคมหาชนอีก จะพูดหรือไว้ช่วงหน้าดีกว่าไหม

สโรชา – ไว้ช่วงหน้าดีกว่า เพราะเราเหลือแค่ 3 นาที เดี๋ยวเรามาต่อกันเรื่องผู้ว่า แล้วก็พรรคมหาชน แล้วก็เรื่องที่คุณคำนูณเกริ่นไว้ด้วย เรื่องที่อยุธยา เพราะฉะนั้นพลาดไม่ได้สำหรับช่วงหน้า พักซักครู่ เดี๋ยวกลับมาค่ะ

สโรชา – กลับมาสู่ก่อนจะถึงวันจันทร์ เราไปคุยกันต่อถึงเรื่องของการเมือง เมื่อสักครู่นี้ทิ้งท้ายไว้รู้สึกว่ากำลังจะต่อเรื่องพรรคมหาชนใช่ไหมคะ เป็นไงคะ ตกลง

สำราญ – ก็ประชุมในเชิงพิธีกรรมนะครับ ไปเปลี่ยน ก็ไปเพิ่มกรรมการบริหาร แล้วทีนี้ก็ดำเนินการเปลี่ยนชื่อให้เป็นมหาชนเสีย แล้ววันที่ 19 เนี่ยแหละวันสำคัญ จะเปิดตัวนโยบายว่าเป็นอย่างไร มันจะเป็นพรรคที่คุณบัญญัติ บรรทัดฐานท่านแซวนะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์บอกว่า พรรคไม่มีทางเลือก คือวันนี้คือที่ทุกคนมารู้สึกว่า บางคนร้องยี้หลายคนผมว่านะ ต้องเรียนตรงๆ หนังสือพิมพ์ก็พาดหัวไปแล้ว ไทยรัฐ มติชน ใครต่อใคร ก็คือกรณีที่คุณนพดล ธรรมวัฒนะ น้องชายของคุณห้างทอง แล้วก็เป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าพี่ชาย ได้รับการเลือกตั้งเป็นกรรมการบริหารพรรคด้วย จู่ๆโผล่มานะคุณคำนูณ อย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเลย

คำนูณ – ตัวแกก็ไม่เคยมีข่าวว่าแกสนใจการเมืองมาตั้งแต่ชาติปางไหน

สำราญ – เหตุไฉนโผล่มาได้อย่างไร

สโรชา – พี่ชายก็ยังเป็นสส.ได้ น้องชายก็อาจจะสนใจ

คำนูณ – คือสมัยพี่ชายพอเข้าใจได้

สำราญ – 1.ยังเป็นผู้ต้องหา 2. คดียังคารังคาซังศาล ดังนั้นเราจะพูดกันอย่างไม่เกรงใจเลยก็คือ ยกเว้นเรื่องเงินทองเงินทุนแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นอีกไหมที่ได้รับเลือกมาเป็นกรรมการ

คำนูณ – ก็มาร่วมทุน

สำราญ – อันนี้ก็คือ ในเชิงวิเคราะห์นะครับ อาจจะมีเจตนาดีต่อบ้านต่อเมืองก็ได้ นี่เราก็ดูกันต่อไป

คำนูณ – ถ้าแกลงสมัครอะไรซักอย่างนึงนี่ คุณสมบัติได้ไหม น่าจะได้นะ ยังไม่ได้ต้องคำพิพากษาอะไรทั้งสิ้น

สโรชา – แต่ถ้าเกิดอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีหรือว่าในการไต่สวนนี่ไม่เป็นไร

คำนูณ – เท่าที่ผมสำรวจดู เท่าที่จำได้ ไม่น่าจะเป็นอะไร แต่ว่าความเหมาะสม

สำราญ – ผมคิดว่าเรื่องนี้นะ ดร.อเนกหัวหน้าพรรคคงคิดหนัก คือคดีท่านสมบูรณ์ ระหง ท่านวัฒนา อัศวเหม เขาเป็นเจ้าของพรรคราษฎรอยู่แล้ว แล้วเสธ.หนั่นต้องการที่จะไปลอกคราบตรงนั้น

คำนูณ – คืออ้างว่าจดทะเบียนใหม่ไม่ทัน แล้วเขาก็บอกว่าเขาไม่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง

สำราญ -วันนี้วัฒนาก็ไม่ไปร่วมงานนะ วันที่ 19 ผมก็คิดว่าท่านจะจำเป็นในบางพิธีกรรมก็แล้วแต่ ก็กรรมการบริหารพรรคก็เป็นไปตามโผนะ คุณจเด็ด อินสว่างเป็นเลขาธิการพรรค คุณปาน พึ่งสุจริตเป็นรองเลขาพรรค คุณอรรคพล สรสุชาติก็เป็นรองหัวหน้าพรรค

คำนูณ – เหรัญญิกพรรคก็ภรรยาคุณอรรคพล

สโรชา – คุณสมิตา สรสุชาติ นอกนั้นที่แปลกๆ

คำนูณ – คือภาพคุณนพดลมันบังทุกคนหมด อธิบายลำบากด้วยนะ

สโรชา – จริงๆแล้วยังไม่ได้ เขาสัมภาษณ์บ้างหรือยัง ว่าทำไม คิดอะไร อะไรบันดาลให้นึกอยากจะหันมาเล่นการเมืองเวลานี้อะไรอย่างนี้

สำราญ – ก็คอยดูกันต่อไปนะ คือดร.อเนกพยายามที่จะผสมความเป็นจริงระหว่าง การเมืองอุดมคติกับการเมืองสัจนิยม แต่เที่ยวนี้ผมว่าคงคิดหนักเหมือนกัน คืออาจจะทำให้แนวร่วม ถึงคนอยากจะเข้าร่วมเยอะนะ แต่พอเจอคุณนพดลนี่

