xs
xsm
sm
md
lg

'สนธิ'ระบุ “ตั๊ก บงกช” โชว์นมในหนังไม่ผิด แต่ตัวจริงต้องมีความเป็นไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สนธิ ระบุ “ชวน” แฉ ซื้อตัวส.ส.ตรัง 32 ล้าน เพื่อตีกันลูกพรรค หากยังดิ้นรนหนีตาย เจอข้อหาขายตัวแน่ และยังให้ความเห็นกรณี “ตั๊ก บงกช” ว่า โชว์นมในหนังไม่ผิด แต่ตัวจริงต้องมีความเป็นไทย พร้อมฟันธงสถานการณ์ในอิรักจะรุนแรงขึ้น รัฐบาลใหม่เอาไม่อยู่ และอีก 6 เดือน ราคาน้ำมันจะขึ้นเป็น 40 เหรียญ


สโรชา - สวัสดีค่ะ คุณผู้ชม ขอต้อนรับเข้าสู่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ อาหารสมองก่อนเข้านอนในทุกคืนวันศุกร์ค่ะ กลับมาพบกันเป็นประจำ กับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล และดิฉัน สโรชา พรอุดมศักดิ์ สำหรับวันนี้ วันที่ 2 ก.ค. 2547 ถือว่าเข้าปีที่ 2 ของรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ในรูปแบบใหม่ เรียกว่าเข้าปีที่ 2 กันแล้วคงจะเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่าเป็นเรื่องราว เป็นเรื่องที่เข้มข้นพอสมควร สำหรับข้อมูลข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นในบ้านเรา หรือว่าในต่างประเทศ อย่างที่ทราบกันดีว่าในประเทศอิรักเอง ก็มีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา คงต้องคุยกันในเรื่องนี้ แต่ก่อนที่จะไปคุยกันเรื่องของอิรัก การเมืองในบ้านเรายังไม่ถึงวันที่ 11 ก.ค. ดีเลยค่ะ ที่ส.ส.จะสามารถย้ายพรรคได้ แบบไม่ต้องเลือกตั้งซ่อม ก็เริ่มจะมีกระแสของการย้ายพรรค และดูดส.ส. ข้อกล่าวหาว่ามีการซื้อตัวกันเป็นหลัก20-30 ล้าน นี่มันยังไงค่ะ

สนธิ – 32 ล้าน คือท่านอดีตนายกฯชวนท่านออกมาบอกว่า มีคนพยายามซื้อคุณสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ด้วยเงิน 30 ล้าน บวกเงิน 2.4 ล้านบาท คือค่าใช้จ่ายเดือนละ 200,000 เป็นเวลา 1 ปี อ้างเสร็จเรียบร้อยว่า มีคนหนึ่งชื่อคุณทวี สุระบาล ส.ส.ตรัง ในทำนองว่ายังไงก็จะไปหักเหลี่ยมที่จ.ตรัง ก็ว่าเถอะ แต่ผมเคยเรียน พูดกับคุณสโรชา และท่านผู้ชมที่บ้านถ้าคุณสโรชาจำได้ว่าครึ่งปีหลัง จะเป็นครึ่งปีของการสาดโคลนกันเละเทะไปหมด ส.ส. สำหรับผมแล้ว โดยธรรมชาติแล้ว เราพูดถึงการเมืองที่เป็นจริงหน่อยนะ แทนที่การเมืองที่ควรจะเป็น ส.ส.เหมือนน้ำ ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำกว่า ส.ส. เมื่อสมัครส.ส. ก็อยากจะอยู่พรรคที่เป็นรัฐบาล ไม่มีใครอยากเป็นพรรคฝ่ายค้าน อย่างยิ่งแล้วส.ส.ที่อยู่ฝ่ายค้านมานานแล้ว อย่างสมมติพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งอยู่ฝ่ายค้านมา 4 ปี ปีนี้ขึ้นปีที่ 4 ถ้ามองว่า แนวโน้มจะต้องอยู่อีก 4 ปี ผมเชื่อคงมีคนพยายามดิ้นรนที่จะไปอยู่ที่อื่น

สโรชา – เพื่อไม่เป็นฝ่ายค้านอีก 4 ปี

สนธิ – จริงๆ แล้วผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ผมเองก็อยากจะให้พรรคไทยรักไทยหรือพรรคประชาธิปัตย์พูดออกมาตรงๆ เลยว่าพรรคไทยรักไทยก็สามารถบอกตรงๆ ได้ว่า ถ้าอยากมาอยู่พรรคไทยรักไทย พรรคประชาธิปัตย์ยินดีต้อนรับ แต่ประเด็นที่เขาเถียงกันคือว่า ทำไมคุณต้องให้เงินเขา

สโรชา – ใช่เหมือนกับไปซื้อตัวเขามา

สนธิ – ผมอยากจะเปรียบเทียบอย่างนี้ดีกว่า ว่ายุคหนึ่งสมัยหนึ่ง ตอนที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ตอนที่ท่านลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถ้าเราจำได้ ช่วงนั้นก็เป็นการแย่งชิงกันจัดตั้งรัฐบาล ด้านหนึ่ง ก็คือสายพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นหัวเรือใหญ่ในการที่จะจัดตั้งให้ได้ อีกด้านหนึ่งก็คือพยายามดิ้นรนที่จะให้ทางพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ตอนนั้นให้ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ทีนี้เสียงชี้ขาดมันอยู่ที่งูเห่า ก็คือ พวกอดีตลูกพรรคประชากรไทย ของคุณสมัคร สุนทรเวช ถ้าสังเกตให้ดีๆ ตอนนั้น กลุ่มงูเห่าที่ย้ายมาอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ หัวหน้าประกอบด้วย คุณวัฒนา อัศวเหม และอีกคนคือคุณยิ่งพันธ์ มนะสิการ สังเกตว่าที่มา เมื่อมาแล้ว สิ่งซึ่งเกิดขึ้นต่อไปคือว่า เมื่อพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลแล้ว คุณยิ่งพันธ์ มนะสิการ ก็ได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่อไปเหมือนเดิม ถ้าถามว่านี่เป็นการให้รางวัลกันหรือเปล่า ต้องตอบว่า เป็นการให้รางวัลกัน เพราะว่าคุณยิ่งพันธุ์ในขณะนั้นก่อนที่พล.อ.ชวลิต จะลาออก ก็เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ฯ กำลังดำเนินธุรกรรมทางด้านการจัดซื้อที่ดินให้กับบ่อบำบัดน้ำเสียสมุทรปราการที่มีเรื่องมีราวฉาวโฉ่จนทุกวันนี้ แต่ว่ายังดำเนินการไม่เสร็จ เพราะฉะนั้นแล้วถ้ามองว่าเป็นการแลกเปลี่ยนทางการเมืองกันกับผลประโยชน์มันจะต่างอะไรกับการซึ่งพรรคไทยรักไทยจะให้เงินคุณสมชาย 32 ล้าน เพื่อย้ายมา

สโรชา – มันคือการเมืองในความเป็นจริง

สนธิ – การเมืองในความเป็นจริงว่ามันต้องมีการตกลงกัน มีการแลกผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน ทีนี้พรรคการเมืองก็ต้องการเสียงประชาชนใช่ไหม เสียงประชาชนมาจากไหน ก็มาจากตัวแทนประชาชน เพราะฉะนั้นแล้วผมคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ผิด พรรคชาติพัฒนาก็ไม่ผิด พรรคชาติไทยก็ไม่ผิด พรรคไทยรักไทยก็ไม่ผิด ถ้าจะพยายามเอาส.ส.คนไหนของอีกพรรคหนึ่ง ซึ่งมีเสียงดีในจังหวัดนั้น ที่ตัวเองไม่มีฐานเสียงเข้ามาเป็นของพวกตัว ไม่ผิด

