บลจ.กสิกรไทย ตั้งเป้าAUMโตแตะ2ล้านล้านบาทใน3ปี ขึ้นแท่น“Top of Mind Investment House”มุ่งสร้างผลตอบแทนที่ดีสม่ำเสมอ คาดหุ้นไทยปีนี้ยืน1,500จุด ส่วนปีหน้าแตะ1,600จุดรับ อานิสงส์เศรษฐกิจไทยฟื้น กองทุนวายภักษ์ และการลดดอกเบี้ยเฟดช่วยหนุน
นายวิน พรหมแพทย์, CFA, ประธานกรรมการบริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัดเปิดเผยว่า เป้าหมายของบริษัทต่อจากนี้ คือการผลักดันให้บริษัทเป๋น“Top of Mind Investment House” พร้อมตั้งเป้า AUM ภายใต้บริหารแตะ 2 ล้านล้านบาท ใน 3 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ ให้ความสำคัญกับการวางรากฐานใน 5 ด้าน ได้แก่ 1) มุ่งสร้างผลตอบแทน จากการบริหารจัดการกองทุนให้ได้ผลตอบแทนที่โดดเด่นอย่างสม่ำเสมอ 2) มุ่งสร้างประสิทธิภาพของพอร์ต จากการจัดพอร์ตแบบ Core & Satellite Portfolio 3) มุ่งสร้างความน่าเชื่อถือ จากการให้คำแนะนำการลงทุนที่ทันต่อเหตุการณ์อย่างตรงไปตรงมา 4) มุ่งสร้างเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มลูกค้า จากการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม และ 5) มุ่งสร้างความเชี่ยวชาญ จากการให้มุมมองการลงทุนเชิงลึกภายใต้ชื่อ Know The Markets โดยรากฐานทั้งหมดจะมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การพัฒนาขีดความสามารถในการบริหารสินทรัพย์ทั่วโลก
คาดหุ้นไทยปีหน้าแตะ1,600จุด
นายวิน กล่าวอีกว่า การลงทุนในหุ้นไทยบริษัทยังคงมีมุมมองเชิงบวกจากการประเมินมูลค่าหุ้น (Valuation) ซึ่งอยู่ในระดับที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับในอดีต ประกอบกับเม็ดเงินใหม่ ที่จะเข้าสู่ตลาดหุ้นจากการตั้งกองทุนวายุภักษ์ แนวโน้มเศรษฐกิจไทยคาดว่าจะฟื้นตัวได้จากการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาล และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีซึ่งเป็น High Season มองเป้าหมายดัชนีปลายปี 2024 ที่ระดับ 1,450-1,500จุด และปี 2025 ที่ระดับ 1,600 จุด” คุณวินกล่าว่า
สำหรับหุ้นที่น่าสนใจเป็นหุ้นในกลุ่มปันผลสูงและเป็นหุ้นขนาดใหญ่ และหุ้นในกลุ่มESG เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังเป็นหุ้นที่อยู่ในกรอบการลงทุนของกองทุนวายุภักษ์ และThai ESg รวมถึงเม็ดเงินทุนจากต่างชาติจากการลดอัตราดอกเบี้ยเฟด
อย่างไรก็ตามการลงทุนในหุ้นไทยหากนักลงทุนมีความกังวลสามารถเข้าลงทุนในกองตราสารหนี้เพื่อล็อกอัตราผลตอบแทนในช่วงขาลงก่อน ซึ่งจังหวะการลงทุนหุ้นไทยที่เหมาะสมน่าจะเป็นช่วงที่หุ้นไทยอยู่ในระดับ1,480จุด
“หุ้นไทยขึ้นมาจากเสถียรภาพทางการเมือง นโยบายเศรษฐกิจ และกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งการลงทุนต่อจากนี้ยังคงมีความผันผวน โดยนักลงทุนควรลดความขรุขระด้วยการกระจายการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น”
จับมือเจพี-ลอมบาร์ดลงทุนสินทรัพย์ยั่งยืนทั่วโลก
นายวินกล่าวต่อไปว่า สำหรับทิศทางการพัฒนาเพื่อการแข่งขัน บลจ.กสิกรไทย เตรียมพัฒนาโซลูชันการลงทุนกับ 2 พันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำระดับโลกทั้ง J.P. Morgan Asset Management ในฐานะ Strategic Partnership ที่มุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถในการคัดเลือกและจัดสรรสินทรัพย์ทั่วโลก กับอีก 1 พันธมิตรที่ปรึกษาด้านความยั่งยืน Lombard Odier ที่มุ่งเน้นการกำหนดยุทธศาสตร์ในการวางโครงสร้างการลงทุนอย่างยั่งยืน ซึ่งจะช่วยเติมเต็มศักยภาพการบริหารจัดการกองทุน และยกระดับมาตรฐานการทำงานในทุกมิติ