สโรชา – อาจจะต้องชี้แจงกันเยอะหน่อย

สำราญ – แต่ท่านประกาศหลักการ 3 ข้ออย่างวันก่อนโน้นนะครับ แล้วก็บอกว่าคือต้องดูกันที่ปฏิบัติ นี่พยายามมองกันอย่างเอาใจช่วยเล็กๆนะครับ สมมุติถ้าจะมองแบบเอาใจช่วย ก็คือต่อไปจะร่วมรัฐบาลก็คือคุณต้องรับนโยบายเราด้วย 3 ข้อ

คำนูณ – ไม่ประชานิยมแต่สวัสดิการนิยม ไม่รวมอำนาจกระจายอำนาจ แล้วก็ต้านคอรัปชั่นผลประโยชน์ทับซ้อน

สำราญ – ข้อที่สามเท่าที่ผมตามไปอ่านดูมาก็ดีนะ เขาบอกว่า มันจะเป็นหัวใจสำคัญ คล้ายๆ จะแยกทุนออกจากประชาธิปไตย เดี๋ยวนี้คือทุนนิยมกับประชาธิปไตยมันกลายเป็นเนื้อเดียวกัน ทำให้การคอรัปชั่นเป็นไปอย่างแนบเนียน ผลประโยชน์ทับซ้อนอะไรประมาณนี้ เขาบอกว่าจะต้องเข้มงวดตรงนี้ ก็ต้องดูฝีมือกันต่อไป

คำนูณ – แต่ดูๆ แล้วผมว่านโยบายนี่มาทีหลัง ดูการจัดตั้งพรรคของเขาที่อย่างน้อยก็พยายามเร่งรีบ ที่จะให้ทันการเลือกตั้ง ถึงขนาดที่ต้องไปเอาหัวของพรรคราษฎรมาเนี่ย แล้วดูการเลือกกรรมการบริหารเข้ามา ก็แสดงให้เห็นว่าเขามุ่งจำนวนสส. ที่จะให้ได้ตามเป้า 50 คน ก็อาจจะถูกนะ นโยบายต่อให้สวยงามยังไง แต่ถ้าไม่มีจำนวนเสียง ไม่มีที่นั่ง

สำราญ – ไม่มีการต่อรอง เขาเรียกไม่มีที่ยืน นโยบายก็แป้กกันไป แต่ถึงบทนั้นแหละจะเป็นบทพิสูจน์นักวิชาการที่เข้าไปร่วม พิสูจน์ดร.อเนกจริงๆ ตอนนี้ก็คือเอาล่ะ คุณก็เสียแล้ว คุณก็ชื่อช้ำไป คนเขาจะให้เครดิตคุณเก่าหรือความเชื่อมั่นเก่าๆ

สโรชา – ยังให้โอกาสอยู่ เพราะว่าจริงๆแล้วเรื่องของนโยบายนี่ มันจะมีน้ำหนักชั่งกันแล้ว จะสามารถไปลบล้างเรื่องอื่นๆได้หรือเปล่า

สำราญ – แต่ถ้าเกิดอภินิหารทางการเมืองขึ้นมานะ ถ้านายกผิดพลาดต้องยุบสภาก็ยุ่งเหมือนกันนะ

คำนูณ – ก็พรรคมหาชนก็จะแท้งเลย คือที่เตรียมมานี่เจ๊งเลย คือในทางการเมืองตอนนี้มันมีอยู่ 2 กฎ กฎ 180 วันเราว่าไปแล้ว คือตั้งแต่วันนี้ไป สส.ลาออกจากสภาไม่ต้องเลือกตั้งซ่อม เพราะฉะนั้นถ้าจะย้ายพรรค ไม่ต้องกลัวว่าพรรคเก่าเขาไล่จะทำให้สิ้นสถานภาพ ไม่มีปัญหา อีกกฎนึงเขาเรียกว่ากฎ 90 วัน คือก่อนหน้าวันเลือกตั้งจะต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ไม่ต่ำกว่า 90 วัน ฉะนั้นคนที่ถือไพ่อาวุธอันนี้อยู่ คือ นายกทักษิณ ชินวัตร ถ้าเห็นว่ามหาชนมันจะได้ 300 ขึ้นไป แต่คงเป็นไปไม่ได้

สำราญ – เริ่มเห็นว่าผิดท่าผิดทาง

สโรชา – สู้จะไม่ดีแล้ว ก็ยุบสภาเสีย ไม่สามารถเป็นสมาชิกครบ 90 วัน

สโรชา – คนเหล่านี้ก็ลงเลือกตั้งไม่ได้

คำนูณ – ยุบวันไหนนี่มันต้องเลือกตั้งภายใน 60 วัน

สำราญ – ถ้าครบเทอมเลือกภายใน 45 วัน ก็ดูกันต่อไป

สโรชา – ก็เป็นอาวุธเด็ด

คำนูณ – เพราะฉะนั้นพรรคมหาชนก็ต้องรีบจัดการให้เสร็จ ภายในเร็ววัน

สโรชา – เรามาดูเรื่องผู้ว่ากทม.บ้าง ดิฉันว่าช่วงนี้มันดูเงียบๆหงอยๆ อย่างไรไม่รู้

คำนูณ – แต่วันศุกร์นี่ชัดขึ้นใช่ไหม

สำราญ – คุณปวีณา 24 ชั่วโมงมาแล้วใช่ไหม เปิดตัว

สโรชา – จะเรียกว่าเปิดตัวดีไหม หรือว่าจะเรียกว่าปรากฏตัวดีกว่า ปรากฏตัวตามหน้าจอโทรทัศน์เป็นครั้งแรก ก็ไม่เห็นเธอมานานพอสมควรนะ จากตามรายการ ตามเวทีเสวนา หรืออะไรต่างๆเธอจะไม่ปรากฏตัว ก็มีครั้งนี้แหละที่มานั่งคุย เป็นเรื่องเป็นราว

คำนูณ – แต่ก็ไปเดี่ยว

สำราญ – คือเรื่องจังหวะ เรื่องทามมิ่งอะไรก็แล้วแต่

คำนูณ – ก็เป็นวันที่นายกก็ชัดเจนเหมือนกันนะ ท่านนายกก็จูงมาคุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภไปที่กทม. ไปพบกับคุณสมัคร สุนทรเวช ก็โอเคก็คุยกันอาจจะไม่มีอะไรมาก แต่ก็เหมือนๆกับเป็นการแสดงชัดเจนว่า มาบอกกล่าวอะไรกัน