สโรชา – เท่ากับว่าดึงประชากรที่กลุ่มนั้นตรงนั้น ที่สนับสนุนตัวเองดึงมาด้วย ถูกไหมค่ะ

สนธิ - ถูกต้องครับ ซึ่งตรงนี้เราต้องยอมรับว่า พรรคการเมืองมันทำกันอย่างนี้ทั้งนั้นเลย แต่ประเด็นก็คือ คนที่นักเลงจริงนะ ผมจะบอกให้ คือคุณไพบูลย์ พิมพ์พิสิฐถาวร ส.ส. กาญจนบุรี พรรคประชาธิปัตย์คนนี้นักเลงจริงเขาพูดมานานแล้วนะ เขาบอกว่า มีคนถามว่าจะย้ายพรรคไหม เขาบอกว่าต้องดูก่อน อะไรก็เกิดขึ้นได้หมด เขาบอกว่าดูอย่างคุณกร ทัพพะรังสีซิ เคยอยู่พรรคชาติพัฒนายังย้ายไปอยู่พรรคไทยรักไทยได้ เพราะฉะนั้นตรงนี้ผมตอบไม่ได้ว่าจะย้ายพรรคหรือไม่ เพราะเหลือเวลาอีก 1 ปี เพราะถ้าไม่ย้ายแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ยุบพรรคจะทำยังไง

สโรชา – ก็พูดกันตรงๆ นะ คือไม่มีใครรู้อนาคต พูดง่ายๆ

สนธิ – ผมคิดว่าผมอยากจะให้นักการเมืองเมืองไทย พูดกันอย่างนี้บ้าง คืออย่าไปอ้ำอึ้ง

สโรชา – แล้วที่บางท่านเขาออกมาให้ข่าวว่า ย้าย ถ้าเกิดให้ตำแหน่งรัฐมนตรีก็ย้าย คุณสนธิคิดยังไงค่ะ ตรงเกินไปหรือเปล่า

สนธิ – ผมคิดว่าหนึ่ง เป็นเรื่องตรง และเป็นเรื่องที่รู้ตัวว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าผมคิดว่าประเด็นต้องเข้าใจว่า ใน 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ในยุคพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ตอนนั้นต้องยอมรับว่า ท่านนายกฯ ชวนก็ไม่ว่าอะไร ที่พล.ต.สนั่นไปทำเช่นนั้น ตอนนั้นก็มีนโยบายว่าจะสร้างพรรคใหญ่ รับสมาชิกใหม่ที่มีศักยภาพ ก็รับมาจากพรรคการเมืองอื่น มีทั้งทุนท้องถิ่น อิทธิพลท้องถิ่น ทุนชาติ มีจุดขายอยู่ตรงที่ว่ามีโอกาสสูงในการเป็นรัฐบาลก็เลยมีคนเข้ามาเยอะ ซึ่งก็ไม่ได้ต่างกับ ณ วันนี้ซึ่งพรรคไทยรักไทยทุกวันนี้ขายอยู่ตัวเดียวคือว่า เป็นรัฐบาลแน่นอน คุณมา ถ้าคุณไม่มา คุณตกรถไฟ

สโรชา – เขาอาจจะแย้งได้ไหมค่ะว่า บางพรรคตอนที่เขาเป็น เขาไม่ถึงขนาดมีข่าวว่าไปซื้อตัวมาในลักษณะที่เป็นข่าวอย่างในปัจจุบัน เขาสามารถแย้งได้ไหมค่ะ

สนธิ – ผมคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ ยุทธศาสตร์ของการตีกันลูกพรรค ไม่ให้ตีจากพรรค เพราะถ้ายังดึงดันดิ้นรนหนีตายก็จะถูกข้อหา คุณขายตัว ก็เลยดำเนินการขับไล่ออกจากพรรค และพรรคใหม่ที่รับเข้าไป ก็เหมือนกับรับซากศพที่มีกลิ่นเน่าเหม็นเข้าไป เพลงอาวุธเช่นนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการตอกย้ำวาทกรรมอีกอย่างหนึ่งว่า พรรคไทยรักไทยนิสัยเสียชอบซื้อคน ชอบใช้เงิน คือ หนึ่งดาบฟันไปทีหนึ่ง แต่ได้สองแผล เพราะฉะนั้นแล้วธรรมชาติการเมืองถึงจะเป็นต่อแต่ชัยชนะโดยไม่ต้องแข่งขันและโดยดึงคู่ต่อสู้ม้าเป็นพวกได้ มีหรือว่าพรรคไทยรักไทยจะปฏิเสธ เพราะฉะนั้นแล้วผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของธรรมชาติ ไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้น

สโรชา – แต่มีอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่พูดไม่ได้ เพราะเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์เหลือเกิน สำหรับสัปดาห์นี้ คือเรื่องราวของคุณตั๊ก บงกช ภาพของเธอที่ไปเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต

สนธิ – เมื่อวานนี้คุณสรยุทธได้ออกเรื่องนี้ไปแล้ว แต่ผมคิดว่า ผมก็มีความคิดเห็นอีกแบบหนึ่งในวันนี้

สโรชา – คุณผู้ชมละคะ มีความคิดเห็นอย่างไร เกี่ยวกับเรื่องนี้นะคะ เราเรียนถามวันนี้ว่า คุณผู้ชมเห็นใจคุณตั๊กหรือไม่ นะคะ ถ้าเห็นใจกด 91 ไม่เห็นใจ กด 92 ค่ะ ส่งมาที่ 84820 และในหมายเลขโทรศัพท์ 02-201-6055-60 ค่ะ ขอบคุณฟรีอินเตอร์เน็ตที่เอื้อเฟื้อระบบเอสเอ็มเอสให้กับเราค่ะ พักซักครู่เดี๋ยวกลับมาคุยกันถึงคุณตั๊ก บงกช ค่ะซักครู่เดียว

**********

สโรชา – กลับมาสู่เมืองไทยรายสัปดาห์นะคะ มาเริ่มต้นกันด้วยเรื่องราวของคุณตั๊ก บงกช ค่ะสำหรับภาพของเธอที่ไปเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ตมีข่าวหลายกระแสค่ะคุณสนธิ ไม่ว่าจะเป็นมีคนในกองถ่ายแอบถ่ายเธอและนำมาเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต มีการโปรโมตดีวีดีที่จะวางแผนในต้นเดือนนี้ สัปดาห์หน้าที่จะถึง แน่นอนค่ะ เชื่อว่าคุณสนธิจะต้องมามุมมองที่แตกต่างออกจากกระแสปกติที่เราคุยกัน

สนธิ – มุมมองที่ผมมี มีอยู่ 2-3 ประการ ประการแรกถ้าคุณสโรชาถามผมว่า ภาพหลุดไปตอนไหนเมื่อคืนผมดูรายการคุณสรยุทธ ผมฟังคุณพันธุ์ธัมม์ พูดผมก็อยากจะพูดเหมือนกันนะ ถ้าผมอยู่ในรายการนั้น ผมอยากจะบอกว่าไม่ต้องถามผมรู้เลยว่าหลุดที่ไหน มันหลุดในช่วงซึ่งเขาเอาเทปเบต้า เอาไปคอนเวิร์สเป็นดิจิตอล เพื่อที่จะใช้ระบบดิจิตอลลบเทปที่เขาปิดข้างล่าง หลุดตรงนั้น และผมเชื่อด้วยว่า ใครทำหลุด

สโรชา – ตอนที่ทำเอฟเฟคที่บอกว่า กองเซ็นเซอร์ห้ามและมานำทำให้ผมยาวขึ้นปิดตรงนั้น

สนธิ – ครับ ตอนที่คอนเวิร์ส จากเบต้า เป็นดิจิตอล พอเป็นดิจิตอล หลุดตอนนั้น ช่างมันเถอะ เรื่องนี้ต้องแบ่งเป็น 2-3 ส่วน ส่วนแรกผมจะพูดเรื่องวัฒนธรรมไทยก่อนแล้วเราค่อยมาพูดถึงเรื่องภาพยนตร์ และเราค่อยมาพูดถึงเรื่องคุณตั๊ก บงกช คงมาลัย วัฒนธรรมไทย คุณสโรชาเรียนเมืองนอกมากี่ปี ถามจริงๆ

