บลจ.ไทยพาณิชย์เผยปี 67 ตั้งเป้า AUM แตะ 1.9 ล้านล้าน ยันยังครองอันดับหนึ่งในระบบ พร้อมเดินหน้าหารายได้จากทุกกลุ่มธุรกิจ และขยายฐานผู้ลงทุนผ่านแอปฯ พร้อมออก 3 กองทุนรวด"ใหม่ SCBBOND - SCBMONEY - SCBLOWBETA "ในไตรมาสแรก เน้นลงทุนตราาสารหนี้รับดอกเบี้ยขาลง
นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBAM)เปิดเผยว่า ในปี 2567 นี้ บริษัทตั้งเป้าหมายสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM)โดยรวมเพิ่มขึ้นแตะ 1.9 ล้านล้านบาท จาก ณ สิ้นปี 2566 ที่ระดับ 1.8 ล้านล้านบาท ซึ่งถือว่ายังคงสูงสุดในระบบ โดยจะมุ่งหารายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจอื่นๆที่นอกเหนือจากรายได้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายกองทุนตามปกติ โดยเฉพาะการรายได้จากกลุ่มธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ(Provident Fund - PVD)ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบรหิารเติบโตขึ้น 8%มากกว่าอุตสาหกรรมถึง 3 เท่า รวมถึงกลุ่มธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล(Private Fund -PF) ที่ขยายตัวได้ค่อนข้างดีในช่วงที่ผ่านมาโดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 650,000 ล้านบาท มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 30% ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสนับสนุนให้ SCBAM สามารถนำส่งรายได้ให้ธนาคารไทยพาณิชย์ได้ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยในปี 2566 นำส่งกำไรให้ธนาคารได้ 1,000 ล้านบาท จากรายได้ 5,000 ล้านบาท
"ในช่วงโควิดฯที่ผ่านมาเราก็ถือว่าทรงๆตัวไม่ได้ร่วง จากจำนวนลูกค้า มูลค่า AUM ที่ไม่ถูกกระทบมากนัก และในปีนี้เรามองว่าเทรนด์เริ่มจะกลับมาโดยมองที่กลุ่มตราสารหนี้ จากมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโลก อัตราเงินเฟ้อที่ชะลอลง แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลง ซึ่งเรามองว่าเฟดน่าจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2 รวมถึงดอกเบี้ยไทยก็น่าจะปรับลง 1-2 ครั้งในปีนี้ ในช่วงไตรมาสแรกของปีจึงได้นำเสนอกองทุนใหม่ SCBBOND และ SCBMONEY ที่เป็นการลงทุนในตราสาหนี้ เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนในช่วงจังหวะการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ย รวมถึงกองทุน SCBLOWBETA ในกลุ่มกองทุน Machine Learning จากผลการดำเนินงานย้อนหลังที่กองทุนกลุ่มนี้สามารถทำได้ดี"
พร้อมกันนั้น ธนาคารยังให้ความสำคัญในการขยายฐานผู้ลงทุนผ่านแอปพลิเคชั่น SCBAM Fund Click ซึ่งพัฒนามาเพื่อสนับสนุนให้นักลงทุนรุ่นใหม่สามารถเริ่มต้นลงทุนได้ง่ายเพื่อบรรลุเป้าหมาย 1 ล้านบาทแรก กับกลุ่มกองทุน e-class ฟรีค่าธรรมเนียมการซื้อและการบริหารจัดการ ครอบคลุมทุกประเภทสินทรัพย์ทั่วโลก มีให้เลือกทั้งรูปแบบกองทุนปกติชนิดหน่วยลงทุน e-class และกองทุนลดหย่อนภาษี SSF e-class เฉพาะบนแอปพลิเคชั่น SCBAM Fund Click เท่านั้น โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา มีการเติบโตได้เป็นอย่างดีในปี 2566 มีจำนวนผู้ลงทุนผ่านแอปฯเพิ่มขึ้นกว่า 40%
ด้านงานบริหารข้อมูลและวางแผนการลงทุนนั้น นอกจากระบบการให้บริการข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ SCBAM e-Service บนเว็บไซต์ของ SCBAM ที่ให้บริการข้อมูลแบบ One Stop PlatForm ที่ให้ลูกค้าสามารถวางแผนการลงทุนจัดพอร์ตการลงทุน ติดตามสถานการณ์การลงทุนจากทุกช่องทางด้วยตัวเอง พร้อมตัวช่วยวางแผนและบริหารจัดการการลงทุนแล้ว ยังมีแผนพัฒนา Ommi-Channels เพิ่มช่องทางการติดต่อและสื่อสาร เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ที่ชื่นชอบการสื่อสารผ่านช่องทาง Social Media และข้อมูลที่รวดเร็วผ่าน SCBAM Line Official ซึ่งทุกงานบริการจะมาพร้อมกับความมั่นคปลอดภัยด้านเทคโนโลยี ควบคู่ไปกับความสะดวกเพื่อตอบสนองได้ในทุก Lifestyle ของลูกค้า
ส่วนกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้มีมติเห็นชอบปรับหลักเกณฑ์ใหม่ สำหรับผู้ลงทุนรายใหญ่ (UI) ในการลงทุน Spot Bitcoin ETF ผ่านบลจ.นั้น ในประเด็นดังกล่าว SCBAM ได้มีการศึกษาเกี่ยวกับการลงทุนดังกล่าวมาโดยตลอด หากสำนักงานก.ล.ต.มีมติเห็นชอบอย่างเป็นทางการพร้อมเปิดรายละเอียดการเข้าลงทุน และตรงกับความต้องการของลูกค้าของบริษัท ก็พร้อมที่จะออกกองทุนในสินทรัพย์ดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งแนวทางดังกล่าวมองว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการสร้างผลตอบแทนให้กับลูกค้าอีกสินทรัพย์หนึ่ง