สำราญ – คุณสุวัจน์ก็ดูแลพื้นที่กทม. ดูแลกทม.ด้วย

คำนูณ – เหมือนๆกับจะบอกว่าสนับสนุนคุณสุวัจน์ แล้วก็พรรคพวกคุณสุวัจน์ ซึ่งก็หมายถึงคุณปวีณา หงสกุล

สำราญ – คือเลือกตั้งผู้ว่ากทม. กกต.เขาห้ามทำโพลนะ แต่ที่เรารู้มาแล้วเราต้องพูดคือ จริงๆก็ทุกสำนัก ผมรู้มา 3 โพลนะ ก็เหมือนที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวแหละว่าใครเป็นคนนำ ผมไม่ระบุชื่อนะ

สโรชา - แต่ก็คือจริงๆแล้วมีแทรกๆมานะ ตามหน้าหนังสือพิมพ์ก็จะมีว่า ตอนนี้ใคร อะไร ยังไง

สำราญ – แต่ที่ทุกคนอาจจะคิดไม่ถึงนี่ ก็มีม้ามืด คือ 3 โพลผมเห็นมาแล้วกับตา คุณปวีณา คุณอภิลักษณ์ คุณชูวิทย์อันดับ 3

คำนูณ – คือ 1 2 3 นี่คือตรงนะ

สำราญ – นี่ยังไม่จบนะ วันนี้ดร.วุฒิพงศ์ เพียบจริยวัตร ก็ใช้ศัพท์ชาวบ้านนะ ก็ถูกส่งเข้าประกวด คนที่ออกมาต้านการแปรรูปอย่างนี้ก็ถือว่าถูกส่งเข้าประกวด โดยกลุ่มราษฎรอาวุโส คุณประเวช วะสีไปเปิดตัวนะ ใครต่อใครนะ ก็คือไม่รู้ว่าจะมาถูกเวทีหรือเปล่า เพียงแต่ดร.วุฒิพงศ์คือเรียนเก่ง ทำงานดี จุดยืนเพื่อประชาชน ก็ว่ากันไป คือกำลังพูดว่า ผู้สมัครยังไม่จบแค่นี้นะครับ ก่อนจะถึงวันที่ 26 อาจจะมีอีกนะ แล้วก่อนหน้านี้ก่อนดร.วุฒิพงศ์ คนเรียนเก่งที่หนึ่งประเทศไทยเหมือนกันก็คือ ดร.มานะ มหาสุขวีระชัย

คำนูณ – คนนี้พล.ต.จำลอง ศรีเมืองส่งเข้าประกวด

สำราญ – อดีตสส.พลังธรรม อดีตสส.ประชาธิปัตย์ แล้วก็เป็นคนที่พล.ต.จำลองนี่รักมาก ผมกล้าพูดเลย คือบางครั้งเคยไปทำข่าวสมัยก่อน ดร.มานะเกือบได้เป็นรัฐมนตรีมา สมัยอยู่พรรคพลังธรรมนะ เป็นคนเก่ง แต่ว่าการเมืองในพรรคไปบิดกันนิดเดียว กลายเป็นคนอื่นขึ้นเลย กลายเป็นคุณสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ขึ้นเก้าอี้ สมัยช่วยคมนาคม เป็นคนที่ถือว่าเป็นลูกรักล่ะ

สโรชา – แต่ว่าครั้งนี้ไทยรักไทยเขาไม่ส่งอย่างเป็นทางการ แล้วมันทำให้ผู้คนในบรรดาแวดวงที่มีคนนับหน้าถือตาเยอะๆ ก็จะต่างพาคนที่ตัวเองคิดว่าน่าเหมาะสมที่สุด ชิงตำแหน่งกันเป็นว่าเล่นเลยนะ

สำราญ – ก็อย่างคดีของพล.ต.จำลอง ศรีเมือง คือพอสื่อมวลชนมีคำถามต่อท่านมหาจำลอง บอกว่ามันเรื่องอะไรของท่าน ทำไมท่านต้องมาชี้นำชาวกรุงเทพด้วย เท่านั้นแหละ ชาวพรรคไทยรักไทยเขาก็บอกไม่เกี่ยวนะไม่เกี่ยว งานนี้ ก็คือท่านจำลองท่านมานะไม่เกี่ยวกับพรรคไทยรักไทยนะ ก็ขับไสไล่ส่งกันอย่างนั้นเลย

สโรชา – ออกเป็นมติพรรคด้วยใช่ไหมคะ

สำราญ – ใช่ แต่ท่านจำลอง ศรีเมือง กับดร.มานะก็ไม่สน บอกก็ไม่เป็นไร ก็เดินหน้าต่อไป

คำนูณ – แต่พรรคไทยรักไทยเขาก็เหนื่อยนะ พวกกทม. พวกสก.สข.เนี่ย คือจะไปหนุนคุณปวีณาเขาก็แบบไม่เต็มใจ

สำราญ – ส่วนใหญ่เท่าที่เราฟังมานะ อาจจะมีที่เราถูกสเปคคุณปวีณา 24 ชั่วโมง แต่ส่วนรวมเขาบอกยังไม่ใช่ ถ้าคุณปวีณาฟังก็อย่าโกรธนะ คือเราฟังมาจริงๆ

คำนูณ – จริงๆเขาก็ไม่อยากจะเสียพื้นที่กทม.ให้กลุ่มคุณสุวัจน์ เขาก็รักษาฐาน รักษาอะไรกันตามสมควร

สโรชา – จริงๆการที่เขาไม่ส่ง ก็เป็นการสร้างปัญหาให้เยอะเหมือนกันนะ มันแตกกันไปหมดเลย