สโรชา - 14 ปีค่ะ

สนธิ – วันนี้เท่าไร่

สโรชา – ไม่ถึง 30 ค่ะ คุณ

สนธิ – แสดงว่าคุณไปเมืองนอกอายุ 16

สโรชา – ประมาณนั้น แต่จริงๆ แล้วไปตั้งแต่เด็ก ๆ และกลับมาช่วงหนึ่งค่ะ

สนธิ – คือผมไม่แคร์ว่าคุณจะไปเมืองนอก คุณอยู่เมืองนอกตั้งแต่ 1 ขวบ จนคุณจบซุปเปอร์ด็อกเตอร์นะ แต่ว่าถ้าดีเอ็นเอคุณเป็นคนไทยหรือดีเอ็นเอคุณเป็นคนจีน เป็นคนญี่ปุ่น และคุณกลับมาบ้านเกิดเมืองนอน สังคมไทย วัฒนธรรมตรงนี้ไม่สำคัญว่าคุณจะไปอยู่เมืองนอกตั้งแต่เด็ก ๆ หรือว่าคุณเรียนหนังสือสูงแค่ไหนก็ตาม พูดภาษาฝรั่ง เป็นน้ำเลยก็ตามแต่ว่าดีเอ็นเอวัฒนธรรมมันบอกว่ามีบางสิ่งบางอย่างของความเป็นคนไทยที่คุณทำเกินเลยไม่ได้ ถึงแม้คุณจะเป็นซุปเปอร์ด็อกเตอร์

สโรชา – ค่ะ มีข้อกำหนดในตัวมันเองอยู่

สนธิ – แน่นอนในตัวมันเองเลยเหมือนคุณนั่งอยู่ในบ้าน เมื่อคุณกลับมาเป็นซุปเปอร์ด็อกเตอร์คุณใส่รองเท้าเดินเข้าบ้านไม่ได้ ในขณะที่ทุกคนถอดรองเท้า ถามว่าทำไม หรือว่าคุณนั่งไขว้ห้างและคุณจะเอาเท้าคุณชี้ปลายเท้าไปที่หน้าคน คุณก็ไม่ทำ ทำไมต้องเป็นอย่างนั้นละ เพราะว่าวัฒนธรรมซึ่งมันอยู่ วัฒนธรรมมันอยู่เหนือสิ่งอื่นใด ใช่ไหมครับ ตรงนี้ต่างหากซึ่งผมคิดว่าคุณตั๊ก และตลอดจนผู้สร้างภาพยนตร์หลายๆ คนยังไม่เข้าใจตรงนี้ ผมยังไม่พูดเรื่องภาพยนตร์เรื่องไอ้ฟักนะ ผมจะพูดต่อนะ และมันเกี่ยวข้องกับวงการบันเทิงเมืองไทยด้วย ทีนี้มันก็เลยกลายเป็นว่า เดี๋ยวนี้ถ้าจะทำอะไรที่ผิดวัฒนธรรมไป ก็จะมีข้ออ้าง อ้างยังไง ชอบอ้างว่า โลกเขาก้าวหน้าไปไหนแล้ว ยังย่ำเท้าอยู่กับที่ ทำไมคนที่ก้าวหน้าทางจิตใจ ทางปัญญา เขาก้าวหน้าทางปัญญา แต่จิตใจเขาไม่เสื่อม แต่ถ้าคุณก้าวหน้าแบบที่คุณบอกนี่แสดงว่า จิตใจคุณอยู่กับที่ ปัญญาคุณอยู่ที่ คุณเสื่อม คุณย่ำอยู่กับที่ ถูกไหม มนุษย์เราเขาวัดความก้าวหน้า วัดกัน 2 แบบ ผมวัดที่จิตใจคุณกับปัญญาคุณ อีกประเภทหนึ่ง วัดที่ว่า ถ้าฝรั่งมันแก้ผ้า เราต้องกล้าแก้ผ้า ต้องกล้าเท่ากับฝรั่ง ไม่ใช่ เพราะทุกอย่างมันมีการแยกแยะ ทุกอย่างมันมีที่มาที่ไป ทุกอย่างมันมีรากเหง้า เหมือนอย่างที่ผมพูด เด็กไทยหลายคน นี่ไม่ได้พูดและไม่ได้ยอ คุณสโรชา เป็นหนึ่งในตัวอย่าง เพราะคุณอยู่เมืองนอกตั้งแต่เล็ก แต่คุณเองก็สามารถที่จะผสมผสานตัวคุณเข้าไปในวัฒนธรรมไทยซึ่งดูแล้วไม่น่าเกลียดตรงนี้ต่างหากที่ผมอยากจะฝากไปให้สังคมไทย คือผมเห็นใจคุณตั๊ก อย่างมากๆ เห็นใจตรงที่ว่าเมื่อแกอายุ 15 แกเล่าให้ฟัง ให้สัมภาษณ์ แกสู้ชีวิตมาตั้งแต่อายุ 15

สโรชา – เล่าตรงไปตรงมา

สนธิ – แกเป็นคนที่น่ารักตรงที่แกเป็นคนโผงผาง ผมว่าแกขาดการอบรมสั่งสอนที่ถูกต้อง เพราะคนที่สู้มาตั้งแต่ 15 ไม่ได้แปลว่าคนซึ่งสู้ชีวิตจะต้องไปขายนม ขายเต้า เขาก็สามารถที่จะได้ดิบได้ดี โดยทำอะไรก็ตามที่มีจริยธรรมและมีศีลธรรมที่ดี ไม่เป็นไร ถ้าอยากจะเข้าวงการนี้ เพื่อที่จะเล่นบทโป๊ หรือบทอล่างฉ่างโดยใช้สรีระของตัวเองซึ่งได้เปรียบกว่าคนอื่น เอาไปขายตัวตรงนั้น ขายในฟิล์ม ถ้าจะเล่นเป็นศิลป์ก็เล่นเป็นศิลป์ไปเลย ผมไม่ว่า แต่เมื่อออกจากจอภาพยนตร์แล้ว ออกจากหน้ากล้องแล้ว ชีวิตส่วนตัวจะต้องมีดีเอ็นเอของคนไทยเต็มตัว

สโรชา – คือในฉาก บทละครจะเล่นเป็นตัวไหน บทไหนก็ทำตามนั้นไป แต่เมื่อกลับมาเป็นคุณตั๊กหรือคุณอะไรก็แล้วแต่

สนธิ – อยู่ที่บ้านต้องมีสัมมาคารวะ ต้องไม่ได้แสดงออกด้วยการแต่งตัว ซึ่งโป๊ ยั่วยุ หรือการแสดงออกที่ทำแล้วเหมือนกับตัวเองแสดงบทนั้นอยู่ในภาพยนตร์ ตรงนี้ต่างหากที่ผมเป็นห่วง

สโรชา – ถ้าเขาโต้แย้งว่า สมัยนี้แฟชั่น วัฒนธรรมหรือค่านิยม

สนธิ – ก็กลับไปบอกว่า รากเหง้าของเรา หรือดีเอ็นเอของเรา วัฒนธรรมไทยมันเป็นอย่างนี้ ผมยอมรับว่าถ้าคุณจะใช้สรีระคุณไปในเชิงศิลป์จริงๆ เอาละภาพนี้ไม่ถูกต้อง เพราะเขาบอกว่า ถ้าภาพนี้ปรากฏในภาพยนตร์จะไม่ว่าอะไร แต่เผอิญภาพนี้ถูกขโยออกมาและแพร่ออกไป คำถามว่าทำไมถึงไม่ค่อยมีใครเห็นใจ เพราะว่า เราอาจจะต้องกลับมาทบทวนตัวเราเองว่า ในชีวิตประจำวันของเราที่เราไม่ได้เล่นบทเป็นดาราภาพยนตร์บนจอเงิน ชีวิตเราวางตัวยังไง ถ้าชีวิตเราวางตัวเรียบร้อย มันจะต้องเริ่มด้วย นักเขียนหนังสือพิมพ์จะต้องรายงานเลย บอกว่า โทษนะ คุณสโรชาตัวจริง ตรงกันข้ามกับบทที่เล่นในภาพยนตร์อย่างเห็นได้ชัด

