xs
xsm
sm
md
lg

2 ส.1ค.วิจารณ์กีฬา ถกปัญหาเยาวชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สำราญ รอดเพชร ,สโรชา พรอุดมศักดิ์ และคำนูณ สิทธิสมาน ร่วมถกประเด็นร้อนในรอบสัปดาห์ ทางรายการ "ก่อนจะถึงวันจันทร์" ออกอากาศทางยูบีซีช่อง 19 และ 77 คืนวันอาทิตย์ที่ 20 มิ.ย. 47 เริ่มด้วยเรื่องการเมืองกับชาวรักร่วมเพศ ระลึกถึงการจากไปของจอมพลถนอม กิตติขจร ตามด้วยปาฏิหาริย์กีฬาเทนนิส-ฟุตบอลยูโร ปัญหาเยาวชนและสถานการณ์ต่างประเทศ

สโรชา – สวัสดีค่ะคุณผู้ชม ขอต้องรับเข้าสู่รายการก่อนจะถึงวันจันทร์ เพลงเพราะๆที่ฟังไปเมื่อซักครู่นี้นะคะ สบายๆค่ะในเย็นวันอาทิตย์เช่นนี้ จากน้องๆชมรมดนตรีไทยมูลนิธิหลวงประดิษฐ์ไพเราะ เช่นเคยค่ะกลับมาพบกับเรา 3 คน คุณสำราญ รอดเพชรค่ะ
สำราญ – สวัสดีครับ
สโรชา – คุณคำนูณ สิทธิสมานค่ะ
คำนูณ – สวัสดีครับ
สโรชา – และดิฉันสโรชา พรอุดมศักดิ์ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ดิฉันไม่อารัมภบทยาวแล้วกัน เพราะวันนี้ต้องคุยกันหลายต่อหลายเรื่องทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวของกีฬา จะว่ากันยาวในช่วงเบรกแรก แต่ก่อนที่จะไปคุยกันถึงเรื่องกีฬา เกริ่นการเมืองซักเล็กน้อยดีกว่า เพราะวันนี้จริงๆแล้วเจตนาจะสำรวจความคิดเห็นคุณผู้ชมเกี่ยวกับการเมือง การเมืองกับคนที่เรียกได้ว่า รักร่วมเพศ อันนี้ก็เป็นประเด็นค่อนข้างจะคุยกันถึงเยอะ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่าน เรื่องเกย์มาเล่นการเมือง เอาสั้นๆก่อนเป็นน้ำจิ้ม เป็นไงคะ
คำนูณ – เขาก็เล่นกันอยู่แล้วนี่ครับ
สโรชา – เล่นกันอยู่แล้วเหรอ เขาไม่เป็นกิจจะลักษณะไม่ใช่เหรอ ไม่ได้ออกมาประกาศตัวว่า นี่ฉันเป็นเกย์นะ แล้วก็มาลงสมัครนี่ไม่ใช่ แต่ครั้งนี้นี่ จะประกาศตั้งแต่เริ่มต้นเลย
สำราญ – ไม่แปลกนะ ถ้าเราคิดเล่นๆนะ จริงๆเกย์ที่ทำงานการเมืองก็มีอยู่แล้ว เป็นใหญ่เป็นโตก็มีอยู่เยอะ เป็นที่รู้ๆกันดีอยู่
สโรชา – เป็นที่รู้กัน แต่ไม่ได้ประกาศตัวเป็นกิจจะลักษณะ หมายความว่า ทำงานเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
สำราญ – คือจริงๆที่เราพูดว่าทุกคนคงไม่ผิดหรอกนะ ที่เป็นเกย์เป็นรักร่วมเพศนะ ชายกับชายอย่างนี้นะ แล้วก็ปิดบังซ่อนเร้น หรือไม่ปิดบังแต่ว่าเขาก็ปล่อยตามธรรมชาติ แต่เที่ยวนี้ที่มันมีลักษณะพิเศษ คือ มีการป่าวร้อง
สโรชา – แล้วก็คือประเด็นการหาเสียงก็คือ จะทำงานเพื่อเกย์โดยเฉพาะเลยใช่ไหม คือเป็นผู้แทนเป็นเสียงของประชาชนของเขาเอง
สำราญ – เขา อย่างคุณอะไรนะที่ออกทีวีบ่อย คุณนัทธี ธีระโรจนพงศ์ หัวหน้ากลุ่มเส้นสีขาวนี่นะ เขาก็มาชูคำขวัญที่มาเคลื่อนไหว พัฒนาสังคมเกย์ เพื่อทุ่มเทสังคมไทย ก็เรียกร้องไปชัดเจน บอกว่าถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากให้เที่ยวหน้านี่ส่งเลย ส่งสว.ส่งเกย์ลงสมัคร แล้วชาวเกย์ก็จะช่วยกัน สมมุติว่านายสำราญ สมมุติว่าเป็นเกย์นะ ให้เป็นสว. สมมุตินะ แค่สมมุติ อย่างนี้เป็นต้นนะครับ
สโรชา – เดี๋ยวเรากลับมาคุยกันต่อช่วงหน้า อยากจะให้คุณผู้ชมได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าคิดอย่างไรกับการที่เกย์จะมาเล่นการเมือง อย่างเป็นกิจจะลักษณะเช่นนี้อย่างที่เราเคยคุยกันมา
ส่งมาค่ะ sms ในระบบ Dtac และ AIS นะคะกด BM เว้นวรรคแล้วก็ต่อด้วยข้อความ ส่งมาที่ 35077 เดี๋ยวช่วงท้ายรายการเราจะมาพูดคุยกัน ต่อกันเรื่องอื่นซักนิดนึง ก่อนเรื่องกีฬาอีกเรื่องหนึ่ง ก็คือการจากไปของจอมพลถนอม กิตติขจร อันนี้ก็เป็นข่าวใหญ่ในสัปดาห์นี้เช่นกัน
คำนูณ – เป็นผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 ของประเทศไทย เฉพาะอย่างยิ่งเป็นนายกในช่วงเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ก็การชุมนุมของนิสิต นักศึกษา ประชาชนในช่วงนั้นก็ทำให้ท่านต้องสละตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แล้วก็ลี้ภัยออกนอกประเทศไทยไปอยู่บอสตันอยู่ 3 ปี แล้วก็การกลับมาของท่านก็เป็นชนวนให้เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ก็ท่านก็อายุยืนนะครับ อายุถึง 93 ปี จอมพลถนอม กิตติขจรก็ถึงแก่อสัญกรรม
สำราญ – 93 ปี 2516 นี่คุณสโรชาอายุเท่าไหร่ครับ
สโรชา – 16 เหรอคะ ยังไม่เกิดหรอกค่ะ
สำราญ – ก็ผ่านมากี่ปีนะคุณคำนูณ
คำนูณ – 31 ปี
