กรุงเทพประกันชีวิตตั้งเป้าเบี้ยปีแรกแตะหมื่นล้านบาทใน 3 ปี ลุยยกระดับความคุ้มครองและบริการแก่ลูกค้า พร้อมติดอาวุธตัวแทน-ที่ปรึกษาการเงินให้มีช่องทางการขายมากขึ้น ขณะเดียวกันต่อยอดความร่วมมือขยายฐานลูกค้าจากแบงก์กรุงเทพต่อเนื่อง
นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกลยุทธ์การดำเนินงานว่า ต่อจากนี้อีก 3 ปีข้างหน้าบริษัทคาดว่าจะมีเบี้ยประกันรับปีแรกรวมแตะ 1 หมื่นล้านบาท โดยจะขับเคลื่อน 2 ด้าน คือ ด้านที่ 1 บริษัทจะยกระดับการให้ความคุ้มครอง และบริการแก่ผู้ถือกรมธรรม์ให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีตลอดอายุสัญญา ตั้งแต่การรับฟังรายละเอียดแบบประกันที่ตรงความต้องการ การตัดสินใจทำประกัน
ด้านที่ 2 บริษัทฯ จะให้การสนับสนุนและเพิ่มศักยภาพของตัวแทนขายและที่ปรึกษาการเงิน รวมถึงการเพิ่มช่องทางจำหน่าย โดยบริษัทฯ ได้ประกาศเป้าหมายกับผู้บริหารตัวแทนทั่วประเทศในการสร้างเป้าหมายการเติบโตของเบี้ยรับประกันภัยปีแรกและรายได้ตัวแทนเป็น 2 เท่า โดยวางแผนการเติบโตปีละ 15% ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี
“ในปีนี้บริษัทฯ ยังได้พัฒนาการขายผ่านช่องทางจำหน่ายอื่นๆ ทั้งช่องทางของพันธมิตร และช่องทางออนไลน์ โดยในปี 2567 เรามีเป้าหมายสร้างการเติบโตในช่องทางธนาคาร ด้วยการเพิ่มจำนวนผู้ถือกรมธรรม์ของกรุงเทพประกันชีวิตให้มากขึ้น นอกจากนี้ จะมีการเพิ่มการทำงานร่วมกับกลุ่มคู่ค้าที่มีศักยภาพสูง เพื่อให้เข้าใจความต้องการและการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ” นายโชนกล่าว
นายโชนกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ปี 66 บริษัทได้ยกระดับคุณภาพการให้บริการด้านต่างๆ ด้วยความใส่ใจจนสร้างความประทับใจจากลูกค้าในหลายด้าน เช่น การได้รับคะแนน Net Promoter Scores หรือ NPS Score ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความพึงพอใจลูกค้าสำหรับ Fax Claim มากถึง 71% การได้รับการตอบรับจากลูกค้าในการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน BLA Happy Life เพื่อใช้งานมาดีกว่า 200,000 คน และ ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังมีการเติบโตด้านช่องทางจำหน่ายทั้งธนาคารและพันธมิตร โดยเฉพาะช่องทางธนาคารกรุงเทพสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 68 ล้านบาท ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เนื่องจากเพิ่งเปิดให้ลูกค้าสามารถซื้อประกันสะสมทรัพย์ Gain1st ผ่านโมบายล์แบงกิ้งของธนาคารกรุงเทพเมื่อปีที่ผ่านมา และในปีนี้ยังจะเพิ่มแบบประกันใหม่ๆ เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกที่ตรงใจมากขึ้น และ ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรกว่า 15 ราย
ปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 300,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ประมาณ 80% และที่เหลือ คือ ตราสารทุน และพันธบัตรรัฐบาล