xs
xsm
sm
md
lg

รุมสวด“ระเบียบรัตน์”กังขาห้ามแม่หญิงไหว้พระธาตุ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาวล้านนาสวด “สว.ระเบียบรัตน์” จุ้นไม่เข้าเรื่อง หลังจากไม่ได้นมัสการพระธาตุดอยสุเทพถึงองค์พระธาตุ ชี้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติมายาวนานกว่า 600 ปี อย่าเหยียบย่ำจิตวิญญาณของพุทธศาสนิกชน ด้าน”มหาอุดม”สวนกลับ เป็นใคร ? ระบุประเพณี เหนือกว่ากฎหมาย หรือเสรีภาพ

ภายหลังจากที่นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ส.ว.ขอนแก่น รองประธานคณะกรรมธิการกิจการสตรี เยาวชน และผู้สูงอายุ วุฒิสภา เดินทางไปสักการะพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ และพระธาตุดอยตุง จ.เชียงราย ทว่า ไม่สามารถเข้าไปสักการะถึงองค์พระธาตุภายในได้ เนื่องจากมีประเพณีห้ามสตรีขึ้นไปสักการบูชาพระธาตุถึงองค์พระธาตุได้ ซึ่งต่อมานางระเบียบรัตน์ นำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมมาธิการฯ และนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานคณะกรรมกิการกิจการสตรี เยาวชน และผู้สูงอายุ วุฒิสภา มีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 21 มิ.ย.2547 ถึงพล.ต.ท.อุดม เจริญ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯมีความเห็นว่า การห้ามสตรีดังกล่าว น่าจะเป็นการขัดต่อสิทธิเสรีภาพของสตรี และเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อสตรี ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 30 จึงขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พิจารณาตรวจสอบ

อย่างไรก็ตาม นางระเบียบรัตน์ให้เหตุผลว่า เมื่อคณะกรรมาธิการฯเดินทางไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ พระธาตุดอยตุง จงเชียงราย และพระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูนพบว่า มีป้ายห้ามผู้หญิงเข้าไปไหว้ ทำให้เกิดความสงสัยว่า เพราะเหตุใด จึงนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ และที่ประชุมเชื่อว่าน่าจะขัดต่อสิทธิสตรี เพราะสตรีเป็นเพศที่ทำบุญมากที่สุด หากห้ามเข้า เหตุใดไม่ห้ามเข้าทุกที่ ทั้งพระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช จึงอยากทราบสาเหตุของข้อห้าม ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ และไม่ใช่ความคิดส่วนตัว แต่คณะกรรมาธิการฯทุกคนอยากทราบเหตุผล

นายวัลลพ นามวงศ์พรหม ประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมเชียงใหม่ และประชาสัมพันธ์วัดพระธาตุดอยสุเทพ กล่าวว่า ทันทีที่ทราบข่าว ตนและพระสงฆ์รวมทั้งองค์กรชาวพุทธรู้สึกไม่สบายใจ อาจถึงขั้นมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เกิดขึ้น ขณะนี้เอกสารดังกล่าวถูกกระจายไปยังชาวพุทธแล้ว ยอมรับว่ากระทบต่อจิตใจชาวพุทธ ตอนแรกที่เห็นหนังสือตกใจมาก ไม่น่าจะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น แต่เดิมเรื่องนี้มีการห้ามสตรีเข้าไปในเขตรั้วพระบรมธาตุดอยสุเทพฯ เหตุที่ห้ามเพราะหากย้อนไปในสมัยพระเจ้ากือนาธรรมิกราช ปี พ.ศ.1916 ได้มีการอัญเชิญพระบรมธาตุขึ้นดอยสุเทพ เอาผอบพระบรมธาตุวางลึกลงไปในดินกว่า 2 เมตร แล้วจึงสร้างพระบรมธาตุครอบไว้ มาในตอนหลังกษัตริย์ในราชวงศ์เม็งราย ก็สร้างพระเจดีย์ครอบไว้อีกชั้น สูง 15 เมตร ดังที่เห็นในปัจจุบัน ดังนั้น สถานที่ฝังพระบรมธาตุจะต่ำกว่า จึงมีการสร้างรั้วกั้นเอาไว้ โดยระบุว่า สถานที่แห่งนี้ให้พระสงฆ์ องค์เจ้า สุภาพบุรุษเข้าไปเท่านั้น ส่วนสุภาพสตรีห้ามไม่ให้เข้าไป เป็นธรรมเนียมปฏิบัติมายาวนานกว่า 600 ปี แล้ว