สโรชา – ค่ะ บุคลิก ท่าทางการแต่งตัว การพูดจา

สนธิ – เรียบร้อยจังเลย นึกไม่ถึงว่าพอเล่นบทโป๊ในภาพยนตร์เล่นได้เร่าร้อนมาก อย่างนี้ยังให้อภัยกันได้

สโรชา – คือเป็นนักแสดงจริง ๆ สวมบทบาทจริง

สนธิ – ครับ แต่ทีนี้พอชีวิตจริง ในความเป็นจริงในสิ่งซึ่งปรากฏอยู่ในแวดวง เสียงเขาพูดกันตลอดจนสิ่งซึ่งสื่อมวลชนรายงานและภาพต่างๆ ที่หนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆเอามาถ่าย

สโรชา – เป็นไปได้ไหมค่ะ ถ้าจริงๆ แล้วดิฉัน ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นคุณตั๊ก แต่ยกตัวอย่างให้ฟังว่าคุณตั๊ก จริง ๆแล้วเป็น คนเรียบร้อย เป็นเด็กคนหนึ่งเมื่ออยู่ที่บ้านแต่เมื่อเธอออกจากประตู เธอต้องสวมบทบาทความเป็นตั๊ก บงกช เป็นเซ็กซิมบอล เป็นนางเอกที่กล้าแสดงออกในบทภาพยนตร์เหล่านั้น เป็นไปได้ไหมค่ะ

สนธิถ้าอย่างนั้นคุณตั๊ก ต้องไม่โวยวายซิ ว่ารูปที่ส่งออกมาทำให้คุณตั๊กเดือดร้อน ถูกไหม ไม่ได้ คือต้องแบ่งให้ชัดเจนเรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย อีกเรื่องหนึ่งคือว่าผมไม่เข้าใจว่า ยุคนี้ สมัยนี้มันเกิดอะไรขึ้น คนทำภาพยนตร์ หรือคนทำในเชิงบันเทิง มันจะต้องขายนม มีร่องนม จะต้องเห็นหัวนม และมาโวยวายกันว่าเซ็นเซอร์ไม่ยุติธรรม คุณตั๊ก เคยออกรายการถึงลูกถึงคน เมื่อวันที่ 25 มี.ค. วันพฤหัสบดี ออกพร้อมคุณพันธุ์ธัมม์ ทองสังข์ คุณสนานจิต บางสะพาน ผู้กำกับภาพยนตร์ คุณวิฑูรย์ ศิริวิโรจน์ และก็มีพล.ต.ต.อะไรไม่รู้ ซึ่งเป็นหัวหน้ากองเซ็นเซอร์ ทุกคนรุมด่ากบว. กองเซ็นเซอร์ ส่วนใหญ่จะบอกว่า คุณตั๊กพูดผมยังจำได้เลย ว่า ในฐานะที่เป็นเยาวชน หนูอยากจะรู้ว่าถ้าไม่ให้ทางสื่อเห็นหัวนมแล้ว ทำไมหนังฝรั่งถึงให้เห็นได้ คือคุณตั๊กกำลังพูดบอกว่า ถ้าฝรั่งมันแก้ผ้าแล้ว มาออกในภาพยนตร์ได้ ทำไมหนังไทยถึงทำอย่างนั้นไม่ได้บ้าง

สโรชา – คือคำถามที่เปรียบเทียบ

สนธิ – แสดงว่าเรื่องนี้คุณตั๊กยอมรับว่าเรื่องนี้คุณตั๊กพร้อมจะขายสรีระเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นศิลปินจริงๆ และถ้าเป็นอย่างนั้นถ้าไม่กลัวและถ้าฉากนั้นไม่ได้ถูกเซ็นเซอร์ แล้วฉายในโรงหนัง และคนมาดูกันเต็มโรงกันตลอดเวลา ผมถามว่าทั้งคุณตั๊กคุณแม่ จะโวยวายไหม ย่อมไม่โวยวาย เพราะว่าหนังทำเงิน

สโรชา – อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นบทที่อยู่ในภาพยนตร์และอารมณ์เซตติ้งที่ดูหนังแล้วคนเข้าไปเห็นมันย่อมต่างกับที่เรารับอีเมล์ ที่ใครไม่รู้ว่าฟอร์เวิร์ดมาให้และเห็นภาพในจอหรือเปล่า

สนธิ – ก็ตรงนั้นไงล่ะ ถ้าสมมติมันอยู่ในภาพยนตร์ใช่ไหมและเขาตัดส่วนภาพยนตร์ออกมาและฟอร์เวิร์ดไป คุณตั๊กโวยวายไหม

สโรชา – โวยวายค่ะ

สนธิ – ทำไมต้องโวยวายละ ก็มันเห็นในภาพยนตร์หมดแล้วนี่

สโรชา – แต่คนไม่เห็น นั่นเป็นสิ่งที่ถูกเซ็นเซอร์ไป

สนธิ – นี่คือประเด็น ตรงนี้คือประเด็น ก็เคยพูดมาก่อนว่าทำไมทีหนังไทยไม่ยอมให้เห็นหัวนมบ้าง และหนังฝรั่งให้เห็น ถ้าอย่างนั้นแสดงว่ายอมรับอยู่แล้ว

สโรชา - ว่าเป็นสิ่งปกติ เป็นศิลปะที่แสดงสวมบทบาทในภาพยนตร์

สนธิ – ถูกต้องเพราะฉะนั้นเรื่องนี้ผมคิดว่าเบรกนี้พูดไม่จบ ต้องต่อเบรกหน้าเพราะผมยังอยากจะพูดเรื่องภาพยนตร์เรื่องไอ้ฟัก

สโรชา – ภาพยนตร์เรื่องไอ้ฟัก เชื่อว่าท่านผู้ชมหลาย ๆคนคงจะได้ไปชมมาแล้ว นะคะ บางท่านก็ยังไม่ได้ชมแต่ที่แน่ๆ หลังจากที่เป็นข่าวออกมาเช่นนี้แล้วอาจจะทำให้ยอดขายของดีวีดีภาพยนตร์เรื่องนี้พุ่งในสัปดาห์หน้าที่จะมีการวางแผงกันก็ได้ ส่วนคุณสนธิจะวิเคราะห์ไอ้ฟักอย่างไร เดี๋ยวกลับมาชมกันค่ะ

**********

สโรชา – กลับมาสู่เมืองไทยรายสัปดาห์นะคะ ตอนนี้มาคุยต่อดีกว่าถึงเรื่องราวของภาพยนตร์ไอ้ฟัก เป็นยังไงค่ะ คุณสนธิจะวิเคราะห์ในมิติอะไร