สโรชา – ประวัติของท่านจอมพลถนอม กิตติขจรเป็นอย่างไร คุณผู้ชมอาจจะทราบคร่าวๆนะคะ แต่วันนี้เรามีรายงานพิเศษ อย่างละเอียดและลึกซึ้งไปชมกันค่ะ

*****
VTR - รายงาน
จอมพลถนอม กิตติขจรเกิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2454 ณ บ้านหนองครัว อ.เมืองตาก จ.ตาก เป็นบุตรของขุนโสภิตบรรณลักษณ์ หรือ อำพัน กิตติขจร กับนางลิ้นจี่ จอมพลถนอมเริ่มการศึกษาชั้นต้นที่โรงเรียนประชาบาลวัดโคกพลู จ.ตาก หลังจบจากโรงเรียนนายร้อยทหารบก ก็ได้เข้ารับราชการครั้งแรกในตำแหน่ง ผู้บังคับการหมวด กรมทหารราบที่ 8 กองพันที่ 1 จ.เชียงใหม่
ต่อมาได้ร่วมก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2490 ในขณะที่มียศเป็นร้อยโท ตำแหน่งผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 ต่อมาได้เป็นรองผู้บัญชาการกองพลที่ 1,ผู้บัญชาการกองพลที่ 1, รองผู้บัญชาการภาคทหารบกที่ 1 และเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 มาโดยลำดับ
จอมพลถนอม กิตติขจรได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในรัฐบาลของจอมพลแปลก พิบูลสงคราม และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในรัฐบาลของนายพจน์ สารสิน จอมพลถนอมได้รับการซาวเสียงจากสภาผู้แทนราษฎร ให้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2501 บริหารประเทศไทย 9 เดือนเศษ ก็ลาออกจากตำแหน่งเพื่อเปิดทางให้จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อจอมพลสฤษดิ์ถึงแก่อสัญกรรม จอมพลถนอมกิตติขจรก็ได้รับการแต่งตั้ง ให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
ในปี 2514 จอมพลถนอม กิตติขจรได้ทำรัฐประหารรัฐบาลของตัวเอง และได้จัดตั้งสภาบริหารคณะปฏิวัติขึ้น จนกระทั่งมีการประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองแห่งราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2515 และสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามธรรมนูญการปกครองดังกล่าว ก็ได้มีมติให้จอมพลถนอม กิตติขจรขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป
จอมพลถนอม กิตติขจรลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2516 อันเนื่องมาจากการเหตุการณ์เรียกร้องรัฐธรรมนูญของกลุ่มนิสิต นักศึกษา และเกิดเหตุการณ์ไม่สงบเรียบร้อยขึ้นภายในประเทศ จึงเดินทางออกนอกประเทศเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย รวมระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทั้งสิ้น 10 ปี 6 เดือนเศษ
สำหรับผลงานสำคัญที่จอมพลถนอม กิตติขจรได้สร้างไว้ในช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรี คือการสร้างทางหลวงสายต่างๆทั่วประเทศหลายสาย สร้างเขื่อน อาทิ เขื่อนสิริกิติ์ เขื่ออุบลรัตน์ และได้ทำการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยทัดเทียมกับนานาประเทศ รวมทั้งการส่งทหารไปร่วมรบในสงครามเวียดนามด้วย และได้ประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองแห่งราชอาณาจักร
*****

สโรชา – ค่ะ นั่นคือประวัติของท่านจอมพลถนอมนะคะ ไล่มาได้ไหม คือท่านที่ 10 ไล่มาได้ไหมว่ามีท่านไหนบ้าง นายกรัฐมนตรีของไทยเรา
สำราญ – คือปัจจุบัน 23 คนแล้วนะ
คำนูณ - คือยุคของจอมพลถนอม กิตติขจรเนี่ย ก็คือเป็นยุคต่อเนื่องกับจอมพลสฤษดิ์ ธนรัชต์ จุดเปลี่ยนของบ้านเมืองผมเห็นว่ามีอยู่ 2-3 ช่วง อันที่จริงสัปดาห์หน้าก็จะเป็นครบรอบ 72 ปีของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475 วันพฤหัสที่จะถึงก็จะครบ 72 ปี ก็คณะราษฎร์เปลี่ยนแปลงการปกครอง และมีจุดเปลี่ยนจุดพลิกผันครั้งสำคัญก็คือ การรัฐประหารในปี 2490 นั่นก็คือกลุ่มจอมพลป. พิบูลสงคราม ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของคณะราษฎร์ แต่ว่าก็ทำรัฐประหารล้มรัฐบาลหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ ท่านปรีดีก็ต้องลี้ภัยออกไปนอกประเทศ 2490 บ้านเมืองก็ปกครองด้วยระบอบเผด็จการ เป็นเผด็จการมาโดยตลอด หลัง 2490 พอ 2500ก็เป็นการรัฐประหารเองของคณะทหาร แต่เป็นทหารกลุ่มจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ รัฐประหารล้มกลุ่มจอมพลป. พิบูลสงคราม,จอมพลผิน ชุณหะวัน,พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ก็เป็นผลทำให้ทายาทรุ่นหลัง คือท่านคงจะจำได้ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัน,พล.