คำนูณ – เผลอๆ เนี่ย การที่ไทยรักไทยไม่สนับสนุนเต็มที่ คืออาจจะสนับสนุนเต็มที่นะ ผมเคยถามบอกว่า สมมุติไทยรักไทยมีมติเป็นการภายใน ว่าจะหนุนใครซักคนนึงเนี่ย มีคะแนนซักเท่าไหร่ ถ้าบริหารจัดการทำกันเต็มที่ 3 แสน แต่ถ้าในสถานการณ์แบบนี้ ผมว่าบริหารจัดการได้ไม่เต็มที่ 3 แสนก็อาจจะเหลือซักแสนนึง แล้วถ้าคุณปวีณานำไม่ตลอดรอดฝั่งจริงๆเนี่ย มีปัญหา แล้วคนที่จ่ออยู่เนี่ย เกิดแซงขึ้นมานะ

สำราญ – เขาบอกคนอย่างน้อย 30% ยังไม่ตัดสินใจ

คำนูณ – คือถ้านาทีสุดท้ายเขาเกิดตัดสินใจแบบสะใจ ไปเทให้คุณชูวิทย์ ซึ่งหลายคนเขาคาดว่าเป็นอย่างนั้น หลายคนก็กลัวนะ

สโรชา – คือมองว่าไหนๆยังไม่มีคนที่ใช่เลยซักคนเดียวเนี่ย ก็เอาซะหลุดโลก เอาซะครั้งนึง ดูว่าจะเป็นยังไง มีเยอะนะดิฉันเคยคุย จะลักษณะว่าให้โอกาสเขาดูซักครั้งนึง ว่าเขาจะยังไง เพราะเขารับปากเอาไว้แล้วนี่ ใช่ไหมว่าสองปี ถ้าเขาไม่มีผลงานเขาจะลาออกให้คนกรุงเทพเลือกใหม่

คำนูณ – คือมันชั่วมันเลวอะไรยังไง ก็รู้กันอยู่แล้ว เขาก็เป็นอย่างนี้

สโรชา – ตรงไปตรงมาดี เขาบอก แต่พูดถึงจริงๆโดยส่วนตัวมองว่า แบบแกมาแรง แต่มีความรู้สึกว่าแกก็ไม่เหมือนใคร แล้วก็ไม่มีใครเหมือนในเวทีการเลือกตั้งกทม. แกก็สุดๆขั้วจริงๆ

สำราญ – คือเขาก็ปริญญาโทนะ

สโรชา – ความเฉลียวฉลาด การบริหารจัดการแกไม่แพ้ใคร ก็ติดตามกันต่อไปค่ะ ยังไม่แน่ใจนะ ยังไม่แน่ชัด ดูว่าอีก 30% ที่เหลือจะเทให้ใคร จริงๆแล้วดิฉันอยากจะถามทั้งสองท่านจังเลยว่าตัดสินใจหรือยัง ไม่ถามว่าเลือกใคร ถามว่าตัดสินใจหรือยังดีกว่า

สำราญ – คุณคำนูณ คนเทเวศร์

คำนูณ – ยังไม่ตัดสินใจครับ

สโรชา – ก็ยังไม่เลือกนะ 1 ใน 30% ที่เขาว่า

คำนูณ – คนกรุงเทพนะบางที อยากจะเลือกใครคนนึง แต่ว่าพอถึงเวลาแล้วเนี่ย จากการประเมินสถานการณ์ทั้งหมด เราเลือกคนนี้ก็ไม่ชนะ ก็เลยอยากจะมาเทคะแนนให้ใคร

สำราญ – คือไม่อยากให้คะแนนเสียเปล่า

คำนูณ – คือไม่อยากจะลงคะแนนไปแล้วเนี่ย คนนี้ก็ไม่ได้อยู่ดี เพราะฉะนั้นก็เลยไปเลือกคนที่เขามีโอกาส

สโรชา – นั่นเป็นสาเหตุที่เขาไม่ให้ทำโพล

สำราญ – คำว่าไหนๆก็ไหนๆนี่ ไปเยอะนะ

สโรชา – น่ากลัวนะคำนี้ แต่คุณชูวิทย์ชอบ ดิฉันเชื่อ คำว่าไหนๆก็ไหนๆแล้วเนี่ย ไปคุยกันเรื่องซีเรียสบ้างดีกว่า เรื่องที่อยุธยาดิฉันถือว่าเป็นเรื่องซีเรียส เพราะว่ามีคำถามเยอะนะ ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรเรื่องแบบนี้

สำราญ – ก็มันจริงๆปัญหาเหตุการณ์ซ้อนกันนะ เอาเฉพาะตัวเหตุการณ์ก่อน ก็มีคอมมานโดกองปราบบวกกับพื้นที่นะ ไปถล่มบ้านของคุณตาคุณยายเมื่อวันพุธก่อน พอมาวันเสาร์ลูกชายที่ติดคุกอยู่นะ ก็เสียชีวิต ก็ยังเป็นที่สับสนว่าเสียชีวิตเพราะอะไรนั่นประการหนึ่ง ประเด็นที่สามก็คือ คุณลุงกับคุณป้าครอบครัวนี้เนี่ย ก็มีลูกชายเป็นทหารด้วย แล้วสุดท้ายก็คือถูกย้ายแล้วตอนนี้ไปอยู่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม มันเกี่ยวกันอย่างไร นี่คือปมของเรื่องนะ แต่ไฮไลท์อยู่ที่ ทำไมต้องยกคอมมานโดไปถล่มบ้านนี้ วิสัชนาก็คือ เรื่องของเรื่องก็คือ ชุดของคุณยงยุทธ ติยะไพรัช ซึ่งปกติแล้วคุณยงยุทธที่ผ่านมาก็ทำงานภายใต้ข้อมูล ตู้จดหมายนายก ก็เอามาดูแล้วก็ขยายผลไปภาคเหนือ ไปภาคใต้ ไปภาคกลาง อย่างนี้นะครับ เที่ยวนี้ก็ไปอยุธยา ตอนแรกก็ยังไม่ชัดเจนว่าไปด้วยเพราะจดหมายหรือเปล่า มาทราบเอาทีหลังว่า คุณยงยุทธพูดว่าไม่ใช่ เป็นเพราะได้ข้อมูลมาจากทางอื่นว่า บ้านหลังนี้สงสัยว่าจะมีกิจกรรมทางยาเสพติด แต่คำถามก็คือทำไมต้องไปยิงกันเป็นชุดอย่างนั้น

