xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรฯเปิดกองการันตีเงินต้นเพิ่ม ถือครบลุ้นผลตอบแทนขันบันได

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บลจ.กสิกรไทย เปิดกองทุนการันตีเงินต้นกองใหม่ “KGSTEPB” เปิดขาย IPO ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย. – 12 ก.ค. นี้รับดีมานด์ล้น หลังกองแรกปิดIPOกว่า4พันล้านชู 2 ฟีเจอร์เด่นทั้งการรับประกันเงินต้น และการรับผลตอบแทนแบบขั้นบันได (Step-up) พร้อมเน้นกระจายการลงทุนในหลากหลายประเภทสินทรัพย์ทั่วโลก
 
นายวจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์, CFA, Chief Investment Officer บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า จากการเสนอขายกองทุนการันตีเงินต้นในรอบที่ผ่านมา ได้รับความสนใจและการตอบรับจากผู้ลงทุนไทยอย่างท่วมท้น โดยสามารถระดมทุนได้สูงกว่า 4,000 ล้านบาท ขึ้นแท่นครองสถิติกองทุน IPO ที่มียอดขายสูงที่สุดของปี (ไม่นับรวมกองทุน Term Fund) ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนที่พลาดโอกาสการลงทุนในรอบที่ผ่านมาได้เข้าลงทุนอีกครั้งกับกองทุนการันตีเงินต้นกองใหม่ “กองทุนเปิดเค การันตีสเตปอัป B หรือ K Guaranteed Step-up B Fund (KGSTEPB)” เปิดเสนอขายครั้งเดียว ในระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน 2567 – 12 กรกฎาคม 2567 โดยผู้ลงทุนที่สนใจกองทุน KGSTEPB สามารถเริ่มต้นลงทุนเพียง 500 บาทเท่านั้น
 
นายวจนะกล่าวต่อไปว่า บลจ.กสิกรไทย ได้ร่วมมือกับ 2บริษัทยักษ์ใหญ่ในยุโรป ได้แก่ Amundi Asset Management บริษัทจัดการกองทุนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ในยุโรป ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการกองทุน (Outsourced Fund Manager) และ Credit Agricoleสถาบันการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ในยุโรป ทำหน้าที่เป็นผู้ประกันเงินลงทุนของกองทุน (Guarantor)ทั้งนี้ กองทุน KGSTEPB มีอายุโครงการประมาณ 5 ปี 2เดือน และมีนโยบายการลงทุนที่เน้นกระจายลงทุนในหลากหลายประเภทสินทรัพย์ทั่วโลก ทั้งพันธบัตร หุ้นกู้ และหุ้น ซึ่งจะสามารถรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจได้ดีกว่าการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่งเพียงอย่างเดียว ตามแนวคิดที่กล่าวว่าสินทรัพย์แต่ละประเภทจะทำหน้าที่สร้างผลตอบแทนให้ได้ในสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ กองทุนKGSTEPB ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์เฉพาะตัวทั้งการรับประกันเงินต้น และการรับผลตอบแทนแบบขั้นบันได (Step-up)
 
“การรับประกันเงินต้น จะมีผลเมื่อผู้ลงทุนถือหน่วยลงทุนครบตามอายุโครงการ 5 ปี 2 เดือนเท่านั้น โดยการรับประกันจะไม่รวมค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end fee)ดังนั้น หากผู้ลงทุนขายคืนก่อนครบกำหนด ผู้ลงทุนมีโอกาสที่จะได้รับกำไรหรือขาดทุน ตามราคา NAV ณ วันที่ขายคืน โดยปราศจากการรับประกันเงินต้น แต่หากผู้ลงทุนถือหน่วยลงทุนจนครบกำหนด ผู้ลงทุนมีโอกาสที่จะได้รับกำไร ตามราคา NAV ที่ปรับขึ้น (กรณีราคา NAV สูงกว่า NAV ที่รับประกัน) หรือ ตามราคา NAV ที่รับประกัน (กรณีราคา NAV ต่ำกว่า NAV ที่รับประกัน) ส่วนการรับผลตอบแทนแบบขั้นบันได (Step-up) จะมีผลเมื่อราคา NAV ปรับตัวขึ้นทุก 5% ด้านราคา NAV ที่รับประกันจะถูกปรับขึ้นอีก 2.5% (ตามรูป) และเมื่อ NAV ที่รับประกันถูกปรับขึ้นแล้ว จะไม่ถูกปรับลงอีก แม้ว่าราคา NAV จะลดลงก็ตาม” นายวจนะกล่าว
 
กำลังโหลดความคิดเห็น