xs
xsm
sm
md
lg

SCBAMเคาะจ่ายปันผล-คืนทุน กลุ่มกองทุนอสังหาฯ-อินฟราฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เปิดเผยว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยค่อนข้างซบเซา ซึ่งเป็นผลมาจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กดดันตลาดหุ้นไทยอย่างไรก็ดี ท่ามกลางสภาวะของตลาดทุนไทยที่เต็มไปด้วยความท้าทาย กลุ่มกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ SCBAM ยังสามารถสร้างผลงานได้ดี
ล่าสุด คณะกรรมการพิจารณาการลงทุนมีมติเห็นชอบการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน สำหรับงวดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 รอบผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 เม.ย. 2567 – 30 มิ.ย. 2567 ประกอบด้วยกองทุนประเภทโครงสร้างพื้นฐาน 1 กองทุน กองทุนประเภทอาคารสำนักงานให้เช่า 3 กองทุน

โดยทั้ง 4 กองทุนมีกำหนดปิดสมุด (XD) วันที่ 15 สิงหาคม 2567และมีกำหนดจ่ายปันผลสำหรับกองทุน DIF ในวันที่ 5 กันยายน 2567 และกำหนดจ่ายปันผลสำหรับกองทุนPOPF กองทุน SIRIP และจ่ายปันผล-คืนทุนสำหรับกองทุน CPNCG ในวันที่ 2 กันยายน 2567 นี้

สำหรับ “กองทุน DIF” กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่มีรายได้จากการให้เช่าทรัพย์สินเสาโทรคมนาคมโดยกองทุนมีปัจจัยพื้นฐานดีและมีความผันผวนต่ำ มีรายได้หลักที่มั่นคงจากสัญญาเช่าระยะยาวของผู้เช่าหลักคือ กลุ่มบริษัท ทรู คอร์ปอเรชัน (TRUE) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ให้บริการด้านโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยโดยกองทุนมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.2222 บาท/หน่วย เป็นการจ่ายปันผลครั้งที่ 2 ในรอบปี 2567 และเป็นการจ่ายปันผลครั้งที่ 42 นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน

นอกจากนี้ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารสำนักงานให้เช่าอีก 3 กองทุน เป็นกองทุนที่ล้วนมีทรัพย์สินตั้งอยู่ในย่านธุรกิจและใจกลางเมือง กองทุนแรก คือ “กองทุน CPNCG” ที่มีรายได้จากการลงทุนในสิทธิการเช่าของอาคารสำนักงานเกรดเอ ในบริเวณศูนย์การค้าของ Central Pattana ย่านเขตปทุมวัน มีกำหนดจ่ายประโยชน์ตอบแทนรวม 0.2661บาท/หน่วย(*)

“กองทุน POPF” ที่มีรายได้จากการลงทุนในสิทธิการเช่าของอาคารสำนักงาน 3 แห่งคืออาคารสมัชชาวานิช 2, อาคารเพลินจิต เซ็นเตอร์ และอาคารบางนา ทาวเวอร์ กองทุนมีกำหนดจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนรูปแบบเงินปันผลในอัตรา 0.2900 บาท/หน่วย(*) ซึ่งเป็นอัตราการจ่ายที่เท่ากับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นจากปี 2566 และเป็นการจ่ายปันผลครั้งที่ 53 นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน

สำหรับกองทุนอสังหาฯ ประเภทอาคารสำนักงานให้เช่าลำดับสุดท้าย คือ “กองทุน SIRIP” ที่มีรายได้จากการลงทุนในกรรมสิทธิของโครงการอาคารสิริภิญโญ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนศรีอยุธยา ย่านธุรกิจที่กำลังเติบโตจากการขยายตัวอย่างมากของพื้นที่เมืองชั้นใน กองทุนมีกำหนดจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนรูปแบบเงินปันผลในอัตรา 0.1000 บาท/หน่วย(*) ซึ่งเป็นอัตราการจ่ายที่เพิ่มขึ้นจาก 1Q2567 และเป็นการจ่ายปันผลครั้งที่ 40 นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับตลาดทุนไทย การลงทุนกับสินทรัพย์ที่มีความแข็งแกร่งด้านปัจจัยพื้นฐานและมีผลการดำเนินงานที่มั่นคง ยังเป็นทางเลือกที่นักลงทุนยังสามารถหาโอกาสสร้างผลประโยชน์ตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาวได้ดี อย่างไรก็ดี ภาพรวมเศรษฐกิจไทยก็เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยได้รับแรงขับเคลื่อนหลักจากภาคการท่องเที่ยว ภาคบริการ และการลงทุนของภาคเอกชนที่ขยายตัว ประกอบกับนโยบายส่งเสริมและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งจะช่วยหนุนให้ทรัพย์สินของกองทุนมีโอกาสสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นได้ ทำให้ปัจจุบันมูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนมีความน่าสนใจเมื่อพิจารณาจากราคาปัจจุบันกับผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ จึงมองว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นักลงทุนสามารถใช้เป็นช่องทางสร้างโอกาสรับผลประโยชน์ตอบแทนที่สม่ำเสมอ (Passive Income) จากการลงทุนในจังหวะที่รอให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวอย่างเต็มที่ได้”
กำลังโหลดความคิดเห็น