อ.ประมาณ อดิเรกสารตอนนั้นเป็นยศพลตรีเนี่ย ก็ต้องออกเหินห่างวงการเมืองไปตั้งแต่ปี 2500 เพราะว่าเป็นเครือข่ายของกลุ่มซอยราชครู กลุ่มคณะเก่านะครับ จอมพลสฤษดิ์ก็ปกครองประเทศด้วยระบอบเผด็จการมีธรรมนูญการปกครอง คุณสำราญ 17 มาตรา มาตรา 17 ก็คือนายกรัฐมนตรีมีอำนาจเด็ดขาด สามารถสั่งประหารชีวิตคนได้ จอมพลสฤษดิ์ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อปี 2506 จอมพลถนอมก็ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีต่อเนื่องมา มีการร่างรัฐธรรมนูญกันยาวนาน แล้วก็มีรัฐธรรมนูญมีการเลือกตั้งในปี 2512 แต่เป็นอยู่ได้ 2 ปี จอมพลถนอมก็รัฐประหารตัวเองใน 17 พฤศจิกายน 2514 บ้านเมืองก็กลับมาสู่ระบอบเผด็จการเหมือนเดิม จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 นั่นก็เป็นการหมดไปของกลุ่มอำนาจทหาร ก็มีรัฐบาลประชาธิปไตยในช่วงสั้นๆ ซึ่งเป็นช่วงที่บ้างเมืองสับสนวุ่นวาย เป็นยุคที่เขาเรียกว่าขวาพิฆาตซ้าย
สำราญ – ซ้ายพิฆาตขวา
คำนูณ – อะไรก็ว่าไป เป็นสงครามอุดมการณ์ อาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์เป็นนายกรัฐมนตรีพระราชทาน และก็มีนายกที่มาจากเลือกตั้งคือมรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ต่อด้วยมรว.เสนีย์ ปราโมช แล้วก็มีการรัฐประหาร 6 ตุลาคม 2519 ก็พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ขึ้นมา มีท่านธานินทร์มาเป็นนายก
สำราญ – ต่อด้วยท่านเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ,พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
คำนูณ – แล้วก็มาถึงยุคเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวันกลับเข้ามา คือยุคพล.อ.เปรมก็มีเลือกตั้งนะ แต่ว่าหัวหน้าพรรคการเมืองยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชาติชายมาเป็นนายกรัฐมนตรีปี 31 นายกคนที่ 17 ก็มีรัฐประหารอีกครั้งหนึ่ง
สำราญ – 2534 ก็มีรสช. ท่านอานันท์ ปันยารชุนก็มี อันนี้รู้แล้วใช่ไหม คือนายกบางคน นับง่ายๆเป็น 2 ครั้ง อย่างท่านชวน หลีกภัย เขานับคน ท่านบรรหารคนที่ 21 ท่านบิ๊กจิ๋วคนที่ 22 แล้วก็ท่านทักษิณ ชินวัตรคนที่ 23 มันก็เหลือนิดเดียวคุณคำนูณ ถ้าจะเติมเต็มให้ขนลุกกันเล่น ก็คือถ้าเราสังเกต จำไม่ผิดนะ ยังไม่มีชุดใดเลยครบเทอมเลยนะ อายุเฉลี่ยของรัฐบาลเลือกตั้งนี่ 2 ปี 2 ปีครึ่งหรือปีค่อน
คำนูณ – คือตอนนี้ท่านนายกทักษิณ ชินวัตรเนี่ย เฉพาะในรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งยาวที่สุดอยู่แล้ว แต่ถ้าอยู่ไม่ยุบสภาจนกระทั่งถึงวันที่ 5 มกราคม 2548 สภาจะครบเทอมเป็นครั้งแรก
สำราญ – จริงๆจะถึงอยู่แล้ว ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่สาระเนื้อหาที่จะมาชี้ขาดว่า อยู่ดีกินดีอะไรก็ตาม แต่มันก็เป็นเชิงสัญลักษณ์นะ เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลจากการเลือกตั้ง
สโรชา – จะเรียกได้ว่าเราจะไปสู่อีกยุคหนึ่งได้ไหม ถ้าหากว่าครบวาระเป็นครั้งแรกจริงๆ จะเป็นการเมืองอีกยุคอีกสมัยหรือเปล่า
สำราญ – ผมนี่โดยส่วนตัวแล้วคือ อยากให้สภาครบเทอมสักครั้งหนึ่ง ในวันที่ 5 มกราคม จากนั้นก็เลือกตั้งกันใหม่นะ
สโรชา – ดิฉันว่ามันเปลี่ยนรูปแบบเลยล่ะ เปลี่ยนทัศนคติของคนด้วยนะ ที่จะดูว่ายุบสภาอีกแล้ว อย่างที่เห็นมาแล้วหลายสมัย
สำราญ – มันก็ไม่ใช่สาระของประเทศหรอกนะ แต่ว่ามันก็ขอสักครั้งหนึ่ง แล้วมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร ก็ประคองกันไปให้มันครบเทอมสภานี้ แล้วสภาก็ไม่ได้มีความผิดอะไร ยังไม่ได้เลวร้ายที่จะไปยุบเขา ว่ากันจริงๆแล้ว
สโรชา – ก็เรื่องราวของการเมืองการปกครองแล้วกัน เพราะเดี๋ยวอีกช่วงเราจะมาคุยถึงเรื่องการเมือง เรื่องสส. เรื่องใครดูดใคร ใครบัญชีบังใคร ก็เดี๋ยวมาคุยกันช่วงสอง แต่ช่วงนี้คุณสำราญ ดิฉันทราบมาว่ารอคอยเหลือเกินที่จะคุยเรื่องนี้ คือ ทั้ง 2 ท่านจะแปลงโฉมมาเป็นเซียนบอลซักทีหนึ่ง ไหนๆก็ยูโร 2004 ฟีเวอร์นี่กระหน่ำเมืองไทย
สำราญ – เดี๋ยวผู้ชมจะเข้าใจผิดว่ากีฬาขึ้นสมอง ไม่ใช่นะ แต่เมื่อคืนวันเสาร์หรือคุณคำนูณ เมื่อคืนที่ผ่านมานี่ คือเมื่อคืนเป็นคืนแห่งกีฬาจริงๆ ดูกีฬาหน้าจอไม่ไปไหนเลย
