โดย ทีมจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด
แม้ว่าในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2025 นี้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จะให้ผลตอบแทนที่ยังเป็นลบอยู่ และติดลบในเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม แต่หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์เป็นหนึ่งในไม่กี่อุตสาหกรรมที่สามารถฝ่าฟันปัจจัยมหภาคที่ท้าทายได้ โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาลงซึ่งเป็นรายได้หลักของธนาคาร กลับกันราคาหุ้นให้ผลตอบแทนเป็นบวกอย่างโดดเด่นถึงมากกว่า 15% ในปีนี้มากไปกว่านั้น ราคาหุ้นบางธนาคารสามารถทำระดับสูงสุดใหม่ในรอบมากกว่าสิบปีด้วยซ้ำ ในบทความนี้จึงอยากนำเสนอและพาไปวิเคราะห์ถึงสาเหตุและปัจจัยสนับสนุนต่างๆ ที่เกิดขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่น่าสนใจในตลาดหุ้นไทย
ธนาคารแห่งประเทศไทยเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในเดือน ต.ค. 2024 และลดเพิ่มเติมต่อเนื่องในปี 2025 อีก 3 ครั้ง อย่างไรก็ตามในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2025 กำไรสุทธิของธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ รายงานออกมา พบว่ายังสามารถเติบโตได้เล็กน้อยราว +6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ยังไม่มีการลดดอกเบี้ย และยังสามารถเพิ่มขึ้นได้แม้สินเชื่อในระบบหดตัวลง ประเด็นนี้ถือเป็นสิ่งที่ทำได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดคาดการณ์กันไว้ตั้งแต่เริ่มปีนี้ว่ากำไรจะได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยที่ลดลง โดยได้แรงหนุนจากรายได้ค่าธรรมเนียมในธุรกิจอื่น ๆ โดยเฉพาะธุรกิจด้านการบริหารความมั่งคั่งและธุรกิจการลงทุน ประกอบกับความสามารถในการบริหารต้นทุน โดยเฉพาะต้นทุนด้านเครดิต (Credit cost) ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการสะท้อนถึงการบริการความเสี่ยงที่ดีของธนาคาร ทั้งในเชิงของการกระจายรายรับไปยังธุรกิจอื่น รวมถึงการคัดกรองลูกหนี้สินเชื่ออย่างเข้มงวดในช่วงที่ผ่านมา
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นโดดเด่นนั่นคือ การสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นอย่างเหมาะสม ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปัจจุบัน ผ่านการจ่ายเงินปันผลที่เพิ่มขึ้น จนราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารให้ผลตอบแทนเงินปันผลต่อปีอยู่ที่ราว 6-8% ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยหุ้นในดัชนี SET Index ที่อยู่ราว 3-4% อย่างมีนัยฯ เนื่องจากธนาคารเก็บเงินทุนสำรองส่วนเพิ่มที่อาจเรียกได้ว่ามากเกินความจำเป็นเมื่อเทียบกับการไม่ปล่อยสินเชื่อใหม่ในช่วงที่ผ่านมา และเพียงพอในการรักษาผลการดำเนินงานได้
ในขณะเดียวกันการจ่ายปันผลที่สูงขึ้นเป็นการส่งสัญญาณถึงความเข้มแข็งของฐานะทางการเงินและสภาพคล่องของธนาคารไทย ซึ่งเรียกได้ว่าเหมาะกับภาวะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน นอกจากนี้แล้วในปีนี้หลายธนาคารมีการประกาศซื้อหุ้นคืนในตลาด เนื่องจากราคาหุ้นที่ยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี นักลงทุนในตลาดจึงมีความมั่นใจในการลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารมากขึ้น
โดยสรุปแล้ว ความโดดเด่นของหุ้นธนาคารในช่วงที่ผ่านมานั้นเกิดจากปัจจัยพื้นฐานที่ดีของตัวอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในแง่ของผลการดำเนินงาน การบริหารความเสี่ยง และความสามารถในการเพิ่มเงินปันผลจ่ายให้กับผู้ถือหุ้น หุ้นกลุ่มธนาคารจึงกลายเป็นหุ้น Defensive ที่น่าสนใจในการลงทุนภายใต้ภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย มีความเสี่ยงขาลงค่อนข้างจำกัดจากฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีสภาพคล่องสูง และเมื่อประกอบกับอัตราผลตอบแทนเงินปันผลต่อปีที่จูงใจแล้ว นักลงทุนจึงเลือกเข้ามาลงทุนรับเงินปันผลในระหว่างที่เฝ้ารอการกลับมาของเศรษฐกิจไทยและตลาดหุ้นไทยอีกครั้งหนึ่ง
                    

