โดย ประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทาลิส จำกัด
โดนัลด์ ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 20 มกราคม 2568 ซึ่งนโยบายต่าง ๆ นั้นได้สร้างความกังวลให้แก่นักลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะมาตรการการขึ้นภาษีนำเข้าจากประเทศคู่ค้า และอาจขึ้นภาษีนำเข้าสูงเป็นพิเศษสำหรับสินค้าจากประเทศจีน โดยเรายังไม่เห็นความชัดเจนในเรื่องของนโยบายดังกล่าวจนกว่าคุณทรัมป์จะเข้าดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ซึ่งจากประสบการณ์การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งก่อน คุณทรัมป์มักชูนโยบายแบบสุดโต่ง ที่สร้างความปั่นป่วนให้แก่ตลาดหุ้นทั่วโลก แต่นโยบายจริงเป็นการเน้นการเจรจาเพื่อรักษาผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ให้ได้มากที่สุด ทำให้เรามองว่า ควรรอดูนโยบายจริงก่อนจัด Port การลงทุน
นโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ สร้างความปั่นป่วนให้แก่ตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะกับจีนที่เป็นเป้าหมายหลัก อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลจีนกำลังพยายามประคองเศรษฐกิจ โดยมีมาตรการกระตุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง และหากทางสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนจริง คาดว่าทางจีนจะมีมาตรการโต้ตอบ โดยอาจขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯคืน หรือเน้นไปที่การกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม คุมให้เงินหยวนอ่อนค่าในกรอบที่ตั้งไว้ เพื่อลดผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าแทน ซึ่งเราคงต้องจับตาดูท่าทีของยักษ์ใหญ่ 2 ประเทศนี้ให้ดี
กลับมามองที่ประเทศไทย ในช่วงเดือนธันวาคม ตลาดหุ้นค่อนข้างนิ่ง ขยับ Sideway มาตลอด เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกชัดเจน และทางนักลงทุนกำลังรอการแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 3 เดือน รวมถึงติดตามทิศทางการบริหารงาน และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนในช่วงปลายปีที่เหลือจนถึงต้นปีหน้า สำหรับปัจจัยภายนอกที่คาดว่าจะมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย ได้แก่ ทิศทางของ FED ซึ่งหากในการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 17-18 ธันวาคมนี้ FED ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยตามตลาดคาด จะทำให้ตลาดหุ้นไทยได้รับอานิสงส์เพิ่มเติม และหากทางการจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่มาอีกครั้ง คาดว่าจะทำให้ตลาดหุ้นเอเชียได้รับผลบวกตามจีน
ในช่วงนี้ที่ตลาดหุ้นบ้านเรายังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน แนะนำให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวังในการลงทุน โดยอาจเน้นหุ้นที่จะได้รับผลบวกโดยตรงจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและแก้หนี้ครัวเรือนของรัฐบาล เช่น กลุ่มธนาคาร กลุ่มเช่าซื้อ นอกจากนี้ การท่องเที่ยวไทยที่กำลังเข้าสู่ช่วง High Season ต่อเนื่องยาวไปจนถึงไตรมาส 1 ปี 2568 ซึ่งจากแนวโน้มการท่องเที่ยวไทยที่เติบโตต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวมีโอกาสที่จะเติบโตได้ดีในช่วงนี้