คำนูณ – ตื่นเต้นครับ ตื่นเต้น
สำราญ – ตื่นเต้น ลุ้น
สโรชา – หลายวงการ หลายกีฬา หลายประเภทแล้ว เริ่มต้นจากตรงไหนก่อน
สำราญ – เอาช่วงหัวค่ำก่อน ลุ้นภราดร ศรีชาพันธ์นะ นอตติ้งแฮมโอเพ่น ก็เตรียมที่จะเข้าวิมเบิลดัน ไปอุ่นเครื่อง มันเป็นโปรแกรมใหญ่ใช้ได้แหละ
คำนูณ – ภราดรเขาเป็นมือวางอันดับ 1 แล้วก็ชนะเลิศแต่ว่า ชนะเลิศไม่แปลก แปลกตรงที่
สำราญ – คือกับโยฮันเซ่น เป็นคู่ชิงของเขานี่ เป็นมือวางอันดับ 7 ปรากฏว่าเซตแรก ภราดรพ่ายไปหมดรูป โดนสอนเรียกว่าโหลยโท่ยเลยนะ 6-1 แล้วก็พอเซตที่สองคือทุกคนก็ปล่อยแล้ว ก็ดูไปก็บ่นไป
สโรชา – ดิฉันเชื่อว่าคุณปลงไปแล้วล่ะ
สำราญ – ปลงแล้ว
คำนูณ – แต่ว่าสกอร์หรู 5-2 แล้วก็โยฮันเซ่นเขาออกมาเสิร์ฟเพื่อปิดแมตช์ เหลืออีก 2 แต้ม
สำราญ – อีก 2 แต้มนะ เขาไปถึง 0/30 แล้วนะ อีก 2 แต้มนะ เขาปิดแมตช์ไม่ได้ สุดท้ายก็มาพลิก ภราดรชนะ
คำนูณ – เขาบอกว่าเพราะว่าภราดรใจบุญ มีอยู่ลูกนึงที่โยฮันเซ่นเขาเสิร์ฟมาแล้ว กรรมการขานว่า เสิร์ฟผิดหรือออกหรือไงเนี่ย ภราดรก็เดินไปชี้ว่า ไม่ออกหรอกลง
สโรชา – แฟร์ๆไงคะ แฟร์ๆ
สำราญ – อ๋อ บุญเห็นทันตาเลยนะครับ
คำนูณ – คือคงไม่ใช่อย่างนั้นน่ะ แต่ว่าผมเข้าใจว่า ภราดรคงคิดว่าแฟร์ๆแล้ว แล้วก็คิดว่าตัวเองเล่นไปตามธรรมชาติ แล้วคือจะแพ้อยู่แล้ว แต่จากนั้นมาก็ทำให้ตีดีขึ้น
สโรชา – ไม่เครียดไง ปล่อยๆ
สำราญ – พอเขาไม่เครียดเขาตีดีมากเลย เขายิ้ม เขารอจังหวะ สุดท้ายก็คือตัดสินกันที่ไทเบรก เขาก็ชนะ ก็เป็น 1 ต่อ 1 ต้องมาตัดสินกันที่เซตที่สาม
คำนูณ – เซตที่สามเขาก็เล่นเป็นพระเอกเลย
สโรชา – เล่นอย่างสนุก
สำราญ – เราก็นึกไม่ถึง มันเป็นปาฏิหาริย์เล็กๆในใจเรา เมื่อคืนนี้จริงๆ
คำนูณ – พอๆกับเช็กที่เล่นเมื่อคืนนี้
สำราญ – ทีนี้ไปฟุตบอล
สโรชา – ก็ปาฏิหาริย์เหมือนกันอีกใช่ไหม
สำราญ – ก็ค่อนข้าง หลายคนถ้าไม่เห็น แต่ผมนี่ผมเชียร์ใครมักจะชนะ
สโรชา – ก่อนที่จะไปถึง 2 เสียงนี้ ดิฉันขอไปคุยกับคุณชาญวิทย์ ผลชีวินก่อนนะคะ มาวิเคราะห์ยูโร 2004 กันนิดนึงนะคะ หลายๆมุมมองค่ะ สวัสดีค่ะ คุณชาญวิทย์
ชาญวิทย์ – ครับ คุณสโรชา คุณคำนูณ และคุณสำราญแล้วก็สวัสดีท่านผู้ชมทุกคนครับ
สโรชา – เป็นไงคะ ตอนนี้ยูโรฟันธงได้หรือยังคะว่าใครเข้า 8 ทีม
ชาญวิทย์ – จริงๆก็ต้องลุ้นกันจนแมตช์สุดท้ายนะครับ เพราะว่าอย่างหลายๆทีม ไม่ว่าจะเป็นทีมยักษ์ใหญ่ อย่างบอลโลกก็ดี หรือยูโรเมื่อครั้งที่แล้วก็ดี ทีมยักษ์ใหญ่ผมเชื่อว่าต้องตกไปบางทีมด้วย ในขณะเดียวกันก็ต้องมีทีมม้ามืดด้วย อย่างปีนี้เราจะเห็นอย่างกรีซมาดีมาก ลัตเวย์ที่เป็นน้องใหม่ก็ยังมีโอกาสอยู่ ในขณะที่อังกฤษ อิตาลี ฝรั่งเศสยังต้องลุ้นกันเหนื่อยนะครับ แม้กระทั่งโปรตุเกสเจ้าภาพ ยังต้องลุ้นกันเหนื่อยนะครับ
สำราญ – คุณชาญวิทย์ครับ ถ้าแยกกันเป็นสายๆนี่ กลุ่ม A นี่ใครจะเข้าครับ 2 ทีม
ชาญวิทย์ – อย่างน้อยๆนี่กรีซนี่เข้าแน่นอนแล้ว คิดว่า99.99% เหลือสเปนกับโปรตุเกสที่จะต้องเจอกันคืนนี้ เพราะฉะนั้นคู่นี้ดีคนละอย่าง สเปนนี่สถานการณ์แค่เสมอได้ โปรตุเกสนี่คือต้องชนะอย่างเดียวครับ ถึงจะเข้า
สำราญ – ไปสาย B ครับ อังกฤษ ฝรั่งเศส สวิต โครเอเชีย
ชาญวิทย์ – กลุ่มนี้ยังงูกินหางอยู่เลย เพราะงั้น กลุ่มนี้หนักหน่อย ฝรั่งเศสเองก็ต้องลุ้น อังกฤษเองก็ต้องลุ้น ค่อนข้างจะเหนื่อยครับกลุ่มนี้ อย่างที่บอกแล้ว
สำราญ – มันก็อยู่ที่ผลของแต่ละคู่ด้วย
ชาญวิทย์ – แล้วก็ต้องแข่งพร้อมกัน ไม่มีโอกาสดึงกันเลยครับ อังกฤษก็ยังถือว่ามีโอกาสหน่อยครับ
สำราญ – กลุ่ม C นี่สวีเดน บัลแกเรีย เดนมาร์ก อิตาลี
ชาญวิทย์ – อิตาลีก็ยังต้องลุ้นอยู่นะครับ คือกลุ่มนี้ก็ยังต้องลุ้นเหมือนกันหมด
สำราญ - แต่บัลแกเรียก็อาการหนักกว่าเพื่อนนะ
ชาญวิทย์ – อันนั้นก็ค่อนข้างจะตกรอบแน่นอนแล้ว
สำราญ – กลุ่ม D เช็ก ลัตเวีย เยอรมัน แล้วก็เนเธอร์แลนด์
ชาญวิทย์ – เช็กนี่เข้าไป 100% แล้ว เพราะว่า 6 แต้มเต็มแล้ว ก็จะเหลือเยอรมันกับฮอลแลนด์ แล้งลัตเวียก็คือต้องลุ้นกันอีกครับ 3 ทีมเอาทีมเดียว เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าปีนี้ไม่ห่างกันมาก ถึงแม้ว่าน้องใหม่อย่างที่บอก ทั้งลัตเวีย ทั้งกรีซ ทั้งเช็กนี่ขึ้นมาค่อนข้างดี เซอร์ไพส์เลย
สำราญ – อย่างเช็กเมื่อคืนก็เนเธอร์แลนด์จอดเลย
