นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คนไทยในปัจจุบันใส่ใจกับความคุ้มครองและสินค้าประกันชีวิตมากขึ้นซึ่งจะ
ซึ่งส่งผลดีต่อธุรกิจประกันชีวิต ส่วนการดำเนินงานของบริษัทยังเป๋นไปตามเป้าหมายเดิมที่วางไว้คือ
เบี้ยรับปีแรกของบริษัทเติบโตมากกว่า 10% ได้ และยังคงอยู่ในแผนงานที่จะสร้างการเติบโตของเบี้ยปีแรกได้ถึง 1 หมื่นล้านบาทภายในปี 2026 โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้จะเป็นช่วงที่มีเบี้ยประกันเข้ามาเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากจะเริ่มเห็นการใช้สิทธิ์ทางภาษีในช่วงส่งท้ายปี
“เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีขึ้นจากเดิมประเมินจีดีพีที่ 1.9% ก็เพิ่มมาเป็น 2.6% ซึ่งตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจหลายตัว ก็ปรับดีขึ้น การท่องเที่ยวก็กลับมาถึง 80% จากช่วงก่อนโควิด ซึ่งคนไทยตอนนี้สนใจ และพร้อมรับฟังข้อเสนอเกี่ยวกับสินค้าประกันชีวติมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดน่าจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจประกันชีวิตโตต่อเนื่องจากนี้”นายโชนกล่าว
**ตั้งเป้าเบอร์1แบรนด์ประกันชีวิตด้านความใส่ใจ**
ทั้งนี้บริษัทมีวิสัยทัศน์เพื่อมุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่งในด้านความใส่ใจ โดยหลายปีที่ผ่านมาบริษัทได้นำแนวทางการทำงานอย่างใส่ใจมาใช้ในด้านต่างๆ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ บุคคลากรของบริษัทรวมถึงตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงิน และบริการเสริม BLA Every Care ที่ตอบโจทย์ความใส่ใจลูกค้าแบบครบวงจร ซึ่งจากการสำรวจกลุ่มลูกค้า พบว่า เมื่อนึกถึงกรุงเทพประกันชีวิต ลูกค้าต่างพูดถึงเรื่องความใส่ใจมาเป็นอันดับต้น ๆ
“เราเชื่อว่า พลังของการใส่ใจนั้นมีผลต่อแบรนด์กรุงเทพประกันชีวิตอย่างมาก จึงมุ่งหวังให้ กรุงเทพประกันชีวิต เป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่งด้านความใส่ใจในทุกมิติ ตั้งแต่ลูกค้า ตัวแทน ที่ปรึกษาทางการเงิน พันธมิตรทางการค้า พนักงาน ผู้ถือหุ้น สังคมและสิ่งแวดล้อม” นายโชนกล่าว
ภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่นี้ เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่เป็นเลิศจากความใส่ใจ เพิ่มความอุ่นใจให้กับผู้ถือกรมธรรม์ด้านความมั่นคงในชีวิต ผ่านตัวแทนที่มีความจริงใจ เทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์บริการที่ดี และ สิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของทุกเจนเนอเรชั่น
สำหรับตัวแทนและที่ปรึกษาทางการเงิน เราส่งเสริมการเพิ่มศักยภาพของทีมงานให้สามารถทำงานได้อย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมรับมือกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งสร้างพลังบวกและการตระหนักรู้ถึงคุณค่าของการใส่ใจ เพื่อให้ทุกคนสามารถส่งต่อการให้บริการที่ประทับใจไปสู่ลูกค้าอย่างดีที่สุด และสำหรับพนักงาน เราส่งเสริมให้ทุกคนมีความสุข มีความก้าวหน้าและมีความมั่นคงในอาชีพ มีการเพิ่มพูนทักษะให้สามารถเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ เคารพในความแตกต่าง ให้ความเสมอภาค ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี
**ถ่ายทอดDNAความใส่ใจผ่านโฆษณาใหม่**
ด้านนางสาวอรนาฎ นชะพงษ์ ผู้บริหารสายกลยุทธ์การตลาดและบริหารจัดการลูกค้า เปิดเผยถึงแนวคิดการปรับภาพลักษณ์องค์กรในครั้งนี้ว่า มาจากผลการสำรวจเพื่อต้องการหา Insight กลุ่มผู้บริโภคและลูกค้า ที่มีความคาดหวังต่อธุรกิจประกันชีวิต ซึ่งพบว่าคนแต่ละเจนเนอเรชั่นมีความต้องการที่ไม่เหมือนกันทั้งผลิตภัณฑ์ ช่องทางการขายและการบริการ แต่มีสิ่งหนึ่งที่คนทุกเจนคาดหวังและต้องการเหมือนกันคือ “ความใส่ใจ” ในบริการหลังการขาย ซึ่งการสื่อสารแบรนด์แคมเปญนี้จะช่วยให้ผู้บริโภคเห็นความแตกต่างและรับรู้ถึงความใส่ใจได้อย่างชัดเจน
“แคมเปญ “ใส่ใจ” ครั้งนี้ จะถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์โฆษณา 2 เรื่อง ซึ่งได้ผลมาจากงานวิจัยที่น่าสนใจ คือ ในยุคที่เทคโนโลยีมีผลกับชีวิตผู้คนทำให้คนส่วนใหญ่มักใช้เวลาในการสร้างความสัมพันธ์ผ่านเทคโนโลยี จนละเลย หลงลืม ขาดความผูกพันที่อบอุ่น