สมาคมตลาดตราสารหนี้มั่นใจยอดออกหุ้นกู้ปีนี้ล้านล้าน รับดอกเบี้ยปรับลงช่วงครึ่งปีหลังทำต้นทุนผู้ประกอบการลด แจงต่างชาติขายบอนด์ไทยแสนล้าน เหตุรับผลกระทบการลดน้ำหนักลงทุนดัชนีเอเชียเพื่อเพิ่มการลงทุนในอินเดีย ระบุสเถียรภาพการเงินยังดี มีความมั่นคงสูง
ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่าการออกหุ้นกู้ภาคเอกชนในปีนี้น่าจะเป็นไปตามเป้าคือประมาณ 9 แสน- 1 ล้านล้านบาท หลังจากเริ่มเห็นต้นทุนอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวลดลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้จะเริ่มเห็นภาคเอกชนเปิดขายหุ้นกู้มากขึ้น เนื่องจากส่วนหนึ่งมีกำหนดครบอายุประมาณ 2.5 แสนล้านบาท
ขณะที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อตราสารหนี้ไทยมองว่าจะค่อยๆกลับมาแต่ในส่วนของการผิดนัดชำระหนี้คงจะต้องค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งหุ้นกู้เอกชนที่มีปัญหายังถือว่าอยู่ในระดับต่ำเพียง 1% ของภาพรวมในประเทศเท่านั้น และส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นกู้ที่อยู่ในระดับต่ำกว่าB- หรือพวกไฮยิลด์บอนด์เป็นส่วนใหญ่
ขณะที่ภาพรวมการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติมีการปรับตัวลดลงอยู่ที่กว่า 9 แสนล้านบาทลดลงประมาณ1แสนล้านบาทในช่วง12เดือนที่ผ่านมา
ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการปรับน้ำหนักการลงทุนของดัชนีMSCI ASIA ที่จะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในประเทศอินเดียทำให้ไทยน่าจะได้รับผลกระทบประมาณ 1.6% โดยการลงทุนในตราสารหนี้นอกจากเรื่องอัตราผลตอบแทนแล้ว ประเทศไทยยังถือว่ามีสเถียรภาพทางการเงินและความมั่นคงในการลงทุน โดยดูได้จากวินัยทางการเงินที่มีหนี้เพียง 60% ของจีดีพี รวมถึงปัจจัยพื้นฐานของประเทศที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี
ดร.สมจินต์ กล่าวอีกว่า ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2567 ตลาดตราสารหนี้ไทยมีมูลค่าคงค้างเท่ากับ 17.0 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.0% จากสิ้นปีที่แล้ว จากการเพิ่มขึ้นของตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลและ ธปท. เป็นหลัก ในส่วนของการออกตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาว (หุ้นกู้ระยะยาว) มีมูลค่า 207,126 ล้านบาท หุ้นกู้ที่ออกส่วนใหญ่กว่า 93% อยู่ในกลุ่ม Investment grade กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการออกสูงสุด 3 อันดับแรก คือ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เงินทุนและหลักทรัพย์ และอาหารและเครื่องดื่ม เส้นอัตราผล
ขณะที่ผลการสำรวจการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในปี 2567 ที่ผู้ร่วมตลาดส่วนใหญ่คาดว่า กนง. จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายประมาณ 2 ครั้ง รวม0.5% ในปี 2567 โดยมีโอกาสสูงที่ กนง. จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบเดือนมิถุนายนนี้ สำหรับการคาดการณ์ Bond yield ไทย ผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่าในปี 2567 Bond yield ไทยรุ่นอายุ 5 ปี และ 10 ปี อาจปรับตัวลดลงเฉลี่ย 5-10 bps. จากสิ้นไตรมาส 1 ปี 2567 มาอยู่ที่ 2.13% และ 2.44% ตามลำดับ ณ สิ้นปี 2567 โดยปัจจัยหลักที่จะมีผลต่อ Bond yield ในอนาคตคือ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ และสภาวะเศรษฐกิจของไทย