ชาญวิทย์ – ไม่น่าเชื่อครับ เป็นเกมที่สนุกที่สุดในรอบแรกก็ว่าได้ เพราะว่า 2-0 นี่ทุกคนคิดว่าจบแล้ว
คำนูณ – อาจารย์ชาญวิทย์คิดว่าการตัดสินใจของโค้ชนี่ สำคัญมากเลย
ชาญวิทย์ – บางครั้งเสี้ยววินาทีตรงนั้น โค้ชไม่มีสิทธิ์ไปคิดว่า สถานการณ์ตรงนั้นจะเกิดอะไรขึ้น เขาถึงตัดสินใจเปลี่ยนไง แต่บางคนอาจจะมองว่า เปลี่ยนผิด
คำนูณ – ตัดสินใจตามแทคติกไป
ชาญวิทย์ – ใช่ครับ คือเขาคิดไว้แล้วว่า สมมุติว่าเกมถ้านำอยู่แล้วนี่ เขาอยากจะเน้นเกมรับนิดนึง ก็เอาปีกซึ่งค่อนข้างเล่นได้ดีด้วยนะ
คำนูณ – เล่นดี เปิดทั้ง 2 ลูกเลย
ชาญวิทย์ – ผมจำชื่อไม่ได้ ค่อนข้างทำเกมได้ดีด้วย แล้วมีโอกาสได้ประตูจากเขานี่หลายลูกเลย พอตัดสินใจเอาออกนี่ก็เห็นได้ว่า เกมรุกก็ขาดประสิทธิภาพไป ขณะที่เกมรับก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพ แล้วมาโดนใบแดงไล่ออกด้วย ยิ่งเป็นปัญหาของตัวเอง
สำราญ – อย่างลัตเวียกับเยอรมัน ผมก็เชียร์ทีมรอง ผมว่ากรรมการก็ไม่ค่อยช่วยลัตเวียเลยนะ
ชาญวิทย์ – อาจจะเซอร์ไพส์กันนิดหน่อยครับ เพราะว่าเยอรมันเองนี่มีปัญหา กำลังอยู่ในช่วงระหว่างเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น แล้วก็กำลังปรับปรุงทีมใหม่ แล้วก็เซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่ของเขา อายุค่อนข้างมากแล้วช้า จะเห็นได้เลยว่าลัตเวียบุกเคาน์เตอร์แอดแทคไป มีโอกาสได้ประตูหลายครั้งเลย
สำราญ – ก็ควรจะได้ไหมเมื่อคืน จุดโทษน่ะ
ชาญวิทย์ – ครับ จริงๆแล้วแต่ถ้ามองเกมทั่วไป จังหวะการสกอร์ ไม่ได้ต่างกันเลยนะ เยอรมันอาจจะดูมีจังหวะสกอร์ดีกว่าห่อย แต่ของลัตเวียไปแต่ละลูกน่าเป็นประตูมากกว่า
สำราญ – เอาน่า ถึงแม้ว่ายังไม่รู้ว่าใครจะเข้ารอบ 8 ทีมบ้าง แต่ว่า ในใจคุณชาญวิทย์ แอบลุ้นแอบคาดว่าทีมไหนจะไปถึงดวงดาวซัก 2 ทีม คู่ชิงน่าจะเป็น
ชาญวิทย์ – ผมถ้าให้มองตอนนี้ ผมอยากจะเห็นม้ามืดไปซักทีมหนึ่ง ในใจผมนะ ทุกทัวว์นาเม้นท์จะเป็นลักษณะอย่างนี้ จะมีม้ามืดเข้ามา 1 ทีม ผมว่าน่าจะเป็นกรีซหรือไม่ก็เช็ก แต่ก็ยังเชื่อว่าฝรั่งเศสแชมป์เก่าจะเอาตัวรอดได้
สำราญ – ไม่ใช่อังกฤษนะ
ชาญวิทย์ – อังกฤษนี่ผมว่า เข้าไปรอบลึกๆแล้วยังเหนื่อยแทน อย่างสไตล์อังกฤษ เกมรุกยังไม่ค่อยหลากหลาย ยังเน้นรูปแบบเดิมๆ
สำราญ – ดูจากยูโร 2004 กับยูโร 2000 การพัฒนายกระดับมันอยู่ตรงไหนบ้าง ที่เราควรจะมองเป็นพิเศษ
ชาญวิทย์ – ผมมองว่าทีมที่เป็นไม้ประดับ ทีมพวกม้ามืดเข้ามาเยอะมาก ซึ่งเราไม่เชื่อแน่ๆว่าเข้ามาได้ แล้วก็โชว์ฟอร์มได้ดี แม้แต่ทีมใหญ่ๆที่เราคิดว่าจะเล่นได้ดี จะเห็นได้ว่า ยังไม่สามารถเอาความแกร่ง เอาอะไรดีของตัวเองออกมาได้เลย ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศสก็ดี อิตาลีก็ดี หรือแม้กระทั่งฮอลแลนด์ อย่างเยอรมันก็ดี ทีมถ้วนหน้า 5 ดาวที่เราคิดอยู่ อังกฤษด้วยนะ 5 ดาวของเรา ที่เราลืออยู่เนี่ย ยังไม่มีใครโชว์ฟอร์มน่าจะเป็นแชมป์ได้เลย เหตุผลหนึ่งก็คือ เขารวมตัวกันน้อยมาก จะเห็นได้ อาราดังๆอย่างอองรี เล่นสโมสรนี่สุดยอดเลย หลายคนตั้งคำถามว่าทำไมเล่นทีมชาติไม่ค่อยประสบความสำเร็จ ทีมชาตินี่รวมตัวกันน้อยมาก เขาไปเล่นลีกอย่างเล่นพรีเมียร์ลีก ทั้งหมดตั้ง 38 ครั้ง เลกแรก 19 เลกสอง 19 เพราะฉะนั้นเขาปรับปรุง เขาเล่นกันจนเข้าขากันเลย
สโรชา – พอมาเล่นทีมชาติก็อาจจะเข้าขากันไม่ค่อยดีเท่าที่ควร
ชาญวิทย์ – เพราะว่าซ้อมกันน้อยไงครับ ดาราดังๆทั้งหลาย โอเว่นอย่างนี้นะ เล่นกับทีมชาติอังกฤษไม่ค่อยมีบทบาทเลย มันใช้ความสามารถเฉพาะตัวกันมากกว่า เห็นว่าทีมเวิร์คไม่ค่อยดีเท่าที่ควร
สโรชา – ค่ะ ขอบพระคุณมากนะคะ คุณชาญวิทย์ค่ะ คุณชาญวิทย์ดูรูปการณ์แล้ว จะเห็นว่าม้ามืดมาแรงปีนี้ จริงๆอยากจะชวนทั้ง 2 ท่านคุยต่อจังเลยเรื่องยูโร เพราะว่าจริงๆแล้วทราบว่าอยากจะคุยกัน มีเรื่องจะคุยเยอะ เพราะฉะนั้น เดี๋ยวกลับมาคุยกันค่ะ โดยเฉพาะเรื่องผลการวิจัยเกี่ยวกับเยาวชน อีกสักครู่มาติดตามกันค่ะ
สโรชา – กลับมาช่วงสุดท้ายของก่อนจะถึงวันจันทร์นะคะ ทิ้งท้ายช่วงที่แล้วไว้สำหรับผลการวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกี่ยวกับพฤติกรรมของเยาวชนไทย ตกลงเป็นอย่างไร ห่างวัดนี่ห่างขนาดไหน
สำราญ – ก็เป็นการสำรวจของคณะครุศาสตร์ ศูนย์วิจัยนโยบายการศึกษา ที่มีนักวิชาการชื่อดัง