สนธิ – คือเรื่องภาพยนตร์ผมขอพูดเฉพาะเรื่องนี้ก่อน แล้วเดี๋ยวผมจะพูดถึงภาพยนตร์ที่เหลือนะครับ คือภาพยนตร์เรื่องไอ้ฟัก เอามาจากบทประพันธ์ ชื่อเรื่องคำพิพากษาของชาติ กอบจิตติ ซึ่งผมอ่านหลายครั้ง และคุณสโรชา รู้ไหม ถ้าจำได้มีคนเอาไปทำละครคืออาจารย์สดใส พันธุโกมล ก็ไม่โป๊ เพราะแก่นแกนของเรื่องมันไม่จำเป็นต้องสื่อด้วยการแพ้อาบน้ำถึงแม้จะมีในบทประพันธ์ คนสร้างภาพยนตร์อ้างว่าเป็นการตีความแนวใหม่ ใช่ มีสิทธิ์ทำได้ แต่เบื้องหลังจริง ๆคือต้องการขยายความเป็นเซ็กซี่ของตั๊ก ใช่ไหม เพื่อที่จะขายหนังเท่านั้นเอง เพราะเจตนาเลือกตั๊กที่มีภาพลักษณ์สีเทาในเรื่องนี้ และบรรจุฉากที่อาจพิจารณาได้ว่ามีวาระซ่อนเร้นในเชิงกามารมณ์ โดยเฉพาะคนที่มีรากฐานไม่แน่นและไม่เคยอ่านเรื่องคำพิพากษา ไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้มาก่อน จริงๆ คือเป้าหมายทางการตลาดเพื่อให้หนังขายได้ ยิ่งบอกว่าดูตั๊กแก้ผ้าอาบน้ำในเรื่องคำพิพากษาในเรื่องไอ้ฟัก ยิ่งทำให้คนรู้สึกฮือฮามาก อยากจะไปดูนมของตั๊ก

สโรชา – เป็นข่าวใหญ่

สนธิ – ครับ คือพวกนี้ไม่เคยอ่านต้นฉบับคำพิพากษา พอหนังขายได้ หนังทำเงินก็ไม่ต่างกับหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ยักษ์เล็กทั้งหลายที่ต้องมีรูปโป๊ ซึ่งจะอ้างว่าชาวบ้านชอบ เรื่องนี้มันอยู่ภายในจิตใต้สำนึกว่าด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม

สโรชา - คือคุณสนธิหมายความว่า ตามบทประพันธ์แล้ว ไม่จำเป็นต้องโป๊ขนาดนี้

สนธิ – ไม่จำเป็นเลย และมันได้แก่นด้วย ได้สัจธรรมของเรื่องจริง ๆ ไม่มีความจำเป็น แต่พอเอามาแล้วต้องมีฉากเซ็กเข้าไป เพื่อขายเหมือนกัน สมัยนี้เหมือนกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกและผมเสียดายและเสียใจ คือผู้ที่อยู่ในวงการบันเทิง ผู้ที่มีสิทธิ์มีส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต ผู้กำกับหรืออะไรก็ตาม ถ้าสนใจในเรื่องของจริยธรรมเอาไว้บ้าง อย่างน้อยที่สุดสื่อตรงนี้ ก็จะไม่เป็นถนนหนทางที่ทำให้เด็ก ๆ ซึ่งขาดความคิด เดินตามเอาแบบ เดี๋ยวนี้ดาราขอให้นมโตไปก่อน และเดี๋ยวนี้กลายเป็น เขาเรียกว่ากลายเป็นแฟชั่นที่ดาราต้องไปทำนม ทุกคนเลย เพื่อให้มันดูใหญ่ขึ้นและเวลาถ่ายภาพยนตร์ต้องมีร่องหน้าอกให้เห็น คือพยายาม แม้เด็กบางคนอย่าให้ผมเอ่ยชื่อเลย เรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งแถวๆรังสิต ออกมาอยู่ในวงการ เผอิญหน้าอกใหญ่ ก็เข้ามาในวงการ ก็เลยโดนคนเอามาโปรโมต ทั้งๆ ที่ตัวเองนั้นต้องดรอปการเรียนเพียงเพื่อต้องการที่จะมาทำเงินในวงการ โดยขายสรีระ ซึ่งผมคิดว่าไม่ถูกเรื่องนี้ เราต้องหาทางหยุดยั้งเรื่องพวกนี้ อย่าเอาเรื่องการค้ามาบังหน้า และทำให้ศีลธรรม จริยธรรมมันเสียหมด คือภาพยนตร์ถ้าทำขึ้นมา ถ้ามันสนุก ถ้ามันดี เหมือนอย่างเช่นแฟนฉัน คนก็ชอบ ทำไมถึงขายดิบขายดี

สโรชา – ก็ไม่จำเป็นต้องมีเรื่องพวกนี้

สนธิ – ครับ คือที่ผมเสียดายคือเสียดายหนังสือเรื่องนี้ คำพิพากษาของชาติ กอบจิตติ เขาเขียนไว้ดีมาก และมันเป็นสัจธรรมซึ่งอ่านแล้วซึ้งกับมัน และที่สำคัญเขาเคยเอามาทำเป็นละครแล้ว และไม่จำเป็นต้องมีบทโป๊ เพราะฉะนั้นแล้วผมอยากจะฝากไปบอกคนซึ่งเห็นแก่ได้กันนิดนึง

สโรชา – ถ้าอย่างนี้ก็ต้องบอกกับคนที่เข้าไปดูหนังเหล่านี้ด้วยคือเขาต้องมีกลุ่มตลาดที่เขาพยายามเจาะจงไปขายกลุ่มนั้น ถ้ากลุ่มนั้นไม่มีเขาคงไม่ทำ มันก็ต้องกลับไปที่กระแสสังคมหรือเปล่า

สนธิ – ไม่ๆ อย่างนี้ คือเหมือนเด็กนะ ประชาชนเหมือนเด็ก พวกเราอยู่ในวงการสื่อ อยู่ในวงการผลิตเรื่องราวที่จะให้ประชาชนดู มันขึ้นกับว่าเราจะเอาอะไรให้เขารับประทาน เรารู้อยู่แล้ว ถ้าเราเอาน้ำตาล น้ำหวานให้เขาทาน เขาเอาแน่นอน เพราะเขาชอบ แต่เราก็รู้อยู่แล้วว่า เขาทานไป ฟันเขาผุ สุขภาพไม่ดี คำถามคือว่า ถ้าเราไม่เอาน้ำตาลให้เขา เราเอาอาหารที่มีประโยชน์ต่อเขา เมื่อมันไม่มีอย่างอื่นให้เขาทาน เขาก็ต้องทานอาหารที่มีประโยชน์ใช่ไหม อุปมาอุปมัยเหมือนรายการทีวี ทุกคนบอกว่าการตลาด ดูซิประชาชนชอบรายการแบบไหน ก็แน่นอน ประชาชนต้องชอบเกมโชว์ ถูกไหม ประชาชนต้องชอบแจ็กพอต ประชาชนต้องชอบอะไรที่มันเฮฮา ถามว่า เรามีทางเลือกให้ไหมบอกว่ามี ถ้าเราเอาอะไรที่ดีกว่านั้นให้เขา และเราก็ร่วมมือร่วมใจกันไม่เอาเรื่องที่ไม่ดีให้เขา เขาก็ไม่มีทางเลือกเขาก็เสพแต่เรื่องดี เสพแต่เรื่องมีสาระ อุปมาอุปมัยเหมือนคนมีลูก ถ้าคุณสนอให้ลูกรู้จักดูโทรทัศน์ ในช่วงที่ควรจะดู เช่นดูข่าว ให้ลูกสนใจ ใส่ใจ พอถึงในช่วงของเรื่องบันเทิงก็ตัดทิ้งไป เด็กที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก การเจริญเติบโตต้องเข้มแข็งทางปัญญา ก็อยากจะฝากไว้แค่นี้

สโรชา – ตัดทั้งหมดเลยไหมค่ะ หรือว่ามีบ้างอย่างเช่นเอาน้ำตาลมาวาง วางมากจนเกินไปแน่นอน ผลไม่ดี แต่ถ้าเราปรุงอาหารให้มันพอดีมีน้ำตาลพอเป็นสิ่งที่จรรโลง

สนธิ – ผสมผสานได้ ก็น่าเห็นใจนะครับ แต่ผมเห็นใจสังคมมากกว่า ก็เพราะเรามีคนที่เห็นแก่ตัว มองทุกอย่างในเชิงการค้าไปหมด สังคมไทยมันถึงเป็นอย่างนี้ไง

