วันวิสาขบูชา ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุอาคารห้างนิวเวิลด์ สาขาบางลำภู ซึ่งอยู่ระหว่างการรื้อถอนเกิดถล่ม จากชั้น 8 สู่พื้นชั้นล่าง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย โดยในจำนวนนั้น บาดเจ็บสาหัส 2 ราย ซึ่งหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ระดมกำลังเพื่อทำการค้นหาผู้ที่อาจว่าจะเสียชีวิต จากซากปรักหักพัง ของเศษปูน ที่ลงมาทับถม โดยเจ้าหน้าที่ได้ค้นอยู่นานร่วม 5 ชั่วโมง แต่ไม่พบร่างผู้เสียชีวิต ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นความประมาทอย่างร้ายแรง โดย ในส่วนของคดีความ พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ได้ทำการสอบปากคำ พยานแวดล้อม โดยเฉพาะ ผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ โดยพบว่า มีผู้เข้าข่าย ที่จะต้องถูกดำเนินคดี พร้อมเตรียมออกหมายจับ แต่สุดท้าย วันที่ 4 มิ.ย.เวลา 15.30 น. นายวิเชียร สุขพันธุ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจของทางบริษัท แก้วฟ้า ชอปปิ้ง อาเขต จำกัด เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ฉัตรา พาสุวรรณ รอง ผกก.สส.สน.ชนะสงคราม พร้อมทั้งนำเอกสารหลักฐานการประสานงานกับทางกทม.เพื่อขอทำการรื้อถอนอาคารมาแสดง โดยนายวิเชียร กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ประสานงานกับทาง กทม.และดำเนินการอย่างถูกต้องมาตลอด แต่ทาง กทม.ไม่ได้แจ้งกลับมาว่าจะให้รื้อหรือไม่ให้รื้ออาคาร ซึ่งทางบริษัท ยืนยันว่า จะต้องเร่งดำเนินการรื้อถอนอาคารให้เร็วที่สุด เพราะมีการทำสัญญากับผู้ร่วมลงทุนว่าจะปรับปรุงอาคารตั้งแต่ชั้น 1-4 เพื่อเป็นสถานที่ใช้ขายสินค้าโอท็อป แต่ก็มีเงื่อนไขของทางนักลงทุนว่า จะต้องทำการรื้อถอนชั้น 5-11 เสียก่อน
นายวิเชียร กล่าวต่อว่า ส่วนในเรื่องวิศวกรของทางบริษัทสุณิสาก่อสร้าง แอนด์ ซัพพลาย จำกัด ไม่มีใบอนุญาตนั้น ตนไม่ทราบ แต่ทางบริษัทสุณิสา ยืนยันว่า มีวิศวกรควบคุมการรื้อถอนแน่นอน ส่วนเรื่องค่ารื้อถอนนั้น ทางบริษัทไม่ได้จ่ายเป็นเงิน แต่จะจ่ายค่าตอบแทน โดยให้โครงเหล็กของอาคารที่รื้อถอนนั้นไปแทน ทั้งนี้ทางบริษัท แก้วฟ้า ยืนยันว่า จะต้องรื้อถอนอาคารต่อไป แต่จะให้บริษัทสุณิสา เป็นผ็ดำเนินการหรือไม่นั้น ยังยืนยันไม่ได้
จากนั้น เวลา 15.45 น. นายอดิศักดิ์ วัฒนวิจารณ์ ทนายความที่ปรึกษาบริษัทสุณิสาก่อสร้าง แอนด์ ซัพพลาย จำกัด ได้พาตัวนายรุ่งโรจน์ งามเชย วิศวกรผู้ควบคุมการรื้อถอนอาคาร เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับฟังข้อกล่าวหา คือกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยนายอดิศักดิ์ กล่าวว่า ตนพาตัวนายรุ่งโรจน์ ซึ่งเป็นวิศวกรคนหนึ่งของโครงการ มารับฟังข้อกล่าวหา โดยทางบริษัทจะรับผิดชอบค่าเสียหายในส่วนที่เป็นความจริงทั้งหมด ทั้งนี้บริษัทได้มอบเงินให้กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ราย ที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.แล้ว โดยจ่ายให้รายละ 20,000 บาท แต่ในส่วนของรายอื่นๆนั้น ทางเรามีบริษัทประกันภัยที่จะเข้ามาเจรจาชดใช้ค่าเสียหายให้ โดยจะพิจารณาให้เป็นรายๆ ไป
