อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย ลุยเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดกลางและใหญ่ในประเทศไทย ตั้งเป้าโตแบบก้าวกระโดด 20% เบี้ยแตะ 2.5 พันล้านบาทภายในสิ้นปี 2567 นี้ โชว์ศักยภาพระดับโลกจากความร่วมมือกับ Allianz Commercial ให้การดูแลลูกค้าครบจบในที่เดียวเรื่องคุ้มครองความเสี่ยง
มร.ลาร์ส ไฮบุทสกี้ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย กล่าวว่า ปีนี้ หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญคือ ขยายธุรกิจประกันภัยองค์กรอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับกับความเสี่ยงขององค์กรขนาดใหญ่ ทั้งจากเหตุการณ์ที่ทำให้ธุรกิจหยุดชะงัก ความเสี่ยงด้านภัยพิบัติทางธรรมชาติ ความเสี่ยงด้านไซเบอร์ หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงอันดับต้นของประเทศไทย จากผลสำรวจ Risk Barometer ซึ่งจัดทำขึ้นเป็นประจำทุกปี วันนี้ จึงได้มีการเปิดตัว Allianz Commercial ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจดูแลลูกค้าองค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ภายใต้ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย ทั้งยังได้รับการสนับสนุนด้านองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ เครือข่ายของกลุ่มอลิอันซ์ที่มีในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งความแข็งแกร่งทางการเงิน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโต และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นองค์กรข้ามชาติ มีธุรกิจในหลายประเทศ หรือมีลักษณะธุรกิจที่พิเศษ ต้องใช้ความรู้เฉพาะทางด้านการพิจารณาประกันภัย เพื่อดูแลความเสี่ยง
มร.คริสเตียน แซนดริก ผู้อำนวยการบริหารภูมิภาคเอเชีย Allianz Commercial กล่าวเสริมว่า แผนการเติบโตในไทยสอดคล้องกับการขยายธุรกิจอย่างแข็งแกร่งทั่วภูมิภาคเอเชีย ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของอลิอันซ์ ที่เราจะสามารถใช้ความเชี่ยวชาญด้านประกันภัยในการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าองค์กรได้เป็นอย่างดี
นางเดือนฉาย โกศลเมธากุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานลูกค้าองค์กร ซึ่งจะเน้นขยายธุรกิจผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่
• ผลิตภัณฑ์ประกันภัยสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ที่ครบวงจร หลากหลายสำหรับทุกธุรกิจ
• ต่อยอดความเชี่ยวชาญและเครือข่ายระดับโลกของอลิอันซ์ ที่จะทำให้อลิอันซ์ อยุธยา กลายเป็นศูนย์กลางของการให้บริการประกันภัยในเอเชีย สำหรับบริษัทข้ามชาติที่ดำเนินธุรกิจในเอเชีย
• โซลูชันประกันภัยที่ตอบโจทย์ทุกช่องทางการขาย ไม่ว่าจะช่องทางตัวแทน โบรกเกอร์ ช่องทางพันธมิตร และช่องทางขายตรง รวมทั้งการรับประกันภัยต่อ
สำหรับกลุ่มความเสี่ยงที่ อลิอันซ์ อยุธยา ให้ความสนใจมี 5 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มประกันภัยสินทรัพย์ (Property) โดยมุ่งเน้นไปที่บริษัทข้ามชาติที่มีสำนักงานใหญ่ในประเทศไทยและมีเครือข่ายธุรกิจในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ที่มองหาความคุ้มครองที่ครอบคลุมจากบริษัทเดียวที่มีศักยภาพรอบด้าน กลุ่มธุรกิจก่อสร้าง (Engineer) ที่ดำเนินโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ มีมูลค่าสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจก่อสร้างด้านพลังงานหมุนเวียนและโรงไฟฟ้า กลุ่มประกันความรับผิดชอบ (Liability) เช่น สินค้าส่งออก ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่สาม ความเสียหายของสินค้าในการดำเนินธุรกิจ กลุ่มธุรกิจที่อาศัยความเชี่ยวชาญพิเศษ เช่น ธุรกิจบันเทิง (Specialty eg entertainment) เช่น การจัดคอนเสิร์ตการแสดงขนาดใหญ่ระดับชาติ และกลุ่มธุรกิจเดินเรือและการขนส่งทางทะเล (Marine) ทั้งเพื่อธุรกิจส่งออกและนำเข้า รวมถึงเรือยอชต์และเรือเพื่อการท่องเที่ยวด้วย
“เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าการขับเคลื่อนที่มุ่งการประกันภัยสู่องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนการเติบโตแบบก้าวกระโดดให้กับ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัยได้เป็นอย่างดี ด้วยการสนับสนุนจากกลุ่มอลิอันซ์ และความมั่นคงแข็งแกร่ง ในฐานะบริษัทประกันภัยระดับโลก เชื่อมั่นว่าจะสามารถเติบโตพอร์ตธุรกิจองค์กรได้ 20% หรือมีเบี้ยประกันอยู่ที่ประมาณ 2.4-2.5 พันล้านบาท” มร.ลาร์ส ไฮบุทสกี้ กล่าวสรุป