สโรชา – ยิงออกมาก่อนใช่ไหม

สำราญ – ก็เขาบอกว่าทางข้างใน ทางบ้านนะคือคุณลุงแก เอ๊ะ ใครนี่ มาด้อมๆมองๆ อาจจะยิงขึ้นฟ้าซักนัดนึง เปรี้ยงออกไป ทางนั้นก็สวนมาเลย ยิงตู้เย็นพรุนไปหมดเลย อย่างภาพที่เราเห็น

คำนูณ – คือได้ข่าวมาจากใคร คุณยงยุทธเกี่ยวด้วยแค่ไหน เป็นประเด็นหนึ่งทิ้งไว้ก่อน แต่ประเด็นก็คือว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเนี่ยเข้าไปกระทำการเหล่านี้เนี่ย เกินกว่าเหตุหรือเปล่า ค่อนข้างจะเกินกว่าเหตุแน่นอน แล้วตามข่าวเนี่ย เขาว่าที่คุณลุงและคนในบ้านรอด เพราะว่าไปอยู่หลังตู้เย็น แล้วก็การยิงถล่มตู้เย็นนั้นคงจะถล่มกันชุดใหญ่ ถึงขนาดที่เรียกว่า สื่อมวลชนไม่มีโอกาสเห็นตู้เย็น เพราะว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นก็ขนตู้เย็นกลับไปก่อน โดยนัยว่า จะเพื่อเปลี่ยนตู้เย็นใหม่ให้ช่วยเยียวยาความเสียหาย แต่ว่าในอีกทางหนึ่งถ้าพิจารณากันคือ มันเหมือนเป็นการทำลายหลักฐาน แล้วก็ถ้าพูดกันจริงๆ ถ้าจะเอากันจริงๆมันเข้าข่ายลักทรัพย์นะนี่ คือไปยิงถล่มเขาแล้วก็ยกตู้เย็นไปอะไรอย่างนี้ คือภาพที่เห็นเนี่ย คงพอนึกออกนะ ถ้าตู้เย็นใหญ่ๆมันก็เป็นเหมือนบังเกอร์ดีๆนี่แหละ

สำราญ – ตอนนี้มันก็เกิดปม หมายค้นที่ว่า มีตามคำพูดของคุณวิทยา บูรณศิริ สส.อยุธยา เขาบอกว่าหมายค้นนี่ค้นตอนเช้านะ โอเคคุณไปเฝ้าไปเฝ้าได้ ไปด้อมๆมองๆห่างๆหน่อยนะ แต่นี่ไปถล่มบ้านเขาน่ะ นี่ถ้าคำพูดนี้เป็นจริงนะ ว่าหมายค้นตอน 6 โมงเช้านะ แล้วสันนิษฐานว่าหมายค้นมีจริงไหม อาจจะมีจริงก็ได้ คงมีนะ จะค้นเมื่อไหร่ คือหมายค้นก็เป็นประเด็น ทำไมยิงกันเป็นชุดอย่างนั้น คือคุณยงยุทธปกติแกจะมีชุดของแกนะ มีจากขอนแก่นบ้าง จากกองปราบบ้าง เที่ยวนี้เนี่ยปรากฏเป็นข่าวแล้วก็เท่าที่ทราบมา ข้อมูลมาจากตำรวจขอนแก่นที่เป็นชุดของคุณยงยุทธ พล.ต.ท.ปรีชา ชุตินันทร์ ถ้าจำชื่อไม่ผิด ถ้าผิดก็ขออภัย แล้วก็มีจากกองปราบบางคนนะ เป็นผู้กำกับทำนองนี้ก็มาผสมกัน เที่ยวนี้ก็เอากองปราบไปด้วย เพราะทราบมาว่ากองปราบเองก็ไม่ค่อยสบายใจ เพราะพอเกิดเหตุแล้วนี่ คนที่ต้องรับเต็มๆนะครับ ในเชิงของข้อเท็จจริง ของปฏิบัติการก็คือกองปราบ คือต้องไปเคลียร์สถานการณ์

คำนูณ – ขณะที่คุณยงยุทธ ติยะไพรัชนั้นกระโจนเลย

สำราญ – คุณยงยุทธก็บอกว่านี่ไปตอนเช้า ก็ปฏิเสธว่าผมไม่เกี่ยวนะ

สโรชา – คือตอนแรกนี่มีข่าวมาว่า แกไปพูดกับคนในบ้าน แกก็รีบออกมาบอกว่าไม่ได้พูดคุย มาพูดหลังจากนั้น เดินทางเพิ่งไปถึง คือพูดง่ายๆว่าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์คืนนั้น

คำนูณ – คือถ้าเผื่อว่าแกเป็นคน พูดกันตรงๆนะ ถ้าแกเป็นคนได้ข้อมูลมาแล้วก็ส่งข้อมูล แล้วเป็นคนที่เรียกว่านำปฏิบัติการ แล้วเสร็จแล้วออกมาพูดอย่างนี้ถือว่าใช้ไม่ได้ ไม่เป็นลูกผู้ชายเลย