สโรชา – ค่ะ ก็เรื่องราวของคุณตั๊ก บงกช หรือจริงๆ แล้ว เรื่องราวของสื่อไทย ภาพยนตร์ไทย โดยรวม นำมาฝากกันในค่ำคืนนี้ ไปต่ออีกเรื่องหนึ่ง เครียดนิดนึง เปลี่ยนอารมณ์ค่อนข้างเร็วคือเรื่องอิรัก เราคุยกันมาหลายต่อหลายสัปดาห์ คุยตั้งแต่ปีที่แล้วที่เราเริ่มรายการด้วยซ้ำไป

สนธิ – คุณสโรชาเริ่มก่อน เล่าให้ท่านผู้ชม ผู้ฟังที่บ้านฟัง ว่าอิรักตอนนี้เป็นยังไงแล้วผมจะแถมให้

สโรชา - อิรักตอนนี้ไม่ได้ดีไปกว่าอิรักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถึงแม้จะมีการคืนอำนาจอธิปไตยให้กับรัฐบาลชั่วคราวของอิรักเลย เพราะว่าในแง่ของการบังคับใช้กฎหมายหรืออำนาจในการบริหารประเทศจริงๆ แล้วมีน้อยมากๆ สำหรับรัฐบาลชุดนี้ เขาบอกว่าจริงๆ แล้วจะเป็นรัฐบาลชั่วคราวแค่ระยะสั้น 6-8 เดือนเท่านั้นจนถึงการเลือกตั้งปลายปีนี้ ต้นปีหน้า ก็จะคืนอำนาจให้กับรัฐบาลเปลี่ยนถ่าย โอนถ่ายอำนาจ ที่จะนำประเทศชาติเดินต่อไป แต่ที่แน่ๆ คือว่าดูตัวหลักๆ ในรัฐบาลแล้ว ก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนของสหรัฐอเมริกา ดูเหมือนว่า เป็นคนของสหรัฐอเมริกา เป็นคนของซีไอเอ มีความใกล้ชิด ซัดดัม ฮุสเซน เมื่อวานนี้ขึ้นศาล ก็กล่าวชัดเจนว่า เขาตกอยู่ในเวทีการแสดง ที่ประธานาธิบดีบุชได้จัดตั้งขึ้น และก็มาแสดงกัน จริงๆ แล้วตัวจริง เสียงจริงในการก่ออาชญากรรมคือบุชนั่นเอง

สนธิ - ผมฝากข้อคิดไว้นิดนึงเรื่องอิรัก ผมจะทำนายไว้อย่างนี้ ซึ่งเรื่องอิรักผมไม่เคยทายผิดเลย ถ้าคุณสโรชาจำได้ และอิรักจะเป็นอย่างนี้ วิวัฒนาการของอิรักคือว่า รัฐบาลชุดใหม่ของอิรัก จะคุมสถานการณ์ในประเทศไม่อยู่ เพราะว่าผู้ก่อการร้ายหรือว่าผู้ที่ต่อต้านสหรัฐอเมริกา จะทำให้ชาวโลกเห็นว่า รัฐบาลชุดนี้คือ รัฐบาลหุ่นของสหรัฐอเมริกา เพราะฉะนั้นแล้วเขาจะเริ่มทำร้ายกองกำลังอิรัก ซึ่งสหรัฐอเมริกาคิดที่จะฝึกขึ้นมา ทำร้าย ทำลาย ตลอดจนถึงทำร้าย และทำลายกองกำลังต่างชาติด้วย จนกระทั่งในที่สุดแล้ว กองทหารต่างชาติซึ่งแยกออกไปหลังจากรัฐบาลชุดใหม่มา ที่หวังว่าจะให้กองกำลังของรัฐบาลชุดใหม่ท้องถิ่น ดูแลความสงบ จะทำให้ในที่สุดกองกำลังสหรัฐต้องยกทัพกลับมาอีกครั้งหนึ่ง คืออยู่ในอิรัก เคลื่อนพลและออกมาปราบปรามเหมือนเดิม

สโรชา – เข้ามามีบทบาทเหมือนเดิม

สนธิ – ครับ ตรงนั้นจะทำให้ความชอบธรรมของรัฐบาลชุดนี้หมดไป เพราะว่าเขาต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้คือรัฐบาลหุ่นซึ่งสหรัฐอเมริกาอุปโลกขึ้นมา อันที่สอง คุณบอกว่า ซัดดัม ฮุสเซน บอกว่า อันนี้ก็คือละครโรงใหญ่ ที่สหรัฐเป็นคนจัดตั้ง ที่เจ็บกว่านั้นที่ซัดดัม ฮุสเซนพูด ชี้หน้าถามผู้พิพากษาทั้งคนที่นั่งอยู่ข้างบนนั้นว่าคุณมาจากไหน ใครตั้งคุณ แท้ที่จริงคือว่านี่คือหุ่นเชิดของสหรัฐอเมริกาอีกทีหนึ่ง ทีนี้ผมมองว่า วิกฤติในอิรักจริง ๆ แล้วเพิ่งจะเริ่มต้น

สโรชา – หลังจากที่ตายเป็นหมื่นๆ คนนะ

สนธิ – หลังจากที่สหรัฐอเมริกายึดอิรักได้ คุณสโรชาก็ทราบว่าตอนที่รบเข้าไปยึดอิรัก ทหารพันธมิตรตายไปร้อยกว่าคน แต่วันนี้ตาย 800 กว่า หมายความว่าหลังจากยึดอิรักได้แล้ว ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ตายไปแล้ว 700 กว่าคน คือเฉลี่ยแล้ววันหนึ่ง 2 คน นะครับ นัยตรงนี้กำลังจะบอกว่า ตอนนี้เหมือนกับอเมริกาอ่อนแรงแล้ว คล้าย ๆว่า รับไม่ไหว ผมถ่ายอำนาจให้พวกคุณไป คุณจัดการกันเองแล้วกัน ให้คนอิรักฆ่าคนอิรักกันเอง นั่นคือนัยอันหนึ่ง อันที่สองตอนนี้ เรื่องราคาน้ำมัน คุณสโรชาจำได้ไหมครับ น้ำมันขึ้นเพราะมีการก่อการร้าย มีการใช้น้ำมันมากขึ้น ทำให้น้ำมันพุ่งกระฉูดไปเป็น 42 เหรียญ แต่พอตอนหลังผ่องถ่ายอำนาจแล้ว น้ำมันตกลงมา เหลือประมาณ 32-33 เหรียญ แต่ผมพนันได้ว่าไม่เกิน 6 เดือน จะต้องขึ้นกลับไปถึง 40 เหรียญอีกครั้ง เหตุผลเพราะความไม่สงบของอิรักนั้นนับวันจะมีความรุนแรงมากขึ้นๆ ตลอดเวลา และจะไม่มีวันหยุดยั้งเพียงแค่นี้

สโรชา - จุดจบความสงบมองไม่เห็นเลย

สนธิ – จุดจบคือว่าไล่รัฐบาลหุ่นออกและไล่กองทัพต่างชาติออกจากประเทศอิรักและเป็นการสมานฉันท์ของบรรดานิกายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นชีอะห์ ไม่ว่าจะเป็นสุหนี่

สโรชา – เขาบอกว่าถ้าเกิดกองกำลังนานาชาติหรือจริง ๆ แล้วสหประชาชาติถอยออกไป อาจจะเกิดสงครามกลางเมืองระหว่างชนกลุ่มน้อยทั้งหลายในอิรักเอง

สนธิ – นั่นคือชะตาชีวิต ที่ทางอาหรับแต่ไหนแต่ไรก็เป็นเช่นนั้นมาแล้ว เขาต้องเผชิญของเขาเอง