คำนูณ – ดร.อมรวิทย์ นาครทรรพ
สำราญ – ก็เป็นที่ยอมรับของสังคม ก็มีตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างที่คุณสโรชาว่า ก็คือ ห่างวัด ไกลบ้าน ร้อยละ 45 เขาบอกว่าไม่เคยไปทำบุญตักบาตร ร้อยละ 65 ไม่เคยฟังเทศน์ เชื่อไหมครับ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ นี่คือผลสำรวจ แล้วก็เป็นงานวิชาการด้วย อันนี้ทางกระทรวงวัฒนธรรมเขาก็จัดการสัมมนาเรื่องแบบนี้นะ
สโรชา – ส่วนมากคือยังไง ไม่เข้าวัด ไม่ฟังเทศน์คงต้องโทษคุณพ่อคุณแม่ใช่ไหมคะ คุณคำนูณ คือจะให้เด็กเดินเข้าวัดไปฟังเทศน์ด้วยตัวเองคงจะเป็นไปได้ยาก ถ้าเกิดไม่ไปสอนให้เขาตักบาตร ไม่สร้างพฤติกรรมให้เป็นความเคยชิน ก็คงจะยาก
คำนูณ – ต้องเป็นเรื่องที่เด็กเขาเห็นมาตั้งแต่เด็ก คือพ่อแม่ทำก็พาเขาไปทำด้วย ทำด้วยความเคยชิน โตขึ้นเขาก็ยังโอเค แสดงว่า 45% นี่พ่อแม่ไม่ค่อย
สโรชา – ไม่เคยนำลูกไปใส่บาตรเลย แต่ที่แน่ๆน่าเป็นห่วงคือ สังคมเราในสมัยนี้เนี่ย คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่จะทำงานทั้งคู่ และเด็กนี่นอกเหนือจากจะห่างวัดนี่ เขาบอกไกลบ้านด้วย แสดงว่า ไม่ใช่ว่าไม่ไปวัดแล้วอยู่ที่บ้าน แต่กลับไปอยู่ที่ห้าง อยู่โรงภาพยนตร์ อยู่โบวลิ่ง อะไรประมาณนั้น พวกอาเขตทั้งหลายแหล่จะนั่งเล่นเกมกันได้เป็นวันๆ คือคุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่บ้านพูดง่ายๆ
สำราญ – ก็อย่างที่เรารู้ๆกันฟาสต์ฟู้ด แล้วก็อยู่บ้านเล่นแช็ตกันอย่างเดียว อะไรอย่างนี้ ก็ที่ดูก็ค่อนข้างจะเป็นสังคมเมืองนะ แต่เขาบอกว่าแม้กระทั่งวัยรุ่นในต่างจังหวัด 60% ก็ยังต้องมีพฤติกรรม มีการบริโภคแบบนี้แหละ ต้องดูหนัง ฟังเพลง ฟาสต์ฟู้ด มีโทรศัพท์มือถือมีอะไรอย่างนี้ คือมันลามไปถึงต่างจังหวัด
สโรชา – เขาบอกว่าสื่อลามกก็เป็นประเด็นเหมือนกันนะ ที่บอกว่าจะเริ่มบริโภคสื่อลามกกันตั้งแต่ประถมปลาย ประมาณกี่ขวบ
สำราญ – ก็ 12 แถวนั้น 12-13 ปี
สโรชา – คือหนังสือการ์ตูน คือเผอิญวันนั้นดิฉันได้ดูข่าวนี้พอดี แล้วก็เห็นภาพที่ออกมา อาจารย์ท่านก็เอาการ์ตูนที่น้องๆเขาอ่านมา ปรากฏว่า เปิดไปข้างในภาพที่เห็นนี่ตกใจ เพราะว่ามันล้วนแล้วแต่เรื่องพวกนั้นทั้งนั้นเลย คือสมัยเด็กๆดิฉันก็อ่านการ์ตูนเหมือนกัน แต่ว่ามันไม่เป็นอย่างนี้นะ จะมีก็ต้องเป็นตลาดมืดจริงๆ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันแพร่หลาย และก็หาซื้อได้ง่ายด้วย
สำราญ – แล้วก็ดร.อมรวิทย์ก็บอกว่าผลสำรวจยังพบต่อไปนะครับว่า กว่าร้อยละ 50 ของเด็กมัธยมปลาย ม.4,ม.5,ม.6 เกิน 50% มีประสบการณ์ทางเรื่องเพศ
คำนูณ – ก็นี่ล่ะนะเซ็กซ์เอื้ออาทร
สำราญ – มันกลายเป็นอเมริกาไปแล้ว อเมริกาเขาบอกว่าฟรีเซ็กซ์
สโรชา – คือสำหรับเขามันเป็นเรื่องปกติ สำหรับเรามันกลายเป็นเรื่องที่แสวงหากัน แล้วก็พยายามที่จะต้องทำให้ได้ เป็นแฟชั่นไปแล้วนะ
สำราญ – คือลูกผมนี่ก็
คำนูณ – ใส่บาตรไหม
สำราญ – ก็ใส่ แต่ว่าต้องบังคับกันนิดหน่อย
สโรชา – พ่อแม่ก็พยายามใช่ไหม พยายามอยู่
สำราญ – บางครั้งเขาก็เต็มใจมาก บางทีก็ไม่ค่อยเต็มใจ แต่เราก็ต้องลากลู่ถูกังกันไป
สโรชา – ขริงๆแล้วคุณดูบอลก็เหมาะเหมือนกัน ดูเสร็จกี่โมง แล้วก็ไหนก็ต้องมาทำงานอยู่แล้ว ก็ทำซะหน่อย
สำราญ – ผมก็ต้องไปส่งเขาทุกเช้า
สโรชา – ก็คิดเสียว่าเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ก็แล้วกัน ที่จะต้องปลูกฝังสิ่งเหล่านี้
คำนูณ – แต่ปัญหาที่แก้ไม่ตกอยู่ที่แช็ต บางทีเขาจะมีเพื่อนโดยที่เราไม่รู้ คือเขาก็ไม่ได้พาเพื่อนมาที่บ้านหรือว่าไปพบเพื่อนที่อื่น แต่ว่าเขาจะได้ข้อมูลอะไรจากทางไซเบอร์
สำราญ – เขาจะได้เพื่อนเป็นร้อย เดี๋ยวนี้จะไม่ใช่ตัวต่อตัว เราก็ตามไม่ค่อยทัน ปวดหัว
สโรชา – ดิฉันก็เคย คือหลุดรุ่นมาแล้วนะ ยอมรับ แต่ว่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัยเนี่ย ก็รุ่นนี้ก็เริ่มที่จะมีพวกนี้เข้ามา แล้วก็เริ่มจะนิยมกัน ก็เข้าไปแช็ตดู ก็ไม่เห็นจะมีอะไร ที่จะดึงดูดกันทั้งวัน หรือเราเลยรุ่นก็ไม่รู้
สำราญ – แต่เดี๋ยวนี้ต้องยอมรับว่าภัยมันมาทุกรูปแบบ เข้ามาถึงบ้านเลย
คำนูณ – คืออินเทอร์เน็ตนี่ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีของแต่ละเว็บนี่มันก็สูง การที่แบบนั่งทำงานอยู่ก็ยังมีเพื่อนเข้ามาติดต่อ ขึ้นมาๆๆอย่างนี้