ด้านนายรุ่งโรจน์ ให้การว่า ตนเพิ่งเข้ามาทำงานในบริษัทประมาณเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยเข้ามาในตำแหน่งรองผู้จัดการโครงการ ซึ่งในช่วงนั้นยังเป็นนายนาวิน เนื่องตุ้ย ที่เป็นวิศวกรโครงการ ผู้ควบคุมงานทั้งหมด แต่จากนั้นนายนาวินได้ออกไป เนื่องจากใบอนุญาตการทำงานหมดอายุ แต่งานยังคงต้องดำเนินต่อไป ตนจึงต้องปฏิบัติหน้าที่แทน โดยทำงานร่วมกับนายมงคล หลิมตระกูล วิศวกรอีกคนหนึ่ง ที่เข้ามาทำงานช่วงเดือน พ.ค. ที่มีอำนาจควบคุมการรื้อถอนได้ถึงชั้น 11 เนื่องจากตนมีใบอนุญาตการควบคุมการรื้อถอนอาคารได้เพียง 5 ชั้นเท่านั้น
หลังจากที่สอบปากคำนายรุ่งโรจน์เสร็จแล้ว พ.ต.ท.ฉัตรา กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นายรุ่งโรจน์ทราบแล้ว และคงจะไม่ต้องประกันตัว เนื่องจากความผิดโทษไม่เกิน 3 ปี และผู้ต้องหายังเดินทางมารับฟังข้อกล่าวหาเอง โดยที่ยังไม่ได้ออกหมายเรียก หรือหมายจับ ส่วนนายมงคล หลิมตระกูล วิศวกรอีกคนหนึ่งนั้น คาดว่าน่าจะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนภายใน 2-3 วันนี้
นายวิเชียร กล่าวต่อว่า ส่วนในเรื่องวิศวกรของทางบริษัทสุณิสาก่อสร้าง แอนด์ ซัพพลาย จำกัด ไม่มีใบอนุญาตนั้น ตนไม่ทราบ แต่ทางบริษัทสุณิสา ยืนยันว่า มีวิศวกรควบคุมการรื้อถอนแน่นอน ส่วนเรื่องค่ารื้อถอนนั้น ทางบริษัทไม่ได้จ่ายเป็นเงิน แต่จะจ่ายค่าตอบแทน โดยให้โครงเหล็กของอาคารที่รื้อถอนนั้นไปแทน ทั้งนี้ทางบริษัท แก้วฟ้า ยืนยันว่า จะต้องรื้อถอนอาคารต่อไป แต่จะให้บริษัทสุณิสา เป็นผ็ดำเนินการหรือไม่นั้น ยังยืนยันไม่ได้
จากนั้น เวลา 15.45 น. นายอดิศักดิ์ วัฒนวิจารณ์ ทนายความที่ปรึกษาบริษัทสุณิสาก่อสร้าง แอนด์ ซัพพลาย จำกัด ได้พาตัวนายรุ่งโรจน์ งามเชย วิศวกรผู้ควบคุมการรื้อถอนอาคาร เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับฟังข้อกล่าวหา คือกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยนายอดิศักดิ์ กล่าวว่า ตนพาตัวนายรุ่งโรจน์ ซึ่งเป็นวิศวกรคนหนึ่งของโครงการ มารับฟังข้อกล่าวหา โดยทางบริษัทจะรับผิดชอบค่าเสียหายในส่วนที่เป็นความจริงทั้งหมด ทั้งนี้บริษัทได้มอบเงินให้กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ราย ที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.แล้ว โดยจ่ายให้รายละ 20,000 บาท แต่ในส่วนของรายอื่นๆนั้น ทางเรามีบริษัทประกันภัยที่จะเข้ามาเจรจาชดใช้ค่าเสียหายให้ โดยจะพิจารณาให้เป็นรายๆ ไป
ด้านนายรุ่งโรจน์ ให้การว่า ตนเพิ่งเข้ามาทำงานในบริษัทประมาณเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยเข้ามาในตำแหน่งรองผู้จัดการโครงการ ซึ่งในช่วงนั้นยังเป็นนายนาวิน เนื่องตุ้ย ที่เป็นวิศวกรโครงการ ผู้ควบคุมงานทั้งหมด แต่จากนั้นนายนาวินได้ออกไป เนื่องจากใบอนุญาตการทำงานหมดอายุ แต่งานยังคงต้องดำเนินต่อไป ตนจึงต้องปฏิบัติหน้าที่แทน โดยทำงานร่วมกับนายมงคล หลิมตระกูล วิศวกรอีกคนหนึ่ง ที่เข้ามาทำงานช่วงเดือน พ.ค. ที่มีอำนาจควบคุมการรื้อถอนได้ถึงชั้น 11 เนื่องจากตนมีใบอนุญาตการควบคุมการรื้อถอนอาคารได้เพียง 5 ชั้นเท่านั้น
หลังจากที่สอบปากคำนายรุ่งโรจน์เสร็จแล้ว พ.ต.ท.ฉัตรา กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นายรุ่งโรจน์ทราบแล้ว และคงจะไม่ต้องประกันตัว เนื่องจากความผิดโทษไม่เกิน 3 ปี และผู้ต้องหายังเดินทางมารับฟังข้อกล่าวหาเอง โดยที่ยังไม่ได้ออกหมายเรียก หรือหมายจับ ส่วนนายมงคล หลิมตระกูล วิศวกรอีกคนหนึ่งนั้น คาดว่าน่าจะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนภายใน 2-3 วันนี้