บลจ.ดาโอ ตั้งเป้าAUMปีมังกรแตะ6พันล้าน ทะยาน1หมื่นล้านภายใน3ปี เล็งเปิดกองหุ้นอินเดียรับเศรษฐกิจโต และการย้ายฐานการผลิตจากจีน ระบุหุ้นไทยผันผวน แนะทยอยสะสมช่วงดัชนีหลุด1,300 โฟกัสกลุ่มท่องเที่ยว การแพทย์ นิคมอุตฯ
นายอิศรา พุฒตาลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ดาโอ จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าภาพรวมมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร(AUM) เติบโตอยู่ที่ 6,000ล้านบาท จากสิ้นปี 2566 ที่มีAUMอยู่ที่ 5,600ล้านบาท และภายใน 3 ปีจะเติบโตได้ถึง 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ20%
สำหรับ แผนธุรกิจปี 2567 บริษัทเสริมแกร่งกองทุนรวมให้ครบสินทรัพย์การลงทุนมากขึ่น พร้อมกับนำกองทุนรวมที่มีอยู่และสามารถสร้างผลตอบแทนดีนำมาเสนอแนะนักลงทุนใหม่ พร้อมกับปรับแผนการลงทุนของกลุ่มลูกค้าส่วนบุคคลสู่กองทุนรวมเพื่อสร้างผลตอบแทนเติบโตอย่างสม่ำเสมอ หลังจากพอร์ตลงทุนของนักลงทุนกลุ่มดังกล่าวได้รับผลกระทบจากการเก็บภาษีการลงทุนต่างประเทศที่มีผลตั่งแต่วันที่ 1ม.ค.2567 โดยหลังจากกลุ่มลูกค้าบุคคลได้ปรับมาสู่กองทุนรวมที่สร้างผลตอบแทนดี ช่วยให้ผลตอบแทนโดยรวมเติบโตได้ใกล้เคียงกับช่วงก่อนหน้าที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง14%
สำหรับกองทุนรวมที่บลจ.ดาโอ มีแผนที่จะเปิดขายในปีนี้ประกอบด้วย กองทุนรวมตลาดหุ้นอินเดียและกองทุนรวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น โดยในส่วนของกองทุนหุ้นอินเดียบริษัทเตรียมเปิดเสนอขายภายในกลางเดือนก.พ.2567นี้ด้วยมูลค่าโครงการเบื้องต้น100ล้านบาท
ทั้งนี้กองหุ้นอินเดียจะเป็นกองทุนแอคทีฟที่เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งตลาดหุ้นอินเดียมีหุ้นกลุ่มนี้จำนวนมาก ที่สำคัญอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น(ROE)หุ้นอินเดียอยู่ในระดับที่สูงมากของโลกเฉลี่ยที่ 20% ขณะเดียวกันปัจจัยบวกในประเทศค่อนข้างดีรวมถึงการเมืองของอินเดียเข่นเดียวกัน โดยเชื่อว่าราคาหุ้นอินเดียจะสามารถปรับตัวขึ้นได้อีกถึงแม้ที่ผ่านหุ้นอินเดียจะมีราคาซื้อขายสูงกว่าค่าเฉลี่ยมาอย่างต่อเนื่อง เพราะผลประกอบการและเศรษฐกิจมีการขยายตัวเพิ่มทุกปีประกอบกับการย้ายฐานการสินค้าเข้ามาในอินเดียมากขึ้นแทนที่จีนที่กำลังประสบปัญหา
*หุ้นไทยผันผวน ทยอยสะสมช่วงหลุด1,300**
ด้านนางสาวนิสารัตน์ ชมภูพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ดาโอ จำกัด กล่าวว่า สำหรับภาพรวมตลาดหุ้นไทย มองว่า ยังมีความผันผวนต่อเนื่อง ประกอบกับผลกำไรของธุรกิจจดทะเบียนในตลสดหลักทรัพย์(บจ.)ออกมาไม่ค่อยดี จึงมองกรอบล่างที่ 1,200จุด อย่างไรก็ตาม หวังว่าจะไม่เหตุที่พระดับ1,200จุด หรือหลุดที่ระดับ 1,300 จุด โดยมองเป้าดัชนีทั้งปี 2567ที่กรอย 1,500-1,550 จุด ทั้งนี้ ช่วงที่ดัชนีปรับตัวลงแตะที่ระดับ1,300จุด มองเป็นจังหวะทยอยสะสมหุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ที่ได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่มีโอกาสเติบโตไปถึงปี 2568 กลุ่มการแพทย์และอุปกรณ์การแพทย์ กลุ่มนี้จะได้รับอานิสงส์จากการกลับมาของนักท่องเที่ยว และหุ้นกลุ่มอาหาร ส่วนหุ้นกลุ่มที่ควรเลี่ยง คือ กลุ่มปิโตรเคมี และกลุ่มพลังงาน
"ภาพรวมตลาดหุ้นไทยปีนี้ยังผันผวนต่อ โดยเฉพาะช่วงครึ่งแีแรกสถานการณ์ไม่ดีนัก แต่จะกลับมาดีในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ด้วยนโยบายภาครัฐเห็นมาก็ขึ้น โดยเฉพาะการเบิกจ่ายงบประมาณฯที่จะเริ่มมีการเบิกจ่ายฯในช่วงไตรมาส2และไตรมาส3ปีนี้ ส่งผลดีต่อหุ้นไทย อย่างไรก็ตามดัชนีมีโอกาสไปรับตัวลงมา มั่นใจว่าจะได้หลู่ 1,300จุด หากดัชนีลงมาแถว1,300จุด มองเป็นจังหวะสะสม ให้ทยอยซื้อหุ้นแนวโน้มดีได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นหลัก" นางสาวนิสารัตน์ กล่าว