บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ดาโอ จำกัด (บลจ.ดาโอ) เปิดตัวกองทุนใหม่ “กองทุนเปิด ดาโอ ควอนตัม คอมพิวติ้ง (DAOL-QUANTUM)” เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าถึงเมกะเทรนด์เทคโนโลยีแห่งอนาคต “Quantum Computing” ที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากแนวคิดในห้องทดลองสู่การใช้งานจริงในภาคอุตสาหกรรมทั่วโลก
นางสาวมนชญา รัชตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารจัดการลงทุน เปิดเผยว่า “Quantum Computing ถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งศตวรรษนี้ เพราะสามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็วกว่าและมีศักยภาพสูงกว่า Supercomputer หลายเท่าตัว จึงมีโอกาสพลิกโฉมอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น การแพทย์ การเงิน พลังงาน และ AI โดยเรามองว่าการลงทุนในธีมควอนตัมขณะนี้อยู่ในระยะเริ่มต้นของวัฏจักรเทคโนโลยี ซึ่งเป็นจังหวะที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการเติบโตไปกับคลื่นเทคโนโลยีใหม่”
.
ควอนตัมคอมพิวติ้ง (Quantum Computing) กำลังถูกจับตามองในฐานะเทคโนโลยีที่จะมาพลิกโฉมโลกยุคใหม่ต่อจากปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยอาศัยหลักการของฟิสิกส์ควอนตัม (Quantum Physics) ที่ทำให้ระบบสามารถประมวลผลคำตอบได้หลายชุดพร้อมกัน แตกต่างจากคอมพิวเตอร์ทั่วไปซึ่งทำงานแบบทีละขั้นตอนด้วยความสามารถในการคำนวณที่เร็วกว่าและซับซ้อนกว่าอย่างมหาศาล เทคโนโลยีควอนตัมจึงถูกคาดหวังว่าจะสามารถแก้ปัญหาระดับโลกได้ในอนาคต เช่น การจำลองโมเลกุลเพื่อพัฒนายาใหม่ การค้นคว้าวัสดุพลังงาน หรือการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่เกินขีดจำกัดของเทคโนโลยีปัจจุบัน
.
ปัจจุบันภาครัฐและเอกชนทั่วโลกเร่งลงทุนอย่างจริงจัง โดยมูลค่าการลงทุนสาธารณะ (Public Investments) ด้านควอนตัมมากกว่า 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะเดียวกันบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ อย่าง Google, Microsoft, IBM และ Amazon ต่างเร่งพัฒนาและเปิดตัวชิปควอนตัมรุ่นใหม่ รวมถึงให้บริการ Quantum Cloud สำหรับการทดลองใช้งาน ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์ในอนาคต นอกจากนี้ ตลาดเทคโนโลยีควอนตัมทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตแตะระดับ 1.3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2040 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ราว 14-17% และถูกมองว่าเป็น “Next Frontier” ที่จะยกระดับศักยภาพของ AI และเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต
.
บลจ.ดาโอ จึงขอนำเสนอ กองทุนเปิด ดาโอ ควอนตัม คอมพิวติ้ง (DAOL-QUANTUM) เปิดเสนอขายครั้งแรกระหว่าง วันที่ 29 ตุลาคม - 5 พฤศจิกายน 2568 (ความเสี่ยงระดับ 6 : ความเสี่ยงสูง) โดยที่ลงทุนผ่านกองทุนหลัก VanEck Quantum Computing UCITS ETF ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (London Stock Exchange) โดยกองทุนหลักมุ่งเน้นการลงทุนในบริษัทที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมควอนตัมทั่วโลก โดยกระจายการลงทุนครอบคลุมบริษัทชั้นนำกว่า 30 แห่งจากหลายประเทศ ทั้งกลุ่ม Pure-Play Innovators ซึ่งเป็นผู้พัฒนาควอนตัมโดยตรง และกลุ่ม Patent Leaders หรือบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่ถือครองสิทธิบัตรด้านควอนตัมในระดับสูง พอร์ตการลงทุนของกองทุนหลักสะท้อนถึงความตั้งใจในการเข้าถึงโอกาสเติบโตของเทคโนโลยีควอนตัมอย่างรอบด้าน ครอบคลุมในหลากหลายอุตสาหกรรมที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุคคอมพิวเตอร์ยุคใหม่ เช่น
• IonQ : บริษัทผู้พัฒนาเครื่อง Trapped-Ion Quantum Computer
• Rigetti Computing : บริษัทผู้พัฒนาเครื่อง Superconducting Quantum Computer เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ทั่วไปผ่านระบบ Hybrid Quantum-Classical
• D-Wave Quantum : บริษัทผู้พัฒนา Quantum Computer แบบ Quantum Annealing สำหรับการแก้ปัญหาการคำนวณเชิงซับซ้อน
• Intel, Microsoft, IBM, Samsung Electronics, Synopsys : บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกที่ลงทุนอย่างต่อเนื่องใน Quantum Hardware และชิปที่เกี่ยวข้องกับยุคควอนตัม
• Bank of America, Wells Fargo : บริษัทผู้นำภาคการเงินที่นำเทคโนโลยีควอนตัมมาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ความเสี่ยงและจำลองสถานการณ์การลงทุน
.
“การลงทุนในธีม Quantum Computing ไม่ได้เป็นเพียงการตามกระแสเทคโนโลยี แต่เป็นการวางตำแหน่งสู่อนาคตของเศรษฐกิจโลก กองทุน DAOL-QUANTUM เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้เข้าถึงหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีศักยภาพเติบโตสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ และเป็นการลงทุนเชิงเมกะเทรนด์ที่สามารถสร้างโอกาสการเติบโตในระยะยาวได้” นางสาวมนชญา กล่าว
.