สโรชา – และฝ่าฟันกันไปถึงที่สุด

สนธิ – นั่นคือเหตุผลว่าทำไมอิรักถึงต้องมีเผด็จการเช่นซัดดัม ฮุสเซน

สโรชา – ความเป็นมาเขาเป็นอย่างนั้น และความเป็นมาควรจะเป็นอย่างไร

สนธิ – เหมือนกับยูโกสลาเวีย สมัยหนึ่งที่ยูโกสลาเวียยังอยู่ภายใต้ธงคอมมิวนิสต์ ยูโกสลาเวียไม่มีการฆ่ากัน ไม่มีเซิร์บฆ่าพวกโครแอต สังเกตนะ เพราะคุณยังมีชนชาติสัญชาติที่ต่างกันยังไงก็ตาม แต่คุณนับถืออุดมการณ์อันเดียวคือคอมมิวนิสต์

สโรชา – ขึ้นตรงกับคนคนเดียว

สนธิ – ไม่ใช่คนเดียว อุดมการณ์คือคอมมิวนิสต์ คอมมิวนิสต์อยู่เหนือชนชาติทั้งหมด แต่พอคอมมิวนิสต์ล่มสลายไป เซิร์บก็แยกออกมา นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในอิรักเช่นกัน

สโรชา – ค่ะเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในสัปดาห์นี้นำมาพูดคุยกันในรายการ พักกันซักครู่ เราจะกลับมาดูผลโพล คุณผู้ชมเห็นอย่างไรกับเรื่องราวของคุณตั๊ก บงกช เดี๋ยวกลับมาติดตามกันค่ะ

**********

สโรชา – กลับมาช่วงสุดท้ายของเมืองไทยรายสัปดาห์นะคะ ไปดูผลโพลกันซักนิดค่ะ คุณผู้ชมเห็นใจคุณตั๊ก บงกชหรือไม่ คุณผู้ชมตอบกลับมาว่า ไม่เห็นใจประมาณ 83.5 เปอร์เซ็นต์ เห็นใจประมาณ 16.5 เปอร์เซ็นต์ค่ะ ส่วนมากไม่ว่าจะเป็นเอสเอ็มเอสหรือที่โทร.เข้ามาแสดงความเห็นในรายการก็จะไปในทางค่อนข้างจะใกล้เคียงว่า ก็เป็นคนไปถ่ายเอง และก็ในเมื่อภาพมันหลุดออกมาภายหลัง

สนธิ – ผมว่าส่วนหนึ่งอย่างที่ผมบอกคุณสโรชาไป เรื่องความประพฤติ คือบทบาทเราอยู่ในโลกแห่งความสมมติ เมื่อถูกสมมติว่าเป็นดารา ถ้าจำเป็นต้องแสดงโป๊ ต้องโชว์นม ถ้าจำเป็นในแง่ศิลป์ก็เล่นให้เต็มที่ แต่พอกลับมาแล้วควรจะพิจารณาตัวเองอย่าไปทำตัวเหมือนกับว่าตัวเองนั้น ก็คือบทเดียวกับที่ตัวเองเล่นอยู่ในหนัง คือเป็นคนเปรี้ยว เป็นคนก้าวร้าว เป็นคนแต่งตัวแล้วจะต้องเห็นร่องหน้าอก คือคนคนหนึ่งสามารถจะเป็นคนเรียบร้อยได้ แต่ก็สามารถที่จะทำอะไรก็ได้ที่จะออกมาในบทบาทที่ตัวเองเล่น คุณจำได้ไหมครับ บทผู้ร้ายบางคน ต่างประเทศ ดูแล้วเกลียดกลัว แต่บทชีวิตจริง เป็นคนน่ารักมาก ใช่ไหมครับ

สโรชา – ค่ะ นั่นคือนักแสดงอย่างแท้จริง

สนธิ – ทีนี้ถ้าคุณตั๊กไปเล่น 2 บทเหมือนกัน ชีวิตจริงเป็นคนอย่างนั้น ชีวิตในภาพยนตร์ในโลกมายาก็เป็นอย่างนั้นมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ก็มีเรื่องแบบนี้ขึ้นมา คนก็ต้องเข้ามาถล่มกัน แต่ถ้าคุณตั๊กเป็นคนเรียบร้อยทุกคนรู้ว่าเป็นกุลสตรีแต่ในหนังเล่นเปรี้ยวสุดฤทธิ์สุดเดช เพราะว่าเป็นศิลปะ ถ้ามีเรื่องพวกนี้ขึ้นมาเขาก็จะเห็นใจว่านี่คือการละเมิดสิทธิ์คุณตั๊ก แต่เขาไม่ได้ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์ เพราะคุณตั๊กในชีวิตจริงก็แต่งตัวโป๊อย่างนี้อยู่แล้วแต่ไหนแต่ไร เพราะฉะนั้นนี่คือประเด็นที่สำคัญที่สุด

สโรชา – จะแก้ได้ไหมค่ะ ถ้าหากว่าคุณตั๊กไปรับบทเรียบร้อย เป็นนักเรียน

สนธิ – ผมไม่รู้ สาเหตุหนึ่งที่คุณตั๊กดังมาก และมีคนใช้คุณตั๊กมาก เพราะว่า แกเป็นคนพร้อมที่จะโป๊

สโรชา – ไปดูคำถามจากคุณผู้ชมในสัปดาห์นี้บ้างนะคะ มีคุณผู้ชมจากกทม. ถามว่า กรณีช่อง 5 ตกลงเป็นยังไงบ้างคุณสนธิ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อย