สำราญ – คือในเชิงรับผิดชอบก็รับผิดชอบไปเลย คือจริงๆนะ เราดูอย่างลูกชายที่เสียชีวิตไปที่เรือนจำ ถ้าพูดตามอธิบดีกรมราชทัณฑ์ คุณนที จิตสว่างเนี่ย ก็คือน้องคนนี้หลังจากโดนข้อหาลักทรัพย์แล้วติดคุก ก่อนหน้าโน้นรอลงอาญาคดีมีเฮโรอีนไว้ในครอบครอง แต่สุดท้ายที่เสียชีวิตนี่เขาบอกว่าเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ตามที่อธิบดียุติธรรมพูด แล้ววันนี้คุณหมอพรทิพย์ก็ไปพิสูจน์ศพเป็นครั้งที่ 2 แล้วก็ยืนยันว่า ที่ถูกทำร้ายไม่ใช่ แต่ถึงกระนั้นก็ต้องรอการพิสูจน์ คำยืนยันจากนิติเวชเป็นอีกครั้งหนึ่งในวันจันทร์ แล้วยิ่งกว่านั้นคือร้อยโทลูกของคุณลุงเอง ก็เป็นร้อยโทอายุ 41 ปี ก็ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงอะไรเล็กน้อยในเชิงลบๆนะครับ นี่ตามข่าวนะ นี่ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง แต่ประเด็นเฉพาะหน้าประเด็นหลักของมันคือ ตำรวจอำนาจรัฐทำเกินกว่าเหตุกับชาวบ้าน ต้องตอบให้ได้

สโรชา – ก็จะตอบได้หรือเปล่า

คำนูณ – ตอบไม่ได้ก็หน้าแตกกันไป ท่านนายกท่านก็ไม่รู้จะพูดยังไง

สำราญ – ท่านนายกก็พูดไม่ค่อยออกงานนี้ พูดตรงๆ ตอนแรกท่านกลับมาจากออสเตรเลีย ก็เหมือนกับที่คุณคำนูณบอก คือพูดไม่เต็มปาก

คำนูณ – คือวันแรกก็เหมือนกับก็ฟัง ก็พูดแค่ทางคุณยงยุทธน่ะ ตามที่ได้รับข้อมูลจากคุณยงยุทธ แต่ว่าก็พูดไว้ว่าไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ได้บอกให้คุณยงยุทธเลิกแล้ว คือไม่ต้องไปยุ่งให้เป็นเรื่องของตำรวจไป

สโรชา – ไม่ต้องนำทีมไปปฏิบัติการเอง อะไรทำนองนั้นใช่ไหมคะ

คำนูณ – เป็นเลขาธิการนายกอยู่ดีๆก็ เกิดอยากจะเป็นหัวหน้าฉก.อะไรซักอย่างหนึ่ง

สโรชา – อันนั้นคือท่านก็มีผลงานเรื่องส่วย taxi
คำนูณ – คุณยงยุทธก็ไปโน่นเลย ตีโพยตีพายว่าเป็นแผนทำลายแก ถ้าแกไม่อยู่ตรงนี้แล้ว ทุกอย่างงานมันจะไม่เดิน

สำราญ – คือผมว่ามันกำลังเพลินไง

สโรชา – คือมันหลายเหตุการณ์แล้วไงที่มีผลงานมา

สำราญ – คือมีการตั้งผู้สื่อข่าว ช่างภาพบางช่องนะ เป็นผู้ช่วยพนักงานสอบสวนนะ ไปหาข้อมูลก่อน ไปทำข่าววีดีโอ ถ่ายอะไรอย่างที่คุณยงยุทธให้สัมภาษณ์ แต่เขาไม่ระบุว่าเป็นผู้สื่อข่าว ผมทราบมา ทีวีบางช่องไปทำสกู๊ป แล้วช่องนั้นก็ได้ข่าวก่อนเพื่อนทุกทีเลย จนเป็นที่อิจฉาของช่องอื่นๆ

สโรชา – ก็ติดตามกันต่อไปค่ะ สำหรับเรื่องราวของบ้านนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำรวจที่จะต้องออกมาตอบคำถามค่อนข้างจะเยอะ ในกรณีนี้นะคะ เดี๋ยวเราจะพักกันซักครู่นึงค่ะ กลับมายังคุยกันต่อ เรื่องราวของข่าวต่างประเทศและก็นอกจากนี้ยังจะดูไปถึงสัปดาห์หน้าด้วย เดี๋ยวซักครู่เดียวค่ะ
*******************************

สโรชา – กลับมาช่วงสุดท้ายของก่อนจะถึงวันจันทร์ ก่อนที่จะไปติดตามเรื่องราวของต่างประเทศ คุยกันเรื่องในประเทศต่ออีกซักนิดนึง เรื่องราวของคุณครูซึ่งสารภาพว่าได้วางยานักเรียนชั้นอนุบาล จนกระทั่งมีอาการอาเจียน แล้วก็อาหารเป็นพิษไปหลายสิบคนเลย เข้าโรงพยาบาลกันไป เป็นไงคะ สรุปสาเหตุที่เธอตัดสินใจทำอย่างนี้มันคือยังไงกันแน่

คำนูณ – สรุปคือแกมีปัญหาสภาพทางจิต

สโรชา – คือไม่ได้เจตนาจะล้างแค้นใครตามที่เป็นข่าว

คำนูณ – ครับ ไม่ได้ล้างแค้นใคร คือ อาจจะอะไร ล้างแค้นโชคชะตา คือลูกแกเสียชีวิตแล้วแกก็คิดถึงลูกมาก แกก็บอกว่าเวลาแกเห็นเด็กๆทุกคนอยู่อย่างมีความสุข เจริญเติบโตอะไรนี่ คล้ายๆแกอิจฉา ทำไมเด็กพวกนี้ยังมีชีวิตอยู่ แล้วลูกแกไม่อยู่ ประกอบกับแกเป็นหนี้นอกระบบอยู่ ต้องจ่ายดอกแพงหรืออะไรประมาณนี้ แกก็มีปัญหาสภาพทางจิต จนกระทั่งสุดท้ายนี่แกก็พยายามฆ่าตัวตาย ทางเจ้าหน้าที่เขาก็คงจะสังเกตอยู่แล้วอยู่แล้วล่ะ ว่ามีพิรุธอะไรเนี่ย เพราะแกพยายามฆ่าตัวตาย แกก็อาจจะรู้สึกผิดหรืออะไรต่ออะไรผสมกันปนเปกันไป ก็เลยได้ความอย่างนั้น ก็คงไม่ใช่เรื่องที่จะไปประณามว่าเป็นครูใจยักษ์ แต่ก็คงจะเป็นเรื่องที่น่าจะต้องแสวงหามาตรการ รวมทั้งครูคนอื่นด้วย คือบางครั้งนี่ผมเนื่องจากอยู่ในวัยที่ลูกอยู่อนุบาลเล็กๆ ผมก็เห็นว่าครูอนุบาลเป็นครูที่ต้องเสียสละมาก เป็นทั้งครูที่สอนหนังสือ เป็นทั้งเสมือนพี่เลี้ยงเด็ก ทำทุกอย่างให้กับเด็กอะไรอย่างนี้ แล้วก็ผมคิดว่าครูอนุบาลเนี่ย รายได้ไม่ได้มากกว่าครูชั้นอื่นๆ อาจจะต่ำกว่าด้วยซ้ำไป แล้วก็กับบางโรงเรียนเนี่ย ผมว่าเด็กทุกคนพ่อแม่ที่ส่งลูกไปโรงเรียนเนี่ย จะมีฐานะทางเศรษฐกิจอาจจะดีกว่าคุณครู เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าครูแต่ละคนเนี่ย ท่านประสบปัญหาอะไรอยู่บ้าง ปัญหาการเรียน ปัญหาการงาน ปัญหาชีวิต หรือปัญหาเศรษฐกิจ ก็น่าเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน ว่าจะเกิดการเปรียบเทียบ เกิดความอิจฉาอะไรได้บ้างหรือเปล่า