“ทุกวันนี้พุทธศาสนิกชนที่ขึ้นไปก็อยู่ได้เพียงนอกรั้วเท่านั้น เป็นสิ่งเคารพอันสูงสุด เป็นจิตวิญญาณของประชาชนที่ถือว่าพุทธศาสนา หรือองค์พระพุทธรูปเป็นสิ่งสูงสุดที่เรายกย่อง ไม่สามารถอธิบายให้ลึกซึ้งได้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทุกคนปฏิบัติเช่นนี้มาโดยตลอด ไม่คิดว่าบุคคลที่เป็นตัวแทนของประชาชนได้อ่านเพียงแค่ข้อห้ามเช่นนี้แล้ว เอาไปเทียบหรือเรียกร้องสิทธิเท่าผู้ชาย นำเอาเรื่องที่อยู่เหนือจิตวิญญาณความรู้สึกนึกคิดของประชาชน ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี ขณะนี้เตรียมปรึกษาหารือกับสำนักงานพระพุทธศาสนา ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้เฒ่าผู้แก่ เจ้านายฝ่ายเหนือ สภาวัฒนธรรมและมหาวิทยาลัยต่างๆก่อน สำหรับนางระเบียบรัตน์นั้น แม้จะไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่ชื่นชอบในบทบาทและเห็นว่า ไม่ควรเอาเรื่องสิทธิสตรีเหยียบเข้ามาหาจิตวิญญาณของพุทธศาสนิกชน เอาเรื่องที่บรรพบุรุษเคารพนับถือมาแต่โบราณกาลมาเทียบได้อย่างไร งานอื่นยังมีให้ทำอีกเยอะ ไม่ทราบว่ามีจุดประสงค์อะไร สิ่งเหล่านี้ไม่น่าจะมีความคิดในปัญญาชนระดับผู้นำ”นายวัลลพย้ำ

นายบุญธรรม ยศบุตร เลขานุการมูลนิธิพระบรมธาตุดอยสุเทพ กล่าวว่า อันที่จริงทางวัดแค่ล้อมรั้ว ถือเป็นเขตกำแพงแก้ว อยู่รอบองค์พระบรมธาตุ ไม่ได้ล็อกกุญแจประตูหรือ ปิดประกาศห้ามเข้า เป็นที่รู้กันในหมู่ผู้คนที่มาทำบุญ ว่าเป็นเขตผู้หญิงห้ามเข้า เพราะพระบรมธาตุอยู่ใต้องค์พระเจดีย์ เขาถือกันมาตั้งแต่โบราณว่า ผู้หญิงมีประจำเดือนเป็นสิ่งไม่เหมาะสม ไม่เคยมีผู้หญิงคนใดเรียกร้อง มาตลอดระยะเวลากว่า 600 ปี เป็นผู้หญิงรายแรกที่เรียกร้อง

ด้าน พล.ต.ท.อุดม เจริญ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า การห้ามผู้หญิงขึ้นไปกราบนมัสการพระธาตุดอยสุเทพ เป็นเรื่องของประเพณี ที่วัดกับประชาชนในท้องถิ่นยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมานาน ผู้หญิงไม่ว่าจะเป็นใครก็ขึ้นไปไม่ได้ แม้แต่เจ้านายชั้นผู้ใหญ่ ก็ไม่เคยฝ่าฝืนข้อห้ามดังกล่าว

“อยากถามว่า นางระเบียบรัตน์ เป็นใคร ที่เที่ยวมาอ้างสิทธิเสรีภาพ คนที่จะยกเลิกได้คือประชาชนในพื้นที่ และไม่ใช่มีแต่พระธาตุดอยสุเทพเท่านั้น แม้แต่ วัดพระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูน ที่คณะรัฐมนตรีเพิ่งไปประชุมมา ห้องน้ำในวัดไม่มี ต้องไปเข้าที่อื่น ต่อมามีคนจะนำห้องนํ้าไปตั้งไว้ในวัด เพื่อให้รัฐมนตรีได้ใช้ บริการ แต่เจ้าอาวาส คือพระเทพมหาเจติยาจารย์ ไม่ยอม บอก ถ้าคณะรัฐมนตรีไม่อยากประชุมที่วัด เพราะไม่สะดวกก็ไม่ต้องมา ส่วนพระธาตุที่วัดก็ห้ามผู้หญิงขึ้นไปกราบนมัสการเหมือนกัน เพราะเรื่องของประเพณี เหนือกว่ากฎหมายหรือสิทธิเสรีภาพ” ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกล่าว

พระราชกวี ผช.เจ้าอาวาสวัดราชาธิวาส ในฐานะเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จารีตประเพณีของวัดทางภาคเหนือถือปฏิบัติกันมานานนับร้อยปีพันปีแล้ว จะมาทำลายด้วยข้ออ้างเรื่องสิทธิเสรีภาพไม่ได้ นางระเบียบรัตน์เองร่ำเรียนมาก็ไม่น้อย เป็นถึงภรรยาของปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำไมไม่ยอมเข้าใจ เรื่องของประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น แถมยังชอบทำตัวยุ่งไปทุกเรื่อง การไม่ได้ขึ้นไปกราบพระธาตุดอยสุเทพ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องตกนรก แต่การไปเรียกร้องทำลายสิ่งดีๆ นี่แหละที่จะทำให้ตกนรกแทน วัดอื่นๆที่เปิดให้ผู้หญิงขึ้นไปกราบไหว้ ก็มี ทำไมไม่ไป
กำลังโหลดความคิดเห็น