xs
xsm
sm
md
lg

1,500 จุด…..จุดวัดใจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โดย ประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์  ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทาลิส จำกัด
 
SET Index ในช่วงเดือนตุลาคมได้ค่อย ๆแกว่งตัว Sideway up โดยมีปัจจัยหนุนหลักๆ มาจากความหวังต่อเม็ดเงินลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ ซึ่งกระตุ้นแรงซื้อหุ้น Big Cap ในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยยังได้รับปัจจัยบวกจากวงจรอัตราดอกเบี้ยขาลงจากทาง FED อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังโดนกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลดลง หลังมีสัญญาณอิสราเอลจะไม่ตอบโต้ผ่านการโจมตีแหล่งผลิตน้ำมัน และล่าสุดในวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยสวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย โดยมีมติให้ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 25 bps เหลือ 2.25% จากเดิม 2.5%ทำให้ SET Index ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจนเกือบถึง 1,500 จุด
ในมุมมองของผม คาดว่าการที่ กนง.ลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งล่าสุดมีผลบวกต่อตลาดหุ้นบ้านเราเป็นอย่างมาก เนื่องจากการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้จะช่วยทั้งฝั่งเศรษฐกิจ ลดภาระดอกเบี้ยของประชาชน และเพิ่มโอกาสที่เราจะได้เห็นการขยายตัวของสินเชื่อ กำลังซื้อ และการลงทุนที่จะกลับมาหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ทางธนาคารแห่งประเทศไทยยังมีมุมมองว่าวงจรอัตราดอกเบี้ยยังไม่เข้าสู่ขาลงอย่างเต็มตัว ทำให้เราคาดว่าระดับหนี้ครัวเรือนในปัจจุบันนั้นยังไม่เป็นปัญหา โดยเราคาดว่าหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้จะเป็นหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า Consumer Finance อสังหาริมทรัพย์ หุ้น High Yield และหุ้นที่มีหนี้สูง และหุ้นที่ได้รับผลกระทบในเชิงลบได้แก่หุ้นกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ตาม ผมกลับมองว่าหากหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงมากลับเป็นจุดน่าเข้าสะสม เนื่องจากแม้ว่าหุ้นกลุ่มนี้จะถูกกดดันจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ภาพรวมเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวจะหนุนการขยายตัวของสินเชื่อ ค่าธรรมเนียม และคุณภาพหนี้
เมื่อ SET Index ปรับตัวขึ้นมาแตะ 1,500 จุด ผมคาดว่าตรงนี้จะเป็นจุดตัดสินว่าหุ้นไทยจะไปต่อได้หรือไม่ เนื่องจากครั้งล่าสุดที่ SET Index หลุดลงจาก 1,500 จุดคือในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 และตลาดหุ้นไทยใช้เวลา 1 ปีกว่าในการกลับมาแตะจุดนี้ โดยนับจากนี้เรายังมีแรงหนุนจากกองทุนวายุภักษ์ ที่ยังคงเข้าซื้อหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผลบวกจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่อาจทำให้หุ้นไทยแผ่วลงก็ยังคงมีอยู่ เช่น สถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีน ที่ยังไม่แน่นอน ซึ่งเราคงต้องติดตามกันต่อไป และหากการปรับตัวขึ้นครั้งนี้สามารถทะลุและยืนได้เหนือ 1,500 จุด ผมคิดว่าเราน่าจะได้เห็นดัชนีขึ้นต่อเนื่องไปแตะแถวๆ 1,550 จุดได้ในที่สุดครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น