สนธิ – ช่อง 5 ถ้าจะให้ผมพูดนะครับ จริง ๆ มีหลายตอน วันนี้เวลาสั้น ผมพูดตอนแรกดีกว่า คือจุดกำเนิดของบริษัทททบ. 5 คนที่ให้กำเนิดคนแรกคือพล.อ.แป้ง มาลากุล ตอนนั้นที่บริษัทททบ. เกิดขึ้นมา เพราะกองทัพบกไม่สามารถไปทำสัญญาเป็นนิติบุคคลได้ พล.อ.แป้งเลยขอเสนอให้จดทะเบียนบริษัทททบ. 5 ขึ้นมา โดยให้กองทัพบกถือหุ้นอยู่ 40 เปอร์เซ็นต์ เพราะถ้าถือเกิน 40 เปอร์เซ็นต์ก็จะกลายเป็นรัฐวิสาหกิจ เพื่อความคล่องตัวและอีก 60 เปอร์เซ็นต์ใครถือ ทหารถือทั้งนั้น ก็ถามต่อ แล้วทหารเอาสิทธิ์ที่ไหนมาถือ คือเป็นข้อตกลงว่าเขาแจกหุ้นให้ทหารถือ แล้วก็มีใบเซ็นโอนหุ้น ว่าเมื่อตัวเองหมดตำแหน่งนี้ก็โอนหุ้นอันนี้ต่อให้ทหารคนอื่นมาถือต่อ ก็คือว่ายังเป็นของกองทัพบกนั่นเอง แต่ว่าใช้ทหารเป็นคนถือแทน มีหนังสือเอกสารหมดทุกอย่าง ทีนี้เมื่อเราเช็กประวัติไปแล้ว ททบ. 5 เกิดขึ้นเมื่อพ.ศ. 2538 หรือ 39 พอ 2540 เกิดวิกฤติทางการเงิน 2541 แบงก์ทหารไทยเกือบเจ๊ง ก็เลยต้องมีการเพิ่มทุน ใช่ไหมครับ เขาก็ต้องการให้กองทัพซึ่งถือหุ้นเพิ่มทุนเข้าไป ทีนี้ถ้าไม่เพิ่มทุนเข้าไป แบงก์ทหารไทยเจ๊งไปแล้วนะ ตอนนั้นททบ. 5 มีเงินสะสมอยู่ 2,000 กว่าล้านก็เอาเงินที่สะสมไปซื้อหุ้นธนาคารไทยขึ้นมา นี่เป็นการช่วยธนาคารทหารไทยตอนนั้น พอซื้อมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว มันก็เลยทำให้แผนการขยายของททบ. 5 ที่จะต้องก้าวไปสู่ระบบดิจิตอล ที่ต้องทำโกลบอลเน็ตเวิร์ค ชะงัก เขาก็เลยเอาททบ. ไปกู้เงินธนาคารทหารไทยใหม่เพื่อที่จเอาเงิน 1,000 กว่าล้าน กู้ขึ้นมาเพื่อที่จะเอามาพัฒนาช่อง 5 เหตุผลเพราะว่าเขามีเงินเก่าอยู่แล้วไง แต่เนื่องจากเกิดวิกฤติที่ธนาคารเองเงินไปซื้อหุ้นและกู้กลับมาใหม่ โดยเอาหุ้นค้ำประกัน พอเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา หลังจากนั้นมาพอหุ้นธนาคารทหารไทยขึ้น ตอนที่ซื้อซื้อหุ้นละ 10 บาทนะ ขึ้นก็กลายเป็น 15-16 บาทตอนนั้นถ้าขึ้นขายทิ้งออกไป ททบ. 5 ก็มีกำไร คำถามมีอยู่ว่า กำไรตัวนี้ถ้าขายหุ้นทิ้งจะเป็นของใคร ก็บอกว่าถ้าเป็นของททบ. 5 ต้องเป็นของกองทัพนั่นเอง เพราะว่ากองทัพเป็นเจ้าของ ถูกไหมครับ เพราะฉะนั้นแล้วพล.อ.แป้ง ทำถึงตรงนี้ก็จบ ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นบริษัทมหาชนนะครับ ยังไม่ได้มีการเข้าตลาดหลักทรัพย์ ทำเพียงแค่นี้ ทำอย่างตรงไปตรงมา ทีนี้พล.อ.แป้งเป็นคนที่โชคร้าย เพราะว่าแกเป็นคนซึ่งมีความคิดสร้างสรรค์และมองไกล ที่ผมกล้าพูดเช่นนี้เพราะว่าผมว่ารู้จักพล.อ.แป้งจะว่าเข้าข้างก็ได้ แต่ว่าข้อเท็จจริงมีอยู่ พิสูจน์ได้ ที่แกโดนกล่าวหาของป.ป.ช. แกต้องการไปซื้อตึก เพื่อให้เป็นที่พักของพนักงานททบ. 5 ก็มีคณะกรรมการไปเลือกซื้อตึก ราคา 35 ล้านบาทถูกต่อรองลงมาเหลือ 32 ล้านก็ซื้อเสร็จเรียบร้อย ก็ถูกต้องหมดทุกอย่าง ไม่มีอะไรผิด มีคนไปฟ้องร้องที่ป.ป.ช. ซึ่งสมัยก่อนเป็นป.ป.ป. คือวงการทหาร วงการตำรวจ วงการข้าราชการจะมีลักษณะนิสัยอย่างหนึ่ง เมื่อใดคุณมีสิทธิ์จะเป็นอธิบดี เมื่อใดคุณมีสิทธิ์เป็นผบ.ตร. ผบ.ทบ. หรือผบ.ทอ. ถ้ามีคู่แข่งแล้ว ใบปลิวจะปลิวว่อน ใบปลิวก็ปลิวว่อนไปที่ป.ป.ช. ก็มีตั้งคณะกรรมการสอบสวนมา ปรากฏว่าแกผ่านหมด ฉลุยทุกข้อ ผิดอยู่ข้อเดียว คือไปตั้งเอเย่นในการซื้อซึ่งเปอร์เซ็นต์เอเย่นที่ได้มันเป็นเงินไม่ถึงล้าน ปรากฏว่าบริษัทที่ขายททบ.นั้น มันมีเอเย่นของมัน มันก็ต้องจ่ายให้เอเย่นมัน พอเขาไปสอบ ตัวเอเย่น เอเย่นก็บอกว่าใช่ มีการจ่ายจริง ซึ่งโดยข้อเท็จจริงแล้วแกไม่ผิดเลย แล้วป.ป.ป. สมัยก่อนชอบสร้างนิสัยแบบนี้คือว่าเรียกเขามาสอบแล้ว เขาไม่มา ทั้ง ๆที่เขาไปให้สอบตั้ง 3 ครั้ง ที่น่าสนใจอย่างคือเรื่องนี้มันจบไปนานแล้ว ทำไมถึงมาโผล่เอาตอนนี้ โผล่มาเพื่อกลบอะไรไว้หรือเปล่า ผลปรากฏว่าพล.อ.แป้งเป็นคนซึ่งโชคร้ายมาก เพราะเป็นคนซึ่งสร้างวิสัยทัศน์และนำความเจริญของททบ. 5 ช่อง 5 ก้าวมาสู่ยุคปัจจุบันนี้ แท้ที่จริงช่อง 5 ยังมีอีกหลายตอน มันเป็นความขัดแย้งของคนหลายคน ณ วันนี้หุ้นที่ทหารถืออยู่เรียกกลับ มีบางคนยังไม่ยอมคืนให้ เพราะว่าได้ข่าวว่าจะเข้าตลาดก็เลยถือโอกาสอมไว้

สโรชา – เก็บไว้ก่อน เผื่อไว้นะคะ เรื่องราวต้องคุยกันตอนหน้า เรื่องของททบ. 5

สนธิ – หรืออีกหลายอาทิตย์ก็แล้วกัน รอให้เขาสอบสวนจบก่อนดีกว่า เพราะตอนนี้ยังมีการสอบสวนอยู่

สโรชา – เอาละค่ะ เดี๋ยวจะล่อแหลมเกินไป เอาละค่ะเรื่องราวทั้งหมดนำมาฝากกันในเมืองไทยรายสัปดาห์สัปดาห์นี้นะคะ สิ่งที่คุณผู้ชมได้เห็นตลอด 1 ปีที่ผ่านมา คงจะได้ข้อมูลไปพอสมควร แต่สิ่งหนึ่งนโยบายหนึ่งและเรื่องราวหลักการที่เราเสนอในรายการนี้คือการดูไม้ทั้งป่า เหตุการณ์หลายเหตุการณ์ที่เรานำเสนอ ในรายการนี้แน่นอน ไม่ได้ดูเพียงมิติเดียวของเรื่องเหล่านั้น แต่ต้องดูหลายมิติ

สนธิ – ผมเสริมคุณสโรชานิดนึง มีคนถามผมว่าทำไมรู้มากนัก ผมพยายามตอบว่า ผมเป็นคนที่ไม่รู้อะไรเลย เพราะความที่เราเริ่มจากที่เราไม่รู้อะไรเลย ทำให้เราต้องขวนขวายหาความรู้ องค์ความรู้ ผมสะสมมา ตั้งแต่ผมหนุ่มจนทุกวันนี้ยังไม่หยุดสะสม เพราะผมคิดว่าเสมอว่าผมเป็นคนโง่ ทำตัวเป็นน้ำที่ไม่เคยเต็มแก้ว

สโรชา – ค่ะและดิฉันก็เป็นน้ำที่ไม่เต็มแก้ว ปัจจุบันนี้ทำมา 1 ปี ก็ยังไม่เต็มแก้ว ก็เชื่อว่าคุณผู้ชมคงติดตามรายการของเราต่อไปในปีที่ 2 และหวังว่าในปีต่อๆ ไปด้วยนะคะ เมืองไทยรายสัปดาห์หมดเวลาแล้วค่ะสัปดาห์นี้ กลับมาพบกันเป็นประจำ ในทุกคืนวันศุกร์เวลาประมาณ 22.00 น. สำหรับวันนี้ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ดิฉัน สโรชา พรอุมศักดิ์ ลาคุณผู้ชมเพียงเท่านี้ สวัสดีค่ะ

**********

กำลังโหลดความคิดเห็น