สโรชา – คือมนุษย์นะคะ คือบางครั้งเราก็อดคิดขึ้นมาไม่ได้ โดยเฉพาะบางโรงเรียนซึ่งจะเป็นลักษณะว่า มีแต่ลูกคนมีอันจะกินมาเรียน ก็จะลงจากรถเบนซ์ บีเอ็ม รถตู้มีคนขับรถมีพี่เลี้ยงมาส่ง ในขณะที่คุณครูเองก็ต้องดูแลน้องๆเหล่านี้อย่างดีที่สุด แต่กลับกลายเป็นว่ายังใช้ชีวิต ยังต้องฝ่าฟันเรื่องของเงินทอง เรื่องของความเป็นอยู่มากพอสมควร

คำนูณ – บางทีนะครับ คุณครูที่เป็นคุณแม่อยู่ด้วย ลูกตัวไม่มีโอกาสเรียนโรงเรียนที่ตัวเองสอน เพราะว่าไม่สามารถที่จะสู้ค่าใช้จ่ายในโรงเรียนนั้นได้ อันนี้ผมเคยเจอมาในโรงเรียนที่ลูกผมเรียน ซึ่งอันที่จริงก็ไม่ใช่ว่าแพงเกินเลย เป็นโรงเรียนของรัฐบาลด้วยซ้ำไป แต่ว่าลูกของคุณครูเมื่อถึงชั้นหนึ่ง เขาก็จะเอาออกไปเรียนที่อื่น เพราะถึงแม้ว่าจะได้สิทธิได้อะไรตามสมควร แต่ว่ายังมีค่าใช้จ่ายอะไรบางประการ บางทีเราเห็นเราก็สะท้อนใจเหมือนกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นเนี่ย ผมคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องไปประณามครูท่านนี้ คงต้องย้อนกลับมาคิดแล้วก็ แต่อย่างน้อยผมคิดว่ามาตรการดูแลรักษาครูที่สอนเด็กอนุบาล

สำราญ – อาจารย์ใหญ่หรือผู้อำนวยการโรงเรียน ก็ต้องสอดส่องดูด้วยเหมือนกัน ถ้าคุณครูคนไหนมีปัญหาคือ เราเรียกว่ามีปัญหาได้

คำนูณ – คือจะบอกให้เป็นการตรวจสภาพจิตคุณครูก็คงจะไม่ใช่อย่างนั้น

สำราญ – ต้องไปสอดส่องหรือว่าดูแลกันหน่อย ถ้าเกิดว่าครูคนนั้นมีปัญหาทางจิต ยิ่งต้องเข้มงวดเป็นพิเศษ

คำนูณ – ต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม

สโรชา – แต่เขาจะกลัวไหมคือเราพูดถึงกรณีคุณครูคนนี้ ที่สูญเสียลูกไปแล้วก็ทำงานต่อไป ถ้าหากว่าเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนหรือว่าดูแลตรงนี้อยู่ แล้วบอกว่าคุณครูอาจจะต้องไปพักซักครู่นึง ซักพักนึงไหม เพื่อที่จะไม่สร้างสิ่งกระทบกระเทือนจิตใจ แต่กลับกลายเป็นว่าเหมือนกับไปทำให้เขา ซ้ำร้ายไปกว่านั้นอีก คือต้องตกงาน ต้องไปพัก ต้องไปอะไรรึเปล่า คือบางครั้งมันก็ละเอียดอ่อนพอสมควร ว่าเหมือนกับว่าไปลงโทษเขาซ้ำเติมอีก

สำราญ – คือผู้บริหารโรงเรียนต้องดูแล โดยนโยบายต้องดูแลครูอยู่แล้ว เป็นคุณภาพของโรงเรียน คือครูนี่เป็นเรื่องที่ต้องสอดส่องดูแล และเป็นตัวจักรที่สำคัญมาก

คำนูณ – คือเรื่องนี้นอกจากสอดส่องดูแลชีวิตครูแล้ว สภาพความเป็นอยู่ของครู อีกอย่างหนึ่งคือ ผมว่าโรงเรียนทุกโรงเรียนจะต้องมีมาตรการ ที่เข้มข้นขึ้น ในเรื่องห้องอาหาร ใครจะมีส่วนเข้าไปประกอบอาหาร การรักษาอนามัยอะไรยังไง การเอาวัสดุอะไรเข้าไป

สโรชา – ตอนนั้นก็มีเรื่องนมเสียทีนึงใช่ไหม

คำนูณ – ใช่ อย่างน้อยโรงเรียนที่เกิดขึ้นก็ต้องยอมรับว่า มาตรการเหล่านี้คงจะหละหลวมไป