สโรชา – คืออย่างบางทีลูกนั่งพิมพ์การบ้าน ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปแสวงหาเขาหรอก ก็ดูแลกันใกล้ชิดซักนิดนึง
คำนูณ – ทั้งชาติเดียวกันทั้งต่างชาติมีหมด
สำราญ – คุยกันของผมนี่ ค่อนข้างเป็นตัวอย่างที่ค่อนข้างจะล้มเหลว
สโรชา – อย่าไปพูดอย่างนั้น ก็ฝากคุณพ่อคุณแม่ที่ดูอยู่ด้วยแล้วกัน ดูแลคุณลูกใกล้ชิดซักนิดนึง เชื่อว่าความใกล้ชิดเนี่ยแหละ เป็นสิ่งที่จะสามารถดึงเขาให้พ้น
สำราญ – ถ้าย้อนเวลาไปได้ ต้องปีแรกเลย ต้องสร้างตั้งแต่เด็ก
สโรชา – คือถ้าเกิดตอนโตแล้ว พยายามจะไปนั่น
สำราญ – สายเสียแล้ว สายแน่นอน อย่างผม เป็นตัวอย่างที่ดีขอสารภาพมา ค่อนข้างสาย คือไม่ถึงว่าสายจนเกินไป
คำนูณ – หมายความว่ายังไง คือคุณพยายามที่จะใกล้เขา
สำราญ – เราก็ทำงาน มันเริ่มช้า สิ่งที่หายไปมันเรียกเวลาคืนไม่ได้ มันน่าเสียดายมาก ดังนั้นนี่ คนที่ยังไม่มีนะ บอกก่อนไว้ล่วงหน้า
สโรชา – ก็น้อมรับฟังค่ะ แต่ว่าไปดูข้อมูลของข่าวต่างประเทศกันซักนิดนึง ก็คือข่าวที่น่าสลดใจเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งแล้ว เพราะว่าหลังจากที่เราก็เคยเห็นมาแล้วนะ ภาพนี้ แล้วก็ห่างกันไม่นานนักก็เห็นอีกแล้ว เรื่องราวการตัดหัวตัวประกัน คุณพอล จอห์นสัน นักวิศวกรวัย 49 ปีเสียชีวิตไปเรียบร้อยแล้ว
คำนูณ – มีภรรยาเป็นคนไทย
สำราญ – ใช่ค่ะ ภรรยาเป็นคนขอนแก่น แล้วก็ตอนนี้เท่าที่เข้าใจก็คือ ตอนที่ข่าวออกมาใหม่ๆว่าเสียชีวิตแล้ว เธออยู่ที่กรุงริยาด ของซาอุดิอาระเบีย ก็รอข่าวอยู่นะคะ แต่ว่าเหตุการณ์นี้ทำให้จริงๆแล้วหลายๆประเทศทั่วโลกเลย ออกมาประณาม แต่นอกเหนือจากการประณาม ซาอุดิอาระเบียในฐานะที่เป็นเจ้าของบ้าน ก็ออกมาเหมือนกับจะอธิบายความ ว่าจริงๆเขาพยายามสุดความสามารถแล้วนะ ในการช่วยตัว คือเรื่องของเรื่องนี่คือ เขาพยายามที่จะให้ซาอุดิอาระเบียปล่อยตัวนักโทษมูจาอิดินที่ถูกกักขังอยู่ สามวันถ้าเกิดไม่ปล่อยก็จะฆ่าคุณพอล จอห์นสัน
สำราญ – นักโทษมีเยอะไหม
สโรชา – ไม่อยู่เยอะ เขาจับไว้เยอะ คราวนี้หลังจากที่ แน่นอน คือเขาบอกว่าเขาไม่เจรจากับผู้ก่อการร้ายอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการปล่อยตัวนักโทษไม่ได้เป็นทางเลือกที่เขาพิจารณา เขาเพียงแต่พยายามจะหาให้เจอก่อน และก็เอาตัวกลับมาให้ได้ ใช้คน ตำรวจ นายทหารพันกว่านาย 1500 นาย ค้นไปทั้งหมด 1200 ที่ สถานที่ ปรากฏว่าไม่เจอแล้วก็สายเกินไปเสียแล้ว แต่ไปพบศพทางตอนเหนือของกรุงริยาด ก็นำมาซึ่งการฆ่าหัวหน้าของอัลกออิดะห์ในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเขาอ้างว่าเขาฆ่าเรียบร้อยแล้ว แล้วก็เอาศพมาให้ดูเลยว่า คนนี้แหละที่อยู่เบื้องหลังการฆ่า แล้วก็ตายไปอีก 3 คนก็คือลูกน้องของหัวหน้ากลุ่ม ก็บุชเอง แบลล์เอง ก็ออกมาประณามการกระทำนี้ ซึ่งทำไมคะคุณคำนูณ พูดไว้ก่อนเข้ารายการ ว่ามันจะสร้างความชอบธรรมให้กับกลุ่มพันธมิตร
คำนูณ – คือผมว่ามันก็สบอารมณ์ของทั้ง 2 ฝ่าย คืออเมริกันก็จะใช้เป็นข้ออ้างว่า เนี่ยแหละคือความโหดเหี้ยมของขบวนการก่อการร้าย ก็จะต้องขจัดให้พ้นไปจากโลก ซึ่งทุกฝ่ายก็ต้องเห็นด้วย แต่ในขณะเดียวกัน ยิ่งไปขจัด ยิ่งไปใช้วิธีการรุนแรง ฝ่านขบวนการจารีตนิยมก็ยิ่งกระทำการรุนแรงมากขึ้น แล้วในที่สุดเนี่ยผมว่า เหมือนสอดคล้องป้องกัน เหมือนอีกฝ่ายก็ต้องการให้ปราบ อีกฝ่ายก็ต้องการปราบ เหมือนตุ้มของนาฬิกาเหวี่ยงไปซ้ายจัดขวาจัด สุดท้ายคนละวัตถุประสงค์ แต่ว่าวิธีการเดียวกัน ในที่สุดก็ฆ่ากันไปฆ่ากันมา ในที่สุดคนที่ฆ่าก็ไม่รู้ว่า ที่มาที่ไปของเหตุที่ฆ่ากัน มาเป็นศัตรูมันคืออะไร มันก็คือสุดโต่งของทั้งคู่ อันนี้เป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวมาก ซึ่งทำให้โลกเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง โอเคว่า เราเข้าใจอยู่ว่า เหตุผลที่ชาวมุสลิมจารีตนิยมเนี่ย เขาแค้นเคืองอเมริกามีที่มาที่ไป อเมริกาก็ทำไม่ถูกหลายด้าน ผมเองผมเห็นด้วย แต่ผมมองอเมริกันในฐานะเป็นจักรวรรดิ ในฐานะเป็นประเทศ ในฐานะการควบคุมนโยบาย แต่ว่าถ้าคนอเมริกันในฐานะปัจเจกเนี่ย จะต้องรับเคราะห์แทนประเทศทุกครั้งไปนี่ มันจะก่อให้เกิดการเป็นศัตรูกันไป