สโรชา – ไปเรื่องราวของต่างประเทศ ดิฉันขอข้ามไม่พูดถึงเรื่องอิรักนะ จริงๆแล้วก็มีจับตัวประกันฟิลิปปินส์ก็ยังอยู่ในการควบคุมของผู้ก่อการร้ายอยู่ เขาต่อยืดเวลาให้ 24 ชั่วโมง เพราะว่ามีเสียงเรียกร้องเยอะ ให้รัฐบาลถอนทหารออก จริงๆแล้วมี 50 กว่านายเองนะ แต่ว่าโดยบทบาทแล้วฟิลิปปินส์ก็ค่อนช้างจะเป็นพันธมิตรที่สำคัญของสหรัฐ แต่ว่าไปดูเรื่องราวของการเลือกตั้งประธานาธิบดีโดยตรงเป็นครั้งแรก ในอินโดนีเซียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ถือว่า ผลออกมาตามโผว่า อดีตรัฐมนตรีความมั่นคง คุณสุสิโล บัมบัง ยุโดโยโน คนนี้แหละค่ะ ก็เป็นผู้ที่ชนะมาเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยคะแนนประมาณ 33.9% ก็ถือว่าตามโผ เพราะว่าเขาก็ฟันธงกันมาตั้งแต่แรกแล้ว โดยที่ประธานาธิบดีเมกาวาตีได้ประมาณ 24.9% ก็มาเป็นอันดับสอง แต่ว่าโดยกฎหมายของอินโดนีเซียแล้วเนี่ย เขาจะต้องมีคนชนะมากกว่า 50% ถึงจะได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานาธิบดี ถ้าหากว่ามีใครไม่ถึง 50% ก็จะเอาอันดับหนึ่งกับอันดับสองมาแข่งกันอีกทีหนึ่ง แล้วดูว่าใครชนะ คนนั้นแหละก็จะก้าวเป็นผู้นำประเทศ คนต่อไป โดยจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 20 กันยานะคะ ก็โดยจะมีคุณยุโดโยโนเนี่ยกับประธานาธิบดีเมกาวาตีสู้กัน อีกครั้งหนึ่ง โดยนักวิเคราะห์เขาก็บอกว่า มันค่อนข้างจะดูยาก ผู้ที่ลงคะแนนให้กับผู้ที่ไม่ได้มาชิงอันดับหนึ่งอันดับสอง ก็อาจจะเทคะแนนให้คนใดคนหนึ่ง โดยที่คงยากที่จะฟันธงว่าใครจะได้ แต่ที่แน่ๆที่น่าสังเกตและน่าสนใจก็คือ วิธีการลงคะแนนของเขา บัตรนี่นะคะ เขาใช้วิธีการใช้เล็บเนี่ยเจาะเป็นรูตรงชื่อของผู้ที่ต้องการจะเลือก และในครั้งนี้เขาบอกว่าบัตรเสียเนี่ยเป็นล้านๆใบเลย เพราะว่าคนเนี่ย อาจจะไปเกี่ยวโดนสองที่ หรืออาจที่ไม่ชัดเจนว่าต้องการที่จะเลือกใคร เพราะว่าเล็บคนเราเนี่ย บางคนเล็บสั้นเวลาจิกจะลงคะแนนก็จะลำบาก ปรากฏว่าตอนนี้กำลังมีการนับคะแนนใหม่ใน 30 กว่าจังหวัดทั่วประเทศ เพราะว่าบัตรเสียนี่มีเป็นล้านๆใบ และคาดว่ามันก็คงเป็นเพราะเหตุนี้แหละ บางคนเขาอาจจะไม่ชัดเจน

คำนูณ– เขาคิดยังไงถึงใช้วิธีแบบนี้

สโรชา – ไม่รู้ไม่แน่ใจ เขาบอกว่ากากบาทน่าจะง่ายสุดนะ แต่ว่ากากบาทนี่ก็มีบัตรเสียพอสมควร

คำนูณ – อย่างนี้ถ้าเลือกตั้งกันเยอะๆนี่ บางประเทศต้องเป็นแบบนายตรวจรถเมล์บ้านเรา ไว้เล็บ

สโรชา – ไว้เล็บเยอะแบบยาวมากๆ ก็ติดตามวันที่ 20 กันยายน จะมีการเลือกตั้งรอบสอง ทีนี้มาดูเรื่องเบาๆกันบ้าง นี่เป็นวิธีการตลาดของบริษัทผลิตเบียร์ของญี่ปุ่น เขานำวิธีการผลิตเบียร์ของอียิปต์ ในปีระมิดนี่นะคะ ตามผนังก็จะมีเหมือนกับสูตรการผลิตเบียร์เขียนอยู่ ก็จะไปนำสูตรนั้น ของจริงเลยนะคะ มาผลิตเบียร์ออกมาซึ่งเป็นชื่อยี่ห้อของญี่ปุ่นชื่อ คีริว ก็เป็นยี่ห้ออันดับสองของญี่ปุ่นเขา โยกรรมวิธีการผลิตเหมือนแบบโบราณทุกอย่าง ทำให้เบียร์นี้แพงมาก เขาก็มาแจกให้ทานฟรีในเทศการการโปรโมทเบียร์ของเขา เพื่อที่จะสร้างชื่อเสียงนะคะ แต่ว่าถ้าเกิดว่าจะมาขายกันจริง เขาบอกว่าขวดนึงนี่ประมาณ 600 ดอลลาร์สหรัฐ หรือว่าประมาณ 24000 บาท เพราะว่าเป็นงานแฮนด์เมคทั้งหมดเลย นี่ก็แปลกดีนะ

สำราญ – เบียร์ฟาโรห์ หวังว่าคงไม่ไปจดสูตรผิดมานะ

สโรชา – ค่ะ สำหรับสัปดาห์หน้าก็ติดตามกันสำหรับการเมือง ในประเทศจะเข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหลังจากวันนี้เป็นต้นไป หมดเวลาแล้วค่ะ สำหรับก่อนจะถึงวันจันทร์ กลับมาพบกับเราสามคนได้ใหม่ในอาทิตย์ สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ

*****************************
กำลังโหลดความคิดเห็น