สโรชา – ใช่ เพราะในเมื่อคุณไปฆ่าคนบริสุทธิ์ ซึ่งไม่ได้รู้เห็นเป็นใจ หรือแม้กระทั่งที่จะมีการสังหารกัน ก็มีการพูดกันชัดเจนว่าไม่ว่าจะเป็นเพื่อน เป็นภรรยา หรือว่าจะเป็นลูกชายของนายพอล จอห์นสัน ก็คือพูดชัดเจนว่า เขาไม่เห็นด้วยกับนโยบายของบุช เพราะฉะนั้นก็เหมือนกับว่าเขาไม่ได้อยู่ตรงกันข้ามคุณนะ คุณปล่อยตัวเขามาเสียเถอะ แต่ว่าในการสังหารครั้งนี้ เขาพูดชัดเจนว่าเหมือนกับเป็นการเยียวยาหัวใจของผู้ที่ศรัทธาในศาสนาอิสลาม ไม่ว่าจะเป็นในอิรัก อัฟกานิสถาน หรือแม้กระทั่งปาเลสไตน์ อิสราเอล คือคนทั่วโลกครั้งนี้เรี่ย เป็นการทำให้เขาใจชื้นขึ้นมา อะไรประมาณนั้น
คำนูณ – คือมันจะกลายเป็นว่า ถ้าคุณเป็นอเมริกัน คุณผิด ถ้าคุณหน้าตาเป็นอาหรับหรือนับถือศาสนาอิสลาม คุณผิด มันก็ไม่จบ
สำราญ – มันจะต้องซื้อเกมนี้ให้ดี ยาวนานขนาดไหน
คำนูณ – ยาวนานขนาดไหนนั้นเรื่องนึง แต่ว่าวันนี้เราไม่ได้พูดถึงเรื่องภาคใต้ คิดว่าคุณสำราญคงเห็นด้วยว่า เราไม่อยากให้เหตุการณ์เหล่านั้น มันเกิดขึ้นในสามจังหวัดภาคใต้ ซึ่งสุดสัปดาห์นี้ก็มีลักษณะ พูดตรงๆว่า เริ่มจะไปใกล้เคียงกันแล้ว
สำราญ – มีความพยายามที่จะเป็นอย่างนั้น
คำนูณ – ปฏิบัติการใช่ไหม ที่กลางสวนสาธารณะ ระเบิดตูมเต็ม แล้วก็รอให้เจ้าหน้าที่เข้าไป ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่ ก็กดอีกตูมหนึ่ง ส่วนเรื่องการยิงการฆ่ารายวัน มันก็ยังมีอยู่
สำราญ – คือถือว่าเป็นเรื่องที่เซ็นซิทีฟมาก คือเรื่องอย่างนี้สุดท้าย มันอยู่ที่ลูกหลานของเราด้วยถ้าแก้ปัญหาภาคใต้ไม่ดี หรือใครที่มาทำให้เป็นอย่างนี้นะ คือสุดท้ายแล้วมันถึงลูกถึงหลานเรา ดังนั้นถ้าเราอยากให้บ้านเมืองเราดี คือภาคใต้ถ้าไม่สงบนะ เชียงใหม่คิดว่าจะอยู่รอดเหรอ กรุงเทพก็ไม่รอด
สโรชา – มันก็จะลุกลามไป
สำราญ – มันก็จะส่งผลกระเทือน โลกยุคใหม่ ดังนั้นทุกการแก้ปัญหานี่มันสำคัญมาก อันนี้คือรัฐบาลเองก็คงตระหนัก คงทราบ
คำนูณ – เชื่อว่ารัฐบาลก็คงอยากให้ทุกอย่างยุติ แต่บางที ผมเชื่อว่าเหตุการณ์ในบ้านเรามันก็เป็นผลสะท้อน ผลสะเทือนมาจากเหตุการณ์โลก สิ่งต่างๆเหล่านี้มันเป็นภาพที่เห็นได้จากทีวี เป็นข่าวสารไปทั่วโลก แล้วก็เมื่อมีความเกลียดชัง เมื่อมีความรู้สึกต่อสู้ขึ้นในหมู่ชนใดในประเทศ การเป็นเครือข่ายนี่บางทีไม่ได้หมายความว่าไปสั่งการนะ แต่มันเอาอย่างเอาเยี่ยงกันร่วมใจกันสู้
สำราญ – อย่างไรเสียก็ต้องอดทนล่ะนะ คือบ้านเมืองนี่เป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์จริงๆ คือใช้อารมณ์ไม่ได้
สโรชา – แต่ถึงยังไงก็อย่าให้ภาคใต้ไปถึงขั้นนั้นเลย
สำราญ – แต่ว่าเราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าทางสากลมันก็มีอิทธิพลมากทีเดียว แต่เราต้องสร้างภูมิคุ้มกัน สร้างความเข้าใจร่วมกันให้มันมาก คือถ้าจะเอาทางการทหาร มันก็ม้วนเดียวจบ แต่ปัญหาตามมาอีก
คำนูณ – ก็เหมือนกันน่ะ คือเขาก็ยั่วยุให้ใช้กำลัง
สำราญ – ยั่วยุให้เราไปติดกับดัก
สโรชา – แต่ว่าขออนุญาตทิ้งท้ายด้วยเรื่องตลกๆ หน่อยละกันนะ ทิ้งท้ายกันด้วยเรื่องทาร์ซาน ทาร์ซานตัวจริง เสียงจริง ในประเทศลิธัวเนีย ไปอยู่ในป่ามา 50 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2495 เขาสละทุกสิ่งทุกอย่างเลยนะคะเพื่อที่จะไปใช้ชีวิตอยู่ในป่า ดูหนังเรื่องทาร์ซานเสร็จปุ๊บได้แรงบันดาลใจ ทิ้งธุรกิจ ทิ้งครอบครัว ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไปอยู่ในป่า แล้วสามารถที่จะโหนอย่างนี้นะ ไกลถึง 200 เมตรเชียวนะ ไปอยู่กระต๊อบ แล้วก็อยู่ได้ แล้วก็เรียกตัวเองว่าเป็นเจ้าป่าจริงๆ เพราะเขาก็อยู่อย่างนี้มา จนกระทั่งมีคนไปค้นพบเขา แล้วก็มีเด็กๆนี่ล่ะที่อยากจะเอาเยี่ยงอย่าง เข้าไปฝึกความเป็นอยู่ในป่าบ้าง ตรงนี้แหละที่บอกว่าเด็กๆชอบ
สำราญ – ตอนนี้แกอายุเท่าไหร่
สโรชา – ตอนนี้แกอายุ 62 ค่ะ
คำนูณ – แล้วแกยังพูดได้ไหม
สโรชา – พูดได้ปกติ เพราะกว่าแกจะไปเริ่มใช้ชีวิตแกก็หนุ่มแล้ว เพราะฉะนั้น ตอนนั้นก็สละทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วก็สุขภาพแข็งแรงดี แล้วก็บอกว่าการใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว เป็นสิ่ง
ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับมนุษย์เรา หมดเวลาแล้วค่ะ สำหรับก่อนจะถึงวันจันทร์ กลับมาพบกับเราทั้ง 3 คนได้ใหม่ในสัปดาห์หน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ
กำลังโหลดความคิดเห็น